เช้าวันต่อมา
ควันสีเทาพวยพุ่งออกจากริมฝีปากสีไวน์ของคุณหมอหนุ่มที่ตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน ในขณะที่ใครบางคนที่เขาพามาด้วยเมื่อคืน ยังคงนอนหลับตาอยู่บนเตียง ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มราวกับกำลังฝันดี กองทัพเพ่งพิศมองใบหน้าเนียนสวยด้วยความรู้สึกเอ็นดูเด็กสาวไม่น้อย ภายนอกแต่งตัวสวยเซ็กซี่ แต่ใครเลยจะรู้ว่าใบหน้าที่สวยงามน่าหลงใหล กลับแฝงไปด้วยความไร้เดียงสา
กองทัพรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เธอยังบริสุทธิ์ แต่กลับเลือกที่จะลุกขึ้นเดินตามเขามา จนกระทั่งเรื่องราวมาจบลงบนเตียงด้วยสัมผัสที่เร่าร้อน ผิวเนื้อเนียนขาวละเอียดอย่างคนที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี หน้าอกอวบที่เด้งสู้มือยามถูกฟัด เพียงแค่คิดความใหญ่โตที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมก็พองโตขึ้นมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วเรื่องอารมณ์ความต้องการทางเพศ คุณหมออย่างเขามักจะควบคุมมันได้ดีมาเสมอ
“อื้อ”
เจ้าขาร้องครางขึ้นมาเสียงเบา ก่อนที่ดวงตากลมโตจะลืมตาขึ้น พลางกะพริบตาปริบ ๆ ในขณะที่สมองกำลังประมวลผลถึงเรื่องราวในค่ำคืนที่ผ่านมา ใบหน้าเนียนสวยค่อย ๆ แดงระเรื่อราวกับลูกเชอร์รี ร่างเล็กกระวีกระวาดผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อภาพทั้งหมดมันย้อนกลับกลับมาเป็นฉาก ๆ มือบางยกขึ้นปิดหน้าเอาไว้อย่างคิดไม่ตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ในขณะที่ใครบางคนกระตุกยิ้มมุมปากน้อย ๆ พร้อมกับจ้องหน้าอกอวบที่เต็มไปด้วยรอยแดง ที่เกิดจากการดูดดึงและไล้เลียของตัวเองเองตาเป็นมัน
“ตื่นแล้วเหรอคนสวย”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามเจ้าขา ทำเอาร่างบางรีบหันขวับไปมองผู้ชายที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ริมหน้าต่าง เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นชัด ๆ เต็มตา เจ้าขาก็อดที่จะยอมรับกับตัวเองอย่างแมน ๆ ไม่ได้ว่า เมื่อคืนนี้เธอมองว่าเขาหล่อและมีเสน่ห์มากแล้วนะ แต่พอได้เห็นเต็ม ๆ ตายิ่งทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ เกิดอาการหวั่นไหวกับผู้ชายแปลกหน้าขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
เจ้าขามองหน้าคนที่บอกว่าตัวเองชื่อไคอย่างที่ไม่อาจละสายตาไปได้ โดยที่ลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น ในขณะที่ร่างสูงยิ้มกริ่มด้วยความเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินมาหาร่างบางที่นั่งมองเขาตาแป๋วอยู่บนเตียง และกว่าที่เจ้าขาจะรู้ตัว คนเจ้าเล่ห์ก็ก้าวขึ้นเตียงมาประชิดตัวเธอเสียแล้ว เป็นอีกครั้งที่ใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกัน จนลมหายใจเป่ารินรดซึ่งกันและกัน
“อะ เอ่อ ใกล้เกินไปแล้วค่ะ”
เจ้าขาท้วงเสียงเบาพร้อมกับก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย ความมั่นใจที่เคยมีหายไปจนหมดสิ้นเมื่อเขาเข้ามาใกล้ชิด ก่อนที่เจ้าขาจะพบว่าตัวเธอนั้นเปลือยเปล่า ตาหวานเบิกโตมือทั้งสองข้างรีบยกขึ้นมาปิดหน้าอกอวบเอาไว้พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่กองทัพขยับเข้ามาใกล้จนทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันโดยไม่ตั้งใจ
“อ๊ะ”
เจ้าขาร้องขึ้นมาด้วยความตกใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม กับจังหวะที่ดูจะส่งผลให้อารมณ์ของเธอหวั่นไหวเสียเหลือเกิน ร่างบางเตรียมตัวที่จะขยับหนี แต่อีกฝ่ายกลับดึงรั้งเอวบางเข้ามาหาตัวเองอย่างเอาแต่ใจ จนหน้าอกอวบแนบชิดบดเบียดไปกับหน้าอกแกร่ง ส่วนใบหน้าของกองทัพแนบชิดอยู่กับแก้มเนียนที่นุ่มราวกับแก้มเด็กของเธอ
“ยั่วจนฉันขึ้นแต่เช้าเชียวนะคนสวย”
กองทัพเอ่ยปรักปรำสาวเจ้าเสียงกระเส่า ในขณะที่เจ้าขาบึนปากหน้างอน้อย ๆ เมื่อถูกคนตรงหน้ากล่าวหา เธอไม่ได้ยั่วเขาสักหน่อย มาหาว่าเธอยั่วเขาได้อย่างไรกันคนบ้า
“เจ้าขาไม่ได้ยั่วสักหน่อย”
เจ้าขาตอบกลับกองทัพที่ยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ พร้อมกับพยายามจะสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนที่แข็งราวกับคีมเหล็ก แต่กองทัพกลับกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนเธอไม่สามารถที่จะขยับตัวหนีไปไหนได้เลย เขาช่างร้ายกาจกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก เจ้าขาได้แต่คิดอยู่ในใจ
“จะไม่รับผิดชอบหน่อยเหรอคนสวย เช้า ๆ แบบนี้ผู้ชายมักจะมีอารมณ์นะรู้ไหม”
คำถามนั้นทำเอาเจ้าขาทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว จะให้เธอรับผิดชอบอะไรกันล่ะ เรื่องของเธอกับเขามันจบตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และนี่มันก็ได้เวลาที่เธอต้องกลับโรงแรมแล้วด้วยสิ ป่านนี้พี่เอมมี่โทรหาเธอกี่สายแล้วไม่รู้
“เจ้าขาไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ทำไมเจ้าขาต้องรับผิดชอบด้วย”
จบประโยคแสนดื้อดึงนั้น คนเอาแต่ใจก็ผลักร่างเล็กที่ไม่ทันตั้งตัวให้นอนราบลงไปกับเตียงกว้างที่ยับยู่ยี่ พร้อมกับรวบมือบางขึ้นไปไว้บนศีรษะ ส่วนใบหน้าหล่อเหลาซุกลงที่ซอกคอหอมด้วยความหลงใหล ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกัน แต่ผู้หญิงคนนี้กลับทำให้เขามีอารมณ์เพียงแค่ได้สัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกัน
“ปล่อยเจ้าขานะ เจ้าขาจะกลับบ้านแล้ว”
เจ้าขาร้องบอกคนหื่นที่กำลังซุกไซ้ซอกคอของเธออยู่ เขาขบเม้มทำรอยรักเอาไว้อย่างต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ ทั้ง ๆ ที่เขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน ส่วนคนเจ้าเล่ห์เมื่อได้ยินเสียงใสร้องบอก ก็ทำตีมึนราวกับว่าไม่ได้ยิน พลางเลื่อนใบหน้าไปซุกซบเข้าหาหน้าอกอวบ ทำเอาเจ้าขาขนลุกทันทีด้วยความเสียวสยิว
“บ้านไม่หนีไปไหนหรอกคนสวย แต่ฉันน่ะสิที่ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้วรู้ไหม”
พูดจบก็ตะโบมจูบโลมเลียหน้าอกอวบด้วยความดุดันไร้ความอ่อนโยน ทำเอาเจ้าขารู้สึกเจ็บและเสียวไปในคราวเดียวกัน แต่สุดท้ายแล้วกองทัพก็ใช้ความช่ำชองในเรื่องเซ็กซ์ชักจูงจนเจ้าขาติดกับดัก ให้เธอหลงเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่หยาบโลนของเขาในที่สุด
ปึก
“อ๊ะ อ๊า เจ้าขา จะเจ็บ อื้อ”
เจ้าขาร้องบอกด้วยความเจ็บปวด ตอนนี้เธอถูกเขาจัดแจงให้อยู่ในท่าคลานเข่า ใบหน้าสวยซบลงบนหมอนอย่างหมดแรงห้าม เลือดสีแดงสดค่อย ๆ ไหลออกมาชโลมความใหญ่โตของกองทัพจนเปียกชุ่ม เมื่อกุหลาบดอกใหญ่กำลังถูกผีเสื้อตัวร้ายดูดชิมลิ้มรสน้ำหวานอีกครั้ง
“อ๊า ทนหน่อยนะคนสวย ร่องเธอแน่นเหลือเกิน”
กองทัพกัดฟันแน่นเพื่อข่มกลั้นความเสียวซ่าน ตั้งแต่รู้จักเซ็กซ์ครั้งแรก เขาก็ไม่เคยเจอผู้หญิงที่บริสุทธิ์อีกเลย คนที่เขามีอะไรด้วยแบบ One Night Stand ล้วนเป็นสาวที่มากด้วยประสบการณ์ทั้งนั้น แต่กลับหาความคับแน่นไม่เจอจนบางครั้งเขาก็หมดสนุกไปเสียดื้อ ๆ
“อ๊ะ อื้อ บะ เบาหน่อยค่ะ อ๊า”
เจ้าขาหันมาบอกคนที่กำลังกระแทกกระทั้นความใหญ่โตเข้าหาเธอด้วยใบหน้าที่ยั่วยวนโดยไม่รู้ตัว นั่นทำให้กองทัพยอมเบาแรงลง แล้วก้มตัวลงไปจูบเบา ๆ บนแผ่นหลังเนียนสวย แต่ไม่วายยังส่งมือใหญ่ไปบีบเคล้นคลึงหน้าอกอวบเบา ๆ อย่างกระสันในอารมณ์ใคร่
“อ๊า เจ้าขาเสียว”
เจ้าขาร้องออกมาอย่างลืมตัว เมื่อหน้าอกอวบอัดของเธอถูกบีบเคล้นด้วยฝ่ามือใหญ่ อีกทั้งจังหวะการกระแทกที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ โดนกระทำพร้อมกันแบบนี้มันยิ่งทำให้เจ้าขาเสียวซ่านจนแทบทนไม่ไหว
ปึก ปึก ปึก
เสียงกระแทกที่หยาบโลนดังขึ้นเรื่อย ๆ ตามแรงอารมณ์ของกองทัพ โดยที่เจ้าขาทำได้เพียงร้องครางออกมาเสียงหวาน จนเธอรู้สึกว่าเสียงของเธอคงแหบแน่นอน เป็นเวลากว่าสองชั่วโมงที่กองทัพเรียกร้องความรับผิดชอบจากเจ้าของเรียวขางามที่กำลังสั่นระริก หญิงสาวแทบหมดแรงทรุดลงไปบนเตียง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่กองทัพคำรามออกมาเสียงดังลั่นห้องนอน พร้อมกับปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นใส่ดอกไม้งามที่บวมแดงช้ำ แช่กายรีดน้ำออกจนหมดทุกหยาดหยด
เจ้าขาทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดแรง เป็นจังหวะเดียวกับที่กองทัพถอนตัวตนออกจากช่องทางรักที่บวมช้ำ พร้อมกับอุ้มคนตัวเล็กเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ จัดการอาบน้ำทำความสะอาดให้เธอทุกซอกทุกมุม และอุ้มเธอออกมาข้างนอกจัดการแต่งตัวด้วยชุดเดิมให้จนเรียบร้อย ปิดท้ายด้วยการสวมเสื้อยีนตัวใหญ่ของเขาทับให้อีกชั้น เพราะเขารู้สึกว่าชุดของเธอมันโป๊จนเกินไป ขืนเดินทางกลับบ้านด้วยชุดแบบนี้ มีหวังถูกลากเข้าข้างทางก่อนถึงบ้านแน่ ๆ
ทั้งสองคนเดินลงมาชั้นล่างพร้อมกัน แต่กลับหยุดอยู่ที่หน้าทางเข้าของคอนโดหรู เจ้าขาค่อย ๆ หันมามองเจ้าของรอยรักบนร่างกายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย ในใจรู้สึกหวิวชอบกลเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน เขาและเธอต้องกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว
“ขอบคุณนะคะสำหรับค่ำคืนที่ผ่านมา”
จบประโยคนั้นเจ้าขาก็รีบหันหลังเดินจากไปทันที ในขณะที่กองทัพได้แต่มองตามร่างบางไปจนสุดสายตา แล้วค่อยหันหลังให้เธอและเดินไปตามทางของตัวเอง เธอและเขาแค่เพียงผ่านมาพบกันด้วยความบังเอิญและมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเพียงชั่วคืนเท่านั้น
และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราทั้งคู่ต้องกลับไปใช้ชีวิตตามเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้ แต่ใครเล่าจะล่วงรู้ถึงอนาคตว่า เส้นทางของทั้งสองนั้นกำลังจะมาบรรจบพบกันอีกครั้ง และครั้งนี้จะกลายเป็นการพบกันที่ต้องผูกติดทั้งชีวิตและความรักเอาไว้ด้วยกันจนนิรันดร์
โรงแรม Aแกรก แอดเจ้าขาเปิดประตูเข้ามาในห้องพักด้วยท่าทางอิดโรย ก่อนที่จะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง เอมมี่ที่รอคอยการกลับมาของนักแสดงในสังกัดอยู่นาน เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องเข้ามาก็รีบออกมาดูทันทีด้วยความโมโห แต่เมื่อผู้จัดการสาวได้เห็นสภาพของแม่นางเอกตัวดีก็ต้องยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจใบหน้าที่ซีดเซียวไร้การแต่งแต้ม แถมตามลำคอยังเต็มไปด้วยร่องรอยแดงช้ำอีก ไหนจะท่าทางที่ราวกับโดนใครรังแกมานั่นอีก ทำให้เอมมี่รีบเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วงทันที เพราะเข้าใจว่าที่เจ้าขาหายไปทั้งคืนต้องเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นกับเธอแน่ ๆ“เจ้าขาทำไมสภาพเป็นแบบนี้เนี่ยลูก ใครมันทำกับเจ้าขาแบบนี้ บอกพี่เอมมี่มาเดี๋ยวนี้นะ พี่จะไปแจ้งความจับมันเข้าคุก”มือที่ผอมบางราวกับมือของผู้หญิงจับไปตามเนื้อตัวของนักแสดงในสังกัดด้วยความเป็นห่วง แต่เจ้าขาจะส่ายหน้าน้อย ๆ พร้อมกับปิดตาลงด้วยความง่วง เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบเช้าของวันใหม่แล้ว และด้วยนิสัยที่ชอบตื่นเช้าตามความเคยชิน ทำให้เธอไม่สามารถนอนต่อไปได้ ทั้ง ๆ ที่ร่างกายบอกว่าไม่ไหวก็นะ...จะให้นอนต่อในห้องของผู้ชายแปลกหน้ามันก็แปลก
“บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะครับ”กองทัพเอ่ยทักทายอีกฝ่าย ก่อนจะยื่นยาดมที่หล่นเมื่อครู่คืนให้เธอ ซึ่งเจ้าขาก็รับมันไปแต่โดยดี ใบหน้าสวยฉายแวววิตกกังวลเล็กน้อย ด้วยไม่คาดคิดว่าจู่ ๆ จะเจอกับผู้ชายที่ตัวเองมีความสัมพันธ์ด้วยแค่เพียงชั่วคืนบนเครื่องบินลำนี้ หลังจากนั่งฮึบอยู่นานเจ้าขาก็ตัดสินใจหันมาเผชิญหน้ากับคนหล่อตรง ๆ เพื่อถามในสิ่งที่เธอกำลังสงสัยอยู่“นี่...คุณกำลังจะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศไทยใช่ไหมคะ”คุณนางเอกยิงคำถามใส่อีกฝ่ายด้วยความอยากรู้ทันที ในขณะที่กองทัพเลิกคิ้วน้อย ๆ กับคำถามนั้น และในวินาทีต่อมาใบหน้าหล่อเหลาก็เผยรอยยิ้มออกมา ซึ่งรอยยิ้มที่ว่ามันช่างมีอานุภาพร้ายแรงเหลือเกินสำหรับหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอ สายตาว่าร้ายแล้วแต่รอยยิ้มกลับร้ายยิ่งกว่า ยิ้มแต่ละทีทำเอาเธอหายใจแทบไม่ทั่วท้องเลยแน่ะ“เปล่าครับ ผมเป็นคนไทย พอดีเพิ่งเรียนจบจากอิตาลี แล้วตอนนี้ก็กำลังเดินทางกลับบ้านเกิด”คราวซวยคงมาเยือนเธอจริง ๆ สินะ เจ้าขาลมแทบจับ รีบหมุนฝาเปิดยาดมแล้วจับยัดเข้าจมูกทันที โดยที่ไม่ได้นึกถึงภาพลักษณ์สาวงามล่มเมืองของตัวเองเลยสักนิด ในขณะที่กองทัพหลุดยิ้มขำออกมากับท่าทีนั้นทันที อะไรกัน
กองทัพเดินมาถึงทางออกของสนามบินก็ให้นึกแปลกใจ เมื่อเห็นคนหลายคนที่กำลังยืนถือกล้องพร้อมกับมองเข้าไปด้านในเกต ราวกับว่ากำลังรอการมาของใครอยู่ กองทัพเลิกให้ความสนใจกับคนเหล่านั้น แล้วเดินไปขึ้นรถที่จอดรอรับเขาอยู่ไม่ไกล แต่ในขณะที่กำลังจะก้าวขึ้นรถ ใครบางคนก็แทรกตัวเข้ามา แล้วรีบขึ้นไปนั่งด้านในทันที กองทัพได้แต่มองคนตัวเล็กที่ใส่หมวกสวมแว่นตาอย่างมิดชิดด้วยความแปลกใจระคนสงสัยเธอกำลังขึ้นรถผิดอยู่หรือเปล่านะแต่คนบนรถกลับดึงมือกองทัพให้ขึ้นมานั่งด้วยกัน พร้อมกับยื่นมือมาปิดประตูรถด้วยความรวดเร็ว โดยที่ตัวเธอแทบจะเกยมานั่งตักเขาอยู่แล้ว ความใกล้ชิดนั้นทำให้กองทัพเผลอสูดกลิ่นหอมอันคุ้นเคยจากกายสาวเข้าไปจนเต็มปอด ก่อนที่เจ้าขาจะถอดหมวกและแว่นตาออก เผยให้เห็นใบหน้าเนียนใส กองทัพถึงกับเลิกคิ้วมองนิด ๆ ด้วยความแปลกใจกับพฤติกรรมของเจ้าขา ที่จู่ ๆ ก็พรวดพราดมาขึ้นรถของเขา“ก่อนหน้านี้คุณเพิ่งบอกว่า ให้ทำเป็นไม่รู้จักกันไม่ใช่เหรอครับ แล้วนี่คือ...”“ตอนนี้ออกรถก่อนเลยค่ะ ไปเลยค่ะพี่ ซิ่งเลยค่ะซิ่งเลย”เจ้าขาไม่ได้ตอบคำถามของชายหนุ่ม หากแต่เธอกลับตะโกนสั่งคนขับรถให้ออกรถ แต่รถกลับไม่ขยับตามคำสั
กองทัพเงยหน้ามองดวงจันทร์ที่ลอยอยู่เหนือศีรษะ พลางคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข บ้านที่เขาจากไปนานหลายสิบปี กลับมาวันนี้ยังคงเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นจากครอบครัวเหมือนเช่นเคย น้องสาวของเขาโตขึ้นมาก ทั้งแสบและซนจนแม่นับถึงกับส่ายหน้าหนี ในขณะที่พ่อเก้าดูจะชอบใจกับความห้าวของพราวฟ้า ที่มีป้าแก้มใสเป็นต้นแบบความเฟียร์สส่วนคุณป้าสุดสวยของเขา กลับมาครั้งนี้ทำอาหารรสชาติกลมกล่อมถูกปากเขายิ่งนัก อีกทั้งบัวลอยไข่หวานที่ป้าแก้มลงมือทำเอง เพื่อต้อนรับการกลับมาของเขา ยังรสชาติดีมากอีกด้วย มิน่าล่ะสายตาของลุงวายุที่มองป้าแก้มถึงมีแต่ความภาคภูมิใจ หลายปีผ่านไปทุกคนต่างมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนตัวเขาเองนั้นไม่รู้ว่าปีนี้จะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเหมือนคนอื่น ๆ บ้างหรือเปล่า“ดึกแล้วทำไมลูกชายของพ่อเก้าถึงยังไม่นอน”เก้าทัพที่เพิ่งเคลียร์งานเสร็จ เดินออกมาหาลูกชายที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในสวนหน้าบ้าน โดยที่บนโต๊ะมีแก้วนมที่ยังไม่พร่องเลยแม้แต่น้อยวางอยู่ ก่อนที่เก้าทัพจะนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับลูกชายที่หันมาส่งยิ้มน้อย ๆ ให้บิดา“ทัพยังปรับตัวกับเวลาไม่ได้น่ะครับ ตอนนี้เมืองไทยสี่ทุ่มกว่าแล้วก็จริ
ครืด ครืด ครืดอยู่ ๆ รถยนต์คันหรูที่กำลังโลดแล่นอยู่บนท้องถนนก็เกิดเสียงดังแปลก ๆ ขึ้น ก่อนที่รถจะกระตุกสองสามครั้งและดับไปในที่สุด เจ้าขากับเอมมี่ได้แต่หันมามองหน้ากันอย่างงุนงงและสงสัยว่า ทำไมรถคันเก่งที่ใช้งานเป็นประจำและได้รับการดูแลรักษาอย่างดี วันนี้ถึงเกิดอาการงอแง แล้วมาดับอยู่กลางถนนแบบนี้“รถเป็นอะไรเนี่ย ทำไมต้องมาเสียตอนนี้ด้วยนะ”เอมมี่บ่นด้วยความหงุดหงิด ก่อนที่จะเปิดประตูรถและลงไปสำรวจหาสาเหตุที่ทำให้รถเสีย เธอจัดการเปิดฝากระโปรงรถ เพื่อตรวจดูว่าตรงไหนที่มีปัญหา ถึงเธอจะมีร่างกายที่เป็นบุรุษเพศ แต่เอมมี่กลับไร้ความรู้เรื่องเครื่องยนต์สิ้นดี ฝั่งคุณนางเอกที่นั่งรอในรถ จึงรีบเปิดประตูรถลงมาถามไถ่ด้วยความกังวลใจไม่แพ้กัน เพราะนี่ก็เหลือเวลาอีกเพียงชั่วโมงกว่าที่เธอต้องไปถึงยังสถานที่ถ่ายทำแล้ว“เป็นไงบ้างคะพี่เอมมี่”“ไม่น่าจะรอดอะเจ้าขา เดี๋ยวพี่เอมมี่ขอโทรหาศูนย์รถก่อนนะ หนูไปนั่งรอพี่ในรถเถอะ ข้างนอกแดดร้อนเดี๋ยวผิวจะเสียหมด”เอมมี่ไล่ดาราในสังกัดให้กลับเข้าไปนั่งในรถ แต่เจ้าขากลับไม่ยอมเข้าไปตามคำสั่งของเธอ ร่างบางในชุดเดรสสีหวานได้แต่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฟังพี่เอมมี่คุยกับศ
ร่างสูงเดินเข้ามาภายในตัวอาคาร ตาคู่คมก็สอดส่องมองหาจุดที่น่าจะเป็นสถานที่ถ่ายทำ ก่อนที่สองเท้าจะเดินไปเรื่อย ๆ โดยที่กองทัพไม่รู้ตัวเลยว่า รูปร่างและหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาสะดุดตาแก่ผู้พบเห็นขนาดไหน ขนาดผู้ชายด้วยกันยังเหลียวหลังมองจนคอแทบเคล็ด เพราะส่วนประกอบบนใบหน้าของเขาไม่มีส่วนไหนเลยที่ไม่โดดเด่นกองทัพเดินเข้ามาข้างในเรื่อย ๆ จนกระทั่งเจอกับบริเวณลานกว้าง ที่เต็มไปด้วยสตาฟกองถ่ายและกล้องตัวใหญ่ รวมถึงมีคนหลายคนที่อยู่ ณ บริเวณนั้น ลานกว้างถูกจัดตกแต่งใหม่มีพร็อพประกอบวางอยู่เรียงราย ส่วนคนที่เขาตามหาก็กำลังนั่งตัวตรงให้ช่างแต่งหน้าบรรจงปัดแก้ม พร้อมจัดแต่งทรงผมให้อย่างสวยงาม มุมปากหนาเผลอยกยิ้มโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นเจ้าขาที่แย้มยิ้มพูดคุยกับช่างแต่งหน้าด้วยความสดใสร่าเริง คุณหมอหนุ่มเดินไปนั่งลงที่มุมหนึ่ง เพื่อรอเวลาให้เจ้าขาทำงานเสร็จ แล้วเขาค่อยเดินเข้าไปขอเสื้อคืน เพราะถ้าเข้าไปตอนนี้คงเป็นการเสียมารยาทน่าดู“น้องเจ้าขาสวยมาก ๆ เลยค่ะลูกสาว”พี่แยมช่างแต่งหน้าประจำกองถ่ายชมเปาะไม่ขาดสาย เป็นช่างแต่งหน้าที่อยูในวงการนี้มานาน แต่เจ้าขาคือคนแรกที่ไม่ว่าจะแต่งหน้าโทนไหนก็สวยไม่
หลังจากที่เที่ยวเล่นพักผ่อนเป็นเวลากว่าสัปดาห์ วันนี้กองทัพก็ยอมเข้ามาที่โรงพยาบาล N เพื่อสัมภาษณ์งานกับอาจารย์หมอของแผนกศัลยกรรมเสียที โดยชื่อที่เขาใช้ในการสมัครเข้าทำงานที่โรงพยาบาลของปู่คือ ไค แมคคินสัน เพราะเขาอยากให้ทุกคนรู้จักและยอมรับเขาที่ฝีมือ มากกว่าที่จะยอมรับและคอยเอาอกเอาใจเขาในฐานะหลานชายเจ้าของโรงพยาบาล N“เรียนจบที่อิตาลีเกียรตินิยมอับดับหนึ่ง ประสบการณ์ทำงานสามปี แต่ได้รับการยอมรับจากทางโรงพยาบาลเดิมให้เป็นหมอมือหนึ่งของแผนกศัลยกรรม อืม ประวัติดีมากทีเดียว”อาจารย์หมออินทัช แพทย์อาวุโสประจำโรงพยาบาล N ได้รับหน้าที่ให้มาสัมภาษณ์นายแพทย์รุ่นลูก ที่อิมพอร์ตมาจากต่างประเทศและเลือกที่จะมาร่วมงานกับทางโรงพยาบาล N ซึ่งหลังจากที่อ่านประวัติของเด็กคนนี้แล้ว เขาค่อนข้างมั่นใจว่าโรงพยาบาล N จะมีนายแพทย์ฝีมือดีเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่งอย่างแน่นอน“ทำไมถึงเลือกกลับมาทำงานที่เมืองไทยล่ะครับ ทั้ง ๆ ที่รายได้จากโรงพยาบาลเดิมแตกต่างจากที่นี่ค่อนข้างเยอะพอสมควร”อาจารย์หมอถามเด็กหนุ่มที่นั่งตัวตรงอยู่ตรงหน้าเขา ในขณะที่กองทัพไม่หยุดคิดแม้แต่วินาทีเดียว ในการคิดหาคำตอบของคำถามนี้ เพราะคำตอบ
“พี่ทัพขา”เสียงเรียกที่ดังลั่นไปทั่วบริเวณหน้าทางเข้าโรงพยาบาลทำเอากองทัพที่เพิ่งออกเวรหยุดชะงักอยู่กับที่ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความงุนงง พร้อมกับมองสาวสวยที่วิ่งอ้าแขนกว้างตรงมาที่เขาจนกระทั่งหมับ“พี่ทัพของน้อง คิดถึงจังเลย ฮือ ๆ”ไทน์นี่กอดพี่ทัพของตัวเองด้วยความคิดถึง ในขณะที่กองทัพได้แต่ยืนอึ้งให้หญิงสาวกอดโดยไร้การปัดป้อง น้ำเสียงนี้ช่างคุ้นหูแต่หน้าตาทำไมช่างไม่คุ้นเคยเอาเสียเลยส่วนไทน์นี่เมื่อไร้การตอบสนองจากพี่กองทัพ ใบหน้าสวยที่มีหยาดน้ำตาเปรอะเปื้อนด้วยความคิดถึงคนที่เปรียบเสมือนพี่ชายแท้ ๆ ของเธอ ก็เงยหน้าขึ้นมองกองทัพ ที่ก้มหน้ามองเธอด้วยสายตาที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่รู้จักเธอ“อะไรกันเนี่ย อย่าบอกนะคะว่าพี่ทัพจำไทน์นี่ไม่ได้”ไทน์นี่ถามอีกฝ่ายอย่างงอน ๆ ใบหน้าสวยที่เปื้อนด้วยหยาดน้ำตาบึนปากอย่างงอแง ก่อนที่กองทัพจะมีสีหน้าที่ตกใจเล็กน้อย เพราะไทน์นี่ในอดีตกับตอนนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจนเขาจำไม่ได้จริง ๆ“ก็เล่นสวยกว่าพราวขนาดนี้พี่ทัพจะจำได้ไงล่ะ”พราวฟ้าที่เดินตามหลังมาแซวไทน์นี่ยิ้ม ๆ ในขณะที่กองทัพหลุดยิ้มออกมาน้อย ๆ ด้วยความเอ็นดูไทน์นี่ ที่ตอนนี้กลายเป็น
ที่รักค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องนอนของสามีโดยที่มีชมพู่เด็กรับใช้คอยช่วยพยุง ก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงบนเตียงใหญ่ที่มีร่างที่ไร้ลมหายใจของคู่ชีวิตนอนอยู่ มือที่สั่นเทาค่อย ๆ เอื้อมไปจับมือของสามีขึ้นมาแนบแก้ม ก่อนที่หยดน้ำตาจะหลั่งรินกระทบฝ่ามือใหญ่ที่เคยตอบรับสัมผัสกัน แต่บัดนี้ไม่มีความรู้สึกใด ๆ อีกต่อไปแล้ว“หลับให้สบายนะคะพี่หมอของที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ๆ หลาน ๆ แล้วนะ ที่รักสัญญาว่าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดีให้เหมือนตอนที่พี่หมอยังอยู่”น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไปทั้งสรรพางค์กาย หัวใจที่เคยมีความสุขก่อนหน้านี้กลับเศร้าหมอง ทั้ง ๆ ที่ทำใจมาบ้างแล้ว เพราะสามีของเธอนั้นบอกกับเธอเสมอว่า เขาอายุมากแล้วและอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ขอให้เธอเข้มแข็งและทำใจให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เธอไม่อยากให้เดินทางมาถึง กลับมาถึงเร็วกว่าที่คิดมันเลยทำให้เธอนั้นทำใจยากเหลือเกิน“หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราสองคนได้เกิดมาคู่กันและเป็นสามีภรรยากันแบบนี้ตลอดไป แต่ชาติหน้าอย่าทำให้ที่รักเสียใจอีกนะคะ ชาตินี้ที่รักรักพี่หมอก่อน ชาติหน้าขอให้พี่หมอรักที่รักก่อนนะคะ ที่รักสัญญาว่าจะรักพี่
วันหยุดสุดสัปดาห์คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลก“กราบครับคุณทวด”น้องเกรย์กับน้องกรรฐ์ประนมมือขึ้นก่อนที่จะก้มลงกราบบนตักของคุณทวดที่รัก ที่ยกมือขึ้นลูบหัวของเหลนชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ก่อนที่เหลนทั้งสองคนจะเงยหน้าพร้อมกับลุกขึ้นไปนั่งข้าง ๆ คุณทวดเมื่อท่านพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต“พี่ขวัญล่ะครับ ทำไมถึงไม่มากับพวกเราด้วย”ที่รักถามเหลนทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความอ่อนหวานเช่นเคย ก่อนที่น้องเกรย์จะหยิบตะกร้าที่บรรจุด้วยขนมหวานขึ้นมาวางเอาไว้บนตักและตอบคำถามของคุณทวดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“พ่อทัพพาพี่ขวัญไปส่งที่บ้านย่าแก้มครับ คุณย่าโทรมาหาตั้งแต่เช้า บอกว่าคิดถึงพี่ขวัญมากไม่มีเพื่อนเล่นไพ่นกกระจอก พ่อทัพก็เลยพาพี่ขวัญไปหาคุณย่าครับ ส่วนพวกเราสองคนวันนี้ตั้งใจมาหาคุณทวดครับ นี่ครับคุณทวด ขนมที่พ่อทัพกับพี่ขวัญตื่นมาช่วยกันทำตั้งแต่เช้า กำชับแล้วกำชับอีกว่าให้แฝดนำมาให้ทวดชิม พ่อทัพบอกว่าคุณทวดชอบกินขนมเทียนแก้วมาก ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบทำให้พ่อทัพกินบ่อย ๆ”น้องเกรย์ตอบคำถามคุณทวดจบก็หยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นและแกะออกจากห่อใบตองที่ห่ออย่างประณีตสวยงาม ก่อนที่จะยื่นไปตรงหน้าของคุณทวดที่อ้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ของขวัญที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนใหญ่ค่อย ๆ หันไปมองประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้างด้วยความดีใจ เพราะคนที่กำลังวิ่งดุกดิกเข้ามาหาเธอก็คือน้องชายฝาแฝดตัวแสบนั่นเอง“ดึกแล้วทำไมยังไม่พากันนอนอีกครับ พี่เกรย์น้องกรรฐ์”ของขวัญถามน้องชายทั้งสองคนที่กำลังกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนของเธอคนละฝั่ง พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ด้วยรอยยิ้มทั้งคู่ ก่อนที่เกรย์จะตบหมอนของพี่สาวเบา ๆ ของขวัญก็ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ น้องชายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข“พี่เกรย์ชวนน้องกรรฐ์มานอนเป็นเพื่อนพี่ขวัญครับ”คำตอบของน้องชายคนเล็กทำเอาของขวัญถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่ที่เธอขึ้นชั้นมัธยม สองแฝดก็ไม่เคยมานอนกับเธออีกเลย ไม่รู้ว่าพอโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเขินเธอหรือเปล่า ทั้งคู่ถึงไม่ยอมมานอนด้วยกันเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ“เกรย์ไม่อยากให้พี่ขวัญต้องนอนเหงาคนเดียวครับ อย่างน้อย ๆ มีน้องกรรฐ์กับเกรย์มานอนด้วยคืนนี้จะได้นอนหลับฝันดี”ประโยคที่แฝงไปด้วยความห่วงใยจากน้องชายคนโต ทำเอาของขวัญถึงกับน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้งใจกับค
5 ปีผ่านไปห้องเรียน“โอเคค่ะทุกคน วันนี้คุณครูก็ขอจบการสอนไว้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ อย่าลืมเอาการบ้านไปส่งคุณครูด้วยนะคะ ใครช้าได้ออกมาแก้โจทย์ให้เพื่อน ๆ ดูแน่ ๆ”เมื่อคุณครูสาวกล่าวจบและเก็บของออกจากห้องเรียนไปแล้วพี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันก็รีบเก็บสมุดหนังสือลงใต้โต๊ะเรียนทันที ก่อนที่สองพี่น้องจะหันมาพยักหน้าอย่างรู้กัน พร้อมกับลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินออกไปจากห้องเรียนเพื่อไปทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหารแต่ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะเดินไปถึงหน้าห้องเรียน เด็กหญิงน้ำหวานกับเด็กหญิงลูกพีช เพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบสองแฝดก็รีบวิ่งมายืนดักหน้าทั้งสองหนุ่มทันที ทำเอาสองพี่น้องรีบกระโดดถอยหลัง ราวกับว่าสองสาวตรงหน้า คือตัวเชื้อโรคที่ทั้งสองคนไม่อยากอยู่ใกล้อย่างไรอย่างนั้น“เกรย์ กรรฐ์วันนี้ไปกินข้าวกับพวกเรานะ”น้ำหวานเอ่ยปากชวนสองหนุ่มด้วยรอยยิ้ม แต่สองแฝดกลับส่ายหน้าไปมาพร้อม ๆ กันราวกับนัดหมาย ทำเอารอยยิ้มของเด็กหญิงน้ำหวานค่อย ๆ จางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเด็กหญิงวัยสิบขวบ เมื่อเพื่อนชายที่เธอแอบชอบมาตลอดปฏิเสธที่จะไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน“แต่พวกเราสองคนชวนกรรฐ์กับเกรย์ท
โรงพยาบาล Nวันหยุดสุดสัปดาห์กองทัพจูงมือลูกชายทั้งสองคนมาตามทางเดินของโรงพยาบาลของครอบครัว เนื่องจากวันนี้เขากับเจ้าขาต้องออกงานสังคม จึงพาลูกชายทั้งสองคนมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาล เพราะพอถึงวันหยุดทีไรพี่เกรย์มักจะชอบมาขลุกอยู่ที่นี่ เพื่อดูคุณทวดทำงานและนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่เสมอ ส่วนน้องกรรฐ์ส่วนใหญ่แล้วจะชอบไปเล่นกับคุณปู่คุณย่า แต่วันนี้น้องชายฝาแฝดกลับอยากมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาลกับพี่ชายมากกว่าที่จะไปเล่นกับคุณปู่คุณย่าที่บ้านใหญ่“’งื้อ เลือดเต็มเลยอะ พี่เกรย์น้องกรรฐ์กลัว”แฝดน้องยกมือขึ้นปิดตาก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายที่เดินจูงมือกันมาด้วยความกลัว เพราะเด็กชายตัวน้อยนั้นไม่ชอบเลือดเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าบางครั้งจะหกล้มจนได้เลือด เจ้าคนเล็กของบ้านก็จะไม่ยอมมองแผลของตนเองเลย ในขณะที่แฝดพี่ยกมือขึ้นกอดน้องชายเอาไว้หลวม ๆ ทำเอาคุณพ่อยิ้มออกมาน้อย ๆ กับความรักของสองพี่น้อง ที่พี่เกรย์นั้นมักจะเป็นที่พึ่งพิงให้น้องชายเสมอ“ไม่เห็นน่ากลัวเลยน้องกรรฐ์ มันก็แค่เลือดเอง”เกรย์บอกน้องชายเมื่อรถเข็นเตียงพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้ว ก่อนที่น้องกรรฐ์จะค่อย ๆ หันหน้ากลับมาแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้บิดาที่กำลัง
เวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ จากเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเติบโตขึ้นเป็นเด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบที่บุคลิกของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่พี่เกรย์นั้นนิ่งมากขึ้นไม่ซุกซน เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายในขณะที่น้องกรรฐ์นั้นดื้อและซนจนกองทัพกับเจ้าขาถึงกับกุมขมับแทบจะทุกวัน“อะ เราให้”เด็กชายกรรฐ์ยื่นอมยิ้มรสโปรดให้กับชมพูเพื่อนสาวต่างห้องที่น้องกรรฐ์แอบปลื้มอยู่ในระหว่างที่รอบิดากับมารดามารับหลังเลิกเรียน ชมพูมองอมยิ้มของเพื่อนต่างห้องที่ยื่นมาให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้มที่สาวน้อยมองว่าน่ารักมาก ก่อนที่ชมพูจะยื่นมือไปหยิบอมยิ้มมาจากมือของกรรฐ์“ขอบใจนะ”เด็กหญิงชมพูเอ่ยขอบคุณเพื่อนต่างห้องก่อนที่เด็กน้อยจะเปิดกระเป๋านักเรียนและเก็บอมยิ้มเอาไว้ในนั้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มขอบคุณเพื่อนต่างห้องอีกครั้ง “ถ้าชมพูชอบกรรฐ์จะเอามาฝากทุกวันเลย”เด็กชายกรรฐ์บอกเพื่อนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่มือเล็กของ ๆ พี่เกรย์จะบิดเข้าที่หูของน้องชายทำเอาน้องกรรฐ์ถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ เพราะแรงบิดของพี่ชายนั้นไม่ใช่เบา ๆ เลยสักนิด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกือบทุกวันที่น้องกรรฐ์หนีพี่ชายมาเต๊าะสาว ๆ ในระหว่างที
หลังกลับมาจากท่องเที่ยวสองแฝดที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยก็พากันนั่งเล่นของเล่นไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน ทำเอากองทัพที่วางแผนจะแอบแซ่บกับเมียจ๋าต้องหันไปมองลูกชายด้วยสายตาตัดพ้อ ส่วนน้องกรรฐ์กับพี่เกรย์ที่ไม่รู้เท่าทันแผนของบิดาได้แต่หันมายิ้มร่าให้กับกองทัพอย่างไร้เดียงสา“ไม่ต้องมายิ้มให้พ่อเลยนะเจ้าแฝด นี่ก็สี่ทุ่มแล้วทำไมตาใสแจ๋วแบบนี้ ง่วงบ้างไหมลูก ง่วงหน่อยนะ ง่วงสักนิดก็ยังดีลูกจ๋า ไปนอนกันดีไหมเดี๋ยวพ่อร้องเพลงกล่อมนอน”กองทัพถามลูกชายที่มองหน้าบิดาพร้อมกับกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยไม่เข้าใจในสิ่งที่บิดากำลังพูดกับตนเอง ก่อนที่เด็กชายทั้งสองคนจะเมินพ่อและหันกลับไปนั่งเล่นของเล่นกันต่อทำเอาคุณพ่อได้แต่ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้ที่สองแฝดไม่ยอมง่วงนอนสักทีจันทร์กนกที่เดินลงบันไดมามองลูกเขยด้วยความเห็นใจ ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้ลูกเขยน่าจะอยากใช้เวลากับลูกสาวของเธอสองต่อสองสินะ คิดได้ดังนั้นสองเท้าก็ไม่รอช้าที่จะเดินลงมาหาหลานชายทั้งสองที่พากันเล่นของเล่นอย่างไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงเลยแม้แต่น้อย พลังเยอะเหลือเกินนะหลานยาย“ทัพไปนอนเถอะลูก เดี๋ยววันนี้สองแฝดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่เองอยู่กับยายเจ้าแ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากหนึ่งวันสู่หนึ่งเดือนและหนึ่งเดือนเดินทางมาจนครบหนึ่งปี พี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ต่างได้รับการเลี้ยงดูและเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากกองทัพและเจ้าขา รวมไปถึงเด็กหญิงของขวัญที่รักและเอ็นดูน้องชายฝาแฝดทั้งสองคนมากระหว่างทางของการเติบโตจากวัยทารกก้าวไปสู่วัยหนึ่งขวบ เด็กชายฝาแฝดทั้งสองคนต่างได้รับความรักจากคุณทวดทั้งสองคนที่หลงรักหลานชายที่ขี้อ้อนจนหมดใจ หากแต่เมื่อไหร่ที่แฝดอยู่กับย่าแก้มแล้วนั้น เด็กชายทั้งสองคนเป็นต้องหาเรื่องงอแงใส่ผู้เป็นย่าจนแก้มใสถึงกับกุมขมับทุกครั้งที่แวะมาหาหลานรักทั้งสองคน พร้อมกับตบท้ายด้วยการงอนหลานกลับบ้านทุกครั้งอยู่ร่ำไปเมื่อเด็ก ๆ เติบโตพอที่จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว กองทัพกับเจ้าขาก็พาลูกชายทั้งสองคนกับลูกสาวคนโตบินมาเที่ยวที่ประเทศอิตาลีอีกครั้ง และถือโอกาสแวะมาเยี่ยมคุณยายจันทร์กนกที่ตอนนี้มีคนรู้ใจไม่ต้องอยู่คนเดียวอย่างเหงา ๆ อีกต่อไป “น้องกรรฐ์ครับมาใส่เสื้อผ้าก่อนเร็ว”กองทัพร้องเรียกลูกชายตัวน้อยที่วิ่งเล่นไปทั่วห้องด้วยความเหนื่อยใจ เพราะกว่าที่เขาจะจับสองแฝดอาบน้ำได้ก็แทบหมดแรงเพราะลูกชายทั้งสองคนของเขานั้นซนมาก ถ้าเทียบกับ
เมื่อลิ้นเล็ก ๆ เลียไปตามรอบฐานท่อนเอ็นใหญ่กองทัพก็อดไม่ได้ที่จะขยำผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ยี่ไปหมดด้วยความเสียวซ่าน ก่อนที่เจ้าขาจะอ้าปากครอบครองความใหญ่โตที่เกินมาตรฐานชายไทยจนเกือบสุดความยาวพร้อมกับดูดเลียเล่นลิ้นเพื่อต้องการปรนเปรอสามีให้มีความสุข“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพเสียว อูย ตะ ตรงนั้น อ๊า”กองทัพร้องครางเสียงสั่นเมื่อเจ้าขาแกล้งเขาด้วยการเลียวนไปวนมาตรงส่วนหัวเห็ดจุดอ่อนไหวของผู้ชายที่กองทัพไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าตอนนี้เขาเสียวจนแทบเสร็จ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามกลั้นเอาไว้สุดฤทธิ์เพราะนี่ก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ“อืม เมียจ๋าดีเหลือเกิน”กองทัพยังคงร้องครางเสียงเบา ๆ ด้วยความเสียวก่อนที่เจ้าขาจะรัวลิ้นใส่ส่วนหัวเห็ดที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานให้อย่างไม่นึกรังเกียจ เวลาผ่านไปสักพักสุดท้ายกองทัพก็ไม่สามารถต้านทานลิ้นเล็ก ๆ ที่แตะไปตรงไหนก็เสียวตรงนั้นได้อีกต่อไป“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพไม่ไหวแล้ว ลิ้นหนูดีเหลือเกิน”จบประโยคกองทัพก็ร้องขึ้นเสียงดังอย่างสุขสมก่อนที่เขาจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำรักใส่ปากของภรรยาจนมันไหลเยิ้มลงมาที่ขอบปาก ก่อนที่กองทัพจะลุกขึ้นนั่งและยื่นมือไป