ทั้งสองแลกหมัดกันอย่างไม่ยั้งมือ เป็นเวลาเดียวกันที่ริโอะพาพิริสาออกมาที่หน้าบ้านพอดี สองสาวเห็นภาพความรุนแรงต่างก็ยืนอ้าปากค้างตกอกตกใจ
และเป็นพิริสาที่ใช้เวลาที่ริโอะกำลังเผลอ วิ่งเข้าไปห้ามทั้งสองหนุ่ม ถือว่าเธอคิดถูกที่ฝ่าฝืนคำสั่งของเรนออกมาจากห้อง ไม่เช่นนั้นคงได้มีใครได้ตายกันไปข้างหนึ่งแน่
“เป็นพี่น้องกันจะฆ่ากันให้ตายให้ได้เลยเหรอ” สิ้นเสียงตะโกนของพิริสา เซรเกย์ก็หยุดการกระทำทุกอย่างทันที เช่นเดียวกับเรนที่หยุดมือแล้วหันไปมองริโอะด้วยสายตาไม่สบอารมณ์
“บอกว่าอย่าให้ริสาออกมาไง”
คนที่ถูกตวาดได้แต่ยืนก้มหน้า แม้จะถูกดุแต่เธอก็คิดว่าตัวเองทำถูกต้อง ไม่รู้ว่าทำไมเรนถึงได้เลือกที่จะใช้กำลังก่อนที่จะพูดคุย ทั้งที่เขาก็รับปากกับพิริสาไปแล้ว
“หมายความว่ายังไงริสา” เซรเกย์มองหน้าพิริสาตาแทบถลน อยากได้คำตอบจากปากหญิงสาวใจแทบขาด
“นี่คุณเรน เค้าเป็นลูกอีกคนของพ่อคุณ เค้าคิดว่าคุณฆ่าพ่อตัวเองเลยอยากฆ่าคุณ พอคุณไม่ตายเค้าก็จับฉันมาเพื่อแก้แค้นคุณไง”
“ฉันไม่ได้ฆ่าพ่อ” เซรเกย์หันมองไปยังคนที่เป็นสายเลือดเดียวกัน
“ฉันไม่เชื่อ” เรนยังคงยืนยันในความคิดของตัวเอง ขนาดการพูดคุยกันดีๆ เซรเกย์ยังทำไม่ได้ ยังเลือกที่จะใช้กำลังกับเขาก่อน แล้วเขาจะเชื่อได้อย่างไรว่าเซรเกย์ไม่ใช่พวกหัวรุนแรง
“จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของนาย แต่ถ้านายคิดฆ่าฉัน ฉันก็ฆ่านายได้เหมือนกัน” เซรเกย์คว้าปืนออกมาจากด้านหลังแล้วจ่อไปที่เรน คนที่อยากจะฆ่าเขาอย่างไม่สนเหตุผล เขาก็เอาไว้ไม่ได้เหมือนกัน ทว่าก็ต้องลดปืนลงเมื่อพิริสาเข้ามายืนขวางหน้าเอาไว้
“อย่าเพิ่งมาฆ่ากันตอนนี้ได้ไหม พิสูจน์ให้ได้สิว่าตอนนั้นพ่อพวกคุณฆ่าตัวตายเองรึเปล่า”
“จริงค่ะ” ริโอะเอ่ยเสริม เธอยืนหน้าซีดหน้าเซียว ด้วยกลัวว่าเจ้านายของเธอจะเป็นอันตราย
“ฉันมีหลักฐาน ถ้านายคิดจะดูอย่างไม่คิดอคติ” เรื่องที่เขาถูกกล่าวหา เซรเกย์คิดว่าเขาก็มีเครื่องมือที่จะพิสูจน์ได้ว่าตัวเองบริสุทธิ์ อยู่ที่อีกฝ่ายว่าจะอคติเกินกว่าจะไม่ยอมรับฟังอะไรเลยหรือเปล่า
“ถ้าหลักฐานมันบอกว่าพ่อฆ่าตัวตาย ฉันก็พร้อมขอโทษนาย แต่ถ้าไม่ใช่ นายก็เตรียมตัวตายได้เลย แล้วไหนล่ะหลักฐาน” เมื่อถูกท้าทายอย่างลูกผู้ชาย เรนก็พร้อมรับคำท้าอย่างลูกผู้ชายเหมือนกัน
“อยู่ที่วาดิมเพื่อนของฉัน”
พิริสาหันมองหน้าเซรเกย์ขวับ ดวงตากลมโตเริ่มหลี่ลงเล็กน้อย ทั้งหัวคิ้วก็เริ่มย่นเข้าหากัน แววตาเต็มไปด้วยความฉงนใจ เขาจำช่วงเวลานั้นไม่ได้ไม่ใช่หรือ แล้วทำไมเขาถึงรู้ว่าหลักฐานทั้งหมดอยู่กับวาดิม ทว่าก็ยังไม่ใช่เวลาที่เธอจะถาม
เมื่อทุกคนกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการรอหลักฐาน เรนก็ยืนจ้องหน้าเซรเกย์ไม่วางตา อยากจะรู้นักว่าหลักฐานที่เซรเกย์ว่าจะทำให้เขาได้เห็นประจักษ์หรือไม่ว่าเซรเกย์ไม่ได้ฆ่าพ่อจริงๆ เพราะหากไม่ใช่ เขาก็พร้อมที่จะสังหารคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสายเลือดเดียวกับเขาทันที
แต่เมื่อหลักฐานทุกอย่างมันปรากฏชัดว่าเรนเข้าใจผิด ในตอนที่วาเลรีพูดถึงเซรเกย์ก่อนจะหมดลม เขาดันเข้าใจไปเองว่าคนสนิทจะสื่อว่าคนที่ฆ่าพ่อของเขาคือเซรเกย์ สุดท้ายภาพทุกอย่างในไฟล์กล้องวงจรปิดเป็นพ่อของเขาเองที่เลือกจบชีวิตเพราะความแพ้ไม่เป็น
“นายอยากทำอะไรกับฉันก็เชิญ” ฟุบลงไปกับพื้นด้วยความผิดหวังและรู้สึกผิด น้อยครั้งที่คนอย่างเขาจะทำอะไรผิดพลาด แต่สิ่งหนึ่งที่ผิดพลาดแล้วเป็นเรื่องที่ดีก็คือการที่เขาทำลายชีวิตของเซรเกย์ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็คงเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต
มือของเขาถึงจะเปื้อนเลือดมามากก็จริง แต่ก็ไม่ใช่เลือดของคนบริสุทธิ์ ต่อจากนี้เขาจะยอมรับโทษทุกอย่างที่เซรเกย์อยากให้เขาได้รับ
เซรเกย์ได้แต่ยืนถอนหายใจมองคนที่เป็นสายเลือดเดียวกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน เขาต้องอยากจะเอาคืนคนที่ทำเขาเจ็บ ทว่าเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยอมรับโทษโดยไม่มีเงื่อนไข เขาดันรู้สึกไม่อยากจะต่อความมากไปกว่านี้
ในระหว่างที่สถานการณ์ของทั้งสองหนุ่มกำลังอยู่ในความคาดเดาได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป พิริสาที่อดทนต่อความสงสัยของตัวเองไม่ไหวเธอก็เงยหน้ามองเซรเกย์ จับจ้องเขาเขม็ง
“คุณตอบคำถามฉันได้ไหมว่าคุณจำได้ยังไงว่าหลักฐานอยู่กับคุณวาดิม คุณจำช่วงเวลาพวกนี้ไม่ได้ไม่ใช่เหรอ”
“วาดิมเป็นคนบอกผม เพราะเค้าเล่าทุกอย่างให้ผมฟัง”
สิ้นเสียงของคนเป็นสามี ดวงตากลมโตก็เริ่มมีน้ำตาท่วมท้นจนไหลเอ่อลงมาอาบแก้ม คิดว่าเขาจะมีความทรงจำในอดีตผุดขึ้นมาไม่มากก็น้อยเสียอีก แต่คำตอบของเขาไม่ให้เธอได้มีความหวังเลยแม้แต่นิดเดียว
ตื๊ด ตื๊ด เซรเกย์หันไปมองโทรศัพท์มือถือของเขาที่วางอยู่ข้างโน๊ตบุ๊ค เมื่อเห็นว่าเป็นสายของมิล่าเขาก็ไม่ได้คิดที่จะรับ
พิริสาที่เห็นตัวหนังสือชื่อมิล่าโชว์หลาเธอก็ปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะเงยหน้ามองค้อนสามีตัวเอง “ทำไมไม่รับล่ะคะ”
เมื่อเห็นเซรเกย์ส่ายหัวเธอก็คิดว่าเขาคงไม่อยากให้เธอรับรู้ว่าจะพูดคุยอะไรกับพิริสาบ้าง เห็นทีเธอต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลม ไม่เพียงไม่ชอบให้มิล่าคุยกับสามีของเธอต่อหน้า แม้แต่คุยกันทางโทรศัพท์เธอก็ไม่ชอบ จึงถือวิสาสะกดรับสายของมิล่าเองเสียเลย
“เลิกยุ่งกับผัวฉันซะที” ตะคอกใส่ปลายสายจบพิริสาก็วางสายทันที
“คุณไม่ควรทำแบบนี้ริสา” แววตาที่เขามองเธอตอนนี้เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ควรที่สุดค่ะ ให้อีพวกอยากฉกผัวชาวบ้านได้รู้ว่าเมียเค้าไม่ยอมง่ายๆ”
“คุณเห็นผมเป็นสิ่งของรึไง” เซรเกย์เริ่มมีโทสะมากขึ้น เขาเป็นคนไม่ใช่สิ่งของที่คิดเองเออเองไม่ได้ ต้องให้คนโน้นคนนี้มาจูงจมูก และรู้ว่าต้องวางตัวยังไงในตอนนี้ ทว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยของเขากลับไม่คิดจะเชื่อใจของเขาสักนิด
“ไม่” ทว่าพิริสาก็ไม่คิดจะยอมรับฟังความคิดเห็นของใคร เพราะอยู่ในจุดเดือดเหมือนกัน
“ถ้าไม่ก็แสดงว่ากำลังดูถูกผม ผมรู้ตัวว่าผมมีภรรยาแล้ว แล้วผมก็คงไม่คิดจะยุ่งกับคนที่เคยทิ้งผมไป”
“แล้วคุณทำไมต้องให้มันมายุ่งกับคุณด้วย คุณว่าฉันคิดมาก ลองคุณมาเป็นฉันดูสิมันเจ็บแค่ไหน คุณไม่รู้หรอกที่ต้องรู้ว่าผัวตัวเองรักแฟนเก่าแล้วก็จำตัวเองไม่ได้ แถมคุณยังไม่สนใจความรู้สึกฉัน หาว่าฉันคิดมากไม่มีเหตุผล”
ริโอะเห็นท่าว่าสถานการณ์กำลังระอุขึ้นเรื่อยๆ จึงเข้ามาลูบหลังพิริสา “คุณริสาใจเย็นๆ นะคะ”
“ฮือ ฮือ ฮือ... ฉันร้องให้คุณยังไม่คิดจะกอดฉันเลย ถ้าเรนไม่ส่งข้อความไปหาคุณว่าฉันอยู่กับเค้า คุณก็คงไม่คิดจะตามหาฉันใช่ไหม” จากความโกรธกลายเป็นความน้อยใจ ตอนนี้เธอไม่สนใจสายตาของใครที่จะมองเธองี่เง่า แต่เธอต้องการให้เซรเกย์รับรู้ความรู้สึกของเธอให้ได้มากที่สุด ซึ่งดูท่าเขาก็มาเห็นจะสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว
“คิดมากเกินไปแล้วริสา” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกโบว์ ไม่เพียงแค่เซรเกย์ที่ปวดหัวกับอาการน้อยใจของพิริสา เรนที่เห็นพฤติกรรมทั้งหมดของหญิงสาว เขาก็อดปวดหัวไม่ได้เช่นกัน
“เออ... ก็คนมันคิดมากจะให้ทำยังไงเล่า”
“พาริสาไปสงบสติก่อนริโอะ” เรนเห็นว่าหากปล่อยให้พิริสายืนต่อล้อแต่เถียงกับเซรเกย์ต่อ เรื่องราวได้บานปลายแน่
“ค่ะคุณเรน กลับห้องก่อนนะคะคุณริสา”
พิริสาปาดน้ำตามองค้อนเซรเกย์หนึ่งขวับ ก่อนจะหันหลังตามแรงรั้งของริโอะ
เซรเกย์เห็นภรรยาหันหลังไปได้ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความอ่อนใจ จากนั้นก็หันมาพูดกับเรนด้วยสีหน้าที่หมดอาลัยตายอยาก
“ฉันไม่มีอะไรจะเคลียกับนาย เรื่องที่แล้วก็ให้แล้วกันไป แต่นายจะต้องช่วยฉัน เพราะนายทำให้ฉันความจำเสื่อม แล้วก็มีปัญหาครอบครัวเหมือนตอนนี้”
เรนยืนหน้าถอดสี ให้เขาไปจับดาบฆ่าคนยังดีกว่ามานั่งทำความเข้าใจความรู้สึกผู้หญิง ดูๆ แล้วพิริสาท่าทางจะพยศไม่น้อยเลย
“แล้วนายจะไปยุ่งกับแฟนเก่าเพื่อให้เกิดปัญหาทำไม”
“ฉันไม่ได้ยุ่งอะไรกับใครเลย มีแต่คนอื่นที่มายุ่งกับฉันเอง แล้วมิล่าเธอก็เป็นหมอที่รักษาฉัน แล้วก็เป็นน้องสาวของราเดนคนในองค์กรฉัน
ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเธอ จู่ๆ จะไปไล่ให้เธอห้ามเข้ามายุ่งในชีวิตฉัน มันดูไม่มีเหตุผลไปหรือเปล่า แค่ขอให้เธออยู่ห่างฉันทั้งที่เธอเพิ่งรักษาฉันจนหายดีแค่นั้นก็เกรงใจเธอมากพอแล้ว”
“เหมือนริสาจะบอกฉันว่า ความจำของนายไปหยุดอยู่ตอนที่คบหากับมิล่า แล้วนายก็ยังรักมิล่า ริสาหวงหึงนายมากๆ ก็น่าจะเพราะเหตุผลนี้ แก้ตามที่ฉันคิดก็คือนายต้องทำให้ริสารู้ว่านายไม่ได้คิดจะไปสานสัมพันธ์อะไรกับมิล่า แล้วก็ทำหน้าที่ของสามีที่นายควรจะทำ”เซรเกย์ยังคงยืนเงียบ ใช่ว่าเขาจะไม่ทำอย่างที่เรนพูด แต่พิริสาไม่ยอมเข้าใจว่าเขากำลังพยายามทำอยู่ต่างหาก เธอเอาแต่คิดว่าเขาจะถูกแย่ง ถึงได้พูดกันไม่รู้เรื่องเช่นตอนนี้“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ฉันอยากรู้ว่าลูกคุณพ่อยังมีคนอื่นนอกจากนายอีกหรือเปล่า”“ฉันมีพี่ชาย แต่ตอนนี้เค้าไม่สนใจที่จะออกมาใช้ชีวิตภายนอกหลังจากที่เสียภรรยาแล้วก็คุณพ่อไป แล้วเค้าก็คงไม่ได้อยากรู้จักนายเหมือนกัน”“พวกนายดูรักคุณพ่อมากเลยสินะ”“ใช่ คุณพ่อกับพวกฉันมีความผูกพันธ์กันมาก เค้าสอนการใช้ชีวิตให้พวกฉันหลายอย่าง ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าเค้าทำเรื่องผิดร้ายแรง แต่พวกฉันก็โกรธเค้าไม่ลง”เซรเกย์ยืนนิ่งงัน ดวงตาคมฉายแววน้อยใจ ริมฝีปากหนายกยิ้มเย้ยหยันตัวเองเล็กน้อย และแล้วเขาก็ได้รู้เสียทีว่าพ่อของเขาเลือกที่จะให้ความรักกับครอบครัวของเรนมากกว่าเขาและแม่เสมอมา ถึงตอนนี้จะรู้สึกน้อยใจไปก็เท
“ถ้าคุณอึดอัดจะไม่นอนที่นี่ก็ได้นะคะ”“คุณกำลังประชดผมอยู่ใช่ไหม”“มองฉันเป็นคนงี่เง่าไปซะทุกเรื่องเลยสินะคะ ฉันแค่เห็นว่าคุณยังจำฉันไม่ได้ การที่ต้องมานอนร่วมเองกับคนที่คุณคิดว่าแปลกหน้าคงไม่ชอบ”“ยังไงคุณก็คือภรรยาผม ผมก็ต้องอยู่ใกล้คุณให้ชิน”ตื๊ด ตื๊ด... ‘ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ’เหมือนจังหวะนรกที่ทำให้สองสามีภรรยาที่เริ่มจะพูดคุยกันดีๆ มองจ้องไปยังโทรศัพท์มือถือราคาแพง วินาทีที่เซรเกย์เห็นข้อความของมิล่าโชว์หลาที่หน้าจอของตัวเองก็เริ่มกลืนน้ำลายไม่ลงคอ เห็นทีจะมีเรื่องให้เขาต้องปวดหัวอีกแล้วส่วนพิริสาก็เริ่มบุ้ยปาก ดวงตากลมโตมองจ้องไปยังโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์ตาเขม็ง “ยัยนี่ดูท่าจะห่วงคุณเกินหน้าเกินตาไปนะคะ” พูดจบก็หันหน้าขวับมองออกไปยังนอกหน้าต่าง เซรเกย์ที่เห็นเช่นนั้นก็ได้แต่นั่งถอนหายใจเงียบๆ“คุณรู้ไหมว่าเรนจับฉันมาทำไมกันแน่”“เรนบอกผมว่าตั้งใจทำไม่ดีกับคุณ แต่ทำไม่ลง นั่นมันก็เป็นความโชคดีของคุณ”“แล้วมันไม่ใช่ความโชคดีของคุณเหรอคะที่เมียตัวเองยังไม่ตกเป็นของคนอื่น หรือว่าไม่ได้สนใจ” หันมากระฟัดกระเฟียดใส่คนเป็นสามี ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นขอบตาของเธอก็เริ่มร้อนผ่าว มีชื่อมิล
“มาหาถึงที่นี่คงมีเรื่องสำคัญใช่ไหม” หมอสาวมองหญิงสาวหน้าตาน่ารักน่าชัง ลูกครึ่งไทยรัสเซียที่กำลังนั่งฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่นัก แม้คนตรงข้ามจะเป็นน้องสาวของเซรเกย์ก็เถอะ“ค่ะ สำคัญมาก มนต์รู้ว่าคุณริสาทะเลาะกับพี่เซรเกย์ก็เพราะคุณ” มนต์ธาราทิ้งตังลงนั่งได้ก็โพล่งถึงเรื่องที่เธอต้องการคุยกับมิล่าทันที เรื่องวุ่นวายในครอบครัวพี่ชายของเธอตอนนี้มันเป็นเพราะเซรเกย์จำเรื่องราวในตอนที่รู้จักกับพิริสาไม่ได้ก็จริง แต่มันจะไม่เลวร้ายไปกว่านั้นหากมิล่าไม่คิดที่จะแย่งเซรเกย์ไปจากพิริสา แม้ปากจะบอกว่าไม่ได้คิดจะทำ แต่การกระทำมีหรือผู้หญิงด้วยกันอย่างเธอจะดูไม่ออก“เพราะความงี่เง่าของพี่สะใภ้เธอต่างหาก” หมอสาวยกยิ้มมุมปากเย้ยหยัน“คิดว่ามนต์ไม่รู้จักนิสัยพี่สะใภ้ของมนต์ แล้วก็นิสัยของคุณเหรอคะ อะไรที่คุณตั้งใจจะทำขอให้หยุดซะ ถึงพี่ชายของมนต์จะรู้สึกรักคุณ แต่เขาก็ไม่คิดจะกลับไปสนใจผู้หญิงที่ทิ้งเขาไปหรอกค่ะ อีกอย่างพี่เซรเกย์ก็ไม่คิดที่จะทิ้งคนที่แต่งงานด้วยถึงแม้จะจำไม่ได้ก็ตาม”“ไม่ต้องมาบอก ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน กลัวว่าพี่ชายเธอจะถูกแย่งจากพี่สะใภ้เหมือนที่เธอเคยแ
เซรเกย์ไม่อยากเก็บความสงสัยเอาไว้ในหัว เขาพอจะทราบว่าก่อนที่พิริสาจะรู้ตัวว่าเป็นลูกสาวของดันเต้ มาเฟียอิตาลีที่อยู่ในตำแหน่งพ่อตาของเขาตอนนี้ เธอเคยทำงานเป็นเลขาของรามิลมาก่อน คิดว่าคงจะรู้เรื่องของรามิลมากกว่าเขาที่เป็นเพื่อน แต่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก“ผมคุยอะไรด้วยได้หรือเปล่า” เซรเกย์เอ่ยถามคนเป็นภรรยาขณะที่เธอจะล้มตัวนอนข้างๆ เขา“พูดมาสิคะ”“รามิลเคยเป็นเจ้านายคุณใช่ไหม”“ใช่ค่ะ”“เค้ามีผู้หญิงคนอื่นมาเกาะแกะรึเปล่า”“ไม่นะคะ คุณมิลไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงค่ะ ถามทำไมคะ” รามิลไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาเกาะแกะอะไรทั้งนั้นตลอดสองปีที่เธอทำงานกับเขา จนเธอเองยังคิดว่าเขาโสดจนแอบชอบ เรื่องนี้เซรเกย์ก็รับรู้ เพียงแค่ตอนนี้เขาจำเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เท่านั้น แล้วเธอก็ไม่คิดจะลงรายละเอียดเรื่องนี้ให้เขาฟังด้วย“รามิลกับน้องผมหมั้นกันมานานแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้จัดงานแต่งซะที มนต์บอกว่ายังอยากเที่ยว แต่ผมกลัวว่ามันจะมีอะไรมากกว่านั้น”“คุณคิดมากไปรึเปล่าคะ สองคนนั้นเค้าก็ดูรักกันดี การแต่งงานมันอาจจะไม่ใช่จุดหมายของเค้าสองคนก็ได้ อย่าบอกนะคะว่าคุณไปเค้นให้คุณมนต์ต้องแต่งงาน” เธอไม่เ
วันทั้งวันพิริสาไม่ยอมออกจากห้อง เธอเอาแต่เก็บตัวเพราะน้อยใจคนเป็นสามี จวบจนเข้าเวลาเย็นเธอทนความอึดอัดไม่ไหวจึงรีบโทรหากลิ่นชวาเพื่อนรักเพื่อระบาย และถือโอกาสนี้บอกกับเพื่อนว่าจะไปขออยู่ด้วยสักพักกลิ่นชวาได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็รีบหยุดความคิดของเพื่อนที่กำลังจะเดินทางไปหาตัวเอง(แกควรจะไปงานกับเค้า ยิ่งปล่อยให้เค้าไปคนเดียวก็ยิ่งเปิดโอกาสให้ยัยมิล่าได้ใกล้กับเซรเกย์)“จริงด้วย ฉันโกรธเค้าจนลืมคิดไปเลย” เริ่มขมวดคิ้วมุ่นครุ่นคิด งานในคืนนี้เป็นงานวันเกิดของผู้ใหญ่ในองค์กรสามีของเธอ เท่ากับว่ามิล่าก็ต้องไปด้วยแน่ๆ เธอเองก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิท(ไปแต่งตัวให้สวยแล้วไปที่งานเดี๋ยวนี้เลย แล้วก็อย่าลืมหาวิธีเก็บหลักฐานจับยัยจอมมารยาให้ได้มากที่สุด เข้าใจใช่ไหม)“โอเค ขอบคุณที่เตือนนะว่าน”วางสายจากเพื่อนรักได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัว เธอเปิดทุกตู้ดูชุดราตรีที่มี แล้วสายตาก็ไปสะดุดอยู่กับชุดราตรีสีแดงเลือดนก เธอจำได้ว่าชุดนี้เธอไม่เคยใส่ไปที่ไหนเพราะไม่มั่นใจด้วยตัวชุดเป็นเดรสสายเดี่ยวผ้าซาตินแนบเนื้อแหวกอกเซ็กซี่ขยี้อารมณ์ แม้จะเป็นกระโปรงยาวแต่ก็แหวกไปจนเกือบเห็นอะไรต่อมิอะไรของเ
ทางด้านมนต์ธาราเลือกที่จะไม่เดินไปหารามิล เพราะในขณะที่กำลังจะเดินไปถึงคู่หมั้นของเธอ มารีน่าก็เดินเข้าไปนั่งคุยกับรามิลเสียก่อน ยิ่งตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามารีน่าได้เลิกรากับสามี เธอจึงอยากเปิดโอกาสให้รามิลได้ลองสานสัมพันธ์กับมารีน่าอีกครั้ง เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่เธอจะได้ถอนหมั้น อีกอย่างก็จะได้ล้มล้างความผิดที่เธอทำให้ทั้งสองต้องเลิกกันด้วยมนต์ธาราหยิบแก้วเครื่องดื่มที่เหล่าบอดี้การ์ดเดินเสริฟวนอยู่ตลอดงานมานั่งดื่มอยู่ในมุมที่ไม่ค่อยมีผู้คนเงียบๆ เธอไม่มีอารมณ์จะพูดคุยทักทายกับใครเมื่อนั่งดื่มไปได้สักพักเธอก็เริ่มคิดย้อนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ยังไม่เข้าใจจนถึงทุกวันนี้ว่าทำไมรามิลถึงไม่ยอมให้เธอยกเลิกการหมั้น เอาแต่พูดว่าไม่อยากให้ผู้ใหญ่ไม่สบายใจ ทั้งที่เขาก็ไม่ได้คิดเกินเลยกับเธอไปมากกว่าพี่น้อง แถมตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็ไม่ยอมมีใครใหม่ จะว่าไปหากเดาไม่ผิดเขาก็คงยังไม่ลืมมารีน่า คงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ นั่นแหละ“มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คุณมนต์”คนถูกสะกิดสะดุ้งเฮือกหลุดจากภวังค์ความคิด เริ่มขมวดคิ้วสงสัยเมื่อเห็นว่าเป็นพี่สะใภ้ของเธอเดินเข้ามาหาคนเดียว ทั้งที่ตอนนี่พิริสาควรจะอยู่กับพี
“นี่ทำอะไรของเธอ” พิริสาพยายามสลัดมิล่าที่กำลังเข้ามายกแขนของเธอให้ไปฟาดที่ใบหน้าของตัวเองเพื่อเล่นบทเหยื่อ“ทำให้เธอรู้ไงว่าเซรเกย์เค้าจะเลือกเชื่อเธอหรือเชื่อฉัน”ยัยนี่ดูละครมากไปชัดๆ เกิดมาไม่คิดเลยว่าจะมีใครใช้วิธีนี้กับเธอ ทว่าเมื่อได้โอกาสแล้วเธอก็ไม่คิดจะปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดมือไป เล็บทั้งสิบนิ้วที่ทำมาอย่างสวยงามก็ขยุ้มใบหน้าคนที่อยากจะแย่งสามีของเธอไปทั้งสิบเล็บ“อีบ้า”“มึงสิบ้า” พูดจบคำก็เปลี่ยนจากการขยุ้มใบหน้าหมอสาวแล้วเลื่อนไปจิกหัวมิล่า พิริสาดึงทึ้งหัวของมิล่าจนยุ่งเหยิงสาแก่ใจแล้วก็ยกเท้าถีบหมอสาวจนลงไปกองกับพื้นเสียงเอะอะโวยวายในมุมมืดทำให้เหล่าบอดี้การ์ดรีบวิ่งเข้ามาหาสองสาวแล้วจับพวกเธอแยกออกจากกัน ทว่ากว่ามิล่าจะถูกจับแยกจากพิริสาได้ หมอสาวก็อ่วมไปด้วยฝีมือของพิริสาพอสมควร“ฉันว่าเมียนายเริ่มจะเกินไปแล้วนะ” ราเดนเอ่ยกับเซรเกย์ด้วยสีหน้าท่าทางไม่สบอารมณ์ เพราะตอนนี้น่องสาวของเขาใบหน้าเละเทะไปด้วยรอยเล็บตอนนี้ทุกคนต่างก็มารวมตัวกันที่โถงใหญ่ของคฤหาสน์ เพราะเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นกับภรรยาของหัวหน้ามาเฟีย เรื่องราวของมิล่าและพิริสาจึงเป็นที่น่าสนใจเป็นพิเศษ“ฉันก็ท
“มนต์ไม่รู้ว่าทำไมพี่มิลถึงกลัวผู้ใหญ่ต้องผิดหวังเรื่องของเรา ทั้งที่เราไม่ได้รักกันแต่เราก็ต้องหมั้นกัน แถมพี่มิลก็ไม่ให้มนต์พูดกับผู้ใหญ่เรื่องการถอนหมั้น ตอนนี้ยังมาพูดเรื่องแต่งงานอีก คนไม่รักกันจะใช้ชีวิตครอบครัวกันอย่างมีความสุขได้เหรอคะ ตอนนี้คุณมารีน่าเธอก็โสดแล้ว ทำไมพี่มิลไม่ลองสานสัมพันธ์กับเธอล่ะคะ”“ที่พูดมาทั้งหมดก็เพราะอยากให้พี่ออกไปจากชีวิตของมนต์ใช่ไหม”มนต์ธารานั่งเงียบไม่คิดที่จะหันไปมองรามิล เพราะหัวใจของเธอมันให้คำตอบที่ตรงกันข้ามกับคำถามของเขา ทว่าก็ไม่อยากที่จะพูดออกไป“โอเค พี่เข้าใจแล้ว”สิ้นเสียงทุ้มต่ำ รถสปอร์ตราคาแพงก็เริ่มแล่นไปตามถนนอีกครั้ง ไม่นานนักรามิลก็ขับรถมาส่งมนต์ธาราถึงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของเธอ โดยที่ต่างคนต่างก็ไม่คิดที่จะพูดอะไรกันต่อมนต์ธาราน้ำตาไหลลงอาบแก้มขณะมองตามหลังรถสปอร์ตราคาแพงแล่นออกไป ตอนนี้เธอไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ไม่เข้าใจว่าทำไมรามิลถึงกลัวว่าผู้ใหญ่จะไม่สบายใจหากเธอและเขาต้องถอนหมั้นกัน ไม่รู้หรือยังไงว่าการที่ต้องอยู่ใกล้คนที่ตัวเองรัก แล้วรู้ว่าเขาคนนั้นไม่ได้รักตัวเองมันทรมานหัวใจแค่ไหนมนต์ธาราเดินปาดน้ำตาจนมาถึงหน้าห้องนอน
“ริสา”“สรุปว่าพวกคุณรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันจะมีลูกไม่ได้หลังจากใช้ยาถอนพิษเหรอคะ”“ผมขอโทษริสา แต่ที่ผมไม่บอกเพราะกลัวว่าคุณจะไม่ยอมรักษาตัว ถ้าปล่อยให้พิษนั่นอยู่ในร่างกายนานๆ มันทำลายระบบประสาทหลายอย่าง”พิริสาไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นเซรเกย์เข้ามาใกล้ เธอก็รีบวิ่งหนี หากเขาบอกเธอถึงความจริงของผลข้างเคียง วันนั้นเธอก็อาจจะทำใจยอมรับเรื่องที่จะมีลูกไม่ได้ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอมีความหวังจนไม่อาจจะผิดหวังได้แล้ว ทำไมเรื่องมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย“ฮื่อ ฮือ ฮือ ฮือ...” เธอวิ่งไปไม่รู้จุดหมาย พร้อมน้ำตาพรั่งพรูและเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อหัวใจถูกบีบรัดมากเข้าเธอก็เริ่มหูอื้อตาลาย และหมดสติไป“ริสา” เซรเกย์วิ่งไปรับร่างของพิริสาได้ทันท่วงที จากนั้นก็รีบสาวเท้าพาเธอเข้าไปให้โอเว่นดูอาการพิริสายังนอนให้หมอตรวจโดยที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ทั้งยังไม่คิดที่มองหน้าทั้งหมอโอเว่นและสามีของเธอ เพราะยังโกรธเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมบอกเธอถึงผลข้างเคียงทุกอย่างของการใช้ยาถอนพิษ ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดหวังมากๆ ในตอนนี้“ผมว่าเรากำลังจะมีข่าวดีแล้วล่ะ” จากการที่โอเว่นได้เริ่มศึกษาแพทย์แผนจีน เขาก็พอจะจับชีพจ
ตั้งแต่มาถึงร้านสมุนไพรได้ พิริสาก็ถูกหมอจีนตรวจชีพจรอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เคยเจอคนที่เลือดลมเดินทางแปลกๆ เช่นหญิงสาวมาก่อน“อืม...แปลกๆ” หมอสมุนไรวัยเกือบแปดสิบสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ก่อนจะปล่อยมือจากชีพจรของหญิงสาวและหยิบตำราใจใต้ลิ้นชักขึ้นมาดูเซรเกย์ที่เห็นว่าได้จังหวะเขาจึงเริ่มออกอุบายที่วางแผนเอาไว้ “ผมลืมเอามือถือมาจากในรถ ริสาไปเอาให้ผมหน่อยได้ไหม”“ได้สิคะ”ให้หลังพิริสาไปได้ เซรเกย์ก็ถือโอกาสพูดคุยรายละเอียดทุกอย่างกับหมอจีน หวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งให้กับคนที่ลูกยากได้จริงๆ อย่างที่ริโอะได้พูดเอาไว้ทางด้านพิริสาเธอก็เอาแต่หาโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เจอมันก็ตกอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งของเขา กว่าจะกลับเข้าไปในร้านยาได้ เธอก็เห็นหมอจีนเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว“หมอจัดยาให้เรียบร้อยแล้วนะริสา”“เหรอคะ ไวดีจังเลย”“คุณต้องดื่มยาต้มนี่ทุกวัน วันละสามเวลาเป็นเวลาสามเดือน”“แค่นี้จะพอเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเริ่มเพ่งมองไปยังห่อสมุนไพรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สามห่อ“แล้วผมจะส่งสมุนไพรตามไปให้ทุกครึ่งเดือน ระหว่างนี้ก็งดอาหารหมักดอง แล้วก็ต้องทานอาหารที่ทำสดใหม่เ
“ริโอะ”ขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ เสียงที่แสนคุ้นหูก็ดังแว่วมาแต่ไกลทำให้ริโอะรีบหันไปยังต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว “อ้าวคุณริสา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ”“มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ ริโอะทำขาหมูไว้ให้คุณริสาด้วยนะคะ”“คุณเรนบอกแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้าไปในบ้าน อยากคุยกับริโอะก่อน”“มีอะไรเหรอคะ”“ริโอะกำลังงอนคุณเรนอยู่ใช่ไหม”สีหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มเริ่มเจื่อนลง ไม่ผิดหรอกที่เรนเข้าใจเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาสร้างข้อจำกัดให้เธอจนเธอรู้สึกอึดอัด“ฉันรู้ว่าที่คุณเรนห้ามริโอะทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง แล้วฉันก็รู้ว่าริโอะรู้ตัวว่าริโอะทำทุกอย่างได้ ฉันก็เลยบอกให้คุณเรนกับริโอะแก้ปัญหากันคนละครึ่งทาง”“ยังไงเหรอคะ” แววตาของริโอะในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย การแก้ปัญหาคนละครึ่งทางหมายความว่ายังไง“ลองคุยกับคุณเรนอีกรอบสิ” พิริสาหันหน้าไปมองเรนที่กำลังยืนดูเธอและริโอะอยู่ห่างๆ“ฉันขอตัวไปรอในบ้านนะ”หลังจากพิริสาลุกออกไป เรนก็เข้ามานั่งแทนที่ของเธอ เพราะเรนต้องการที่จะคุยกับริโอะตามที่พิริสาและเซรเกย์แนะนำ
“อื้อ...” ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ เสียงครางของความเจ็บจุกถูกดูดเข้าไปในลำคอสามี หลังจากนั้นเธอก็หัวสั่นหัวครอนไปกับแรงกระกระทั้นจากการมอบบทสวาทของสามีตัวโตเซรเกย์บดสะโพกส่งเจ้าแท่งร้อนมโหฬารเข้าออกร่องสวาทถี่รัวไม่มีผ่อนอยู่นานสองนาน เสียงครางของคนทั้งสองที่กำลังแลกลิ้นถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของกันและกัน เมื่อร่องสวาทดูดกลืนแท่งร้อนมโหฬารหนักเข้าก็เริ่มตอดรัดรุนแรงเพราะใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง“อื้อ.. อื้อ...” และแล้วพิริสาก็บิดเกร็งแอ่นเร่าตาปรือเยิ้ม มือไม้จิกอยู่ที่ลำแขนแกร่งของคนเป็นสามีจนแทบจะฝังเนื้อเซรเกย์เสียบเจ้าแท่งร้อนคาร่องสวาทเอาไว้ไม่ขยับ เพราะต้องการปล่อยให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันเขาก็ยังบดจูบด้วยลีลาเร่าร้อนเพื่อเล้าโลมคนตัวเล็กให้พร้อมรับกับลีลาสวาทของเขาอีกรอบเมื่อจับจังหวะการหายใจของภรรยาตัวเล็กว่าเป็นปกติเขาก็เริ่มสาวแท่งร้อนดึงออกจนสุดกดเข้าจนมิดไปกับร่องสวาทที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักอีกรอบให้เร็วและแรงกว่าเดิม จนเกิดเป็นเสียงเนื้อที่กำลังเปียกแฉะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วห้อง“เซรเกย์ อื้อ...” พิริสาหัวสั่นหัวครอน ความเสียวซ่านพุ่งเข้ามาในร่างกายจนเริ่มจะแตะข
“อ๋อ ฉันว่าหาของบำรุงสักพักแกก็คงจะกลับมาแข็งแรงเองนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าแกเพิ่งผ่านการรักษาตัวมานะ เดี๋ยวอีกสักพักลองไปตรวจร่างกายใหม่ก็ได้”“เซรเกย์ก็บอกฉันแบบนั้น”“จุนน้า...”“ยัยหนู” เห็นหลานสาวตัวกลมวัยเกือบสองขวบก็รีบเข้าไปรวบอุ้มมานั่งที่ตัก ก่อนจะหอมไปที่พวงแก้มย้วยๆ อีกฟอดใหญ่“คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย” พิริสากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกสาวของกลิ่นชวากันจนหายคิดถึง ยิ่งเห็นหลานก็อยากจะมีลูกใจจะขาด ทว่าก็ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่าร่างกายของเธอจะสามารถมีลูกได้เมื่อไหร่ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกเห็นพิริสากำลังเล่นอยู่กับเจ้าตัวกลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกถึงความเป็นกังวล โดยเฉพาะเซรเกย์“ดูท่าริสาคงอยากจะมีลูกมากๆ ฉันรู้ว่าริสานิสัยเหมือนว่าน ทางที่ดีนายควรรีบบอกเรื่องที่เธอควรรู้จะดีกว่า” วาดิมเสนอความเห็นหลังจากรับรู้ความจริงว่าเพราะอะไรกันแน่พิริสาถึงยังมีลูกไม่ได้“ฉันยังไม่พร้อมเห็นริสาผิดหวัง เอาเป็นว่าหลังจากการตรวจร่างกายครั้งหน้าไม่ดีขึ้นก็ค่อยบอกเธอตอนนั้น”“อืม ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”เซรเกย์ยืนถอนหายใ
“แล้วริสาจะไปเที่ยวหานะคะคุณพ่อคุณแม่” พิริสาเข้าไปกอดพ่อกับแม่ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางกลับอิตาลีหลังจากที่เบาใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของเธอแล้ว“ยายจ๋า รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วริสาจะพาเจ้าตัวเล็กไปวิ่งเล่นด้วย” เธอผละออกมาจากดันเต้และรสสุคนเข้ามากอดสอางค์“เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วยายจะส่งสมุนไพรบำรุงร่างกายมาให้นะ”“ขอบคุณค่ะ” ฟอด ฟอด สาวเจ้าหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นยายฟอดใหญ่ๆ เป็นประจำทุกครั้งที่ต้องจากกัน ไม่ว่าเธอจะโตมากแค่ไหนเธอก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กกับยายของเธอเสมอ เพราะรู้ว่ายายนั้นชอบเห็นความสดใสของเธอ และเธอเองก็ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของคนเป็นยายรวมไปถึงพ่อกับแม่ไปนานๆ“แล้วก็ดูแลลูกฉันให้ดีล่ะ ถ้ามีเรื่องให้ลูกฉันเจ็บตัวอีก ฉันพาลูกฉันกลับไปดูแลเองจริงๆ ด้วย” ดันเต้หันมาส่งเสียงดุให้เซรเกย์ส่งท้ายก่อนกลับ เชื่อว่าเซรเกย์จะดูแลลูกสาวของเขาได้ดี ทว่าก็อดที่จะกำชับอีกครั้งตามประสาพ่อที่หวงและห่วงลูกไม่ได้สิ้นเสียงแข็งของคนเป็นพ่อ พิริสาก็รีบเข้าไปกอดเอวเซรเกย์เอาไว้แน่น “ไม่นะคะคุณพ่อ ริสารักเซรเกย์ม๊ากมาก ไม่ยอมไปไหนหรอกค่ะ”รสสุคนและสอางค์ต่างก็ส่ายหน้าให้กับคำพูดของดันเต้ ทว่าก็อม
“คิดอะไรอยู่” เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ก็เข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนกอดอกเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยอาการเหม่อลอยพิริสารีบผลักคนที่เปลือยท่อนบนโชว์แผงกล้ามออกจากตัว “ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ” มองกล้ามเนื้อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีครู่เดียวก็ต้องหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าร้อนผ่าวเพราะไม่ชินกับการมองผู้ชายถอดเสื้อ“คุณเขินเหรอ” ริมฝีปากหนาอมยิ้มกรุ่มกริ่ม“ใครจะไม่เขินล่ะ”“หันมาดูให้เต็มตาสิ มันเป็นของคุณนะ คุณจะเขินทำไม” เขาดึงมือเธอมาลูบบนเนินอกที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ“ของฉันเหรอ” แม้จะเคอะๆ เขินๆ แต่แผงกล่ามของเขามันก็น่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย เลยถือวิสาสะลูบๆ คลำๆ อยู่เช่นนั้นจนรับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีไขมันแม้แต่นิดเดียว“ใช่ ก็ผมเป็นของคุณ เป็นสามีคุณ จะดูตรงอื่นด้วยไหม”“ไม่ต้องค่ะ” รีบถอยห่างพร้อมยกมือทั้งสองข้างปิดตา เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอมองว่าเขาเจ้าเล่ห์จะพูดจริงหรือพูดเล่น ทว่าเธอก็ไม่เสี่ยงเปิดตาเอาไว้ แค่เห็นแผงกล้ามของเขาเธอก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว หากเห็นอย่างอื่นคงได้วิ่งออกไปข้างนอกแน่“เวลาคุณเขิน น่ารักมากเลยรู้ไหม”“แกล้งฉันใช่ไหมคะ” มือทั้งสองค่อ
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท