ตั้งแต่มาถึงร้านสมุนไพรได้ พิริสาก็ถูกหมอจีนตรวจชีพจรอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เคยเจอคนที่เลือดลมเดินทางแปลกๆ เช่นหญิงสาวมาก่อน
“อืม...แปลกๆ” หมอสมุนไรวัยเกือบแปดสิบสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ก่อนจะปล่อยมือจากชีพจรของหญิงสาวและหยิบตำราใจใต้ลิ้นชักขึ้นมาดู
เซรเกย์ที่เห็นว่าได้จังหวะเขาจึงเริ่มออกอุบายที่วางแผนเอาไว้ “ผมลืมเอามือถือมาจากในรถ ริสาไปเอาให้ผมหน่อยได้ไหม”
“ได้สิคะ”
ให้หลังพิริสาไปได้ เซรเกย์ก็ถือโอกาสพูดคุยรายละเอียดทุกอย่างกับหมอจีน หวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งให้กับคนที่ลูกยากได้จริงๆ อย่างที่ริโอะได้พูดเอาไว้
ทางด้านพิริสาเธอก็เอาแต่หาโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เจอมันก็ตกอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งของเขา กว่าจะกลับเข้าไปในร้านยาได้ เธอก็เห็นหมอจีนเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว
“หมอจัดยาให้เรียบร้อยแล้วนะริสา”
“เหรอคะ ไวดีจังเลย”
“คุณต้องดื่มยาต้มนี่ทุกวัน วันละสามเวลาเป็นเวลาสามเดือน”
“แค่นี้จะพอเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเริ่มเพ่งมองไปยังห่อสมุนไพรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สามห่อ
“แล้วผมจะส่งสมุนไพรตามไปให้ทุกครึ่งเดือน ระหว่างนี้ก็งดอาหารหมักดอง แล้วก็ต้องทานอาหารที่ทำสดใหม่เท่านั้น ระหว่างวันก็ดื่มน้ำขิงได้ก็ยิ่งดี”
“เข้าใจแล้วค่ะคุณหมอ ขอบคุณนะคะ”
“ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ”
เสร็จธุระแล้วเซรเกย์ก็รีบพาพิริสากลับทันที เพราะดูท่าท้องฟ้าเริ่มครึ้มมาเรื่อยๆ กลัวว่าฝนจะตกหนักก่อนที่จะขับรถถึงบ้านของริโอะ
“ข้างหน้าเหมือนฝนจะตกแล้วนะคะ”
“ใช่... นึกถึงวันนั้นของเราเหมือนกันนะ”
“วันไหนคะ วันที่คุณขอฉันเป็นแฟนใช่ไหม”
“ใช่ ถ้าวันนั้นคุณไม่อกหักจากรามิล คุณจะยอมเปิดโอกาสให้ผมไหม” อันที่จริงเขาก็ไม่เคยถามเรื่องนี้กับภรรยาเขาเลย แต่วันนี้มันเกิดอยากจะรู้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“วันนั้นเป็นเพราะคุณเผยความอ่อนโยนในตัวของคุณด้วย ฉันเลยเปิดโอกาสให้คุณค่ะ ยอมรับนะคะว่าฉันมองคุณเป็นคนเจ้าเล่ห์ แต่พอได้ยินคุณพูดเรื่องครอบครัวคุณเหมือนเป็นคนละคนกับที่ฉันเห็น แล้วทำไมจู่ๆ ถามถึงเรื่องนี้ล่ะคะ”
“เปล่าครับ แค่อยากรู้”
“ตอนนั้นฉันก็ไม่คิดเลยนะคะว่าจะได้แต่งงานกับคุณได้เร็วขนาดนั้น แถมยังรักคุณมากในเวลารวดเร็วด้วย”
“ผมทั้งหล่อล่ำ กร้าวใจขนาดนี้ คุณไม่รักไม่หลงผมสิแปลก”
“เยินยอตัวเองเป็นที่หนึ่งเลยนะคะสามีฉันเนี่ย เฮ้อ... ตอนนี้ฉันรู้สึกมีความหวังเรื่องลูกมากๆ เลยล่ะค่ะ”
“ทำไมเหรอ”
“ก็ริโอะบอกว่าหมอจีนที่นี่เก่งไงคะ”
“ผมขอให้ลูกมาหาเราเร็วๆ อย่างที่คุณหวังนะครับ”
“คุณเองก็ต้องขยันทำการบ้านด้วยนะคะ” พิริสายื่นใบหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูของเซรเกย์
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ” เขาละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยมากุมหัวคนเป็นภรรยาให้ซบอยู่ที่บ่า
หลังจากที่ได้พูดคุยกับหมอจีนอย่างละเอียด เขาก็มีความหวังว่าจะมีลูกในเร็ววันเช่นเดียวกับภรรยาของเขาเหมือนกัน เพราะหมอจีนยืนยันว่าตัวสมุนไพรที่จัดให้เป็นยาบำรุงเลือดลมที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องดื่มให้ตรงตามที่สั่งอย่างเคร่งครัด หากร่างกายของพิริสาตอบสนอมงต่อสมุนไพรดีก็อาจจะท้องภายในเวลาไม่ถึงสามเดือนก็เป็นไปได้
สองเดือนกว่าแล้วที่พิริสากินยาต้มขมๆ ทุกวัน แรกๆ ก็ขมจนกลืนแทบไม่ลงคอ แต่หลังๆ มาเธอก็เริ่มชินแล้ว ทว่าตอนนี้เธอก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะท้องเลย ยิ่งรอนานวันไปเท่าไหร่ สภาพจิตใจของเธอก็ยิ่งหดหู่ไร้ความหวังว่าจะมีลูกมากขึ้นเท่านั้น
และไอ้ความรู้สึกสิ้นหวังนี่แหละที่ทำให้เธอเครียด เช่นเดียวกับวันนี้ที่เธอใช้ที่ตรวจครรภ์อีกครั้งในรอบสองเดือน ทว่าเธอก็ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะไม่ได้ท้องเช่นที่ตั้งใจเอาไว้
“ฮือ ฮือ ฮือ...” สาวเจ้านั่งสะอึกสะอื้นมองที่ตรวจครรภ์อยู่ในห้องน้ำไม่ยอมออกไปไหนมาพักใหญ่จนเซรเกย์เห็นความผิดปกติเลยรีบเข้ามาหา
“ริสา” เปิดประตูห้องน้ำเห็นภรรยาตนนั่งสะอึกสะอื้นก็รีบโผเข้าไปกอด พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นที่ตรวจครรภ์ก็พอจะรู้แล้วว่าเธอเป็นอะไร
“ทำไมฉันไม่ท้องซะทีคะ ฮือ ฮือ ฮือ”
“คุณเพิ่งใช้สมุนไพรไปแค่สองเดือนเอง อย่าเพิ่งกังวลไปก่อนสิครับ ยิ่งคุณเครียดมันก็ยิ่งไม่ดีต่อร่างกายนะ” เขาอุ้มคนตัวเล็กที่กำลังสะอึกสะอื้นตัวโยนไปนอนที่เตียง พักนี้ดูท่าเธอจะเครียดหนัก เพราะอารมณ์ของเธอแปรปรวนจนเขาก็เริ่มตามไม่ทัน ทว่าก็ต้องเอ่ยปลอบใจตามสถานการณ์ไปก่อน
“ฉันพยายามไม่คาดหวัง แต่ก็ทำไม่ได้ ฮือ ฮือ ฮือ... ฉันไม่ได้อยากงี่เง่าในสายตาคุณเลยจริงๆ นะ” เธอก็ไม่ได้อยากเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวเช่นตอนนี้ แต่เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้จริงๆ
“ผมไม่ได้มองคุณงี่เง่า ผมเข้าใจทุกอย่าง เรามารอเจ้าตัวน้อยอีกสักเดือนนะ เราลองดื่มยาตามระยะเวลาที่หมอจีนบอกให้ครบก่อน หลังจากนั้นถ้าคุณยังไม่ท้องเราก็ไปปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบันเหมือนเดิมก็ได้”
“ค่ะ”
“ผมรักคุณนะ ผมไม่อยากเห็นคุณเครียด”
พิริสาพยักหน้าน้อยๆ อยู่กับแผงอกกว้าง เซรเกย์ยังคงกอดปลอบเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ทุกอย่างอยู่ในความเงียบร่วมครึ่งชั่วโมง จากนั้นพิริสาก็ผล็อยหลับคาอกของเซรเกย์ไป
ตอนนี้เซรเกย์ค่อนข้างเครียดไม่ได้ต่างไปจากพิริสา เพราะเขาก็เริ่มไม่ค่อยมั่นใจแล้วว่าสมุนไพรที่หมอจีนจัดมาให้จะได้ผลดี ทว่าก็ต้องรอดูผลกันอีกเป็นเดือน หากทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่ใจหวังจริงๆ เขาก็คงต้องบอกข่าวร้ายให้ภรรยาของเขาได้รับรู้
เย็นวันนี้ถือเป็นวันที่ทำให้เซรเกย์ค่อนข้างใจชื้นเมื่อหมอโอเว่นได้มาหาถึงที่บ้าน เขาจะได้ปรึกษากับหมอโอเว่นถึงเรื่องภาวะมีลูกยากของพิริสาอย่างละเอียดอีกรอบ
“จากที่ผมได้เอาสมุนไพรของหมอจีนไปตรวจ ถือว่าเป็นยาดีมากๆ เลยนะครับ ผมเองยังอดทึ่งกับยาโบราณไม่ได้เลย” โอเว่นทึ่งกับสรรพคุณยาจีน จนตอนนี้เขาก็เริ่มศึกษาแผนยาจีนอีกแขนงแล้ว
“ก็คงไม่สู้ฤทธิ์ของยาถอนพิษที่ทำให้ริสาแทบไม่เหลือโอกาสมีลูกได้หรอกครับ”
“แต่ผมว่า มันมีสารบางตัวที่ดีต่อเลือดลมของผู้หญิงมาก ไม่แน่สมุนไพรพวกนั้นอาจจะทำให้คุณริสาตั้งท้องได้จริงๆ นะครับ แล้วตอนนี้ผมก็สกัดยาที่จะช่วยคุณริสาอีกทางควบคู่ไปกับสมุนไพรแล้วด้วย” ที่เขามาถึงที่นี่ก็เพื่อที่จะคุยกับเซรเกย์ถึงสรรพคุณของยาจีน และอยากจะเอายาตัวใหม่ที่เพิ่งผลิตมาให้พิริสาได้ทดลองใช้ควบคู่ไปกับสมุนไพรจีนด้วย
“ขอบคุณมากเลยนะครับคุณหมอ ผมอยากทำทุกทางให้ริสาสมหวัง เพราะไม่อยากบอกเธอว่าที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะยาถอนพิษ”
“หมายความว่ายังไงคะ” พิริสาอดรนทนที่จะแอบฟังต่อไม่ได้ เขารู้มาตลอดว่าเธอจะมีลูกไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดจะยอมบอกกันอย่างนั้นเหรอ
“ริสา”“สรุปว่าพวกคุณรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันจะมีลูกไม่ได้หลังจากใช้ยาถอนพิษเหรอคะ”“ผมขอโทษริสา แต่ที่ผมไม่บอกเพราะกลัวว่าคุณจะไม่ยอมรักษาตัว ถ้าปล่อยให้พิษนั่นอยู่ในร่างกายนานๆ มันทำลายระบบประสาทหลายอย่าง”พิริสาไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นเซรเกย์เข้ามาใกล้ เธอก็รีบวิ่งหนี หากเขาบอกเธอถึงความจริงของผลข้างเคียง วันนั้นเธอก็อาจจะทำใจยอมรับเรื่องที่จะมีลูกไม่ได้ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอมีความหวังจนไม่อาจจะผิดหวังได้แล้ว ทำไมเรื่องมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย“ฮื่อ ฮือ ฮือ ฮือ...” เธอวิ่งไปไม่รู้จุดหมาย พร้อมน้ำตาพรั่งพรูและเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อหัวใจถูกบีบรัดมากเข้าเธอก็เริ่มหูอื้อตาลาย และหมดสติไป“ริสา” เซรเกย์วิ่งไปรับร่างของพิริสาได้ทันท่วงที จากนั้นก็รีบสาวเท้าพาเธอเข้าไปให้โอเว่นดูอาการพิริสายังนอนให้หมอตรวจโดยที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ทั้งยังไม่คิดที่มองหน้าทั้งหมอโอเว่นและสามีของเธอ เพราะยังโกรธเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมบอกเธอถึงผลข้างเคียงทุกอย่างของการใช้ยาถอนพิษ ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดหวังมากๆ ในตอนนี้“ผมว่าเรากำลังจะมีข่าวดีแล้วล่ะ” จากการที่โอเว่นได้เริ่มศึกษาแพทย์แผนจีน เขาก็พอจะจับชีพจ
กลิ่นชวานั่งลุ้นที่ตรวจครรภ์อยู่ในคอนโดของเธอในช่วงเช้าของวันใหม่ “สะ...สองขีด”เธอเอ่ยด้วยความตื่นเต้นดีใจที่ตอนนี้เธอก็ตั้งท้องตามใจหวังเสียที นับว่าคนที่เพื่อนเธอเลือกมาให้ก็น้ำยาดีอยู่เหมือนกัน นอนด้วยกันแค่ครั้งเดียวก็ผลิตลูกให้เธอได้เลยคราวนี้แม่เลี้ยงของเธอก็จะเอาตัวเธอไปประเคนให้ใครไม่ได้อีกแล้ว กลิ่นชวานั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขณะนึกถึงอนาคตในวันข้างหน้า เธอไม่เสียใจเลยที่ได้เป็นแม่คนในวัยที่อายุยังน้อย เพราะรู้ว่าเธอกำลังจะมีอีกคนที่รักเธออย่างไม่มีเงื่อนไขเกิดขึ้นมาเชื่อว่าลูกของเธอจะต้องน่ารักน่าชังมากแน่นอน ด้วยได้พ่อพันธุ์ชั้นดีมาช่วยผลิต จะว่าไปชายหนุ่มต่างชาติที่เธอนอนกับเขาในคืนนั้นก็กำยำหล่อเหลาและเร่าร้อนจนทำเธอใจเต้นแรงได้มากมายอยู่เหมือนกันทว่ามันก็คงจะเป็นแค่คืนนั้นคืนเดียวที่เธอจะได้เจอกับเขา เพราะพิริสาเพื่อนรักของเธอบอกว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนของเจ้านายที่นานๆ เขาจะบินมาที่ประเทศไทยสักหนึ่งครั้งและถึงแม้เขาบินมาอีกก็คงจะไม่ได้เจอกับเธอ เพราะนักธุรกิจชาวต่างชาติคนนั้นไม่ได้อยู่ในสังคมวงโคจรในชีวิตของคนอย่างเธออยู่แล้ว หลังจากนี้เธอก็จะเตรียมตัวเป็นแม่เลี้ยงเดี
‘ไม่ใช่ห้องนอนเรานี่’ เสียงในหัวดังขึ้นเมื่อดวงตากลมโตเปิดกว้างมองรอบตัวได้เต็มที่ คิ้วเรียวสวยเริ่มขมวดเมื่อจำเหตุการณ์สุดท้ายก่อนที่ภาพจะมืดสนิทลงไป “ลูกน้องอีตานั่น”“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงของคนที่พูดภาษาไทยไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นักทำให้กลิ่นชวาหลุดจากภวังค์ความคิด“คุณ!” เธอชันตัวถอยกรูดจนหลังไปแนบชิดติดกับหัวเตียงกว้าง ความมึนงงจากยาสลบหายไปปลิดทิ้งเมื่อเจอสายตาพิฆาตของชายหนุ่ม“คืนนั้นทำไมไม่ป้องกัน ทั้งที่บอกกับผมว่าจะป้องกันเอง” วาดิมยืนกอดอกโพล่งถามหญิงสาวที่นั่งหน้าฉงนบนเตียงถึงประเด็นที่ตนอยากรู้“อะไรของคุณ แล้วทำไมฉันมาอยู่ที่นี่” รู้ว่าอีกฝ่ายจะสื่อถึงอะไรแต่ก็ทำไขสือเพราะไม่อยากให้เขามายุ่งเกี่ยวอะไรกับลูกของเธอ ไหนเพื่อนเธอบอกว่าวาดิมไม่ค่อยมาที่ประเทศไทยบ่อยไง ผ่านไปไม่ถึงสองเดือนทำไมเขาโผล่หัวมาอยู่ตรงหน้าของเธอได้“ผมคิดว่าคุณน่าจะฉลาดพอจะรู้ว่าผมต้องการคำตอบอะไร”“คุณจะมายุ่งอะไรกับฉัน”“ผมต้องยุ่งเพราะคุณกำลังจะทำให้ตัวปัญหาใหญ่เกิดมา และผมก็ยอมให้มันเกิดไม่ได้” เขาเอ่ยเสียงแข็งอย่างหัวเสีย เขาจะไม่ยุ่งเรื่องนี้ไม่ได้ คนอย่างเขาไม่อยากมีครอบครัว หากอีกหนึ่งชีวิตที่เกิดมา
เดมาพาสองสาวหนีลงเรือและขับออกมาจากท่าร่วมสองชั่วโมงก็มาถึงเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งพวกเธอก็ไม่รู้ว่ามันมีชื่อว่าอะไร แต่รู้เพียงว่าน่าจะเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยปลอดภัยด้วยมองไปทางไหนก็เห็นแต่ป่า“ที่นี่ที่ไหนคะ” กลิ่นชวารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยอีกครั้ง ที่นี่มีแต่ป่ากับป่า จะหนีไปทางไหนก็มีแต่ทะเล“เกาะส่วนตัวคุณรามิลครับ”“แล้วเจ้านายฉันอยู่ที่ไหนคะ” พิริสารีบกวาดสายตามองซ้ายมองขวาหาเจ้านายหนุ่มของเธอ แม้เดมาจะช่วยชีวิตพวกเธอให้รอดพ้นจากอันตราย แต่ในเมื่อเขายังมีชื่อเป็นลูกน้องของมาเฟียอยู่ พวกเธอก็ยังไม่ค่อยเชื่อคำพูดของเดมาเท่าไหร่“ถ้าทางโน้นไม่มีเรื่องอะไรแล้วคงจะตามมา พวกคุณตามผมมาครับ”“จะไปไหน” กลิ่นชวามองเดมาด้วยสายตาไม่ค่อยไว้ใจ เดมาที่มองออกว่าสองสาวกำลังคิดอะไรก็รีบหันหลังเดินหนีสองสาวก่อนจะเปรยทิ้งท้าย“ไปบ้านพักไงครับ ถ้าอยากพักก็ตามมา ถ้ากลัวผมก็รออยู่ที่นี่นะครับ”สองสาวมองตามหลังฝรั่งร่างสูงใหญ่ก่อนจะกลับมามองหน้ากันอีกครั้ง สายตาของทั้งคู่ตอนนี้ต่างก็มีความกังวลคิดไม่ตกว่าจะเอาอย่างไร“ถ้าไปข้างในแล้วไม่มีบ้านพักล่ะ” พิริสาเริ่มกระซิบกระซาบ“จะตากแดดตากลมอยู่ตรงนี้เหรอ ถ้
“ก็...”“แก” พิริสารีบมองหน้ากลิ่นชวา ปรามไม่ให้เพื่อนเธอหลุดคำด่าทอวาดิมออกมาอีก เพราะอาจะทำให้เสียแผนที่วางเอาไว้“ไปกับผมได้แล้ว” ร่างสูงใหญ่ที่แขนเต็มไปด้วยเลือดเข้ามากระชากกลิ่นชวาจนตัวปลิว“จะพาฉันไปไหน ฉันยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะ”“ว่าน” พิริสาจะตามกลิ่นชวาไป แต่เธอก็ถูกรามิลรั้งเอาไว้ก่อน“คุณมาคุยกับผม”“ปล่อยฉันค่ะ”“เพื่อนคุณไม่ตายหรอก”“ปล่อย” เธอพยามสลัดมือจากเจ้านายหนุ่มหน้าหล่อ แต่ทำยังไงก็ไม่สามารถพ้นพันธนาการของเขาได้ แถมสายตาของเขาที่จ้องมองเธอตอนนี้ยังดูแข็งกร้าวเต็มไปด้วยความโกรธจนพิริสารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาทันที“คุณมิลคะ ริสาจะไปหาว่านค่ะ” สาวเจ้าที่ถูกเจ้านายลากเข้ามาในบ้านก็พยายามที่จะออกไปช่วยเพื่อนไม่ลดละ ทว่าก็ยังไม่สามารถแกะมือปลาหมึกของรามิลออกไปได้เสียที“อยากไปตายรึไง ที่คุณยังรอดอยู่จนถึงตอนนี้ก็เพราะผมขอร้องเพื่อนผมเอาไว้ ไม่อย่างงั้นเป็นศพไปแล้ว คิดได้ยังไงมอมยาเพื่อนผมเพื่อไปนอนกับเพื่อนคุณ”พอถูกตะตอกเข้าก็เริ่มหน้าเจื่อน “แล้วว่านจะเป็นอะไรไหม” ตอนนี้แม้จะห่วงเพื่อนมาก แต่ก็ไม่ได้อยากมาตายที่นี่แล้วก็ตายตอนนี้ ภาวนาให้กลิ่นชวาเอาตัวรอดให้ได้ก็แล้วก
“ก็ได้ แต่คุณต้องอยู่กับผมตลอดเวลาที่ยังไม่ได้เอาเด็กออก”“ประเทศไทยใช่ไหม” อ้อมแอ้มถามชายหนุ่มอีกรอบ“อืม” รับคำหญิงสาวขณะรูดซิบกระเป๋าหนังสีดำคว้าเสื้อเชิ้ตของเขาพร้อมกับผ้าขนหนูโยนให้กลิ่นชวา“เอาไปเปลี่ยนก่อนจะหนาวตาย”กลิ่นชวารวบเสื้อเชิ้ตกับผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามคำสั่งของมาเฟียหนุ่ม ทำมาเป็นว่าเธอจะหนาวตาย เขาสิจะเลือดออกหมดตัวตายก่อนล่ะไม่ว่า“พอจะปิดอะไรได้หน่อย” กลิ่นชวาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกออกแล้วสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ของวาดิม พร้อมกับเอาผ้าขนหนูพันตัวเอาไว้อีกรอบ ก็พอจะมั่นใจที่จะเดินออกไปเผชิญหน้ากับคนข้างนอกหน่อยเดินออกมาเธอก็เห็นวาดิมกำลังทำแผล ข้างตัวเต็มไปด้วยสำลีที่เปื้อนเลือด เธออยากจะเป็นลมเสียตอนนี้ให้ได้ แต่ก็ต้องทำใจสู้ทำคะแนนให้ชายหนุ่มได้เห็นความดีโดยการเดินไปนั่งข้างๆ แล้วช่วยเขาทำแผล“ไม่กลัวเลือดหรือไง”“ก็ กลัวบ้าง แต่เห็นท่าคุณทำแผลเองน่าจะไม่ถนัด ฉันก็เลยอยากช่วย ถ้าขึ้นฝั่งแล้วฉันว่าคุณน่าจะไปโรงพยาบาลดีกว่านะ”“ผมไม่อยากถูกซักประวัติ แผลแค่นี้ไม่ทำให้ผมตายง่ายๆ หรอก”กลิ่นชวากัดฟันข่มใจไม่ให้โต้ตอบอะไรกับอีกฝ่าย หากเขาอยากจะอวดว่า
“แล้วทำไมคุณซื้อชุดชั้นในให้ฉันเยอะแบบนี้ล่ะ”“ก็ผมไม่รู้นี่ว่าคุณใส่แบรนด์ไหน ผมก็เลยให้คนเลือกมาทุกแบบทุกแบรนด์ ชุดชั้นในต้องใส่สบายที่สุดไม่ใช่หรือไง แล้วผมก็ไม่ใช่คนที่คลั่งชุดชั้นในอย่างที่คุณว่า”“ได้ยินด้วยเหรอ”“ผมมีหู”“แล้วคุณเข้าห้องมาทำอะไร ไม่ไปทำงานของคุณแล้วเหรอ” ก่อนที่เขาจะไม่ชอบความปากไวของเธอก็ต้องรีบหาเรื่องอื่นเพื่อคุยกลบเกลื่อน“ผมปวดหัวจะมานอนพัก คุณห้ามรบกวน เข้าใจไหม”“แล้วจะให้ฉันไปอยู่ตรงไหน”“จะอยู่ในนี้ก็อย่ารบกวนผม หรือไม่ก็ไปนั่งเล่นข้างนอก”“คุณไปนอนเถอะ ฉันจะดูเสื้อผ้าอยู่ในนี้ รับรองว่าไม่กวนคุณแน่”วาดิมมองตาคนตัวเล็กครู่หนึ่งแล้วจึงหันหลังออกไปจากโซนแต่งตัว สายตาเจ้าเล่ห์เมื่อครู่ของเธอทำให้เขาไม่ค่อยรู้สึกไว้ใจสักเท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้ก็รู้สึกปวดหัวหนักจนไม่อยากจะระวังอะไรกับผู้หญิงตัวเล็กๆ เดาว่าเธอคงไม่กล้าคิดทำอะไรนอกเหนือคำสั่งของเขาขณะที่ตัวเองเสียเปรียบให้หลังวาดิมเธอก็ถือวิสาสะเดินไปดูที่โซนเสื้อผ้าของเขา เปิดผ้าม่านที่ขวางกั้นเสื้อผ้าได้ก็ขมวดคิ้วมุ่นอีกรอบ “เค้าไม่คิดจะมีความสดใสในชีวิตบ้างเลยรึไงกัน” เสื้อผ้าของเขาไม่ว่าจะเป็นชุดสูททำงานห
เธอเริ่มขมวดคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าของชายหนุ่มซีดเซียวริมฝีปากเริ่มเห่อแดงผิดปกติ ทั้งยังเริ่มสั่นสะท้านน้อยๆ ให้เธอได้เห็น ไม่ใช่ว่าตอนนี้ชายหนุ่มถูกพิษไข้เล่นงานเสียแล้วล่ะ คิดได้เช่นนั้นพลันมือก็ยื่นไปวัดอุณหภูมิที่หน้าผากชายหนุ่มอัตโนมัติ“ตัวร้อนจี๋เลย บอกแล้วให้ไปหาหมอก็ไม่เชื่อ”กลิ่นชวารีบออกไปหาอีวานให้พาเจ้านายของเขาไปหาหมอ เมื่อแจ้งความต้องการกับบอดี้การ์ดหนุ่มได้เธอก็ต้องขมวดคิ้วฉงนกับคำตอบที่บอดี้การ์ดหนุ่มตอบกลับมา“ทำไมพาไปหาหมอไม่ได้ล่ะคะ”“ตอนนี้อันตรายอยู่รอบตัวของนายครับนายหญิง ถ้าจะให้เจ้านายปลอดภัยที่สุดต้องให้หมอที่มาที่นี่”“ก็โทรเรียกมาสิคะ แถวนี้คลินิกเยอะแยะ”“ไม่ได้ครับ นายมาที่นี่อย่างไม่ได้เตรียมตัวเลยถูกคนร้ายตามเล่นงาน ตอนนี้เราจะพาคนนอกที่ไหนมาไม่ได้ เราไม่รู้ว่าตอนนี้คนร้ายที่รู้ว่านายอยู่ไทยมีกี่พวก หากพาหมอมาที่นี่จะไม่ใช่แค่พวกเราที่เป็นอันตราย แต่จรวมถึงหมอด้วยครับ ต้องรอให้คาเรฟกับเดมากลับมาที่นี่ก่อน ทุกอย่างถึงจะอยู่ในปลอดภัยครับ”“แล้วทำไมพวกคุณหาซื้อของมาให้ฉันได้ แต่พาหมอมาไม่ได้ล่ะคะ”“ของก็แค่โทรสั่งแล้วก็จ่ายเงิน แต่หมอเราต้องไปพาตัวของเค้ามาท
“ริสา”“สรุปว่าพวกคุณรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันจะมีลูกไม่ได้หลังจากใช้ยาถอนพิษเหรอคะ”“ผมขอโทษริสา แต่ที่ผมไม่บอกเพราะกลัวว่าคุณจะไม่ยอมรักษาตัว ถ้าปล่อยให้พิษนั่นอยู่ในร่างกายนานๆ มันทำลายระบบประสาทหลายอย่าง”พิริสาไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นเซรเกย์เข้ามาใกล้ เธอก็รีบวิ่งหนี หากเขาบอกเธอถึงความจริงของผลข้างเคียง วันนั้นเธอก็อาจจะทำใจยอมรับเรื่องที่จะมีลูกไม่ได้ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอมีความหวังจนไม่อาจจะผิดหวังได้แล้ว ทำไมเรื่องมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย“ฮื่อ ฮือ ฮือ ฮือ...” เธอวิ่งไปไม่รู้จุดหมาย พร้อมน้ำตาพรั่งพรูและเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อหัวใจถูกบีบรัดมากเข้าเธอก็เริ่มหูอื้อตาลาย และหมดสติไป“ริสา” เซรเกย์วิ่งไปรับร่างของพิริสาได้ทันท่วงที จากนั้นก็รีบสาวเท้าพาเธอเข้าไปให้โอเว่นดูอาการพิริสายังนอนให้หมอตรวจโดยที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ทั้งยังไม่คิดที่มองหน้าทั้งหมอโอเว่นและสามีของเธอ เพราะยังโกรธเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมบอกเธอถึงผลข้างเคียงทุกอย่างของการใช้ยาถอนพิษ ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดหวังมากๆ ในตอนนี้“ผมว่าเรากำลังจะมีข่าวดีแล้วล่ะ” จากการที่โอเว่นได้เริ่มศึกษาแพทย์แผนจีน เขาก็พอจะจับชีพจ
ตั้งแต่มาถึงร้านสมุนไพรได้ พิริสาก็ถูกหมอจีนตรวจชีพจรอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เคยเจอคนที่เลือดลมเดินทางแปลกๆ เช่นหญิงสาวมาก่อน“อืม...แปลกๆ” หมอสมุนไรวัยเกือบแปดสิบสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ก่อนจะปล่อยมือจากชีพจรของหญิงสาวและหยิบตำราใจใต้ลิ้นชักขึ้นมาดูเซรเกย์ที่เห็นว่าได้จังหวะเขาจึงเริ่มออกอุบายที่วางแผนเอาไว้ “ผมลืมเอามือถือมาจากในรถ ริสาไปเอาให้ผมหน่อยได้ไหม”“ได้สิคะ”ให้หลังพิริสาไปได้ เซรเกย์ก็ถือโอกาสพูดคุยรายละเอียดทุกอย่างกับหมอจีน หวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งให้กับคนที่ลูกยากได้จริงๆ อย่างที่ริโอะได้พูดเอาไว้ทางด้านพิริสาเธอก็เอาแต่หาโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เจอมันก็ตกอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งของเขา กว่าจะกลับเข้าไปในร้านยาได้ เธอก็เห็นหมอจีนเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว“หมอจัดยาให้เรียบร้อยแล้วนะริสา”“เหรอคะ ไวดีจังเลย”“คุณต้องดื่มยาต้มนี่ทุกวัน วันละสามเวลาเป็นเวลาสามเดือน”“แค่นี้จะพอเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเริ่มเพ่งมองไปยังห่อสมุนไพรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สามห่อ“แล้วผมจะส่งสมุนไพรตามไปให้ทุกครึ่งเดือน ระหว่างนี้ก็งดอาหารหมักดอง แล้วก็ต้องทานอาหารที่ทำสดใหม่เ
“ริโอะ”ขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ เสียงที่แสนคุ้นหูก็ดังแว่วมาแต่ไกลทำให้ริโอะรีบหันไปยังต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว “อ้าวคุณริสา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ”“มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ ริโอะทำขาหมูไว้ให้คุณริสาด้วยนะคะ”“คุณเรนบอกแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้าไปในบ้าน อยากคุยกับริโอะก่อน”“มีอะไรเหรอคะ”“ริโอะกำลังงอนคุณเรนอยู่ใช่ไหม”สีหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มเริ่มเจื่อนลง ไม่ผิดหรอกที่เรนเข้าใจเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาสร้างข้อจำกัดให้เธอจนเธอรู้สึกอึดอัด“ฉันรู้ว่าที่คุณเรนห้ามริโอะทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง แล้วฉันก็รู้ว่าริโอะรู้ตัวว่าริโอะทำทุกอย่างได้ ฉันก็เลยบอกให้คุณเรนกับริโอะแก้ปัญหากันคนละครึ่งทาง”“ยังไงเหรอคะ” แววตาของริโอะในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย การแก้ปัญหาคนละครึ่งทางหมายความว่ายังไง“ลองคุยกับคุณเรนอีกรอบสิ” พิริสาหันหน้าไปมองเรนที่กำลังยืนดูเธอและริโอะอยู่ห่างๆ“ฉันขอตัวไปรอในบ้านนะ”หลังจากพิริสาลุกออกไป เรนก็เข้ามานั่งแทนที่ของเธอ เพราะเรนต้องการที่จะคุยกับริโอะตามที่พิริสาและเซรเกย์แนะนำ
“อื้อ...” ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ เสียงครางของความเจ็บจุกถูกดูดเข้าไปในลำคอสามี หลังจากนั้นเธอก็หัวสั่นหัวครอนไปกับแรงกระกระทั้นจากการมอบบทสวาทของสามีตัวโตเซรเกย์บดสะโพกส่งเจ้าแท่งร้อนมโหฬารเข้าออกร่องสวาทถี่รัวไม่มีผ่อนอยู่นานสองนาน เสียงครางของคนทั้งสองที่กำลังแลกลิ้นถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของกันและกัน เมื่อร่องสวาทดูดกลืนแท่งร้อนมโหฬารหนักเข้าก็เริ่มตอดรัดรุนแรงเพราะใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง“อื้อ.. อื้อ...” และแล้วพิริสาก็บิดเกร็งแอ่นเร่าตาปรือเยิ้ม มือไม้จิกอยู่ที่ลำแขนแกร่งของคนเป็นสามีจนแทบจะฝังเนื้อเซรเกย์เสียบเจ้าแท่งร้อนคาร่องสวาทเอาไว้ไม่ขยับ เพราะต้องการปล่อยให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันเขาก็ยังบดจูบด้วยลีลาเร่าร้อนเพื่อเล้าโลมคนตัวเล็กให้พร้อมรับกับลีลาสวาทของเขาอีกรอบเมื่อจับจังหวะการหายใจของภรรยาตัวเล็กว่าเป็นปกติเขาก็เริ่มสาวแท่งร้อนดึงออกจนสุดกดเข้าจนมิดไปกับร่องสวาทที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักอีกรอบให้เร็วและแรงกว่าเดิม จนเกิดเป็นเสียงเนื้อที่กำลังเปียกแฉะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วห้อง“เซรเกย์ อื้อ...” พิริสาหัวสั่นหัวครอน ความเสียวซ่านพุ่งเข้ามาในร่างกายจนเริ่มจะแตะข
“อ๋อ ฉันว่าหาของบำรุงสักพักแกก็คงจะกลับมาแข็งแรงเองนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าแกเพิ่งผ่านการรักษาตัวมานะ เดี๋ยวอีกสักพักลองไปตรวจร่างกายใหม่ก็ได้”“เซรเกย์ก็บอกฉันแบบนั้น”“จุนน้า...”“ยัยหนู” เห็นหลานสาวตัวกลมวัยเกือบสองขวบก็รีบเข้าไปรวบอุ้มมานั่งที่ตัก ก่อนจะหอมไปที่พวงแก้มย้วยๆ อีกฟอดใหญ่“คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย” พิริสากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกสาวของกลิ่นชวากันจนหายคิดถึง ยิ่งเห็นหลานก็อยากจะมีลูกใจจะขาด ทว่าก็ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่าร่างกายของเธอจะสามารถมีลูกได้เมื่อไหร่ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกเห็นพิริสากำลังเล่นอยู่กับเจ้าตัวกลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกถึงความเป็นกังวล โดยเฉพาะเซรเกย์“ดูท่าริสาคงอยากจะมีลูกมากๆ ฉันรู้ว่าริสานิสัยเหมือนว่าน ทางที่ดีนายควรรีบบอกเรื่องที่เธอควรรู้จะดีกว่า” วาดิมเสนอความเห็นหลังจากรับรู้ความจริงว่าเพราะอะไรกันแน่พิริสาถึงยังมีลูกไม่ได้“ฉันยังไม่พร้อมเห็นริสาผิดหวัง เอาเป็นว่าหลังจากการตรวจร่างกายครั้งหน้าไม่ดีขึ้นก็ค่อยบอกเธอตอนนั้น”“อืม ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”เซรเกย์ยืนถอนหายใ
“แล้วริสาจะไปเที่ยวหานะคะคุณพ่อคุณแม่” พิริสาเข้าไปกอดพ่อกับแม่ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางกลับอิตาลีหลังจากที่เบาใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของเธอแล้ว“ยายจ๋า รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วริสาจะพาเจ้าตัวเล็กไปวิ่งเล่นด้วย” เธอผละออกมาจากดันเต้และรสสุคนเข้ามากอดสอางค์“เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วยายจะส่งสมุนไพรบำรุงร่างกายมาให้นะ”“ขอบคุณค่ะ” ฟอด ฟอด สาวเจ้าหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นยายฟอดใหญ่ๆ เป็นประจำทุกครั้งที่ต้องจากกัน ไม่ว่าเธอจะโตมากแค่ไหนเธอก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กกับยายของเธอเสมอ เพราะรู้ว่ายายนั้นชอบเห็นความสดใสของเธอ และเธอเองก็ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของคนเป็นยายรวมไปถึงพ่อกับแม่ไปนานๆ“แล้วก็ดูแลลูกฉันให้ดีล่ะ ถ้ามีเรื่องให้ลูกฉันเจ็บตัวอีก ฉันพาลูกฉันกลับไปดูแลเองจริงๆ ด้วย” ดันเต้หันมาส่งเสียงดุให้เซรเกย์ส่งท้ายก่อนกลับ เชื่อว่าเซรเกย์จะดูแลลูกสาวของเขาได้ดี ทว่าก็อดที่จะกำชับอีกครั้งตามประสาพ่อที่หวงและห่วงลูกไม่ได้สิ้นเสียงแข็งของคนเป็นพ่อ พิริสาก็รีบเข้าไปกอดเอวเซรเกย์เอาไว้แน่น “ไม่นะคะคุณพ่อ ริสารักเซรเกย์ม๊ากมาก ไม่ยอมไปไหนหรอกค่ะ”รสสุคนและสอางค์ต่างก็ส่ายหน้าให้กับคำพูดของดันเต้ ทว่าก็อม
“คิดอะไรอยู่” เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ก็เข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนกอดอกเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยอาการเหม่อลอยพิริสารีบผลักคนที่เปลือยท่อนบนโชว์แผงกล้ามออกจากตัว “ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ” มองกล้ามเนื้อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีครู่เดียวก็ต้องหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าร้อนผ่าวเพราะไม่ชินกับการมองผู้ชายถอดเสื้อ“คุณเขินเหรอ” ริมฝีปากหนาอมยิ้มกรุ่มกริ่ม“ใครจะไม่เขินล่ะ”“หันมาดูให้เต็มตาสิ มันเป็นของคุณนะ คุณจะเขินทำไม” เขาดึงมือเธอมาลูบบนเนินอกที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ“ของฉันเหรอ” แม้จะเคอะๆ เขินๆ แต่แผงกล่ามของเขามันก็น่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย เลยถือวิสาสะลูบๆ คลำๆ อยู่เช่นนั้นจนรับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีไขมันแม้แต่นิดเดียว“ใช่ ก็ผมเป็นของคุณ เป็นสามีคุณ จะดูตรงอื่นด้วยไหม”“ไม่ต้องค่ะ” รีบถอยห่างพร้อมยกมือทั้งสองข้างปิดตา เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอมองว่าเขาเจ้าเล่ห์จะพูดจริงหรือพูดเล่น ทว่าเธอก็ไม่เสี่ยงเปิดตาเอาไว้ แค่เห็นแผงกล้ามของเขาเธอก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว หากเห็นอย่างอื่นคงได้วิ่งออกไปข้างนอกแน่“เวลาคุณเขิน น่ารักมากเลยรู้ไหม”“แกล้งฉันใช่ไหมคะ” มือทั้งสองค่อ
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท