“มาหาถึงที่นี่คงมีเรื่องสำคัญใช่ไหม” หมอสาวมองหญิงสาวหน้าตาน่ารักน่าชัง ลูกครึ่งไทยรัสเซียที่กำลังนั่งฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่นัก แม้คนตรงข้ามจะเป็นน้องสาวของเซรเกย์ก็เถอะ
“ค่ะ สำคัญมาก มนต์รู้ว่าคุณริสาทะเลาะกับพี่เซรเกย์ก็เพราะคุณ” มนต์ธาราทิ้งตังลงนั่งได้ก็โพล่งถึงเรื่องที่เธอต้องการคุยกับมิล่าทันที เรื่องวุ่นวายในครอบครัวพี่ชายของเธอตอนนี้มันเป็นเพราะเซรเกย์จำเรื่องราวในตอนที่รู้จักกับพิริสาไม่ได้ก็จริง แต่มันจะไม่เลวร้ายไปกว่านั้นหากมิล่าไม่คิดที่จะแย่งเซรเกย์ไปจากพิริสา แม้ปากจะบอกว่าไม่ได้คิดจะทำ แต่การกระทำมีหรือผู้หญิงด้วยกันอย่างเธอจะดูไม่ออก
“เพราะความงี่เง่าของพี่สะใภ้เธอต่างหาก” หมอสาวยกยิ้มมุมปากเย้ยหยัน
“คิดว่ามนต์ไม่รู้จักนิสัยพี่สะใภ้ของมนต์ แล้วก็นิสัยของคุณเหรอคะ อะไรที่คุณตั้งใจจะทำขอให้หยุดซะ ถึงพี่ชายของมนต์จะรู้สึกรักคุณ แต่เขาก็ไม่คิดจะกลับไปสนใจผู้หญิงที่ทิ้งเขาไปหรอกค่ะ อีกอย่างพี่เซรเกย์ก็ไม่คิดที่จะทิ้งคนที่แต่งงานด้วยถึงแม้จะจำไม่ได้ก็ตาม”
“ไม่ต้องมาบอก ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน กลัวว่าพี่ชายเธอจะถูกแย่งจากพี่สะใภ้เหมือนที่เธอเคยแย่งรามิลไปจากมารีน่าน่ะเหรอ”
มนต์ธาราหน้าชาวาบเมื่อถูกตอกกลับถึงปมในหัวใจ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแย่งแฟนของใคร แต่ตอนนั้นเธอไม่รู้จริงๆ ว่ามารีน่าน้องสาวของมิล่าคบหากับรามิล แล้วที่เธอต้องหมั้นกับรามิลก็เพราะความเข้าใจผิดของผู้ใหญ่ ทว่าก็ยอมรับว่าลึกๆ เธอก็แอบชอบรามิลมากเหมือนกัน
“ฉันจะทำอะไรเธอก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของเซรเกย์ ไม่ใช่เธอ ถ้าหมดธุระก็กลับไปได้แล้ว” น้ำเสียงกระแทกกระทั้นแสดงออกถึงความไม่พอใจเอ่ยไล่ส่งแขกที่เพิ่งเข้ามาให้ออกไปอย่างไม่คิดเกรงใจ
มนต์ธาราลุกขึ้นจากเก้าอี้เงียบๆ ไม่ได้คิดจะโต้ตอบอะไรมิล่า คำพูดคำจาของหมอสาวมันบ่งบอกแล้วว่าเธอต้องการที่จะเปิดศึกแย่งเซรเกย์จากพิริสาไปจริงๆ
มนต์ธารา เซียร์คอฟ หญิงสาวตัวเล็กวัยยี่สิบห้าย่างยี่สิบหก ลูกครึ่งไทยรัสเซียหน้าตาน่ารักน่าชัง เธอมีพ่อคนเดียวกันกับเซรเกย์ ตั้งแต่จำความได้เธอก็รู้ว่าแม่บุญธรรมชื่อซารีน่า มีพี่ชายชื่อเซรเกย์ ส่วนพ่อก็นานๆ จะเห็นหน้าสักครั้ง
ส่วนแม่แท้ๆ นั้นไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้ารู้เพียงแค่ว่า แม่ของเธอชื่อมัทนาเท่านั้น และชื่อของเธอก็ถูกแม่แท้ๆ ตั้งให้ก่อนที่พ่อของเธอจะพาเธอมาให้แม่ของเซรเกย์เลี้ยง
เธอถูกแม่บุญธรรมและพี่ชายเลี้ยงมาอย่างทะนุถนอม ไม่ได้รู้สึกขาดอะไรทั้งนั้น หนำซ้ำยังรู้สึกว่าตัวเองยังโชคดีที่แม่บุญธรรมไม่คิดรังเกียจหรืออคติกับเธอเพราะเป็นลูกของภรรยาอีกคนของพ่อ แต่กลับถูกเลี้ยงดูและให้ความรักเหมือนลูกแท้ๆ
ชีวิตของเธอมีความสุขมาเป็นอย่างดี จนกระทั่งถึงวันเกิดในวัยสามสิบปีของเซรเกย์ คืนนั้นเธอจำได้ว่าเธอดื่มหนักและสนุกกับปาร์ตี้เต็มที่ ตื่นมาอีกทีก็รู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงเดียวกับรามิลเพื่อนรักของพี่ชาย
แต่เธอและเขาต่างก็จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะมานอนด้วยกันในห้องนี้ เมื่อแม่ของเธอและแม่ของรามิลมาเห็นว่าเธอนอนอยู่ห้องเดียวกันกับชายหนุ่ม งานหมั้นของเธอและรามิลก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตอนนั้นเธอยอมรับว่ารู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ ที่ได้หมั้นกับรามิล ชายหนุ่มลูกครึ่งไทยรัสเซียเหมือนกับเธอ และเป็นนักธุรกิจที่ทั้งหล่อเหลาและเป็นที่จับตามองของสาวๆ คิดว่าการหมั้นอาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่เธอและเขาจะได้ศึกษากัน
ทว่าเรื่องราวมันก็ไม่ได้สวยหรู ราบรื่นอย่างที่เธอคิด เพราะเธอเพิ่งมารู้หลังจากงานหมั้นว่ารามิลคบกับมารีน่า น้องสาวของมิล่า ตอนนั้นเธอถูกมารีน่าตามด่าทอต่อว่า หาว่าเธอหน้าด้านแย่งคนรักของคนอื่นจนเธอไม่กล้าออกไปพบเจอใคร
เธอคุยกับรามิลว่าจะคุยกับผู้ใหญ่เรื่องการขอถอนหมั้น ทว่ารามิลก็ไม่ยอม เธอเองก็ไม่รู้ว่าเหตุผลของเขาคืออะไร หลังจากนั้นไม่นานนักเธอก็รู้ว่ารามิลและมารีน่าเลิกกัน ยิ่งเธอเห็นรามิลเสียใจเธอก็ยิ่งเสียใจยิ่งกว่า เพราะเป็นต้นเหตุทำให้เขาเลิกกับคนรัก
เธอเลยไม่ได้คิดที่จะสานสัมพันธ์กับเขา และคุยเรื่องการยกเลิกการหมั้นกับเขาตลอด สุดท้ายก็ได้คำตอบกลับมาเพียงแค่ว่าเขาไม่อยากให้ผู้ใหญ่ไม่สบายใจ จนตอนนี้เธอเองก็ทำได้แค่รอให้รามิลมีคนรักใหม่เท่านั้น วันนั้นเธอถึงจะขอถอนหมั้นจากเขาได้ ถึงแม้ว่าหัวใจจะเจ็บไปหน่อยก็เถอะ
เซรเกย์พาพิริสากลับมาถึงรัสเซียช่วงเย็น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังพักผ่อนเขาก็ถือโอกาสนี้มานั่งคุยกับมนต์ธารา
“คุณแม่ยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นใช่ไหม” เอ่ยถามน้องสาวด้วยท่าทางร้อนใจ ไม่รู้ว่ามนต์ธาราได้บอกกับแม่ไปหรือยังเรื่องพ่อของเขามีอีกครอบครัวอยู่ที่ญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นคนที่ทำร้ายเขาปางตาย และจับตัวพิริสาไปด้วย เขาไม่อยากให้แม่ต้องไม่สบายใจขณะถือศีลกับเพื่อนอยู่ที่ทิเบต
“ไม่ได้บอกค่ะ แต่ว่ามนต์กับคุณแม่รู้มานานแล้วว่าคุณพ่อมีครอบครัวที่ญี่ปุ่น”
“เหรอ ทำไมไม่คิดจะบอกกันบ้าง” คิ้วเข้มขมวดมุ่น
“คุณแม่ไม่อยากให้พี่เซรเกย์ต้องผิดหวังกับคุณพ่ออีก แล้วเค้าจะไม่มายุ่งกับพี่เซรเกย์อีกใช่ไหมคะ”
“อืม สัญญากันแบบลูกผู้ชายแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันถ้าไม่จำเป็น”
“ค่อยโล่งอกค่ะ”
“ไม่อยากไปเจอพี่ชายอีกคนเหรอ”
“แอบโกรธที่เค้าทำร้ายพี่ชายของมนต์เกือบตายเหมือนกัน แต่อนาคตก็ไม่รู้ว่าจะอยากเจอรึเปล่า”
“ช่างเถอะ แล้วเรื่องเรากับรามิล เมื่อไหร่จะได้ฤกษ์แต่ง จะรอไปจนถึงเมื่อไหร่”
“ก็... มนต์ยังอยากเที่ยวเล่นอยู่เลยค่ะ”
“รามิลไม่เคยทักท้วงเราเรื่องแต่งงานเลยเหรอ”
“พี่มิลตามใจมนต์ค่ะ”
“แต่พี่ว่า...”
“มนต์ว่าจะไปอบขนมเอาไว้ทานค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ตัดบทสนทนากับคนเป็นพี่ได้ก็รีบสาวเท้าออกจากห้องทำงานของเซรเกย์ทันที
เธอไม่อยากจะต้องมานั่งพูดเรื่องแต่งงาน ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่ารามิลพร้อมจะแต่งงานกับเธอ ทว่าเธอก็รู้ว่าเขาไม่เคยมองเธอเกินเลยคำว่าน้องสาว
เซรเกย์รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของน้องสาวตัวเองและรามิลมันมีอะไรแปลกๆ จำได้ว่าหลังจากงานหมั้นของรามิลและมนต์ธารา มารีน่านางแบบสาวสวยชื่อดังน้องสาวของมิล่าก็มาอาละวาดที่บ้านของเขาว่ามนต์ธาราแย่งคนรักของตัวเอง แต่สุดท้ายเรื่องมันก็จบลงด้วยการที่รามิลเลือกที่จะบอกเลิกมารีน่าและยืนยันหนักแน่นว่าตัวเองเลือกมนต์ธารา
เรื่องปัญหาหัวใจของน้องสาวและเพื่อนรักเขาเองก็ไม่ได้อยากไปยุ่งมากมายนัก แต่เห็นว่าการหมั้นหมายของทั้งสองก็ผ่านมาหลายปีแล้วยังไม่มีงานแต่งเสียที กลัวว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีคนอื่นไปเสียก่อน หรือไม่ก็เป็นที่น้องสาวของเขาเองที่ไม่ได้รักรามิลแล้ว ถึงได้เอาแต่ท่องเที่ยวและทำงานโดยที่ไม่สนใจจะสร้างครอบครัว
เซรเกย์ไม่อยากเก็บความสงสัยเอาไว้ในหัว เขาพอจะทราบว่าก่อนที่พิริสาจะรู้ตัวว่าเป็นลูกสาวของดันเต้ มาเฟียอิตาลีที่อยู่ในตำแหน่งพ่อตาของเขาตอนนี้ เธอเคยทำงานเป็นเลขาของรามิลมาก่อน คิดว่าคงจะรู้เรื่องของรามิลมากกว่าเขาที่เป็นเพื่อน แต่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก“ผมคุยอะไรด้วยได้หรือเปล่า” เซรเกย์เอ่ยถามคนเป็นภรรยาขณะที่เธอจะล้มตัวนอนข้างๆ เขา“พูดมาสิคะ”“รามิลเคยเป็นเจ้านายคุณใช่ไหม”“ใช่ค่ะ”“เค้ามีผู้หญิงคนอื่นมาเกาะแกะรึเปล่า”“ไม่นะคะ คุณมิลไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงค่ะ ถามทำไมคะ” รามิลไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาเกาะแกะอะไรทั้งนั้นตลอดสองปีที่เธอทำงานกับเขา จนเธอเองยังคิดว่าเขาโสดจนแอบชอบ เรื่องนี้เซรเกย์ก็รับรู้ เพียงแค่ตอนนี้เขาจำเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เท่านั้น แล้วเธอก็ไม่คิดจะลงรายละเอียดเรื่องนี้ให้เขาฟังด้วย“รามิลกับน้องผมหมั้นกันมานานแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้จัดงานแต่งซะที มนต์บอกว่ายังอยากเที่ยว แต่ผมกลัวว่ามันจะมีอะไรมากกว่านั้น”“คุณคิดมากไปรึเปล่าคะ สองคนนั้นเค้าก็ดูรักกันดี การแต่งงานมันอาจจะไม่ใช่จุดหมายของเค้าสองคนก็ได้ อย่าบอกนะคะว่าคุณไปเค้นให้คุณมนต์ต้องแต่งงาน” เธอไม่เ
วันทั้งวันพิริสาไม่ยอมออกจากห้อง เธอเอาแต่เก็บตัวเพราะน้อยใจคนเป็นสามี จวบจนเข้าเวลาเย็นเธอทนความอึดอัดไม่ไหวจึงรีบโทรหากลิ่นชวาเพื่อนรักเพื่อระบาย และถือโอกาสนี้บอกกับเพื่อนว่าจะไปขออยู่ด้วยสักพักกลิ่นชวาได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็รีบหยุดความคิดของเพื่อนที่กำลังจะเดินทางไปหาตัวเอง(แกควรจะไปงานกับเค้า ยิ่งปล่อยให้เค้าไปคนเดียวก็ยิ่งเปิดโอกาสให้ยัยมิล่าได้ใกล้กับเซรเกย์)“จริงด้วย ฉันโกรธเค้าจนลืมคิดไปเลย” เริ่มขมวดคิ้วมุ่นครุ่นคิด งานในคืนนี้เป็นงานวันเกิดของผู้ใหญ่ในองค์กรสามีของเธอ เท่ากับว่ามิล่าก็ต้องไปด้วยแน่ๆ เธอเองก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิท(ไปแต่งตัวให้สวยแล้วไปที่งานเดี๋ยวนี้เลย แล้วก็อย่าลืมหาวิธีเก็บหลักฐานจับยัยจอมมารยาให้ได้มากที่สุด เข้าใจใช่ไหม)“โอเค ขอบคุณที่เตือนนะว่าน”วางสายจากเพื่อนรักได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัว เธอเปิดทุกตู้ดูชุดราตรีที่มี แล้วสายตาก็ไปสะดุดอยู่กับชุดราตรีสีแดงเลือดนก เธอจำได้ว่าชุดนี้เธอไม่เคยใส่ไปที่ไหนเพราะไม่มั่นใจด้วยตัวชุดเป็นเดรสสายเดี่ยวผ้าซาตินแนบเนื้อแหวกอกเซ็กซี่ขยี้อารมณ์ แม้จะเป็นกระโปรงยาวแต่ก็แหวกไปจนเกือบเห็นอะไรต่อมิอะไรของเ
ทางด้านมนต์ธาราเลือกที่จะไม่เดินไปหารามิล เพราะในขณะที่กำลังจะเดินไปถึงคู่หมั้นของเธอ มารีน่าก็เดินเข้าไปนั่งคุยกับรามิลเสียก่อน ยิ่งตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามารีน่าได้เลิกรากับสามี เธอจึงอยากเปิดโอกาสให้รามิลได้ลองสานสัมพันธ์กับมารีน่าอีกครั้ง เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่เธอจะได้ถอนหมั้น อีกอย่างก็จะได้ล้มล้างความผิดที่เธอทำให้ทั้งสองต้องเลิกกันด้วยมนต์ธาราหยิบแก้วเครื่องดื่มที่เหล่าบอดี้การ์ดเดินเสริฟวนอยู่ตลอดงานมานั่งดื่มอยู่ในมุมที่ไม่ค่อยมีผู้คนเงียบๆ เธอไม่มีอารมณ์จะพูดคุยทักทายกับใครเมื่อนั่งดื่มไปได้สักพักเธอก็เริ่มคิดย้อนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ยังไม่เข้าใจจนถึงทุกวันนี้ว่าทำไมรามิลถึงไม่ยอมให้เธอยกเลิกการหมั้น เอาแต่พูดว่าไม่อยากให้ผู้ใหญ่ไม่สบายใจ ทั้งที่เขาก็ไม่ได้คิดเกินเลยกับเธอไปมากกว่าพี่น้อง แถมตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็ไม่ยอมมีใครใหม่ จะว่าไปหากเดาไม่ผิดเขาก็คงยังไม่ลืมมารีน่า คงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ นั่นแหละ“มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คุณมนต์”คนถูกสะกิดสะดุ้งเฮือกหลุดจากภวังค์ความคิด เริ่มขมวดคิ้วสงสัยเมื่อเห็นว่าเป็นพี่สะใภ้ของเธอเดินเข้ามาหาคนเดียว ทั้งที่ตอนนี่พิริสาควรจะอยู่กับพี
“นี่ทำอะไรของเธอ” พิริสาพยายามสลัดมิล่าที่กำลังเข้ามายกแขนของเธอให้ไปฟาดที่ใบหน้าของตัวเองเพื่อเล่นบทเหยื่อ“ทำให้เธอรู้ไงว่าเซรเกย์เค้าจะเลือกเชื่อเธอหรือเชื่อฉัน”ยัยนี่ดูละครมากไปชัดๆ เกิดมาไม่คิดเลยว่าจะมีใครใช้วิธีนี้กับเธอ ทว่าเมื่อได้โอกาสแล้วเธอก็ไม่คิดจะปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดมือไป เล็บทั้งสิบนิ้วที่ทำมาอย่างสวยงามก็ขยุ้มใบหน้าคนที่อยากจะแย่งสามีของเธอไปทั้งสิบเล็บ“อีบ้า”“มึงสิบ้า” พูดจบคำก็เปลี่ยนจากการขยุ้มใบหน้าหมอสาวแล้วเลื่อนไปจิกหัวมิล่า พิริสาดึงทึ้งหัวของมิล่าจนยุ่งเหยิงสาแก่ใจแล้วก็ยกเท้าถีบหมอสาวจนลงไปกองกับพื้นเสียงเอะอะโวยวายในมุมมืดทำให้เหล่าบอดี้การ์ดรีบวิ่งเข้ามาหาสองสาวแล้วจับพวกเธอแยกออกจากกัน ทว่ากว่ามิล่าจะถูกจับแยกจากพิริสาได้ หมอสาวก็อ่วมไปด้วยฝีมือของพิริสาพอสมควร“ฉันว่าเมียนายเริ่มจะเกินไปแล้วนะ” ราเดนเอ่ยกับเซรเกย์ด้วยสีหน้าท่าทางไม่สบอารมณ์ เพราะตอนนี้น่องสาวของเขาใบหน้าเละเทะไปด้วยรอยเล็บตอนนี้ทุกคนต่างก็มารวมตัวกันที่โถงใหญ่ของคฤหาสน์ เพราะเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นกับภรรยาของหัวหน้ามาเฟีย เรื่องราวของมิล่าและพิริสาจึงเป็นที่น่าสนใจเป็นพิเศษ“ฉันก็ท
“มนต์ไม่รู้ว่าทำไมพี่มิลถึงกลัวผู้ใหญ่ต้องผิดหวังเรื่องของเรา ทั้งที่เราไม่ได้รักกันแต่เราก็ต้องหมั้นกัน แถมพี่มิลก็ไม่ให้มนต์พูดกับผู้ใหญ่เรื่องการถอนหมั้น ตอนนี้ยังมาพูดเรื่องแต่งงานอีก คนไม่รักกันจะใช้ชีวิตครอบครัวกันอย่างมีความสุขได้เหรอคะ ตอนนี้คุณมารีน่าเธอก็โสดแล้ว ทำไมพี่มิลไม่ลองสานสัมพันธ์กับเธอล่ะคะ”“ที่พูดมาทั้งหมดก็เพราะอยากให้พี่ออกไปจากชีวิตของมนต์ใช่ไหม”มนต์ธารานั่งเงียบไม่คิดที่จะหันไปมองรามิล เพราะหัวใจของเธอมันให้คำตอบที่ตรงกันข้ามกับคำถามของเขา ทว่าก็ไม่อยากที่จะพูดออกไป“โอเค พี่เข้าใจแล้ว”สิ้นเสียงทุ้มต่ำ รถสปอร์ตราคาแพงก็เริ่มแล่นไปตามถนนอีกครั้ง ไม่นานนักรามิลก็ขับรถมาส่งมนต์ธาราถึงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของเธอ โดยที่ต่างคนต่างก็ไม่คิดที่จะพูดอะไรกันต่อมนต์ธาราน้ำตาไหลลงอาบแก้มขณะมองตามหลังรถสปอร์ตราคาแพงแล่นออกไป ตอนนี้เธอไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ไม่เข้าใจว่าทำไมรามิลถึงกลัวว่าผู้ใหญ่จะไม่สบายใจหากเธอและเขาต้องถอนหมั้นกัน ไม่รู้หรือยังไงว่าการที่ต้องอยู่ใกล้คนที่ตัวเองรัก แล้วรู้ว่าเขาคนนั้นไม่ได้รักตัวเองมันทรมานหัวใจแค่ไหนมนต์ธาราเดินปาดน้ำตาจนมาถึงหน้าห้องนอน
“ทำไมคะ?” เลิกคิ้วมองคนที่กำลังวางเธอลงบนเตียงด้วยแววตาฉงน เขากำลังจะทำอะไรกับเธอกันแน่ อยากจะเอาใจเพื่อไถ่โทษที่ต่อว่าเธอวันนี้ หรืออยากจะเอาอย่างอื่น...“คุณทำใจผมเต้นแรงหลายรอบเลยนะวันนี้” เซรเกย์ค่อยๆ สอดตัวใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับพิริสา ดวงตาคู่หวานยังจับจ้องไปยังคนตัวเล็กหยาดเยิ้มแทบจะกลืนกิน“อ๋อ...ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ที่เขาเป็นแบบนี้คงเป็นเพราะชุดราตรีสีแดงเลือดนกสินะ“ผมอยากจูบคุณจังเลย” เขาใช้มือซ้ายชันหัวเอาไว้ก่อนจะใช้มือขวาประคองใบหน้าเรียวเล็กอย่างถนอม ก่อนจะไล่สายตาไปบรรจบอยู่ที่ริมฝีปากบางอมชมพูคู่สวย“ฉันก็เหมือนกันค่ะ อยากจะทำอะไร อะไร ที่เคยทำเหมือนกัน”เมื่อได้ยินคำตอบจากภรรยาตัวเล็กที่ท่าจะเข้าทางของตัวเองก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงโน้มใบหน้าหมายจะเข้าไปประกบจูบภรรยาตนทันที ทว่าเมื่อใกล้จะถึงเป้าหมายก็ถูกเธอดันใบหน้าเอาไว้เสียอย่างนั้น“ฉันอยากจูบกับคุณก็จริงค่ะ แล้วก็รู้ว่าคุณก็คงจะอยากทำมากกว่าจูบด้วย ฉันให้คุณทำได้นะคะเพราะคุณเป็นสามีของฉัน แต่ฉันก็คงจะเจ็บปวดมากๆ เพราะรู้ว่าคุณก็แค่หาความสุขจากร่างกายของฉัน ไม่ได้ทำลงไปเพราะความรัก”“โอเค ผมเข้าใจก็ได้” เซรเ
“คิดแล้วก็แค้น อีกนานแค่ไหนไม่รู้กว่าหน้าฉันจะหาย” บ่นเสียงแข็งไม่สบอารมณ์กับมารีน่าในขณะที่กำลังนั่งรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน“ก็ไปหาเรื่องหาราวใส่ตัวทำไมล่ะ อยู่ๆ ก็อยากจะแย่งผัวคนอื่นซะงั้น” มารีน่าเองก็พลอยอายไปด้วยเมื่อพี่สาวคิดอยากได้สามีชาวบ้าน เธอเลยไม่กล้าออกไปพบปะเพื่อนฝูงไปด้วย“แกก็ควรจะแย่งรามิลจากยัยมนต์นั่น สองคนนั้นไม่เห็นแต่งงานกันซะที ไม่ใช่ว่าไม่ได้รักกันแล้วเหรอ” ได้โอกาสก็พูดยุส่งให้น้องสาว เพราะเธอก็หมั่นไส้มนต์ธาราตั้งแต่เข้ามาหาเธอเพื่อคุยให้เลิกยุ่งกับเซรเกย์แล้ว“ฉันลองคุยกับมิลแล้ว แววตาของเค้าบ่งบอกว่าไม่มีฉันอยู่ในหัวใจเค้าสักนิด” ทำไมเธอจะไม่เคยคิด ทว่าเธอก็ละอายใจที่จะทำ เพราะรู้ว่ายังไงรามิลก็ไม่มีทางกลับมาเป็นของเธอ“ทีตอนนั้นอาละวาดอยากได้เค้าคืน”“ก็เพราะตอนนั้นรู้ไงว่าเค้ารักฉันอยู่ พี่อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย” เธอไม่อยากหาเรื่องให้ตัวเองอับอาย เรื่องในอดีตที่เธอเคยมีปากเสียงกับรามิล มันทำให้เธอรู้ว่าถึงรามิลจะยังไม่ได้รักใครหรือไม่ว่าจะยังไงรามิลก็ไม่มีทางกลับมารักเธอแล้วเธอก็ไม่ชอบที่พี่สาวของเธอพาลหมั่นไส้คนอื่นแบบนี้ไปทั่วด้วย มันเหมือนเด็กไม่
“ครับ ผมได้ตัวยาที่จะรักษาคุณแล้ว แต่ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าตัวยาที่ผมให้อาจจะทำให้คุณปวดหัวรุนแรงสักสองสามวัน ถ้าคุณทนได้ ความจำของคุณก็จะกลับมาได้อย่างรวดเร็วครับ”“ผมพร้อมรับความเจ็บปวดครับคุณหมอ ขอแค่ผลลัพธ์มันออกมาดีเท่านั้น”โอเว่นยกยิ้มมุมปากเล็กๆ ในเมื่อคนไข้ของเขารับปากอย่างแน่วแน่ว่าพร้อมรับความเจ็บปวดเขาก็พร้อมที่จะทำการรักษา หลังจากนี้ไม่รู้ว่าเซรเกย์จะยุติการรักษากลางคันหรือไม่ เพราะความเจ็บปวดมันยากจะคาดเดาไปมาก แต่เขาก็ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีพิริสานั่งหน้าห่อเหี่ยวหลังจากที่ได้ฟังโอเว่นคุยเรื่องประเมิณการรักษาคนเป็นสามี“มันเจ็บปวดจนคาดเดาความรุนแรงไม่ได้เลยเหรอคะ” อ้อมแอ้มถามหมอโอเว่นอีกรอบ“ครับ จากที่ผมเคยรักษา อาการแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ที่เห็นมากๆ ก็คืออาการปวดหัวรุนแรง แต่ถ้าผ่านสามวันไปได้ ผลลัพธ์มันก็จะเป็นอย่างที่พวกคุณต้องการ”“ผมทนได้” เซรเกย์พูดยืนยันกับคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ ขอแค่เขากลับมาจำทุกอย่างได้ ให้เจ็บปวดแค่ไหนเขาก็ยอม ยังไงก็เชื่อมือของหมอโอเว่นว่าคงไม่ปล่อยให้เขาต้องเจ็บปวดจนตายจากการรักษาแน่นอน“แต่ฉันจะทนเห็นคุณเจ็บปวดไม่ได้น่ะสิ
“ริสา”“สรุปว่าพวกคุณรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันจะมีลูกไม่ได้หลังจากใช้ยาถอนพิษเหรอคะ”“ผมขอโทษริสา แต่ที่ผมไม่บอกเพราะกลัวว่าคุณจะไม่ยอมรักษาตัว ถ้าปล่อยให้พิษนั่นอยู่ในร่างกายนานๆ มันทำลายระบบประสาทหลายอย่าง”พิริสาไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นเซรเกย์เข้ามาใกล้ เธอก็รีบวิ่งหนี หากเขาบอกเธอถึงความจริงของผลข้างเคียง วันนั้นเธอก็อาจจะทำใจยอมรับเรื่องที่จะมีลูกไม่ได้ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอมีความหวังจนไม่อาจจะผิดหวังได้แล้ว ทำไมเรื่องมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย“ฮื่อ ฮือ ฮือ ฮือ...” เธอวิ่งไปไม่รู้จุดหมาย พร้อมน้ำตาพรั่งพรูและเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อหัวใจถูกบีบรัดมากเข้าเธอก็เริ่มหูอื้อตาลาย และหมดสติไป“ริสา” เซรเกย์วิ่งไปรับร่างของพิริสาได้ทันท่วงที จากนั้นก็รีบสาวเท้าพาเธอเข้าไปให้โอเว่นดูอาการพิริสายังนอนให้หมอตรวจโดยที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ทั้งยังไม่คิดที่มองหน้าทั้งหมอโอเว่นและสามีของเธอ เพราะยังโกรธเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมบอกเธอถึงผลข้างเคียงทุกอย่างของการใช้ยาถอนพิษ ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดหวังมากๆ ในตอนนี้“ผมว่าเรากำลังจะมีข่าวดีแล้วล่ะ” จากการที่โอเว่นได้เริ่มศึกษาแพทย์แผนจีน เขาก็พอจะจับชีพจ
ตั้งแต่มาถึงร้านสมุนไพรได้ พิริสาก็ถูกหมอจีนตรวจชีพจรอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เคยเจอคนที่เลือดลมเดินทางแปลกๆ เช่นหญิงสาวมาก่อน“อืม...แปลกๆ” หมอสมุนไรวัยเกือบแปดสิบสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ก่อนจะปล่อยมือจากชีพจรของหญิงสาวและหยิบตำราใจใต้ลิ้นชักขึ้นมาดูเซรเกย์ที่เห็นว่าได้จังหวะเขาจึงเริ่มออกอุบายที่วางแผนเอาไว้ “ผมลืมเอามือถือมาจากในรถ ริสาไปเอาให้ผมหน่อยได้ไหม”“ได้สิคะ”ให้หลังพิริสาไปได้ เซรเกย์ก็ถือโอกาสพูดคุยรายละเอียดทุกอย่างกับหมอจีน หวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งให้กับคนที่ลูกยากได้จริงๆ อย่างที่ริโอะได้พูดเอาไว้ทางด้านพิริสาเธอก็เอาแต่หาโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เจอมันก็ตกอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งของเขา กว่าจะกลับเข้าไปในร้านยาได้ เธอก็เห็นหมอจีนเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว“หมอจัดยาให้เรียบร้อยแล้วนะริสา”“เหรอคะ ไวดีจังเลย”“คุณต้องดื่มยาต้มนี่ทุกวัน วันละสามเวลาเป็นเวลาสามเดือน”“แค่นี้จะพอเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเริ่มเพ่งมองไปยังห่อสมุนไพรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สามห่อ“แล้วผมจะส่งสมุนไพรตามไปให้ทุกครึ่งเดือน ระหว่างนี้ก็งดอาหารหมักดอง แล้วก็ต้องทานอาหารที่ทำสดใหม่เ
“ริโอะ”ขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ เสียงที่แสนคุ้นหูก็ดังแว่วมาแต่ไกลทำให้ริโอะรีบหันไปยังต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว “อ้าวคุณริสา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ”“มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ ริโอะทำขาหมูไว้ให้คุณริสาด้วยนะคะ”“คุณเรนบอกแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้าไปในบ้าน อยากคุยกับริโอะก่อน”“มีอะไรเหรอคะ”“ริโอะกำลังงอนคุณเรนอยู่ใช่ไหม”สีหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มเริ่มเจื่อนลง ไม่ผิดหรอกที่เรนเข้าใจเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาสร้างข้อจำกัดให้เธอจนเธอรู้สึกอึดอัด“ฉันรู้ว่าที่คุณเรนห้ามริโอะทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง แล้วฉันก็รู้ว่าริโอะรู้ตัวว่าริโอะทำทุกอย่างได้ ฉันก็เลยบอกให้คุณเรนกับริโอะแก้ปัญหากันคนละครึ่งทาง”“ยังไงเหรอคะ” แววตาของริโอะในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย การแก้ปัญหาคนละครึ่งทางหมายความว่ายังไง“ลองคุยกับคุณเรนอีกรอบสิ” พิริสาหันหน้าไปมองเรนที่กำลังยืนดูเธอและริโอะอยู่ห่างๆ“ฉันขอตัวไปรอในบ้านนะ”หลังจากพิริสาลุกออกไป เรนก็เข้ามานั่งแทนที่ของเธอ เพราะเรนต้องการที่จะคุยกับริโอะตามที่พิริสาและเซรเกย์แนะนำ
“อื้อ...” ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ เสียงครางของความเจ็บจุกถูกดูดเข้าไปในลำคอสามี หลังจากนั้นเธอก็หัวสั่นหัวครอนไปกับแรงกระกระทั้นจากการมอบบทสวาทของสามีตัวโตเซรเกย์บดสะโพกส่งเจ้าแท่งร้อนมโหฬารเข้าออกร่องสวาทถี่รัวไม่มีผ่อนอยู่นานสองนาน เสียงครางของคนทั้งสองที่กำลังแลกลิ้นถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของกันและกัน เมื่อร่องสวาทดูดกลืนแท่งร้อนมโหฬารหนักเข้าก็เริ่มตอดรัดรุนแรงเพราะใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง“อื้อ.. อื้อ...” และแล้วพิริสาก็บิดเกร็งแอ่นเร่าตาปรือเยิ้ม มือไม้จิกอยู่ที่ลำแขนแกร่งของคนเป็นสามีจนแทบจะฝังเนื้อเซรเกย์เสียบเจ้าแท่งร้อนคาร่องสวาทเอาไว้ไม่ขยับ เพราะต้องการปล่อยให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันเขาก็ยังบดจูบด้วยลีลาเร่าร้อนเพื่อเล้าโลมคนตัวเล็กให้พร้อมรับกับลีลาสวาทของเขาอีกรอบเมื่อจับจังหวะการหายใจของภรรยาตัวเล็กว่าเป็นปกติเขาก็เริ่มสาวแท่งร้อนดึงออกจนสุดกดเข้าจนมิดไปกับร่องสวาทที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักอีกรอบให้เร็วและแรงกว่าเดิม จนเกิดเป็นเสียงเนื้อที่กำลังเปียกแฉะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วห้อง“เซรเกย์ อื้อ...” พิริสาหัวสั่นหัวครอน ความเสียวซ่านพุ่งเข้ามาในร่างกายจนเริ่มจะแตะข
“อ๋อ ฉันว่าหาของบำรุงสักพักแกก็คงจะกลับมาแข็งแรงเองนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าแกเพิ่งผ่านการรักษาตัวมานะ เดี๋ยวอีกสักพักลองไปตรวจร่างกายใหม่ก็ได้”“เซรเกย์ก็บอกฉันแบบนั้น”“จุนน้า...”“ยัยหนู” เห็นหลานสาวตัวกลมวัยเกือบสองขวบก็รีบเข้าไปรวบอุ้มมานั่งที่ตัก ก่อนจะหอมไปที่พวงแก้มย้วยๆ อีกฟอดใหญ่“คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย” พิริสากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกสาวของกลิ่นชวากันจนหายคิดถึง ยิ่งเห็นหลานก็อยากจะมีลูกใจจะขาด ทว่าก็ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่าร่างกายของเธอจะสามารถมีลูกได้เมื่อไหร่ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกเห็นพิริสากำลังเล่นอยู่กับเจ้าตัวกลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกถึงความเป็นกังวล โดยเฉพาะเซรเกย์“ดูท่าริสาคงอยากจะมีลูกมากๆ ฉันรู้ว่าริสานิสัยเหมือนว่าน ทางที่ดีนายควรรีบบอกเรื่องที่เธอควรรู้จะดีกว่า” วาดิมเสนอความเห็นหลังจากรับรู้ความจริงว่าเพราะอะไรกันแน่พิริสาถึงยังมีลูกไม่ได้“ฉันยังไม่พร้อมเห็นริสาผิดหวัง เอาเป็นว่าหลังจากการตรวจร่างกายครั้งหน้าไม่ดีขึ้นก็ค่อยบอกเธอตอนนั้น”“อืม ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”เซรเกย์ยืนถอนหายใ
“แล้วริสาจะไปเที่ยวหานะคะคุณพ่อคุณแม่” พิริสาเข้าไปกอดพ่อกับแม่ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางกลับอิตาลีหลังจากที่เบาใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของเธอแล้ว“ยายจ๋า รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วริสาจะพาเจ้าตัวเล็กไปวิ่งเล่นด้วย” เธอผละออกมาจากดันเต้และรสสุคนเข้ามากอดสอางค์“เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วยายจะส่งสมุนไพรบำรุงร่างกายมาให้นะ”“ขอบคุณค่ะ” ฟอด ฟอด สาวเจ้าหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นยายฟอดใหญ่ๆ เป็นประจำทุกครั้งที่ต้องจากกัน ไม่ว่าเธอจะโตมากแค่ไหนเธอก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กกับยายของเธอเสมอ เพราะรู้ว่ายายนั้นชอบเห็นความสดใสของเธอ และเธอเองก็ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของคนเป็นยายรวมไปถึงพ่อกับแม่ไปนานๆ“แล้วก็ดูแลลูกฉันให้ดีล่ะ ถ้ามีเรื่องให้ลูกฉันเจ็บตัวอีก ฉันพาลูกฉันกลับไปดูแลเองจริงๆ ด้วย” ดันเต้หันมาส่งเสียงดุให้เซรเกย์ส่งท้ายก่อนกลับ เชื่อว่าเซรเกย์จะดูแลลูกสาวของเขาได้ดี ทว่าก็อดที่จะกำชับอีกครั้งตามประสาพ่อที่หวงและห่วงลูกไม่ได้สิ้นเสียงแข็งของคนเป็นพ่อ พิริสาก็รีบเข้าไปกอดเอวเซรเกย์เอาไว้แน่น “ไม่นะคะคุณพ่อ ริสารักเซรเกย์ม๊ากมาก ไม่ยอมไปไหนหรอกค่ะ”รสสุคนและสอางค์ต่างก็ส่ายหน้าให้กับคำพูดของดันเต้ ทว่าก็อม
“คิดอะไรอยู่” เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ก็เข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนกอดอกเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยอาการเหม่อลอยพิริสารีบผลักคนที่เปลือยท่อนบนโชว์แผงกล้ามออกจากตัว “ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ” มองกล้ามเนื้อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีครู่เดียวก็ต้องหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าร้อนผ่าวเพราะไม่ชินกับการมองผู้ชายถอดเสื้อ“คุณเขินเหรอ” ริมฝีปากหนาอมยิ้มกรุ่มกริ่ม“ใครจะไม่เขินล่ะ”“หันมาดูให้เต็มตาสิ มันเป็นของคุณนะ คุณจะเขินทำไม” เขาดึงมือเธอมาลูบบนเนินอกที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ“ของฉันเหรอ” แม้จะเคอะๆ เขินๆ แต่แผงกล่ามของเขามันก็น่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย เลยถือวิสาสะลูบๆ คลำๆ อยู่เช่นนั้นจนรับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีไขมันแม้แต่นิดเดียว“ใช่ ก็ผมเป็นของคุณ เป็นสามีคุณ จะดูตรงอื่นด้วยไหม”“ไม่ต้องค่ะ” รีบถอยห่างพร้อมยกมือทั้งสองข้างปิดตา เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอมองว่าเขาเจ้าเล่ห์จะพูดจริงหรือพูดเล่น ทว่าเธอก็ไม่เสี่ยงเปิดตาเอาไว้ แค่เห็นแผงกล้ามของเขาเธอก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว หากเห็นอย่างอื่นคงได้วิ่งออกไปข้างนอกแน่“เวลาคุณเขิน น่ารักมากเลยรู้ไหม”“แกล้งฉันใช่ไหมคะ” มือทั้งสองค่อ
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท