ทางด้านมนต์ธาราเลือกที่จะไม่เดินไปหารามิล เพราะในขณะที่กำลังจะเดินไปถึงคู่หมั้นของเธอ มารีน่าก็เดินเข้าไปนั่งคุยกับรามิลเสียก่อน ยิ่งตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามารีน่าได้เลิกรากับสามี เธอจึงอยากเปิดโอกาสให้รามิลได้ลองสานสัมพันธ์กับมารีน่าอีกครั้ง เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่เธอจะได้ถอนหมั้น อีกอย่างก็จะได้ล้มล้างความผิดที่เธอทำให้ทั้งสองต้องเลิกกันด้วย
มนต์ธาราหยิบแก้วเครื่องดื่มที่เหล่าบอดี้การ์ดเดินเสริฟวนอยู่ตลอดงานมานั่งดื่มอยู่ในมุมที่ไม่ค่อยมีผู้คนเงียบๆ เธอไม่มีอารมณ์จะพูดคุยทักทายกับใคร
เมื่อนั่งดื่มไปได้สักพักเธอก็เริ่มคิดย้อนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ยังไม่เข้าใจจนถึงทุกวันนี้ว่าทำไมรามิลถึงไม่ยอมให้เธอยกเลิกการหมั้น เอาแต่พูดว่าไม่อยากให้ผู้ใหญ่ไม่สบายใจ ทั้งที่เขาก็ไม่ได้คิดเกินเลยกับเธอไปมากกว่าพี่น้อง แถมตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็ไม่ยอมมีใครใหม่ จะว่าไปหากเดาไม่ผิดเขาก็คงยังไม่ลืมมารีน่า คงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ นั่นแหละ
“มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คุณมนต์”
คนถูกสะกิดสะดุ้งเฮือกหลุดจากภวังค์ความคิด เริ่มขมวดคิ้วสงสัยเมื่อเห็นว่าเป็นพี่สะใภ้ของเธอเดินเข้ามาหาคนเดียว ทั้งที่ตอนนี่พิริสาควรจะอยู่กับพี่ชายของเธอ
“พี่เซรเกย์ล่ะคะ”
“อยู่กับกลุ่มหนุ่มๆ น่ะ ฉันไม่อยากกวนก็เลยมาหาที่เงียบๆ นั่ง แล้วทำไมคุณมนต์มาอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่ไปอยู่กับคุณมิล” เธอรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ที่เห็นรามิลอยู่กับมารีน่าน้องสาวของมิล่า แทนที่จะเป็นมนต์ธาราที่นั่งอยู่ข้างเจ้านายเก่าของเธอ
“ให้พี่มิลนั่งคุยกับคนที่เค้าอยากคุยเถอะค่ะ”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะ นั่นเจ้าบ่าวในอนาคตคุณมนต์เลยนะคะ”
“มนต์คิดว่ามนต์กับพี่มิลไม่น่าจะมีวันที่เราเป็นครอบครัวเดียวกันได้หรอกค่ะ เพราะมนต์รู้ว่าพี่มิลเห็นมนต์เป็นแค่น้องสาวเท่านั้น” ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ และความไว้เนื้อเชื่อใจในความเป็นผู้หญิงด้วยกันกับพิริสา ทำให้มนต์ธารากล้าที่จะพูดความในใจที่ไม่เคยพูดกับใครออกมา
พิริสาพอจะทราบสาเหตุคร่าวๆ แล้วว่าทำไมมนต์ธาราและรามิลถึงได้ยังไม่มีงานแต่งเสียที หลังจากหมั้นหมายกันมานานมากแล้ว
“อยู่นี่นี่เอง พี่ก็ว่าเราหายไปไหน”
ยังไม่ทันที่พิริสาจะได้ฟังหรือถามอะไรเพิ่มเติมจากมนต์ธารา รามิลก็เข้ามาทักทายหญิงสาวเสียก่อน
“วันนี้คุณสวยมากเลยนะครับคุณริสา”
“ขอบคุณค่ะ วันนี้คุณมนต์ก็สวยมากเหมือนกันนะคะ”
“ใช่ครับ คู่หมั้นของผมสวยมากๆ อยู่แล้ว”
มนต์ธาราได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่ได้ยินดียินร้ายคำที่รามิลชม เพราะรู้ว่าเขาทำไปเพราะมารยาทที่ต้องให้เกียรติเธอต่อหน้าคนอื่น
“รู้สึกเหมือนเป็นก้างขวางคอพวกคุณเลยค่ะ งั้นฉันขอตัวออกไปหาเซรเกย์ก่อนนะคะ”
พิริสาลุกออกไปได้ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย รัสเซีย รูปร่างสูงใหญ่หุ่นบึกบึน หน้าตาหล่อเหลา หาตัวจับยากในหมู่มวลนักธุรกิจในประเทศไทยก็เข้าไปนั่งแทนที่หญิงสาว รู้สึกขอบคุณที่พิริสาเปิดโอกาสให้เขาได้นั่งคุยกับมนต์ธาราสองต่อสอง เพราะเขาก็มีเรื่องที่อยากจะคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวเหมือนกัน
เขารู้ว่ามนต์ธารามาถึงงานนานแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่คิดจะไปหาเขาที่กำลังนั่งรอ ซ้ำก่อนหน้าเขาพยายามคะยั้นคะยอที่จะไปรับเธอด้วยตัวเอง แต่เธอก็ปฏิเสธ ช่วงนี้เขารู้สึกได้ว่าเธอกำลังหลบหน้า มันเป็นสิ่งที่เขารู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลย
“ได้นั่งคุยกันสองคนแบบนี่ก็ดีนะ พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับมนต์เยอะเลย”
“พี่มิลมีเรื่องอะไรเหรอคะ”
“ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ ทำไมพี่รู้สึกเหมือนว่ามนต์กำลังหลบหน้าพี่เลย”
“ขอโทษนะคะที่มนต์ทำให้พี่มิลคิดแบบนั้น แต่มนต์ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ค่ะ”
“พี่ว่าเราสองคนน่าจะคุยเรื่องงานแต่งกันได้แล้วนะ คุณแม่พี่ถามเรื่องนี้มาแล้ว”
“ก่อนหน้านี้พี่มิลบอกว่าตามใจมนต์ไงคะ อีกอย่างเราสองคนก็รู้อยู่แก่ใจว่าเราไม่ได้รู้สึกเกินเลยไปกว่าพี่น้อง”
“แต่...”
“เห็นริสารึเปล่า”
ไม่ทันที่รามิลจะเอ่ยจบประโยค เซรเกย์ก็เข้ามาขัดจังหวะเขาเสียก่อน
“ไม่เห็น เธอบอกว่าจะไปหานาย แล้วนายไม่เจอเธอหรอ”
“เปล่า” เซรเกย์ส่ายหัวพัลวัน เขาเริ่มใจไม่ดีแล้ว เพราะตอนนี้มิล่าก็ไม่ได้อยู่กับราเดน กลัวว่าภรรยาของเขาจะอาละวาดมิล่าเช่นตอนที่อยู่โรงพยาบาลจนงานวันเกิดของเดเมียนกร่อย
พิริสาที่อยากจะเปิดโอกาสให้มนต์ธาราและรามิลอยู่คุยกันตามลำพังก็อ้างว่าจะไปหาสามีของเธอ ทว่าเธอก็เลือกที่จะออกไปเดินเล่นที่สวนหน้าบ้านของเดเมียน หาของอร่อยใส่ปากไปพลางๆ ในขณะที่คนอื่นตอนนี้กำลังไปรวมตัวกันปาร์ตี้อยู่ที่รอบสระว่ายน้ำหลังคฤหาสน์หลังใหญ่
เมื่อครู่เธอพอจะมองสายตาของรามิลออกว่าไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะพูดชมมนต์ธารา แถมสายตาที่มองไปยังหญิงสาวยังดูจะหวานหยาดเยิ้มพิเศษกว่ามองคนอื่น ไม่เข้าใจว่าทำไมมนต์ธาราถึงได้เข้าใจว่ารามิลเห็นเธอเป็นแค่น้องสาว หรือมันมีอะไรมากกว่านั้นกันแน่ ชักจะอยากรู้เรื่องของทั้งสองมากขึ้นเสียแล้วสิ
“ไม่ตามจิกของหวงแล้วเหรอ”
“ก็อยากจะตาม แต่เผอิญว่าของที่หวงเค้าทำให้ไว้ใจว่ายังไงก็ไม่สามารถหลุดมือไปจากฉันได้”
“เห็นสายตาที่เค้ามองฉันไหมล่ะ หวานขนาดไหนเธอก็น่าจะมองออก”
“พูดแบบนี้แสดงว่ายอมรับแล้วใช่ไหมว่าคิดอยากจะแย่งเซรเกย์ไปจากฉัน”
“ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น แต่ยิ่งเห็นเธอหวงมากเท่าไหร่ ใจมันก็รู้สึกอยากจะได้เค้าคืนมาเฉยเลย ฉันคิดว่าฉันไม่ต้องทำอะไรมากด้วย เพราะตอนนี้ในหัวใจของเค้าก็มีแค่ฉันอยู่แล้ว เธอรู้ไหมสีหน้าตอนที่เค้าตื่นมาแล้วรู้ว่าตัวเองมีภรรยาแล้ว ดูผิดหวังมากแค่ไหน ยิ่งมาเห็นเธอโวยวายหึงหวงเค้าเหมือนคนบ้า เค้ายิ่งผิดหวังเพราะคิดว่าตัวเองเลือกภรรยาผิด”
“อืม ฉันเข้าใจได้ว่าเธอกำลังทำให้ฉันเหมือนคนบ้า ให้คนอื่นมองฉันไม่ดี รวมถึงเซรเกย์ด้วย”
“เพิ่งจะฉลาดเหรอ”
“เซรเกย์ยอมรับกับฉันว่าตอนนี้เค้าจำได้แค่ช่วงที่ยังรักกับเธอ แต่เค้าก็ยืนยันกับฉันว่าเค้าจะรักษาครอบครัวเอาไว้ในเวลาที่ยังจำอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นเธอคิดจะทำอะไรก็ควรหยุด”
“แล้วถ้าฉันไม่หยุด”
“ฉันก็พร้อมที่จะปกป้องครอบครัวของฉันเต็มที่เหมือนกัน เธอก็รู้ว่าฉันลูกใคร มีพี่ชายเป็นใคร พูดแค่นี้ก็น่าจะรู้นะว่าฉันทำอะไรได้บ้าง ฉันไม่เคยเอาเรื่องนี้มาข่มขู่ใคร เป็นเธอคนแรก อ่อ...เมื่อกี้ไม่ได้จะข่มขู่นะ ที่บอกว่าฉันทำอะไรได้บ้าง ถ้าเธอไม่หยุดเดี๋ยวได้รู้กันแน่”
พูดจบก็หมายจะหันหลังเดินหนี ทว่ามิล่าก็เข้ามากระชากแขนของพิริสาเอาไว้ก่อน “โอ้ย...อะไรของเธอเนี่ย” ดวงตากลมโตตวัดมองค้อนมิล่า พลันเมื่อได้มองหญิงสาวเต็มตา สายตาของพิริสาก็แปรเปลี่ยนจากความโกรธเคืองเป็นแววตาตกใจแทน
เพียะ เพียะ มิล่ากำลังทำร้ายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แววตาแข็งกร้าวและพฤติกรรมของหมอสาวทำให้พิริสาเริ่มอ้าปากค้าง การละคร การละครชัดๆ ยัยนี่มารยาร้อยล้านเล่มเกวียนเสียจริง
“อ๊าย อ๊าย ช่วยด้วย”
“นี่ทำอะไรของเธอ” พิริสาพยายามสลัดมิล่าที่กำลังเข้ามายกแขนของเธอให้ไปฟาดที่ใบหน้าของตัวเองเพื่อเล่นบทเหยื่อ“ทำให้เธอรู้ไงว่าเซรเกย์เค้าจะเลือกเชื่อเธอหรือเชื่อฉัน”ยัยนี่ดูละครมากไปชัดๆ เกิดมาไม่คิดเลยว่าจะมีใครใช้วิธีนี้กับเธอ ทว่าเมื่อได้โอกาสแล้วเธอก็ไม่คิดจะปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดมือไป เล็บทั้งสิบนิ้วที่ทำมาอย่างสวยงามก็ขยุ้มใบหน้าคนที่อยากจะแย่งสามีของเธอไปทั้งสิบเล็บ“อีบ้า”“มึงสิบ้า” พูดจบคำก็เปลี่ยนจากการขยุ้มใบหน้าหมอสาวแล้วเลื่อนไปจิกหัวมิล่า พิริสาดึงทึ้งหัวของมิล่าจนยุ่งเหยิงสาแก่ใจแล้วก็ยกเท้าถีบหมอสาวจนลงไปกองกับพื้นเสียงเอะอะโวยวายในมุมมืดทำให้เหล่าบอดี้การ์ดรีบวิ่งเข้ามาหาสองสาวแล้วจับพวกเธอแยกออกจากกัน ทว่ากว่ามิล่าจะถูกจับแยกจากพิริสาได้ หมอสาวก็อ่วมไปด้วยฝีมือของพิริสาพอสมควร“ฉันว่าเมียนายเริ่มจะเกินไปแล้วนะ” ราเดนเอ่ยกับเซรเกย์ด้วยสีหน้าท่าทางไม่สบอารมณ์ เพราะตอนนี้น่องสาวของเขาใบหน้าเละเทะไปด้วยรอยเล็บตอนนี้ทุกคนต่างก็มารวมตัวกันที่โถงใหญ่ของคฤหาสน์ เพราะเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นกับภรรยาของหัวหน้ามาเฟีย เรื่องราวของมิล่าและพิริสาจึงเป็นที่น่าสนใจเป็นพิเศษ“ฉันก็ท
“มนต์ไม่รู้ว่าทำไมพี่มิลถึงกลัวผู้ใหญ่ต้องผิดหวังเรื่องของเรา ทั้งที่เราไม่ได้รักกันแต่เราก็ต้องหมั้นกัน แถมพี่มิลก็ไม่ให้มนต์พูดกับผู้ใหญ่เรื่องการถอนหมั้น ตอนนี้ยังมาพูดเรื่องแต่งงานอีก คนไม่รักกันจะใช้ชีวิตครอบครัวกันอย่างมีความสุขได้เหรอคะ ตอนนี้คุณมารีน่าเธอก็โสดแล้ว ทำไมพี่มิลไม่ลองสานสัมพันธ์กับเธอล่ะคะ”“ที่พูดมาทั้งหมดก็เพราะอยากให้พี่ออกไปจากชีวิตของมนต์ใช่ไหม”มนต์ธารานั่งเงียบไม่คิดที่จะหันไปมองรามิล เพราะหัวใจของเธอมันให้คำตอบที่ตรงกันข้ามกับคำถามของเขา ทว่าก็ไม่อยากที่จะพูดออกไป“โอเค พี่เข้าใจแล้ว”สิ้นเสียงทุ้มต่ำ รถสปอร์ตราคาแพงก็เริ่มแล่นไปตามถนนอีกครั้ง ไม่นานนักรามิลก็ขับรถมาส่งมนต์ธาราถึงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของเธอ โดยที่ต่างคนต่างก็ไม่คิดที่จะพูดอะไรกันต่อมนต์ธาราน้ำตาไหลลงอาบแก้มขณะมองตามหลังรถสปอร์ตราคาแพงแล่นออกไป ตอนนี้เธอไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ไม่เข้าใจว่าทำไมรามิลถึงกลัวว่าผู้ใหญ่จะไม่สบายใจหากเธอและเขาต้องถอนหมั้นกัน ไม่รู้หรือยังไงว่าการที่ต้องอยู่ใกล้คนที่ตัวเองรัก แล้วรู้ว่าเขาคนนั้นไม่ได้รักตัวเองมันทรมานหัวใจแค่ไหนมนต์ธาราเดินปาดน้ำตาจนมาถึงหน้าห้องนอน
“ทำไมคะ?” เลิกคิ้วมองคนที่กำลังวางเธอลงบนเตียงด้วยแววตาฉงน เขากำลังจะทำอะไรกับเธอกันแน่ อยากจะเอาใจเพื่อไถ่โทษที่ต่อว่าเธอวันนี้ หรืออยากจะเอาอย่างอื่น...“คุณทำใจผมเต้นแรงหลายรอบเลยนะวันนี้” เซรเกย์ค่อยๆ สอดตัวใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับพิริสา ดวงตาคู่หวานยังจับจ้องไปยังคนตัวเล็กหยาดเยิ้มแทบจะกลืนกิน“อ๋อ...ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ที่เขาเป็นแบบนี้คงเป็นเพราะชุดราตรีสีแดงเลือดนกสินะ“ผมอยากจูบคุณจังเลย” เขาใช้มือซ้ายชันหัวเอาไว้ก่อนจะใช้มือขวาประคองใบหน้าเรียวเล็กอย่างถนอม ก่อนจะไล่สายตาไปบรรจบอยู่ที่ริมฝีปากบางอมชมพูคู่สวย“ฉันก็เหมือนกันค่ะ อยากจะทำอะไร อะไร ที่เคยทำเหมือนกัน”เมื่อได้ยินคำตอบจากภรรยาตัวเล็กที่ท่าจะเข้าทางของตัวเองก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงโน้มใบหน้าหมายจะเข้าไปประกบจูบภรรยาตนทันที ทว่าเมื่อใกล้จะถึงเป้าหมายก็ถูกเธอดันใบหน้าเอาไว้เสียอย่างนั้น“ฉันอยากจูบกับคุณก็จริงค่ะ แล้วก็รู้ว่าคุณก็คงจะอยากทำมากกว่าจูบด้วย ฉันให้คุณทำได้นะคะเพราะคุณเป็นสามีของฉัน แต่ฉันก็คงจะเจ็บปวดมากๆ เพราะรู้ว่าคุณก็แค่หาความสุขจากร่างกายของฉัน ไม่ได้ทำลงไปเพราะความรัก”“โอเค ผมเข้าใจก็ได้” เซรเ
“คิดแล้วก็แค้น อีกนานแค่ไหนไม่รู้กว่าหน้าฉันจะหาย” บ่นเสียงแข็งไม่สบอารมณ์กับมารีน่าในขณะที่กำลังนั่งรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน“ก็ไปหาเรื่องหาราวใส่ตัวทำไมล่ะ อยู่ๆ ก็อยากจะแย่งผัวคนอื่นซะงั้น” มารีน่าเองก็พลอยอายไปด้วยเมื่อพี่สาวคิดอยากได้สามีชาวบ้าน เธอเลยไม่กล้าออกไปพบปะเพื่อนฝูงไปด้วย“แกก็ควรจะแย่งรามิลจากยัยมนต์นั่น สองคนนั้นไม่เห็นแต่งงานกันซะที ไม่ใช่ว่าไม่ได้รักกันแล้วเหรอ” ได้โอกาสก็พูดยุส่งให้น้องสาว เพราะเธอก็หมั่นไส้มนต์ธาราตั้งแต่เข้ามาหาเธอเพื่อคุยให้เลิกยุ่งกับเซรเกย์แล้ว“ฉันลองคุยกับมิลแล้ว แววตาของเค้าบ่งบอกว่าไม่มีฉันอยู่ในหัวใจเค้าสักนิด” ทำไมเธอจะไม่เคยคิด ทว่าเธอก็ละอายใจที่จะทำ เพราะรู้ว่ายังไงรามิลก็ไม่มีทางกลับมาเป็นของเธอ“ทีตอนนั้นอาละวาดอยากได้เค้าคืน”“ก็เพราะตอนนั้นรู้ไงว่าเค้ารักฉันอยู่ พี่อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย” เธอไม่อยากหาเรื่องให้ตัวเองอับอาย เรื่องในอดีตที่เธอเคยมีปากเสียงกับรามิล มันทำให้เธอรู้ว่าถึงรามิลจะยังไม่ได้รักใครหรือไม่ว่าจะยังไงรามิลก็ไม่มีทางกลับมารักเธอแล้วเธอก็ไม่ชอบที่พี่สาวของเธอพาลหมั่นไส้คนอื่นแบบนี้ไปทั่วด้วย มันเหมือนเด็กไม่
“ครับ ผมได้ตัวยาที่จะรักษาคุณแล้ว แต่ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าตัวยาที่ผมให้อาจจะทำให้คุณปวดหัวรุนแรงสักสองสามวัน ถ้าคุณทนได้ ความจำของคุณก็จะกลับมาได้อย่างรวดเร็วครับ”“ผมพร้อมรับความเจ็บปวดครับคุณหมอ ขอแค่ผลลัพธ์มันออกมาดีเท่านั้น”โอเว่นยกยิ้มมุมปากเล็กๆ ในเมื่อคนไข้ของเขารับปากอย่างแน่วแน่ว่าพร้อมรับความเจ็บปวดเขาก็พร้อมที่จะทำการรักษา หลังจากนี้ไม่รู้ว่าเซรเกย์จะยุติการรักษากลางคันหรือไม่ เพราะความเจ็บปวดมันยากจะคาดเดาไปมาก แต่เขาก็ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีพิริสานั่งหน้าห่อเหี่ยวหลังจากที่ได้ฟังโอเว่นคุยเรื่องประเมิณการรักษาคนเป็นสามี“มันเจ็บปวดจนคาดเดาความรุนแรงไม่ได้เลยเหรอคะ” อ้อมแอ้มถามหมอโอเว่นอีกรอบ“ครับ จากที่ผมเคยรักษา อาการแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ที่เห็นมากๆ ก็คืออาการปวดหัวรุนแรง แต่ถ้าผ่านสามวันไปได้ ผลลัพธ์มันก็จะเป็นอย่างที่พวกคุณต้องการ”“ผมทนได้” เซรเกย์พูดยืนยันกับคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ ขอแค่เขากลับมาจำทุกอย่างได้ ให้เจ็บปวดแค่ไหนเขาก็ยอม ยังไงก็เชื่อมือของหมอโอเว่นว่าคงไม่ปล่อยให้เขาต้องเจ็บปวดจนตายจากการรักษาแน่นอน“แต่ฉันจะทนเห็นคุณเจ็บปวดไม่ได้น่ะสิ
“ภาพชัดเจนขนาดนั้นยังจะแก้ตัวอีกเหรอคะ แล้ววันนั้นคุณก็ไม่บอกกับฉันด้วยซ้ำว่าเดเมียนส่งผู้หญิงมาให้คุณทั้งที่ปกติแล้วคุณจะบอกฉันทุกเรื่อง”เซรเกย์ได้แต่ยืนเงียบ ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ยังไงเพราะเขาก็จำอะไรเกี่ยวกับเรื่องคืนนั้นไม่ได้เลยบอริสที่เห็นท่าไม่ดีเลยเข้ามาขวางหน้าของพิริสาอีกคน แม้จะไม่รู้ว่าเบลล่าเข้าไปทำอะไรในห้องนอนของเจ้านาย แต่เขาก็เชื่อว่าเจ้านายของเขาไม่คิดนอกกายนอกใจนายหญิงของตนแน่“นายหญิงต้อง เชื่อใจนายนะครับ ตั้งแต่ผมทำงานกับนายมาไม่เคยเห็นนายนอกรู้นอกทางเรื่องผู้หญิง นายเป็นคนที่บูชาความรักแค่ไหนนายหญิงก็น่าจะรู้นะครับ”“ภาพมันชัดขนาดนั้น เป็นคุณเจอแบบฉันคุณจะคิดยังไงคุณบอริส” พิริสาถามบอริสกลับทั้งน้ำตา หากทุกคนเห็นคนรักของตัวเองทำพฤติกรรมอย่างที่เธอเห็น ยังทำใจเย็นแล้วไม่คิดไปไกลได้อีกเหรอ“ฉันจะกลับบ้าน ถ้าไม่อยากให้ฉันตายอยู่ที่นี่ก็ถอยไป”“ริสา”และแล้วทั้งหัวหน้ามาเฟียและคนสนิทของเขาก็ต้องจำใจปล่อยให้พิริสาเดินหนีไปเซรเกย์ไม่อยากจะประเมิณความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยว่าจะมีอะไรบ้างหากหัวหน้ามาเฟียอิตาลีรู้ว่าเขาทำร้ายจิตใจของลูกสาวตัวเอง เห็นทีคนที่จ
ทางด้านเซรเกย์ตอนนี้เริ่มเข้ารับการรักษาตัวกับหมอโอเว่น เขาพอจะเบาใจได้เรื่องการสืบหาความจริง เพราะตอนนี้ทั้งวาดิมและรามิลต่างก็รับปากว่าก่อนเขาจะทำการรักษาตัวเสร็จ จะหาความจริงมาคลายปัญหาที่มีอยู่ให้ได้เรื่องราวอันน่าปวดหัวของเซรเกย์ถูกบอริสส่งข้อมูลให้กับมนต์ธารา สาวเจ้าที่กำลังพักผ่อนอยู่ต่างประเทศก็ต้องรีบบินกลับมาที่บ้านอย่างเร่งด่วนหญิงสาวลากกระเป๋าใบใหญ่มารอคนมารับที่หน้าสนามบินครู่ใหญ่ เมื่อเห็นว่าใครมารับก็เริ่มหน้าเจื่อน เธอเข้าใจว่าบอริสจะมารับเธอ ทว่ากลับเป็นรามิล คนที่เธอต้องการหนีหน้าเสียอย่างนั้น“ทำไมเป็นพี่มิลมารับล่ะคะ”“ไม่อยากเจอพี่มากขนาดนั้นเลยหรือไง”มนต์ธาราไม่ได้ตอบอะไรกับรามิล เธอเดินผ่านหน้าของเขาขึ้นไปนั่งบนรถตู้ขณะที่บอดี้การ์ดกำลังยกกระเป๋าของเธอขึ้นรถตลอดทางกลับบ้านภายในรถมีแต่ความเงียบ เพราะมนต์ธาราไม่ได้คิดที่จะคุยอะไรกับรามิล ส่วนชายหนุ่มเองก็นั่งหน้าบึ้งตึง ไม่สบอารมณ์ที่มองออกว่าหญิงสาวไม่ได้อยากเห็นหน้าเขา จวบจนกลับมาถึงบ้าน รามิลถึงได้จำใจพูดเรื่องที่เขาจะต้องพูด“ตอนนี้พี่กับวาดิมกำลังเร่งกันสืบหาความจริงว่าเรื่องเซรเกย์กับเบลล่ามันเป็นยังไงเป
หลังจากวาดิมฟันธงว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของมิล่า ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพวกเขาก็พาตัวเบลล่ามาที่เซฟเฮ้าส์“รู้ใช่ไหมว่าการโกหกว่าตัวเองท้องกับหัวหน้ามาเฟีย ต้องเจอกับอะไร”“ใครโกหกคะ ฉันบอกแล้วไงคะว่าไม่ได้โกหก แล้วฉันก็ไม่ได้คิดจะเรียกร้องอะไรด้วย แค่ให้คุณเซรเกย์รับผิดชอบแค่ลูกเท่านั้น” เบลล่ายังคงยืนยันกระต่ายขาเดียวกับวาดิม“อะไรทำให้คุณมั่นใจนักหนา” รามิลเอ่ยถามหญิงสาว“ก็ตรวจดีเอ็นเอสิคะ ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ”“คุณจะให้หมอไลลาตรวจใช่ไหม”สิ้นเสียงของรามิล บอริสก็เดินออกมาพร้อมกับหมอสาว เพื่อนสนิทของมิล่า“คุณหมอ” เบลล่าหน้าถอดสี เพราะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองถูกจับผิดจนได้“คุณหมอสารภาพกับพวกผมหมดแล้วว่ามิล่าขู่ให้ทำทุกอย่างตามคำสั่ง แล้วก็ขู่ให้คุณหมอช่วยแจ้งผลดีเอ็นเอลูกคุณว่าตรงกับเซรเกย์ ทั้งที่คุณท้องกับคนอื่น มีอะไรจะสารภาพไหม” วาดิมยืนกอดอกมองเบลล่าไม่วางตา ท่าทางมิล่าคงจะจ่ายให้หญิงสาวไม่น้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่มั่นใจจนยืนยันว่าตัวเองไม่ได้โกหก“ถ้าคุณยอมสารภาพมาดีๆ ผมจะลองขอให้เซรเกย์ไว้ชีวิตคุณกับลูก” สายตาที่รามิลมองเบลล่าเต็มไปด้วยความระอา หากหลักฐานไม่มัดตัวแน่นก็ไม่ยอมรับสารภาพจริงๆ สิ
“ริสา”“สรุปว่าพวกคุณรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันจะมีลูกไม่ได้หลังจากใช้ยาถอนพิษเหรอคะ”“ผมขอโทษริสา แต่ที่ผมไม่บอกเพราะกลัวว่าคุณจะไม่ยอมรักษาตัว ถ้าปล่อยให้พิษนั่นอยู่ในร่างกายนานๆ มันทำลายระบบประสาทหลายอย่าง”พิริสาไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นเซรเกย์เข้ามาใกล้ เธอก็รีบวิ่งหนี หากเขาบอกเธอถึงความจริงของผลข้างเคียง วันนั้นเธอก็อาจจะทำใจยอมรับเรื่องที่จะมีลูกไม่ได้ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอมีความหวังจนไม่อาจจะผิดหวังได้แล้ว ทำไมเรื่องมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย“ฮื่อ ฮือ ฮือ ฮือ...” เธอวิ่งไปไม่รู้จุดหมาย พร้อมน้ำตาพรั่งพรูและเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อหัวใจถูกบีบรัดมากเข้าเธอก็เริ่มหูอื้อตาลาย และหมดสติไป“ริสา” เซรเกย์วิ่งไปรับร่างของพิริสาได้ทันท่วงที จากนั้นก็รีบสาวเท้าพาเธอเข้าไปให้โอเว่นดูอาการพิริสายังนอนให้หมอตรวจโดยที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ทั้งยังไม่คิดที่มองหน้าทั้งหมอโอเว่นและสามีของเธอ เพราะยังโกรธเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมบอกเธอถึงผลข้างเคียงทุกอย่างของการใช้ยาถอนพิษ ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดหวังมากๆ ในตอนนี้“ผมว่าเรากำลังจะมีข่าวดีแล้วล่ะ” จากการที่โอเว่นได้เริ่มศึกษาแพทย์แผนจีน เขาก็พอจะจับชีพจ
ตั้งแต่มาถึงร้านสมุนไพรได้ พิริสาก็ถูกหมอจีนตรวจชีพจรอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เคยเจอคนที่เลือดลมเดินทางแปลกๆ เช่นหญิงสาวมาก่อน“อืม...แปลกๆ” หมอสมุนไรวัยเกือบแปดสิบสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ก่อนจะปล่อยมือจากชีพจรของหญิงสาวและหยิบตำราใจใต้ลิ้นชักขึ้นมาดูเซรเกย์ที่เห็นว่าได้จังหวะเขาจึงเริ่มออกอุบายที่วางแผนเอาไว้ “ผมลืมเอามือถือมาจากในรถ ริสาไปเอาให้ผมหน่อยได้ไหม”“ได้สิคะ”ให้หลังพิริสาไปได้ เซรเกย์ก็ถือโอกาสพูดคุยรายละเอียดทุกอย่างกับหมอจีน หวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งให้กับคนที่ลูกยากได้จริงๆ อย่างที่ริโอะได้พูดเอาไว้ทางด้านพิริสาเธอก็เอาแต่หาโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เจอมันก็ตกอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งของเขา กว่าจะกลับเข้าไปในร้านยาได้ เธอก็เห็นหมอจีนเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว“หมอจัดยาให้เรียบร้อยแล้วนะริสา”“เหรอคะ ไวดีจังเลย”“คุณต้องดื่มยาต้มนี่ทุกวัน วันละสามเวลาเป็นเวลาสามเดือน”“แค่นี้จะพอเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเริ่มเพ่งมองไปยังห่อสมุนไพรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สามห่อ“แล้วผมจะส่งสมุนไพรตามไปให้ทุกครึ่งเดือน ระหว่างนี้ก็งดอาหารหมักดอง แล้วก็ต้องทานอาหารที่ทำสดใหม่เ
“ริโอะ”ขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ เสียงที่แสนคุ้นหูก็ดังแว่วมาแต่ไกลทำให้ริโอะรีบหันไปยังต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว “อ้าวคุณริสา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ”“มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ ริโอะทำขาหมูไว้ให้คุณริสาด้วยนะคะ”“คุณเรนบอกแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้าไปในบ้าน อยากคุยกับริโอะก่อน”“มีอะไรเหรอคะ”“ริโอะกำลังงอนคุณเรนอยู่ใช่ไหม”สีหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มเริ่มเจื่อนลง ไม่ผิดหรอกที่เรนเข้าใจเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาสร้างข้อจำกัดให้เธอจนเธอรู้สึกอึดอัด“ฉันรู้ว่าที่คุณเรนห้ามริโอะทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง แล้วฉันก็รู้ว่าริโอะรู้ตัวว่าริโอะทำทุกอย่างได้ ฉันก็เลยบอกให้คุณเรนกับริโอะแก้ปัญหากันคนละครึ่งทาง”“ยังไงเหรอคะ” แววตาของริโอะในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย การแก้ปัญหาคนละครึ่งทางหมายความว่ายังไง“ลองคุยกับคุณเรนอีกรอบสิ” พิริสาหันหน้าไปมองเรนที่กำลังยืนดูเธอและริโอะอยู่ห่างๆ“ฉันขอตัวไปรอในบ้านนะ”หลังจากพิริสาลุกออกไป เรนก็เข้ามานั่งแทนที่ของเธอ เพราะเรนต้องการที่จะคุยกับริโอะตามที่พิริสาและเซรเกย์แนะนำ
“อื้อ...” ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ เสียงครางของความเจ็บจุกถูกดูดเข้าไปในลำคอสามี หลังจากนั้นเธอก็หัวสั่นหัวครอนไปกับแรงกระกระทั้นจากการมอบบทสวาทของสามีตัวโตเซรเกย์บดสะโพกส่งเจ้าแท่งร้อนมโหฬารเข้าออกร่องสวาทถี่รัวไม่มีผ่อนอยู่นานสองนาน เสียงครางของคนทั้งสองที่กำลังแลกลิ้นถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของกันและกัน เมื่อร่องสวาทดูดกลืนแท่งร้อนมโหฬารหนักเข้าก็เริ่มตอดรัดรุนแรงเพราะใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง“อื้อ.. อื้อ...” และแล้วพิริสาก็บิดเกร็งแอ่นเร่าตาปรือเยิ้ม มือไม้จิกอยู่ที่ลำแขนแกร่งของคนเป็นสามีจนแทบจะฝังเนื้อเซรเกย์เสียบเจ้าแท่งร้อนคาร่องสวาทเอาไว้ไม่ขยับ เพราะต้องการปล่อยให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันเขาก็ยังบดจูบด้วยลีลาเร่าร้อนเพื่อเล้าโลมคนตัวเล็กให้พร้อมรับกับลีลาสวาทของเขาอีกรอบเมื่อจับจังหวะการหายใจของภรรยาตัวเล็กว่าเป็นปกติเขาก็เริ่มสาวแท่งร้อนดึงออกจนสุดกดเข้าจนมิดไปกับร่องสวาทที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักอีกรอบให้เร็วและแรงกว่าเดิม จนเกิดเป็นเสียงเนื้อที่กำลังเปียกแฉะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วห้อง“เซรเกย์ อื้อ...” พิริสาหัวสั่นหัวครอน ความเสียวซ่านพุ่งเข้ามาในร่างกายจนเริ่มจะแตะข
“อ๋อ ฉันว่าหาของบำรุงสักพักแกก็คงจะกลับมาแข็งแรงเองนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าแกเพิ่งผ่านการรักษาตัวมานะ เดี๋ยวอีกสักพักลองไปตรวจร่างกายใหม่ก็ได้”“เซรเกย์ก็บอกฉันแบบนั้น”“จุนน้า...”“ยัยหนู” เห็นหลานสาวตัวกลมวัยเกือบสองขวบก็รีบเข้าไปรวบอุ้มมานั่งที่ตัก ก่อนจะหอมไปที่พวงแก้มย้วยๆ อีกฟอดใหญ่“คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย” พิริสากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกสาวของกลิ่นชวากันจนหายคิดถึง ยิ่งเห็นหลานก็อยากจะมีลูกใจจะขาด ทว่าก็ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่าร่างกายของเธอจะสามารถมีลูกได้เมื่อไหร่ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกเห็นพิริสากำลังเล่นอยู่กับเจ้าตัวกลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกถึงความเป็นกังวล โดยเฉพาะเซรเกย์“ดูท่าริสาคงอยากจะมีลูกมากๆ ฉันรู้ว่าริสานิสัยเหมือนว่าน ทางที่ดีนายควรรีบบอกเรื่องที่เธอควรรู้จะดีกว่า” วาดิมเสนอความเห็นหลังจากรับรู้ความจริงว่าเพราะอะไรกันแน่พิริสาถึงยังมีลูกไม่ได้“ฉันยังไม่พร้อมเห็นริสาผิดหวัง เอาเป็นว่าหลังจากการตรวจร่างกายครั้งหน้าไม่ดีขึ้นก็ค่อยบอกเธอตอนนั้น”“อืม ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”เซรเกย์ยืนถอนหายใ
“แล้วริสาจะไปเที่ยวหานะคะคุณพ่อคุณแม่” พิริสาเข้าไปกอดพ่อกับแม่ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางกลับอิตาลีหลังจากที่เบาใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของเธอแล้ว“ยายจ๋า รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วริสาจะพาเจ้าตัวเล็กไปวิ่งเล่นด้วย” เธอผละออกมาจากดันเต้และรสสุคนเข้ามากอดสอางค์“เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วยายจะส่งสมุนไพรบำรุงร่างกายมาให้นะ”“ขอบคุณค่ะ” ฟอด ฟอด สาวเจ้าหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นยายฟอดใหญ่ๆ เป็นประจำทุกครั้งที่ต้องจากกัน ไม่ว่าเธอจะโตมากแค่ไหนเธอก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กกับยายของเธอเสมอ เพราะรู้ว่ายายนั้นชอบเห็นความสดใสของเธอ และเธอเองก็ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของคนเป็นยายรวมไปถึงพ่อกับแม่ไปนานๆ“แล้วก็ดูแลลูกฉันให้ดีล่ะ ถ้ามีเรื่องให้ลูกฉันเจ็บตัวอีก ฉันพาลูกฉันกลับไปดูแลเองจริงๆ ด้วย” ดันเต้หันมาส่งเสียงดุให้เซรเกย์ส่งท้ายก่อนกลับ เชื่อว่าเซรเกย์จะดูแลลูกสาวของเขาได้ดี ทว่าก็อดที่จะกำชับอีกครั้งตามประสาพ่อที่หวงและห่วงลูกไม่ได้สิ้นเสียงแข็งของคนเป็นพ่อ พิริสาก็รีบเข้าไปกอดเอวเซรเกย์เอาไว้แน่น “ไม่นะคะคุณพ่อ ริสารักเซรเกย์ม๊ากมาก ไม่ยอมไปไหนหรอกค่ะ”รสสุคนและสอางค์ต่างก็ส่ายหน้าให้กับคำพูดของดันเต้ ทว่าก็อม
“คิดอะไรอยู่” เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ก็เข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนกอดอกเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยอาการเหม่อลอยพิริสารีบผลักคนที่เปลือยท่อนบนโชว์แผงกล้ามออกจากตัว “ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ” มองกล้ามเนื้อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีครู่เดียวก็ต้องหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าร้อนผ่าวเพราะไม่ชินกับการมองผู้ชายถอดเสื้อ“คุณเขินเหรอ” ริมฝีปากหนาอมยิ้มกรุ่มกริ่ม“ใครจะไม่เขินล่ะ”“หันมาดูให้เต็มตาสิ มันเป็นของคุณนะ คุณจะเขินทำไม” เขาดึงมือเธอมาลูบบนเนินอกที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ“ของฉันเหรอ” แม้จะเคอะๆ เขินๆ แต่แผงกล่ามของเขามันก็น่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย เลยถือวิสาสะลูบๆ คลำๆ อยู่เช่นนั้นจนรับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีไขมันแม้แต่นิดเดียว“ใช่ ก็ผมเป็นของคุณ เป็นสามีคุณ จะดูตรงอื่นด้วยไหม”“ไม่ต้องค่ะ” รีบถอยห่างพร้อมยกมือทั้งสองข้างปิดตา เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอมองว่าเขาเจ้าเล่ห์จะพูดจริงหรือพูดเล่น ทว่าเธอก็ไม่เสี่ยงเปิดตาเอาไว้ แค่เห็นแผงกล้ามของเขาเธอก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว หากเห็นอย่างอื่นคงได้วิ่งออกไปข้างนอกแน่“เวลาคุณเขิน น่ารักมากเลยรู้ไหม”“แกล้งฉันใช่ไหมคะ” มือทั้งสองค่อ
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท