“ภาพชัดเจนขนาดนั้นยังจะแก้ตัวอีกเหรอคะ แล้ววันนั้นคุณก็ไม่บอกกับฉันด้วยซ้ำว่าเดเมียนส่งผู้หญิงมาให้คุณทั้งที่ปกติแล้วคุณจะบอกฉันทุกเรื่อง”
เซรเกย์ได้แต่ยืนเงียบ ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ยังไงเพราะเขาก็จำอะไรเกี่ยวกับเรื่องคืนนั้นไม่ได้เลย
บอริสที่เห็นท่าไม่ดีเลยเข้ามาขวางหน้าของพิริสาอีกคน แม้จะไม่รู้ว่าเบลล่าเข้าไปทำอะไรในห้องนอนของเจ้านาย แต่เขาก็เชื่อว่าเจ้านายของเขาไม่คิดนอกกายนอกใจนายหญิงของตนแน่
“นายหญิงต้อง เชื่อใจนายนะครับ ตั้งแต่ผมทำงานกับนายมาไม่เคยเห็นนายนอกรู้นอกทางเรื่องผู้หญิง นายเป็นคนที่บูชาความรักแค่ไหนนายหญิงก็น่าจะรู้นะครับ”
“ภาพมันชัดขนาดนั้น เป็นคุณเจอแบบฉันคุณจะคิดยังไงคุณบอริส” พิริสาถามบอริสกลับทั้งน้ำตา หากทุกคนเห็นคนรักของตัวเองทำพฤติกรรมอย่างที่เธอเห็น ยังทำใจเย็นแล้วไม่คิดไปไกลได้อีกเหรอ
“ฉันจะกลับบ้าน ถ้าไม่อยากให้ฉันตายอยู่ที่นี่ก็ถอยไป”
“ริสา”
และแล้วทั้งหัวหน้ามาเฟียและคนสนิทของเขาก็ต้องจำใจปล่อยให้พิริสาเดินหนีไป
เซรเกย์ไม่อยากจะประเมิณความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยว่าจะมีอะไรบ้างหากหัวหน้ามาเฟียอิตาลีรู้ว่าเขาทำร้ายจิตใจของลูกสาวตัวเอง เห็นทีคนที่จะช่วยไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่คาดไม่ถึงได้ ก็คงจะเป็นรสสุคนแม่ยายของเขา
ตอนนี้เซรเกย์ต้องปล่อยให้พิริสาทำตามความต้องการของตัวเองไปก่อน หากไปคะยั้นคะยอให้เธอเชื่อใจตอนนี้ก็คงไม่เป็นผลดี ปัญหาที่เขาต้องรีบจัดการอย่างเร่งด่วนก็คือเรื่องของเบลล่า ผู้หญิงที่จู่ๆ ก็เข้ามาบอกว่าท้องกับเขาทั้งที่สถานการณ์ความวุ่นวายในครอบครัวของเขากำลังจะหมดไปแล้วแท้ๆ
“คุณแน่ใจนะว่าคุณท้องกับเซรเกย์จริงๆ รู้ใช่ไหมว่าผลดีเอ็นเอเดี๋ยวนี้มันตรวจกันได้” รามิลเริ่มเปิดประเด็นซักถามเบลล่าอีกครั้ง
“ค่ะ ฉันมั่นใจว่าลูกในท้องฉันเป็นลูกของเซรเกย์ ไม่อย่างงั้นฉันไม่มาถึงที่นี่หรอกค่ะ ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณเซรเกย์รับผิดชอบอะไรฉัน แค่ให้เค้ารับผิดชอบลูกก็พอค่ะ”
“ถ้าเค้าเป็นลูกผมจริง ผมรับผิดชอบแน่ แค่ถ้าไม่ใช่ คุณต้องรับผิดชอบด้วยชีวิตของคุณ” เซรเกย์กัดฟันพูด เขาพยายามมองตาเบลล่า แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่หลบสายตา เป็นแบบนี้จะไม่ให้เขาคิดว่าเธอมีพิรุธได้อย่างไร
“ค่ะ ฉันจะยอมรับโทษด้วยชีวิตของฉัน” เบลล่าเอ่ยตอบเสียงอ่อน และยังคงนั่งก้มหน้างุด
“บ้าเอ้ย ทำไมฉันต้องจำอะไรไม่ได้ด้วยวะ” เซรเกย์ลุกขึ้นเดินไปเดินมาอย่างหัวเสีย ทำไมปัญหาต้องวิ่งเข้าหาในขณะที่เขายังจำอะไรไม่ได้ด้วย ฟ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับเขากันแน่
พิริสานั่งเครื่องบินส่วนตัวร่วมหกชั่วโมงเพื่อกลับมาหาพ่อกับแม่ที่อิตาลี เมื่อกลับมาถึงก็โผเข้าไปร้องให้กับอกของคนเป็นแม่ด้วยความเจ็บปวดหัวใจที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอไม่เคยเผื่อใจเอาไว้สักนิดว่าสามีที่เธอไว้เนื้อเชื่อใจ มั่นใจว่าเขาซื่อสัตย์เรื่องความรักและการให้เกียรติเธอเสมอมา เขาจะไปทำผู้หญิงคนอื่นท้อง
“ฮือ ฮือ ...เจ็บใจจังเลยค่ะ” เธอเอ่ยละล่ำละลักน้ำตาพรั่งพรูอยู่ในอ้อมอกคนเป็นแม่
“แม้รู้ทุกอย่างแล้วลูก หนูไม่ต้องพูดอะไร ถ้าอยากจะร้องให้ก็ร้องออกมาเลยลูก” รสสุคนไม่อยากให้พิริสาต้องพูดถึงเรื่องที่กำลังทำให้ใจสลาย เพราะเธอรู้เรื่องราวจากทางโทรศัพท์กับเซรเกย์แล้ว
รู้ว่าลูกเจ็บปวดแค่ไหน เพราะเธอเองก็เคยผิดหวังเรื่องความรักในตอนที่เข้าใจผิดกับสามี ตอนนี้เธอยังไม่เชื่อไปทางใดทางหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อลูกเขยบอกว่าให้เธอเชื่อใจ เธอก็จะรอคอยหลักฐานแล้วค่อยตัดสินในวันที่ความจริงปรากฎอีกที
คราแรกที่เธอและดันเต้รู้ว่าพิริสากำลังนั่งเครื่องบินกลับมาหาเพราะเซรเกย์ไปทำผู้หญิงท้องก็ตกอกตกใจไม่น้อย ซ้ำสามีของเธอที่เลือดร้อนก็คิดที่จะเปิดศึกกับลูกเขย ทว่าเธอก็พูดโน้มน้าวให้ดันเต้รอความจริงและหลักฐานจากเซรเกย์จนสามีใจเย็นลงได้
โดยให้ความเห็นว่าในชีวิตระดับหัวหน้ามาเฟียมักจะถูกผู้หญิงอยากเข้าหาเสมอ ไม่เว้นแม้แต่ดันเต้เอง ตอนนี้ก็แค่ให้เวลากับเซรเกย์หาความจริงเพื่อปกป้องว่าตัวเองบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ ถึงวันนั้นหากเรื่องจริงเผยว่าเซรเกย์ผิดจริงจะเอาเรื่องเอาความกันก็ไม่สาย
พิริสาปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจออกมาไม่ขาดสาย สะอึกสะอื้นตัวสั่นเทาอยู่พักใหญ่ คนเป็นแม่ที่เห็นลูกเจ็บก็แทบใจจะขาด ทว่าก็ข่มใจให้ฟูมฟายตามลูกไปอีกคน เพราะอยากให้ลูกได้รู้ว่าเธอยังเป็นที่พึ่งที่แข็งแกร่ง
น้ำตาแห่งความผิดหวังไหลทะลักจนแทบจะเป็นสายเลือด เสื้อของรสสุคนเปียกชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำตาของลูกสาว เธอยังคงกอดลูกไม่ปล่อย เป็นเช่นนั้นอยู่นาน และแล้วพิริสาก็ผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียทั้งร่างกายและจิตใจ
“ทำไมลูกเราต้องมาเจอเรื่องปวดหัวใจไม่เว้นว่างด้วย” ดันเต้กอดอกมองลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยพอใจ “ถ้าเซรเกย์มันดูแลลูกเราให้มีความสุขไม่ได้ก็ให้มันเลิกกับลูกเราเสียให้หมดเรื่อง”
“เอ๊ะ คุณนี่ก็ ความจริงยังไม่กระจ่างร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าเซรเกย์นอกใจลูกเราจริงหรือเปล่าคุณก็จะให้ลูกเลิกกับสามีอย่างเดียวเลย คุณเองก็เคยถูกเข้าใจผิดจะให้ฉันพูดย้ำเรื่องนี้อีกกี่รอบคะ”
“ก็ผมห่วงลูก”
“ฉันก็ห่วงลูกไม่น้อยไปกว่าคุณ แต่ก็ไม่ได้คิดอยากจะให้ริสาเลิกกับเซรเกย์ในขณะที่เซรเกย์กำลังพิสูจน์ตัวเอง ถ้าเรื่องราวทุกอย่างกระจ่างแล้วตอนนั้นเราค่อยให้ลูกตัดสินใจด้วยตัวเองอีกที อย่าให้ฉันรู้ว่าคุณไปข่มขู่อะไรเซรเกย์แล้วก็บังคับให้ลูกเราเลิกกับสามี ไม่อย่างงั้นฉันจะไม่อยู่กับคุณจริงๆ ด้วย”
“ทำไมต้องขู่ผมแบบนี้ด้วยโรส”
“ฉันไม่ได้ขู่ค่ะ พูดจริงๆ” รสสุคนรู้ว่าสามีของเธอเป็นคนเลือดร้อนแค่ไหน และรู้ว่าเขาก็รักลูกไม่ต่างจากเธอ แต่การจะไปแยกสามีภรรยาออกจากกันโดยที่พวกเค้าไม่ได้ตัดสินใจกันเอง เธอเห็นว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของพ่อแม่
ตื๊ด ตื๊ด ... เสียงโทรศัพท์ของรสสุคนดังขึ้น เมื่อเธอเห็นว่าเป็นสายของลูกเขยก็รีบกดรับสายและเดินออกมาคุยที่นอกห้องนอนของพิริสา
เซรเกย์โทรมารายงานรสสุคนว่าตอนนี้เขากำลังจะต้องรักษาตัว อาจจะไม่ได้ติดต่อไป และเขาก็เป็นห่วงพิริสามากๆ ด้วยรู้ว่าเธอกลับไปถึงก็เอาแต่ร้องให้ (ผมรับปากว่าผมจะหาความจริงให้ได้เร็วๆ นี้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฝากคุณแม่ดูริสาด้วยนะครับ)
“ฉันเข้าใจ ไม่ต้องห่วงริสา ถ้าคุณมั่นใจว่าไม่ได้ทำผู้หญิงคนนั้นท้องจริงก็หาหลักฐานมาให้ได้เร็วๆ ไม่ต้องห่วงทางนี้ ฉันจะคอยปลอบเค้าเอง”
(ขอบคุณครับคุณแม่)
วางสายจากลูกเขยได้ก็กลับไปนั่งเฝ้าพิริสาในห้องนอน ภาวนาในใจว่าให้ลูกของเธอเข้มแข็งเพื่อรอวันที่ความจริงกระจ่าง ด้วยลางสังหรณ์ของคนเป็นแม่ เธอเชื่อว่าเรื่องนี้มันมีเงื่อนงำ
หากลูกสาวของเธอผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้ก็ถือว่าเป็นบทเรียนของชีวิต วันข้างหน้าหากจะต้องเจอเรื่องผิดหวังอีกก็จะได้มีภูมิคุ้มกันของจิตใจ
ทางด้านเซรเกย์ตอนนี้เริ่มเข้ารับการรักษาตัวกับหมอโอเว่น เขาพอจะเบาใจได้เรื่องการสืบหาความจริง เพราะตอนนี้ทั้งวาดิมและรามิลต่างก็รับปากว่าก่อนเขาจะทำการรักษาตัวเสร็จ จะหาความจริงมาคลายปัญหาที่มีอยู่ให้ได้เรื่องราวอันน่าปวดหัวของเซรเกย์ถูกบอริสส่งข้อมูลให้กับมนต์ธารา สาวเจ้าที่กำลังพักผ่อนอยู่ต่างประเทศก็ต้องรีบบินกลับมาที่บ้านอย่างเร่งด่วนหญิงสาวลากกระเป๋าใบใหญ่มารอคนมารับที่หน้าสนามบินครู่ใหญ่ เมื่อเห็นว่าใครมารับก็เริ่มหน้าเจื่อน เธอเข้าใจว่าบอริสจะมารับเธอ ทว่ากลับเป็นรามิล คนที่เธอต้องการหนีหน้าเสียอย่างนั้น“ทำไมเป็นพี่มิลมารับล่ะคะ”“ไม่อยากเจอพี่มากขนาดนั้นเลยหรือไง”มนต์ธาราไม่ได้ตอบอะไรกับรามิล เธอเดินผ่านหน้าของเขาขึ้นไปนั่งบนรถตู้ขณะที่บอดี้การ์ดกำลังยกกระเป๋าของเธอขึ้นรถตลอดทางกลับบ้านภายในรถมีแต่ความเงียบ เพราะมนต์ธาราไม่ได้คิดที่จะคุยอะไรกับรามิล ส่วนชายหนุ่มเองก็นั่งหน้าบึ้งตึง ไม่สบอารมณ์ที่มองออกว่าหญิงสาวไม่ได้อยากเห็นหน้าเขา จวบจนกลับมาถึงบ้าน รามิลถึงได้จำใจพูดเรื่องที่เขาจะต้องพูด“ตอนนี้พี่กับวาดิมกำลังเร่งกันสืบหาความจริงว่าเรื่องเซรเกย์กับเบลล่ามันเป็นยังไงเป
หลังจากวาดิมฟันธงว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของมิล่า ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพวกเขาก็พาตัวเบลล่ามาที่เซฟเฮ้าส์“รู้ใช่ไหมว่าการโกหกว่าตัวเองท้องกับหัวหน้ามาเฟีย ต้องเจอกับอะไร”“ใครโกหกคะ ฉันบอกแล้วไงคะว่าไม่ได้โกหก แล้วฉันก็ไม่ได้คิดจะเรียกร้องอะไรด้วย แค่ให้คุณเซรเกย์รับผิดชอบแค่ลูกเท่านั้น” เบลล่ายังคงยืนยันกระต่ายขาเดียวกับวาดิม“อะไรทำให้คุณมั่นใจนักหนา” รามิลเอ่ยถามหญิงสาว“ก็ตรวจดีเอ็นเอสิคะ ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ”“คุณจะให้หมอไลลาตรวจใช่ไหม”สิ้นเสียงของรามิล บอริสก็เดินออกมาพร้อมกับหมอสาว เพื่อนสนิทของมิล่า“คุณหมอ” เบลล่าหน้าถอดสี เพราะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองถูกจับผิดจนได้“คุณหมอสารภาพกับพวกผมหมดแล้วว่ามิล่าขู่ให้ทำทุกอย่างตามคำสั่ง แล้วก็ขู่ให้คุณหมอช่วยแจ้งผลดีเอ็นเอลูกคุณว่าตรงกับเซรเกย์ ทั้งที่คุณท้องกับคนอื่น มีอะไรจะสารภาพไหม” วาดิมยืนกอดอกมองเบลล่าไม่วางตา ท่าทางมิล่าคงจะจ่ายให้หญิงสาวไม่น้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่มั่นใจจนยืนยันว่าตัวเองไม่ได้โกหก“ถ้าคุณยอมสารภาพมาดีๆ ผมจะลองขอให้เซรเกย์ไว้ชีวิตคุณกับลูก” สายตาที่รามิลมองเบลล่าเต็มไปด้วยความระอา หากหลักฐานไม่มัดตัวแน่นก็ไม่ยอมรับสารภาพจริงๆ สิ
เมื่อลูก้า บอดี้การ์ดหนุ่มฝีมือดีพาคุณหนูของตระกูลมาถึงบ้านของมิล่าได้ เขาก็เตรียมจะเดินตามพิริสาเข้าไปข้างในบ้านของศัตรูคุณหนูของเขาด้วย“อยู่ตรงนี้ไม่ต้องเข้าไปค่ะ”“แต่ว่านายใหญ่สั่งให้ผมดูแลคุณหนูตลอดเวลานะครับ”“ฉันสั่งให้คุณอยู่ตรงนี้ก็ต้องอยู่ตรงนี้ค่ะ ไม่อย่างงั้นฉันจะรายงานคุณพ่อว่าคุณชอบขัดคำสั่งฉัน”“โถ่คุณหนู” ลูก้าหน้าเสียจะขัดคำสั่งคุณหนูของตนก็ไม่ได้ หากเกิดอันตรายกับพิริสาเข้า เขาก็ต้องถูกดันเต้เชือดแน่พิริสาไม่สนใจที่จะฟังเสียงใครทั้งนั้น เธอเดินดุ่มผ่านหน้าเหล่าบอดี้การ์ดที่รักษาความปลอดภัยของบ้านมิล่าเข้ามาได้อย่างง่ายๆ เพราะไม่มีใครกล้าขวางภรรยาหัวหน้ามาเฟียอย่างเธอ“ถ้าพวกนายตามเข้า ฉันจะให้เซรเกย์ปลดพวกนายออกจากองค์กรให้หมด” เธอพ่นคำประกาศิตกับเหล่าบอดี้การ์ดที่กำลังจับจ้องมายังเธอเป็นตาเดียวเสียงดัง จากนั้นก็เดินดุ่มเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ตะโกนเรียกหามิล่าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะ“มิล่า แกอยู่ที่ไหนออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้”เสียงเอะอะโวยวายดังสนั่นไปทั่วโถงใหญ่ ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นหมอสาวที่ใบหน้ายังเหลือร่องรอยคมเล็บของพิริสาก็ค่อยๆ เดินลงมาจากบันได“โอ้ย...เอา
“ฉันติดต่อริโอะไม่ได้ รู้ว่าเธอทำงานกับริสาก็เลยมาหาที่นี่”“เธอไม่เคยทำงานกับริสา”คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความฉงน เขาเข้าใจมาตลอดว่าตลอดเวลาที่ริโอะออกจากบ้านของเขาไป เธอมาทำงานอยู่กับพิริสา“หลังจากริสากลับมาเธอก็ทาบทามริโอะ แต่ริโอะก็ปฏิเสธมาตลอด และสุดท้ายก็ติดต่อริโอะไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้ฉันยังคิดว่าริโอะทำงานกับนายอยู่เลย”“ไม่ ถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่แล้วจะอยู่ที่ไหน”“นั่นสิ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอเป็นแค่คนดูแลบ้านกับช่วยงานนายเล็กๆ น้อยๆ ทำไมนายดูจะสนใจเธอจนกล้ามาหาฉันถึงที่นี่” เซรเกย์พอจะมองออกว่าริโอะกับเรนมีอะไรพิเศษต่อกัน ด้วยดูจากท่าทางของเรน เขาไม่ใช่คนที่จะสนใจใครง่ายๆ อีกทั้งแค่คนดูแลบ้านลาออกแค่คนเดียว ก็ไม่น่าจะเป็นห่วงเป็นใยจนต้องตามหาขนาดนี้“เรื่องริโอะ ฉันจะให้คนตามหาเอง ส่วนเรื่องริสา นายจะเล่าให้ฉันฟังได้ไหมว่าเธอเป็นอะไร”เซรเกย์นึกถึงเรื่องภรรยาของตนก็นั่งหน้าห่อเหี่ยว จากนั้นก็เริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับเรนได้รับรู้อยู่ครู่ใหญ่ ทางด้านเรนที่รับรู้เรื่องทั้งหมดก็แทบจะกลืนน้ำลายไม่ลงคอ เพราะรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ ที่เป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวของเซรเกย์เกิดปัญ
หลังจากใช้เวลาร่วมชั่วโมง หมอโอเว่นก็ได้เลือดของเซรเกย์มาในปริมาณที่เพียงพอ และหลังจากนี้เขาก็ต้องใช้เวลาอีกร่วมวันที่จะสกัดเอาสารของยาถอนพิษจากเลือดของเซรเกย์ครึ่งค่อนคืนแล้วที่เซรเกย์ยังคงเฝ้าพิริสาที่นอนเป็นผักกันอยู่ไม่ห่าง แม้จะอ่อนเพลียจากการเสียเลือดแต่เขาก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ ยิ่งมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของคนที่เขารักหมดหัวใจก็ยิ่งรู้สึกปวดหัวใจทั้งยังโทษตัวเองที่ไม่มีความสามารถปกป้องภรรยาให้ดีเช่นที่เคยสัญญากับเธอเอาไว้ในวันแต่งงาน“ผมขอโทษ ริสา” เขาก้มจรดหน้าผากกับหลังมือเรียวที่แสนเย็นเฉียบ พร้อมทั้งเอ่ยขอโทษเสียงสั่น“ผมขอโทษ...” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขาดๆ หายๆ ทั้งยังสั่นเครือขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานนักน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลออกมาจาความรู้สึกผิดที่สุดในหัวใจก็หยดลงบนหลังมือเรียวเล็กที่เขาได้กุมเอาไว้เซรเกย์ลุกขึ้นโน้มตัวลงพรมจูบที่พวงแก้มนวลไล่ไปยังเปลือกตาที่ปิดสนิท เขาทำให้เธอต้องเจ็บปวดหัวใจจากการที่ไปรู้สึกรักคนอื่นไม่พอ ยังทำให้เธอต้องมาเจอชะตากรรมที่เธอไม่ควรจะได้เจอเพียงเพราะเขาไม่เด็ดขาดในการจัดการกับมิล่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เขาจะไม่ยอมให้เธอคลาดสายตาไปแม้
“มีคนอื่นแล้วใช่ไหมถึงได้ไล่พี่ให้ไปหาคนอื่น”“มนต์ไม่มีใครทั้งนั้นค่ะ ถึงมนต์มีก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่มิล ถ้าอยากคุยกันเรื่องของเรา มนต์ก็ขอให้พี่มิลไปพูดกับผู้ใหญ่เรื่องถอนหมั้น พวกท่านจะได้ไม่ต้องหวังว่าเราจะได้แต่งงานกันซะที มนต์ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมพี่มิลถึงได้กลัวนักหนาว่าผู้ใหญ่จะไม่สบายใจ มันเป็นชีวิตของเรานะคะพี่มิล”สิ้นเสียงหญิงสาวทุกอย่างก็อยู่ในความเงียบ รามิลยังคงจ้องหน้าประสานสายตากับมนต์ธาราอย่างไม่มีใครยอมใคร เธอเอาหัวใจของเขาไปครอบครองแล้ว มีหรือเขาจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ ตามที่เธอบอก“ก็เพราะพี่รักมนต์ไง พี่รักมนต์ได้ยินไหม” เขาเอ่ยเสียงดังฟังชัดจนมนต์ธาราเริ่มอ้าปากค้าง เบิกตาโพลง เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากของรามิล“ที่พี่ไม่กล้าบอกก็เพราะกลัวว่ามนต์จะมองพี่ไม่เหมือนเดิม เพราะพี่รู้ว่ามนต์ไม่ได้รักพี่” เขากล้าที่จะเผยทุกอย่างที่อยู่ในใจโดยที่ไม่คิดกลัวอะไรอีกแล้ว“มนต์อยากรู้ว่าพี่มิลคิดแบบนี้กับมนต์ตั้งแต่เมื่อไหร่” เธอจำได้ว่าหลังจากงานหมั้น ชายหนุ่มยังดูฟูมฟายผิดหวังที่ต้องเลิกกับมารีน่า ทำไมตอนนี้เขากลับมาพูดว่ารักเธอ“หลังจากที่เราหมั้นกันได้ไม่เท่าไหร่
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“ริสา”“สรุปว่าพวกคุณรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันจะมีลูกไม่ได้หลังจากใช้ยาถอนพิษเหรอคะ”“ผมขอโทษริสา แต่ที่ผมไม่บอกเพราะกลัวว่าคุณจะไม่ยอมรักษาตัว ถ้าปล่อยให้พิษนั่นอยู่ในร่างกายนานๆ มันทำลายระบบประสาทหลายอย่าง”พิริสาไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นเซรเกย์เข้ามาใกล้ เธอก็รีบวิ่งหนี หากเขาบอกเธอถึงความจริงของผลข้างเคียง วันนั้นเธอก็อาจจะทำใจยอมรับเรื่องที่จะมีลูกไม่ได้ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอมีความหวังจนไม่อาจจะผิดหวังได้แล้ว ทำไมเรื่องมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย“ฮื่อ ฮือ ฮือ ฮือ...” เธอวิ่งไปไม่รู้จุดหมาย พร้อมน้ำตาพรั่งพรูและเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อหัวใจถูกบีบรัดมากเข้าเธอก็เริ่มหูอื้อตาลาย และหมดสติไป“ริสา” เซรเกย์วิ่งไปรับร่างของพิริสาได้ทันท่วงที จากนั้นก็รีบสาวเท้าพาเธอเข้าไปให้โอเว่นดูอาการพิริสายังนอนให้หมอตรวจโดยที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ทั้งยังไม่คิดที่มองหน้าทั้งหมอโอเว่นและสามีของเธอ เพราะยังโกรธเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมบอกเธอถึงผลข้างเคียงทุกอย่างของการใช้ยาถอนพิษ ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดหวังมากๆ ในตอนนี้“ผมว่าเรากำลังจะมีข่าวดีแล้วล่ะ” จากการที่โอเว่นได้เริ่มศึกษาแพทย์แผนจีน เขาก็พอจะจับชีพจ
ตั้งแต่มาถึงร้านสมุนไพรได้ พิริสาก็ถูกหมอจีนตรวจชีพจรอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เคยเจอคนที่เลือดลมเดินทางแปลกๆ เช่นหญิงสาวมาก่อน“อืม...แปลกๆ” หมอสมุนไรวัยเกือบแปดสิบสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ก่อนจะปล่อยมือจากชีพจรของหญิงสาวและหยิบตำราใจใต้ลิ้นชักขึ้นมาดูเซรเกย์ที่เห็นว่าได้จังหวะเขาจึงเริ่มออกอุบายที่วางแผนเอาไว้ “ผมลืมเอามือถือมาจากในรถ ริสาไปเอาให้ผมหน่อยได้ไหม”“ได้สิคะ”ให้หลังพิริสาไปได้ เซรเกย์ก็ถือโอกาสพูดคุยรายละเอียดทุกอย่างกับหมอจีน หวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งให้กับคนที่ลูกยากได้จริงๆ อย่างที่ริโอะได้พูดเอาไว้ทางด้านพิริสาเธอก็เอาแต่หาโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เจอมันก็ตกอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งของเขา กว่าจะกลับเข้าไปในร้านยาได้ เธอก็เห็นหมอจีนเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว“หมอจัดยาให้เรียบร้อยแล้วนะริสา”“เหรอคะ ไวดีจังเลย”“คุณต้องดื่มยาต้มนี่ทุกวัน วันละสามเวลาเป็นเวลาสามเดือน”“แค่นี้จะพอเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเริ่มเพ่งมองไปยังห่อสมุนไพรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สามห่อ“แล้วผมจะส่งสมุนไพรตามไปให้ทุกครึ่งเดือน ระหว่างนี้ก็งดอาหารหมักดอง แล้วก็ต้องทานอาหารที่ทำสดใหม่เ
“ริโอะ”ขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ เสียงที่แสนคุ้นหูก็ดังแว่วมาแต่ไกลทำให้ริโอะรีบหันไปยังต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว “อ้าวคุณริสา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ”“มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ ริโอะทำขาหมูไว้ให้คุณริสาด้วยนะคะ”“คุณเรนบอกแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้าไปในบ้าน อยากคุยกับริโอะก่อน”“มีอะไรเหรอคะ”“ริโอะกำลังงอนคุณเรนอยู่ใช่ไหม”สีหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มเริ่มเจื่อนลง ไม่ผิดหรอกที่เรนเข้าใจเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาสร้างข้อจำกัดให้เธอจนเธอรู้สึกอึดอัด“ฉันรู้ว่าที่คุณเรนห้ามริโอะทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง แล้วฉันก็รู้ว่าริโอะรู้ตัวว่าริโอะทำทุกอย่างได้ ฉันก็เลยบอกให้คุณเรนกับริโอะแก้ปัญหากันคนละครึ่งทาง”“ยังไงเหรอคะ” แววตาของริโอะในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย การแก้ปัญหาคนละครึ่งทางหมายความว่ายังไง“ลองคุยกับคุณเรนอีกรอบสิ” พิริสาหันหน้าไปมองเรนที่กำลังยืนดูเธอและริโอะอยู่ห่างๆ“ฉันขอตัวไปรอในบ้านนะ”หลังจากพิริสาลุกออกไป เรนก็เข้ามานั่งแทนที่ของเธอ เพราะเรนต้องการที่จะคุยกับริโอะตามที่พิริสาและเซรเกย์แนะนำ
“อื้อ...” ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ เสียงครางของความเจ็บจุกถูกดูดเข้าไปในลำคอสามี หลังจากนั้นเธอก็หัวสั่นหัวครอนไปกับแรงกระกระทั้นจากการมอบบทสวาทของสามีตัวโตเซรเกย์บดสะโพกส่งเจ้าแท่งร้อนมโหฬารเข้าออกร่องสวาทถี่รัวไม่มีผ่อนอยู่นานสองนาน เสียงครางของคนทั้งสองที่กำลังแลกลิ้นถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของกันและกัน เมื่อร่องสวาทดูดกลืนแท่งร้อนมโหฬารหนักเข้าก็เริ่มตอดรัดรุนแรงเพราะใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง“อื้อ.. อื้อ...” และแล้วพิริสาก็บิดเกร็งแอ่นเร่าตาปรือเยิ้ม มือไม้จิกอยู่ที่ลำแขนแกร่งของคนเป็นสามีจนแทบจะฝังเนื้อเซรเกย์เสียบเจ้าแท่งร้อนคาร่องสวาทเอาไว้ไม่ขยับ เพราะต้องการปล่อยให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันเขาก็ยังบดจูบด้วยลีลาเร่าร้อนเพื่อเล้าโลมคนตัวเล็กให้พร้อมรับกับลีลาสวาทของเขาอีกรอบเมื่อจับจังหวะการหายใจของภรรยาตัวเล็กว่าเป็นปกติเขาก็เริ่มสาวแท่งร้อนดึงออกจนสุดกดเข้าจนมิดไปกับร่องสวาทที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักอีกรอบให้เร็วและแรงกว่าเดิม จนเกิดเป็นเสียงเนื้อที่กำลังเปียกแฉะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วห้อง“เซรเกย์ อื้อ...” พิริสาหัวสั่นหัวครอน ความเสียวซ่านพุ่งเข้ามาในร่างกายจนเริ่มจะแตะข
“อ๋อ ฉันว่าหาของบำรุงสักพักแกก็คงจะกลับมาแข็งแรงเองนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าแกเพิ่งผ่านการรักษาตัวมานะ เดี๋ยวอีกสักพักลองไปตรวจร่างกายใหม่ก็ได้”“เซรเกย์ก็บอกฉันแบบนั้น”“จุนน้า...”“ยัยหนู” เห็นหลานสาวตัวกลมวัยเกือบสองขวบก็รีบเข้าไปรวบอุ้มมานั่งที่ตัก ก่อนจะหอมไปที่พวงแก้มย้วยๆ อีกฟอดใหญ่“คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย” พิริสากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกสาวของกลิ่นชวากันจนหายคิดถึง ยิ่งเห็นหลานก็อยากจะมีลูกใจจะขาด ทว่าก็ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่าร่างกายของเธอจะสามารถมีลูกได้เมื่อไหร่ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกเห็นพิริสากำลังเล่นอยู่กับเจ้าตัวกลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกถึงความเป็นกังวล โดยเฉพาะเซรเกย์“ดูท่าริสาคงอยากจะมีลูกมากๆ ฉันรู้ว่าริสานิสัยเหมือนว่าน ทางที่ดีนายควรรีบบอกเรื่องที่เธอควรรู้จะดีกว่า” วาดิมเสนอความเห็นหลังจากรับรู้ความจริงว่าเพราะอะไรกันแน่พิริสาถึงยังมีลูกไม่ได้“ฉันยังไม่พร้อมเห็นริสาผิดหวัง เอาเป็นว่าหลังจากการตรวจร่างกายครั้งหน้าไม่ดีขึ้นก็ค่อยบอกเธอตอนนั้น”“อืม ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”เซรเกย์ยืนถอนหายใ
“แล้วริสาจะไปเที่ยวหานะคะคุณพ่อคุณแม่” พิริสาเข้าไปกอดพ่อกับแม่ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางกลับอิตาลีหลังจากที่เบาใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของเธอแล้ว“ยายจ๋า รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วริสาจะพาเจ้าตัวเล็กไปวิ่งเล่นด้วย” เธอผละออกมาจากดันเต้และรสสุคนเข้ามากอดสอางค์“เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วยายจะส่งสมุนไพรบำรุงร่างกายมาให้นะ”“ขอบคุณค่ะ” ฟอด ฟอด สาวเจ้าหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นยายฟอดใหญ่ๆ เป็นประจำทุกครั้งที่ต้องจากกัน ไม่ว่าเธอจะโตมากแค่ไหนเธอก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กกับยายของเธอเสมอ เพราะรู้ว่ายายนั้นชอบเห็นความสดใสของเธอ และเธอเองก็ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของคนเป็นยายรวมไปถึงพ่อกับแม่ไปนานๆ“แล้วก็ดูแลลูกฉันให้ดีล่ะ ถ้ามีเรื่องให้ลูกฉันเจ็บตัวอีก ฉันพาลูกฉันกลับไปดูแลเองจริงๆ ด้วย” ดันเต้หันมาส่งเสียงดุให้เซรเกย์ส่งท้ายก่อนกลับ เชื่อว่าเซรเกย์จะดูแลลูกสาวของเขาได้ดี ทว่าก็อดที่จะกำชับอีกครั้งตามประสาพ่อที่หวงและห่วงลูกไม่ได้สิ้นเสียงแข็งของคนเป็นพ่อ พิริสาก็รีบเข้าไปกอดเอวเซรเกย์เอาไว้แน่น “ไม่นะคะคุณพ่อ ริสารักเซรเกย์ม๊ากมาก ไม่ยอมไปไหนหรอกค่ะ”รสสุคนและสอางค์ต่างก็ส่ายหน้าให้กับคำพูดของดันเต้ ทว่าก็อม
“คิดอะไรอยู่” เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ก็เข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนกอดอกเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยอาการเหม่อลอยพิริสารีบผลักคนที่เปลือยท่อนบนโชว์แผงกล้ามออกจากตัว “ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ” มองกล้ามเนื้อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีครู่เดียวก็ต้องหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าร้อนผ่าวเพราะไม่ชินกับการมองผู้ชายถอดเสื้อ“คุณเขินเหรอ” ริมฝีปากหนาอมยิ้มกรุ่มกริ่ม“ใครจะไม่เขินล่ะ”“หันมาดูให้เต็มตาสิ มันเป็นของคุณนะ คุณจะเขินทำไม” เขาดึงมือเธอมาลูบบนเนินอกที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ“ของฉันเหรอ” แม้จะเคอะๆ เขินๆ แต่แผงกล่ามของเขามันก็น่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย เลยถือวิสาสะลูบๆ คลำๆ อยู่เช่นนั้นจนรับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีไขมันแม้แต่นิดเดียว“ใช่ ก็ผมเป็นของคุณ เป็นสามีคุณ จะดูตรงอื่นด้วยไหม”“ไม่ต้องค่ะ” รีบถอยห่างพร้อมยกมือทั้งสองข้างปิดตา เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอมองว่าเขาเจ้าเล่ห์จะพูดจริงหรือพูดเล่น ทว่าเธอก็ไม่เสี่ยงเปิดตาเอาไว้ แค่เห็นแผงกล้ามของเขาเธอก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว หากเห็นอย่างอื่นคงได้วิ่งออกไปข้างนอกแน่“เวลาคุณเขิน น่ารักมากเลยรู้ไหม”“แกล้งฉันใช่ไหมคะ” มือทั้งสองค่อ
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท