เมื่อลูก้า บอดี้การ์ดหนุ่มฝีมือดีพาคุณหนูของตระกูลมาถึงบ้านของมิล่าได้ เขาก็เตรียมจะเดินตามพิริสาเข้าไปข้างในบ้านของศัตรูคุณหนูของเขาด้วย
“อยู่ตรงนี้ไม่ต้องเข้าไปค่ะ”
“แต่ว่านายใหญ่สั่งให้ผมดูแลคุณหนูตลอดเวลานะครับ”
“ฉันสั่งให้คุณอยู่ตรงนี้ก็ต้องอยู่ตรงนี้ค่ะ ไม่อย่างงั้นฉันจะรายงานคุณพ่อว่าคุณชอบขัดคำสั่งฉัน”
“โถ่คุณหนู” ลูก้าหน้าเสียจะขัดคำสั่งคุณหนูของตนก็ไม่ได้ หากเกิดอันตรายกับพิริสาเข้า เขาก็ต้องถูกดันเต้เชือดแน่
พิริสาไม่สนใจที่จะฟังเสียงใครทั้งนั้น เธอเดินดุ่มผ่านหน้าเหล่าบอดี้การ์ดที่รักษาความปลอดภัยของบ้านมิล่าเข้ามาได้อย่างง่ายๆ เพราะไม่มีใครกล้าขวางภรรยาหัวหน้ามาเฟียอย่างเธอ
“ถ้าพวกนายตามเข้า ฉันจะให้เซรเกย์ปลดพวกนายออกจากองค์กรให้หมด” เธอพ่นคำประกาศิตกับเหล่าบอดี้การ์ดที่กำลังจับจ้องมายังเธอเป็นตาเดียวเสียงดัง จากนั้นก็เดินดุ่มเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ตะโกนเรียกหามิล่าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะ
“มิล่า แกอยู่ที่ไหนออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้”
เสียงเอะอะโวยวายดังสนั่นไปทั่วโถงใหญ่ ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นหมอสาวที่ใบหน้ายังเหลือร่องรอยคมเล็บของพิริสาก็ค่อยๆ เดินลงมาจากบันได
“โอ้ย...เอายังไงดีวะ” ลูก้ายืนหัวเสีย ตอนนี้สิ่งที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็คือการโทรไปรายงานปัญหาใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเซรเกย์
“คนอย่างแกนี่มันหลุดมาจากนรกขุมไหนฮะ! ชั่วช้าใจยักษ์ใจมาร สารเลวที่สุด...” พิริสาชี้หน้าต่อว่ามิล่าอย่างเหลืออด
“จะด่าอะไรฉันก็ตามสบาย ฉันไม่ถือ อย่างน้อยฉันก็ทำให้แกร้องให้ขี้มูกโป่งได้หลายรอบอยู่นะ” มิล่าหรือจะไม่รู้ว่าความลับของเธอได้ถึงหูทุกคนไปแล้ว ไม่เว้นแม้กระทั่งพี่ชาย เธอเลยถูกกักบริเวณด้วยเหล่าบอดี้การ์ดหลายสิบนาย และดูท่าเหยื่อที่เธอต้องการที่จะเอาชนะให้สาแก่ใจก็ดันลอยมาเข้าปากให้เธอได้งับง่ายๆ เองเสียด้วย
“มีอะไรกัน” ราเดนขับรถเข้ามาได้ก็เห็นว่าหน้าบ้านค่อนข้างชุลมุนเป็นพิเศษ
ลูก้าเห็นคนที่เปิดประจกรถทักถาม เขาก็จำได้ทันทีว่าชายหนุ่มเป็นหัวหน้าคลังอาวุธขององค์กรมาเฟีย แล้วก็น่าจะเป็นคนที่ทำให้สถานการณ์ด้านในคลี่คลายได้ “คุณราเดน คุณริสาอยู่ข้างในครับ เธอไม่ยอมให้ผมกับบอดี้การ์ดเข้าไป”
ราเดนรู้เช่นนั้นก็รีบเหยียบคันเร่งขับรถเข้าไปจอดที่หน้าบ้าน จากนั้นก็รีบลงจากรถหมายจะรีบเดินเข้าไปในบ้าน ทว่ายังไม่ทันที่จะก้าวไปไหน เสียงเอะอะโวยวายก็เข้ามากระทบรูหู
เขารีบสาวเท้าสับไปห้ามสองสาวที่กำลังดึงทึ้งผลัดกันวาดฝ่ามือตบตี “หยุดเดี๋ยวนี้เลย” เขาเข้าไปดึงตัวของมิล่าออกมา จากนั้นก็ยืนตรงกลางขวางทั้งสองเอาไว้
“โอ้ย...” พิริสาที่ไม่คิดจะยอมจบง่ายๆ เพราะเธอยังไม่ได้เอาคืนมิล่าจนสาแก่ใจแต่ก็ต้องล้มลงไปกองที่พื้นเสียก่อน
“คุณริสา” ราเดนย่อตัวลงไปประคองหญิงสาวที่กำลังจะล้มไปกับพื้น
“ฉันปวดหัว”
“นี่...” ราเดนเห็นเข็มหมุดเล็กที่ปักอยู่ที่ท้ายทอยของพิริสาก็รีบดึงเข็มนั้นขว้างทิ้งในทันที ก่อนจะหันไปมองน้องสาวตนด้วยสายตาโกรธเคือง ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นพิริสาก็สลบเหมือดคาอกของราเดน
“ทำไมถึงเลวได้ขนาดนี้มิล่า”
“แล้วมึงมาเสือกอะไรกับชีวิตกูล่ะ สมน้ำหน้ามัน อยากแส่มาหาเรื่องเองทำไม”
“ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาหาฉันเดี๋ยวนี้”
“มีอะไรครับนาย” บอดี้การ์ดร่วมห้านายรีบกรูกันเข้ามาข้างในเมื่อได้ยินเสียงเรียก
“พามิล่าไปขังไว้ในห้องใต้ดิน ไม่ต้องให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ถ้าฉันไม่สั่งก็ห้ามใครปล่อยเธอทั้งนั้น”
“มึงไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับกู” มิล่าชี้หน้าด่าทอพี่ชายที่เธอไม่ได้คิดเคารพ เธอหมายจะวิ่งหนี แต่ก็ถูกเหล่าบอดี้การ์ดหิ้วปีกลงไปที่ชั้นใต้ดินจนได้
“คุณริสา” ราเดนกลืนน้ำลายไม่ลงคอ เขามาที่นี่ช้าไป ไม่เข้าใจว่าทำไมน้องสาวของเขาถึงได้กล้าทำเรื่องเลวร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
การที่เขาให้คนพาตัวมิล่าไปขัง ไม่ใช่เพื่อดัดนิสัยเท่านั้น แต่เขาหวังว่าที่นั่นจะเป็นที่ปลอดภัยที่จะทำให้มิล่าได้พ้นจากเงื้อมมือคนที่ต้องการเอาชีวิต เพราะเขาเชื่อว่าหากดันเต้รู้ว่ามิล่าทำอะไรกับลูกสาวของเขา มาเฟียอย่างดันเต้ไม่เอามิล่าไว้แน่
ตอนนี้พิริสาถูกราเดนพามาหาหมอโอเว่น เพราะรู้ว่าหมอโอเว่นเป็นคนเดียวที่จะรักษาพิริสาได้ พอทุกคนรู้ว่ามิล่าทำอะไรกับพิริสาก็โกรธจัดจนอยากจะฉีกเนื้อหญิงสาวจนเป็นชิ้นๆ โดยเฉพาะเซรเกย์ ที่ตอนนี้กลับมาจำทุกอย่างได้แล้ว เรื่องราวมันจะจบอย่างสวยงามแล้วแท้ๆ ถ้ามิล่าไม่ทำให้พิริสาได้รับยาพิษ
“คุณมียาถอนพิษไม่ใช่เหรอราเดน” รามิลไม่เห็นว่ามันจะยากอะไร หากพิริสาถูกพิษเช่นเดียวกับเซรเกย์ ตอนนี้ก็แค่ใช้ยาถอนพิษถอนให้พิริสาก็เท่านั้น
“หมดแล้ว ขวดที่ให้คุณลุงมาเป็นขวดสุดท้ายจริงๆ แล้วผมก็ไม่คิดด้วยว่ามิล่าจะเก็บพิษพวกนั้นเอาไว้กับตัวอีก”
“แล้วถ้าเราจะผสมยาถอนพิษใหม่ใช้เวลานานแค่ไหนครับคุณหมอ” เซรเกย์ที่นั่งเงียบอยู่นานก็โพล่งออกมาด้วยเสียงแหบแห้งเพราะยังไม่ฟื้นตัวเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
“ใช้เวลาสกัดไม่นานครับ แต่การจะหายาถอนพิษต้องใช้เกสรทั้งหมดของพืชสามชนิดมาทำ แล้วมันก็เป็นพืชหายาก อีกอย่างก็อยู่ในป่าลึกด้วย”
“แล้วไอ้สมุนไพรที่ว่ามันอยู่ที่ไหนล่ะคะ” มนต์ธาราเห็นสีหน้าของหมอโอเว่นเธอก็ใจไม่ค่อยดี ทว่าหากแค่รู้ว่าพืชพวกนั้นอยู่ที่ไหน เธอก็พร้อมที่จะตามหามาอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะช่วยชีวิตพี่สะใภ้ของเธอ
“คุณลุงบอกมาได้เลยครับว่าพืชพวกนั้นอยู่ที่ไหน ผมจะเป็นคนไปตามหาเอง ถือว่าเป็นคำขอโทษที่ผมไม่สั่งสอนน้องสาวให้ดี” ราเดนเอ่ยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
ทุกคนประชุมกันในการแบ่งหน้าที่กันไปตามหาพืชเพื่อที่จะสกัดมาเป็นยาถอนพิษ รามิลรวมไปถึงราเดนและมนต์ธาราต่างก็ต้องการที่จะเดินทางไปหาของพวกนั้นด้วยตัวเอง
ส่วนวาดิมก็ต้องอยู่ทางนี้เพื่อที่จะบริหารแทนเซรเกย์ไปอีกสักพัก เพราะตอนนี้เซรเกย์ไม่มีแก่ใจที่จะบริหารจัดการอะไรทั้งนั้น หัวใจของเขาพะวงอยู่กับความปลอดภัยของภรรยาตัวเล็กที่นอนหลับไม่ได้สติ
หลังจากนั่งประชุมกันอยู่พักใหญ่เซรเกย์ก็ต้องปลีกตัวมาที่ห้องรับแขก ไม่รู้ว่าลมอะไรหอบเรนมาถึงที่นี่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เป็นคนพูดเองว่าจะไม่มายุ่งกับเขาอีก
เซรเกย์ทักทายเรนด้วยถ้อยคำที่ลองเชิงกันอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นการพูดคุยก็เริ่มผ่อนคลายลงเรื่อยๆ เพราะดูแล้วเรนน่าจะไม่ได้มาหาเรื่องอะไร ทั้งเรนเองยังยินดีที่ตอนนี้เซรเกย์กลับมาจำทุกอย่างได้แล้ว
“ฉันดีใจที่นายกลับมาจำทุกอย่างได้”
“แต่ตอนนี้ฉันเสียใจที่เมียฉันกำลังจะจำฉันไม่ได้”
“ทำไม”
“เอาเรื่องนายก่อนดีกว่า ทำไมถึงมาถามหาริโอะที่นี่”
“ฉันติดต่อริโอะไม่ได้ รู้ว่าเธอทำงานกับริสาก็เลยมาหาที่นี่”“เธอไม่เคยทำงานกับริสา”คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความฉงน เขาเข้าใจมาตลอดว่าตลอดเวลาที่ริโอะออกจากบ้านของเขาไป เธอมาทำงานอยู่กับพิริสา“หลังจากริสากลับมาเธอก็ทาบทามริโอะ แต่ริโอะก็ปฏิเสธมาตลอด และสุดท้ายก็ติดต่อริโอะไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้ฉันยังคิดว่าริโอะทำงานกับนายอยู่เลย”“ไม่ ถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่แล้วจะอยู่ที่ไหน”“นั่นสิ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอเป็นแค่คนดูแลบ้านกับช่วยงานนายเล็กๆ น้อยๆ ทำไมนายดูจะสนใจเธอจนกล้ามาหาฉันถึงที่นี่” เซรเกย์พอจะมองออกว่าริโอะกับเรนมีอะไรพิเศษต่อกัน ด้วยดูจากท่าทางของเรน เขาไม่ใช่คนที่จะสนใจใครง่ายๆ อีกทั้งแค่คนดูแลบ้านลาออกแค่คนเดียว ก็ไม่น่าจะเป็นห่วงเป็นใยจนต้องตามหาขนาดนี้“เรื่องริโอะ ฉันจะให้คนตามหาเอง ส่วนเรื่องริสา นายจะเล่าให้ฉันฟังได้ไหมว่าเธอเป็นอะไร”เซรเกย์นึกถึงเรื่องภรรยาของตนก็นั่งหน้าห่อเหี่ยว จากนั้นก็เริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับเรนได้รับรู้อยู่ครู่ใหญ่ ทางด้านเรนที่รับรู้เรื่องทั้งหมดก็แทบจะกลืนน้ำลายไม่ลงคอ เพราะรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ ที่เป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวของเซรเกย์เกิดปัญ
หลังจากใช้เวลาร่วมชั่วโมง หมอโอเว่นก็ได้เลือดของเซรเกย์มาในปริมาณที่เพียงพอ และหลังจากนี้เขาก็ต้องใช้เวลาอีกร่วมวันที่จะสกัดเอาสารของยาถอนพิษจากเลือดของเซรเกย์ครึ่งค่อนคืนแล้วที่เซรเกย์ยังคงเฝ้าพิริสาที่นอนเป็นผักกันอยู่ไม่ห่าง แม้จะอ่อนเพลียจากการเสียเลือดแต่เขาก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ ยิ่งมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของคนที่เขารักหมดหัวใจก็ยิ่งรู้สึกปวดหัวใจทั้งยังโทษตัวเองที่ไม่มีความสามารถปกป้องภรรยาให้ดีเช่นที่เคยสัญญากับเธอเอาไว้ในวันแต่งงาน“ผมขอโทษ ริสา” เขาก้มจรดหน้าผากกับหลังมือเรียวที่แสนเย็นเฉียบ พร้อมทั้งเอ่ยขอโทษเสียงสั่น“ผมขอโทษ...” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขาดๆ หายๆ ทั้งยังสั่นเครือขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานนักน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลออกมาจาความรู้สึกผิดที่สุดในหัวใจก็หยดลงบนหลังมือเรียวเล็กที่เขาได้กุมเอาไว้เซรเกย์ลุกขึ้นโน้มตัวลงพรมจูบที่พวงแก้มนวลไล่ไปยังเปลือกตาที่ปิดสนิท เขาทำให้เธอต้องเจ็บปวดหัวใจจากการที่ไปรู้สึกรักคนอื่นไม่พอ ยังทำให้เธอต้องมาเจอชะตากรรมที่เธอไม่ควรจะได้เจอเพียงเพราะเขาไม่เด็ดขาดในการจัดการกับมิล่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เขาจะไม่ยอมให้เธอคลาดสายตาไปแม้
“มีคนอื่นแล้วใช่ไหมถึงได้ไล่พี่ให้ไปหาคนอื่น”“มนต์ไม่มีใครทั้งนั้นค่ะ ถึงมนต์มีก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่มิล ถ้าอยากคุยกันเรื่องของเรา มนต์ก็ขอให้พี่มิลไปพูดกับผู้ใหญ่เรื่องถอนหมั้น พวกท่านจะได้ไม่ต้องหวังว่าเราจะได้แต่งงานกันซะที มนต์ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมพี่มิลถึงได้กลัวนักหนาว่าผู้ใหญ่จะไม่สบายใจ มันเป็นชีวิตของเรานะคะพี่มิล”สิ้นเสียงหญิงสาวทุกอย่างก็อยู่ในความเงียบ รามิลยังคงจ้องหน้าประสานสายตากับมนต์ธาราอย่างไม่มีใครยอมใคร เธอเอาหัวใจของเขาไปครอบครองแล้ว มีหรือเขาจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ ตามที่เธอบอก“ก็เพราะพี่รักมนต์ไง พี่รักมนต์ได้ยินไหม” เขาเอ่ยเสียงดังฟังชัดจนมนต์ธาราเริ่มอ้าปากค้าง เบิกตาโพลง เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากของรามิล“ที่พี่ไม่กล้าบอกก็เพราะกลัวว่ามนต์จะมองพี่ไม่เหมือนเดิม เพราะพี่รู้ว่ามนต์ไม่ได้รักพี่” เขากล้าที่จะเผยทุกอย่างที่อยู่ในใจโดยที่ไม่คิดกลัวอะไรอีกแล้ว“มนต์อยากรู้ว่าพี่มิลคิดแบบนี้กับมนต์ตั้งแต่เมื่อไหร่” เธอจำได้ว่าหลังจากงานหมั้น ชายหนุ่มยังดูฟูมฟายผิดหวังที่ต้องเลิกกับมารีน่า ทำไมตอนนี้เขากลับมาพูดว่ารักเธอ“หลังจากที่เราหมั้นกันได้ไม่เท่าไหร่
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“คิดอะไรอยู่” เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ก็เข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนกอดอกเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยอาการเหม่อลอยพิริสารีบผลักคนที่เปลือยท่อนบนโชว์แผงกล้ามออกจากตัว “ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ” มองกล้ามเนื้อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีครู่เดียวก็ต้องหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าร้อนผ่าวเพราะไม่ชินกับการมองผู้ชายถอดเสื้อ“คุณเขินเหรอ” ริมฝีปากหนาอมยิ้มกรุ่มกริ่ม“ใครจะไม่เขินล่ะ”“หันมาดูให้เต็มตาสิ มันเป็นของคุณนะ คุณจะเขินทำไม” เขาดึงมือเธอมาลูบบนเนินอกที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ“ของฉันเหรอ” แม้จะเคอะๆ เขินๆ แต่แผงกล่ามของเขามันก็น่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย เลยถือวิสาสะลูบๆ คลำๆ อยู่เช่นนั้นจนรับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีไขมันแม้แต่นิดเดียว“ใช่ ก็ผมเป็นของคุณ เป็นสามีคุณ จะดูตรงอื่นด้วยไหม”“ไม่ต้องค่ะ” รีบถอยห่างพร้อมยกมือทั้งสองข้างปิดตา เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอมองว่าเขาเจ้าเล่ห์จะพูดจริงหรือพูดเล่น ทว่าเธอก็ไม่เสี่ยงเปิดตาเอาไว้ แค่เห็นแผงกล้ามของเขาเธอก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว หากเห็นอย่างอื่นคงได้วิ่งออกไปข้างนอกแน่“เวลาคุณเขิน น่ารักมากเลยรู้ไหม”“แกล้งฉันใช่ไหมคะ” มือทั้งสองค่อ
“แล้วริสาจะไปเที่ยวหานะคะคุณพ่อคุณแม่” พิริสาเข้าไปกอดพ่อกับแม่ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางกลับอิตาลีหลังจากที่เบาใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของเธอแล้ว“ยายจ๋า รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วริสาจะพาเจ้าตัวเล็กไปวิ่งเล่นด้วย” เธอผละออกมาจากดันเต้และรสสุคนเข้ามากอดสอางค์“เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วยายจะส่งสมุนไพรบำรุงร่างกายมาให้นะ”“ขอบคุณค่ะ” ฟอด ฟอด สาวเจ้าหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นยายฟอดใหญ่ๆ เป็นประจำทุกครั้งที่ต้องจากกัน ไม่ว่าเธอจะโตมากแค่ไหนเธอก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กกับยายของเธอเสมอ เพราะรู้ว่ายายนั้นชอบเห็นความสดใสของเธอ และเธอเองก็ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของคนเป็นยายรวมไปถึงพ่อกับแม่ไปนานๆ“แล้วก็ดูแลลูกฉันให้ดีล่ะ ถ้ามีเรื่องให้ลูกฉันเจ็บตัวอีก ฉันพาลูกฉันกลับไปดูแลเองจริงๆ ด้วย” ดันเต้หันมาส่งเสียงดุให้เซรเกย์ส่งท้ายก่อนกลับ เชื่อว่าเซรเกย์จะดูแลลูกสาวของเขาได้ดี ทว่าก็อดที่จะกำชับอีกครั้งตามประสาพ่อที่หวงและห่วงลูกไม่ได้สิ้นเสียงแข็งของคนเป็นพ่อ พิริสาก็รีบเข้าไปกอดเอวเซรเกย์เอาไว้แน่น “ไม่นะคะคุณพ่อ ริสารักเซรเกย์ม๊ากมาก ไม่ยอมไปไหนหรอกค่ะ”รสสุคนและสอางค์ต่างก็ส่ายหน้าให้กับคำพูดของดันเต้ ทว่าก็อม
“อ๋อ ฉันว่าหาของบำรุงสักพักแกก็คงจะกลับมาแข็งแรงเองนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าแกเพิ่งผ่านการรักษาตัวมานะ เดี๋ยวอีกสักพักลองไปตรวจร่างกายใหม่ก็ได้”“เซรเกย์ก็บอกฉันแบบนั้น”“จุนน้า...”“ยัยหนู” เห็นหลานสาวตัวกลมวัยเกือบสองขวบก็รีบเข้าไปรวบอุ้มมานั่งที่ตัก ก่อนจะหอมไปที่พวงแก้มย้วยๆ อีกฟอดใหญ่“คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย” พิริสากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกสาวของกลิ่นชวากันจนหายคิดถึง ยิ่งเห็นหลานก็อยากจะมีลูกใจจะขาด ทว่าก็ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่าร่างกายของเธอจะสามารถมีลูกได้เมื่อไหร่ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกเห็นพิริสากำลังเล่นอยู่กับเจ้าตัวกลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกถึงความเป็นกังวล โดยเฉพาะเซรเกย์“ดูท่าริสาคงอยากจะมีลูกมากๆ ฉันรู้ว่าริสานิสัยเหมือนว่าน ทางที่ดีนายควรรีบบอกเรื่องที่เธอควรรู้จะดีกว่า” วาดิมเสนอความเห็นหลังจากรับรู้ความจริงว่าเพราะอะไรกันแน่พิริสาถึงยังมีลูกไม่ได้“ฉันยังไม่พร้อมเห็นริสาผิดหวัง เอาเป็นว่าหลังจากการตรวจร่างกายครั้งหน้าไม่ดีขึ้นก็ค่อยบอกเธอตอนนั้น”“อืม ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”เซรเกย์ยืนถอนหายใ
“ริสา”“สรุปว่าพวกคุณรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันจะมีลูกไม่ได้หลังจากใช้ยาถอนพิษเหรอคะ”“ผมขอโทษริสา แต่ที่ผมไม่บอกเพราะกลัวว่าคุณจะไม่ยอมรักษาตัว ถ้าปล่อยให้พิษนั่นอยู่ในร่างกายนานๆ มันทำลายระบบประสาทหลายอย่าง”พิริสาไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นเซรเกย์เข้ามาใกล้ เธอก็รีบวิ่งหนี หากเขาบอกเธอถึงความจริงของผลข้างเคียง วันนั้นเธอก็อาจจะทำใจยอมรับเรื่องที่จะมีลูกไม่ได้ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอมีความหวังจนไม่อาจจะผิดหวังได้แล้ว ทำไมเรื่องมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย“ฮื่อ ฮือ ฮือ ฮือ...” เธอวิ่งไปไม่รู้จุดหมาย พร้อมน้ำตาพรั่งพรูและเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อหัวใจถูกบีบรัดมากเข้าเธอก็เริ่มหูอื้อตาลาย และหมดสติไป“ริสา” เซรเกย์วิ่งไปรับร่างของพิริสาได้ทันท่วงที จากนั้นก็รีบสาวเท้าพาเธอเข้าไปให้โอเว่นดูอาการพิริสายังนอนให้หมอตรวจโดยที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ทั้งยังไม่คิดที่มองหน้าทั้งหมอโอเว่นและสามีของเธอ เพราะยังโกรธเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมบอกเธอถึงผลข้างเคียงทุกอย่างของการใช้ยาถอนพิษ ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดหวังมากๆ ในตอนนี้“ผมว่าเรากำลังจะมีข่าวดีแล้วล่ะ” จากการที่โอเว่นได้เริ่มศึกษาแพทย์แผนจีน เขาก็พอจะจับชีพจ
ตั้งแต่มาถึงร้านสมุนไพรได้ พิริสาก็ถูกหมอจีนตรวจชีพจรอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เคยเจอคนที่เลือดลมเดินทางแปลกๆ เช่นหญิงสาวมาก่อน“อืม...แปลกๆ” หมอสมุนไรวัยเกือบแปดสิบสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ก่อนจะปล่อยมือจากชีพจรของหญิงสาวและหยิบตำราใจใต้ลิ้นชักขึ้นมาดูเซรเกย์ที่เห็นว่าได้จังหวะเขาจึงเริ่มออกอุบายที่วางแผนเอาไว้ “ผมลืมเอามือถือมาจากในรถ ริสาไปเอาให้ผมหน่อยได้ไหม”“ได้สิคะ”ให้หลังพิริสาไปได้ เซรเกย์ก็ถือโอกาสพูดคุยรายละเอียดทุกอย่างกับหมอจีน หวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งให้กับคนที่ลูกยากได้จริงๆ อย่างที่ริโอะได้พูดเอาไว้ทางด้านพิริสาเธอก็เอาแต่หาโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เจอมันก็ตกอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งของเขา กว่าจะกลับเข้าไปในร้านยาได้ เธอก็เห็นหมอจีนเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว“หมอจัดยาให้เรียบร้อยแล้วนะริสา”“เหรอคะ ไวดีจังเลย”“คุณต้องดื่มยาต้มนี่ทุกวัน วันละสามเวลาเป็นเวลาสามเดือน”“แค่นี้จะพอเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเริ่มเพ่งมองไปยังห่อสมุนไพรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สามห่อ“แล้วผมจะส่งสมุนไพรตามไปให้ทุกครึ่งเดือน ระหว่างนี้ก็งดอาหารหมักดอง แล้วก็ต้องทานอาหารที่ทำสดใหม่เ
“ริโอะ”ขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ เสียงที่แสนคุ้นหูก็ดังแว่วมาแต่ไกลทำให้ริโอะรีบหันไปยังต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว “อ้าวคุณริสา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ”“มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ ริโอะทำขาหมูไว้ให้คุณริสาด้วยนะคะ”“คุณเรนบอกแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้าไปในบ้าน อยากคุยกับริโอะก่อน”“มีอะไรเหรอคะ”“ริโอะกำลังงอนคุณเรนอยู่ใช่ไหม”สีหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มเริ่มเจื่อนลง ไม่ผิดหรอกที่เรนเข้าใจเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาสร้างข้อจำกัดให้เธอจนเธอรู้สึกอึดอัด“ฉันรู้ว่าที่คุณเรนห้ามริโอะทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง แล้วฉันก็รู้ว่าริโอะรู้ตัวว่าริโอะทำทุกอย่างได้ ฉันก็เลยบอกให้คุณเรนกับริโอะแก้ปัญหากันคนละครึ่งทาง”“ยังไงเหรอคะ” แววตาของริโอะในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย การแก้ปัญหาคนละครึ่งทางหมายความว่ายังไง“ลองคุยกับคุณเรนอีกรอบสิ” พิริสาหันหน้าไปมองเรนที่กำลังยืนดูเธอและริโอะอยู่ห่างๆ“ฉันขอตัวไปรอในบ้านนะ”หลังจากพิริสาลุกออกไป เรนก็เข้ามานั่งแทนที่ของเธอ เพราะเรนต้องการที่จะคุยกับริโอะตามที่พิริสาและเซรเกย์แนะนำ
“อื้อ...” ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ เสียงครางของความเจ็บจุกถูกดูดเข้าไปในลำคอสามี หลังจากนั้นเธอก็หัวสั่นหัวครอนไปกับแรงกระกระทั้นจากการมอบบทสวาทของสามีตัวโตเซรเกย์บดสะโพกส่งเจ้าแท่งร้อนมโหฬารเข้าออกร่องสวาทถี่รัวไม่มีผ่อนอยู่นานสองนาน เสียงครางของคนทั้งสองที่กำลังแลกลิ้นถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของกันและกัน เมื่อร่องสวาทดูดกลืนแท่งร้อนมโหฬารหนักเข้าก็เริ่มตอดรัดรุนแรงเพราะใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง“อื้อ.. อื้อ...” และแล้วพิริสาก็บิดเกร็งแอ่นเร่าตาปรือเยิ้ม มือไม้จิกอยู่ที่ลำแขนแกร่งของคนเป็นสามีจนแทบจะฝังเนื้อเซรเกย์เสียบเจ้าแท่งร้อนคาร่องสวาทเอาไว้ไม่ขยับ เพราะต้องการปล่อยให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันเขาก็ยังบดจูบด้วยลีลาเร่าร้อนเพื่อเล้าโลมคนตัวเล็กให้พร้อมรับกับลีลาสวาทของเขาอีกรอบเมื่อจับจังหวะการหายใจของภรรยาตัวเล็กว่าเป็นปกติเขาก็เริ่มสาวแท่งร้อนดึงออกจนสุดกดเข้าจนมิดไปกับร่องสวาทที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักอีกรอบให้เร็วและแรงกว่าเดิม จนเกิดเป็นเสียงเนื้อที่กำลังเปียกแฉะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วห้อง“เซรเกย์ อื้อ...” พิริสาหัวสั่นหัวครอน ความเสียวซ่านพุ่งเข้ามาในร่างกายจนเริ่มจะแตะข
“อ๋อ ฉันว่าหาของบำรุงสักพักแกก็คงจะกลับมาแข็งแรงเองนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าแกเพิ่งผ่านการรักษาตัวมานะ เดี๋ยวอีกสักพักลองไปตรวจร่างกายใหม่ก็ได้”“เซรเกย์ก็บอกฉันแบบนั้น”“จุนน้า...”“ยัยหนู” เห็นหลานสาวตัวกลมวัยเกือบสองขวบก็รีบเข้าไปรวบอุ้มมานั่งที่ตัก ก่อนจะหอมไปที่พวงแก้มย้วยๆ อีกฟอดใหญ่“คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย” พิริสากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกสาวของกลิ่นชวากันจนหายคิดถึง ยิ่งเห็นหลานก็อยากจะมีลูกใจจะขาด ทว่าก็ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่าร่างกายของเธอจะสามารถมีลูกได้เมื่อไหร่ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกเห็นพิริสากำลังเล่นอยู่กับเจ้าตัวกลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกถึงความเป็นกังวล โดยเฉพาะเซรเกย์“ดูท่าริสาคงอยากจะมีลูกมากๆ ฉันรู้ว่าริสานิสัยเหมือนว่าน ทางที่ดีนายควรรีบบอกเรื่องที่เธอควรรู้จะดีกว่า” วาดิมเสนอความเห็นหลังจากรับรู้ความจริงว่าเพราะอะไรกันแน่พิริสาถึงยังมีลูกไม่ได้“ฉันยังไม่พร้อมเห็นริสาผิดหวัง เอาเป็นว่าหลังจากการตรวจร่างกายครั้งหน้าไม่ดีขึ้นก็ค่อยบอกเธอตอนนั้น”“อืม ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”เซรเกย์ยืนถอนหายใ
“แล้วริสาจะไปเที่ยวหานะคะคุณพ่อคุณแม่” พิริสาเข้าไปกอดพ่อกับแม่ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางกลับอิตาลีหลังจากที่เบาใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของเธอแล้ว“ยายจ๋า รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วริสาจะพาเจ้าตัวเล็กไปวิ่งเล่นด้วย” เธอผละออกมาจากดันเต้และรสสุคนเข้ามากอดสอางค์“เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วยายจะส่งสมุนไพรบำรุงร่างกายมาให้นะ”“ขอบคุณค่ะ” ฟอด ฟอด สาวเจ้าหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นยายฟอดใหญ่ๆ เป็นประจำทุกครั้งที่ต้องจากกัน ไม่ว่าเธอจะโตมากแค่ไหนเธอก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กกับยายของเธอเสมอ เพราะรู้ว่ายายนั้นชอบเห็นความสดใสของเธอ และเธอเองก็ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของคนเป็นยายรวมไปถึงพ่อกับแม่ไปนานๆ“แล้วก็ดูแลลูกฉันให้ดีล่ะ ถ้ามีเรื่องให้ลูกฉันเจ็บตัวอีก ฉันพาลูกฉันกลับไปดูแลเองจริงๆ ด้วย” ดันเต้หันมาส่งเสียงดุให้เซรเกย์ส่งท้ายก่อนกลับ เชื่อว่าเซรเกย์จะดูแลลูกสาวของเขาได้ดี ทว่าก็อดที่จะกำชับอีกครั้งตามประสาพ่อที่หวงและห่วงลูกไม่ได้สิ้นเสียงแข็งของคนเป็นพ่อ พิริสาก็รีบเข้าไปกอดเอวเซรเกย์เอาไว้แน่น “ไม่นะคะคุณพ่อ ริสารักเซรเกย์ม๊ากมาก ไม่ยอมไปไหนหรอกค่ะ”รสสุคนและสอางค์ต่างก็ส่ายหน้าให้กับคำพูดของดันเต้ ทว่าก็อม
“คิดอะไรอยู่” เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ก็เข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนกอดอกเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยอาการเหม่อลอยพิริสารีบผลักคนที่เปลือยท่อนบนโชว์แผงกล้ามออกจากตัว “ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ” มองกล้ามเนื้อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีครู่เดียวก็ต้องหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าร้อนผ่าวเพราะไม่ชินกับการมองผู้ชายถอดเสื้อ“คุณเขินเหรอ” ริมฝีปากหนาอมยิ้มกรุ่มกริ่ม“ใครจะไม่เขินล่ะ”“หันมาดูให้เต็มตาสิ มันเป็นของคุณนะ คุณจะเขินทำไม” เขาดึงมือเธอมาลูบบนเนินอกที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ“ของฉันเหรอ” แม้จะเคอะๆ เขินๆ แต่แผงกล่ามของเขามันก็น่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย เลยถือวิสาสะลูบๆ คลำๆ อยู่เช่นนั้นจนรับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีไขมันแม้แต่นิดเดียว“ใช่ ก็ผมเป็นของคุณ เป็นสามีคุณ จะดูตรงอื่นด้วยไหม”“ไม่ต้องค่ะ” รีบถอยห่างพร้อมยกมือทั้งสองข้างปิดตา เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอมองว่าเขาเจ้าเล่ห์จะพูดจริงหรือพูดเล่น ทว่าเธอก็ไม่เสี่ยงเปิดตาเอาไว้ แค่เห็นแผงกล้ามของเขาเธอก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว หากเห็นอย่างอื่นคงได้วิ่งออกไปข้างนอกแน่“เวลาคุณเขิน น่ารักมากเลยรู้ไหม”“แกล้งฉันใช่ไหมคะ” มือทั้งสองค่อ
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท