“มีคนอื่นแล้วใช่ไหมถึงได้ไล่พี่ให้ไปหาคนอื่น”
“มนต์ไม่มีใครทั้งนั้นค่ะ ถึงมนต์มีก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่มิล ถ้าอยากคุยกันเรื่องของเรา มนต์ก็ขอให้พี่มิลไปพูดกับผู้ใหญ่เรื่องถอนหมั้น พวกท่านจะได้ไม่ต้องหวังว่าเราจะได้แต่งงานกันซะที มนต์ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมพี่มิลถึงได้กลัวนักหนาว่าผู้ใหญ่จะไม่สบายใจ มันเป็นชีวิตของเรานะคะพี่มิล”
สิ้นเสียงหญิงสาวทุกอย่างก็อยู่ในความเงียบ รามิลยังคงจ้องหน้าประสานสายตากับมนต์ธาราอย่างไม่มีใครยอมใคร เธอเอาหัวใจของเขาไปครอบครองแล้ว มีหรือเขาจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ ตามที่เธอบอก
“ก็เพราะพี่รักมนต์ไง พี่รักมนต์ได้ยินไหม” เขาเอ่ยเสียงดังฟังชัดจนมนต์ธาราเริ่มอ้าปากค้าง เบิกตาโพลง เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากของรามิล
“ที่พี่ไม่กล้าบอกก็เพราะกลัวว่ามนต์จะมองพี่ไม่เหมือนเดิม เพราะพี่รู้ว่ามนต์ไม่ได้รักพี่” เขากล้าที่จะเผยทุกอย่างที่อยู่ในใจโดยที่ไม่คิดกลัวอะไรอีกแล้ว
“มนต์อยากรู้ว่าพี่มิลคิดแบบนี้กับมนต์ตั้งแต่เมื่อไหร่” เธอจำได้ว่าหลังจากงานหมั้น ชายหนุ่มยังดูฟูมฟายผิดหวังที่ต้องเลิกกับมารีน่า ทำไมตอนนี้เขากลับมาพูดว่ารักเธอ
“หลังจากที่เราหมั้นกันได้ไม่เท่าไหร่ พี่รักมนต์ตั้งแต่มนต์คอยอยู่ข้างพี่ตอนที่พี่กำลังเสียใจของมารีน่า”
“ตอนเราหมั้นกัน พี่มิลยังรักคุณมารีน่ามากใช่ไหมคะ”
“ใช่”
“แล้วบอกเลิกเธอทำไม”
“เพราะเธอมีคนอื่น เรื่องคืนนั้นที่มนต์ตื่นมาแล้วเห็นว่าตัวเองนอนอยู่กับพี่ พี่เป็นคนทำเรื่องทั้งหมด”
“อะไรนะคะ” คิ้วคู่สวยขมวดมุ่นผูกโบว์ เขาเองอย่างนั้นหรือ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เรื่องคืนนั้นทำให้เธอรู้สึกผิดกับเขามาจนถึงทุกวันนี้ ทุกอย่างมันเป็นความตั้งใจของเขาทั้งหมดเองหรือ...
“พี่ทำไปเพราะต้องการประชดมารีน่า แต่พี่ก็ไม่คิดว่าผู้ใหญ่จะมาเห็น พี่เลยต้องรับผิดชอบมนต์ พี่ขอโทษที่ทำให้มนต์ต้องมาติดอยู่ในความสัมพันธ์ของพี่ แต่หลังจากนั้นหัวใจพี่มันก็กลายเป็นของมนต์ พี่แค่ไม่กล้าพูดเพราะพี่กลัวว่ามนต์จะไม่สนิทกับพี่เหมือนเดิม”
“ใช้มนต์เป็นเครื่องมือแก้แค้นแฟนเก่า แล้วมาบอกว่ารักมนต์เหรอคะ” เธอไม่ได้รู้สึกดีกับคำสารภาพของเขาแม้สักนิด
“เรื่องของเราเอาไว้ก่อนนะคะ มนต์ไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว ตอนนี้เราต้องสนใจแค่การตามหาบัวบุษบันเท่านั้น”
“สัญญากับพี่ได้ไหมว่าถ้าทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ถ้าพี่ยอมคุยกับผู้ใหญ่เรื่องถอนหมั้นตามที่มนต์ขอ มนต์กับพี่เรายังจะสนิทกันเหมือนเดิม พี่จะทำตัวเป็นพี่ชายให้มนต์ แล้วมนต์ก็ยังเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่ อย่าหลบหน้าพี่ พี่ขอแค่นี้ได้ไหม”
“มนต์ไม่ขอตอบอะไรนะคะ พี่มิลออกไปจากห้องมนต์ได้แล้วค่ะ”
“แต่ว่า”
“ถ้าพี่มิลยังอยากให้มนต์คุยด้วยก็ออกไปค่ะ”
สิ้นเสียงห้วนของมนต์ธารา รามิลก็เดินคอตกออกไปจากที่พักของหญิงสาว เขาถอนหายใจอ่อนด้วยความเหนื่อยใจ แม้จะสนิทกับเธอพอสมควร แต่ก็ไม่รู้เลยว่าหลังจากกลับไป เธอจะยอมรับคำขอของเขาหรือไม่
ประตูไม้ไผ่หน้าห้องปิดสนิทได้ มนต์ธาราก็ฟุบนั่งลงไปกับฟูกสีน้ำตาล เธอรักรามิล รักมาตลอด มองเขาในแง่ดีเสมอมา คำสารภาพรักของเขาเมื่อครู่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีใจเอาเสียเลย
เพราะก่อนที่เขาจะรักเธอ เขาเพียงแค่ทำทุกอย่างเพื่อใช้เธอเป็นเครื่องมือแก้แค้นมารีน่า แล้วมันก็ทำให้เธอมีความรู้สึกผิดในใจมาตลอดหลายปี เพราะคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้รามิลและมารีน่าต้องเลิกกัน ทว่าสุดท้าย คนร้ายตัวจริงก็คือรามิล ที่เธอยังไม่ให้คำตอบ เพราะเธอยังคงสับสนและยังคิดไม่ออกว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ดี...
“ทำอะไรอยู่เหรอริโอะ” เสียงทักทายของเพื่อนบ้านขาประจำดังอยู่ไกลๆ
“กำลังลงผักคะน้าค่ะป้าจิต” ริโอะเงยหน้าจากการก้มหน้าลงต้นคะน้าบนแปลงผักเล็กๆ ที่เตรียมเอาไว้
เป็นประจำแทบทุกวันที่เธอจะได้ยินเสียงของสลักจิต สาวใหญ่ชาวไทยที่ได้สามีเป็นคนญี่ปุ่นและย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่สาวๆ ปกติคนญี่ปุ่นส่วนมากจะให้ความเป็นส่วนตัวของกันและกันแม้แต่ในชนบท ทว่าที่สลักจิตก็ชอบมาทักทาเธอเป็นประจำแทบทุกวันเพราะรู้ว่าเธอเป็นลูกครึ่งไทย และมาอยู่ในบ้านหลังเล็กในชนบทนี้ตัวคนเดียว
“ป้าเอามะม่วงดองมาฝาก แล้วก็เอาต้มจืดวุ้นเส้นหมูสับมาให้ด้วย”
“ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ” สาวเจ้าลุกยืนค้อมหัวให้คนที่เอาของอร่อยมาฝาก
“มีอะไรก็ไปหาป้าที่บ้านได้เลยนะ อ่อ...พรุ่งนี้ป้าอยู่คนเดียว เราไปทำหม้อไฟทานที่บ้านป้าไหมล่ะ”
“ก็ได้ค่ะ แล้วคุณลุงจะไปไหนเหรอคะ”
“จะนำทางคนไปเดินป่าที่ท้ายหมู่บ้านน่ะ น่าจะไปค้างคืนนั่นแหละ”
“อ๋อ... ค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ช่วงสายๆ ริโอะจะไปหาที่บ้านนะคะ”
“จ้า”
ริโอะยืนยิ้มตามหลังสลักจิต มาอยู่ที่นี่ไม่นานนักเธอก็ได้เพื่อนบ้านที่แสนดี นับว่าเป็นโชคดีจริงๆ ที่เธอเลือกซื้อบ้านเก่าในชนบทแถบนี้
“ริสา ริสา ได้ยินแม่เรียกไหมลูก” เห็นลูกสาวเริ่มสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมาได้รสสุคนก็รีบเขย่าตัวของพิริสาทันที จากนั้นทุกคนก็เริ่มกรูกันเข้ามารายล้อมที่รอบเตียงของหญิงสาว
“ทำไมทุกคนมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ” ปรับสายตาเป็นปกติได้พิริสาก็เริ่มมีสีหน้าฉงน ทั้งพ่อแม่รวมไปถึงยายของเธอก็อยู่ที่นี่ ทว่าเธอก็ไม่ได้รู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่ที่เธออยู่เอาเสียเลย
เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้เธอกำลังทำอาหารอยู่ในครัว แต่ทำไมมาเผลอหลับที่ไหนก็ไม่รู้ “ทำไมริสา...คือ ริสาอยู่ที่ไหนคะ บ้านคุณพ่อเหรอคะ”
“ไม่ใช่จะ จำได้รึเปล่าว่าก่อนหน้าที่จะหลับไปเราอยู่ที่ไหน” รสสุคนเริ่มซักถามความจำของลูกสาว หากเธอจำพ่อของตัวเองได้ ก็เท่ากับว่าความทรงจำของพิริสาคงไม่ได้หายไปมากนัก
“ริสากำลังทำกับข้าวอยู่ที่ครัวบ้านเราค่ะ แต่ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรา”
“ที่นี่เป็นบ้านเซรเกย์ สามีลูกไง”
“คะ? สามี” มันเกิดอะไรขึ้น เธองงไปหมดแล้ว
“ริสา” เซรเกย์ที่รู้ว่าพิริสาฟื้นคืนสติก็รีบวิ่งเข้ามากอดคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงแน่น
“คุณฟื้นแล้ว”
“ดีใจอะไรของคุณเนี่ย ฉันตัวจะขาดอยู่แล้วนะ” พิริสาหน้าเหยเกเมื่อถูกกอดรัดจนแน่นเกินไป
“ผมดีใจที่ผมจำคุณได้แล้ว”
“พูดอะไรของคุณ” รีบผลักตัวชายหนุ่มออกด้วยแรงอันน้อยนิด เธอไม่เข้าใจคำที่เซรเกย์และทุกคนกำลังพูดแม้แต่นิดเดียว
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“คิดอะไรอยู่” เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ก็เข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนกอดอกเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยอาการเหม่อลอยพิริสารีบผลักคนที่เปลือยท่อนบนโชว์แผงกล้ามออกจากตัว “ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ” มองกล้ามเนื้อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีครู่เดียวก็ต้องหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าร้อนผ่าวเพราะไม่ชินกับการมองผู้ชายถอดเสื้อ“คุณเขินเหรอ” ริมฝีปากหนาอมยิ้มกรุ่มกริ่ม“ใครจะไม่เขินล่ะ”“หันมาดูให้เต็มตาสิ มันเป็นของคุณนะ คุณจะเขินทำไม” เขาดึงมือเธอมาลูบบนเนินอกที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ“ของฉันเหรอ” แม้จะเคอะๆ เขินๆ แต่แผงกล่ามของเขามันก็น่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย เลยถือวิสาสะลูบๆ คลำๆ อยู่เช่นนั้นจนรับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีไขมันแม้แต่นิดเดียว“ใช่ ก็ผมเป็นของคุณ เป็นสามีคุณ จะดูตรงอื่นด้วยไหม”“ไม่ต้องค่ะ” รีบถอยห่างพร้อมยกมือทั้งสองข้างปิดตา เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอมองว่าเขาเจ้าเล่ห์จะพูดจริงหรือพูดเล่น ทว่าเธอก็ไม่เสี่ยงเปิดตาเอาไว้ แค่เห็นแผงกล้ามของเขาเธอก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว หากเห็นอย่างอื่นคงได้วิ่งออกไปข้างนอกแน่“เวลาคุณเขิน น่ารักมากเลยรู้ไหม”“แกล้งฉันใช่ไหมคะ” มือทั้งสองค่อ
“แล้วริสาจะไปเที่ยวหานะคะคุณพ่อคุณแม่” พิริสาเข้าไปกอดพ่อกับแม่ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางกลับอิตาลีหลังจากที่เบาใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของเธอแล้ว“ยายจ๋า รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วริสาจะพาเจ้าตัวเล็กไปวิ่งเล่นด้วย” เธอผละออกมาจากดันเต้และรสสุคนเข้ามากอดสอางค์“เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วยายจะส่งสมุนไพรบำรุงร่างกายมาให้นะ”“ขอบคุณค่ะ” ฟอด ฟอด สาวเจ้าหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นยายฟอดใหญ่ๆ เป็นประจำทุกครั้งที่ต้องจากกัน ไม่ว่าเธอจะโตมากแค่ไหนเธอก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กกับยายของเธอเสมอ เพราะรู้ว่ายายนั้นชอบเห็นความสดใสของเธอ และเธอเองก็ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของคนเป็นยายรวมไปถึงพ่อกับแม่ไปนานๆ“แล้วก็ดูแลลูกฉันให้ดีล่ะ ถ้ามีเรื่องให้ลูกฉันเจ็บตัวอีก ฉันพาลูกฉันกลับไปดูแลเองจริงๆ ด้วย” ดันเต้หันมาส่งเสียงดุให้เซรเกย์ส่งท้ายก่อนกลับ เชื่อว่าเซรเกย์จะดูแลลูกสาวของเขาได้ดี ทว่าก็อดที่จะกำชับอีกครั้งตามประสาพ่อที่หวงและห่วงลูกไม่ได้สิ้นเสียงแข็งของคนเป็นพ่อ พิริสาก็รีบเข้าไปกอดเอวเซรเกย์เอาไว้แน่น “ไม่นะคะคุณพ่อ ริสารักเซรเกย์ม๊ากมาก ไม่ยอมไปไหนหรอกค่ะ”รสสุคนและสอางค์ต่างก็ส่ายหน้าให้กับคำพูดของดันเต้ ทว่าก็อม
“อ๋อ ฉันว่าหาของบำรุงสักพักแกก็คงจะกลับมาแข็งแรงเองนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าแกเพิ่งผ่านการรักษาตัวมานะ เดี๋ยวอีกสักพักลองไปตรวจร่างกายใหม่ก็ได้”“เซรเกย์ก็บอกฉันแบบนั้น”“จุนน้า...”“ยัยหนู” เห็นหลานสาวตัวกลมวัยเกือบสองขวบก็รีบเข้าไปรวบอุ้มมานั่งที่ตัก ก่อนจะหอมไปที่พวงแก้มย้วยๆ อีกฟอดใหญ่“คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย” พิริสากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกสาวของกลิ่นชวากันจนหายคิดถึง ยิ่งเห็นหลานก็อยากจะมีลูกใจจะขาด ทว่าก็ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่าร่างกายของเธอจะสามารถมีลูกได้เมื่อไหร่ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกเห็นพิริสากำลังเล่นอยู่กับเจ้าตัวกลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกถึงความเป็นกังวล โดยเฉพาะเซรเกย์“ดูท่าริสาคงอยากจะมีลูกมากๆ ฉันรู้ว่าริสานิสัยเหมือนว่าน ทางที่ดีนายควรรีบบอกเรื่องที่เธอควรรู้จะดีกว่า” วาดิมเสนอความเห็นหลังจากรับรู้ความจริงว่าเพราะอะไรกันแน่พิริสาถึงยังมีลูกไม่ได้“ฉันยังไม่พร้อมเห็นริสาผิดหวัง เอาเป็นว่าหลังจากการตรวจร่างกายครั้งหน้าไม่ดีขึ้นก็ค่อยบอกเธอตอนนั้น”“อืม ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”เซรเกย์ยืนถอนหายใ
“อื้อ...” ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ เสียงครางของความเจ็บจุกถูกดูดเข้าไปในลำคอสามี หลังจากนั้นเธอก็หัวสั่นหัวครอนไปกับแรงกระกระทั้นจากการมอบบทสวาทของสามีตัวโตเซรเกย์บดสะโพกส่งเจ้าแท่งร้อนมโหฬารเข้าออกร่องสวาทถี่รัวไม่มีผ่อนอยู่นานสองนาน เสียงครางของคนทั้งสองที่กำลังแลกลิ้นถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของกันและกัน เมื่อร่องสวาทดูดกลืนแท่งร้อนมโหฬารหนักเข้าก็เริ่มตอดรัดรุนแรงเพราะใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง“อื้อ.. อื้อ...” และแล้วพิริสาก็บิดเกร็งแอ่นเร่าตาปรือเยิ้ม มือไม้จิกอยู่ที่ลำแขนแกร่งของคนเป็นสามีจนแทบจะฝังเนื้อเซรเกย์เสียบเจ้าแท่งร้อนคาร่องสวาทเอาไว้ไม่ขยับ เพราะต้องการปล่อยให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันเขาก็ยังบดจูบด้วยลีลาเร่าร้อนเพื่อเล้าโลมคนตัวเล็กให้พร้อมรับกับลีลาสวาทของเขาอีกรอบเมื่อจับจังหวะการหายใจของภรรยาตัวเล็กว่าเป็นปกติเขาก็เริ่มสาวแท่งร้อนดึงออกจนสุดกดเข้าจนมิดไปกับร่องสวาทที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักอีกรอบให้เร็วและแรงกว่าเดิม จนเกิดเป็นเสียงเนื้อที่กำลังเปียกแฉะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วห้อง“เซรเกย์ อื้อ...” พิริสาหัวสั่นหัวครอน ความเสียวซ่านพุ่งเข้ามาในร่างกายจนเริ่มจะแตะข
“ริโอะ”ขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ เสียงที่แสนคุ้นหูก็ดังแว่วมาแต่ไกลทำให้ริโอะรีบหันไปยังต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว “อ้าวคุณริสา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ”“มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ ริโอะทำขาหมูไว้ให้คุณริสาด้วยนะคะ”“คุณเรนบอกแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้าไปในบ้าน อยากคุยกับริโอะก่อน”“มีอะไรเหรอคะ”“ริโอะกำลังงอนคุณเรนอยู่ใช่ไหม”สีหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มเริ่มเจื่อนลง ไม่ผิดหรอกที่เรนเข้าใจเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาสร้างข้อจำกัดให้เธอจนเธอรู้สึกอึดอัด“ฉันรู้ว่าที่คุณเรนห้ามริโอะทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง แล้วฉันก็รู้ว่าริโอะรู้ตัวว่าริโอะทำทุกอย่างได้ ฉันก็เลยบอกให้คุณเรนกับริโอะแก้ปัญหากันคนละครึ่งทาง”“ยังไงเหรอคะ” แววตาของริโอะในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย การแก้ปัญหาคนละครึ่งทางหมายความว่ายังไง“ลองคุยกับคุณเรนอีกรอบสิ” พิริสาหันหน้าไปมองเรนที่กำลังยืนดูเธอและริโอะอยู่ห่างๆ“ฉันขอตัวไปรอในบ้านนะ”หลังจากพิริสาลุกออกไป เรนก็เข้ามานั่งแทนที่ของเธอ เพราะเรนต้องการที่จะคุยกับริโอะตามที่พิริสาและเซรเกย์แนะนำ
ตั้งแต่มาถึงร้านสมุนไพรได้ พิริสาก็ถูกหมอจีนตรวจชีพจรอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เคยเจอคนที่เลือดลมเดินทางแปลกๆ เช่นหญิงสาวมาก่อน“อืม...แปลกๆ” หมอสมุนไรวัยเกือบแปดสิบสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ก่อนจะปล่อยมือจากชีพจรของหญิงสาวและหยิบตำราใจใต้ลิ้นชักขึ้นมาดูเซรเกย์ที่เห็นว่าได้จังหวะเขาจึงเริ่มออกอุบายที่วางแผนเอาไว้ “ผมลืมเอามือถือมาจากในรถ ริสาไปเอาให้ผมหน่อยได้ไหม”“ได้สิคะ”ให้หลังพิริสาไปได้ เซรเกย์ก็ถือโอกาสพูดคุยรายละเอียดทุกอย่างกับหมอจีน หวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งให้กับคนที่ลูกยากได้จริงๆ อย่างที่ริโอะได้พูดเอาไว้ทางด้านพิริสาเธอก็เอาแต่หาโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เจอมันก็ตกอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งของเขา กว่าจะกลับเข้าไปในร้านยาได้ เธอก็เห็นหมอจีนเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว“หมอจัดยาให้เรียบร้อยแล้วนะริสา”“เหรอคะ ไวดีจังเลย”“คุณต้องดื่มยาต้มนี่ทุกวัน วันละสามเวลาเป็นเวลาสามเดือน”“แค่นี้จะพอเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเริ่มเพ่งมองไปยังห่อสมุนไพรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สามห่อ“แล้วผมจะส่งสมุนไพรตามไปให้ทุกครึ่งเดือน ระหว่างนี้ก็งดอาหารหมักดอง แล้วก็ต้องทานอาหารที่ทำสดใหม่เ
“ริสา”“สรุปว่าพวกคุณรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันจะมีลูกไม่ได้หลังจากใช้ยาถอนพิษเหรอคะ”“ผมขอโทษริสา แต่ที่ผมไม่บอกเพราะกลัวว่าคุณจะไม่ยอมรักษาตัว ถ้าปล่อยให้พิษนั่นอยู่ในร่างกายนานๆ มันทำลายระบบประสาทหลายอย่าง”พิริสาไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นเซรเกย์เข้ามาใกล้ เธอก็รีบวิ่งหนี หากเขาบอกเธอถึงความจริงของผลข้างเคียง วันนั้นเธอก็อาจจะทำใจยอมรับเรื่องที่จะมีลูกไม่ได้ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอมีความหวังจนไม่อาจจะผิดหวังได้แล้ว ทำไมเรื่องมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย“ฮื่อ ฮือ ฮือ ฮือ...” เธอวิ่งไปไม่รู้จุดหมาย พร้อมน้ำตาพรั่งพรูและเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อหัวใจถูกบีบรัดมากเข้าเธอก็เริ่มหูอื้อตาลาย และหมดสติไป“ริสา” เซรเกย์วิ่งไปรับร่างของพิริสาได้ทันท่วงที จากนั้นก็รีบสาวเท้าพาเธอเข้าไปให้โอเว่นดูอาการพิริสายังนอนให้หมอตรวจโดยที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ทั้งยังไม่คิดที่มองหน้าทั้งหมอโอเว่นและสามีของเธอ เพราะยังโกรธเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมบอกเธอถึงผลข้างเคียงทุกอย่างของการใช้ยาถอนพิษ ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดหวังมากๆ ในตอนนี้“ผมว่าเรากำลังจะมีข่าวดีแล้วล่ะ” จากการที่โอเว่นได้เริ่มศึกษาแพทย์แผนจีน เขาก็พอจะจับชีพจ
ตั้งแต่มาถึงร้านสมุนไพรได้ พิริสาก็ถูกหมอจีนตรวจชีพจรอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เคยเจอคนที่เลือดลมเดินทางแปลกๆ เช่นหญิงสาวมาก่อน“อืม...แปลกๆ” หมอสมุนไรวัยเกือบแปดสิบสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ก่อนจะปล่อยมือจากชีพจรของหญิงสาวและหยิบตำราใจใต้ลิ้นชักขึ้นมาดูเซรเกย์ที่เห็นว่าได้จังหวะเขาจึงเริ่มออกอุบายที่วางแผนเอาไว้ “ผมลืมเอามือถือมาจากในรถ ริสาไปเอาให้ผมหน่อยได้ไหม”“ได้สิคะ”ให้หลังพิริสาไปได้ เซรเกย์ก็ถือโอกาสพูดคุยรายละเอียดทุกอย่างกับหมอจีน หวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งให้กับคนที่ลูกยากได้จริงๆ อย่างที่ริโอะได้พูดเอาไว้ทางด้านพิริสาเธอก็เอาแต่หาโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เจอมันก็ตกอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งของเขา กว่าจะกลับเข้าไปในร้านยาได้ เธอก็เห็นหมอจีนเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว“หมอจัดยาให้เรียบร้อยแล้วนะริสา”“เหรอคะ ไวดีจังเลย”“คุณต้องดื่มยาต้มนี่ทุกวัน วันละสามเวลาเป็นเวลาสามเดือน”“แค่นี้จะพอเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเริ่มเพ่งมองไปยังห่อสมุนไพรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สามห่อ“แล้วผมจะส่งสมุนไพรตามไปให้ทุกครึ่งเดือน ระหว่างนี้ก็งดอาหารหมักดอง แล้วก็ต้องทานอาหารที่ทำสดใหม่เ
“ริโอะ”ขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ เสียงที่แสนคุ้นหูก็ดังแว่วมาแต่ไกลทำให้ริโอะรีบหันไปยังต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว “อ้าวคุณริสา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ”“มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ ริโอะทำขาหมูไว้ให้คุณริสาด้วยนะคะ”“คุณเรนบอกแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้าไปในบ้าน อยากคุยกับริโอะก่อน”“มีอะไรเหรอคะ”“ริโอะกำลังงอนคุณเรนอยู่ใช่ไหม”สีหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มเริ่มเจื่อนลง ไม่ผิดหรอกที่เรนเข้าใจเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาสร้างข้อจำกัดให้เธอจนเธอรู้สึกอึดอัด“ฉันรู้ว่าที่คุณเรนห้ามริโอะทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง แล้วฉันก็รู้ว่าริโอะรู้ตัวว่าริโอะทำทุกอย่างได้ ฉันก็เลยบอกให้คุณเรนกับริโอะแก้ปัญหากันคนละครึ่งทาง”“ยังไงเหรอคะ” แววตาของริโอะในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย การแก้ปัญหาคนละครึ่งทางหมายความว่ายังไง“ลองคุยกับคุณเรนอีกรอบสิ” พิริสาหันหน้าไปมองเรนที่กำลังยืนดูเธอและริโอะอยู่ห่างๆ“ฉันขอตัวไปรอในบ้านนะ”หลังจากพิริสาลุกออกไป เรนก็เข้ามานั่งแทนที่ของเธอ เพราะเรนต้องการที่จะคุยกับริโอะตามที่พิริสาและเซรเกย์แนะนำ
“อื้อ...” ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ เสียงครางของความเจ็บจุกถูกดูดเข้าไปในลำคอสามี หลังจากนั้นเธอก็หัวสั่นหัวครอนไปกับแรงกระกระทั้นจากการมอบบทสวาทของสามีตัวโตเซรเกย์บดสะโพกส่งเจ้าแท่งร้อนมโหฬารเข้าออกร่องสวาทถี่รัวไม่มีผ่อนอยู่นานสองนาน เสียงครางของคนทั้งสองที่กำลังแลกลิ้นถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของกันและกัน เมื่อร่องสวาทดูดกลืนแท่งร้อนมโหฬารหนักเข้าก็เริ่มตอดรัดรุนแรงเพราะใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง“อื้อ.. อื้อ...” และแล้วพิริสาก็บิดเกร็งแอ่นเร่าตาปรือเยิ้ม มือไม้จิกอยู่ที่ลำแขนแกร่งของคนเป็นสามีจนแทบจะฝังเนื้อเซรเกย์เสียบเจ้าแท่งร้อนคาร่องสวาทเอาไว้ไม่ขยับ เพราะต้องการปล่อยให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันเขาก็ยังบดจูบด้วยลีลาเร่าร้อนเพื่อเล้าโลมคนตัวเล็กให้พร้อมรับกับลีลาสวาทของเขาอีกรอบเมื่อจับจังหวะการหายใจของภรรยาตัวเล็กว่าเป็นปกติเขาก็เริ่มสาวแท่งร้อนดึงออกจนสุดกดเข้าจนมิดไปกับร่องสวาทที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักอีกรอบให้เร็วและแรงกว่าเดิม จนเกิดเป็นเสียงเนื้อที่กำลังเปียกแฉะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วห้อง“เซรเกย์ อื้อ...” พิริสาหัวสั่นหัวครอน ความเสียวซ่านพุ่งเข้ามาในร่างกายจนเริ่มจะแตะข
“อ๋อ ฉันว่าหาของบำรุงสักพักแกก็คงจะกลับมาแข็งแรงเองนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าแกเพิ่งผ่านการรักษาตัวมานะ เดี๋ยวอีกสักพักลองไปตรวจร่างกายใหม่ก็ได้”“เซรเกย์ก็บอกฉันแบบนั้น”“จุนน้า...”“ยัยหนู” เห็นหลานสาวตัวกลมวัยเกือบสองขวบก็รีบเข้าไปรวบอุ้มมานั่งที่ตัก ก่อนจะหอมไปที่พวงแก้มย้วยๆ อีกฟอดใหญ่“คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย” พิริสากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกสาวของกลิ่นชวากันจนหายคิดถึง ยิ่งเห็นหลานก็อยากจะมีลูกใจจะขาด ทว่าก็ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่าร่างกายของเธอจะสามารถมีลูกได้เมื่อไหร่ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกเห็นพิริสากำลังเล่นอยู่กับเจ้าตัวกลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกถึงความเป็นกังวล โดยเฉพาะเซรเกย์“ดูท่าริสาคงอยากจะมีลูกมากๆ ฉันรู้ว่าริสานิสัยเหมือนว่าน ทางที่ดีนายควรรีบบอกเรื่องที่เธอควรรู้จะดีกว่า” วาดิมเสนอความเห็นหลังจากรับรู้ความจริงว่าเพราะอะไรกันแน่พิริสาถึงยังมีลูกไม่ได้“ฉันยังไม่พร้อมเห็นริสาผิดหวัง เอาเป็นว่าหลังจากการตรวจร่างกายครั้งหน้าไม่ดีขึ้นก็ค่อยบอกเธอตอนนั้น”“อืม ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”เซรเกย์ยืนถอนหายใ
“แล้วริสาจะไปเที่ยวหานะคะคุณพ่อคุณแม่” พิริสาเข้าไปกอดพ่อกับแม่ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางกลับอิตาลีหลังจากที่เบาใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของเธอแล้ว“ยายจ๋า รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วริสาจะพาเจ้าตัวเล็กไปวิ่งเล่นด้วย” เธอผละออกมาจากดันเต้และรสสุคนเข้ามากอดสอางค์“เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วยายจะส่งสมุนไพรบำรุงร่างกายมาให้นะ”“ขอบคุณค่ะ” ฟอด ฟอด สาวเจ้าหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นยายฟอดใหญ่ๆ เป็นประจำทุกครั้งที่ต้องจากกัน ไม่ว่าเธอจะโตมากแค่ไหนเธอก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กกับยายของเธอเสมอ เพราะรู้ว่ายายนั้นชอบเห็นความสดใสของเธอ และเธอเองก็ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของคนเป็นยายรวมไปถึงพ่อกับแม่ไปนานๆ“แล้วก็ดูแลลูกฉันให้ดีล่ะ ถ้ามีเรื่องให้ลูกฉันเจ็บตัวอีก ฉันพาลูกฉันกลับไปดูแลเองจริงๆ ด้วย” ดันเต้หันมาส่งเสียงดุให้เซรเกย์ส่งท้ายก่อนกลับ เชื่อว่าเซรเกย์จะดูแลลูกสาวของเขาได้ดี ทว่าก็อดที่จะกำชับอีกครั้งตามประสาพ่อที่หวงและห่วงลูกไม่ได้สิ้นเสียงแข็งของคนเป็นพ่อ พิริสาก็รีบเข้าไปกอดเอวเซรเกย์เอาไว้แน่น “ไม่นะคะคุณพ่อ ริสารักเซรเกย์ม๊ากมาก ไม่ยอมไปไหนหรอกค่ะ”รสสุคนและสอางค์ต่างก็ส่ายหน้าให้กับคำพูดของดันเต้ ทว่าก็อม
“คิดอะไรอยู่” เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ก็เข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนกอดอกเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยอาการเหม่อลอยพิริสารีบผลักคนที่เปลือยท่อนบนโชว์แผงกล้ามออกจากตัว “ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ” มองกล้ามเนื้อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีครู่เดียวก็ต้องหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าร้อนผ่าวเพราะไม่ชินกับการมองผู้ชายถอดเสื้อ“คุณเขินเหรอ” ริมฝีปากหนาอมยิ้มกรุ่มกริ่ม“ใครจะไม่เขินล่ะ”“หันมาดูให้เต็มตาสิ มันเป็นของคุณนะ คุณจะเขินทำไม” เขาดึงมือเธอมาลูบบนเนินอกที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ“ของฉันเหรอ” แม้จะเคอะๆ เขินๆ แต่แผงกล่ามของเขามันก็น่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย เลยถือวิสาสะลูบๆ คลำๆ อยู่เช่นนั้นจนรับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีไขมันแม้แต่นิดเดียว“ใช่ ก็ผมเป็นของคุณ เป็นสามีคุณ จะดูตรงอื่นด้วยไหม”“ไม่ต้องค่ะ” รีบถอยห่างพร้อมยกมือทั้งสองข้างปิดตา เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอมองว่าเขาเจ้าเล่ห์จะพูดจริงหรือพูดเล่น ทว่าเธอก็ไม่เสี่ยงเปิดตาเอาไว้ แค่เห็นแผงกล้ามของเขาเธอก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว หากเห็นอย่างอื่นคงได้วิ่งออกไปข้างนอกแน่“เวลาคุณเขิน น่ารักมากเลยรู้ไหม”“แกล้งฉันใช่ไหมคะ” มือทั้งสองค่อ
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท