ถ้าพี่ดิมไม่อยากเอาแบม งั้นก็แค่...ช่วยทำให้แบมเสร็จหน่อยได้ไหมคะ
View Moreหลังจากงานแต่งงานของพี่ชายจบลง บุรารีก็เดินออกมาทางโรงแรมและยกโทรศัพท์สายตรงขึ้นหาคนขับรถคนโปรด คนที่บิดาของเธอวางใจให้เขาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว คนที่บิดากำชับกับเขานักหนาว่าให้คอยดูแลเธอประดุจเจ้าหญิง
"พี่ดิม แบมเสร็จแล้วนะคะ"
ดรัณภพ ลูกน้องคนสนิทอีกคนหนึ่งของบิดาเธอ เขาคือคนที่บิดาของเธอไว้ใจนักหนา จนยอมแม้กระทั่งปล่อยให้เขามาคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆเธอ
ดรัณภพอายุเท่ากับบุรินทร์ ทั้งสองจึงทั้งสนิทและเคยเรียนด้วยกันมา พอจบมหาวิทยาลัย พี่ชายของเธอเลือกที่จะต่อตรงไปทางด้านแพทย์ ส่วนดรัณภพเลือกที่จะเรียนทางด้านบริหารจนกระทั่งจบปริญญาโท
พอจบก็กลับมาคอยช่วยเหลือดูแลรับผิดชอบ ช่วยบิดาเธอในบริษัทนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ แม้ว่าหน้าที่หลักๆของดรัณภพจะต้องเข้าบริษัทกับบิดาเธอทุกวัน แต่หน้าที่รองของเขานั้น คือ สารถีแบบวีวีไอพีประจำตัวเธอ
"คุณพ่อคะ แบมชอบพี่ดิม แบมอยากให้พี่ดิมมาคอยดูแลแบมอยู่ใกล้ๆ"
"แต่พี่ดิมเขามีแฟนแล้วนะลูก หนูจะไปบอกว่าชอบพี่เขาแบบนั้นมันไม่ได้"
"แบมก็ไม่ได้จะแย่งนี่คะ แบมแค่อยากขอให้เขามาคอยอยู่ใกล้ๆ ขับรถพาแบมไปไหนมาไหนแค่นี้เอง อีกอย่าง ถ้าพี่ดิมเขารักแฟนเขามากพอ ต่อให้อยู่ใกล้แบมขนาดไหน พี่เขาก็ไม่หวั่นไหวหรอกค่ะ นะคะ"
ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนเล็กและคนเดียวของบ้าน ไม่ว่าบุรารีจะร้องขอสิ่งใด มีหรือที่ผู้เป็นบิดาจะกล้าปฏิเสธ ดรัณภพอยู่ในความดูแลของบิดาเธอมาตั้งแต่ด็กๆ ทั้งได้รับการส่งเสียเลี้ยงดู เชื่อสิว่า ไม่ว่าบิดาของเธอจะสั่งอะไร ผู้ชายคนนี้ก็ย่อมต้องยอมทำตามอย่างไม่มีข้อแม้
บุรารีชอบดรัณภพ ชอบมานานแล้ว เธอชอบแอบมองเขาทุกวัน ไม่ว่าเขาจะขยับตัวไปไหนหรือว่าทำอะไร ก็มักจะมีสายตาเธอคอยจับจ้องอยู่ที่เขาเสมอ
เธออยากได้ผู้ชายคนนี้ ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเขามีคนรักอยู่แล้วเธอก็ยังอยากจะได้ สิ่งที่พูดบอกกับบิดาไปว่าไม่ได้คิดจะแย่งเขามานั้นคือการโหกคำโต
ตลอดระยะเวลาสี่ห้าปีที่เขาทำหน้าที่ขับรถพาเธอไปนั่นไปนี่ ตั้งเเต่เริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัยจนกระทั่งเรียนจบ บุรารีแสดงออกต่อหน้าเขาอย่างชัดเจนว่าเธอนั้นรู้สึกอย่างไรกับเขา แต่คำตอบเดียวที่ดรัณภพมีให้เธอเสมอมา คือ พี่มีแฟนแล้วครับ
นี่พี่ดิมของเธอไม่เคยรับรู้บ้างเลยหรือไรว่าแฟนของตัวเองไม่ได้ดีเด่อะไรขนาดนั้น อุตส่าห์เฝ้ารักและซื่อสัตย์กับผู้หญิงคนนั้นไป ก็ได้กลับมาแค่เพียงการหลอกลวงและการนอกใจ
แบมนี่สิคะพี่ดิม แบมต่างหากที่รักพี่..ช่วยหันมามองแบมบ้าง
แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาบุรารีจะรับรู้มาโดยตลอดว่าดรัณภพนั้นถูกแฟนสาวนอกใจ แต่เธอก็ยังคงทนอยู่เฉยๆ ไม่แม้แต่จะคิดเปิดโปงผู้หญิงคนนั้นให้ดรัณภพรับรู้ เธออยากให้เขารู้เองมากกว่า ดีกว่าให้เธอไปบอกเสร็จแล้วตัวเองก็กลายเป็นนางมารร้ายในสายตาของเขา แบบนั้นไม่เอาเด็ดขาด
"คืนนี้แบมจะค้างที่นี่ แบมจองโรงแรมเอาไว้แล้วขอไม่กลับกรุงเทพนะคะ"
"ครับ"
น้ำเสียงเรียบเฉยนั้นสร้างความหงุดหงิดงุ่นง่านในใจให้บุรารีเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเธอจะสั่งอะไรยังไง เขาก็มักจะทำตามอย่างว่าง่ายและไม่เคยมีข้อแม้สักนิด บุรารีอยากจะรู้นักว่าผู้ชายอย่างดรัณภพจะทนใจแข็งกับมารยาผู้หญิงร้ายๆหนึ่งล้านเล่มเกวียนแบบเธอได้จริงๆหรือเปล่า เขาจะทนมันไปได้นานแค่ไหน
รถยนต์คันหรูขับพาบุรารีเลี้ยวเข้าไปจอดยังโรงแรมที่เธอแจ้งไว้ ห้องพักติดชายทะเลที่มีเพียงแค่เธอคนเดียวที่เป็นผู้จับจอง ส่วนเขา..ก็อยู่ห้องตรงข้าม
ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดง ยืนจิบชิมละเลียดแก้วไวน์อย่างช้าๆ สายตาทอดมองออกไปไกลสุดขอบทะเลในยามค่ำคืน เห็นเพียงแค่แสงไฟเขียวขาวจากเหล่าชาวประมงกลางทะเลใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาของดรัณภพยังคงลอยเด่นตรงหน้า ในหัวของบุรารีเอาแต่พร่ำคิดว่าเธอจะต้องทำอย่างไรเขาถึงจะหันมามองและสนใจในตัวเธอบ้าง ผู้ชายคนนี้เป็นคนดี ดีเกินกว่าที่จะจงรักภักดีและซื่อสัตย์อยู่แค่กับผู้หญิงร่านเลวแบบนั้น เขาสมควรที่จะได้ความรักที่บริสุทธิ์แสนหวานและแสนมั่นคงไปจากเธอต่างหาก
จากแก้วแรกสู่แก้วที่สองและสามตามไป จนในที่สุดก็เริ่มรู้สึกตัวว่าจะมึนๆขึ้นมาบ้างแล้ว ชุดคลุมอาบน้ำถูกถอดวางกองลงที่พื้น ก่อนที่ขาเรียวสวยจะค่อยๆก้าวลงไปในอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่ เลือดลมภายในร่างกายสูบฉีดเล่นพล่าน ก่อนดวงตากลมโตจะค่อยๆหลับลงแล้วนึกจินตนาการถึงใบหน้าของเขาคนนั้น
"ทำไมคะ ทำไมพี่ดิมถึงไม่รักแบมบ้าง"
มือไม้ขาวเนียนไต่ลูบไล้ไปตามเรียวแขนและลำคอของตัวเองอย่างแผ่วเบา เธอต้องการดรัณภพ บุรารีอยากได้รับสัมผัสจากเขา มันควรเป็นเขาที่ได้แตะต้องลูบไล้ไปตามเนื้อตัวเธอตอนนี้ พอคิดได้แก้วไวน์ใบเก๋ก็ถูกวางลงที่ริมขอบอ่าง ก่อนที่เครื่องมืออุปกรณ์สื่อสารจะถูกหยิบยกขึ้นมาต่อสายตรงออกไป
"โอ๊ยพี่ดิมขา พี่ดิมเข้ามาช่วยแบมด้วยค่ะแบมหกล้มรหัสห้องแบมสี่สี่ศูนย์ห้า พี่ดิมเปิดเข้ามาเลยนะคะ แบมเจ็บสะโพกมากลุกเดินไม่ไหวเลยค่ะพี่ดิม ฮือๆ"
ทันทีที่กดวางโทรศัพท์ ร่างงามที่กำลังเปลือยเปล่าก็รีบลุกขึ้นจากอ่างแล้วทำเป็นล้มลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น และจากนั้นเสียงบานประตูหน้าห้องก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ดรัณภพวิ่งตรงเข้ามาหาเธอแทบจะทันที ในสภาพที่เขาเห็นตอนนี้คือบุรารีเนื้อตัวเปลือยเปล่านอนตะแคงข้างอยู่ที่พื้น ศอกข้างหนึ่งของเธอกำลังพยายามยันพื้นเพื่อจะลุกขึ้น แต่ก็ต้องร้องออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดเสียก่อน
"โอ๊ยเจ็บ แบมลุกไม่ไหวเลยค่ะ พี่ดิมช่วยแบมที"
แล้วเรือนร่างสูงใหญ่ก็เดินตรงเข้ามาหาเธอ แต่ยังไม่วายฉวยผ้าขนหนูที่วางอยู่บนชั้นวางติดมือตามมาด้วยก่อนจะห่มคลุมลงไปบนเนื้อตัวเธอให้
"แบมอย่าพึ่งขยับ เดี๋ยวพี่อุ้มไปวางบนโซฟา"
"ไปที่เตียงเลยค่ะพี่ดิม แบมเมาขนาดนี้ยังไงก็คงเดินต่อไปที่เตียงไม่ไหว" บุรารีแอบใช้จังหวะนี้ซบใบหน้าหวานของตัวเองลงกับแผงอกแกร่ง พร้อมยกสองแขนโอบเกี่ยวรอบคอของเขาเอาไว้แน่น
"อย่าพึ่งไปเลยนะคะพี่ดิม อยู่กับแบมก่อน"
ทันทีที่ดรัณภพวางบุรารีลงบนเตียง ตัวเขาก็ได้ถูกเธอฉุดให้นอนทาบทับลงไปบนตัวเธอทันที ด้วยความไวบุรารีรีบดึงผ้าขนหนูที่พันกายเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ออก พร้อมใช้สองมือตะปบเข้าที่สองแก้มสาก ก่อนจะดึงใบหน้าหล่อเหลานั้นให้กดประทับริมฝีปากแนบชิดกับเธอเอาไว้ ลิ้นเล็กถือโอกาสสอดแทรกรุกราน แม้ว่าจะยังเงอะงะง่านง่าน แต่บุรารีก็สามารถฉกลิ้นหนาของดรัณภพมาครอบครองได้อย่างใจ
หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นแรงขึ้น ดรัณภพยังคงหลับตาเฉยปล่อยให้เธอได้จูบ ยิ่งภายในปากของเขามีกลิ่นลมหายใจที่ถูกเจือปนด้วยกลิ่นบุหรี่จางๆ นั่นมันยิ่งปลุกสร้างความต้องการในตัวเธอให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
บุรารีจูบเอาจูบเอา ในขณะที่ดรัณภพยังคงไม่ขยับ เขายคงไม่ได้ขัดขืน แต่ก็ไม่ได้ทำตาม และแน่นอนว่านี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกเธอจู่โจม บุรารีเคยทำแบบนี้อยู่หลายต่อหลายครั้ง พอเขาไม่ตอบสนองเธอก็จะน้อยใจร้องไห้แล้วหยุดมันไปเอง แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันจะไม่ใช่
ดรัณภพยังคงปล่อยให้เธอเรียกร้องเอาจูบจากเขาเนิ่นนานจนกระทั่งเธอพอใจ แต่พอยิ่งเห็นว่าเขาทำเฉย ความหงุดหงิดงุ่นง่านของบุรารีก็เพิ่มทวีคูณ ทั้งความโมโหที่เกิดบวกผสมกับความเสียใจน้อยใจ เมื่อพบว่าตนเองนั้นยังคงไม่สามารถทำให้ชายคนที่ตนมีใจคล้อยตามได้ จึงได้ผลักเขาให้นอนหงายลงไปบนเตียงแล้วจึงตัดสินใจคลานตามขึ้นไปทาบทับเอาไว้
ถึงแม้ว่าเรือนร่างจะเปลือยเปล่า แต่บุรารีก็ไม่ได้นึกสะท้านอายเลยสักนิด ขอเพียงแค่เธอได้เขา มือเล็กเอื้อมไปจับมือใหญ่นั้นขึ้นมาก่อนจะนำพาให้บีบคลึงไปที่หน้าอกอวบใหญ่
"พี่ดิมได้โปรด คืนนี้พี่ดิมนอนกับแบมนะคะ แบมอยากได้พี่"
หลังจากตื่นเช้ามาดรัณภพก็ยังคงขอทำหลานให้บิดาเธอแข่งกับบุรินทร์ไปอีกสองรอบ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนบ่ายถึงได้ยอมขับรถพาเธอไปส่งบ้าน ระหว่างทางบุรารีจับโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็แปลกใจที่เมื่อคืนอคิณไม่ได้โทรมาตามหาเธอเลยแม้แต่สายเดียว นี่เขาไม่คิดสงสัยบ้างเลยหรือว่าเธอหายออกไปไหน แล้วความสงสัยทั้งหมดก็ได้รับความกระจ่างเมื่อเธอกลับมาถึงบ้าน ทันทีที่เดินเข้าไปข้างใน ก็พบกับพี่ชายและพี่สะใภ้นั่งชิบชายามบ่ายอยู่กับบิดาที่ในสวนทันทีที่เธอและดรัณภพเข้ามาถึง สามคู่สายตาก็พากันหันมามองทางเธอและดรัณภพเป็นตาเดียว ยิ่งดรัณภพจับมือเธอเอาไว้แน่นอยู่อย่างนี้ พอคริมาเห็นก็แอบยิ้มจนเธอรู้สึกเขินก็อย่างว่า เธอกับดรัณภพพึ่งจะพากันไปทำเรื่องทำราวบางอย่างมา ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาตอนนี้มันเหมือนราวกับว่าเธอเองกำลังมีชนักติดหลังยังไงยังงั้น ยิ่งพอได้เห็นคริมามองมาหาเธอแล้วอมยิ้มแบบนี้ บุรารีก็ยิ่งอดสงสัยไม่ได้ว่าคริมาหมายความว่ายังไงกัน ราวกับว่าเพื่อนสนิทที่ควบตำแหน่งพี่สะใภ้นั้นรู้อะไรอยู่ก่อนแล้วหรือเปล่า"พี่อคิณโทรหาพี่ บอกว่าเมื่อคืนถูกแกทิ้งไว้ที่นั่น แล้วแกก็ขึ้นรถกลับไปกับเจ้าดิม""เอ่อ คือว่าเมื่อคืน
บุรารียังคงยืนแอ่นก้นให้งอนๆขึ้นเพื่อรองรับการตอกอัดที่สวนแทรกเข้ามาอยู่เรื่อยๆ สองมือแนบชิดฝาผนังเอาไว้แน่น ยามที่ดรัณภพกระแทกเข้ามาเมื่อใดก็เกิดความรู้สึกเสียวจนแทบจะขาดใจไปหมด "อ๊า พี่ดิมขาเเบมเสียวเหลือเกิน""ได้กินพี่สมใจแล้ว หวังว่าพี่คงจะไม่ทำให้แบมผิดหวังนะครับ""มะ ไม่เลยค่ะ แค่นี้แบมก็แทบจะสำลักความสุขตายอยู่แล้ว""งั้นหันหน้ามาทีสิครับ ขอพี่เอาเน้นๆแรงๆด้านหน้าหน่อย"จากนั้นดรัณภพก็ถอดชักท่อนความแข็งแกร่งของตัวเองออกไป ก่อนจะสอดใส่กลับเข้ามาใหม่เมื่อได้จับบุรารีหันหน้ามาแล้วยกเรียวขาข้างหนึ่งของเธอขึ้น""อ่าส์แบมครับ รูแบมช่างแน่นดีจริงๆ""แบมก็เสียวเหลือเกินค่ะพี่ดิมขา"บุรารีครางไปอ้อนไป ทำเอาดรัณภพทนเสียวจนแทบจะไม่ไหวจึงได้ประกบปิดปากหวานนั้นเอาไว้ด้วยจูบ ลิ้นร้อนทำหน้าที่กวาดต้อนซุกซอนไปทั่วโพรงปาก ในขณะที่เอวด้านล่างก็ขยับซอย พลอยให้มือส่วนด้านบนบีบเฟ้นเสียจนรุนแรง จนเนื้อบริเวณเต้างามแดงขึ้นเป็นรอยสองร่างกายสอดประสานกันแนบชิด ดรัณภพขยับกระแทกแรงขึ้นทุกเมื่อที่บุรารีจิกเล็บคมๆลงไปบนแผ่นหลัง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังตับๆลั่นห้อง ปลุกปั่นเปลวคลื่นพิศวาสให้โหมกระพือจนแทบจ
ทันทีที่บานประตูถูกปิดล็อกลง ร่างทั้งร่างของบุรารีก็ถูกดรัณภพดึงเข้ามาประกบปิดปาก ตัวเธอถูกเขาดันจนแนบชิดติดไปกับฝาผนังและพยายามตะบี้ตะบันจูบบุรารีตกใจมากกับการกระทำนี้ นึกไม่ถึงว่าอยู่ๆดรัณภพที่เธอเคยรู้จัก คนที่ตั้งมั่นในปณิธานอันแน่วแน่ของตัวเองว่าจะไม่มีทางล่วงเกินเธอ เวลานี้กลับกำลังพยายามปล้ำจูบเธออย่างดุเดือด"อี้อิม อ่อยๆ ปละปล่อยแบมก่อนค่ะ นี่พี่เป็นอะไรไป""พี่ก็กำลังทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการให้แบมไง ถึงขนาดว่าเดินมาขอถุงยางกับพี่ขนาดนี้ แสดงว่าคงต้องการมาก หรือว่าเมื่อตอนเย็นที่พี่ทำให้เสร็จไปจะยังไม่เต็มอิ่ม เห็นว่าที่ผ่านมาแบมอยากกินพี่นักไม่ใช่หรอ ตอนนี้พี่ยอมทำแบบนั้นให้แบมแล้วไง จะมัวมาร้องค้านไปทำไม"อะไรนะ..เมื่อกี้ดรัณภพใช้คำว่าอะไรบ้าง 'ยอมทำ' บางแหละ 'ทำหน้าที่' บ้างแหละ 'สนองความต้องการ' อีกต่างหาก เเสดงว่าเมื่อก่อนนี้เขาเคยจำใจยังไง ตอนนี้ก็คงจะยังไม่แตกต่าง ยิ่งพาให้ความรู้สึกน้อยใจพากันประดังประเดเข้ามา ถมเข้ามาจนใจเธอปวด มันจะเคยมีสักครั้งบ้างไหมนะที่ดรัณภพจะรู้สึกดีกับเธอจากใจจริง เคยมีบ้างไหมที่เขารู้สึกอยากที่จะใกล้ชิดสัมผัสเธอแบบที่ผู้ชายกับผู้หญิงที่ร
เดินไปเอากับพี่ที่รถอย่างนั้นหรอ..ทำไมประโยคมันฟังแล้วถึงกับรู้สึกแปลกๆจังนะ แต่ด้วยความที่ว่าไหนๆเธอก็อยากชิ่งไปจากที่นี่จะแย่ด้วยแล้ว จึงทำให้บุรารีตัดสินใจเดินตามดรัณภพออกไปด้านนอกโดยที่ไม่มีการคิดคัดค้าน ขอแค่ให้เธอได้ออกไปให้พ้นๆจากตรงนี้ก็พอดรัณภพเดินนำเธออกจากสถานที่นั้นตรงมายังรถของเขาที่จอดอยู่ด้วยความโมโหระดับร้อยล้านพันล้าน อารมณ์ความโกรธของเขาเรียกว่าแทบอยากจะจับบุรารีมันเขย่าเสียจนให้หัวสั่นหัวโยกหัวคลอนไปเลยก็ว่าได้พอเดินมาถึงก็กดรีโมทรถยนต์ให้ส่งสัญญาณ หากแต่ว่าตัวเขากลับกลับยืนกอดอกมองเธออยู่อย่างนั้น จนบุรารีสงสัย"ไหนล่ะคะถุงยาง เอามาค่ะแบมจะรีบกลับเข้าไปข้างใน ป่านนี้พี่อคิณรอแย่แล้ว"กรี๊ด..อยากตบปากตัวเองว่าทำไมถึงได้พูดอะไรบ้าๆแบบนั้นออกไป พึ่งจะหลบออกมาได้แล้วแท้ๆยังจะมีหน้ามาพูดว่าจะรีบกลับเข้าไปด้านในอีก นี่เธอเอาสมองส่วนไหนคิดนะบุรารี"ถุงยางอยู่ในเก๊ะตรงคอนโซลหน้ารถ แบมเปิดแล้วหยิบออกมาสิ พี่อยากจะขอยืนสูบบุหรี่เสียหน่อย"ดรัณภพยืนบอกน้ำเสียงเรียบ หากแต่ภายในใจกำลังเดือดปุดคิดหาทางจัดการคนเก่งเสียให้ควัก "แล้วแบมรู้หรอว่าเขาใส่ไซส์ไหน ใช่ใส่ไซส์เดียวกันกับ
ภายในรถยนต์คันหรูที่จอดซุ่มดูสถานการณ์อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน กำปั้นใหญ่ถูกบีบเข้าหากันจนแน่นก่อนที่มันจะถูกทุบลงไปบนพวกมาลัยด้านหน้าอย่างแรงไปอยู่หลายที ยามเมื่อสายตามองถนนข้ามฝั่งไปเห็นภาพที่บุรารีถูกอคิณกอดเอวเดินปลิวหายเข้าไปด้านใน"คนอะไรไม่รู้จักมีความละอาย มาเที่ยวกับผู้ชายวันแรกก็ยอมให้เขาเตะเนื้อต้องตัวละ"ดรัณภพหายใจกระฟึดกระฟัดด้วยความโกรธที่บุรารียอมให้ผู้ชายที่พึ่งจะพากันมาเดตตั้งแต่วันแรกได้ถูกเนื้อต้องตัวมากถึงเพียงนี้ ถึงแม้ว่าการเดตครั้งนี้มันจะเป็นการเห็นดีจากบิดาของเธอเองก็เถอะ แต่อย่างไรเสียบุรารีก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงไม่ได้แล้ว เขาคงทนนั่งรออยู่ในรถแบบนี้อีกต่อไปไม่ไหว คงต้องขอตามเข้าไปดูจนถึงข้างในเสียหน่อยว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง เพราะถ้าเผื่อว่าข้างในมันเกิดมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล เขาจะได้ถือโอกาสพาตัวบุรารีออกไปจากที่นี่ได้ทันจากตอนแรกที่ทำเพียงแค่แอบขับรถตามมาอย่างไกลๆ ไปๆมาๆ ดรัณภพก็พาตัวเองเข้ามายังสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนและเสียงเพลงดังสนั่นเป็นที่เรียบร้อย พอเดินเข้ามา ยังไม่ทันที่จะได้หาโต๊ะนั่งสายตาก็สอดส่องหาบุรารีอย่างว่องไว แต่มองหายังไงก็ยังไม่เจ
เสียงครางแหบพร่าและต่ำทุ้มที่ดังเล็ดลอดออกมาจากคนที่กำลังนั่งเงยหน้าและหลับตาพริ้มนั้นสร้างความหมั่นไส้แต่ก็แอบปนความพออกพอใจให้บุรารีอยู่ไม่น้อยดรัณภพกำลังเสียว ลำเอ็นท่อนโตของเขาแข็งเกร็งจนเกิดเส้นเลือดปูดโปนคับไปทั้งปากนุ่ม แม้ว่าบุรารีจะอยากเงยหน้าขึ้นมาชำเรืองมองหลายต่อหลายหน แต่ก็ถูกฝ่ามือใหญ่กดศรีษะของเธอให้มุดต่ำลงไปจนแทบจะมิดด้ามทุกที"เมื่อยปากหน่อยนะ พอดีว่าของพี่ใหญ่"ไอ้หมั่นไส้น่ะเธอก็หมั่นไส้จริงๆ แต่บุรารีก็เถียงออกไปไม่ได้ว่าสิ่งที่ดรัณภพพูดมานั้นมันไม่ใช่เรื่องโกหกใช่..เขา 'ใหญ่' เธอไม่เถียง ส่วนตัวเธอไม่รู้หรอกว่าขนาดของผู้ชายคนอื่นที่ว่าใหญ่นั้นมันจะสักแค่ไหน แต่จากที่ประเมินได้ทางสายตาและนำขนาดไปนึกเทียบกับพระเอกในหนังผู้ใหญ่ที่เคยดูมา ทั้งขนาดของไซส์และสีผิวของดรัณภพนั้นงดงามราวกับพวกฝรั่งอะไรไปทางนั้นถามจากส่วนลึกว่าเธอรู้สึกพอใจไหมกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ บอกเลยว่าพอใจมาก แต่การกระทำและเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ต่างหากที่เธอไม่พอใจสิ่งที่ดรัณภพทำกำลังสร้างความสับสนและไม่พึงพอใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก ในเมื่อเขาเองที่เป็นคนอยากผลักไสเธอมาตลอด ก็ตอนนี้
หลังจากที่ทานมื้อเย็นกันจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อคิณก็ถือโอกาสขออนุญาตเจ้าสัวมีชัยพาบุรารีออกไปเที่ยว โดยอ้างว่าวันนี้พื่อนเขามีเปิดร้านอาหารกึ่งบาร์แถวๆนี้ จึงอยากขออนุญาตพาบุรารีออกไปด้วยแน่นอนว่าท่านเจ้าสัวเองไม่ได้ขัด ส่วนบุรารีก็ดูเหมือนว่าจะเต็มอกเต็มใจที่อยากจะออกไปกับชายผู้นั้นเสียเหลือเกิน ส่วนคนที่ฟังแล้วดูเหมือนว่าจะไม่ชอบอกชอบใจเอาเสียเลยก็น่าจะเป็นดรัณภพเสียมากกว่าจังหวะที่บุรารีขอกลับขึ้นไปแต่งตัวและอคิณเองก็ยังนั่งคุยกับท่านเจ้าสัวและบุรินทร์อยู่บนโต๊ะอาหาร คนที่กำลังร้อนอกร้อนใจไม่อยากให้บุรารีออกไปจึงทำทีว่าขอตัวเพื่อไปเข้าห้องน้ำ แน่นอนว่าเขาโกหก เป้าหมายของเขาคือห้องที่อยู่บนชั้นสองของคฤหาสน์หลังนี้ต่างหาก ดรัณภพแอบเดินย่องขึ้นบันไดไปอย่างเงียบเชียบ ก่อนที่ผ่ามือใหญ่จะบิดไปตรงลูกบิดประตูห้องที่เป็นเป้าหมายและมันก็ถูกเปิดออกอย่างง่ายดายและกดล็อกสายตามองไปตามทางที่มีเสียงน้ำไหลดังออกมาจากห้องน้ำ ก่อนต้นขายาวๆจะก้าวพาตัวเองไปนั่งลงบนเตียงขนาดใหญ่กลางห้องเพื่อรอจังหวะ ทันทีที่ประตูห้องน้ำเปิดออก ดรัณภพก็รีบลุกก้าวเดินไป แน่นอนว่าพอบุรารีเปิดประตูออกมาก็ได้แต่ตกใจและทำ
แม้ว่าจะถูกบุรารีสั่งว่าให้เว้นระยะห่างจากเธอนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปแล้ว หากแต่ดรัณภพก็ยังคงทำเป็นเหมือนทองไม่รู้ร้อน วันทั้งวันนั้นเขายังคงปักหลักอยู่ในคฤหาสน์แบบไม่ยอมที่จะออกไปไหน อยู่รอจนกระทั่งถึงเวลานัดหมายในตอนเย็น เพื่อรอแขกที่เจ้าสัวมีชัยนัดให้เดินทางมาถึง"อ้าวดิม ไปไงมาไงถึงได้มาที่นี่ได้" บุรินทร์ทักขึ้นเมื่อเข้ามาเห็นว่าดรัณภพนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟารับแขก"พอดีท่านเจ้าสัวเรียกเข้ามาคุยเมื่อตอนกลางวัน แล้ววันนี้ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องไปทำที่ไหน ก็เลยว่าจะอยู่ขอกินข้าวเย็นด้วยน่ะ""หึ แล้วคุณพ่อเรียกนายมาคุยเรื่องอะไรล่ะ ใช่เรื่องที่ยัยแบมก่อเอาไว้หรือเปล่า" บุรินทร์ถามคนที่โตมาด้วยกันจนถือว่าเป็นดั่งคนในครอบครัวยิ้มๆ เมื่อพอที่จะคาดเดาถึงเรื่องที่น้องสาวของตัวเองก่อเอาไว้ได้"ก็ตามนั้นแหละ แต่คราวนี้ท่านเจ้าสัวอยากที่จะลงโทษแบมด้วย ก็เลย...""คิดจะหาแฟนให้ยัยแบม""อื้ม แกเองก็คงรู้แล้วใช่ไหมว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร""คุณพ่อบอกฉันแล้ว ทีนี้แกก็เลยต้องมานั่งเศร้าเป็นหมาหงอย อยู่เพื่อคอยเฝ้าดูสถานการณ์อยู่อย่างนี้ใช่ไหมวะ" บุรินทร์เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามเมื่อเห็นหน้าคนที่ทำเป็นเก๊
หลังจากวันนั้นมาบุรารีก็ทำตัวเงียบกริบอย่างที่ว่า โดยเธอไม่คิดที่จะโทรไปตามหาหรือตามมารบกวนให้เขาได้วุ่นวายใจ ตั้งแต่ที่ดรัณภพได้รู้จักเธอมาบุรารีไม่เคยเป็นแบบนี้ กระทั่งรายการการโทรเข้าโทรออกในโทรศัพท์มือถือของเขาที่เคยมีแต่ชื่อเธอ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเงียบสนิทไปอย่างน่าใจหาย มันเงียบเกินไป จนดรัณภพเองอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ ยิ่งหลังจากนั้นมาอีกแค่ไม่กี่วันก็มีข่าวออกตามมาจริงๆ ว่าคุณหมอสาวลูกสาวทายาทเจ้าของโรงพยาบาลดังก่อเรื่องตบตีแย่งผู้ชายกลางห้าง เจ้ามีชัยจึงได้เรียกขอให้เขาเข้าไปหา"ฉันต้องขอโทษดิมมากด้วยจริงๆที่คราวนี้ยัยแบมก่อเรื่องรุนแรงจนหน้าอับอาย ลูกสาวฉันอายุอานามตั้งขนาดนี้ หน้าที่การงานก็มีแต่กลับมาทำให้ชื่อเสียงของครอบครัวและวงศ์ตระกลูเสียหาย""ไม่เป็นไรครับ""แล้วนี่แฟนดิมเขาเป็นอะไรมากหรือเปล่า บาดเจ็บอะไรตรงไหน""ลินไม่ได้เป็นอะไรมากครับท่าน แค่ตกใจนิดหน่อยเท่านั้น""อื้มเอาเถอะ งั้นต่อไปนี้ทั้งดิมและแฟนก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะ เห็นทีว่าเรื่องยัยแบมฉันคงต้องหาทางจัดการให้เด็ดขาด ที่ผ่านมาทุกคนตามใจยัยแบมมามากเกินไป จนทำให้ยัยแบมเสียนิสัยแบบนี้""คุณท่านหมายความว่า
Comments