บททั้งหมดของ ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี: บทที่ 581 - บทที่ 590

997

บทที่ 581

“ไปให้พ้น!” เหมยตงยวนพูดแทรกอย่างดุดัน “ถ้าเจ้ามีนางอยู่ในใจจริงๆ แม้จะอารมณ์ร้อนแค่ไหนก็ต้องสามารถควบคุมอารมณ์ในขณะนั้นได้”“ถ้ารักใครสักคนจริงๆ เจ้าจะไม่มีวันทำให้นางได้รับความทุกข์แม้แต่น้อย ยิ่งไม่สามารถขังนางไว้ในโรงเก็บฟืนแล้วสั่งห้ามไม่ให้นางออกมา”“ถ้านางเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา คงตายไปนานแล้ว!”“เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ นางถึงกับใช้วิชาต้องห้าม ทำให้ขานางไม่หายดีสักที ต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย!”“ความเจ็บปวดที่นางต้องทนรับ ไม่ว่าเจ้าจะเสียใจสักแค่ไหนหรือพูดอะไรออกมา ก็ไม่สามารถลบล้างได้หรอกนะ?”“ถ้าข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ หากข้าฆ่าเจ้าได้จริงๆ ข้าคงฆ่าเจ้าไปนานแล้ว!”จิ่งโม่เยี่ยดวงตาร้อนผ่าว ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมนางถึงบาดเจ็บอยู่นานแต่ไม่หายดีสักทีเพราะนางใช้วิชาต้องห้ามนี่เอง ทำให้อาการบาดเจ็บที่ขาไม่หายสักทีเขาหมอบหน้าลงพูดว่า “ท่านพ่อตาพูดถูก ความเจ็บปวดที่ข้าทำให้นางนั้นต้องทนรับนั้น ไม่สามารถลบล้างได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำ”“ข้าก็ไม่คิดจะลบล้างด้วยวิธีการแบบนี้ ข้าแค่ขอโอกาสจากท่านพ่อตา ให้ข้าได้ดูแลนางอย่างดี…”“ไปให้พ้น!” เหมยตงยวนพูดแทรกอีกครั้ง “เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 582

จิ่งโม่เยี่ยไม่รู้ว่านั่งอยู่ที่นี่นานแค่ไหน จนกระทั่งฉินจื๋อเจี้ยนพาองครักษ์มาหาเขาฉินจื๋อเจี้ยนเห็นสภาพของเขาก็ตกใจมาก “ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไป? เกิดอะไรขึ้น?”เหมยตงยวนตอนที่ลงมือไม่คิดจะปรานีเลยสักนิด แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ถูกทำร้ายจนหน้าตาบวมช้ำ ดูน่าสงสารมากฉินจื๋อเจี้ยนสันนิษฐานว่า จิ่งโม่เยี่ยน่าจะต้องเจอการลอบสังหารอีกครั้ง จึงทำให้เขาเป็นสภาพแบบนี้ เขาจึงมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวังจิ่งโม่เยี่ยพูดเบาๆ “ข้าไม่เป็นอะไร”ฉินจื๋อเจี้ยนเห็นเขาดูเหมือนคนหมดแรง ก็รู้สึกว่ามันห่างไกลคำว่าไม่เป็นไรเขาถาม “ท่านอ๋อง ท่านเจอมือสังหารอีกแล้วหรือ?”จิ่งโม่เยี่ยส่ายหัว “ไม่ใช่มือสังหาร แต่เป็นพ่อของชูอิ่ง”ฉินจื๋อเจี้ยนได้ยินคำนี้ก็อึ้งไป เขาตกใจพูดว่า “พ่อของพระชายา? ท่านพ่อของนางไม่ใช่ว่าตายไปนานแล้วหรือ?”เขาไม่รู้รายละเอียดในเรื่องนี้ รู้เพียงว่าเฟิ่งชูอิ่งอาศัยอยู่ในจวนสกุลหลินเพราะพ่อแม่ของนางเสียชีวิตแล้วจิ่งโม่เยี่ยพูดเสียงเรียบ “ใช่ เขาตายไปแล้ว แต่กลับมีชีวิตอยู่ในรูปแบบอื่น”ฉินจื๋อเจี้ยน “……”ถ้าเขาไม่รู้จักเฟิ่งชูอิ่งและได้พบกับเฉี่ยวหลิง เขาอาจจะไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 583

จิ่งโม่เยี่ยรู้ว่าเฟิ่งชูอิ่งไม่ชอบเขา และจากเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อนอาจจะทำให้นางเกลียดเขามากขึ้น แต่ก็ทำให้ในใจของเขามีความหวังเกิดขึ้นนางไม่ชอบเขา ไม่ให้อภัยเขา เขาก็จะไม่ไปรบกวนนาง แค่ได้มองนางจากระยะไกลก็เพียงพอแล้วส่วนเรื่องในอนาคต…เรื่องในอนาคต ค่อยว่ากันทีหลังขณะนี้เขายังมีเรื่องต้องทำอยู่ปู๋เยี่ยโหวเอนหลังอยู่บนเตียงไม้สลักขนาดใหญ่ ขาไขว้กันไปมา ดูท่าทางสบายสุดๆในมือของเขายังถือขนมชนิดหนึ่งอยู่ ขนมนี้อร่อยถูกใจเขามาก เขาถึงกับหลับตาเคลิบเคลิ้มขณะที่ลิ้มรสมันในสภาพแบบนี้ เขาไม่มีความรู้สึกเหมือนกำลังติดคุกเลย ดูเหมือนเขาออกไปพักผ่อนเพื่อสนุกกับชีวิตเสียมากกว่าสิ่งที่ทำให้ปู๋เยี่ยโหวเสียดายคือ ขณะนี้ไม่มีใครมาคอยรับใช้เขา ห้องขังก็ดูมืดและอับชื้น ทำให้บรรยากาศดูแย่กว่าที่คิดแต่ถ้าเขาสามารถหลุดพ้นเคราะห์กรรมไปได้ เขาคิดว่าเขาจะยอมอดทนต่อไปอีกสักพักเขายืดตัวบิดขี้เกียจและรู้สึกง่วง จึงตัดสินใจที่จะงีบหลับก่อนเขาเพิ่งจะยืดเส้นยืดสาย ก็รู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามาตอนแรกเขาคิดว่าเป็นยามที่มาผลัดเปลี่ยนเวร จึงไม่ได้ใส่ใจ และไม่แม้แต่จะมองไปที่ประตูกรงขังจนกระทั่งคนท
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 584

แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ต้องขังในคุกใกล้เคียงก็ยังมีคนโผล่หัวออกมาชมการทะเลาะวิวาทชีวิตในคุกนั้นน่าเบื่อมาก พวกเขาชอบดูเรื่องวุ่นวายและตะโกนเสียงดังว่า “เอาอีก ตีกันให้ตายไปเลย!”ฉินจื๋อเจี้ยนให้ทหารที่อยู่ข้างๆ ตีพวกที่มาดูเรื่องวุ่นวายด้วยเอาเถอะ ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้แล้ว ก็ให้ทุกคนโดนตีไปพร้อมๆ กันเลยแล้วกันจิ่งโม่เยี่ยและปู๋เยี่ยโหวไม่ใช้กระบวนท่าอะไร แต่เมื่อสู้กันกลับเป็นการต่อยหนักหน่วงตรงไปตรงมาจิ่งโม่เยี่ยพูดขณะต่อยว่า “ทำไมถึงปิดบังข้า?”ปู๋เยี่ยโหวตอบว่า “ทำไมข้าจะต้องปิดบังเจ้า เจ้ามิใช่รู้แก่ใจหรือ?”“เจ้าทำตัวเองแท้ๆ นางไม่ชอบเจ้าเลย ไม่อยากพบหน้าเจ้า”“แล้วเจ้าก็ไม่รู้จักอายเสียบ้าง ยังคงตามติดนางไม่ยอมปล่อย”“นางเกือบจะตายเพราะเจ้ามาแล้ว ทำไมไม่ปล่อยนางเสียทีล่ะ?”จิ่งโม่เยี่ยไม่ตอบ แต่ยังคงต่อยปู๋เยี่ยโหวอย่างรุนแรงมากขึ้นปู๋เยี่ยโหวสบถคำหยาบ เขารู้สึกว่าวันนี้จิ่งโม่เยี่ยบ้าไปแล้ว!เขาเจ็บปวดจนร้องเสียงดัง “ข้าไม่พูดแล้ว ข้าไม่พูดแล้ว! อย่าตีข้าอีกเลย!”“ข้าปิดบังเจ้าก็จริง แต่ถ้าไม่ใช่เพราะข้า นางคงตายไปนานแล้ว!”รองหัวหน้าศาลต้าหลี่ได้ยินเสียงดังจึงรี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 585

เขาไม่รู้ว่าปู๋เยี่ยโหวโกหกเรื่องนี้ตรงไหนบ้าง แต่เขารู้ว่าสิ่งหนึ่งเป็นความจริงนั่นคือ เฟิ่งชูอิ่งไม่ชอบเขาเขาหรี่ตาลงนั่งเงียบๆ ไม่พูดอะไรปู๋เยี่ยโหวไม่ได้รับคำตอบจากเขา จึงหันไปมองเขาอีกครั้ง เมื่อเห็นผมขาวเต็มหัวของเขาก็ขยับเข้าไปใกล้ปู๋เยี่ยโหวถามเขาว่า “ครั้งนี้เจ้าได้เจอท่านลุงเหมยหรือเปล่า?”จิ่งโม่เยี่ยพยักหน้าเบาๆปู๋เยี่ยโหวจึงเข้าใกล้เขาอีก “ถ้าเจ้ารู้แล้ว ก็ฟังคำแนะนำของข้าสักหน่อย”“ที่ไหนในโลกนี้ไม่มีบุปผางามบ้าง ทำไมต้องหลงรักปักใจแค่ดอกไม้ดอกเดียว?”“เจ้ามีอำนาจ มีรูปร่างหน้าตาเพรียมพร้อม มีฐานะสูงส่ง เจ้าอยากได้สตรีแบบไหนก็ย่อมได้ทั้งนั้น?”“ถึงนางจะดีเลิศเลอ แต่ใจนางไม่อยู่ที่เจ้า ก็อย่าเสียเวลายุ่งวุ่นวายกับนางเลย”“ข้ารู้จักสาวงามมากมาย ทั้งอ่อนหวานและเอาใจใส่เก่ง อุปนิสัยดีเยี่ยม ดีกว่านางเป็นพันเป็นหมื่นเท่า!”“แค่เจ้าพูดมาคำเดียว ข้าก็จะให้พวกนางมาปรนนิบัติเจ้าทั้งหมดเลย”จิ่งโม่เยี่ยไม่ได้สนใจเขา ปู๋เยี่ยโหวยังคงพูดถึงความสุขที่ได้มีสาวงามมาปรนนิบัติรับใช้ ทำให้จิ่งโม่เยี่ยรู้สึกเบื่อหน่ายจิ่งโม่เยี่ยย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่เขาได้ร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 586

จิ่งโม่เยี่ยไม่สนใจเขาและเดินออกไปอย่างรวดเร็วเขารู้ว่าเฟิ่งชูอิ่งยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นเขาจึงคิดจะมีชีวิตต่อไปในเมืองหลวงไม่ปลอดภัย เขายังมีหลายสิ่งที่ต้องทำวันนี้อารมณ์ของเขาผันผวนมาก ในขณะนี้เขาต้องการเวลาสักคืนเพื่อสงบสติอารมณ์ถึงแม้จะไม่ถึงกับหลบไปร้องไห้ แต่เขาก็ต้องการจัดระเบียบความรู้สึกของตัวเองให้ดีไม่ว่าจะอย่างไร เฟิ่งชูอิ่งก็ยังมีชีวิตอยู่ นั่นถือเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับเขาตามที่ปู๋เยี่ยโหวกล่าว เขาไม่สามารถโลภมากเกินไปได้เขาก็ต้องคิดให้ดีว่าต่อไปนี้เขากับเฟิ่งชูอิ่งจะเป็นอย่างไรเหมยตงยวนหลังจากที่ทำให้จิ่งโม่เยี่ยเจ็บตัว ก็เริ่มคิดว่าจะออกจากเมืองหลวงอย่างไรให้เร็วที่สุดนางมีบาดแผลที่ขา ไม่เหมาะกับการเดินทางไกล แต่ถ้าอยู่ใกล้เมืองหลวงมากเกินไป จิ่งโม่เยี่ยก็ยังจะตามมาอยู่ดีวิธีที่ดีที่สุดคือการนั่งเรือออกไป แต่นางก็เป็นคนที่เมาเรืออย่างหนัก การนั่งเรือจึงต้องเป็นอันยกเลิกไปเขาเคยคิดจะพูดคุยกับนางเกี่ยวกับเรื่องของจิ่งโม่เยี่ย แต่เมื่อกลับไปก็พบว่านางมีไข้สูงอีกครั้งตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ใช้วิชาต้องห้าม ร่างกายของนางก็อ่อนแอมาก ในช่วงสามเดือนที่ผ่านม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 587

“เพราะเหตุนี้ ทำให้นางมีนิสัยที่ค่อนข้างจะหยิ่งยโสและเอาแต่ใจ”“ครั้งแรกที่ข้าพบนาง ข้าเผชิญหน้ากับความแห้งแล้งครั้งใหญ่ในแคว้นซีฉู่ นางในฐานะสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ขอฝนให้กับแคว้นซีฉู่”“แม่ของเจ้ามีความสามารถในการทำนายที่ยอดเยี่ยม แต่ความสามารถในการขอฝนกลับไม่ค่อยดีนัก การตั้งอาคมขอฝนของนางล้วนแต่เกิดผิดพลาด”“ตอนนั้นข้าทนมองไม่ไหวจึงช่วยนางปรับอาคมให้ถูกต้อง แล้วก็ขอฝนมาได้ แต่นางกลับคิดว่าข้ากำลังหยามหน้านาง ตั้งแต่นั้นมานางก็หาวิธีมาทำให้ข้าลำบากทุกวัน”“ตอนนั้นข้ายังมีวิญญาณร้ายตัวสุดท้ายที่ยังไม่สามารถปราบได้ นางรบกวนข้าทุกวัน ทำให้ข้าลำบากหลายครั้ง จนต้องไล่ตะเพิดนางไปหลายครั้ง และครั้งหนึ่งข้าเผลอทำให้นางได้รับบาดเจ็บ”เฟิ่งชูอิ่งเบิกตากว้างมองเขา “พ่อทำร้ายแม่หรือ?”เหมยตงยวนยิ้มแห้งๆ พร้อมกับลูบจมูกเบาๆ “เป็นการทำร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ และก็เป็นครั้งนั้นที่ความสัมพันธ์ของพวกเรามีการเปลี่ยนแปลง”เฟิ่งชูอิ่งสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เหมยตงยวนรู้สึกว่ามันน่าเสียดาย “แม่ของเจ้านั้นมีความสามารถในการทำให้คนวุ่นวายจริงๆ ข้าแทบจะรับมือไม่ไหว”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะเบาๆ “ท่านพ่อ ท่าน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 588

เฟิ่งชูอิ่งเบิกตากว้างมองไปที่เหมยตงยวน ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะมีเรื่องบ้า ๆ แบบนี้เกิดขึ้นจริง!ฆ่าภรรยาเพื่อพิสูจน์มรรคา?มันช่างบ้าบอเหลือเกิน!นางอดไม่ได้ที่จะถามว่า “แล้วพ่อทำอย่างไร?”เหมยตงยวนรู้สึกถึงความเยือกเย็นทั่วร่าง เขาพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ฆ่าภรรยาเพื่อพิสูจน์มรรคานั้นย่อมเป็นไปไม่ได้”“เพียงแต่ข้ารู้ว่าอาจารย์ของข้าเป็นคนอย่างไร ยิ่งข้าแสดงออกว่าห่วงใยแม่ของเจ้ามากเท่าไร เขายิ่งต้องการฆ่าแม่ของเจ้ามากขึ้นเท่านั้น”“ตอนนั้นข้าใช้วิธีบางอย่างหลอกพวกเขาให้เชื่อว่าข้าไม่มีความรู้สึกต่อแม่ของเจ้า และยินดีที่จะฟังคำสอนของอาจารย์เพื่อสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าสำนัก”“ข้ายังบอกอาจารย์ว่าที่ข้าแต่งงานกับนาง ก็เพราะว่านางเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นซีฉู่ และข้างกายของนางมีปีศาจจิ้งจอกที่ฝึกฝนมานานถึงพันปี”“ข้าต้องการจับปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นจึงใช้นางมาเป็นเหยื่อ เพื่อหลอกล่อปีศาจจิ้งจอกที่อยู่ข้างกายนางมาที่นี่ ตั้งกับดักเพื่อจับมันไปเพื่อทำการทดสอบ”เฟิ่งชูอิ่งเมื่อได้ยินตรงนี้ใจของนางก็รู้สึกบีบรัด รู้ว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่เหมยตงยวนค่อยๆ หลับตาล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 589

“นางไม่ยอมให้ข้าเลี้ยงดูเจ้าเลยส่งเจ้าขึ้นขบวนรถเดินทางไปยังเมืองหลวง เพื่อให้สหายเก่าของนางดูแลเจ้าแทน”เขาพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงก็สั่นเครือเล็กน้อยแม่ของเฟิ่งชูอิ่งไม่ยอมให้อภัยเขาจนกระทั่งตาย แม้แต่การส่งลูกสาวไปให้คนอื่นเลี้ยงก็ยังดีกว่าการให้เขาเลี้ยง เรื่องนี้ทำให้เขาได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างมากเฟิ่งชูอิ่งเรียกเขาว่า “ท่านพ่อ…”เหมยตงยวนพูดเบาๆ ว่า “ข้าไม่เป็นไร ข้าติดหนี้แม่ของเจ้ามากมายนัก นางเกลียดข้าก็เป็นเรื่องปกติ”“แค่คิดถึงเรื่องเหล่านี้ก็ทำให้ข้ารู้สึกเศร้าแล้ว”เฟิ่งชูอิ่งอยากจะปลอบเขา แต่เรื่องนี้กลับไม่รู้จะปลอบใจอย่างไรในสถานการณ์นั้น จากมุมมองของเหมยตงยวนมันคือการอดทน แต่จากมุมมองของแม่เฟิ่งชูอิ่งมันคือความเจ็บปวดอย่างสุดซึ้งไม่ว่าสถานการณ์จะเกิดจากความปรารถนาของเขาหรือไม่ เขาก็ยังทำร้ายนางอยู่ดีเฟิ่งชูอิ่งลองเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ของแม่นางในตอนนั้น ก็สามารถเข้าใจการตัดสินใจของท่านแม่ได้ดีเรื่องเหล่านี้ตอนนี้พูดออกมาจากปากเหมยตงยวนแค่ไม่กี่ประโยค แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นคงจะเป็นหายนะอันยิ่งใหญ่นางนึกถึงสิ่งที่ได้จากหลินชูเจิ้ง ถามว่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 590

นางอุทานออกมาว่า “ท่านพ่อ ท่านเจ๋งสุดยอดไปเลย!”เหมยตงยวนถอนหายใจเบาๆ “ข้าไม่ได้เก่งกาจอย่างที่เจ้าคิดหรอก”“ตอนนั้นข้าใช้วิชาต้องห้าม ก็ต้องจ่ายราคาที่สมน้ำสมเนื้อด้วยเหมือนกัน”“ตอนนั้นฮ่องเต้เจาหยวนกำลังชิงอำนาจ ต้องการฆ่าฮ่องเต้พระองค์ก่อน ข้าจึงใช้วิชาต้องห้ามทำให้พลังของข้าลดลงอย่างมาก และในเวลาสั้นๆ ก็ไม่สามารถทำนายได้อีก”“ฮ่องเต้เจาหยวนและเทียนซือร่วมมือกันวางกับดัก ทำลายสำนักลี้ลับ ฆ่าข้าและจับวิญญาณของข้าไปขังไว้ในพระราชวัง”เฟิ่งชูอิ่งฟังแล้วรู้สึกว่าเรื่องราวนี้ไม่ง่ายดายอย่างที่คิดตอนนั้นน่าจะอันตรายมาก สถานการณ์การต่อสู้ก็น่ากลัวมากนางเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาจึงถามว่า “ท่านพ่อ วิชาต้องห้ามที่ท่านใช้คือการแลกเปลี่ยนชีวิตใช่ไหม?”เหมยตงยวนมองไปที่นางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าเดาออกแล้วหรือ?”เขาไม่ได้บอกนางเพราะไม่อยากให้นางคิดมาก แต่ไม่คิดว่านางจะฉลาดขนาดนี้ ถึงขั้นเดาออกได้ง่ายๆเฟิ่งชูอิ่งถอนหายใจ “ท่านพ่อก็อย่าดูถูกข้านักสิ ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าก็เรียนวิชาสำนักลี้ลับได้ดีอยู่นะ”“เมื่อไม่นานมานี้ ข้าก็เพิ่งใช้วิชาต้องห้าม และเข้าใจมันได้ลึกซึ้งกว่าคนทั่วไป”วิชา
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
5758596061
...
100
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status