All Chapters of ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี: Chapter 591 - Chapter 600

997 Chapters

บทที่ 591

นางเอ่ยถาม “ท่านพ่อ หลังจากท่านตาย ร่างวิญญาณก็ถูกขังไว้ในวังหลวง แล้วท่านแม่ล่ะ? นางไปเกิดใหม่แล้วหรือ?”เหมยตงยวนส่ายหน้า “ข้าไม่รู้หรอก ตอนที่มารดาของเจ้าเสียชีวิต ข้าถูกเรื่องของสำนักลี้ลับรั้งเอาไว้อยู่ ก็เลยไปไม่ทันเวลา”“หลังจากข้าไปถึงที่นั่น ร่างวิญญาณของมารดาเจ้าก็ไม่อยู่แล้ว ข้าทดลองอัญเชิญวิญญาณนางมาหา แต่กลับหาตัวนางไม่พบเลย”“ข้าได้ยินว่าหลังจากสตรีศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นซีฉู่ตายไปแล้ว วิญญาณของพวกนางจะกลับไปสู่อารามศักดิ์สิทธิ์ เพื่อปกปักษ์รักษาแคว้นซีฉู่”“เอาไว้หลังจากขาของเจ้าหายดีแล้ว ข้าจะลองไปตามหาที่แคว้นซีฉู่ดู”“เพียงแต่เวลาผ่านมานานมากแล้ว ข้าก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าจะหานางพบหรือไม่”เฟิ่งชูอิ่งจึงกล่าวว่า “หลังจากขาของข้าหายดีแล้ว ข้าจะไปช่วยท่านพ่อตามหาท่านแม่ด้วย”เหมยตงยวนพยักหน้า ตอนแรกเขาอยากถามนางเรื่องที่นางถูกส่งไปเกิดยังโลกอีกใบหนึ่ง เพียงแต่นางกับเขาสนทนากันมานานมากแล้ว นางจึงเริ่มจะง่วงงุนขึ้นมาเขาจึงเก็บคำถามพวกนั้นเอาไว้ก่อน กล่าวเพียงว่า “เจ้าพักผ่อนเถอะ”เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเนื่องจากพิษไข้ นางตอบเสียงแผ่วเ
Read more

บทที่ 592

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “เจ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่ไม่กล้าลงโทษข้าอย่างเปิดเผย แต่กลับเปิดประตูคุกออก พวกเขาต้องการยืมมือของนักโทษมาฆ่าข้า”“สถานการณ์ตอนนั้นวุ่นวายไปหมด ข้าต่อสู้กับนักโทษพวกนั้นจึงกลายเป็นสภาพแบบนี้”เหมยตงยวนได้ยินเช่นนั้นก็เหลือบมองปู๋เยี่ยโหวเพียงแวบเดียว ด้วยฝีมือทางการแพทย์อันยอดเยี่ยมของเขา เขาเห็นได้ชัดว่าบาดแผลของปู๋เยี่ยโหวนั้นผ่านมาสองสามวันแล้วหากลองนับเวลาแล้ว บาดแผลของปู๋เยี่ยโหวน่าจะเกิดขึ้นในวันที่จิ่งโม่เยี่ยมาที่จวนตากอากาศดังนั้นบาดแผลของปู๋เยี่ยโหวเกรงว่าจะไม่ใช่ฝีมือของนักโทษ แต่เป็นฝีมือของจิ่งโม่เยี่ยเขาตระหนักถึงความจริงของเรื่องทั้งหมด ทว่าทำเพียงมองปู๋เยี่ยโหวพูดโกหกอย่างไม่สนใจปู๋เยี่ยโหวมองเห็นสายตาแจ่มแจ้งของเหมยตงยวน เขาพลันรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย แต่ใบหน้ายังคงสงบนิ่งเยือกเย็นและส่งยิ้มให้เหมยตงยวนเหมยตงยวนส่งเสียงฮึดฮัดเบาๆ เหนื่อยจะสนใจเขาเฟิ่งชูอิ่งเลิกคิ้วเล็กน้อย “เท่าที่ฟังดูแล้ว เจ้านี่ช่างโชคร้ายเสียจริง”ปู๋เยี่ยโหวถอนหายใจยาว “ข้าก็คิดว่าข้าโชคร้ายมากเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย!”แม้ว่าครั้งนี้เขาจะโ
Read more

บทที่ 593

ปู๋เยี่ยโหวไม่ได้ใส่ใจรองหัวหน้าศาลต้าหลี่มากนัก เขาเพียงแค่คิดว่าคุกใหญ่ของศาลต้าหลี่เป็นสถานที่หลบภัยที่ดีอีกอย่างสำหรับเขาแล้ว ศาลต้าหลี่ก็เป็นสถานที่ที่เขาอยากจะมาเมื่อไหร่ก็มา อยากจะไปเมื่อไหร่ก็ไปจริงๆ นั่นแหละแต่แน่นอนว่าเขาจะไม่บอกเรื่องนี้กับเฟิ่งชูอิ่งปู๋เยี่ยโหวพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสารว่า “ชูชู พวกเขาทำร้ายข้าจนเจ็บมากเลย ทำถุงเงินปลอบใจให้ข้าหน่อยหน่อยสิ!”เฟิ่งชูอิ่งหยิบบ๊วยโยนเข้าปากแล้วตอบว่า “ได้สิ”ดวงตาของปู๋เยี่ยโหวเป็นประกาย เขารู้สึกว่าวันนี้นางน่าจะใจดีกว่าในยามปกติ แต่แล้วเขาก็ได้ยินนางพูดว่า “ถ้าท่านพ่อข้ายอมอนุญาต ข้าก็จะทำให้”เหมยตงยวนมองมาที่ปู๋เยี่ยโหว ปู๋เยี่ยโหวจึงรีบพูดว่า “ไม่ต้องแล้ว!”เหมยตงยวนโยนขี้ผึ้งกระปุกหนึ่งให้เขา “ทาเอาเอง”ปู๋เยี่ยโหวหัวเราะอย่างมีความสุข “ข้ารู้ว่าท่านลุงเหมยเอ็นดูข้าที่สุดแล้ว!”บางครั้งเหมยตงยวนก็คิดว่านิสัยของปู๋เยี่ยโหวนั้นยอดเยี่ยมมาก ไม่มีความละอาย ไม่มีความเกรงใจ นิสัยร่าเริงสดใส จนทำให้คนเกลียดไม่ลงปู๋เยี่ยโหวก็พบว่าทัศนคติของเหมยตงยวนที่มีต่อเขานั้นดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก อย่างน้อยก็ไม่มาทุบตีเขาอีกแล้
Read more

บทที่ 594

เหมยตงยวนเห็นสภาพหน้าตาเขียวช้ำของเขาจึงพูดเสียงเย็นชาว่า “งามหน้าเหลือเกิน!”ปู๋เยี่ยโหวไม่เคยเกรงกลัวอะไร เขาตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “หน้าตาสำคัญอะไรเล่าเมื่อเทียบกับชีวิต”ทั้งสองจ้องหน้ากันเขม็งเหมยตงยวนไม่สนใจเขาแล้วหันไปจัดการยาสมุนไพรบาดแผลของเฟิ่งชูอิ่งเกิดจากจิ่งโม่เยี่ย ตามตรรกะทั่วไปแล้วหากทำร้ายคนอื่นก็ต้องเอ่ยขอโทษเป็นอย่างน้อย เหมยตงยวนจึงไม่รู้สึกติดค้างในการเก็บสมุนไพรเหล่านี้สมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นของบรรณาการหายากที่ถูกถวายมา คุณภาพสูงมาก มีหลายชนิดที่เฟิ่งชูอิ่งจำเป็นต้องใช้เหมยตงยวนคัดเลือกสมุนไพรที่ใช้ได้ จัดเรียงแล้วนำบางส่วนไปต้มยาบำรุงร่างกายให้เฟิ่งชูอิ่งเฟิ่งชูอิ่งคิดว่าร่างกายของนางดีขึ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องกินยาอีกแล้ว พอเห็นยาที่ต้มเสร็จใหม่ๆ ก็หน้าเสียนางถามเหมยตงยวนว่า “ท่านพ่อ ข้าไม่ต้องดื่มยานี้ได้ไหม?”เหมยตงยวนยังไม่ได้ตอบ ปู๋เยี่ยโหวก็พูดขึ้นมาว่า “ไม่ได้!”เฟิ่งชูอิ่งมองเขา เขาจึงกล่าวอย่างจริงจังว่า “นี่คือยาที่ข้าหามาด้วยความยากลำบาก ถ้าเจ้าไม่ดื่มก็เท่ากับเหยียบย่ำความจริงใจของข้า”เฟิ่งชูอิ่งตั้งใจจะกัดฟันดื่ม แต่พอได้ยินประโยคนี้ก็ไ
Read more

บทที่ 595

นางจึงร่ำไห้เล่าเรื่องราวความลำบากของตนให้เทียนซือฟังหลังจากการเปลี่ยนแปลงในวังครั้งก่อน ฮ่องเต้เจาหยวนทรงถูกกักขังอยู่ในวังหลวงถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้เจาหยวนจะทรงมีรับสั่งให้กักบริเวณนางไว้ จนทำให้นางโกรธมากแต่เมื่อได้ยินว่าฮ่องเต้เจาหยวนอาจจะตกอยู่ในอันตราย นางก็เป็นห่วงพระองค์มากและต้องการเข้าวังไปช่วยเหลือทว่านางกลับก้าวออกจากประตูตำหนักเฟิ่งไหลไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะถูกคนของจิ่งโม่เยี่ยขวางไว้ในตอนนั้นพระสนมสวี่แสดงท่าทางเย่อหยิ่งต่อหน้าทหาร แต่ทหารเหล่านั้นได้รับคำสั่งจากจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จึงไม่ยอมปล่อยนางออกไปเมื่อนางพยายามฝ่าออกไป ทหารก็ลงมือใช้กำลังกับนางทันทีตอนนั้นพระสนมสวี่เกือบจะโมโหจนตาย หลุดคำผรุสวาทออกไปมากมาย ทหารปล่อยให้นางพูดพล่ามตามใจชอบ แต่ไม่ยอมให้นางออกจากประตูตำหนักเฟิ่งไหลเด็ดขาดด้วยเหตุนี้ พระสนมสวี่จึงโมโหจนแทบคลั่งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ดังนั้นในวันที่เทียนซือกลับมา พระสนมสวี่จึงรู้สึกว่าตนเองมีที่พึ่งอีกครั้งนางคิดว่าเทียนซือสมัยยังมีชีวิตอยู่ก็เก่งกาจแล้ว พอตายไปกลายเป็นวิญญาณร้ายก็ยิ่งเก่งกาจเข้าไปอีกจึงร้องไห้ฟ้องเทียนซือว่าจิ่งโม่เยี่ย
Read more

บทที่ 596

หลังจากที่เทียนซือสุขสมอารมณ์หมายในคืนนี้ เขาก็พูดเสียงเบาว่า “ตอนนี้เขาถูกจิ่งโม่เยี่ยขังอยู่ในวังแล้ว เขาไม่มีเวลามาสนใจเจ้าอีกแล้ว”“ขอเพียงเจ้ายอมอยู่กับข้า ข้าก็จะดูแลเจ้าอย่างดี”ความรู้สึกอับอายอย่างรุนแรงเกิดขึ้นในใจของพระสนมสวี่ นางกัดฟันเอ่ยว่า “เจ้าอย่าให้มันมากเกินไปนะ”เทียนซือมองพระสนมสวี่แล้วพูดว่า “เจ้าให้กำเนิดบุตรชายแก่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนและฮ่องเต้เจาหยวนแล้ว เช่นนั้นก็ให้กำเนิดบุตรชายแก่ข้าด้วยเถิด!”แม้ว่าการมีลูกกับผีจะเป็นเรื่องยาก แต่เทียนซือก็คิดว่าตัวเองเก่งมาก มีโอกาสสูงที่จะทำให้พระสนมสวี่ตั้งครรภ์ได้เขาไม่คิดว่าพระสนมสวี่จะทำอะไรได้ เพราะเขาอยู่กับพระสนมสวี่มานานแล้ว รู้ว่าพระสนมสวี่เป็นคนอย่างไรนางอาศัยเพียงความสวยงามและความรักจากผู้ชายเท่านั้นเมื่อผู้ชายข้างกายนางไม่รักนางอีกแล้ว นางก็กลายเป็นเพียงแจกันประดับใบหนึ่งดูสวยงาม แต่ไร้ประโยชน์พระสนมสวี่ตกใจจนแทบตายเมื่อได้ยินคำพูดของเขา ร้องไห้ฟูมฟายว่า “ข้าไม่ยอมให้กำเนิดบุตรชายแก่เจ้าหรอก!”เทียนซือหัวเราะเยาะเย้ยว่า “เรื่องนี้เจ้าห้ามไม่ได้หรอก”หลังจากพูดจบ เขาก็กระโจนเข้าใส่พระสนมสวี่พระสน
Read more

บทที่ 597

เหมยตงยวนเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “สั่งการออกไป ต่อไปนี้หากพบร่องรอยของเทียนซือให้รีบแจ้งข้าทันที”วิญญาณร้ายตนนั้นรับคำ แล้วรีบไปกระจายข่าวต่อเหมยตงยวนใช้เวลาหลายเดือน นอกจากจะยุ่งกับการจัดการหลินชูเจิ้งและเจ้าอารามแล้ว ยังแวะไปจัดการพวกวิญญาณร้ายในเมืองหลวงด้วยพวกที่ยอมสวามิภักดิ์ก็จะได้อยู่ดีๆ ไป แต่พวกที่ไม่ยอมก็จะโดนจัดการจนไม่เหลือเรี่ยวแรงด้วยวิธีการที่มีทั้งอำนาจและบุญคุณเช่นนี้ ในเวลาสามเดือน เขาก็สามารถควบคุมโลกวิญญาณร้ายในเมืองหลวงได้อย่างสมบูรณ์ไม่ว่าวิญญาณร้ายตนไหนจะมีนิสัยดื้อรั้นแค่ไหน พอมาอยู่ต่อหน้าเหมยตงยวนก็จะเชื่องทันทีสมัยที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นประมุขของสำนักลี้ลับ จึงรู้ดีว่าจะจัดการกับผีร้ายอย่างไรตอนนี้วิญญาณร้ายในเมืองหลวงทั้งหมดต่างก็เป็นลูกน้องของเขาเหมยตงยวนและพวกวิญญาณร้ายเหล่านี้มีวิธีติดต่อสื่อสารกันเอง เขาจึงสามารถรับรู้ข่าวสารที่ต้องการได้ในเวลาอันสั้นวันนี้ปล่อยให้เทียนซือหนีไปได้ ทำให้เหมยตงยวนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยวิญญาณร้ายบางตนในเมืองหลวงขี้เกียจและไม่เต็มใจรับใช้เหมยตงยวน จึงหนีออกนอกเมืองไปเมื่อพวกมันออกจากเมืองหลวง เหมยตงยวนก็
Read more

บทที่ 598

ก็ไม่แปลกที่เขาจะสงสัยอย่างนั้น เพราะจากประสบการณ์ทำงานหลายปีของเขา วิญญาณร้ายส่วนใหญ่ผู้หญิงจะเก่งกว่าผู้ชายเพราะผู้หญิงเวลาตายมักจะมีความแค้นมากกว่า ง่ายต่อการหลงผิดจิ่งโม่เยี่ยถามว่า “เจ้าไม่สนใจเรื่องรับมือกับวิญญาณร้ายมิใช่หรือ”เจ้าอาวาสตอบว่า “ข้าไม่สนใจเรื่องนี้ แต่วิญญาณร้ายตนนี้ไม่เหมือนวิญญาณร้ายทั่วไป”“วิญญาณร้ายตนนี้ไม่เพียงแต่เก่งมาก แต่ยังฉลาดอีกด้วย มันได้ควบคุมและปกครองวิญญาณร้ายทั่วเมืองหลวงไปหมดแล้ว”“ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ เกรงว่าจะกลายเป็นภัยของเมืองหลวงแห่งนี้ได้!”เพราะวิชาทางพุทธศาสนาของเขาไม่เก่งกาจนัก จึงทำตัวเป็นกลางมาตลอดเขาไม่สนใจเรื่องจับวิญญาณร้าย แต่ถ้าเขาพบว่าวิญญาณร้ายจะก่อความเดือดร้อนให้มนุษย์ เขาก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินคำพูดของเจ้าอาวาสแล้ว ก็รู้ว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำของเหมยตงยวนอย่างแน่นอนเขาไม่ค่อยรู้จักเหมยตงยวนเท่าไหร่ เขารู้ว่าเหมยตงยวนตอนมีชีวิตอยู่ฝึกวิชามรรคาไร้ใจ นิสัยเย็นชา กระทำเรื่องต่างๆ อย่างยุติธรรม เจาะจงการกระทำไม่เพ่งเล็งตัวบุคคลครั้งที่แล้วเหมยตงยวนชกต่อยเขา เขาก็พบว่าเหมยตงยวนที่ตายไปแล้วมีพลังอำน
Read more

บทที่ 599

เจ้าอาวาสกล่าวว่าตนเองมีความสามารถธรรมดา แต่เมื่อถึงคราวเอาจริงเขาก็นับว่ามีฝีมืออยู่บ้างเหมือนกันหลังจากที่เขาทำลายวิชาอาคมที่ตั้งไว้ที่ประตูแล้ว เขาก็พาเหล่าศิษย์บุกเข้าไปเหมยตงยวนได้ยินเสียงดังจึงรีบวิ่งออกมา เมื่อเขาเห็นเจ้าอาวาส เขาก็รู้สึกหงุดหงิดและลงมือตบเจ้าอาวาสจนกระเด็นออกไปเจ้าอาวาสได้เปิดเนตรทิพย์ไว้ เขาจึงรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเหมยตงยวน วิญญาณร้ายตนนี้ไม่เหมือนที่เขาคิดไว้อีกฝ่ายเป็นผู้ชายครั้งนี้หลังจากที่เจ้าอาวาสลุกขึ้นมาได้ เขาก็ไม่ได้หนีไปเหมือนครั้งก่อน เขาหยิบไม้เท้าสยบวิญญาณขึ้นมาทุบลงกับพื้นอย่างแรงแล้วเข้าโจมตีเหมยตงยวนเหมยตงยวนมองเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าเจ้าอาวาสมีฝีมือแค่เพียงพอไปวัดไปวาได้เท่านั้น เขารู้สึกประหลาดใจที่เจ้าอาวาสมีความสามารถเพียงเท่านี้ แต่กลับกล้าออกมาจับวิญญาณร้ายมันเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ!เหมยตงยวนฝึกมรรคาไร้ใจ อารมณ์เย็นชาและไม่มีความเมตตาปรานีมากนักเขาไม่พูดอะไรมาก กระบี่ในมือก็ถูกชักออกมาแล้วฟันใส่เจ้าอาวาสทันทีเจ้าอาวาสเห็นวิธีการโจมตีของเขาก็รู้ทันทีว่าวิญญาณร้ายตนนี้เก่งกาจมาก เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวิญญาณร้ายตนนี้อย่างแน่น
Read more

บทที่ 600

เฟิ่งชูอิ่งเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วก็งงเล็กน้อยนางไม่เข้าใจนักว่าเจ้าอาวาสกับเหมยตงยวนทะเลาะกันได้อย่างไรนางอดทึ่งไม่ได้จริงๆ ด้วยฝีมือระดับเจ้าอาวาส ยังกล้าต่อกรกับเหมยตงยวนอีก นี่มันเป็นการหาเรื่องตายชัดๆ เลยนางจึงตะโกนเสียงดังว่า “ท่านพ่อ คนของเราเอง โปรดเมตตายั้งมือด้วย!”ตอนแรกเหมยตงยวนตั้งใจจะแค่สั่งสอนเจ้าอาวาสเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เขากล้ามาหาเรื่องที่จวนตากอากาศแห่งนี้อีกแต่เมื่อเจ้าอาวาสใช้ยันต์ปัญจอสนีออกมา เขาก็เปลี่ยนใจ ของวิเศษที่มีพลังอำนาจขนาดนี้ ไม่ควรปล่อยไว้ดังนั้นการโจมตีครั้งหลังจึงลงมืออย่างจริงจัง เขาตั้งใจจะฆ่าเจ้าอาวาสเสียให้ตายแต่เนื่องจากเฟิ่งชูอิ่งอยู่ตรงหน้า เขาจึงกลัวว่านางจะตกใจกลัว เลยเปลี่ยนใจจะโยนเจ้าอาวาสออกไปแทนแต่จุดที่เขาจะโยนเจ้าอาวาสไปนั้นเป็นภูเขาจำลอง ถ้าศีรษะเจ้าอาวาสไปกระแทกภูเขาจำลอง ถึงไม่ตายก็คงบาดเจ็บสาหัสเหมยตงยวนได้ยินคำพูดของเฟิ่งชูอิ่ง จึงขยับตัวด้วยความเร็วสูงแล้วคว้าเจ้าอาวาสกลับมาตอนที่คว้าตัวได้ หน้าผากของเจ้าอาวาสเกือบจะชนภูเขาจำลองอยู่แล้ว ถ้าช้ากว่านี้อีกนิด เจ้าอาวาสถึงไม่ตายก็ต้องหัวแตกเลือดอาบเจ้าอาวาสที่รอ
Read more
PREV
1
...
5859606162
...
100
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status