บททั้งหมดของ สัญญารักผูกหัวใจท่านประธานปากแข็ง: บทที่ 601 - บทที่ 610

945

บทที่ 601

สุดท้ายสืบมาถึงตัวเขาจริง ๆถ้าเขาไม่มีทางทำให้ข้อมูลรั่วไหล อย่างนั้นก็เป็นได้แค่คนที่สามารถเข้ามาใช้คอมพิวเตอร์ของเขาได้เท่านั้น คนที่น่าสงสัยมากที่สุดก็คือฉู่ซืออี๋ตอนนั้นเขากับฉู่ซืออี๋คบกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว คิดว่าทั้งสองคนเข้ากันไม่ค่อยได้ มีความคิดที่จะเลิกกันทว่าดันคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ทั้งสองคนเจอทางตัน ฉู่ซืออี๋ก็หนีออกไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ จนถูกลักพาตัวไปและประสบกับการทรมานเรื่องข้อมูลรั่วไหลและเรื่องเลิกกันจึงต้องชะลอไปก่อน“อันที่จริงหลังเธอจัดการเสร็จฉันนึกเสียใจมาก วิธีการแบบนี้มันยากมากที่จะไม่ถูกสืบเจอ”เพียงแต่เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นทำให้ฟู่เยว่ขี่หลังเสือแล้วลงยากฟู่เจิงพูดอย่างคาดเดาขึ้นว่า “เพราะงั้นคดีลักพาตัวเกี่ยวข้องกับฉู่ซืออี๋? ใช้วิธีนี้มาชะล้างความน่าสงสัยของเธอ?”ฟู่เยว่ตอบ “ใช่ ฉู่ซืออี๋เป็นคนวางแผนคดีลักพาตัวด้วยตัวเองคนเดียว กำกับเองแสดงเอง ที่บอกว่าเจอสถานการณ์เลวร้ายจนไม่อาจจินตนาการ ก็เป็นภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมาทั้งนั้น”ฟู่เยว่ได้ข่าวหลังจากที่ฉู่ซืออี๋ลงมือทำไปแล้ว เพราะฉู่ซืออี๋ไม่มีทางหนีทีไล่เธอเอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 602

อันที่จริงแผนเดิมของฉู่ซืออี๋คือใส่ความว่าเวินหย่งคังล่วงละเมิดเธอตอนสัมภาษณ์เนื่องจากเธอเป็นเหยื่อและเป็นฝ่ายอ่อนแอกว่า คนส่วนใหญ่ก็จะเชื่อเธอ ถึงเวลานั้นเวินหย่งคังจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนร้ายข่มขืนกระทำชำเรา แน่นอนว่าคำพูดที่เขาพูดออกมาจะไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไป กระทั่งอาจถูกคิดว่าใส่ร้ายฉู่ซืออี๋อีกต่างหากฟู่เจิงซัดหมัดไปบนผนังอีกหนึ่งที สีหน้าเต็มไปด้วยความเดือดดาลยากจะบรรยาย เขาเอ่ยขึ้นทั้งกัดฟันว่า “แล้วทำไมสุดท้ายเธอถึงเปลี่ยนใจล่ะ?”ก่อนหน้านี้เนื่องจากความรู้สึกผิดที่มาพร้อมกับเรื่องลักพาตัว เขาเห็นแก่ความรู้สึกเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่น จึงไม่เคยคิดกับฉู่ซืออี๋ในทางที่ไม่ดีต่อมาเรื่องบางอย่าง เขาก็ทำเป็นว่าฉู่ซืออี๋มีความคิดเล็กน้อยเท่านั้นจนกระทั่งตอนนี้ เขาถึงมองจิตใจอำมหิตโหดเหี้ยมดั่งงูและแมงป่องที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวหนังของฉู่ซืออี๋ออกอย่างกระจ่างแจ้ง!นี่จะอธิบายได้ด้วยเพียงคำว่าแผนการได้อย่างไร?นี่มันลงมือโหดเหี้ยมอำมหิต ไร้ซึ่งความเป็นคนชัด ๆ!ฟู่เยว่เอ่ย “คงเป็นเพราะมีคนเตือนเธอ”หลังจากถูกคนเตือน ฉู่ซืออี๋ก็เปลี่ยนแผนในฐานะนักข่าวที่มีชื่อเสียงและอิทธิพลคนหนึ่ง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 603

เธอลอบไปหาฟู่เยว่อยู่หลายต่อหลายครั้ง หลังพบว่าฟู่เยว่ไม่รู้สึกยินดียินร้าย ก็เริ่มข่มขู่ฟู่เยว่หากฟู่เยว่ไม่คบกับเธอ เธอจะแจ้งตำรวจ และสารภาพไปว่าฟู่เยว่เป็นคนบงการทั้งหมด ทั้งสองคนพังพินาศไปด้วยกันรายการเดินบัญชีธนาคารคือหลักฐานมัดตัว!ทั้งสองคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว ในมือฉู่ซืออี๋ถือจุดอ่อนของฟู่เยว่เอาไว้ ท่าทีของเธอเองก็ไร้ซึ่งความถ่อมตนอย่างก่อนหน้านี้ไปตั้งนานแล้วฟู่เยว่กลัวว่าฉู่ซืออี๋จะแจ้งตำรวจจริง ๆ จึงทำได้เพียงแสดงทีท่าสบาย ๆ คอยปลอบฉู่ซืออี๋ ทว่าก็ลากความสัมพันธ์ไม่ยอมเลิกกับซูชิงอวิ๋นไปด้วยตอนนั้นเขามีสองทางเลือก หนึ่งคือคิดหาวิธีต่อต้านฉู่ซืออี๋ หรือสู้สุดแรง พนันว่าฉู่ซืออี๋ไม่กล้าแจ้งตำรวจ สองคือเลิกกับซูชิงอวิ๋นแล้วไปคบกับฉู่ซืออี๋ทว่าตอนนั้นเขาลังเลตัดสินใจไม่เด็ดขาด ดันเลือกวิธีที่โง่ที่สุดเมื่อฉู่ซืออี๋พบว่าเขายังไม่หย่ากับซูชิงอวิ๋น ก็ค่อย ๆ หมดความอดทน และเลือกลงมือกับซูชิงอวิ๋นความตั้งใจเดิมคือให้ฟู่เยว่เลือก...มีเธออยู่ เขากับซูชิงอวิ๋นก็ไม่มีทางได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไม่นึกเลยว่าซูชิงอวิ๋นจะตั้งท้อง ร่องรอยบาดแผลบนตัวก็ไม่หนักหนาอะไร ทว่ากลับเสี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 604

ฟู่เจิงกำหมัดขึ้นมาแน่น กระดูกข้อนิ้วซีดเผือด หลังมือมีเส้นเลือดปูดขึ้นมาทีละเส้น นัยน์ตาประกายความอำมหิตออกมาเขาเชื่อคำพูดของฟู่เยว่พวกเขาโตมาด้วยกัน ไม่มีใครรู้จักฟู่เยว่ดีเท่าเขา นิสัยอ่อนโยนอบอุ่น ลังเลตัดสินใจไม่เด็ดขาด มีความโลภแต่ไม่มีความกล้าเรื่องเหล่านั้นต้องมีคนคอยยุแยงเขาอยู่เบื้องหลังแน่ ๆ เขาถึงได้ทำแบบนี้ลงไปหากไม่ได้เป็นเพราะฉู่ซืออี๋ พวกเขาสองพี่น้องก็คงไม่มีทางเดินมาถึงขั้นอย่างในวันนี้แน่นอน!ทว่าฟู่เยว่เองก็สลัดการเป็นชนวนของเรื่องราวไม่หลุดเช่นกันฟู่เจิงผิดหวังที่ฟู่เยว่ไม่ได้ดั่งใจมากจริง ๆ!“ไม่นานมานี้พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่าพบว่าพี่ติดต่อกับผู้หญิงคนอื่น...”“เป็นฉู่ซืออี๋” ฟู่เยว่เงยหน้าเอ่ย “เธอถูกคนของนายตามหาไปทั่ว เลยแอบหนีมาหาฉัน พวกเราทะเลาะกันยกหนึ่ง”รอยข่วนบนคอเขาที่ซูชิงอวิ๋นไปเห็นเข้าเป็นฝีมือของฉู่ซืออี๋ทว่าเขาดันพูดอะไรออกมาไม่ได้ ได้แต่มองดูเธอดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด ตรอมใจและหดหู่พูดตามตรง วันนี้เมื่อฟู่เจิงได้รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว ในใจฟู่เยว่กลับมีความรู้สึกเบาใจขึ้นมาอย่างหนึ่งท้ายที่สุดเขาก็ไม่ต้องอดสั่นขวัญแขวน ตัวสั่นงันงกด้วยคว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 605

ลมหายใจอุ่นร้อนรดอยู่บนต้นคอยาวเรียวระหงของเวินเหลียง เธอพยายามควบคุมความพลุ่งพล่านที่อยากจะหลีกตัวออกไปเงียบไปอยู่นาน ฟู่เจิงถึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง เขาหลับตาลงพร้อมพยายามเก็บอารมณ์เอาไว้ “ไม่มีอะไร”เขาค่อย ๆ ถอยหลังก้าวหนึ่ง ก่อนจะผละเวินเหลียงออกเวินเหลียงเงยหน้าขึ้นมา เธอสัมผัสได้ถึงความหนักอึ้งในใจเขาได้อย่างรวดเร็วเธอสังเกตเห็นส่วนที่ปูดบวมแดงและรอยฟกช้ำดำเขียวบนหน้าเขาได้ในระยะใกล้ “คุณไปมีเรื่องกับคนอื่นมาเหรอ?”“อืม” ฟู่เจิงขานรับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเวินเหลียงประหลาดใจเป็นอย่างมาก “ฉันจะไปหยิบกล่องยามานะ คุณนั่งลงก่อน”ภายในห้องทำงานประธานกรรมการใหญ่มีกล่องยาสำรองเอาไว้ ด้านในมียาสามัญอยู่จำนวนหนึ่งฟู่เจิงเงียบไม่พูดอะไร แล้วลวดมือพาดเสื้อกันลมไปบนพนักพิงโซฟาก่อนจะนั่งลงไปเวินเหลียงวางกล่องยาลงบนโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงแล้วเปิดหายาทาแผลไปด้วยพลางเอ่ยถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณถึงไปมีเรื่องกับคนอื่นได้? มีคนขับรถไม่ใช่เหรอ?”พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือใครกันกล้าต่อยฟู่เจิง?ใครกล้าต่อยฟู่เจิงจนอยู่ในสภาพนี้?ฟู่เจิงเงียบไม่พูดไม่จาผ่านไปนานสองนานก็ยังไม่ไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 606

“ฟู่เจิง ทางที่ดีคุณอย่ามาแกล้งฉันดีกว่า”ฟู่เจิงเพิ่งฉีกยิ้มไปได้ครึ่งหนึ่งก็เป็นอันต้องหยุด เขายกมือขึ้นกดแผลที่ข้างปากเบา ๆ “แกล้งที่ไหนกันล่ะ?”เวินเหลียงอดไม่ได้ที่จะโพล่งหัวเราะออกมาเธอเพิ่งจะเคยเห็นท่าทางจนตรอกของฟู่เจิงแบบนี้เป็นครั้งแรกฟู่เจิงเงยหน้ามองไปเวินเหลียงรีบหุบรอยยิ้มทันที พร้อมทั้งพูดชื่อร้านอาหารอย่างกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะลวดบอกต่อว่า “ร้านอาหารร้านนี้มีห้องรับรองด้วย”เขาจะได้ไม่ต้องไปพบผู้คนด้วยสภาพอย่างในตอนนี้ฟู่เจิงมองเธอด้วยนัยน์ตาที่แฝงไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้งทีหนึ่ง จากนั้นก็ใช้ให้เลขาหยางไปจองเมื่อมาถึงยังห้องรับรอง เวินเหลียงสั่งอาหารมาสองสามอย่าง แล้วส่งเมนูให้ฟู่เจิงที่อยู่ตรงหน้า “ดูสิอยากได้อะไรอีกไหม”ฟู่เจิงรีบเมนูมาแล้วกวาดตาดูคร่าว ๆ “เนื้อแพะน้ำแดง?”“อืม” เวินเหลียงพยักหน้า “ฉันกิน เดี๋ยวให้พนักงานมาเสิร์ฟที่ฉันเลย”“เธอชอบกินเนื้อแพะ?”“อืม”เวินเหลียงไม่เพียงแค่ชอบเนื้อแพะเท่านั้น เธอยังชอบกินซุปแพะอีกด้วย น้ำซุปข้นคลั่ก กินคู่กับต้นหอมซอยและผักชีให้ความสดชื่นในปาก อร่อยสุด ๆ ไปเลยทว่าฟู่เจิงไม่ชอบกลิ่นสาบของเนื้อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 607

“แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว” ฟู่เจิงยิ้มเล็กน้อย “ทำไมเธอถึงคิดแบบนี้ล่ะ? ก่อนหน้านี้เธอถึงขั้นไปคบกับเมิ่งเซ่อได้เพราะข้อมูลบางอย่างไม่ใช่เหรอ? ทำไม? ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว?”สีหน้าเวินเหลียงแข็งทื่อไป นัยน์ตาประกายแวววับ ก่อนจะเบือนสายตาหนี “นั่นมันไม่เหมือนกัน”“แล้วตรงไหนที่ไม่เหมือนกันล่ะ?” ฟู่เจิงเอ่ยถามขึ้นด้วยทีท่าจริงจังพอนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็เดือดพล่านจนปวดตับเวินเหลียงก้มหน้าพลางเบะปากอย่างกระวนกระวายใจ “...นั่นทำเพื่อแก้แค้นให้พ่อฉันนี่...”ทว่าพูดอย่างหน้าด้าน ๆ ก็คือ เป็นเพราะเธอไม่ชอบเมิ่งเซ่อ ถึงได้หลอกใช้เขาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรทว่าฟู่เจิงต่างออกไปเธอไม่กล้าเธอไม่กล้าแต่งงานกับฟู่เจิงใหม่อีกครั้งเพราะสิ่งที่เรียกว่าจุดอ่อน“เพราะงั้นเพื่อแก้แค้นให้พ่อเธอแล้ว ไม่ว่าอะไรเธอก็ตอบตกลงหมด?! อาเหลียง วิญญาณของพ่อตาที่อยู่บนสวรรค์ คงไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนี้แน่ ฉันว่าเขาคงหวังให้เธอมีชีวิตที่ดีมากกว่า”เวินเหลียงราวกับภรรยาตัวน้อยที่ถูกทำให้โมโห “...อืม”“โชคดีที่เธอล้วงข้อมูลมาได้เร็ว เลิกกับเมิ่งเซ่อได้ถูกจังหวะเป็นขั้นเป็นตอน แต่เธอเคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าเรื่องราวมั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 608

จังหวะนี้เอง พนักงานก็เคาะประตูเข้ามาทยอยเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงหยิบตะเกียบขึ้นมาพร้อมเปลี่ยนเรื่องคุย “กินข้าวกันเถอะ”กลิ่นหอมชวนกินคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้องรับรอง เนื้อแพะน้ำแดงถูกวางมาทางเวินเหลียง กลิ่นตลบอบอวลกลบทุกสิ่ง ทว่าไม่ได้ชัดเจนนักฟู่เจิงเห็นเวินเหลียงยื่นตะเกียบไปคีบเนื้อแพะน้ำแดงอยู่บ่อย ๆ จึงเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยว่า “มันอร่อยขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ?”“ถ้าได้ละก็ คุณอยากลองไหม?”ฟู่เจิงยื่นตะเกียบออกไปคีบคำหนึ่งเพิ่งจะเอามาใกล้ ๆ ปาก ก็ได้กลิ่นสาบแพะรุนแรงฟุ้งขึ้นมาสายหนึ่งเขาฝืนกัดเข้าไปคำหนึ่ง จากนั้นก็เคี้ยวแบบฝืน ๆ ก่อนจะหลับตากลืนลงไป“เป็นยังไงบ้าง?”เห็นสีหน้าของเขาเวินเหลียงก็ไม่หวังอะไรทั้งสิ้น“ไม่ไหว” ฟู่เจิงตอบทั้งหน้าแข็งทื่อราวกับท่อนไม้“ไม่ชอบก็ไม่ต้องฝืน” เวินเหลียงเอ่ยทว่าไม่รู้ประโยคนี้ไปจี้จุดฟู่เจิงตรงไหนเข้าหลังกินชิ้นนี้เสร็จเขาก็คีบขึ้นมาอีกชิ้นกินไปได้ครึ่งหนึ่ง เวินเหลียงเม้มปากพลางมองฟู่เจิงทีหนึ่ง “ฟู่เจิง”“หืม?” ฟู่เจิงเงยหน้าขึ้นมา“ขอบคุณนะ” เวินเหลียงเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง“ขอบคุณฉันเรื่องอะไร?”“ถึงคุณจะข้ามหัวฉันไปตกลงแ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 609

ในใจของเวินเหลียงผุดความกลัดกลุ้ม ปลื้มปีติและความสับสนขึ้นมาเล็กน้อยในที่สุดรักข้างเดียวตลอดเวลาหลายปีก็มีการตอบสนองที่ชัดเจนแต่ว่ามันสายเกินไปแล้ว พวกเขาหย่ากันแล้ว...ฟู่เจิงอยากแต่งงานกับเธอใหม่อีกครั้งมาตลอดเวินเหลียงนึกไปถึงคำถามที่ถังซือซือถามเธอในงานเลี้ยง เธอยังรักฟู่เจิงอยู่ไหม?ยังรักอยู่ไหม?เวินเหลียงลืมตามองเพดาน ตอบไม่ได้หย่ากันมาตั้งนานขนาดนั้นแล้ว เธอก็ยังพูดสองคำนั้นออกมาอย่างมั่นใจไม่ได้ อันที่จริงก็มีคำตอบอยู่แล้วอันที่จริงเธอยังชอบฟู่เจิงอยู่และเป็นเพราะชอบ ฉะนั้นเธอถึงไม่สามารถรับความช่วยเหลือของเขาได้อย่างสบายใจ ไม่อยากถูกเขาดูถูก ไม่อยากแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเขาเพียงแต่การชอบนี้ ไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนอย่างตอนอายุสิบกว่ายี่สิบตั้งนานแล้วก่อนหน้านี้ฟู่เจิงคือทั้งชีวิตจิตใจของเธอ ที่เธอตั้งใจเรียนและตั้งใจทำงานก็ล้วนเป็นเพราะอยากตามรอยเขาทว่าตอนนี้การชอบเขาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในชีวิตเธอเท่านั้น จะมีหรือไม่มีก็ได้ เธอยังมีอย่างอื่นต้องทำส่วนเรื่องแต่งงานใหม่อีกครั้งนั้น ในตอนนี้เธอยังไม่มีแพลนปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติก็แล้วกันเวินเหลี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 610

ฟู่เจิงจะไปบริษัท จึงให้เวินเหลียงติดรถไปลงหน้าประตูสถานีตำรวจด้วยเวินเหลียงได้ขับรถตัวเองกลับด้วยพอดีระหว่างทาง เวินเหลียงได้รับสายโทรเข้าสายหนึ่ง บนหน้าจอโชว์เบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ทั่วไปเธอใส่หูฟังบลูทูธก่อนจะรับสาย “ฮัลโหล?”มีเสียงที่ฟังดูอ่อนเยาว์ทว่าเป็นมิตรเสียงหนึ่งแว่วดังขึ้นมาจากปลายสาย “ฮัลโหล คุณเวินใช่ไหมครับ?”“ฉันเองค่ะ คุณคือ?”“ผมเสี่ยวเฉิงเป็นผู้ช่วยของผู้กำกับซ่งครับ ผู้กำกับซ่งมีเรื่องอยากจะหารือกับคุณน่ะครับ ตอนนี้คุณพอมีเวลามาหาหน่อยได้ไหมครับ?”เวินเหลียงประหลาดใจไปครู่หนึ่ง “ผู้กำกับซ่งอยากเจอฉันมีเรื่องอะไรเหรอคะ?”เสี่ยวเฉิงเอ่ย “คุยในโทรศัพท์เดี๋ยวเดียวคงพูดได้ไม่ชัดเจน เหมือนว่าจะเป็นปัญหาในฉากที่เกี่ยวข้องกับคุณน่ะครับ ถ้าคุณมีเวลาละก็มาหน้าเซ็ตถ่ายหนังหน่อยได้ไหมครับ?”เวินเหลียงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”จะว่ายังไงเธอเองถ่ายฉากที่หน้าเซ็ตไปสองสามฉากเช่นกันหลังทางกองถ่ายสอบถามสาเหตุที่ฉู่ซืออี๋ถูกตำรวจคุมตัวไปจนชัดเจน จึงได้รู้ว่าฉู่ซืออี๋หมดหนทางช่วยเหลือแล้ว จึงตัดสินใจตัดฉู่ซืออี๋ออกตอนนี้คงกำลังหาคนใหม่มารับบท
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
5960616263
...
95
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status