"อาธันหนีลูกหนูได้ก็หนีไปเถอะค่ะ เพราะไม่ว่าอาธันอยู่ใหนลูกหนูก็จะตามไปไขหัวใจของอาธันให้เปิดรับลูกหนูให้ได้"
View Moreตอนที่ 1 กลับบ้าน
ณ.สนามบินสุวรรณภูมิ
“ในที่สุดก็ถึงสักทีนั่งเครื่องบินนานๆ ก็เมื่อยเหมือนกันนะเนี่ย” เสียงหญิงสาวร่างบางบ่นพึมพำก่อนจะบิดขี้เกียจเพื่อคลายเมื่อยล้าจากการนั่งเครื่องบินข้ามซีกโลกด้วยท่าทางสบายๆ แต่กลับเรียกสายตาของคนบริเวณนั้นให้มองเธอเป็นตาเดียว เพราะด้วยหน้าตาที่สวยคมมีเสน่ห์น่าหลงใหลบวกกับใบหน้ารูปไข่ที่รับกับ ตา ปาก จมูก ที่ถูกจัดวางตามธรรมชาติได้อย่างลงตัวเพิ่มเติมเสน่ห์ชวนมองด้วยการแต่งแต้มสีสันบางๆ อย่างเป็นธรรมชาติยิ่งส่งให้หญิงสาวดูน่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น รวมกับรูปร่างที่แสนเซ็กซี่ถึงแม้ชุดที่เธอใส่จะเป็นเพียงแค่กางเกงยีนเดฟสีเข้มกับเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวหนังธรรมดาสีดำอีกตัว ก็ดูเป็นชุดที่ดูธรรมดาสำหรับคนทั่วไปแต่พอได้มาอยู่บนตัวเธอคนนี้มันกับดูดีขึ้นและช่วยส่งให้คนสวมใส่ดูมีเสน่ห์มากขึ้นหลายเท่าตัว
“คุณลูกหนูค่ะ คุณลูกหนู ทางนี้ค่ะ” เสียงเรียกของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นส่งผลให้หญิงสาวที่บิดขี้เกียจอยู่หันไปมอง ก่อนจะส่งยิ้มหวานที่ใครได้เห็นเป็นต้องบอกได้คำเดียวว่า สวยที่สุดให้กับหญิงวัยกลางคน
“ป้าจันทร์” หญิงสาวเรียกชื่อคนมารอรับเธอเสียงหวานก่อนจะรีบเดินเข้าไปหาหญิงวัยกลางคนพร้อบกับยกมือไหว้ป้าจันทร์แล้วสวมกอดป้าจันทร์ด้วยความคิดถึง ถึงป้าจันทร์จะเป็นแม่บ้าน แต่เธอก็เคารพและรักป้าจันทร์ของเธอคนนี้ไม่ต่างจากคนในครอบครัวเลย
ป้าจันทร์เองก็กอดหญิงสาวแน่นด้วยความคิดถึงไม่ต่างกัน
“โอ้โห คุณลูกหนูของป้าโตเป็นสาวแล้วสวยขึ้นมากๆ เลยนะคะเนี่ย ทำเอาหนุ่มๆ แถวนี้มองกันตาไม่กะพริบเลยค่ะ” ป้าจันทร์ดันตัวลูกหนูออกเบาๆ ก่อนจะสำรวจความเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวด้วยความเอ็นดูเพราะไม่ได้เจอกันมานาน
ลูกหนู หรือ กมลกาญจน์ หฤทัยรัตน์ สาวสวยอายุ 24 ปี ลูกสาวคนเล็กของคุณกนกกับคุณดวงกมล หฤทัยรัตน์ เธอพึ่งเดินทางกลับหลังจากจบการศึกษาปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกามา
“ป้าจันทร์ก็พูดเกินไปค่ะ ลูกหนูก็เหมือนเดิมนั่นแหละไม่ได้เปลี่ยนไปตรงไหนเลย ถ้าเปลี่ยนจริงป้าจันทร์จะจำลูกหนูได้ยังไงคะ” หญิงสาวแก้ต่าง
“ไม่เปลี่ยนยังไงคะ คุณลูกหนูของป้าโตขึ้นตั้งเยอะ แล้วก็สวยขึ้นมากจริงๆ นะคะป้าไม่ได้โกหก” ป้าจันทร์ยังคงยืนยันคำเดิมว่าแกไม่ได้โกหก
“โอเคค่ะป้า สวยขึ้นก็สวยขึ้น ลูกหนูว่าเรารีบกลับบ้านเถอะค่ะ ป่านนี้ทุกคนรอแย่แล้วมั้ง” ลูกหนูบอกก่อนจะจูงมือป้าจันทร์ของเธอให้เดินออกมาจากตรงนั้น พร้อมกับยอมรับคำชมจากป้าจันทร์แต่โดยดี เพราะถ้าขืนเธอยังไม่ยอมรับมีหวังได้ยืนเถียงกันอยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหนกันพอดี แล้วทุกคนที่รอเธออยู่ที่บ้านคงได้รอเธอจนรากงอกแน่ๆ
ณ.บ้านหฤทัยรัตน์
“คุณผู้หญิง คุณผู้ชาย คุณลูกหนูมาถึงแล้วค่ะ” สาวใช้ที่ไปดูต้นทางรีบวิ่งมารายงานการมาถึงของคุณหนูให้กับเจ้าของบ้านทั้งสองฟังทันทีที่เห็นรถที่ออกไปรับเจ้านายคนเล็กของเธอเลี้ยวเข้าประตูบ้าน สักพักคนที่เธอเอ่ยถึงก็เดินเข้ามาพร้อมกับป้าจันทร์
“คุณพ่อ คุณแม่ ลูกหนูกลับมาแล้วค่ะ” ลูกหนูส่งเสียงบอกก่อนจะรีบวิ่งมาสวมกอดบุพการีทั้งสองด้วยความติดถึง
“ทำไมมาถึงกันช้านักล่ะป้าจันทร์ รถติดเหรอ” คุณกนกหันไปถามถึงสาเหตุการมาช้าของลูกสาวของตนกับป้าจันทร์ที่เป็นคนอาสาไปรับลูกหนู ปต่ป้าจันทร์ยังไม่ทันได้ตอบลูกหนูก็ชิงตอบก่อน
“รถไม่ติดหรอกค่ะคุณพ่อ แต่ที่มาช้าเพราะลูกหนูกับป้าจันทร์คุยกันที่สนามบินเพลินไปหน่อยนะคะ” ลูกหนูอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ตนมาถึงบ้านช้า ปล่อยให้บุพการีทั้งสองต้องรอนาน
“โถ่ คุณผู้ชาย ก็ป้าไม่ได้เจอคุณลูกหนูตั้งหกปีก็เลยคุยกันนานไปนิดนะคะ ก็คุณลูกหนูนะสิไม่ยอมกลับบ้านบ้างเลย ไม่คิดเลยหรือยังไงว่าคนแก่แถวนี้จะคิดถึง” ป้าจันทร์ตัดพ้อ เพราะตลอดเวลาหกปีกว่าๆ ที่ลูกหนูไปศึกษาทั้งปริญญาตรีและโท เธอไม่เคยกลับมาที่ประเทศไทยเลยสักครั้ง มีแต่คนทางนี้ที่เป็นฝ่ายเดินทางไปเยี่ยมเธอที่ต่างประเทศ
“ก็ช่วยไม่ได้นี้คะ ก็ป้าจันทร์ไม่ยอมไปเยี่ยมลูกหนูที่นั่นเอง ส่งสัยป้าจันทร์จะไม่คิดถึงลูกหนูมากกว่า ลูกหนูเสียใจนะคะ” ลูกหนูแซวป้าจันทร์พร้อมกับทำหน้าเสียใจ เพราะทุกครั้งที่บ้านของเธอเดินทางไปเยี่ยมก็จะชวนป้าจันทร์ไปด้วยทุกครั้ง แต่เป็นฝ่ายของป้าจันทร์ต่างหากที่ปฏิเสธไม่ยอมไปด้วยเพราะกลัวความสูงจึงไม่กล้านั่งเครื่องบิน
“ไม่ใช่นะคะ ป้าคิดถึงคุณลูกหนูมากๆ เลยค่ะ แต่ป้ากลัวเครื่องบินจริงๆ คุณลูกหนูอย่าโกรธป้านะคะ” ป้าจันขรีบอธิบายให้ลูกหนูฟังด้วยความใจร้อน เพราะกลัวลูกหนูโกรธ
“พอแล้วลูกหนูอย่าไปแกล้งป้าจันทร์สิ กลับมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดียวพวกพี่ๆ เขากลับมาถึงแล้วแม่จะไปเรียกจะได้มาทานข้าวกัน” คุณดวงกมลห้ามลูกสาว เพราะตนรู้ดีว่าลูกสาวตนก็รักและเคารพป้าจันทร์เหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่งแต่ชอบหาเรื่องแกล้งงอน ให้ป้าจันทร์ง้ออยู่เรื่อย
“ค่ะ คุณแม่ลูกหนูไม่แกล้งป้าจันทร์แล้วก็ได้ งั้นลูกหนูไปพักก่อนนะคะ” ลูกหนูรับคำ ก่อนที่จะเดินขึ้นชั้นสองเพื่อไปที่ห้องนอนของตนที่ไม่ได้กลับมานานหกปี แต่ระหว่างทางก่อนจะถึงห้องของตัวเองลูกหนูก็แวะหยุดที่หน้าห้องๆ หนึ่งก่อนที่จะมองไปที่ประตูห้องนั้นด้วยสายตาแฝงไปด้วยความคิดถึง
“ลูกหนูกลับมาแล้วนะคะคุณอา” ลูกหนูพึมพำกับประตูบานนั้นเบาๆ ก่อนจะเดินต่อไป
ก๊อก ก๊อก
“ลูกหนูแม่เข้าไปนะลูก” คุณดวงกมลเคาะประตูห้องนอนของลูกสาว แต่เรียกได้สักพักก็ยังไม่มีเสียงตอบรับจากคนในห้องจึงเปิดประตูเข้าไป เพราะคิดว่าลูกสาวจอมแสบของตนต้องหลับอยู่แน่ๆ แล้วก็เป็นจริงดังคาด ลูกหนูกำลังนอนหลับสนิทอยู่และไม่รับรู้การมาถึงของผู้เป็นแม่เลย
“ลูกหนู ตื่นได้แล้วลูก เย็นมากแล้ว เดี๋ยวพี่ๆ เขาก็กลับมาแล้ว” คุณดวงกมลปลุกลูกสาว เพราะนี้ก็ใกล้ได้เวลากลับบ้านของลูกชายทั้งสองของเธอแล้ว
“อืม...พี่ๆ มาแล้วเหรอคะ” ลูกหนูถามด้วยเสียงงัวเงียทั้งที่ยังไม่ลืมตา
“ยังหรอกจ้ะ แต่อีกสักพักก็คงมาถึง เพราะพี่เขาโทรมาบอกแม่ว่ากำลังออกมาแล้ว หนูไปอาบน้ำอาบท่าดีกว่าจะได้รู้สึกสดชื่นขึ้น” คุณดวงกมตองคำถามของลูกหนู
“ค่ะ” ลูกหนูรับคำก่อนเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจักการกับธุระส่วนตัว ส่วนคุณดวงกมลก็ลงมารอลูกชายทั้งสองของเธอที่ข้างล่างและจัดเตรียมอาหารเย็นทำหรับทุกคน
“ลูกหนู ลูกหนูอยู่ไหน พี่ชายสุดที่รักกลับมาแล้ว” เสียงของภาสกรลูกชายคนที่สอง ดังขึ้นก่อนที่ตัวของเขาจะปรากฏซะอีก
“แกจะเสียงดังทำไมว่ะภาส น้องไม่หายไปไหนหรอก” ทินกรดุน้องตามประสาพี่ใหญ่
ทินกรพี่ใหญ่ อายุ 30 ปี นิสัยเงียบขรึมไม่ค่อยพูด แต่กับคนในครอบครัวทินกรจะเป็นคนที่อบอุ่นมาก
ส่วนภาสกร อายุ 27 ปี นิสัยต่างจากทินกรลิบลับเลย จะเรียกว่าคนล่ะขั้วเลยก็ว่าได้ เพราะภาสกรเป็นคนช่างพูดเฮฮา
แต่ทั้งสองคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา นับว่าเป็นครอบครัวที่หน้าตาดีทั้งบ้านเลยก็ว่าได้
“ทั้งสองคนขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ แล้วค่อยลงมา น้องอาบน้ำอยู่อีกสักพักก็ลงมาแล้วแหละ แม่จะให้เด็กๆ ตั้งโต๊ะรอ” คุณดวงกมลบอกลูกชายทั้งสอง
“เมื่อกี้ลูกหนูเหมือนได้ยินเสียงพวกพี่ๆ เลยค่ะแล้วตอนนี้พี่ๆ เขาหายไปไหนกันแล้ว” ลูกหนูถามเพราะได้ยินเสียงของพี่ทั้งสองจึงรีบลงมากะว่าจะกอดให้หายคิดถึงสักหน่อย แต่พอออกมากลับไม่เจอใครเลย
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะ หนูไปตามคุณพ่อให้แม่หน่อยถ้าพี่เขาลงมาจะได้ทานข้าวกัน”
“ค่ะ”
“เชิญนั่งเลยค่ะคุณพ่อ” ลูกหนูบอกพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ให้คุณพ่อของเธอ ก่อนจะเดินกลับมานั่งประจำที่ของตนที่เคยนั่งเป็นประจำ
“คุณแม่ค่ะ ทำไมมีแค่ห้าที่ล่ะคะ” ลูกหนูถามเพราะเห็นจานข้าวมันยังขาดไปอีกหนึ่งที่
“ก็ครบแล้วนี่ ปกติมีสี่ พอลูกหนูกลับมาก็เป็นห้าไม่ถูกเหรอ” ภาสกรเป็นคนตอบ แต่ลูกหนูก็ยังไม่เข้าใจ จะครบยังไม่ที่บ้านของเธอมีสมาชิกทั้งหมดรวมเธอแล้วต้องเป็นหกไม่ใช่เหรอ
“แล้วอาธันล่ะคะ ไม่ต้องจัดเผื่อเหรอ หรือว่าอาธันไปทานที่อื่น อะไรกันลูกหนูกลับมาทั้งทีแทนที่จะมาทานเข้าด้วยกันอาธันนะอาธัน” ลูกหนูถามถึงคนที่ขาดไป
“อ้าว ลูกหนูยังไม่รู้เหรอธันวาไม่อยู่ที่นี่แล้ว”
ตอนพิเศษ 2ยินดีต้อนรับ“คุณพ่อข่า เมื่อไรคุณปู่จะมาถึงค่ะ” เด็กหญิงลูกหนูในวัยห้าขวบถามพ่อหลังจากวิ่งเข้าวิ่งออกระหว่างประตูหน้าบ้านกับห้องรับแขกหลายสิบรอบ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่ารถที่ไปรับคุณปู่ของเธอที่สนามบินจะกลับมาซักที“ใจเย็นๆ สิ เดี๋ยวคุณปู่ก็มาถึงแล้ว ลูกหนูมานั่งรอกับพี่ดีกว่าไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาแล้วแล้วเดี๋ยวก็ล้มหรอก” ทินกรวัยสิบเอ็ดปีเป็นคนตอบพร้อมกับเดินมาอุ้มลูกหนูให้ขึ้นไปนั่งบนตักของตัวเอง เพราะกลัวว่าน้องสาวจะล้มเพราะการวิ่งไปวิ่งมา“แต่ลูกหนูอยากไปรอรับคุณปู่นี่ค่ะ” เด็กหญิงลูกหนูหันไปบอกพี่ชาย“อยากไปรอรับคุณปู่หรือรอรับใครกันแน่ อย่าคิดว่าพี่รู้ไม่ทันเรานะ” ภาสกรวัยแปดขวบพูด“ลูกหนูต้องรอรับคุณปู่สิ พี่ภาสอย่ามาใส่ร้ายลูกหนูนะ” ลูกหนูตอบพี่ชายของเธอ“จริงเหรอ แล้วทำไมต้องแก้มแดงด้วย” ภาสกรยังไม่หยุดแหย่น้องสาว“พี่ทินจัดการพี่ภาสให้ลูกหนูหน่อย ลูกหนูถูกพี่ภาสแกล้ง” เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่สามานถสู้ภาสกรได้ลูกหนูจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากทินกรพี่ชายคนโต พร้อมกัลป์บีบน้ำตาเรียกคะแนนส่งสาร“ภาสหยุดแกล้งน้องเลยนะ ถ้าไม่งั้นพี่จะฟ้องแม่” ทินกรเองก็รู้แผนการของน้องสาวตัว
ตอนพิเศษ 1ท้อง“พี่ธันตื่นได้แล้วค่ะ สายแล้วนะคะ” ลูกหนูปลุกสามีของเธอ ปกติธันวาไม่ใช่คนตื่นสาย ถึงแม้จะตื่นหลังลูกหนูแต่ก็ไม่ได้ตื่นช้าขนาดที่ทำให้เธอต้องขึ้นมาปลุก แต่วันนี้เธอทั้งเรียกทั้งเขย่า คนตัวโตก็เอาแต่ส่งเสียงอืม แล้วพลิกตัวหนี“ตัวก็ไม่ได้ร้อน เมื่อคืนก็นอนไม่ดึก ทำไมวันนี้ตื่นยากจัง” ลูกหนูคิดพร้อมกับพยามเรียกสามีของเธออีกครั้ง “พี่ธันตื่นนะ เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ ถ้าไม่ตื่นลูกหนูจะเรียกหมอพัดมาแล้วนะ” ลูกหนูบอกพร้อมกับเขย่าคนตัวโตอีกครั้ง แต่ธันวาก็ยังคงหลับตาอยู่แบบเดิม ลูกหนูเลยตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อจะไปบอกป้านิดให้โทรตามหมอพัดแต่ลูกหนูขยับตัวยังไม่ทันจะพ้นขอบเตียงคนที่นอนปลุกไม่ตื่นก็จับแขนของเธอไว้ก่อนจะดึงคนตัวเล็กให้ลงมานอนข้างๆ พร้อมกับใช้แขนแกร่งกอดไว้แน่น“ไม่ต้องไปตามหรอกพี่ไม่ได้เป็นอะไร” ธันวาตอบทั้งที่ยังคงหลับตาอยู่“แน่ใจนะคะ แต่ลูกหนูเรียกพี่ตั้งหลายรอบแต่พี่ก็ไม่ยอมตื่นจนลูกหนูนึกว่าพี่เป็นอะไร” ลูกหนูถามด้วยความอดห่วงไม่ได้“แน่ใจสิ พี่แค่เหนื่อยนิดหน่อย ต้องเป็นเพราะลูกหนูใช้งานพี่ตอนกลางคืนหนักแน่ๆ เลย”เพี๊ยะ!!หลังพูดจบคนพูดก็โดนฝ่ามือเล็กของลูกหนูไ
ตอนที่ 21 งานแต่ง“ลูกหนูช่วยขึ้นให้ผมหน่อย” ลูกหนูตกใจกับคำขอให้ช่วย“ลูกหนูทำไม่เป็นค่ะ” ลูกหนูตอบเพราะทุกครั้งก็มีแต่ธันวาเป็นฝ่ายทำ เธอเคยทำอะไรแบบนี้ที่ใหนกัน“ไม่ยากหรอกเดี๋ยวผมสอน” ธันวาพูดจบก็จูบเล้าโลมลูกหนู ก่อนจะยกสะโพกของลูกหนูขึ้นแล้วจัดการถอดกางเกงชั้นในของของลูกหนูออก ก่อนจะปดกระดุมกางเกงแล้วรูดซิบของตัวเอง ธันวาจับน้องชายของตัวเองให้ตั้งขึ้นก่อนจะจ่อไปที่ปากถ่ำหวาน“ลูกหนูนั่งทับลงมาเลย...อ้า” ลูกหนูทำตามที่ธันวาบอกตอนนี้น้องสาวขอเธอกลืนกินน้องชายของธันวาจนหมดสิ้น“อ๊า” ลูกหนูเองก็ร้องเสียงหลงเพราะตอนนี้น้องชายของธันวาเข้าไปลึกมาก ลึกกว่าทุกครั้งก็ว่าได้ ธันวาใช้สองมือจับไปที่ก้นงามก่อนจะออกแรงยกขึ้นก่อนจะปล่อยลง“ลูกหนูทำแบบนี่นะ ยกขึ้นแล้วลง...อ้า...แบบนั้นแหละ...อ้า” ลูกหนูทำตามที่ธันวาสอนแล้วทำได้ดีด้วย ลูกหนูโยกขึ้นลงตามที่ธันวาบอก ส่วนธันวาก็ใช้ปากดูดเลียที่อกงาม มือทั้งสองก็บีบเค้นก้นงามและช่วยออกแรงยก“อ๊า...อ๊า” ลูกหนูไม่เคยคิดเคยฝันว่าวันนึงเธอจะมามีอะไรกับธันวาข้างนอกแบบนี้แถมยังเป็นตอนกลางวันถึงฟิล์มรถจะมืดแต่ถ้ามีใครผ่านมาเห็นก็ต้องรู้แน่ๆ ว่าคนในรถทำอะไรก
ตอนที่ 20 ขอ“ว่าไงลูกหนูคนสวยกลับมาจากต่างประเทศปุ๊บก็รีบไปหาผู้ชายปั๊บเลยนะ เพื่อนเพิ่นนี้ไม่มาเจอเลยทำดีจริงๆ” รินหรือรินรดาดาราสาวแนวหน้าของประเทศพูดขึ้น“แน่นอนเพื่อนกับผู้ชาย ผู้ชายก็ต้องสำคัญกว่าอยู่แล้ว” เฟย่านักธุรกิจสาวเจ้าของกิจการขนส่งทั้งบนดินทางอากาศแม้แต่ทางเรือก็อยู่ในความดูแลของเธอพูดขึ้น“ว่าแต่ลูกหนูแกล่ะเฟย่าผู้ชายคนนั้นบอดี้การ์ดพี่ชายแกไม่ใช่เหรอทำไมถึงมาอยู่กับแกได้ อย่าบอกนะว่าแกแอบสอยมาอ่ะ” ลาน่านักร้องสาวแสนเท่ทักขึ้น เรียกความสนใจของสาวๆ ให้หันไปมองชายหนุ่มคนนั้น“จะบ้าเหรอ พอดีตอนนี้ฉันกำลังจัดการเรื่องบางอย่างให้พี่เฟร็ดอยู่นะพี่เขาเลยส่งหมอนั่นมาช่วยแค่นั้นแหละ” เฟย่าตอบ“ถ้าแค่ส่งมาช่วยแล้วทำไมต้องตามมาเฝ้าด้วยล่ะ” ซูจินดีไซเนอร์สายมูทักขึ้น“นี่หยุดสนใจเรื่องฉันแล้วไปจัดการยัยลูกหนูดีกว่าม่ะ นางเอกของงานไม่ใช่ฉันแต่เป็นยัยนั่นต่างหาก” หลังจากเฟย่าพูดจบทุกคนก็หันมาเล่นงานเธอต่อ“ตื่นได้แล้วคนขี้เซา”“ลูกหนูขอนอนอีกนิดนะคะ ง่วงมากเลย” เมื่อคืนกว่ายัยสี่สาวนั้นจะปล่อยเธอกลับก็เกือบเช้า เพราะงั้นเธอตื่นไม่ไหวจริงๆ“ถ้างั้นแม่จะไปบอกให้อาธันของลูกกลับไปก่อนด
ตอนที่ 19 กลับบ้าน[ สนามบิน ]มีคนเคยบอกว่าถ้าผู้ชายได้ผู้หญิงแล้วจะไม่เห็นค่าคำพูดนั้นคงใช้ไม่ได้กับอาธัน เพราะตั้งแต่วันที่ทั้งสองมีอะไรกันในวันนั้นดูเหมือนธันวาจะติดลูกหนูหนักว่าเดิมเรียกได้ว่าที่ใหนมีธันวาต้องมีลูกหนู ที่ใหนมีลูกหนูต้องมีธันวา จนตอนนี้คนทั้งไร่ต่างลือกันว่าอีกไม่นานที่ไร่ต้องมีข่าวดีเร็วๆนี้แน่“ไม่ไปไม่ได้เหรอ ถ้าลูกหนูไม่อยู่แล้วผมจะนอนกอดใครล่ะ” ธันวาบ่น“ลูกหนูกลับบ้านนะคะไม่ได้ไปไหน แค่สัปดาห์เดียวเองอย่างอแงสิคะ” ลูกหนูกำลังปลอบคนงอแงถ้าพวกพี่ๆ ของเขาได้มาเห็นอาธันของเธอในตอนนี้ล่ะก็ต้องขำแน่ๆ“ตั้งอาทิตย์นึง มันนานมากเลยนะทั้งผมและเจ้าน้องชายผมต้องคิดถึงลูกหนูกับน้องสาวของลูกหนูมากแน่ๆ” ลูกหนูตีแขนธันวาเบาๆไปหนึ่งที“คิดแต่เรื่องอะไรเนี่ยอาธัน เมื่อคืนยังรังแกลูกหนูไม่พออีกเหรอ เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ” ลูกหนูต่อว่า“ก็ลูกหนูจะไม่อยู่ตั้งหลายวันผมก็ต้องตักตวงไว้หน่อยสิ แล้วก็เมื่อไรลูกหนูจะเลิกเรียกผมว่าอาเนี่ย บางคนที่เขาไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของเราต่างพากันคิดว่าผมเอาหลานตัวเองมาทำเมียกันหมดแล้วเนี่ย” ลูกหนูอกขำไม่ได้“แล้วมันไม่จริงเหรอค่ะ อาธัน” ธ
ตอนที่ 18 มื้อดึก“โอ๊ย” ลูกหนูส่งเสียงร้องออกมาหลังจากที่บิดขี้เกียจเพราะเธอรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว“สองทุ่มแล้วเหรอ นี้ฉันหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอ” ลูกหนูพึมพำที่เธอมีสภาพแบบนี้คงต้องโทษอาธันเพราะกว่าที่อาธันจะปล่อยให้เธอออกมาจากห้องทำงานก็เกือบเย็น ข้าวเที่ยงก็ไม่ได้กิน พอมาถึงห้องก็หลับไม่รู้เรื่องทำให้ตอนนี้เธอพลาดมื้อเย็นอีก“หิวจัง ยังมีอะไรเหลือให้เธอกินหรือเปล่าเนี้ย” ลูกหนูลงมาหาของกินในครัวเพราะตอนนี้เธอหิวมาก แต่ระหว่างที่เธอกำลังหาของกินในตู้เย็นเธอก็ถูกคนบางคนสวมกอดจากข้างหลังจนเธอตกใจร้องกรี๊ดออกมา คนฉวยโอกาสเลยต้องปิดปากเธอด้วยจูบร้อนแรง ลิ้นร้อนดันปากของเธอเปิดออกเพื่อให้ลิ้นของเขาได้ลุกล่ำเข้าไปชิมความหวานในปากนุ่ม“อืม” ลูกหนูส่งเสียงประท้วงหลังจากถูกจู่โจมจากคนนิสัยไม่ดี ก่อนจะดันอาธันออก ธันวายอมถอนจูบออกทั้งที่ไม่เต็มใจ“หยุดเลยนะคะอาธัน ลูกหนูหิว”“หิวอะไรเหรอ หิวผมหรือเปล่า” ให้ตายเถอะอาธันของเธอเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อกลางวันยังไม่พอใจอีกเหรอ“ลูกหนูไม่เล่นนะคะ ลูกหนูหิวข้าวมากจริงๆ เป็นเพราะใครก็มารู้ลูกหนูถึงอดข้าวไปตั้งสองมื้อ” ลูกหนูบ่น“วันนี้ป้าน
ตอนที่ 17 ห้องทำงาน 3“ผมจะใส่แล้วนะ” พูดจบธันวาก็ค่อยๆ กดแก่นกายของเขาเข้าไปในช่องทางรักอันคับแคบ อย่างนุ่มนวนที่สุดเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะต้องเจ็บ ถึงแม้จะต้องเจ็บแน่ๆ ก็ตาม“โอ๊ย ลูกหนูเจ็บ” ลูกหนูร้องออกมาเพราะเธอรู้สึกเจ็บมากเธอเคยได้ยินเพื่อนๆ เล่าให้ฟังว่าครั้งแรกนั้นจะเจ็บมากเป็นพิเศษ แต่ไม่คิดว่าจะเจ็บมากขนาดนี้หรือเป็นเพราะของอาธันของเธอใหญ่เกินไปก็ไม่รู้ ธันวาเองกก็รู้สึกไม่ต่างจากลูกหนู เพราะของลูกหนูมันรัดเขาแน่นจนขยับตัวแทบไม่ได้ ธันวาพยายามดันเข้าต่อเพราะตอนนี้เข้าไปได้แค่ครึ่งเดียว“ลูกหนู” ธันวากระซิบเรียกคนใต้ร่างเบาๆ ก่อนจะจูบที่แก้มขาวเป็นการปลอบใจ หลังจากดันตัวตนของเขาเข้าไปจนสุดก่อนที่จะเริ่มขยับสะโพก ธันวาเริ่มต้นด้วยการขยับช้าๆ เพราะต้องการให้ลูกหนูปรับตัวกับตัวตนของเขาก่อน“อา” ลูกหนูส่งเสียงทุกครั้งที่เขาขยับสะโพกเสียงของลูกหนูช่างเพราะ จนทำให้ธันวาแทบจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ตอนนี้เขาอยากจะกระแทกให้สุดแรงแต่เขาทำแบบนั้นไม่ได้ลูกหนูยังไหม่เกินไปกับเรื่องแบบนี้ ถ้าเขาทำแบบนั้นเกรงว่าลูกหนูจะรับไม่ไหว“รู้สึกดีไหมลูกหนู ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” ธันวาถาม“อา...ดีค่ะ ไม่เจ
ตอนที่ 16 ห้องทำงาน 2“ได้สิผมจะให้ทั้งหมดของผมกับลูกหนู” หลังพูดจบธันวาก็ก้มลงปิดปากคนที่อยู่ข้างล่าง สัมผัสครั้งนี้ลูกหนูรู้สึกได้ว่ามันต่างกว่าทุกครั้ง อาจจะเพราะอาธันไม่ต้องเก็บอารมณ์เขาถึงได้ปล่อยความต้องการออกมาเต็มที่ธันวารู้ว่าตอนนี้เขาจูบลูกหนูร้อนแรงขนาดไหน แต่เขาไม่สามารถเก็บความต้องการในตัวของลูกหนูได้อีกต่อไปแล้ว และเขาก็ยินดีที่จะแสดงให้ลูกหนูเห็นว่าเขาต้องการลูกหนูมากขนาดไหน ธันวาสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหวานที่เขาเคยลิ้มลองไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแต่มันก็ไม่เคยลดความหวานลงไปได้เลย ก่อนจะไล่จูบลงมาที่ลำคอหอม“อืม” ลูกหนูส่งเสียงออกมา เพราะตอนนี้มือของธันวาได้สอดเข้ามาในเสื้อของเธอ มือร้อนลูบไล้ผ่านเอวของเธอไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงทรวงคู่งาม ธันวาสอดมือเข้าไปในเสื้อชั้นในของลูกหนูก่อนจะสัมผัสกับทรวงอกนุ่มของเธอ“ผมขอถอดนะ” ธันวาพูดจบก็ลงมือถอดเสื้อกับยกทรงที่ขวางกั้นออกโดยไม่รอคำตอบจากเธอ ธันวามองทรวงอกคู่งามจนลูกหนูรู้สึกเขินจนต้องยกมือขึ้นมาปิด“ปิดทำไมลูกหนู” ธันวาดึงมือลูกหนูออก“ก็อาธันเอาแต่มอง ลูกหนูเขิน” ลูกหนูตอบ ตอนนี้ตัวเธอคงแดงไปทั้งตัวเพราะความเขิน“หน้าอกของล
ตอนที่ 15 ห้องทำงานและแล้ววันเปิดไร่ให้คนศึกษาดูงานก็มาถึง กลุ่มขณะดูงานกลุ่มแรกมีจำนวนเกือบห้าสิบคน เป็นเกษตรกรจากจังหวัดใกล้เคียงที่มา วันนี้ที่ไร่จึงคึกคักเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะมีแค่กลุ่มคนศึกษาดูงานยังมีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่นำของมาวางขาย อีกจำนวนนึ่ง ธันวามอบหมายให้ลุงเชิดที่เป็นคนเก่าคนแก่ของไร่ เป็นวิทยากรบรรยาย เพราะลุงเชิดเป็นคนพูดเก่งและคุยสนุก และเป็นคนที่รู้เรื่องในไร่ดีเพราะแกอยู่มานาน“ชิ้นนี้ห้าสิบบาทค่ะ” ลูกหนูบอกราคาให้กับลูกค้าที่มาซื้อผลิตภัณฑ์งานสาน“แม่ค้าสวยจัง ซื้อของแล้วแถมเบอร์แม่ค้าด้วยมั้ย” เสียงหนุ่มๆ ที่มากดูงานแซว ลูกหนูไม่ตอบอะไรทำแค่ยิ้มรับคำชม เพราะนี้ไม่ใช่คนแรกที่แซวเธอ“เอาเบอร์ป้าไปแทนได้ไหมล่ะพ่อหนุ่ม ป้าเองก็เป็นแม่ค้าแล้วก็สวยด้วยนะ ผัวป้ามันไม่ว่าหรอก” เสียงป้าที่มาช่วยขายของในร้านพูดขึ้นเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคน“ลูกหนู วิว่าลูกหนูไม่ต้องมาช่วยขายของแต่ไปช่วยงานคุณธันดีกว่านะ” วิเข้ามากระซิบบอก“วิว่าถ้าลูกหนูยังมาช่วยขายอยู่ตรงนี้ วิกลัวว่าวันนนี้จะเป็นวันเปิดไร่กับวันปิดไร่ไปพร้อมๆ กันนะสิ” ลูกหนูทำหน้างง วิจึงชี้ให้ลูกหนูหันไปดูข้างหลัง ลู
Comments