Home / โรแมนติก / แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ / ตอนที่ 2 โลกใหม่ก็ยังเป็นเด็กกำพร้า

Share

ตอนที่ 2 โลกใหม่ก็ยังเป็นเด็กกำพร้า

last update Last Updated: 2024-11-03 01:46:56

ดวงวิญญาณของหยกถูกพลังงานบางอย่าง ดึงไปอย่างแรง

เธอไม่มีโอกาสบอกลาเพื่อนสนิท เพียงคนเดียวอย่างไพลิน ที่ป่านนี้

คงร้องไห้เป็นเผาเต่า เมื่อรู้ว่าเธอตายในกองเพลิงแห่งนั้น

ด้วยแรงดึงมหาศาล ดวงวิญญาณของหยกเข้าไปอยู่ในร่าง

ของเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ถูกงูพิษกัดที่ข้อเท้าด้วยร่างกายที่อ่อนแอ จึงไม่อาจหาสมุนไพรแก้พิษได้ทัน จึงต้องตายอย่างน่าอนาจ ซึ่งที่นี่เป็นโลกคู่ขนานของยุคจีนโบราณ ที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนในประวัติศาสตร์ เมื่อหายใจและลืมตาขึ้นรอบ ๆ ตัวของหยกคือป่าแห่งหนึ่งของหมู่บ้านลิ่วหยาง

หยกจึงพยายามชันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ต้องล้มลงนอนอีกครั้ง

พร้อมอาการปวดหัวที่ทำเอาเธอตาพร่ามัวไปหมด ภาพในหัวตอนนี้

เป็นความทรงจำของเจ้าของร่างตั้งแต่เด็ก มีหญิงชราคนหนึ่งเลี้ยงดู

มาจนเติบโต แต่มักจะมีสายตาที่เศร้าสร้อย ยามมองมาที่ร่างบาง

และที่สำคัญ เจ้าของร่างยังเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาเลี้ยง

“ทำไมคำขอของไอ้หยก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงให้ไม่ได้กันมันน่าโมโหนักโอ๊ย! นี่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนสวรรค์ หูหนวกตาบอดกันหรือยังไง หนูขอก่อนตายว่าอยากมีพ่อแม่ที่ร่ำรวย มีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือนะคะ แล้วนี่คืออะไร

ชาติก่อนก็เป็นเด็กกำพร้า ตายแล้วมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่น ก็ยังจะให้

ไอ้หยกเป็นเด็กกำพร้าเหมือนเดิมอีกเหรอเนี่ย”

“อ๊าก! น่าโมโหจริง ๆ อย่าให้รู้นะว่าใครพามาเกิดใหม่ในโลกนี้

จะอวยพรให้นั่งไม่ได้นอนไม่ได้ไปร้อยปีพันปีหมื่นปีเลย เพี้ยง!”

“ช่างทำกับไอ้หยกเด็กน้อยผู้น่าสงสารได้ลงคอ ตุบ เฮ้อ”

“อ๊ากกก!! ทำไมถึงเจ็บที่ก้นเช่นนี้ เล่าใครหน้าไหนมากลั่นแกล้งข้า โผล่หัวของเจ้าออกมาบัดเดี๋ยวนี้ แล้วนี่เทพจันทราหายไปไหน

ไม่กี่ชั่วยามก่อนยังนั่งดื่มสุราด้วยกันอยู่ หรือจะมีภารกิจผูกด้ายแดง”

“พรึ่บ! เพียะ! เข้าให้จะได้ตื่นเต็มตาเสียทีเทพชะตา”

“โอ้ย!! เทพจันทรานี่เจ้าตีข้าด้วยเหตุใดกัน ประเดี๋ยวก็ไม่แบ่ง

สุราดอกท้อให้เสียนี่ อูย มือหนักจริง ๆ”

“หึ ตีเจ้าด้วยเหตุใดน่ะหรือ ลองมองลงไปเบื้องล่างนั่นสิ

เด็กสาวคนนั้นร้องขอสิ่งใดแล้วดูเจ้ามอบสิ่งใดให้กับนาง ถ่างตาดู

ให้กว้าง ๆ แล้วจะรู้ว่าทำไมเจ้าถึงนั่งหรือนอนไม่ได้”

เทพชะตาเมื่อได้เห็นสิ่งที่ตนทำผิดพลาดกับหยกไว้ ถึงกับ

กุมศีรษะอันขาวโพลนจนสำนึกผิดแทบไม่ทัน เพราะไม่คิดว่าจะมี

ดวงวิญญาณ ที่เชื่อมโยงชะตาจากอีกโลกหนึ่งมาที่นี่ ถ้าอยากนั่งหรือนอนโดยไม่เจ็บปวด จำต้องไปขอโทษนางด้วยตนเองเท่านั้น

“เฮ้อ ไม่น่าดื่มมากเกินไปจริง ๆ เจ้าก็มีส่วนผิดนะเทพจันทรา

ที่ไม่เตือนข้า ดังนั้นเจ้าต้องมีส่วนรับผิดชอบลงไปพร้อมกัน แล้วพวกเรา

ให้พรกับนางคนละหนึ่งข้อเป็นอย่างไร”

“จะ จะ เจ้านี่มันไร้ยางอายเสียเหลือเกิน แค่พรหนึ่งข้อข้าไม่หวงหรอกนะ แต่เจ้าต้องให้พรนางสองข้อข้าถึงจะยอมรับผิดชอบกับเจ้า”

“จิ๊ ๆ ๆ ได้ ๆ สองข้อก็สองข้อจะลงไปได้หรือยังเล่า อย่าให้มหาเทพรู้เข้าล่ะไม่ เช่นนั้นเจ้ากับข้ามีหวังไม่ได้ดื่มสุราดอกท้ออีกแน่”

“รู้แล้วน่ารีบไปกันเถิดก่อนที่นางจะลงเขากลับบ้านไปเสียก่อน”

ส่วนหยกที่ยังคงนั่งทำความคุ้นเคยกับร่างใหม่อยู่กลางป่า

ใกล้ ๆ มีตะกร้าที่ขึ้นมาหาสมุนไพร และผักป่ากลับไปทำอาหาร

และนำสมุนไพรไปขายเพื่อซื้อยากลับมารักษายายเฒ่าลิ่ว แต่ร่างบาง

ก็ต้องหงายหลังหมดสติลงไปอีกครั้ง เมื่อท่านเทพทั้งสองต้องการพบเธอในห้วงความคิด

“โอ๊ะ! อะไรวะเนี่ยนั่งเฉย ๆ ก็ตายอีกรอบได้เหรอ แล้วทำไมมันมีแต่ควันขาว ๆ ไม่เห็นมีใครมารับเหมือนในละครล่ะ”

“เจ้ายังไม่ตายอีกรอบจะให้ยมทูตมารับไปได้อย่างไร พวกข้า

อยู่ด้านหลังของเจ้าต่างหากนางหนู” เทพจันทราตอบคำถามของหยก

ที่ยืนบ่นโดยหันหน้าไปอีกด้าน

“หืม เฮ้ยยย!! มะ มะ มาไงล่ะเนี่ยแล้วแต่งตัวอะไรแปลก ๆ

กำลังถ่ายซีรี่ย์เรื่องไหนกันอยู่อ่ะคุณลุง พระเอกหล่อป่ะแล้วทีมงาน

ซ่อนอยู่ตรงไหนพาหนูไปดูเบื้องหลังด้วยคนสิได้ไหมคะ” หยกที่เห็นคนแต่งกายชุดจีนโบราณ ก็คิดว่ากำลังถ่ายทำซีรี่ย์กันอยู่

“โป๊ก! อูย เจ็บ ๆ ๆ”

“เจ็บก็ดีผีเจาะปากมาพูดแท้ ๆ เอาล่ะเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน

ข้าเทพชะตาส่วนอีกคนคือเทพจันทราสหายข้าเอง เรื่องที่ดวงวิญญาณของเจ้ามาเข้าร่างของเด็กสาวคนนี้ คงต้องขออภัยเจ้าจริง ๆ เป็นความผิดของข้าเองที่ไม่มีสติมากพอ จึงทำให้เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ ทั้งที่เจ้าไม่อยากเป็นเด็กกำพร้าแต่พอได้ร่างใหม่ก็ยังเป็นเด็กกำพร้าอยู่ดี”

“หึ ก็ใช่น่ะสิใครจะอยากเกิดมาลำบากอดมื้อกินมื้อกันเล่า”

“ฟังให้จบก่อนสินางหนู ประเดี๋ยวก็ทำให้เป็นใบ้ชั่วคราวเสียนี่

เอาล่ะตั้งใจฟังให้ดี แม้ร่างที่เจ้ามาเกิดใหม่ตอนนี้จะเป็นเด็กกำพร้า

แต่ความเป็นจริงแล้วบิดามารดาของร่างนี้ยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจาก

เคราะห์กรรมที่เคยทำไว้ จำต้องถูกคนวางแผนทำร้าย ยังดีที่ยายแก่นั่น

สงสาร จึงพาเจ้าหนีมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ส่วนรายละเอียดทั้งหมด

เจ้าก็ไปถามกับยายแก่ที่บ้านเองเถิด คาดว่านางจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้วล่ะ” เทพชะตาเล่าเรื่องราวให้หยกได้รู้เพียงเล็กน้อย

“เพราะพวกข้าสองคนทำให้เจ้าต้องมาลำบากอีกครั้ง จึงมีพร

ให้เจ้าขอได้สามข้อลองนึกดูดี ๆ สิ่งที่เจ้าอยากมีไว้เพื่อดูแลตนเอง

และสามารถนำมันไปช่วยเหลือผู้อื่นที่ลำบาก มีอะไรที่อยากได้บ้าง

เรื่องภาษาของโลกนี้อย่าได้กังวล เจ้าเข้าใจและพูดได้ตั้งแต่เข้ามาอยู่

ในร่างนี้แล้วล่ะ” เทพจันทราถามความต้องการของหยก

“อืม อย่างแรกต้องเกี่ยวกับปากท้อง ซึ่งมันสำคัญมากที่สุด

ในยุคโบราณเช่นนี้ ขอมิติตลาดครอบจักรวาลของโลกเดิม เป็นพร

ข้อแรกค่ะ ส่วนข้อที่สองนั้นขอเป็นความสามารถในการทำนายดวงชะตา เพียงแค่เพ่งกระแสจิตหรือสัมผัสแค่ปลายนิ้ว ก็มองเห็นทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคตของคนที่ต้องการช่วยเหลือ และคนชั่วที่ต้องได้รับโทษเท่านั้น ส่วนข้อสุดท้ายเทพจันทรามีหน้าที่ผูกด้ายแดงใช่ไหมคะ”

“อืม ใช่นั่นคือหน้าที่หลักของข้าเจ้าถามทำไมรึ?”

“เช่นนั้นพรข้อที่สาม ขอเนื้อคู่ที่รักหนูแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น

ไม่เกรงกลัวอันตรายไม่ว่าคนผู้นั้นจะตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหน

ขอคนหน้าตาหล่อเหลาฐานะร่ำรวย สายเปย์ด้วยยิ่งดีได้ไหมคะท่านเทพ”

“เรื่องแค่นี้เองน่ะหรือ ได้! เนื้อคู่ของเจ้าเป็นไปตามที่เจ้าต้องการ

แต่จะได้พบพานเมื่อใดนั้น ข้าไม่อาจบอกกับเจ้าได้หวังว่าจะเข้าใจนะ”

แต่เทพจันทราที่ลงมือผูกด้ายแดงกลับไม่ได้มองว่า เส้นด้ายเนื้อคู่

ที่มอบให้กับหยกนั้น เป็นบุรุษที่มีนิสัยยิ่งกว่าที่นางร้องขอเสียอีก

“แล้วของท่านเทพชะตาล่ะคะจะให้เป็นแบบไหนดี”

“พรึ่บ!! มิติตลาดครอบจักรวาลของเจ้าอยู่ในปานดอกอิงฮวา

หลังใบหูข้างซ้าย ส่วนการทำนายดวงชะตาก็ทำเช่นที่เคยทำ และจะไม่กินพลังชีวิตของเจ้า การช่วยเหลือคนคือการทำความดีคนไหนควรเก็บเงิน

ก็เก็บ เรื่องนี้ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเข้าใจได้ง่ายอยู่กระมัง”

“ขอบคุณท่านเทพทั้งสองมาก ขอให้พวกท่านมีพลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้นอีกหลายพันปีนะคะ สิ่งใดที่เคยพูดจาก้าวล่วงเกินไป ขอให้เป็นโมฆะเสีย ส่วนเรื่องของคนที่คิดร้ายกับเจ้าของร่างจะต้องแก้แค้นเจ้าค่ะ แต่การลงโทษจะมาจากน้ำมือของผู้ใช้กฎหมายของแคว้นเท่านั้น

หากไม่มีใครคิดจะสังหารร่างนี้ หนูสัญญาว่าจะไม่ฆ่าใครเช่นกันค่ะ”

“อืม พวกข้ารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กดี และซื่อตรงกับความต้องการ

ของตนเอง เอาล่ะได้เวลาพวกข้าต้องกลับขึ้นไปทำหน้าที่แล้ว เจ้าเอง

ก็จงเดินทางปลอดภัยจัดการปัญหาต่าง ๆ อย่างไร้อุปสรรคเถิด”

“ขอบคุณท่านเทพทั้งสองมากค่ะ”

วูบ..!

หลังจากท่านเทพทั้งสองกลับขึ้นสวรรค์ หยกในร่างของ ‘อวี้จิ่น’

ชื่อที่หมอตำแยตั้งให้กับเจ้าของร่าง เมื่อลืมตาและตั้งสติได้อีกครั้ง

จึงสะพายตะกร้าลงจากเขา เพื่อกลับไปดูแลยายเฒ่าลิ่วที่เลี้ยงดู

นางมาตั้งแต่แบเบาะ ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรที่ใช้เป็นยารักษาคนหรือใช้

เพื่อฆ่าคน ยายเฒ่าลิ่วก็สอนให้กับอวี้จิ่นจนหมด ด้วยหวังว่าวันใดที่ตน

หมดลมหายใจ อวี้จิ่นสามารถใช้ความรู้เหล่านี้ทำงานหาเลี้ยงตนเองได้

“แฮ่ก ๆ ๆ โอย ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ แค่เดินลงจากเขานะ

หรือจะเป็นเพราะยังไม่ชินกับรูปร่างของคนยุคโบราณแน่ ๆ”

“อวี้จิ่น!”

“หืม ท่านป้าจูทำไมมาถึงเชิงเขาได้ล่ะเจ้าคะ”

“ป้าก็มาตามเจ้าน่ะสิอวี้จิ่น ลงมาจากเขาเสียทีรีบกลับบ้านไปดูยายเฒ่าลิ่วเถิด ท่าทางจะทนไม่ไหวกับอาการป่วยที่เป็นแล้วล่ะ”

นางจูที่อยู่บ้านติดกันกับอวี้จิ่น อาสามาตามหานาง เนื่องจากในยามนี้

ยายเฒ่าลิ่วอาการป่วยกำเริบหนักกว่าเดิม จนทุกคนที่มาเยี่ยมต่างคิด

เหมือนกันว่านางคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว

“ท่านยายอาการกำเริบหรือเจ้าคะท่านป้าจู เช่นนั้นข้าขอตัว

วิ่งกลับบ้านก่อนนะเจ้าคะ ท่านป้าไม่ต้องรีบค่อย ๆ เดินกลับเข้าหมู่บ้าน

ก็ได้เจ้าค่ะ” อวี้จิ่นไม่ลืมเป็นห่วงป้าข้างบ้านอย่างนางจู

เมื่อมาถึงบ้านหลังเก่า ๆ และมีคนในหมู่บ้านยืนอยู่ จึงแหวกทางเข้าไปดูอาการคนที่กำลังป่วยหนัก ชาวบ้านที่มาเยี่ยมทยอย

เดินออกมาเพื่อให้ทั้งสองได้พูดคุยกัน ซึ่งครั้งนี้ยายเฒ่าลิ่วยอมเปิดปากบอกความจริงกับอวี้จิ่น พร้อมมอบหยกรูปกุญแจอายุยืนให้กับนาง

ไว้ใช้เป็นหลักฐาน หากเดินทางไปตามหาบิดามารดาในเมืองหลวง

“ท่านยายเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ท่านอดทนอีกนิดเถิด

วันนี้ข้าหาสมุนไพรได้เยอะกว่าทุกครั้ง จะไปแลกยามาให้ท่านนะเจ้าคะ”

“แค่ก ๆ ๆ อวี้จิ่นอย่าเสียเวลารักษายายแก่อย่างข้าอีกเลย

เจ้าหยิบกล่องไม้เล็ก ๆ ที่อยู่ในตู้เก็บของมาให้ข้าที”

“นี่เจ้าค่ะท่านยาย”

“อวี้จิ่น แค่ก ๆ ๆ กุญแจหยกอายุยืนนี้ เจ้าจงเก็บเอาไว้ให้ดี

อย่าได้ทำมันหายเป็นอันขาดเข้าใจหรือไม่ แค่ก ๆ ๆ”

“ทำไมท่านยายถึงให้ข้าเก็บเอาไว้ล่ะเจ้าคะ มันดูมีราคาแพงมากท่านยายไม่มอบให้กับญาติพี่น้องของท่านเล่า”

อวี้จิ่นยังไม่เข้ามากนัก ว่าเจ้ากุญแจหยกอายุยืนนี้ เกี่ยวข้อง

กับนางในด้านไหน จนกระทั่งยายเฒ่าลิ่ววางมันลงในมือของนาง

ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ในจวนหลังใหญ่ ก็ปรากฏขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

“นะ นะ นี่มันเรื่องอะไรกัน”

“อวี้จิ่นความจริงแล้ว เจ้าคือบุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่

ของแคว้นจ้าว หรือก็คือแม่ทัพเจียงซื่อกุ่ย แต่ยามนั้นเพราะข้าเห็นแก่เงินเล็กน้อย ถึงได้ยอมทำตามคำสั่งของฮูหยินนายท่านรองตระกูลเจียง

ที่ได้คลอดบุตรสาวในเวลาไล่เลี่ยกันกับเจ้า และนางต้องการให้บุตรสาว

เป็นคุณหนูเพียงคนเดียวของตระกูลเจียง เพื่อในวันหน้าจะได้เกี่ยวดอง

กับเชื้อพระวงศ์ของแคว้น อันที่จริงฮูหยินของนายท่านรอง สั่งให้ข้า

กำจัดเจ้าไปเสีย” ยายเฒ่าลิ่วเล่าออกมาด้วยความรู้สึกผิด

“แล้วทำไมท่านถึงไม่ทำตามคำสั่งของนางล่ะเจ้าคะ นอกจาก

จะไม่กำจัดข้า ยังเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้เติบโตจนถึงทุกวันนี้” อวี้จิ่นได้ฟังมาถึงตรงนี้ก็อยากทราบเหตุผล ที่ยายเฒ่าลิ่วไม่ลงมือกำขัดนาง

ตามที่ฮูหยินยองนายท่านรองนั่นสั่งไปเสีย

“แค่ก ๆ ๆ คงเพราะเสียงร้องไห้ของเจ้ากระมัง ที่เรียกสติให้ข้า

รู้สำนึกกับสิ่งที่ทำลงไปในยามนั้น อวี้จิ่นหากเจ้าต้องการไปพบบิดา

ของเจ้าที่เมืองหลวง จะ จะ จงระวังตัวให้มาก เพราะบ้านรองตระกูลเจียง

ล้วนจิตใจคับแคบและเหี้ยมโหดอย่างเงียบ ๆ ถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว

อวี้จิ่นรักษาตัวด้วยคุณหนูจะ..ตุบ” ยายเฒ่าลิ่วตายตาหลับเมื่อได้บอก

สิ่งที่นางเก็บไว้มาตลอดสิบกว่าปี

“ท่านยาย! ฮึก ข้าเพิ่งจะมาอยู่ในโลกนี้แท้ ๆ ต้องกลับไปมีชีวิต

ที่โดดเดี่ยวอีกแล้วหรือ ฮึก ๆ ขอบคุณที่ท่านไม่กำจัดข้าในวันนั้น ส่วนเรื่องครอบครัวตระกูลเจียงข้าย่อมไปตามหา และเอาตัวคนชั่วส่งทางการ

ให้ได้รับโทษแน่นอนเจ้าค่ะ ขอให้ท่านยายไปสู่สุคตินะเจ้าคะ”

อวี้จิ่นก้มคำนับทำความเคารพยายเฒ่าลิ่ว เพื่อขอบคุณที่ดูแลนางมาสิบกว่าปี ชาวบ้านที่ยังรออยู่ด้านนอก เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้

ของอวี้จิ่น ก็รู้แล้วว่ายายเฒ่าลิ่วได้จากไปอย่างสงบ ทุกคนจึงช่วยเตรียมงานศพตามพิธีอย่างเรียบง่าย เนื่องจากพวกเขามิได้มีเงินทองมากนัก เพียงแค่หนึ่งวันก็ทำพิธีฝังร่างของยายเฒ่าลิ่วไว้ที่สุสานของหมู่บ้านแห่งนี้

ภายหลังเสร็จสิ้นงานศพ อวี้จิ่นได้ตัดสินใจจะเดินทาง

เข้าเมืองหลวง ซึ่งระยะทางไกลนับพันลี้ นางคิดว่าจะเดินทางไปทีละเมืองเผื่อจะมีลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ แม้เรื่องอาหารจะไม่ต้องกังวล

ก็ตาม แต่อย่างไรมีเงินติดตัวไว้ย่อมสบายใจกว่า เพียงแค่การเดินทาง

ถึงเมืองแรกอวี้จิ่นก็ได้ใช้ความสามารถที่มีของตนหาเงินทันที

Related chapters

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 3 เดินทางปุ๊บได้งานแรกปั๊บ

    อวี้จิ่นบอกลาเพื่อนบ้าน หลังจากผ่านงานศพของยายเฒ่าลิ่ว ได้เจ็ดวัน โดยใช้ข้ออ้างว่าจะไปตามหาบุตรหลานของยายเฒ่าลิ่วเท่านั้น เพื่อนบ้านต่างอวยพรให้อวี้จิ่นปลอดภัยและทำภารกิจสำเร็จ บางคน มีมอบอาหารให้นางนำติดตัวไปคนละเล็กละน้อย ทำเอาอวี้จิ่น ถึงกับน้ำตาซึมที่เห็นความมีน้ำใจจากชาวบ้านเพราะหมู่บ้านอยู่ไม่ไกลจากตำบล จึงใช้การเดินเท้าอวี้จิ่นสำรวจสองข้างทางไปเรื่อย ๆ เพื่อเรียนรู้ทุกสิ่งในโลกใบใหม่ แต่ถ้านางต้องการเข้าเมืองย่อมไม่อาจเดินเท้าไปเองได้ ด้วยระยะทางที่ไกลจึงอาศัย การนั่งเกวียนหรือรถม้าเท่านั้น ยังดีที่อวี้จิ่นมีเงินติดตัวมาห้าตำลึงเงิน กับเศษเหรียญอีแปะอีกเล็กน้อย นางถึงได้นั่งเกวียนวัวเข้าเมือง จ้าวโจวรอบสุดท้ายพอดี กว่าจะมาถึงเมืองจ้าวโจวก็เป็นเวลาพลบค่ำอวี้จิ่นอาศัยอารามร้างนอกเมืองเป็นที่หลับนอน เนื่องจากตอนนี้นางต้องประหยัดเงินไว้ก่อน ซึ่งที่นี่มีชาวบ้านที่นำของป่าที่ดูมีราคามาขายในเมือง พวกเขาก็เลือกที่จะพักในอารามร้างเช่นเดียวกัน แต่เป็นข่าวดีสำหรับอวี้จิ่นเมื่อชาวบ้านที่นั่งผิงไฟ เริ่มพูดถึงบุตรสาวของท่านเจ้าเมือง ที่หายออกจากจวน แม้จะส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตามหาก็ยัง

    Last Updated : 2024-11-03
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 4 หัวใจที่ด้านชากลับมาเต้นแรงอีกครั้ง

    ระหว่างการเดินทางจากเมืองจ้าวโจวใช้เวลาถึงเจ็ดวัน กว่ารถม้าจะพาอวี้จิ่นมาถึงเมืองเฉียนโจว ที่ดูจะคึกคักไม่น้อยมีผู้คนเดิน สวนทาง เข้าออกเมืองกันอย่างคับคั่ง ทั้งพ่อค้าแม่ค้าหรือนักเดินทาง จากต่างแคว้น แต่ถึงบรรยากาศยามกลางวันดูผู้คนพลุกพล่าน ใช้ชีวิตกันอย่างปกติทั่วไปเหมือนเมืองอื่น ๆ หากเมื่อใดใกล้ถึงยามค่ำคืนในเมืองเฉียนโจวกลับเงียบสนิท และเป็นครั้งแรกที่อวี้จิ่นรู้สึกว่า ที่เมืองเฉียนโจวมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้น“แม่นางน้อยพวกเรามาถึงเมืองเฉียนโจวแล้วขอรับ ข้าคง ส่งท่านถึงแค่หน้าประตูเมืองเท่านั้น หวังว่าท่านจะไม่โกรธนะขอรับ” คนบังคับรถม้าไม่อยากค้างคืนที่นี่ เพราะข่าวลือเรื่องยามค่ำคืนที่น่ากลัว“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านลุง ขอบคุณท่านมากที่มาส่งข้าว่าแต่ทำไมท่านลุง ไม่พักเหนื่อยที่เมืองเฉียนโจวเสียก่อนล่ะเจ้าคะ เดินทางมาตั้งไกลม้าเองก็น่าจะเหน็ดเหนื่อยไม่น้อยนะเจ้าคะ” อวี้จิ่นสงสัยกับสายตา ที่ดูหวาดกลัวบางอย่าง“เอ่อ ฮ้าย! หากข้าพูดให้แม่นางน้อยฟังแล้ว ท่านต้องมีสติ ให้ดี ที่ข้าไม่อยากพักที่เมืองเฉียนโจวเป็นเพราะว่ามีข่าวลือเกิดขึ้น ในยามกลางคืนมักจะมีผีสาวนางหนึ่งออกอาละวาด แ

    Last Updated : 2024-11-03
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 5 ข้อแลกเปลี่ยนที่เข้าทางฟู่หลงเหยียน

    ล่วงเลยเข้าปลายยามห้าย อวี้จิ่นออกจากห้องพักแสร้งเดินเล่น ไปตามถนนในเมืองเฉียนโจว ในมือข้างซ้ายถือลูกผิงกั่วกัดกินไปด้วย ท่ามกลางความเงียบสงัดอย่างที่คนบังคับรถม้าบอก ทำให้รู้สึกวังเวง อยู่ไม่น้อย แต่นั่นไม่ช่วยให้ความอยากรู้ลดลงแต่อย่างใด ด้านบนหลังคายังมีคนกลุ่มหนึ่งคอยตามอวี้จิ่นไปเงียบ ๆหลังจากเดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาอยู่หลายมุม จนเริ่มจะเมื่อยขาและอวี้จิ่นคิดว่า คืนนี้ไม่น่ามีเหตุการณ์ในข่าวลือเกิดขึ้น จึงคิดจะเดิน กลับโรงเตี๊ยมเพื่อนอนพักเอาแรง ยามที่กำลังคิดเรื่องกลับห้องพัก ก็มีเสียงหัวเราะแทรกเข้ามา ด้วยบรรยากาศที่เงียบเชียบ พอมีเสียงหัวเราะกลับกลายเป็นความรู้สึกน่ากลัว สำหรับคนในเมืองเฉียนโจวยิ่งนัก แต่อวี้จิ่นทำเพียงหยุดเดินและรอคอยอย่างตั้งใจ ว่าผีสาวตนนี้จะทำอะไรกับนาง ถ้าหากนางถามคำถามออกไป มันจะตอบคำถามของนาง ได้หรือไม่“ฮิ ๆ ๆ อาหารของข้า”“โอ๊ะ!! ในที่สุดก็ออกมาจนได้ ขอดูหน้าหน่อยก็แล้วกัน ว่าจะเป็น ผีสาวใบหน้างดงามหรือน่าขยะแขยง”“ฮ่า ๆ ๆ มาเป็นอาหารให้ข้าเสียเถิดเด็กน้อย แผล่บ ๆ”“ขวับ!! สวัสดีตอนดึกเจ้าค่ะ เป็นผีทำไมถึงรู้สึกหิวได้ล่ะ ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยน

    Last Updated : 2024-11-03
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 6 บุรุษผู้นี้คือเนื้อคู่ของเจ้า

    ยามค่ำคืนที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก ที่ฟู่หลงเหยียนไม่ฝันถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ จึงรู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคย รู้สึกมาหลายปี เขาไม่รู้จะขอบคุณสตรีที่แสนจะธรรมดาไม่เหมือนใคร แม้แต่ชื่อแซ่ก็ลืมถามไถ่กับนางไว้ ก่อนจะจากกันไปเสียได้ ฟู่หลงเหยียนตั้งใจไว้ว่าเช้านี้เขาจะถามชื่อของนางเป็นอย่างแรกทางด้านอวี้จิ่นที่เพิ่งตื่นนอนในต้นยามเฉิน พอตั้งสติได้ก็เกือบ หัวทิ่มหัวตำลงจากเตียงด้วยความเร่งรีบ เมื่อนางนึกขึ้นได้ว่าใกล้ถึงเวลา ที่ฟู่หลงเหยียนจะมารับนาง เพื่อไปเก็บหลักฐานการกระทำความผิด ของเจ้าเมืองเฉียนโจว อวี้จิ่นรีบล้างหน้าบ้วนปากอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ผมเผ้าทำเพียงเก็บรวบมัดยกเป็นหางม้าเท่านั้นเมื่อเดินออกมาด้านหน้าโรงเตี๊ยม บุรุษในชุดคลุมสีดำสองคน มายืนรอนางอยู่ก่อนแล้วพร้อมม้าอีกสองตัว ทำเอาอวี้จิ่นละอายใจเล็กน้อยได้แต่กล่าวขอโทษ ที่นางตื่นสายทำให้ทั้งสองคนต้องรอนาน“อุ๊ย! แหะ ๆ ๆ ขออภัยเจ้าค่ะ ที่ปล่อยให้พวกท่านรอนานเช่นนี้ ถ้าวันไหนข้าเข้านอนดึกมักจะตื่นสายเช่นนี้ประจำเจ้าค่ะ”“ไม่เป็นไร พวกข้าสองคนเพิ่งจะมาถึงไม่นานเช่นกัน เจ้าพอ จะบอกที่ซ่อนของหลักฐาน

    Last Updated : 2024-11-03
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 7 จำนนต่อหลักฐาน

    เมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงห้องส่วนตัวขนาดกลาง มีนักบวชคอยเฝ้าเอาไว้สองคน ก่อนจะเข้าไปได้ย่อมมีค่าผ่านประตู เรื่องนี้อวี้จิ่นย่อมเห็นจากภาพนิมิตมาแล้วจึงอาสาจัดการเอง“เดี๋ยวก่อนประสกทั้งสาม หากต้องการใช้ห้องสวนมนต์แห่งนี้ พวกท่านทราบถึงกฎเกณฑ์ของทางวัดแล้วหรือไม่”“คารวะไต้ซือเจ้าค่ะ คุณชายของข้าเพิ่งมาจากต่างเมือง เพื่อมาขอพรเกี่ยวกับการทำงานครั้งใหญ่ เห็นว่าที่วัดของตระกูลอวี่มีผู้คนเคารพนับถืออย่างมาก จึงอยากมากราบไหว้สักครั้ง ส่วนเรื่องกฎของทางวัด ข้าทราบเป็นอย่างดีว่าต้องทำอย่างไร ของในตะกร้าใบนี้หวังว่าไต้ซือจะอนุญาตให้คุณชายของข้า ได้เข้าไปสวดมนต์เป็นการส่วนตัวนะเจ้าคะ” พวกเห็นแก่เงินจะไม่รับไว้ได้อย่างไร ในตะกร้านั่นมีก้อนตำลึงเงินอยู่หลายก้อนเชียวนะ“อืม เมื่อประสกตัวน้อยรู้จักทำตามกฎของวัด คุณชายของท่านย่อมสามารถเข้าไปสวดมนต์ด้านในได้ เชิญ” ไต้ซือตัวปลอมมัวแต่สนใจก้อนตำลึงในถุงผ้าใบเล็กในตะกร้าจึงไม่เอะใจคำพูดของอวี้จิ่นเท่าใดนัก“ขอบคุณไต้ซือเจ้าค่ะ ที่เห็นใจชาวบ้านอย่างเรา เชิญคุณชายเข้าไปสวดมนต์เถิด งานที่ท่านหวังไว้จะได้สำเร็จโดยเร็วนะเจ้าคะ” อวี้จิ่นหันไปเชื้อเชิญฟู่หลงเหย

    Last Updated : 2024-11-03
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 8 ตระกูลเจียงของแม่ทัพใหญ่

    บนโต๊ะอาหารในจวนเช่าของฟู่หลงเหยียน ยามนี้มันเต็มไปด้วยอาหารหน้าตาแปลก ๆ แต่กลิ่นมันกลับหอมชวนให้ท้องร้องอยากกินเสียเดี๋ยวนั้น สาเหตุมาจากอวี้จิ่นไม่อยากนั่งอยู่เฉย ๆ นางจึงลุกไปยังห้องครัว และลงมือทำอาหารจากเนื้อและผักจากในมิติของตนโดยมีข้ออ้างกับตงลู่ว่า ตนเองแอบออกไปซื้อที่ตลาดมา และห้ามตงลู่บอกกับฟู่หลงเหยียนว่านางออกไปด้านนอก แต่ให้บอกว่าเขาคือคนที่ไปซื้อเนื้อกับผักพวกนี้ ตามคำขอของนาง อวี้จิ่นข่มขู่ตงลู่ด้วยอาหารบนโต๊ะนั่น ถ้าไม่ยอมทำตามที่นางบอกเขาจะอดกินมันอย่างแน่นอนคำข่มขู่ของอวี้จิ่นย่อมเป็นผล เมื่อตงลู่อยากชิมอาหารบนโต๊ะ ซึ่งมันไม่เหมือนอาหารที่เขาเคยทานมาก่อน ตงลู่ต้องออกจากห้วงความคิดของตน เมื่อได้ยินเสียงประตูจวนถูกเปิด เขารีบบอกให้อวี้จิ่นไปซ่อนตัวไว้ ส่วนตนเองจับดาบไว้แน่น ออกไปยืนซ่อนตัวอยู่ด้านหลังประตู แต่คนที่มากลับเป็นเจ้านายของตนมิใช่คนร้าย“แอ๊ดดด!! ชิ้ง!! พวกเจ้าปะ นายน้อย!!”“ตงลู่! นี่เจ้าอยากประลองฝีมือกับนายน้อย ถึงกับถือดาบมาดักรออยู่หลังประตูเชียวรึ” อู๋จิ้งเห็นตงลู่ชักดาบเมื่อประตูเรือนด้านหน้าเปิดออกจึงเรียกสหายทันที“ขออภัยขอรับนายน้อย บ่าวคิดว่ามี

    Last Updated : 2024-11-07
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 9 แผนเพิ่มอำนาจของบ้านรองเจียง

    จิ้งโม่และมู่ฉีกลับที่พักของพวกตนทันที หลังจากออกมาจากค่ายทหาร ในจดหมายจิ้งโม่เขียนไว้อย่างละเอียด รวมถึงเรื่องที่เจียงหยวนกำลังออกเดินทางไปรอเจ้านาย อาจจะเป็นที่เมืองชางโจว เมื่อภารกิจสำเร็จทั้งสองจึงไปดื่มฉลองกันเล็กน้อยตามประสาบุรุษด้านแม่ทัพใหญ่ที่กลับมาถึงจวนในยามเซิน ได้สั่งให้พ่อบ้านเจียงไปแจ้งที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่าว่า เย็นนี้เขาจะพาฮูหยินไปรับสำรับเย็นที่นั่น และบอกให้แม่ครัวเตรียมอาหารไว้มากกว่าเดิมสักหน่อย ก่อนที่ตัวของแม่ทัพใหญ่จะกลับไปชำระล้างร่างกายเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อไปพบฮูหยินที่ไม่ยอมออกจากจวนมาหลายปีมู่เสียสาวใช้คนสนิทของจางฮูหยิน เมื่อเห็นว่านายท่านของจวน มาพบนายหญิงของตนเร็วกว่าทุกวัน จึงจะเข้าไปบอกเจ้านายแต่ว่านางถูกนายท่านเรียกตัวเอาไว้เสียก่อน“มู่เสีย”“คารวะนายท่านเจ้าค่ะ”“เจ้าไม่ต้องไปรายงานน้องหญิง แต่ไปเตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ดูชุดที่มีสีสันสดใสสักเล็กน้อยก็แล้วกัน วันนี้ข้าจะพานางไปรับอาหารเย็นที่เรือนท่านแม่” แม่ทัพใหญ่สั่งงานกับมู่เสีย ก่อนจะเข้าไปหาฮูหยินของตน ที่ยังคงมีสีหน้าไร้ชีวิตชีวาเช่นทุกวัน“เอ่อ เจ้าค่ะนายท่าน” มู่เสียทำท่าคล้ายมีคำถาม แต่ก็ต

    Last Updated : 2024-11-07
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 10 เมืองหลวงรอข้าก่อนเถิด

    ตระกูลเจียงสายหลักและสายรองในเมืองหลวง กำลังต่อสู้กันอยู่อย่างเงียบ ๆ มีเพียงคนที่เป็นสหายเท่านั้น ที่รับรู้ว่าสองพี่น้องต่างแม่เกลียดกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร คนที่เป็นฝ่ายชนะมักจะเป็นแม่ทัพใหญ่อยู่เสมอทางด้านเมืองเฉียนโจว นายกองจั๋วได้เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือเวลาอีกหนึ่งวัน ฟู่หลงเหยียนจะนำตัวนักโทษออกเดินทางเสียที แต่ในต้นยามเฉินฟู่หลงเหยียนก็ได้รับจดหมายจากจิ้งโม่“นายน้อยขอรับจดหมายจากจิ้งโม่น่าจะเพิ่งมาถึง คงเกี่ยวกับเรื่องของคุณหนูอวี้จิ่นนะขอรับ” เฉินอิ่นนำจดหมายออกจากขานกพิราบ ที่บินมาจากเมืองหลวงมอบให้เจ้านายของเขา“อืม ขอบใจ”ฟู่หลงเหยียนรับจดหมายมาเปิดอ่านที่เขียนมาสั้น ๆ แต่สามารถเข้าใจความหมายที่จิ้งโม่บอกมาเป็นอย่างดี‘ตระกูลเจียง คาดว่าทารกถูกสับเปลี่ยนและเป็นแผนร้ายของตระกูลสายรอง สหายของนายน้อยกำลังเดินทางไปสมทบ’“หึ นางเป็นบุตรสาวของตระกูลนี้จริง ๆ สินะ” เมื่อได้รับการยืนยันจากข่าวของจิ้งโม่ ฟู่หลงเหยียนจึงมั่นใจเต็มส่วน ว่าอวี้จิ่นคือบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่ บิดาของสหายของตนอย่างเจียงหยวน“เอ่อ นายน้อยข่าวของจิ้งโม่ว่าอย่างไรบ้างหรือขอรับ เจอตระกูลครอบค

    Last Updated : 2024-11-07

Latest chapter

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนพิเศษ 2 แค่สาดผงยาพิษก็ได้สิทธิ์เป็นท่านหญิง

    ฟู่หลงเหยียนและเจียงหยวนยังคงซ่อนตัวอยู่ พวกเขาอยากรู้ว่าสองพี่น้องจะรับมือคนพวกนี้ เพื่อหาทางเอาตัวรอดอย่างไร “พวกเจ้าเอาตัวเด็กสองคนนั่นลงมา อย่ามัวชักช้ายืดยาด หากงานไม่สำเร็จละก็ จะกลายเป็นพวกเราที่ต้องตายแทน” ซานถูลงไปยืนรอยังจุดที่เลือกไว้ สำหรับการขุดหลุมฝังเจียงข่ายเหวินและฟู่เจียฉี“ถุ้ย!! อย่าเอามือสกปรกของเจ้ามาถูกตัวน้องสาวข้า” เจียงข่ายเหวินตะคอกลูกน้องซานถูทันที เมื่อมือหยาบนั้นกำลังจะดึงตัวฟู่เจียฉี ออกไปจากอ้อมกอดของตน“เหวินเกอไม่ต้องกลัวนะ ฉีเอ๋อร์จะปกป้องท่านเองเจ้าค่ะ” ฟู่เจียฉีมิใช่เด็กหญิงตัวน้อยขี้แย เพราะมีบิดาคอยสอนให้เข้มแข็งมีสติ ถึงจะเป็นเด็กแต่เมื่อมีสติก็สามารถเอาตัวรอดได้“ฮ่า ๆ ๆ ลูกพี่ดูเจ้าเด็กสองคนนี่สิ ช่างเป็นญาติพี่น้องที่รักกันดีเสียเหลือเกิน” เกาจิ่งหัวเราะกับท่าทางของฟู่เจียฉี“เหอะ ก็คงเห็นตัวอย่างจากบิดมารดากระมัง เร็ว ๆ ๆ พาตัวลงจากรถม้าได้แล้ว ยังต้องขุดหลุมอีกพวกเจ้าอย่าลืมสิ” ซานถูเร่งลูกน้องของตนให้ทำตามคำสั่งขณะที่เกาจิ่งหันไปพูดคุยกับซานถู ฟู่เจียเฟยได้หยิบห่อยาพิษที่บิดาเพิ่งมอบให้ ก่อนจะแบ่งให้เจียงข่ายเหวินอีกสองห่อ เด็กชายมองหน้า

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนพิเศษ 1 ญาติผู้พี่กับญาติผู้น้อง

    ณ จวนตระกูลเจียงหลังจากอวี้จิ่นออกเรือนแต่งเข้าตระกูลฟู่ ลูกสะใภ้ของตระกูลเจียงอย่างจ้าวเจียเฟย ก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชาย ซึ่งในอนาคตเขาขคือผู้สืบทอดตระกูลเจียงต่อจากบิดา ชื่อของหลานชายฮ่องเต้ผู้เป็นเสด็จตา ประทานนามให้ว่า ‘ข่ายเหวิน’ หมายถึง ผู้ชนะและมีความรู้ และชื่อนี้ก็เข้ากับลักษณะนิสัยของเจ้าตัวน้อยได้เป็นอย่างดีนอกจากมารดาจะเป็นที่โปรดปรานแล้ว เมื่อให้กำเนิดหลานชายย่อมได้รับความโปรดปราน ไม่ต่างจากผู้เป็นมารดาเช่นกัน สร้างความอิจฉาริษยาให้กับองค์ชายองค์หญิงที่มีหลานให้กับฮ่องเต้ องค์ชายองค์หญิงที่รู้จักประมาณตน จะอบรมสั่งสอนบุตรของตนให้รักญาติพี่น้อง แต่สำหรับคนที่จิตใจดำมืดเกินเยียวยา ย่อมสั่งสอนและปลูกฝังความริษยาลงในจิตใจของบุตร ตระกูลเจียงมีทายาทแล้ว ทางด้านตระกูลฟู่จะไม่มีได้อย่างไร หลังจากเจียงข่ายเหวินอายุได้สองหนาว อวี้จิ่นแต่งเข้าจวนฟู่ได้ครึ่งปีก็ตั้งครรค์ และให้กำเนิดบุตรสาวนามว่าฟู่เจียฉี หากจะกล่าวว่าญาติผู้พี่เจียงข่ายเหวินหล่อเหลาตั้งแต่เยาว์วัย ญาติผู้น้องอย่างฟู่เจียฉีจะน้อยหน้าได้หรือ เด็กหญิงเกิดมาพร้อมกับดวงหน้ารูปหยดน้ำ จมูกโด่งได้รูปรับกับใบหน้า ริ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 61 งานแต่งธรรมดาแต่ท่านเทพจะมาทำไมเจ้าคะ (จบ)

    หลังจากตระกูลฟู่และตระกูลเจียง ได้แลกหนังสือหมั้นหมายของบุตรชายบุตรสาว ข่าวลือเรื่องทั้งสองตระกูลจะเกี่ยวดองกัน ก็แพร่กระจายไปตามร้านรวงต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว คนที่อวยพรให้ทั้งสองสุขสมก็มีอยู่มาก คนที่อิจฉาริษยาก็มีไม่น้อย ล้วนเป็นสตรีที่ยังไม่ออกแต่แล้วอย่างไรในเมื่อฟู่หลงเหยียนมิได้สนใจ พวกนางก็เป็นได้แค่เศษฝุ่นที่ลอยไปกับสายลมเท่านั้น เพราะในสายตาของฟู่หลงเหยียน ไม่เคยละไปจากคู่หมั้นที่เริ่มจะเปล่งประกายความงามหลังจากนั้นอีกสามเดือนต่อมา ปรากฏว่าองค์หญิงใหญ่ตั้งครรภ์ อย่างที่อวี้จิ่นเคยบอกพวกเขาเอาไว้จริง ๆ เจียงหยวนแอบไปพบน้องสาว เพราะเขาอยากรู้ว่าเด็กในครรภ์องค์หญิงใหญ่ เป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง เขาจะได้เตรียมรับมือบุตรคนได้ถูก พอได้รู้ว่าตนเองจะได้บุตรชาย การวางแผนเลี้ยงดูจึงถูกคิดขึ้นทันทีตั้งแต่อวี้จิ่นกลายเป็นคู่หมั้นของหัวสำนักตรวจการ หากไม่มีภารกิจลับและออกเดินทางไปต่างเมือง ข้างกายของอวี้จิ่นย่อมมีบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำ นามว่าฟู่หลงเหยียนอยู่กับนางเสมอ จนเหล่าบุรุษที่มั่นใจว่าตนเองหน้าตาหล่อเหลา ต้องวิ่งหาที่หลบแทบไม่ทัน แค่ฟู่หลงเหยียนจ้องมองพวกเขาก็หายไม่ออกกันแล้วทุก

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 60 หมั้นหมายอย่างเป็นทางการ

    ฟู่หลงเหยียนพาอวี้จิ่นกลับมาส่งที่จวน ภายหลังที่พลุถูกจุดจนหมดเรียบร้อยแล้ว ด้วยตอนมาร่วมงานเขานั่งรถม้า ยามนี้จำเป็นต้องยืมเจ้าเสี่ยวหงกลับจวนไปก่อน และค่อยนำมันมาคืนอวี้จิ่นทีหลังอวี้จิ่นยืนส่งฟู่หลงเหยียนขี่เจ้าเสี่ยวหง จนแผ่นหลังของเขาหายลับไปจากสายตา ถึงได้เดินเข้าจวนอย่างอารมณ์ดี ทำให้คนเดินตามหลังอย่างตงลู่กับเฟยอิน เอ็นดูกับท่าทางที่เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเขินอาย อยากจะหัวเราะแต่ต้องอดกลั้นเอาไว้แต่พอมาถึงเรือนของตนอวี้จิ่นพบว่า เป่าจูสาวใช้ของพี่สะใภ้ กำลังเดินไปมาชะเง้อมองหาใครอยู่ “หืม นั่นใช่พี่เป่าจูสาวใช้ของพี่สะใภ้ใช่ไหมพี่เฟยอิน”“ใช่จริง ๆ ด้วยเจ้าค่ะคุณหนู ว่าแต่นางมาทำอะไรที่เรือนของท่าน ยามนี้มิใช่ต้องอยู่รอรับใช้องค์หญิงใหญ่หรอกรึ?”เป่าจูเมื่อเห็นอวี้จิ่นกลับมาที่เรือน จึงสาวเท้าไปหานางดั่งพายุ สร้างความงุนงงจนอดคิดไม่ได้ว่า จะเกิดเรื่องอันใดที่เรือนของพี่ชายตนหรือไม่“คุณหนูเจียงในที่สุดท่านก็กลับมาเสียทีเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของเป่าจูดูร้อนรนแปลก ๆ“พี่เป่าจูท่านมารอพบข้ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่เจ้าคะ”“คือบ่าวมารอพบคุณหนูที่นี่ เพราะมีเรื่องจะรบกวนท่านจริง ๆ เจ้าค่ะ”“พี่เ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 59 งานมงคลกับคนสารภาพรัก

    ซีอ๋องอยู่ร่วมงานเลี้ยงชนะสงครามเท่านั้น อีกสองวันต่อมาจึงออกเดินทางพร้อมหีบยาจำนวนมาก ยังมีเมล็ดพันธุ์ผักที่อวี้จิ่นใจดีมอบให้อีกหนึ่งหีบ ที่สำคัญทรงอยากกลับไปชำระความ กับสตรีชั่วที่ปองร้ายบุตรชายเพียงคนเดียวของตน ซึ่งตอนนี้นางกำลังตั้งตนเป็นเจ้าของตำหนักอ๋อง จนลืมไปว่านางเป็นแค่ชายารองเท่านั้นข่าวลือที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว เรื่องฤกษ์มหามงคลที่มีขึ้น ในอีกสามสัปดาห์ต่อจากนี้ ทำเอาวังหลวงวุ่นวายจนเวียนหัว เพื่อเตรียมงานอภิเษกสมรสขององค์หญิงใหญ่ พระธิดาคนโปรดของฮ่องเต้ให้ออกมาดีที่สุด ห้ามขาดตกบกพร่องแม้แต่นิดเดียวส่วนตระกูลเจียงถือว่าโชคดีมาก ที่อวี้จิ่นได้บอกมารดาไว้ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างในจวนจึงพร้อมต้อนรับสะใภ้ใหญ่ หลังจบงานเลี้ยงวันถัดมายามปลายยามเฉิน ขบวนสินสอดนับร้อยหีบผูกด้วยผ้าสีแดง พร้อมสามหนังสือหกพิธีการนำไปส่งมอบให้กับฮองเฮา ก็ทยอยออกจากจวนตระกูลเจียงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงทันทีชาวบ้านสองข้างทางต่างหยุดมอง และเริ่มพูดถึงเรื่องสมรสพระราชทานอีกครั้ง ตระกูลใดที่รอจัดงานพร้อมแม่ทัพเจียง ต่างเร่งจัดเตรียมข้าวของเรือนหอ อาหารการกินที่ต้องใช้เลี้ยงแขกในงาน เผื่อว่าการแต่งงานในฤก

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 58 ขอรางวัลสมรสพระราชทาน

    หลังจากหวาอานส่งจดหมายกลับไปยังเหอหยาง เมื่อแม่ทัพเสียนมู่ได้อ่านเนื้อหาในจดหมาย จึงนำกำลังทหารบางส่วนมุ่งหน้าไปยังจวนซีอ๋อง เพื่อรับตัวซื่อจื่อมาดูแลเป็นการชั่วคราว คราแรกพระชายารองไม่ยินยอม แต่พอได้เห็นป้ายผู้แทนของซีอ๋อง ที่อยู่ในมือของแม่ทัพเสียนมู่แล้ว ถึงได้ยอมปล่อยซื่อจื่อให้แม่ทัพเสียนมู่พาตัวกลับจวนส่วนเจ้าของคำสั่งที่พักอาศัยในจวนแม่ทัพใหญ่ ได้เห็นแปลงผักที่หลากหลายก็เกิดความสนใจ ซีอ๋องคิดว่าหากกองทัพหรือราษฎรที่เหอหยาง สามารถปลูกพืชผักได้เช่นจวนแม่ทัพใหญ่ ย่อมมีเสบียงสำรองมากพอยามฤดูเหมันต์มาเยือน ทุกคนต้องผ่านความอดอยากได้แน่เมื่อซีอ๋องถามกับบ่าวไพร่เรื่องการปลูกผัก คำตอบที่ได้ก็เกี่ยวกับบุตรสาวแม่ทัพใหญ่อีกแล้ว จนกระทั่งได้มานั่งพูดคุยเรื่องการค้า ซีอ๋องจึงถือโอกาสสอบถามอวี้จิ่นเรื่องผักที่ปลูกด้วยเสียเลย“คุณหนูเจียงเรื่องสัญญาการค้ายาสมุนไพร เปิ่นหวางยินดีทำตามข้อเสนอของเจ้า เพียงแต่ว่ามีอีกเรื่องที่เปิ่นหวางอยากรู้”“ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ยอมทำการค้า กับร้านยาเล็ก ๆ ของหม่อมฉันเพคะ ว่าแต่ท่านอ๋องทรงอยากทราบเรื่องอันใดหรือเพคะ”“เปิ่นหวางอยากถามเกี่ยวกับวิธีปลูกผัก ให้ไ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 57 บิดาและพี่ชายกลับมาพร้อมแขกสูงศักดิ์

    เรื่องราวที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงบุปผาในวังหลวง ถูกพูดถึงในเช้าวันต่อมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องของเลี่ยวหลวนเฉิน สมรู้ร่วมคิดกับโจรหยางเสวียน กดขี่ข่มเหงขูดรีดเงินภาษีจากชาวเมืองซุยโจว เมื่อถึงเวลานำตัวทาสทุกคนออกเดินทาง จึงใช้เวลานานกว่าทุกครั้งเพราะผู้คนสองข้างทาง ต่างเฝ้ารอขว้างปาสิ่งของและด่าทอสาปแช่ง กว่าจะหลุดพ้นจากประตูเมืองหลวง ก็บาดเจ็บกันไปไม่น้อยกับทาสทั้งหลายหลังจากงานเลี้ยงจบลงได้ไม่ดีเท่าใดนัก อีกสามวันต่อมารัชทายาทจ้าวเจาเยี่ยน ก็กลับมาจากการทำภารกิจตามราชโองการ แต่รัชทายาทกลับไปชำระล้างพระวรกายที่ตำหนักบูรพา จากนั้นจึงเสด็จไปเข้าเฝ้ากราบทูลรายงานต่อพระบิดา“ถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ลุกขึ้นเถิดรัชทายาท เจ้าเพิ่งกลับมาถึงเช่นนั้นรึ” ฮ่องเต้ทรงเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของโอรสก็ทรงทราบแล้ว“พ่ะย่ะค่ะ ลูกเพิ่งกลับมาถึงเมื่อยามซื่อ และต้องการรายงานเรื่องน้ำที่เมืองสุยโจวพ่ะย่ะค่ะ” รัชทายาทมิอาจรั้งรอได้นาน เนื่องจากต้องรีบคัดเลือกขุนนางไปรับตำแหน่งเจ้าเมือง“ปัญหาเรื่องน้ำที่เมืองสุยโจวเป็นอย่างไร สาเหตุเกิดจากภัยธรรมชาติหรือฝีมือของมนุษย์กันแน่”“ทูลเสด็จพ่อเป็น

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 56 งานเลี้ยงบุปผาหรืองานเลี้ยงหงเหมิน

    ภายหลังที่ได้หลักฐานและล่วงรู้แผนชั่วแล้ว ฟู่หลงเหยียนมาส่งอวี้จิ่นด้วยวิธีเดิม และไม่ลืมพูดถึงเรื่องงานเลี้ยงบุปผา ที่ฮองเฮาจะจัดขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้า เขาบอกให้อวี้จิ่นและมารดารออยู่ที่จวน แล้วเขาจะเป็นคนมารับอวี้จิ่นด้วยตนเองพอกลับมาถึงจวนฟู่หลงเหยียนย่อมไปพบบิดา เพื่อบอกเล่าแผนการของเลี่ยวหลวนคุน และยังมีหลักฐานที่สายของตนได้มา“ก๊อก ๆ ๆ ท่านพ่อข้าเองขอรับ”“เข้ามาเถิดอาเหยียน”เมื่ออนุญาตให้บุตรชายเข้ามาในห้องหนังสือได้ ก็มีห่อผ้าวางลงตรงหน้าของฟู่กั๋วกง คำถามจึงเกิดจากสายตาโดยไม่ต้องมีคำพูด“เรียนท่านพ่อ ในห่อผ้านี้เป็นสมุดบัญชีที่ใต้เท้าเลี่ยว แอบนำไปฝังไว้ใต้ดินหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม สายของเราที่อยู่ในจวนสังเกตเห็นท่าทางมีพิรุธ ถึงได้ตามไปเงียบ ๆ จากนั้นก็ขุดมันออกมามอบให้ข้าขอรับ”“หมายความว่าสิบปีที่ผ่านมา ใต้เท้าเลี่ยวติดต่อกับโจรป่าหยางเสวียน และแบ่งปันทรัพย์สินจากการปล้น รวมถึงเงินที่เก็บภาษีจากชาวบ้านด้วยงั้นรึ” ฟู่กั๋วกงไม่คิดมาก่อนว่าใต้เท้าเลี่ยว จะเก็บซ่อนความลับนี้ได้นานถึงสิบปี โดยไม่มีผู้ใดระแคะระคายแม้แต่น้อย“คาดว่าจะเป็นเช่นที่ท่านพ่อพูดมาขอรับ ส่วนเรื่อง

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 55 ว่าที่พี่สะใภ้ข้าใครก็ห้ามแย่ง

    หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลเศรษฐีม่าย เมื่อพยานอย่างม่ายจิ่นเม่ยให้การกับใต้เท้ากวน และลูกน้องทั้งสองของท่านหมอซัง ยอมสารภาพทุกอย่างต่อใต้เท้ากวน เพราะพวกเขาถูกดวงวิญญาณหญิงสาว ตามมาคอยหลอกหลอนจนนอนไม่หลับ ไหนจะความเจ็บปวดจากยาพิษของอวี้จิ่น ทำให้พวกเขาอยากตายเพื่อหลุดพ้นความทรมานเมื่อมีทั้งพยานที่ยังรอดชีวิตและคำสารภาพ จากคนเป็นลูกน้องของซังปินจีทั้งสองคน โทษประหารชีวิตย่อมเกิดขึ้นแน่นอน เพียงแค่ก่อนจะลงดาบประหารนั้น ใต้เท้ากวนได้ให้ทั้งสามคนได้รู้ซึ้งถึงความทรมาน ของหญิงสาวที่ตกตายด้วยน้ำมือของพวกเขาเสียก่อน ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ทำการแขวนคอนักโทษ พอใกล้จะขาดใจก็หย่อนเชือกให้หายใจต่อ ทำเช่นนั้นอยู่ถึงสามครั้งถึงจะนำตัวไปตัดหัว“เจ้าหมอชั่วจงตกนรกอย่าได้กลับมาเกิดเป็นคนอีกเลย”“ถ้าพวกเจ้ากลับมาเกิดขอให้เป็นสัตว์เดรัจฉาน ที่เป็นเหยื่อให้สัตว์ใหญ่ไล่ล่ากินเนื้อพวกเจ้า”“สงสารหญิงสาวที่ต้องตายเพราะคนชั่วจริง ๆ ขอให้พวกเจ้าไปสู่สุขคติด้วยเถิด”ในวันประหารชีวิตมีชาวบ้านไม่น้อยมามุงดู หนึ่งในนั้นย่อมเป็นครอบครัวตระกูลม่าย ที่ได้รับความเป็นธรรมและยังมีชีวิตอยู่ต่อไปก่อนครอบครัวตระกูล

DMCA.com Protection Status