แชร์

ตอนที่ 2 โลกใหม่ก็ยังเป็นเด็กกำพร้า

ดวงวิญญาณของหยกถูกพลังงานบางอย่าง ดึงไปอย่างแรง

เธอไม่มีโอกาสบอกลาเพื่อนสนิท เพียงคนเดียวอย่างไพลิน ที่ป่านนี้

คงร้องไห้เป็นเผาเต่า เมื่อรู้ว่าเธอตายในกองเพลิงแห่งนั้น

ด้วยแรงดึงมหาศาล ดวงวิญญาณของหยกเข้าไปอยู่ในร่าง

ของเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ถูกงูพิษกัดที่ข้อเท้าด้วยร่างกายที่อ่อนแอ จึงไม่อาจหาสมุนไพรแก้พิษได้ทัน จึงต้องตายอย่างน่าอนาจ ซึ่งที่นี่เป็นโลกคู่ขนานของยุคจีนโบราณ ที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนในประวัติศาสตร์ เมื่อหายใจและลืมตาขึ้นรอบ ๆ ตัวของหยกคือป่าแห่งหนึ่งของหมู่บ้านลิ่วหยาง

หยกจึงพยายามชันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ต้องล้มลงนอนอีกครั้ง

พร้อมอาการปวดหัวที่ทำเอาเธอตาพร่ามัวไปหมด ภาพในหัวตอนนี้

เป็นความทรงจำของเจ้าของร่างตั้งแต่เด็ก มีหญิงชราคนหนึ่งเลี้ยงดู

มาจนเติบโต แต่มักจะมีสายตาที่เศร้าสร้อย ยามมองมาที่ร่างบาง

และที่สำคัญ เจ้าของร่างยังเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาเลี้ยง

“ทำไมคำขอของไอ้หยก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงให้ไม่ได้กันมันน่าโมโหนักโอ๊ย! นี่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนสวรรค์ หูหนวกตาบอดกันหรือยังไง หนูขอก่อนตายว่าอยากมีพ่อแม่ที่ร่ำรวย มีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือนะคะ แล้วนี่คืออะไร

ชาติก่อนก็เป็นเด็กกำพร้า ตายแล้วมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่น ก็ยังจะให้

ไอ้หยกเป็นเด็กกำพร้าเหมือนเดิมอีกเหรอเนี่ย”

“อ๊าก! น่าโมโหจริง ๆ อย่าให้รู้นะว่าใครพามาเกิดใหม่ในโลกนี้

จะอวยพรให้นั่งไม่ได้นอนไม่ได้ไปร้อยปีพันปีหมื่นปีเลย เพี้ยง!”

“ช่างทำกับไอ้หยกเด็กน้อยผู้น่าสงสารได้ลงคอ ตุบ เฮ้อ”

“อ๊ากกก!! ทำไมถึงเจ็บที่ก้นเช่นนี้ เล่าใครหน้าไหนมากลั่นแกล้งข้า โผล่หัวของเจ้าออกมาบัดเดี๋ยวนี้ แล้วนี่เทพจันทราหายไปไหน

ไม่กี่ชั่วยามก่อนยังนั่งดื่มสุราด้วยกันอยู่ หรือจะมีภารกิจผูกด้ายแดง”

“พรึ่บ! เพียะ! เข้าให้จะได้ตื่นเต็มตาเสียทีเทพชะตา”

“โอ้ย!! เทพจันทรานี่เจ้าตีข้าด้วยเหตุใดกัน ประเดี๋ยวก็ไม่แบ่ง

สุราดอกท้อให้เสียนี่ อูย มือหนักจริง ๆ”

“หึ ตีเจ้าด้วยเหตุใดน่ะหรือ ลองมองลงไปเบื้องล่างนั่นสิ

เด็กสาวคนนั้นร้องขอสิ่งใดแล้วดูเจ้ามอบสิ่งใดให้กับนาง ถ่างตาดู

ให้กว้าง ๆ แล้วจะรู้ว่าทำไมเจ้าถึงนั่งหรือนอนไม่ได้”

เทพชะตาเมื่อได้เห็นสิ่งที่ตนทำผิดพลาดกับหยกไว้ ถึงกับ

กุมศีรษะอันขาวโพลนจนสำนึกผิดแทบไม่ทัน เพราะไม่คิดว่าจะมี

ดวงวิญญาณ ที่เชื่อมโยงชะตาจากอีกโลกหนึ่งมาที่นี่ ถ้าอยากนั่งหรือนอนโดยไม่เจ็บปวด จำต้องไปขอโทษนางด้วยตนเองเท่านั้น

“เฮ้อ ไม่น่าดื่มมากเกินไปจริง ๆ เจ้าก็มีส่วนผิดนะเทพจันทรา

ที่ไม่เตือนข้า ดังนั้นเจ้าต้องมีส่วนรับผิดชอบลงไปพร้อมกัน แล้วพวกเรา

ให้พรกับนางคนละหนึ่งข้อเป็นอย่างไร”

“จะ จะ เจ้านี่มันไร้ยางอายเสียเหลือเกิน แค่พรหนึ่งข้อข้าไม่หวงหรอกนะ แต่เจ้าต้องให้พรนางสองข้อข้าถึงจะยอมรับผิดชอบกับเจ้า”

“จิ๊ ๆ ๆ ได้ ๆ สองข้อก็สองข้อจะลงไปได้หรือยังเล่า อย่าให้มหาเทพรู้เข้าล่ะไม่ เช่นนั้นเจ้ากับข้ามีหวังไม่ได้ดื่มสุราดอกท้ออีกแน่”

“รู้แล้วน่ารีบไปกันเถิดก่อนที่นางจะลงเขากลับบ้านไปเสียก่อน”

ส่วนหยกที่ยังคงนั่งทำความคุ้นเคยกับร่างใหม่อยู่กลางป่า

ใกล้ ๆ มีตะกร้าที่ขึ้นมาหาสมุนไพร และผักป่ากลับไปทำอาหาร

และนำสมุนไพรไปขายเพื่อซื้อยากลับมารักษายายเฒ่าลิ่ว แต่ร่างบาง

ก็ต้องหงายหลังหมดสติลงไปอีกครั้ง เมื่อท่านเทพทั้งสองต้องการพบเธอในห้วงความคิด

“โอ๊ะ! อะไรวะเนี่ยนั่งเฉย ๆ ก็ตายอีกรอบได้เหรอ แล้วทำไมมันมีแต่ควันขาว ๆ ไม่เห็นมีใครมารับเหมือนในละครล่ะ”

“เจ้ายังไม่ตายอีกรอบจะให้ยมทูตมารับไปได้อย่างไร พวกข้า

อยู่ด้านหลังของเจ้าต่างหากนางหนู” เทพจันทราตอบคำถามของหยก

ที่ยืนบ่นโดยหันหน้าไปอีกด้าน

“หืม เฮ้ยยย!! มะ มะ มาไงล่ะเนี่ยแล้วแต่งตัวอะไรแปลก ๆ

กำลังถ่ายซีรี่ย์เรื่องไหนกันอยู่อ่ะคุณลุง พระเอกหล่อป่ะแล้วทีมงาน

ซ่อนอยู่ตรงไหนพาหนูไปดูเบื้องหลังด้วยคนสิได้ไหมคะ” หยกที่เห็นคนแต่งกายชุดจีนโบราณ ก็คิดว่ากำลังถ่ายทำซีรี่ย์กันอยู่

“โป๊ก! อูย เจ็บ ๆ ๆ”

“เจ็บก็ดีผีเจาะปากมาพูดแท้ ๆ เอาล่ะเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน

ข้าเทพชะตาส่วนอีกคนคือเทพจันทราสหายข้าเอง เรื่องที่ดวงวิญญาณของเจ้ามาเข้าร่างของเด็กสาวคนนี้ คงต้องขออภัยเจ้าจริง ๆ เป็นความผิดของข้าเองที่ไม่มีสติมากพอ จึงทำให้เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ ทั้งที่เจ้าไม่อยากเป็นเด็กกำพร้าแต่พอได้ร่างใหม่ก็ยังเป็นเด็กกำพร้าอยู่ดี”

“หึ ก็ใช่น่ะสิใครจะอยากเกิดมาลำบากอดมื้อกินมื้อกันเล่า”

“ฟังให้จบก่อนสินางหนู ประเดี๋ยวก็ทำให้เป็นใบ้ชั่วคราวเสียนี่

เอาล่ะตั้งใจฟังให้ดี แม้ร่างที่เจ้ามาเกิดใหม่ตอนนี้จะเป็นเด็กกำพร้า

แต่ความเป็นจริงแล้วบิดามารดาของร่างนี้ยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจาก

เคราะห์กรรมที่เคยทำไว้ จำต้องถูกคนวางแผนทำร้าย ยังดีที่ยายแก่นั่น

สงสาร จึงพาเจ้าหนีมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ส่วนรายละเอียดทั้งหมด

เจ้าก็ไปถามกับยายแก่ที่บ้านเองเถิด คาดว่านางจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้วล่ะ” เทพชะตาเล่าเรื่องราวให้หยกได้รู้เพียงเล็กน้อย

“เพราะพวกข้าสองคนทำให้เจ้าต้องมาลำบากอีกครั้ง จึงมีพร

ให้เจ้าขอได้สามข้อลองนึกดูดี ๆ สิ่งที่เจ้าอยากมีไว้เพื่อดูแลตนเอง

และสามารถนำมันไปช่วยเหลือผู้อื่นที่ลำบาก มีอะไรที่อยากได้บ้าง

เรื่องภาษาของโลกนี้อย่าได้กังวล เจ้าเข้าใจและพูดได้ตั้งแต่เข้ามาอยู่

ในร่างนี้แล้วล่ะ” เทพจันทราถามความต้องการของหยก

“อืม อย่างแรกต้องเกี่ยวกับปากท้อง ซึ่งมันสำคัญมากที่สุด

ในยุคโบราณเช่นนี้ ขอมิติตลาดครอบจักรวาลของโลกเดิม เป็นพร

ข้อแรกค่ะ ส่วนข้อที่สองนั้นขอเป็นความสามารถในการทำนายดวงชะตา เพียงแค่เพ่งกระแสจิตหรือสัมผัสแค่ปลายนิ้ว ก็มองเห็นทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคตของคนที่ต้องการช่วยเหลือ และคนชั่วที่ต้องได้รับโทษเท่านั้น ส่วนข้อสุดท้ายเทพจันทรามีหน้าที่ผูกด้ายแดงใช่ไหมคะ”

“อืม ใช่นั่นคือหน้าที่หลักของข้าเจ้าถามทำไมรึ?”

“เช่นนั้นพรข้อที่สาม ขอเนื้อคู่ที่รักหนูแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น

ไม่เกรงกลัวอันตรายไม่ว่าคนผู้นั้นจะตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหน

ขอคนหน้าตาหล่อเหลาฐานะร่ำรวย สายเปย์ด้วยยิ่งดีได้ไหมคะท่านเทพ”

“เรื่องแค่นี้เองน่ะหรือ ได้! เนื้อคู่ของเจ้าเป็นไปตามที่เจ้าต้องการ

แต่จะได้พบพานเมื่อใดนั้น ข้าไม่อาจบอกกับเจ้าได้หวังว่าจะเข้าใจนะ”

แต่เทพจันทราที่ลงมือผูกด้ายแดงกลับไม่ได้มองว่า เส้นด้ายเนื้อคู่

ที่มอบให้กับหยกนั้น เป็นบุรุษที่มีนิสัยยิ่งกว่าที่นางร้องขอเสียอีก

“แล้วของท่านเทพชะตาล่ะคะจะให้เป็นแบบไหนดี”

“พรึ่บ!! มิติตลาดครอบจักรวาลของเจ้าอยู่ในปานดอกอิงฮวา

หลังใบหูข้างซ้าย ส่วนการทำนายดวงชะตาก็ทำเช่นที่เคยทำ และจะไม่กินพลังชีวิตของเจ้า การช่วยเหลือคนคือการทำความดีคนไหนควรเก็บเงิน

ก็เก็บ เรื่องนี้ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเข้าใจได้ง่ายอยู่กระมัง”

“ขอบคุณท่านเทพทั้งสองมาก ขอให้พวกท่านมีพลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้นอีกหลายพันปีนะคะ สิ่งใดที่เคยพูดจาก้าวล่วงเกินไป ขอให้เป็นโมฆะเสีย ส่วนเรื่องของคนที่คิดร้ายกับเจ้าของร่างจะต้องแก้แค้นเจ้าค่ะ แต่การลงโทษจะมาจากน้ำมือของผู้ใช้กฎหมายของแคว้นเท่านั้น

หากไม่มีใครคิดจะสังหารร่างนี้ หนูสัญญาว่าจะไม่ฆ่าใครเช่นกันค่ะ”

“อืม พวกข้ารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กดี และซื่อตรงกับความต้องการ

ของตนเอง เอาล่ะได้เวลาพวกข้าต้องกลับขึ้นไปทำหน้าที่แล้ว เจ้าเอง

ก็จงเดินทางปลอดภัยจัดการปัญหาต่าง ๆ อย่างไร้อุปสรรคเถิด”

“ขอบคุณท่านเทพทั้งสองมากค่ะ”

วูบ..!

หลังจากท่านเทพทั้งสองกลับขึ้นสวรรค์ หยกในร่างของ ‘อวี้จิ่น’

ชื่อที่หมอตำแยตั้งให้กับเจ้าของร่าง เมื่อลืมตาและตั้งสติได้อีกครั้ง

จึงสะพายตะกร้าลงจากเขา เพื่อกลับไปดูแลยายเฒ่าลิ่วที่เลี้ยงดู

นางมาตั้งแต่แบเบาะ ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรที่ใช้เป็นยารักษาคนหรือใช้

เพื่อฆ่าคน ยายเฒ่าลิ่วก็สอนให้กับอวี้จิ่นจนหมด ด้วยหวังว่าวันใดที่ตน

หมดลมหายใจ อวี้จิ่นสามารถใช้ความรู้เหล่านี้ทำงานหาเลี้ยงตนเองได้

“แฮ่ก ๆ ๆ โอย ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ แค่เดินลงจากเขานะ

หรือจะเป็นเพราะยังไม่ชินกับรูปร่างของคนยุคโบราณแน่ ๆ”

“อวี้จิ่น!”

“หืม ท่านป้าจูทำไมมาถึงเชิงเขาได้ล่ะเจ้าคะ”

“ป้าก็มาตามเจ้าน่ะสิอวี้จิ่น ลงมาจากเขาเสียทีรีบกลับบ้านไปดูยายเฒ่าลิ่วเถิด ท่าทางจะทนไม่ไหวกับอาการป่วยที่เป็นแล้วล่ะ”

นางจูที่อยู่บ้านติดกันกับอวี้จิ่น อาสามาตามหานาง เนื่องจากในยามนี้

ยายเฒ่าลิ่วอาการป่วยกำเริบหนักกว่าเดิม จนทุกคนที่มาเยี่ยมต่างคิด

เหมือนกันว่านางคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว

“ท่านยายอาการกำเริบหรือเจ้าคะท่านป้าจู เช่นนั้นข้าขอตัว

วิ่งกลับบ้านก่อนนะเจ้าคะ ท่านป้าไม่ต้องรีบค่อย ๆ เดินกลับเข้าหมู่บ้าน

ก็ได้เจ้าค่ะ” อวี้จิ่นไม่ลืมเป็นห่วงป้าข้างบ้านอย่างนางจู

เมื่อมาถึงบ้านหลังเก่า ๆ และมีคนในหมู่บ้านยืนอยู่ จึงแหวกทางเข้าไปดูอาการคนที่กำลังป่วยหนัก ชาวบ้านที่มาเยี่ยมทยอย

เดินออกมาเพื่อให้ทั้งสองได้พูดคุยกัน ซึ่งครั้งนี้ยายเฒ่าลิ่วยอมเปิดปากบอกความจริงกับอวี้จิ่น พร้อมมอบหยกรูปกุญแจอายุยืนให้กับนาง

ไว้ใช้เป็นหลักฐาน หากเดินทางไปตามหาบิดามารดาในเมืองหลวง

“ท่านยายเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ท่านอดทนอีกนิดเถิด

วันนี้ข้าหาสมุนไพรได้เยอะกว่าทุกครั้ง จะไปแลกยามาให้ท่านนะเจ้าคะ”

“แค่ก ๆ ๆ อวี้จิ่นอย่าเสียเวลารักษายายแก่อย่างข้าอีกเลย

เจ้าหยิบกล่องไม้เล็ก ๆ ที่อยู่ในตู้เก็บของมาให้ข้าที”

“นี่เจ้าค่ะท่านยาย”

“อวี้จิ่น แค่ก ๆ ๆ กุญแจหยกอายุยืนนี้ เจ้าจงเก็บเอาไว้ให้ดี

อย่าได้ทำมันหายเป็นอันขาดเข้าใจหรือไม่ แค่ก ๆ ๆ”

“ทำไมท่านยายถึงให้ข้าเก็บเอาไว้ล่ะเจ้าคะ มันดูมีราคาแพงมากท่านยายไม่มอบให้กับญาติพี่น้องของท่านเล่า”

อวี้จิ่นยังไม่เข้ามากนัก ว่าเจ้ากุญแจหยกอายุยืนนี้ เกี่ยวข้อง

กับนางในด้านไหน จนกระทั่งยายเฒ่าลิ่ววางมันลงในมือของนาง

ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ในจวนหลังใหญ่ ก็ปรากฏขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

“นะ นะ นี่มันเรื่องอะไรกัน”

“อวี้จิ่นความจริงแล้ว เจ้าคือบุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่

ของแคว้นจ้าว หรือก็คือแม่ทัพเจียงซื่อกุ่ย แต่ยามนั้นเพราะข้าเห็นแก่เงินเล็กน้อย ถึงได้ยอมทำตามคำสั่งของฮูหยินนายท่านรองตระกูลเจียง

ที่ได้คลอดบุตรสาวในเวลาไล่เลี่ยกันกับเจ้า และนางต้องการให้บุตรสาว

เป็นคุณหนูเพียงคนเดียวของตระกูลเจียง เพื่อในวันหน้าจะได้เกี่ยวดอง

กับเชื้อพระวงศ์ของแคว้น อันที่จริงฮูหยินของนายท่านรอง สั่งให้ข้า

กำจัดเจ้าไปเสีย” ยายเฒ่าลิ่วเล่าออกมาด้วยความรู้สึกผิด

“แล้วทำไมท่านถึงไม่ทำตามคำสั่งของนางล่ะเจ้าคะ นอกจาก

จะไม่กำจัดข้า ยังเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้เติบโตจนถึงทุกวันนี้” อวี้จิ่นได้ฟังมาถึงตรงนี้ก็อยากทราบเหตุผล ที่ยายเฒ่าลิ่วไม่ลงมือกำขัดนาง

ตามที่ฮูหยินยองนายท่านรองนั่นสั่งไปเสีย

“แค่ก ๆ ๆ คงเพราะเสียงร้องไห้ของเจ้ากระมัง ที่เรียกสติให้ข้า

รู้สำนึกกับสิ่งที่ทำลงไปในยามนั้น อวี้จิ่นหากเจ้าต้องการไปพบบิดา

ของเจ้าที่เมืองหลวง จะ จะ จงระวังตัวให้มาก เพราะบ้านรองตระกูลเจียง

ล้วนจิตใจคับแคบและเหี้ยมโหดอย่างเงียบ ๆ ถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว

อวี้จิ่นรักษาตัวด้วยคุณหนูจะ..ตุบ” ยายเฒ่าลิ่วตายตาหลับเมื่อได้บอก

สิ่งที่นางเก็บไว้มาตลอดสิบกว่าปี

“ท่านยาย! ฮึก ข้าเพิ่งจะมาอยู่ในโลกนี้แท้ ๆ ต้องกลับไปมีชีวิต

ที่โดดเดี่ยวอีกแล้วหรือ ฮึก ๆ ขอบคุณที่ท่านไม่กำจัดข้าในวันนั้น ส่วนเรื่องครอบครัวตระกูลเจียงข้าย่อมไปตามหา และเอาตัวคนชั่วส่งทางการ

ให้ได้รับโทษแน่นอนเจ้าค่ะ ขอให้ท่านยายไปสู่สุคตินะเจ้าคะ”

อวี้จิ่นก้มคำนับทำความเคารพยายเฒ่าลิ่ว เพื่อขอบคุณที่ดูแลนางมาสิบกว่าปี ชาวบ้านที่ยังรออยู่ด้านนอก เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้

ของอวี้จิ่น ก็รู้แล้วว่ายายเฒ่าลิ่วได้จากไปอย่างสงบ ทุกคนจึงช่วยเตรียมงานศพตามพิธีอย่างเรียบง่าย เนื่องจากพวกเขามิได้มีเงินทองมากนัก เพียงแค่หนึ่งวันก็ทำพิธีฝังร่างของยายเฒ่าลิ่วไว้ที่สุสานของหมู่บ้านแห่งนี้

ภายหลังเสร็จสิ้นงานศพ อวี้จิ่นได้ตัดสินใจจะเดินทาง

เข้าเมืองหลวง ซึ่งระยะทางไกลนับพันลี้ นางคิดว่าจะเดินทางไปทีละเมืองเผื่อจะมีลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ แม้เรื่องอาหารจะไม่ต้องกังวล

ก็ตาม แต่อย่างไรมีเงินติดตัวไว้ย่อมสบายใจกว่า เพียงแค่การเดินทาง

ถึงเมืองแรกอวี้จิ่นก็ได้ใช้ความสามารถที่มีของตนหาเงินทันที

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status