Home / โรแมนติก / แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ / ตอนที่ 10 เมืองหลวงรอข้าก่อนเถิด

Share

ตอนที่ 10 เมืองหลวงรอข้าก่อนเถิด

last update Last Updated: 2024-11-07 13:18:52

ตระกูลเจียงสายหลักและสายรองในเมืองหลวง กำลังต่อสู้กันอยู่อย่างเงียบ ๆ มีเพียงคนที่เป็นสหายเท่านั้น ที่รับรู้ว่าสองพี่น้องต่างแม่เกลียดกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร คนที่เป็นฝ่ายชนะมักจะเป็นแม่ทัพใหญ่อยู่เสมอ

ทางด้านเมืองเฉียนโจว นายกองจั๋วได้เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือเวลาอีกหนึ่งวัน ฟู่หลงเหยียนจะนำตัวนักโทษออกเดินทางเสียที แต่ในต้นยามเฉินฟู่หลงเหยียนก็ได้รับจดหมายจากจิ้งโม่

“นายน้อยขอรับจดหมายจากจิ้งโม่น่าจะเพิ่งมาถึง คงเกี่ยวกับเรื่องของคุณหนูอวี้จิ่นนะขอรับ” เฉินอิ่นนำจดหมายออกจากขานกพิราบ ที่บินมาจากเมืองหลวงมอบให้เจ้านายของเขา

“อืม ขอบใจ”

ฟู่หลงเหยียนรับจดหมายมาเปิดอ่านที่เขียนมาสั้น ๆ แต่สามารถเข้าใจความหมายที่จิ้งโม่บอกมาเป็นอย่างดี

‘ตระกูลเจียง คาดว่าทารกถูกสับเปลี่ยนและเป็นแผนร้ายของตระกูลสายรอง สหายของนายน้อยกำลังเดินทางไปสมทบ’

“หึ นางเป็นบุตรสาวของตระกูลนี้จริง ๆ สินะ” เมื่อได้รับการยืนยันจากข่าวของจิ้งโม่ ฟู่หลงเหยียนจึงมั่นใจเต็มส่วน ว่าอวี้จิ่นคือบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่ บิดาของสหายของตนอย่างเจียงหยวน

“เอ่อ นายน้อยข่าวของจิ้งโม่ว่าอย่างไรบ้างหรือขอรับ เจอตระกูลครอบครัวของคุณหนูอวี้จิ่นหรือไม่ขอรับ” ตงลู่เป็นหน่วยกล้าตายเอ่ยถามเรื่องอวีจิ้นกับฟู่หลงเหยียน

“อืม จิ้งโม่สืบได้แล้วว่า ตระกูลที่ยังใช้หยกทำกุญแจอายุยืน มีเพียงตระกูลเจียงของแม่ทัพใหญ่เจียงซือกุ่ยเท่านั้น” ฟู่หลงเหยียนไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องนี้กับคนสนิท

“ห๊ะ!!/ตระกูลเจียง!!/แม่ทัพใหญ่!!” คนสนิททั้งสามตกใจกับตระกูลของอวี้จิ่น นั่นทำให้รู้ว่าเจ้านายของตนกำลังอยากได้ลูกเสือ แล้วเสือสองตัวของจวนนี้ก็ดุทั้งพ่อทั้งลูกเสียด้วย

“นะ นะ นายน้อยขอรับ หากส่งคุณหนูเข้าจวนตระกูลเจียงแล้ว นั่นหมายความว่าท่านส่งลูกเสือให้พ่อเสือกับพี่ชาย ที่น่าจะหวงคุณหนูเอาเรื่องอยู่ไม่น้อยเชียวนะขอรับ หากจะพบเจอตัวอย่างทุกวันนี้คงไม่ง่ายอีกแล้ว” เฉินอิ่นกล้าพูดได้เต็มปากว่าแม่ทัพใหญ่เจียง และบุตรชายเป็นเสือที่ดุและหวงอาณาเขตของตนเป็นอย่างยิ่ง

“หึ ๆ ๆ แล้วอย่างไร ในเมื่อข้าจับจองนางเอาไว้แล้ว หากนางอยู่ในความดูแลของแม่ทัพใหญ่และเจียงหยวน ข้าเชื่อว่าจิ่นเอ๋อร์ไม่มีวันได้รับสมรสพระราชทานอย่างแน่นอน” ฟู่หลงเหยียนพูดอย่างมั่นใจ เพราะในมือของแม่ทัพใหญ่ มีราชโองการจากฮ่องเต้เรื่องการเลือกคู่ครองไม่ว่าจะเป็นบุตรชายหรือบุตรสาว

“อ้อ บ่าวเข้าใจแล้วว่าเหตุใดนายน้อยถึงไม่กลัดกลุ้มเช่นนี้ หากมีตระกูลขุนนางที่แบ่งพรรคแบ่งพวก อยู่กับองค์ชายทั้งหลาย คิดจะสู่ขอนางไปเป็นสะใภ้ละก็ ฮ่องเต้ย่อมเพ่งเล็กพวกเขาทันที เพราะแม่ทัพใหญ่มีทหารอยู่ในมือหลายแสนนาย แต่นายน้อยย่อมเข้าออกจวนนี้อย่างง่ายดาย เนื่องจากท่านเป็นสหายกับรองแม่ทัพเจียงนี่เอง”

ขณะที่กลางห้องรับแขกบุรุษร่างสูงใหญ่ทั้งสี่ กำลังพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับอวี้จิ่น ไม่ทันไรเสียงของเจ้าของชื่อ ก็ดังอยู่ด้านหลังจนตงลู่ยังตกใจ ยกเว้นฟู่หลงเหยียนที่ชอบฟังเสียงของอวี้จิ่นมากกว่าใคร

“เฮ้!! นี่พวกท่านน่ะ!!”

“เฮือก!!”

“แอบมานั่งคุยกันอยู่ที่นี่เอง ข้าเรียกหาอยู่ตั้งนานแต่ไม่มีใครได้ยินเสียง ตกลงพวกท่านจะทานข้าวหรือไม่ หากไม่ทานข้าจะเอาไปแจกจ่ายให้ขอทานแล้วนะเจ้าคะ ฮึ่ย!” อวี้จิ่นทำอาหารเสร็จไปหลายจาน พอเรียกหาคนช่วยยกอาหาร กลับไม่มีใครตอบรับนางเลยสักคนจึงเดินตามหามาถึงที่นี่

“อย่าทำเช่นนั้นเลยนะขอรับคุณหนูอวี้จิ่น พวกข้าขออภัยที่มาอยู่ในห้องนี้ จนลืมว่าท่านกำลังทำอาหารอยู่เชิญท่านมานั่งพักจะดีกว่า เรื่องยกอาหารปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าสามคนเองขอรับ” ตงลู่ไม่มีทางยอมให้อวี้จิ่นทำเช่นที่พูดแน่ เขารีบขอโทษก่อนใคร

"จิ่นเอ๋อร์มานั่งเถิด ที่เหลือให้ทั้งสามคนจัดการแทนเจ้าเอง ตื่นมาทำอาหารมากมายตั้งแต่เช้าเพียงลำพัง ตัวหรือก็แค่นี้แต่กลับมีแรงเยอะเสียจริงนะ” ฟู่หลงเหยียนเรียกอวิ้จิ่นให้มานั่งกับตน ส่วนสายตาหันไปออกคำสั่งให้คนสนิทรีบไปยกอาหาร เมื่อเจอสายตาดุร้ายของเจ้านายทั้งสามคน จึงแย่งกันวิ่งออกไปจากห้องรับแขกอย่างรวดเร็ว

“เฮ้อ รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันนะเจ้าคะ ข้าไม่เคยเดินทางไกลมาก่อน ยิ่งเป็นเมืองหลวงที่มีฮ่องเต้กับพวกขุนนางใหญ่ ๆ แล้วจวนของพี่ชายฟู่อยู่ที่นั่นด้วยหรือไม่เจ้าคะ” อวี้จิ่นรู้แค่ว่าฟู่หลงเหยียนเป็นขุนนาง แต่ยังไม่รู้ว่าเขามีครอบครัวอยู่ที่ไหน

“อืม จวนตระกูลฟู่ย่อมอยู่ในเมืองหลวงที่กว้างใหญ่ เรื่องที่เจ้าจะเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อตามหาครอบครัวนั้น หากไปถึงที่นั่นเจ้ามีแผนจะตามหาพวกเขาเช่นไรหรือจิ่นเอ๋อร์ ที่พี่ถามมิได้มีเจตนาอื่นแต่ในเมืองหลวงคนชั่วในคราบคนดีมีอยู่มาก พี่ไม่อยากให้เจ้าถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือเท่านั้น” ฟู่หลงเหยียนยังไม่พูดถึงเรื่องตระกูลเจียง

“วิธีตามหาไม่มีหรอกเจ้าค่ะ เพราะมีเพียงจวนของตระกูลเจียง ที่ข้าต้องไปพบเจ้าของจวนแห่งนั้นให้ได้ และยังมีเรื่องต้องสะสางอีกเล็กน้อย แต่การที่ข้ารู้ว่าต้องไปที่ตระกูลเจียงได้อย่างไร คงต้องขอปิดไว้ก่อนนะ ไม่ทราบว่าพี่ชายฟู่ถามเรื่องนี้ไปทำไมหรือเจ้าคะ” อวี้จิ่นรู้ตั้งแต่เห็นภาพนิมิตทั้งหมดจากยายเฒ่าลิ่วแล้ว นางแค่ยังไม่แน่ใจว่าคนในครอบครัวยังต้องการนางอยู่หรือไม่

“ถ้าพี่บอกกับจิ่นเอ๋อร์ว่า เรื่องของเจ้ารู้ถึงหูของทุกคนแล้ว ยามนี้พี่ชายของเจ้ากำลังเร่งเดินทางมาเพื่อพบกับเจ้าล่ะ เพราะพี่เป็นสหายกับพี่ชายของเจ้า เชื่อที่พี่พูดมาหรือไม่เล่า” เมื่ออวี้จิ่นพูดถึงเพียงนี้เขาไม่จำเป็นต้องปกปิดอันใดอีก มิสู้บอกเล่าให้นางได้รู้และเตรียมตัวเตรียมใจพบเจอคนในครอบครัวไว้แต่เนิ่น ๆ มิดีกว่าหรือ

“ท่านว่าอะไรนะ!! พวกเขารู้การมีอยู่ของข้าแล้วงั้นหรือ มิหนำซ้ำพี่ชายของข้ากำลังเร่งเดินทางมาพบกับพวกเรา หากเป็นเช่นที่พี่ชายฟู่พูดมา ก็หมายความว่าพวกเขาดีใจ และยินดีต้อนรับบุตรสาวคนนี้กลับเข้าตระกูลใช่ไหมเจ้าคะ” อวี้จิ่นไม่คิดว่าฟู่หลงเหยียนจะส่งข่าวเรื่องของนางไปเมืองหลวงตั้งนานแล้ว

“แน่นอนว่าทุกคนย่อมยินดีและรอคอยต้อนรับเจ้า ต่อไปเจ้าก็มีแซ่ให้ใช้เหมือนคนอื่นแล้วนะจิ่นเอ๋อร์ แต่แซ่ของเจ้าอาจเรียกความสนใจจากเชื้อพระวงศ์ หรือพวกขุนนางที่อยากได้เจ้าไปเป็นสะใภ้ของตระกูล เพื่อหวังอำนาจทางการทหารของบิดาเจ้าอย่างแม่ทัพใหญ่เจียงซือกุ่ย” เขาจำไม่ได้แล้วว่าชื่อของนางที่เจียงหยวนเคยพูดถึงคือชื่ออะไร

“เย้ ๆ ถ้าพวกเขายินดีต้อนรับข้า นั่นเป็นข่าวดีที่สุดเลยเจ้าค่ะ และข้าก็ไม่ใช่เด็กกำพร้าอีกต่อไป ส่วนเรื่องขุนนางหรือว่าเชื้อพระวงศ์อะไรนั่นข้าไม่สนใจหรอกเจ้าค่ะ เรื่องชีวิตส่วนตัวของข้าใครก็ไม่มีสิทธิ์มากำหนดได้ ถ้ามีใครกล้ามาวุ่นวายเรื่องนี้ละก็ จะให้ท่านพ่อสั่งสอนเสียให้เข็ดหรือมีคนคิดจะมารังแกข้า พี่ชายฟู่ช่วยจัดการไม่ได้หรือเจ้าคะ”

แรก ๆ ก็ดูห้าวหาญอยู่หรอก แต่ตอนท้ายหันไปทำตัวน่าสงสารกับฟู่หลงเหยียนอีก นางช่างไม่รู้อะไรเสียแล้วถึงนางจะไม่พูดฟู่หลงเหยียน จะยอมปล่อยคนพวกนั้นทำให้นางขุ่นเคืองใจได้อย่างไร ยิ่งหน้าตาท่าทางออดอ้อนของนาง ทำให้ใจของฟู่หลงเหยียนละลายไปหมดแล้วยามนี้

“จิ่นเอ๋อร์อย่าห่วงเลย คนที่คิดไม่ดีกับเจ้าพี่จะจัดการพวกมันเอง”

“ขอบคุณพี่ชายฟู่นะเจ้าคะ ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านไม่มีทางปล่อยคนชั่วไว้แน่ อ้อ ท่านบอกว่าท่านเป็นสหายกับพี่ชายของข้าใช่ไหมเจ้าคะ” อวี้จิ่นไม่ได้คิดว่าคำพูดของฟู่หลงเหยียนนั้น คือการกำจัดทุกคนที่คิดไม่ดีกับนางต่างหาก มิใช่การผดุงความยุติธรรม กำจัดคนชั่วตามกฎหมายเสียเมื่อไหร่กัน

“ใช่พี่กับเจียงหยวนเป็นสหายกันมาตั้งแต่เด็ก จิ่นเอ๋อร์ถามถึงเรื่องนี้เจ้าอยากรู้อะไรก็ถามมาเถิด พี่ย่อมตอบคำถามของเจ้าทุกข้ออยู่แล้ว” แม้แต่เรื่องส่วนตัวของเขา หากนางต้องการรู้ฟู่หลงเหยียนยินดีเล่าให้นางฟัง

แต่ก่อนที่อวี้จิ่นจะตอบตงลู่ได้ส่งเสียงเพื่อเชิญทั้งสองคน ไปรับอาหารเช้ายังห้องด้านข้างดังขึ้นเสียก่อน จึงต้องหยุดเรื่องที่คุยไว้เพียงแค่นั้น

“ก๊อก ๆ ๆ นายน้อยขอรับคุณหนูอวี้จิ่น อาหารถูกยกขึ้นโต๊ะพร้อมแล้วเชิญรับอาหารเช้าเถิดขอรับ”

“ขอบคุณเจ้าค่ะน้าตงลู่ พี่ชายฟู่ไปทานอาหารกันเถิดเจ้าค่ะ เรื่องพี่ชายไว้ท่านค่อยเล่าให้ฟังระหว่างเดินทางก็ได้ เพราะข้าอยากรู้เกี่ยวกับทุกคนในครอบครัว มิใช่แค่พี่ชายเพียงคนเดียวเจ้าค่ะ” ยังมีเวลาอีกมากที่นางจะทำความเข้าใจกับนิสัยของคนในครอบครัว

“ได้สิพี่แล้วแต่จิ่นเอ๋อร์” เมื่ออวี้จิ่นอยากรู้เรื่องคนในครอบครัว ฟู่หลงเหยียนย่อมเล่าให้ฟัง ถือว่านี่เป็นการใช้เวลากับนางอีกรูปแบบหนึ่ง

ปลายยามโหย่วของวันต่อมา ก็ถึงวันต้องออกเดินทางกันแล้ว อวี้จิ่นฉวยโอกาสตื่นก่อนทุกคนในยามอิ๋น เพื่อจะเอาซาลาเปาออกมาโดยนางจะบอกกับฟู่หลงเหยียนว่าทำไว้เป็นมื้อเช้า เผื่อว่ามีใครรู้สึกหิวระหว่างทางจะได้มีเจ้าซาลาเปาไว้กินรองท้อง ที่สำคัญนางเตรียมไว้เยอะพอสมควร เพราะคำนวณจากรูปร่างของพวกเขา แค่สองลูกคงไม่อิ่มจึงหยิบออกมาจนลืมนับว่ามีจำนวนกี่ลูก

ตงลู่และอู๋จิ้งเดินตามกลิ่นหอม ของเนื้อในซาลาเปามาจากห้องครัว ยังไม่ทันจะเอ่ยถามทั้งสองคนก็ถูกอวี้จิ่นไหว้วาน ให้เก็บซาลาเปาที่นึ่งเสร็จ ใส่กล่องไม้และนำผ้ามาคลุมไว้ก่อนจะปิดฝาให้มิดชิด ก่อนจะยกออกไปด้านหน้าจวน ที่ยามนี้ฟู่หลงเหยียนกำลังตรวจดูรถม้าขนาดกลาง เขาเตรียมมันไว้ให้กับอวี้จิ่นด้านในยังสั่งให้ปูฟูกหนา เผื่อว่านางเกิดง่วงนอนก็สามารถนอนพักได้ทันที ความเอาใจใส่นี้ทำให้อวี้จิ่นยิ่งรู้สึกปลาบปลื้มร่างสูงขึ้นไปอีก

ส่วนขบวนนักโทษและทรัพย์สินที่ยึดมาทั้งหมด นายกองจั๋วจัดการได้เรียบร้อย พร้อมคัดเลือกทหารฝีมือดี ติดตามคุ้มกันขบวนจนกว่าจะถึงเมืองหลวงเนื่องจากทรัพย์สินมีมากเหลือเกิน

“ขอบใจนายกองจั๋วมากที่ช่วยจัดการได้เป็นอย่างดี รวมถึงกำลังทหารบางส่วน ที่ต้องติดตามข้าไปเมืองหลวง อย่างไรเสียทางนี้จะขาดคนดูแลไม่ได้ รบกวนฝากเมืองเฉียนโจวและชาวบ้านทุกคน ให้นายกองจั๋วดูแลระหว่างรอการแต่งตั้งเจ้าเมืองคนใหม่ก็แล้วกัน”

“ใต้เท้าฟู่โปรดวางใจ ทางนี้ข้าน้อยจะช่วยดูแลทุกคนให้อยู่ในกฎหมาย หากมีการแต่งตั้งเจ้าเมืองคนใหม่ขอเป็นคนดีและซื่อสัตย์นะขอรับ” หากเป็นเหมือนเดิมเขาคงทนไม่ไหวอีกแน่

“อืม ครั้งนี้ข้าจะเป็นคนเสนอต่อฝ่าบาทเอง นายกองจั๋ววางใจเถิด เอาล่ะข้าต้องออกเดินทางแล้ว ไม่อาจเสียเวลาไปมากกว่านี้ขอตัวก่อน” ฟู่หลงเหยียนต้องเร่งเดินทาง เพราะกังวลทั้งเรื่องนักโทษและเงินทองที่มากมายนั่น

“ขอให้ใต้เท้าและทุกคนเดินทางปลอดภัยขอรับ” นายกองจั๋วได้แต่ภาวนาขอให้คนที่ฟู่หลงเหยียนส่งมา อย่าเป็นอย่างคนเก่าอีกเลยไม่เช่นนั้นตัวเขาเองคงต้องลาออกกลับบ้านเดิมแทน

“ออกเดินทางได้”

“ขอรับ!”

เมื่อขบวนเดินทางเคลื่อนตัวออกจากเมืองเฉียนโจว สองข้าทางมีชาวบ้านมากมาย ที่ในมือมีทั้งผักเน่าแม้แต่ก้อนหินก็ยังมี พวกเขาปาไปยังนักโทษทั้งหลาย ที่ไม่อาจปัดป้องสิ่งที่ปามาจึงบาดเจ็บกันไปเล็กน้อย ถึงจะพ้นประตูเมืองมาแล้วยังไม่วายมีเสียงสาปแช่งตามมาไม่ขาด

ระหว่างเดินทางฟู่หลงเหยียนไม่ลืมเล่าเรื่องตระกูลเจียง ตามที่ได้รับปากกับอวี้จิ่นเอาไว้ทุกครั้ง ที่แวะพักค้างแรมกลางป่าเขา นอกจากอาหารที่นางเตรียมไว้สำหรับคนแล้ว ยังมีผักให้เสี่ยวเฟิงซึ่งฟู่หลงเหยียนรู้สึกว่าม้าของตน จะถูกใจผักของอวี้จิ่นเป็นพิเศษ ถึงกับคิดว่าเจ้าเสี่ยวเฟิงกำลังอยากจะเปลี่ยนเจ้านาย จากตนเองไปเป็นอวี้จิ่นแทนเสียแล้ว

หลังจากเดินทางมาผ่านมาได้สองเมือง ใช้เวลาเกือบยี่สิบวัน เนื่องจากเป็นขบวนใหญ่จึงฝืนใช้ความเร็วมากไม่ได้ มิเช่นนั้นสัตว์ที่เทียมเกวียนอย่างวัวคงจะตายก่อนเป็นแน่ จนมาถึงเมืองซวนเหอ ซึ่งที่เมืองนี้อวี้จิ่นอยากจะเข้าไปเดินเล่นเพื่อผ่อนคลาย หลังจากนั่งอยู่ในรถม้ามาตลอดทางจนเบื่อ

“พี่ชายฟู่เจ้าคะเรามาถึงเขตเมืองซวนเหอและต้องพักที่นี่ ท่านช่วยพาข้าเข้าไปในเมืองได้หรือไม่เจ้าคะ” อวี้จิ่นที่พึ่งนึกขึ้นได้ว่า อยากหาของขวัญที่เหมาะกับคนในครอบครัว ติดมือไปด้วยสักเล็กน้อยจึงอยากไปดูที่ร้านเครื่องประดับเผื่อจะมีลายใหม่ ๆ มาขายบ้าง

“เจ้าคงจะเบื่อที่ต้องอุดอู้อยู่ในรถม้าใช่หรือไม่เล่า ยังพอมีเวลาอีกมาก พี่จะพาจิ่นเอ๋อร์ไปเดินเล่นในเมืองก็แล้วกัน แต่พวกเราคงต้องขี่เจ้าเสี่ยวเฟิงไปจะได้ถึงที่นั่นเร็วกว่านั่งรถม้านะ” ฟู่หลงเหยียนพูดเหมือนไม่มีอะไร แต่คนสนิทคิดไปไกลแล้ว เพราะรู้สึกว่าเจ้านายจะชื่นชอบยามมีอวี้จิ่นอยู่ใกล้ ๆ

“เจ้าค่ะ เสี่ยวเฟิงพาข้าไปในเมืองหน่อยนะ แล้วจะมีผักแสนอร่อยเป็นรางวัลให้เจ้าเยอะ ๆ เลย” อวี้จิ่นลูบที่แผงคอของเสี่ยวเฟิงเบา ๆ พร้อมกับติดสินบนเป็นผักในมิติของตนกับเจ้าเสี่ยวเฟิง

“ฮี้ ๆ ๆ”

 “ไปกันเถิด เฉินอิ่นเจ้าตามข้ากับจิ่นเอ๋อร์เข้าเมือง ส่วนพวกเจ้าสองคนคอยดูแลจัดการที่นี่ให้ดี ข้าไปในเมืองไม่นานแล้วจะรีบกลับมา” ฟู่หลงเหยียนไม่ลืมกำชับเรื่องงาน กับคนสนิทอีกสองคนอย่างตงลู่กับอู๋จิ้ง

“ขอรับนายน้อย”

“ท่านน้าทั้งสองทำงานให้ดีเล่าไว้ข้าจะซื้อของกินอร่อย ๆ จากในเมืองมาฝากนะเจ้าคะ”

“ขอบคุณหนูอวี้จิ่นขอรับ” ทั้งสองคนรับคำเสียงอ่อย เพราะไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ยังไม่ชินเสียที เมื่อคำว่าน้าออกมาจากปากของอวี้จิ่นมันช่างทำให้จิตใจห่อเหี่ยว พาลคิดว่าตนเองเป็นคนมีอายุไปเสียแล้ว

แต่อวี้จิ่นยังไม่รู้ว่าในเมืองซวนเหอแห่งนี้ มีเหตุการณ์บางอย่างที่จะทำให้นางโมโห จนลงมือทุบตีทำร้ายร่างกายคน เพราะไม่สามารถรับเรื่องที่สะเทือนใจเช่นนั้นได้ แม้แต่ฟู่หลงเหยียนและเฉินอิ่นยังรั้งตัวนางไว้ไม่ทัน จากเหตุการณ์นี้อวี้จิ่นได้ใช้ความสามารถพิเศษของตน จัดการเจ้าเมืองที่เห็นแก่เงินสินบนเพิ่มอีกหนึ่งคน รวมถึงเศรษฐีแก่จิตใจวิปริตที่ต้องสูญเสียเงินทองมากมาย เพื่อจ่ายเป็นค่าชดเชยและค่าทำขวัญ ให้กับครอบครัวของเด็กที่ตายอย่างทรมานจนหมดตัว

Related chapters

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 11 ข้าคือผู้ฟื้นจากความตาย

    หลังจากเข้ามาในเมืองซวนเหอ ฟู่หลงเหยียนพาอวี้จิ่นเข้าออกร้านเครื่องปรับไปสองร้านแล้ว แต่ว่านางก็ยังไม่เจอสิ่งที่ถูกใจ ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เหมือนกันไปหมด ถึงกับบ่นในใจเงียบ ๆ ว่าคนที่ออกแบบเครื่องประดับไม่คิดลวดลายใหม่ ๆ บ้างหรืออย่างไร ขณะที่ทั้งสามกำลังจะเดินไปร้านใหม่ ก็มีเสียงเอะอะและเสียงร้องไห้ อวี้จิ่นที่ได้ยินเสียงเด็กที่ร้องไห้ก็ออกตัวเดินนำไปก่อนใคร“พวกไร้ประโยชน์!! เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ ให้ช่วยทำงานอะไรก็ไม่ได้เรื่อง พวกเจ้าสองคนทำข้าวของในบ้านข้าเสียหายไปเท่าไหร่แล้ว คิดว่าบ้านข้าร่ำรวยมีเงินซื้อชิ้นใหม่ทุกวันรึ ข้าเลี้ยงพวกเจ้าสองคนพี่น้องไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาต้องตอบแทนบุญคุณ พวกเจ้าถูกซื้อตัวโดยเศรษฐีเย่าแล้วรีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ข้าเหนื่อยจะพูดเต็มทีแล้วนะ!” เสียงสตรีวัยกลางคนที่ตะคอกเด็กสองพี่น้อง ที่ไม่มีการตอบโต้มิหน้ำซ้ำยังถูกทุบตีอย่างทารุณอวี้จิ่นแหวกทางผู้คนเข้ามาก็เห็นสตรีร่างท้วมดูมีอายุ สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาทั่วไปคล้ายชาวบ้าน ที่พอจะมีกินมีใช้กำลังพยายามดึงเชือกที่มัดเด็กชายกับเด็กหญิง พวกเขาน่าจะเป็นพี่น้องกันอายุคงไม่เกินสิบเอ็ดหรือสิบสองหนาว เสื้อผ้า

    Last Updated : 2024-11-08
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 12 นางคือน้องสาวของข้า

    เมื่อจบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองซวนเหอ วันต่อมาขบวนนักโทษจึงออกเดินทางอีกครั้ง แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหลังจากพวกเขาไปแล้ว เริ่มเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง เรื่องที่มีสตรีฟื้นจากความตายพร้อมพรวิเศษเพื่อจัดการคนชั่ว เริ่มแพร่กระจายออกไปตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและมีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อแต่สำหรับฟู่หลงเหยียนเขาเชื่ออย่างสนิทใจกับเรื่องนี้ มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาอยากรู้ว่า เกิดเหตุการณ์อะไรกับอวี้จิ่น ถึงทำให้นางต้องตาย และเหตุผลที่นางได้ฟื้นขึ้นมาจากความตายคืออะไร หรือจะเกี่ยวกับเรื่องที่นางไม่ได้รับความยุติธรรม จากฝีมือของตระกูลเจียงสายรอง แม้อยากรู้รายละเอียดมากเพียงใด ก็ไม่คิดจะถามเพราะนั่นเป็นความลับของนางการเดินทางยังคงเป็นไปอย่างราบรื่น เช่นที่ผ่านมาหลายหัวเมือง ซึ่งพวกเขาใกล้จะถึงเขตของเมืองเหลียนโจว ที่นี่มีเจียงหยวนกับหลี่อี้ที่เดินทางมาถึงได้สองวัน และกำลังพักให้หายเหนื่อยจากการเดินทาง แต่คนเป็นพี่ชายที่จะได้เจอน้องสาว ที่ไม่เคยเห็นหน้ากำลังตื่นเต้นจนชักชวนหลี่อี้ไปเดินหาซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับไว้รอน้องสาว“หลี่อี้เจ้าว่าน้องสาวของข้า นางจะเหมาะกับเสื้อผ้าสีอะไร

    Last Updated : 2024-11-08
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 13 พี่ชายผู้ตามใจน้องสาว

    เมื่อทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย หลี่อี้ที่ไปตามเฉินอิ่นก็เดินเข้ามาพร้อมกันพอดี จึงเริ่มหารือแผนการรับมือนักฆ่าขึ้น“นายน้อย/คุณชาย”“พวกเจ้ามาก็ดีแล้วนั่งลงเถิด ข้ากับอาหยวนมีเรื่องต้องบอกกับพวกเจ้า คืนนี้กำชับทุกคนให้ระวังตัวเอาไว้ เพราะจิ่นเอ๋อร์เห็นว่ามีนักฆ่าติดตามมาเพื่อสังหารอาหยวน และตอนนี้คงหลบซ่อนตัวอยู่ น่าจะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล จากบริเวณจุดพักของพวกเรา ดังนั้นคืนนี้ตงลู่เจ้ามีหน้าที่คอยอารักขาจิ่นเอ๋อร์ที่รถม้า หากมีนักฆ่าหลุดรอดไปถึงที่นั่นฆ่าพวกมันให้หมดส่วนเฉินอิ่นกับอู๋จิ้งแยกกันไปอยู่กับกลุ่มทหาร หลี่อี้เจ้าอยู่กับพวกข้าที่นี่พวกมันต้องแยกกันสังหารทุกคน แต่ตัวหัวหน้ากับลูกน้องบางส่วน คงตรงมาหาอาหยวนที่เป็นเป้าหมายหลัก” ฟู่หลงเหยียนสั่งการแบ่งหน้าที่ เพื่อปกป้องทหารจากเมืองเฉียนโจวด้วย พวกเขายังต้องกลับไปหาครอบครัวเช่นกัน“รับทราบขอรับนายน้อย” เฉินอิ่นที่รู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ย่อมเกิดขึ้นจริง จึงสะกิดสหายให้ทำตามคำสั่งของเจ้านาย เพราะพวกเขายังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองซวนเหอ ตงลู่กับอู๋จิ้งจึงอ่านปากของเฉินอิ่น ที่บอกว่าจะเล่าเรื่องราวให้ฟังทีหลัง“รับทราบขอรับ

    Last Updated : 2024-11-09
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 14 กลับคืนสู่ตระกูลเจียง

    ยามเฉินวันต่อมาขบวนนักโทษของฟู่หลงเหยียน เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้ากลับสู่เมืองหลวงอีกครั้ง หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่นักฆ่าติดตามมา เพื่อสังหารรองแม่ทัพเจียง ทุกคนในขบวนจึงเพิ่มความระแวดระวังมากขึ้น คอยสังเกตผู้คนและบรรยากาศ ที่ทำให้คิดไปในทางร้ายไว้ก่อน แล้วค่อยทำการตรวจสอบอีกครั้ง ว่ามีปัญหาหรือไม่แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีจากเมืองเหลียนโจว ขบวนนักโทษใช้เวลาอีกยี่สิบห้าวัน ในที่สุดก็มองเห็นกำแพงอันกว้างใหญ่ของเมืองหลวงเสีย ผู้คนมากมายที่รออยู่ด้านหน้า ต่างก็หลีกทางให้ขบวนนักโทษ เมื่อมีรองแม่ทัพเจียงเป็นผู้เปิดทางด้วยตนเอง ก่อนจะแยกย้ายไปทำภารกิจของตนให้สำเร็จลุล่วง ฟู่หลงเหยียนไม่ลืมเข้าไปบอกกล่าวกับอวี้จิ่น ที่กำลังตะลึงกับความคึกคักของเมืองหลวงแคว้นจ้าวแห่งนี้“ว้าว! นี่คือเมืองหลวงงั้นหรือผู้คนดูพลุกพล่านไม่น้อยเลยนะเนี่ย”“จิ่นเอ๋อร์”“หืม เจ้าคะพี่ชายฟู่”“เจ้ากลับไปที่ตระกูลเจียงกับพี่ชายของเจ้าก่อนนะ ไว้พี่จัดการเรื่องนักโทษพวกนี้เสร็จสิ้นแล้ว จะไปเยี่ยมเจ้าที่จวนจำที่พี่เคยเตือนไว้ได้หรือไม่เรื่องของตระกูลเจียงสายรองน่ะ”“จำได้สิเจ้าคะ พี่ชายฟู่ไม่ต้องห่วงข้าจะระวังให้มาก หากมีใค

    Last Updated : 2024-11-09
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 15 ฟู่หลงเหยียนอาฆาตสตรี

    วันนี้เป็นที่จางฮูหยินมีความสุขในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากวันนี้นางได้ช่วยบุตรสาวอาบน้ำ ทำความสะอาดเส้นผมรวมถึงทำผมเช่นคุณหนูที่ปักปิ่นแล้ว ด้วยเครื่องประดับราคาแพงและเสื้อผ้าชุดใหม่ ที่ทำจากผ้าไหมชั้นดีจากร้านผ้าชื่อดังแห่งเมืองหลวงเมื่อหญิงสาวที่ไร้เครื่องประทินโฉม หน้าตามอมแมมจากชนบทได้ลอกคราบเก่าทิ้งไป กลายเป็นคุณหนูแห่งจวนแม่ทัพใหญ่เจียง ที่ใบหน้ายามนี้ยิ่งน่ามองกว่าเดิม โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นของนางเมื่อจางฮูหยินได้พาอวี้จิ่นกลับมาพบบิดาและพี่ชายอีกครั้ง บุรุษทั้งสองยังต้องตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงนี้ของนาง แม้แต่เจียงเล่อกับหลี่อี้ก็ยังเห็นด้วยกับเจ้านายของตน ที่ลูกเป็ดขี้เหร่ได้กลายร่างเป็นนางหงส์ไปแล้ว“นะ นี่เจ้าใช่จิ่นเอ๋อร์น้องสาวของข้าจริงรึ ท่านแม่ลอกคราบน้องสาวของข้าจนจำคนก่อนไม่ได้แล้วขอรับ ไม่ได้ ๆ ท่านพ่อข้าไม่ยอมให้น้องสาวออกจากจวนตัวคนเดียวแน่ ท่านพ่อต้องช่วยคัดเลือกสาวใช้หรือองครักษ์ที่มีวรยุทธ์ เพื่อคอยติดตามดูแลจิ่นเอ๋อร์ ยามที่นางออกไปนอกจวนนะขอรับ หาไม่แล้วต้องมีคนหมายตานางเป็นแถวเชียวนะขอรับท่านพ่อ” จางหยวนเห็นความงามของอวี้จิ่น ก็หาพรรคพวกอย่างบิดาของตน เน

    Last Updated : 2024-11-10
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 16 การมาเยือนของตระกูลเจียงสายรอง

    ภายในเรือนชุ่ยฮวาของฮูหยินผู้เฒ่า มารดาของแม่ทัพใหญ่เจียงมีทั้งเสียงหัวเราะและความเอ็นดู สงสารบุตรหลานที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางป่าเขาที่แสนอันตราย ไม่ว่าสิ่งใดก็ต้องลงมือทำด้วยตนเองเท่านั้นไม่มีบ่าวไพร่คอยรับใช้แม้สายตาของทุกคนในเรือนแห่งนี้จะรื้นไปด้วยน้ำตา แต่น้ำเสียงที่บอกเล่าประสบการณ์ชีวิตของตนอย่างอวี้จิ่น กลับไม่มีการเรียกร้องความสงสารจากผู้ใดสักนิด นางเล่าด้วยความภูมิใจที่มีความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรจากยายเฒ่าลิ่ว ฝีมือการทำอาหารที่นางสัญญาว่า จะเข้าครัวทำให้ทุกคนได้ทาน ทุกเรื่องที่ออกจากปากของนางเต็มไปด้วยความสุข“หลานย่าช่างเป็นสตรีที่เข้มแข็งมากจริง ๆ แม้หมอตำแยคนนั้นจะพาเจ้าไป แต่อย่างน้อยนางก็ยังเลี้ยงดูเจ้าให้เติบโต แม้จะลำบากไปสักหน่อยก็ตาม ถือว่านางได้ทำคุณไถ่โทษพวกเราอโหสิกรรมให้นางเถิด ยามนี้นางคงจะไปรับโทษทัณฑ์ในปรโลกแล้วล่ะ แค่ก ๆ ๆ” ฮูหยินผู้เฒ่าพูดจบก็มีอาการไอเล็กน้อยนางเป็นเช่นนี้มาสักพักแล้ว“ท่านแม่!!/ท่านย่า!!”“ไม่เป็นไร ๆ พวกเจ้าไม่ต้องตกใจไปหรอก น่าจะเป็นหวัดเท่านั้นดื่มยาสักสองสามเทียบก็หายแล้วล่ะ”“แม่นมฮวนเจ้าคะท่านย่ามีอาการไอบ่อยแค่ไหนในหนึ่งวัน” อวี

    Last Updated : 2024-11-10
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 17 จับตัวคนร้ายที่วางยาพิษท่านย่า

    ค่ำคืนที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกที่อวี้จิ่นได้นอนหลับอย่างสบายจริง ๆ แม้จะรู้สึกสบายแค่ไหน แต่นางไม่เคยเสียนิสัยยังคงตื่นเช้าเช่นเดิม สาวใช้ที่นำน้ำล้างหน้ามาปรนนิบัติคุณหนูของจวนยังแปลกใจ พวกนางคิดว่าอวี้จิ่นจะลืมตัวนอนตื่นสาย คอยเรียกพวกนางมารับใช้เสียอีกทางด้านตระกูลฟู่นายน้อยของจวน กำลังจะไปยังกรมอาญา เมื่อเห็นว่ายังพอมีเวลาจึงบอกับคนสนิทว่าตนเองนั้น จะแวะไปที่จวนตระกูลเจียงเสียก่อน จากนั้นค่อยไปพบเจ้ากรมอาญาทีหลัง“ข้าจะแวะไปจวนแม่ทัพใหญ่ก่อนพวกเจ้าตามมาก็แล้วกัน”“เอ่อ นายน้อยแต่จวนแม่ทัพใหญ่ อยู่คนละทิศมิใช่หรือขอรับ” อู๋จิ้งถามออกไปโดยที่สหายห้ามไม่ทัน“แล้ว...?” ฟู่หลงเหยียนหันไปมองด้วยสีหน้านิ่งสนิท“นายน้อยบ่าวว่าพวกเรารีบไปเถิดขอรับ เผื่อว่าคุณหนูเจียงจะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ และออกมาเดินเล่นดูตลาดในเมืองหลวงก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้นจะคลาดกันเสียก่อนนะขอรับ” เฉินอิ่นรีบบอกกับเจ้านาย ก่อนที่เขาจะอารมณ์เสียแต่เช้า ยิ่งมีเรื่องของอดีตคนรักมาวุ่นวายเมื่อวานอีกเรื่องถือว่าเฉินอิ่นยังรู้สถานการณ์ มิเช่นนั้นอู๋จิ้งมีหวังถูกลงโทษแน่ ๆ“อืม ถ้าจิ่นเอ๋อร์อยากออกมาเดินเที่ยวเล่น ข้าจะเป็น

    Last Updated : 2024-11-11
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 18 เจ้าเล่นงิ้วเป็นผู้เดียวรึ

    ภายในรถม้าคันใหญ่ของตระกูลฟู่คนหนึ่งนั่งมองนิ่ง ๆ แต่อีกคนกลับนั่งขยุกขยิกด้วยความดีใจที่จะได้เดินเที่ยวตามร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งมีหลายร้านที่อวี้จิ่นสนใจแม้แต่ตลาดยามเช้านางก็อยากไป เพื่อดูว่าจะมีผักที่คล้ายกับโลกที่จากมาหรือไม่แม้มิติตลาดคลอบจักรวาลจะมีของอยู่มากมายให้เลือกใช้ได้ก็ตาม อวี้จิ่นคิดว่าต้องรออีกสักพักนางจะค่อย ๆ บอกให้คนในครอบครัวได้รู้เรื่องของมิตินี้จนรถม้าผ่านเข้ามาในเขตที่เป็นร้านค้าฟู่หลงเหยียนจึงได้สั่งให้หยุดรถ เพราะเขาจะพาอวี้จิ่นลงเดินตั้งแต่มุมนี้เป็นต้นไป โดยให้อู๋จิ้งประจำอยู่ที่รถม้าส่วนเฉินอิ่นกับตงลู่คอยติดตามทั้งสองคน ฟู่หลงเหยียนรับอวี้จิ่นลงจากรถม้าได้นางก็เริ่มเดินดูสิ่งของที่วางขายทันที ทั้งร้านแผงลอยที่มีสินค้าแปลก ๆ หรือจะเป็นสมุนไพรที่นางรู้จักก็มีวางขาย ฟู่หลงเหยียนคอยเดินอยู่ข้าง ๆ เพื่อตอบคำถามของอวี้จิ่น ที่มีคำถามไม่สิ้นสุดแต่ทั้งสองคนยังไม่รู้ตัวว่ามีสายตาคู่หนึ่ง ที่มองอวี้จิ่นดั่งต้องการฉีกร่างของนางเป็นชิ้น ๆเหมาซูเจียวคุณหนูใหญ่แห่งจวนเสนาบดีกรมพิธีการ นางหลงรักฟู่หลงเหยียนตั้งแต่ยังไม่ถึงวัยปักปิ่นเมื่อสี่ปีที่ผ่านมา แค่นางเห็นเขาเดินเคี

    Last Updated : 2024-11-11

Latest chapter

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนพิเศษ 2 แค่สาดผงยาพิษก็ได้สิทธิ์เป็นท่านหญิง

    ฟู่หลงเหยียนและเจียงหยวนยังคงซ่อนตัวอยู่ พวกเขาอยากรู้ว่าสองพี่น้องจะรับมือคนพวกนี้ เพื่อหาทางเอาตัวรอดอย่างไร “พวกเจ้าเอาตัวเด็กสองคนนั่นลงมา อย่ามัวชักช้ายืดยาด หากงานไม่สำเร็จละก็ จะกลายเป็นพวกเราที่ต้องตายแทน” ซานถูลงไปยืนรอยังจุดที่เลือกไว้ สำหรับการขุดหลุมฝังเจียงข่ายเหวินและฟู่เจียฉี“ถุ้ย!! อย่าเอามือสกปรกของเจ้ามาถูกตัวน้องสาวข้า” เจียงข่ายเหวินตะคอกลูกน้องซานถูทันที เมื่อมือหยาบนั้นกำลังจะดึงตัวฟู่เจียฉี ออกไปจากอ้อมกอดของตน“เหวินเกอไม่ต้องกลัวนะ ฉีเอ๋อร์จะปกป้องท่านเองเจ้าค่ะ” ฟู่เจียฉีมิใช่เด็กหญิงตัวน้อยขี้แย เพราะมีบิดาคอยสอนให้เข้มแข็งมีสติ ถึงจะเป็นเด็กแต่เมื่อมีสติก็สามารถเอาตัวรอดได้“ฮ่า ๆ ๆ ลูกพี่ดูเจ้าเด็กสองคนนี่สิ ช่างเป็นญาติพี่น้องที่รักกันดีเสียเหลือเกิน” เกาจิ่งหัวเราะกับท่าทางของฟู่เจียฉี“เหอะ ก็คงเห็นตัวอย่างจากบิดมารดากระมัง เร็ว ๆ ๆ พาตัวลงจากรถม้าได้แล้ว ยังต้องขุดหลุมอีกพวกเจ้าอย่าลืมสิ” ซานถูเร่งลูกน้องของตนให้ทำตามคำสั่งขณะที่เกาจิ่งหันไปพูดคุยกับซานถู ฟู่เจียเฟยได้หยิบห่อยาพิษที่บิดาเพิ่งมอบให้ ก่อนจะแบ่งให้เจียงข่ายเหวินอีกสองห่อ เด็กชายมองหน้า

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนพิเศษ 1 ญาติผู้พี่กับญาติผู้น้อง

    ณ จวนตระกูลเจียงหลังจากอวี้จิ่นออกเรือนแต่งเข้าตระกูลฟู่ ลูกสะใภ้ของตระกูลเจียงอย่างจ้าวเจียเฟย ก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชาย ซึ่งในอนาคตเขาขคือผู้สืบทอดตระกูลเจียงต่อจากบิดา ชื่อของหลานชายฮ่องเต้ผู้เป็นเสด็จตา ประทานนามให้ว่า ‘ข่ายเหวิน’ หมายถึง ผู้ชนะและมีความรู้ และชื่อนี้ก็เข้ากับลักษณะนิสัยของเจ้าตัวน้อยได้เป็นอย่างดีนอกจากมารดาจะเป็นที่โปรดปรานแล้ว เมื่อให้กำเนิดหลานชายย่อมได้รับความโปรดปราน ไม่ต่างจากผู้เป็นมารดาเช่นกัน สร้างความอิจฉาริษยาให้กับองค์ชายองค์หญิงที่มีหลานให้กับฮ่องเต้ องค์ชายองค์หญิงที่รู้จักประมาณตน จะอบรมสั่งสอนบุตรของตนให้รักญาติพี่น้อง แต่สำหรับคนที่จิตใจดำมืดเกินเยียวยา ย่อมสั่งสอนและปลูกฝังความริษยาลงในจิตใจของบุตร ตระกูลเจียงมีทายาทแล้ว ทางด้านตระกูลฟู่จะไม่มีได้อย่างไร หลังจากเจียงข่ายเหวินอายุได้สองหนาว อวี้จิ่นแต่งเข้าจวนฟู่ได้ครึ่งปีก็ตั้งครรค์ และให้กำเนิดบุตรสาวนามว่าฟู่เจียฉี หากจะกล่าวว่าญาติผู้พี่เจียงข่ายเหวินหล่อเหลาตั้งแต่เยาว์วัย ญาติผู้น้องอย่างฟู่เจียฉีจะน้อยหน้าได้หรือ เด็กหญิงเกิดมาพร้อมกับดวงหน้ารูปหยดน้ำ จมูกโด่งได้รูปรับกับใบหน้า ริ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 61 งานแต่งธรรมดาแต่ท่านเทพจะมาทำไมเจ้าคะ (จบ)

    หลังจากตระกูลฟู่และตระกูลเจียง ได้แลกหนังสือหมั้นหมายของบุตรชายบุตรสาว ข่าวลือเรื่องทั้งสองตระกูลจะเกี่ยวดองกัน ก็แพร่กระจายไปตามร้านรวงต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว คนที่อวยพรให้ทั้งสองสุขสมก็มีอยู่มาก คนที่อิจฉาริษยาก็มีไม่น้อย ล้วนเป็นสตรีที่ยังไม่ออกแต่แล้วอย่างไรในเมื่อฟู่หลงเหยียนมิได้สนใจ พวกนางก็เป็นได้แค่เศษฝุ่นที่ลอยไปกับสายลมเท่านั้น เพราะในสายตาของฟู่หลงเหยียน ไม่เคยละไปจากคู่หมั้นที่เริ่มจะเปล่งประกายความงามหลังจากนั้นอีกสามเดือนต่อมา ปรากฏว่าองค์หญิงใหญ่ตั้งครรภ์ อย่างที่อวี้จิ่นเคยบอกพวกเขาเอาไว้จริง ๆ เจียงหยวนแอบไปพบน้องสาว เพราะเขาอยากรู้ว่าเด็กในครรภ์องค์หญิงใหญ่ เป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง เขาจะได้เตรียมรับมือบุตรคนได้ถูก พอได้รู้ว่าตนเองจะได้บุตรชาย การวางแผนเลี้ยงดูจึงถูกคิดขึ้นทันทีตั้งแต่อวี้จิ่นกลายเป็นคู่หมั้นของหัวสำนักตรวจการ หากไม่มีภารกิจลับและออกเดินทางไปต่างเมือง ข้างกายของอวี้จิ่นย่อมมีบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำ นามว่าฟู่หลงเหยียนอยู่กับนางเสมอ จนเหล่าบุรุษที่มั่นใจว่าตนเองหน้าตาหล่อเหลา ต้องวิ่งหาที่หลบแทบไม่ทัน แค่ฟู่หลงเหยียนจ้องมองพวกเขาก็หายไม่ออกกันแล้วทุก

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 60 หมั้นหมายอย่างเป็นทางการ

    ฟู่หลงเหยียนพาอวี้จิ่นกลับมาส่งที่จวน ภายหลังที่พลุถูกจุดจนหมดเรียบร้อยแล้ว ด้วยตอนมาร่วมงานเขานั่งรถม้า ยามนี้จำเป็นต้องยืมเจ้าเสี่ยวหงกลับจวนไปก่อน และค่อยนำมันมาคืนอวี้จิ่นทีหลังอวี้จิ่นยืนส่งฟู่หลงเหยียนขี่เจ้าเสี่ยวหง จนแผ่นหลังของเขาหายลับไปจากสายตา ถึงได้เดินเข้าจวนอย่างอารมณ์ดี ทำให้คนเดินตามหลังอย่างตงลู่กับเฟยอิน เอ็นดูกับท่าทางที่เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเขินอาย อยากจะหัวเราะแต่ต้องอดกลั้นเอาไว้แต่พอมาถึงเรือนของตนอวี้จิ่นพบว่า เป่าจูสาวใช้ของพี่สะใภ้ กำลังเดินไปมาชะเง้อมองหาใครอยู่ “หืม นั่นใช่พี่เป่าจูสาวใช้ของพี่สะใภ้ใช่ไหมพี่เฟยอิน”“ใช่จริง ๆ ด้วยเจ้าค่ะคุณหนู ว่าแต่นางมาทำอะไรที่เรือนของท่าน ยามนี้มิใช่ต้องอยู่รอรับใช้องค์หญิงใหญ่หรอกรึ?”เป่าจูเมื่อเห็นอวี้จิ่นกลับมาที่เรือน จึงสาวเท้าไปหานางดั่งพายุ สร้างความงุนงงจนอดคิดไม่ได้ว่า จะเกิดเรื่องอันใดที่เรือนของพี่ชายตนหรือไม่“คุณหนูเจียงในที่สุดท่านก็กลับมาเสียทีเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของเป่าจูดูร้อนรนแปลก ๆ“พี่เป่าจูท่านมารอพบข้ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่เจ้าคะ”“คือบ่าวมารอพบคุณหนูที่นี่ เพราะมีเรื่องจะรบกวนท่านจริง ๆ เจ้าค่ะ”“พี่เ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 59 งานมงคลกับคนสารภาพรัก

    ซีอ๋องอยู่ร่วมงานเลี้ยงชนะสงครามเท่านั้น อีกสองวันต่อมาจึงออกเดินทางพร้อมหีบยาจำนวนมาก ยังมีเมล็ดพันธุ์ผักที่อวี้จิ่นใจดีมอบให้อีกหนึ่งหีบ ที่สำคัญทรงอยากกลับไปชำระความ กับสตรีชั่วที่ปองร้ายบุตรชายเพียงคนเดียวของตน ซึ่งตอนนี้นางกำลังตั้งตนเป็นเจ้าของตำหนักอ๋อง จนลืมไปว่านางเป็นแค่ชายารองเท่านั้นข่าวลือที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว เรื่องฤกษ์มหามงคลที่มีขึ้น ในอีกสามสัปดาห์ต่อจากนี้ ทำเอาวังหลวงวุ่นวายจนเวียนหัว เพื่อเตรียมงานอภิเษกสมรสขององค์หญิงใหญ่ พระธิดาคนโปรดของฮ่องเต้ให้ออกมาดีที่สุด ห้ามขาดตกบกพร่องแม้แต่นิดเดียวส่วนตระกูลเจียงถือว่าโชคดีมาก ที่อวี้จิ่นได้บอกมารดาไว้ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างในจวนจึงพร้อมต้อนรับสะใภ้ใหญ่ หลังจบงานเลี้ยงวันถัดมายามปลายยามเฉิน ขบวนสินสอดนับร้อยหีบผูกด้วยผ้าสีแดง พร้อมสามหนังสือหกพิธีการนำไปส่งมอบให้กับฮองเฮา ก็ทยอยออกจากจวนตระกูลเจียงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงทันทีชาวบ้านสองข้างทางต่างหยุดมอง และเริ่มพูดถึงเรื่องสมรสพระราชทานอีกครั้ง ตระกูลใดที่รอจัดงานพร้อมแม่ทัพเจียง ต่างเร่งจัดเตรียมข้าวของเรือนหอ อาหารการกินที่ต้องใช้เลี้ยงแขกในงาน เผื่อว่าการแต่งงานในฤก

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 58 ขอรางวัลสมรสพระราชทาน

    หลังจากหวาอานส่งจดหมายกลับไปยังเหอหยาง เมื่อแม่ทัพเสียนมู่ได้อ่านเนื้อหาในจดหมาย จึงนำกำลังทหารบางส่วนมุ่งหน้าไปยังจวนซีอ๋อง เพื่อรับตัวซื่อจื่อมาดูแลเป็นการชั่วคราว คราแรกพระชายารองไม่ยินยอม แต่พอได้เห็นป้ายผู้แทนของซีอ๋อง ที่อยู่ในมือของแม่ทัพเสียนมู่แล้ว ถึงได้ยอมปล่อยซื่อจื่อให้แม่ทัพเสียนมู่พาตัวกลับจวนส่วนเจ้าของคำสั่งที่พักอาศัยในจวนแม่ทัพใหญ่ ได้เห็นแปลงผักที่หลากหลายก็เกิดความสนใจ ซีอ๋องคิดว่าหากกองทัพหรือราษฎรที่เหอหยาง สามารถปลูกพืชผักได้เช่นจวนแม่ทัพใหญ่ ย่อมมีเสบียงสำรองมากพอยามฤดูเหมันต์มาเยือน ทุกคนต้องผ่านความอดอยากได้แน่เมื่อซีอ๋องถามกับบ่าวไพร่เรื่องการปลูกผัก คำตอบที่ได้ก็เกี่ยวกับบุตรสาวแม่ทัพใหญ่อีกแล้ว จนกระทั่งได้มานั่งพูดคุยเรื่องการค้า ซีอ๋องจึงถือโอกาสสอบถามอวี้จิ่นเรื่องผักที่ปลูกด้วยเสียเลย“คุณหนูเจียงเรื่องสัญญาการค้ายาสมุนไพร เปิ่นหวางยินดีทำตามข้อเสนอของเจ้า เพียงแต่ว่ามีอีกเรื่องที่เปิ่นหวางอยากรู้”“ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ยอมทำการค้า กับร้านยาเล็ก ๆ ของหม่อมฉันเพคะ ว่าแต่ท่านอ๋องทรงอยากทราบเรื่องอันใดหรือเพคะ”“เปิ่นหวางอยากถามเกี่ยวกับวิธีปลูกผัก ให้ไ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 57 บิดาและพี่ชายกลับมาพร้อมแขกสูงศักดิ์

    เรื่องราวที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงบุปผาในวังหลวง ถูกพูดถึงในเช้าวันต่อมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องของเลี่ยวหลวนเฉิน สมรู้ร่วมคิดกับโจรหยางเสวียน กดขี่ข่มเหงขูดรีดเงินภาษีจากชาวเมืองซุยโจว เมื่อถึงเวลานำตัวทาสทุกคนออกเดินทาง จึงใช้เวลานานกว่าทุกครั้งเพราะผู้คนสองข้างทาง ต่างเฝ้ารอขว้างปาสิ่งของและด่าทอสาปแช่ง กว่าจะหลุดพ้นจากประตูเมืองหลวง ก็บาดเจ็บกันไปไม่น้อยกับทาสทั้งหลายหลังจากงานเลี้ยงจบลงได้ไม่ดีเท่าใดนัก อีกสามวันต่อมารัชทายาทจ้าวเจาเยี่ยน ก็กลับมาจากการทำภารกิจตามราชโองการ แต่รัชทายาทกลับไปชำระล้างพระวรกายที่ตำหนักบูรพา จากนั้นจึงเสด็จไปเข้าเฝ้ากราบทูลรายงานต่อพระบิดา“ถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ลุกขึ้นเถิดรัชทายาท เจ้าเพิ่งกลับมาถึงเช่นนั้นรึ” ฮ่องเต้ทรงเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของโอรสก็ทรงทราบแล้ว“พ่ะย่ะค่ะ ลูกเพิ่งกลับมาถึงเมื่อยามซื่อ และต้องการรายงานเรื่องน้ำที่เมืองสุยโจวพ่ะย่ะค่ะ” รัชทายาทมิอาจรั้งรอได้นาน เนื่องจากต้องรีบคัดเลือกขุนนางไปรับตำแหน่งเจ้าเมือง“ปัญหาเรื่องน้ำที่เมืองสุยโจวเป็นอย่างไร สาเหตุเกิดจากภัยธรรมชาติหรือฝีมือของมนุษย์กันแน่”“ทูลเสด็จพ่อเป็น

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 56 งานเลี้ยงบุปผาหรืองานเลี้ยงหงเหมิน

    ภายหลังที่ได้หลักฐานและล่วงรู้แผนชั่วแล้ว ฟู่หลงเหยียนมาส่งอวี้จิ่นด้วยวิธีเดิม และไม่ลืมพูดถึงเรื่องงานเลี้ยงบุปผา ที่ฮองเฮาจะจัดขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้า เขาบอกให้อวี้จิ่นและมารดารออยู่ที่จวน แล้วเขาจะเป็นคนมารับอวี้จิ่นด้วยตนเองพอกลับมาถึงจวนฟู่หลงเหยียนย่อมไปพบบิดา เพื่อบอกเล่าแผนการของเลี่ยวหลวนคุน และยังมีหลักฐานที่สายของตนได้มา“ก๊อก ๆ ๆ ท่านพ่อข้าเองขอรับ”“เข้ามาเถิดอาเหยียน”เมื่ออนุญาตให้บุตรชายเข้ามาในห้องหนังสือได้ ก็มีห่อผ้าวางลงตรงหน้าของฟู่กั๋วกง คำถามจึงเกิดจากสายตาโดยไม่ต้องมีคำพูด“เรียนท่านพ่อ ในห่อผ้านี้เป็นสมุดบัญชีที่ใต้เท้าเลี่ยว แอบนำไปฝังไว้ใต้ดินหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม สายของเราที่อยู่ในจวนสังเกตเห็นท่าทางมีพิรุธ ถึงได้ตามไปเงียบ ๆ จากนั้นก็ขุดมันออกมามอบให้ข้าขอรับ”“หมายความว่าสิบปีที่ผ่านมา ใต้เท้าเลี่ยวติดต่อกับโจรป่าหยางเสวียน และแบ่งปันทรัพย์สินจากการปล้น รวมถึงเงินที่เก็บภาษีจากชาวบ้านด้วยงั้นรึ” ฟู่กั๋วกงไม่คิดมาก่อนว่าใต้เท้าเลี่ยว จะเก็บซ่อนความลับนี้ได้นานถึงสิบปี โดยไม่มีผู้ใดระแคะระคายแม้แต่น้อย“คาดว่าจะเป็นเช่นที่ท่านพ่อพูดมาขอรับ ส่วนเรื่อง

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 55 ว่าที่พี่สะใภ้ข้าใครก็ห้ามแย่ง

    หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลเศรษฐีม่าย เมื่อพยานอย่างม่ายจิ่นเม่ยให้การกับใต้เท้ากวน และลูกน้องทั้งสองของท่านหมอซัง ยอมสารภาพทุกอย่างต่อใต้เท้ากวน เพราะพวกเขาถูกดวงวิญญาณหญิงสาว ตามมาคอยหลอกหลอนจนนอนไม่หลับ ไหนจะความเจ็บปวดจากยาพิษของอวี้จิ่น ทำให้พวกเขาอยากตายเพื่อหลุดพ้นความทรมานเมื่อมีทั้งพยานที่ยังรอดชีวิตและคำสารภาพ จากคนเป็นลูกน้องของซังปินจีทั้งสองคน โทษประหารชีวิตย่อมเกิดขึ้นแน่นอน เพียงแค่ก่อนจะลงดาบประหารนั้น ใต้เท้ากวนได้ให้ทั้งสามคนได้รู้ซึ้งถึงความทรมาน ของหญิงสาวที่ตกตายด้วยน้ำมือของพวกเขาเสียก่อน ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ทำการแขวนคอนักโทษ พอใกล้จะขาดใจก็หย่อนเชือกให้หายใจต่อ ทำเช่นนั้นอยู่ถึงสามครั้งถึงจะนำตัวไปตัดหัว“เจ้าหมอชั่วจงตกนรกอย่าได้กลับมาเกิดเป็นคนอีกเลย”“ถ้าพวกเจ้ากลับมาเกิดขอให้เป็นสัตว์เดรัจฉาน ที่เป็นเหยื่อให้สัตว์ใหญ่ไล่ล่ากินเนื้อพวกเจ้า”“สงสารหญิงสาวที่ต้องตายเพราะคนชั่วจริง ๆ ขอให้พวกเจ้าไปสู่สุขคติด้วยเถิด”ในวันประหารชีวิตมีชาวบ้านไม่น้อยมามุงดู หนึ่งในนั้นย่อมเป็นครอบครัวตระกูลม่าย ที่ได้รับความเป็นธรรมและยังมีชีวิตอยู่ต่อไปก่อนครอบครัวตระกูล

DMCA.com Protection Status