Home / โรแมนติก / แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ / ตอนที่ 9 แผนเพิ่มอำนาจของบ้านรองเจียง

Share

ตอนที่ 9 แผนเพิ่มอำนาจของบ้านรองเจียง

last update Last Updated: 2024-11-07 13:12:59

จิ้งโม่และมู่ฉีกลับที่พักของพวกตนทันที หลังจากออกมาจากค่ายทหาร ในจดหมายจิ้งโม่เขียนไว้อย่างละเอียด รวมถึงเรื่องที่เจียงหยวนกำลังออกเดินทางไปรอเจ้านาย อาจจะเป็นที่เมืองชางโจว เมื่อภารกิจสำเร็จทั้งสองจึงไปดื่มฉลองกันเล็กน้อยตามประสาบุรุษ

ด้านแม่ทัพใหญ่ที่กลับมาถึงจวนในยามเซิน ได้สั่งให้พ่อบ้านเจียงไปแจ้งที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่าว่า เย็นนี้เขาจะพาฮูหยินไปรับสำรับเย็นที่นั่น และบอกให้แม่ครัวเตรียมอาหารไว้มากกว่าเดิมสักหน่อย ก่อนที่ตัวของแม่ทัพใหญ่จะกลับไปชำระล้างร่างกายเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อไปพบฮูหยินที่ไม่ยอมออกจากจวนมาหลายปี

มู่เสียสาวใช้คนสนิทของจางฮูหยิน เมื่อเห็นว่านายท่านของจวน มาพบนายหญิงของตนเร็วกว่าทุกวัน จึงจะเข้าไปบอกเจ้านายแต่ว่านางถูกนายท่านเรียกตัวเอาไว้เสียก่อน

“มู่เสีย”

“คารวะนายท่านเจ้าค่ะ”

“เจ้าไม่ต้องไปรายงานน้องหญิง แต่ไปเตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ดูชุดที่มีสีสันสดใสสักเล็กน้อยก็แล้วกัน วันนี้ข้าจะพานางไปรับอาหารเย็นที่เรือนท่านแม่” แม่ทัพใหญ่สั่งงานกับมู่เสีย ก่อนจะเข้าไปหาฮูหยินของตน ที่ยังคงมีสีหน้าไร้ชีวิตชีวาเช่นทุกวัน

“เอ่อ เจ้าค่ะนายท่าน” มู่เสียทำท่าคล้ายมีคำถาม แต่ก็ต้องหยุดเอาไว้และแยกตัวไปทำตามคำสั่งเจ้านาย

เมื่อสั่งงานสาวใช้อย่างมู่เสียแล้วแม่ทัพใหญ่จึงเข้าในห้องนั่งเล่น ซึ่งมีฮูหยินของตนที่ยามนี้รางกายซูบผอมลงไปมาก นั่งพักผ่อนอยู่บนตั่งนอนเหม่อมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง พอเห็นสตรีที่รักเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้แม่ทัพใหญ่เจ็บปวดใจเสียเหลือเกิน พาลนึกโกรธคนบ้านรองที่ทำให้ฮูหยินของเขาต้องกลายเป็นคนอมทุกข์

ตึก ตึก ตึก

“มู่เสียเจ้าช่วยไปบอกแม่ครัวว่าวันนี้ยกสำรับมาไม่ต้องมาก ข้าไม่รู้สึกหิวเท่าใดนัก ให้แบ่งส่วนของข้าให้เจ้าแทนก็แล้วกัน” จางฮูหยินคิดว่าคนที่เดินเข้ามาคือมู่เสีย ไม่คิดว่าจะเป็นสามีของตน

“หากเจ้าทานน้อยลง วันนี้พี่คงไม่บอกข่าวดีกับเจ้าแน่อวี้เอ๋อร์” แม่ทัพใหญ่เอ่ยเย้าแหย่ฮูหยินของตน

“ขวับ! ท่านพี่เหตุใดวันนี้ถึงกลับเร็วได้เจ้าคะ หรือว่าให้อาหยวนรับหน้าที่ดูแลการฝึกทหารแทนอีกแล้ว”

“ที่พี่กลับจวนเร็วเพราะมีเรื่องดีเกิดขึ้นกับพวกเรา และพี่อยากจะบอกเจ้ากับท่านแม่พร้อมกัน ถึงได้มารับเจ้าอย่างไรเล่า”

“มีเรื่องดีเกิดขึ้นกับพวกเราหรือเจ้าคะ เอ่อ หรือว่าท่านพี่ไปทำสตรีคนไหนตั้งครรภ์ แล้วจะรับเข้าจวนใช่ไหมเจ้าคะ” จางฮูหยินคิดไปไกล

“หึ ๆ ๆ เจ้าคิดไปถึงไหนกันอวี้เอ๋อร์ ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดแน่นอน หากเป็นเช่นนั้นจวนของเราคงมีเรือนหลังมากมายไปแล้ว หากเจ้าอยากรู้ว่าคือเรื่องอะไร ก็รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ก่อนเถิด”

“ทำไมฟังแล้วมีลับลมคมในแปลก ๆ เจ้าคะ บอกตอนนี้เลยมิได้หรือเจ้าคะท่านพี่”

“ไม่ได้หรอก เจ้าค่อยฟังพร้อมกับท่านแม่จะดีกว่า แล้วพวกเราก็รับสำรับที่เรือนท่านแม่เสีย เพราะพี่สั่งพ่อบ้านเจียงให้ไปแจ้งท่านแม่ไว้แล้วว่า วันนี้พวกเราจะทานอาหารเป็นเพื่อนท่านแม่” แม่ทัพใหญ่ใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางอยากรู้ของฮูหยิน ภายในใจได้แต่ภาวนาขอให้หญิงสาวที่ฟู่หลงเหยียนพบเจอนั้น เป็นบุตรสาวของพวกเขาจริง ๆ เถิด

“ก็ได้เจ้าค่ะ” จางฮูหยินจำต้องทำตามคำขอของสามี

แม่ทัพใหญ่นั่งรอเพียงสองเค่อกว่า ๆ ฮูหยินของตนก็ออกมา พร้อมกับสวมชุดที่เขาสั่งมู่เสียให้เตรียมไว้ จากนั้นจึงประคองฮูหยินค่อย ๆ เดินไปยังเรือนชุ่ยฮวาของมารดา ที่ยามนี้นั่งจิบชารอบุตรชายอยู่ในห้องรับแขกของเรือน

“มากันแล้วหรืออากุ่ย” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยทักบุตรชายและลูกสะใภ้

“ลูกคารวะท่านแม่ขอรับ”

“ลูกสะใภ้คารวะท่านแม่เจ้าค่ะ”

“ไปนั่งที่เก้าอี้คุยกันดี ๆ เถิดอาอวี้ยิ่งไม่แข็งแรงอยู่” ฮูหยินผู้เฒ่าสงสารลูกสะใภ้อยู่ไม่น้อย เพราะนางอยากมีบุตรสาวที่น่ารักสักคนมาก

“ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ”

“อืม แม่ได้ยินว่าเจ้าให้พ่อบ้านเจียงบอกแม่ครัวทำอาหารมากกว่าทุกวัน มีเรื่องดี ๆ อันใดเกิดขึ้นกับตระกูลเจียงของเราหรืออากุ่ย” ผ่านมาหลายปีหากไม่ใช่วันไหว้บรรพบุรุษจะไม่มีการทำอาหารเยอะเช่นนี้

“เจียงเล่อเจ้ากับพ่อบ้านเจียงคอยตรวจรอบ ๆ เรือน แม่นมฮวนรบกวนท่านให้สาวใช้ออกไปอยู่ที่สวนดอกไม้ด้วย” แม่ทัพใหญ่ไม่อาจวางใจใครได้หากต้องพูดเรื่องสำคัญ

“ขอรับ/เจ้าค่ะ”

แม่นมฮวนที่สั่งให้สาวใช้ทั้งหมดออกไปด้านนอกเสร็จ จึงกลับมาคอยดูแลฮูหยินผู้เฒ่าในห้องเช่นเดิม ส่วนเจียงเล่อกับพ่อบ้านเจียงคอยเดินตรวจรอบ ๆ เรือนป้องกันมิให้ใครมาแอบฟัง

“อากุ่ยนี่มันเรื่องอะไรกันแน่ถึงได้เข้มงวดเพียงนี้” ฮูหยินผู้เฒ่าตกใจกับการกระทำของบุตรชาย

“ท่านแม่อย่าได้เข้าใจผิดที่ข้าทำเช่นนี้ แค่ป้องกันคนจากบ้านรองเท่านั้นขอรับ เนื่องจากเรื่องที่ข้าจะบอกกับท่านแม่และอวี้เอ๋อร์นั้น เป็นความลับแต่ก็เป็นข่าวดีสำหรับพวกเราด้วยเช่นกัน” แม่ทัพใหญ่รีบอธิบายให้มารดาของตนเข้าใจ ว่าสิ่งที่ทำลงไปมีสาเหตุมาจากอะไร

“หากเป็นอย่างที่เจ้าพูดมา เรื่องนี้ย่อมเกี่ยวข้องกับบ้านรองโดยตรง ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปีสตรีนางนั้นก็ไม่เคยปล่อยวาง จนอายุล่วงเลยมาถึงป่านนี้แล้ว ก็ยังอยากมีอำนาจเหนือข้าเช่นเดิม ไม่พอยังสั่งสอนบุตรหลานให้มีความคิดเหมือนกับนางอีก” ฮูหยินผู้เฒ่านึกถึงสตรีผู้เป็นอนุของสามีที่ได้มาเพราะแผนสกปรกของนางผู้นั้น

“ท่านพี่เจ้าคะท่านบอกข้ากับท่านแม่มาเถิด แท้จริงแล้วมันคือเรื่องอะไรกันแน่ ท่านถึงได้ระวังตัวมากแม้อยู่ในเรือนของท่านแม่”

“ได้ก่อนอื่นขอให้ท่านแม่กับอวี้เอ๋อร์ ตั้งสติให้ดีเรื่องที่ข้าจะบอกต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับเยี่ยนเอ๋อร์ เมื่อยามเฉินของวันนี้มีคนของอาเหยียนมาขอพบอาหยวนกับข้าที่ค่ายฝึกทหาร พวกเขามาเพื่อสอบถามเกี่ยวกับกุญแจหยกอายุยืนของตระกูลเจียง เพราะว่าอาเหยียนพบสตรีนางหนึ่งที่เมืองเฉียนโจวและนางมีหยกชิ้นนี้อยู่กับตัว นอกจากนี้นางยังพูดอีกว่าจะมาตามหาครอบครัวที่เมืองหลวง”

“อากุ่ย!!/ท่านพี่!!” ทั้งฮูหยินผู้เฒ่าและจางฮูหยิน อุทานเรียกแม่ทัพใหญ่ขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

“ท่านพี่แต่เยี่ยนเอ๋อร์ตาย หลังจากที่ข้าคลอดนางออกมาแล้วนะเจ้าคะ คนที่มากับหมอตำแยยังพาร่างของนางมาให้ข้าดูด้วยซ้ำ แล้วเรื่องนี้จะเป็นไปได้หรือเจ้าคะว่านางจะยังมีชีวิตอยู่” จางฮูหยินเห็นกับตาของนางเองว่าบุตรสาวไม่หายใจแล้ว

“นั่นน่ะสิอากุ่ย พวกเรานำร่างของเยี่ยนเอ๋อร์นอนในโลงศพด้วยตนเอง เรื่องนี้ไม่น่าเป็นไปได้พวกเขาจำผิดหรือไม่อากุ่ย” ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยังไม่เชื่อว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ได้

“คราแรกข้าก็ไม่เชื่อ จนกระทั่งคนของอาเหยียนตั้งข้อสังเกตถึงการตายของเยี่ยนเอ๋อร์ หากนางได้เติบโตเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนแม่ทัพเช่นข้า แน่นอนว่าทั้งเชื้อพระวงศ์จากตำหนักทั้งหลาย รวมถึงตระกูลขุนนาง ย่อมต้องการเกี่ยวดองกับข้าผ่านทางบุตรสาวมิใช่หรือ ถ้าไม่มีเยี่ยนเอ๋อร์สักคนแล้วใครกัน ที่จะเรียกความสนใจจากคนเหล่านั้น” แม่ทัพใหญ่บอกถึงความสงสัยถึงการตายของบุตรสาว

“จะเป็นใครไปไม่ได้ เพราะในวันนั้นสะใภ้บ้านรองก็คลอดบุตรสาวเช่นกัน หรือเรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับพวกขี้อิจฉาใช่ไหมอากุ่ย”

“คะ คะ คนบ้านรองวางแผนสังหารเยี่ยนเอ๋อร์ของข้างั้นหรือ ฮึก ๆ ทำไมกันนางเพิ่งจะคลอดออกมาจากท้องของข้า พวกเขาจิตใจอำมหิตเกินไปแล้ว ฮือ ๆ เยี่ยนเอ๋อร์ลูกแม่” จางฮูหยินยังคงทำใจกับเรื่องนี้ไม่ได้ ตลอดเวลานับสิบกว่าปีนางเอาแต่โทษตนเอง

“ฮูหยินเจ้าคะทำใจดี ๆ ไว้ก่อนนะเจ้าคะ ถ้าเป็นอย่างที่นายท่านพูดมาแสดงว่าหญิงสาวคนนั้น อาจจะเป็นคุณหนูที่ยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ ก็ได้นะเจ้าคะ” มู่เสียรีบเข้าไปปลอบใจเจ้านาย ที่ยังเสียใจกับการตายของบุตรสาว

“ใช่แล้วอวี้เอ๋อร์ คนของอาเหยียนคิดว่าหมอตำแยนั่น น่าจะทำการสลับร่างเด็กทารก เอาร่างเด็กทารกที่ตายแล้วมาให้เจ้าดู ส่วนเยี่ยนเอ๋อร์ตัวจริงหมอตำแยเป็นคนพานางไป แต่ตัดใจทำร้ายนางไม่ได้ จึงเก็บนางไว้และเลี้ยงดูจนเติบโต และด้วยความรู้สึกผิดหมอตำแยจึงยอมเล่าความจริง ทำให้เยี่ยนเอ๋อร์อยากเดินทางมาเมืองหลวงตามหาพวกเราอย่างไรเล่า” แม่ทัพใหญ่พูดปลอบใจฮูหยินของตน

“ลูกสะใภ้พวกเราคิดไปในทางที่ดีไว้ก่อนเถิดนะ รอให้นางมาถึงเมืองหลวงก็จะได้รู้แล้วว่าใช่เยี่ยนเอ๋อร์หรือไม่” ฮูหยินผู้เฒ่าปลอบใจลูกสะใภ้และปลอบใจตนเองในคราวเดียวกัน

“ฮึก เจ้าค่ะท่านแม่”

“ถือเสียว่าพวกเรายังมีความหวัง และที่อาหยวนไม่กลับมาที่จวน เพราะข้าให้ออกเดินทางไปรอขบวนของอาเหยียนกลางทาง เผื่อว่านางจะติดตามมาด้วย แต่สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือท่านแม่กับอวี้เอ๋อร์ ต้องบำรุงร่างกายให้มากหน่อย หากว่านางคือเยี่ยนเอ๋อร์จริง ๆ ระวังจะไม่มีแรงพูดคุยเล่นกับนางนะ” แม่ทัพใหญ่อ้างเรื่องนี้เพื่อให้สตรีทั้งสองคนทานอาหารให้มากขึ้น

“ท่านแม่ที่ท่านพี่พูดมาก็ถูก ระหว่างนี้พวกเราต้องบำรุงร่างกายกันแล้วนะเจ้าคะ เกิดว่าเยี่ยนเอ๋อร์แข็งแรงมากกว่าคงจะถูกนางกลั่นแกล้งแน่ ๆ เจ้าค่ะ” จางฮูหยินนึกอยากเห็นหญิงสาวคนนั้นเสียแล้ว

“ได้ ๆ แม่ฟังพวกเจ้า เช่นนั้นวันนี้ก็ทานข้าวให้มากหน่อยเถิดนะ”

“แม่นมฮวนประคองท่านแม่ไปที่ห้องอาหารเถิด”

“เจ้าค่ะนายท่าน”

“พวกเราก็ไปกันเถิดฮูหยิน จากนี้ไปเจ้าต้องยิ้มให้มากนะรู้ไหม ยามที่เยี่ยนเอ๋อร์กลับมาจะได้เห็นว่าท่านแม่ของนาง ยามที่มีรอยยิ้มนั้นงดงามน่ามองมากเพียงใด พี่คิดว่าเยี่ยนเอ๋อร์จะต้องเหมือนเจ้าแน่ ๆ” แม่ทัพใหญ่ตกหลุมรักจางฮูหยินก็เพราะรอยยิ้มที่งดงามของนาง

“ท่านพี่ละก็รีบตามท่านแม่ไปได้แล้วเจ้าค่ะ”

แม่ทัพใหญ่รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง ที่เห็นจางฮูหยินเริ่มจะกลับมายิ้มได้ บรรยากาศการทานอาหาร ในเรือนชุ่ยฮวาของบ้านหลัก ช่างอบอุ่นและไม่เครียดพูดคุยเรื่องทั่วไปไม่ติดขัด แต่มันช่างขัดกับอารมณ์ของคนบ้านรองสกุลเจียงยิ่งนัก

บรรยากาศบนโต๊ะทานอาหารของบ้านรองตระกูลเจียง ยามนี้เต็มไปด้วยความน่าอึดอัดเพราะในใจของแต่ละคน ต่างมีแผนการอยากมีอำนาจบารมีมากกว่าเดิมยิ่งตัวของเจียงซูลี่ ที่ทุกวันนี้ใช้เงินหมดไปกับการซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับ เมื่อได้รู้ว่าจากปากบิดาว่าจินกุ้ยเฟยสนใจในตัวนางอยากจะทาบทาม ให้เป็นพระชายารองอีกคนขององค์ชายหก คนในจวนจึงไม่มีใครขัดใจไม่ว่า เจียงซูลี่อยากได้อะไรล้วนตามใจทุกอย่าง

“อาฉินเรื่องที่จินกุ้ยเฟยพูดกับเจ้าเกี่ยวกับลี่เอ๋อร์ พระนางจะกราบทูลกับฝ่าบาทเมื่อใดรึ พวกเราจะได้เตรียมตัวล่วงหน้าไว้ก่อน ยามที่ได้ฤกษ์อภิเษกจะได้ไม่ฉุกละหุกจนเกินไป” ฮูหยินผู้เฒ่าอิ๋นถามกับบุตรชายเพียงคนเดียวของตน

“คงไม่เกินสองสามวันนี้ขอรับท่านแม่ คนของจินกุ้ยเฟยบอกกับข้าอย่างนั้น เนื่องจากระยะนี้ฝ่าบาทมีฎีกาจากพวกขุนนางท้องถิ่นหลายฉบับ จึงมิได้เสด็จไปที่ตำหนักของจินกุ้ยเฟย แต่พระนางรับปากไว้แล้วย่อมไม่ผิดจากที่พูดไว้แน่นอน ท่านแม่วางใจเถิดขอรับ” เจียงกุ้ยฉินยามนี้มีตำแหน่งเป็นรองเจ้ากรมขุนนาง หากว่าเขามิใช่น้องชายของแม่ทัพใหญ่เจียง มีหรือที่จินจือคงจะยอมให้จินกุ้ยเฟยดึงมาเป็นพวก เพื่อใช้ประโยชน์เกี่ยวกับแผนการดึงกำลังทหารของตระกูลเจียง

“ก็ดีหากภายหน้าเจ้าช่วยสนับสนุนองค์ชายหก ขึ้นนั่งบัลลังก์มังกรได้ บ้านรองของเราจะมีอำนาจเหนือบ้านหลักเสียที ข้าไม่อยากเห็นนางเฟยซิ่นเชิดหน้าชูคออยู่เหนือข้าเช่นทุกวันนี้อีกต่อไปแล้ว”

“ท่านแม่อดใจรออีกสักนิดเถิดเจ้าค่ะ เชื่อฝีมือของท่านพี่แม้ว่าลี่เอ๋อร์จะได้เป็นพระชายารองขององค์ชายหก แต่แค่ตำแหน่งนี้ก็เสริมบารมีให้ท่านแม่ดูสูงส่งกว่านางแก่บ้านหลักเป็นไหน ๆ เพราะพวกมันไม่มีหลานสาว เพื่อแต่งกับเชื้อพระวงศ์เหมือนกับท่านแม่อย่างไรล่ะเจ้าคะ” เย่จือเหมยลูกสะใภ้ที่เจียงกุ้ยฉินหามานั้น มีนิสัยคล้ายคลึงกับมารดาของตนอย่างมาก

“จริงด้วยเจ้าค่ะท่านย่า หลานเห็นสภาพที่ไม่น่ามองของพวกนาง คิดว่าอีกไม่นานพวกมันก็น่าจะตาย โดยที่พวกเราไม่ต้องลงมือก็ได้เจ้าค่ะ อี๋ แค่นึกภาพหลานก็ทานอะไรไม่ลงแล้วนะเจ้าคะท่านย่า” เจียงซูลี่ทำท่าทางขยะแขยงคนบ้านหลักดั่งเป็นของสกปรกก็มิปาน

“ท่านแม่ข้าก็เบื่อขี้หน้าคนบ้านหลักเต็มทีเช่นกันขอรับ แต่ว่าข้ากำลังคิดหาวิธีจะส่งคนเข้าไปที่บ้านหลัก เพื่อหาทางจัดการกับพวกมันทั้งสี่คนให้ตกตายภายในสามเดือน หากพวกมันยังอยู่ใต้เท้าจินคงลงมือตามแผนไม่สะดวกนัก ข้าคิดว่าจะส่งสตรีเข้าไปเป็นสาวใช้ และจัดการวางยาพิษนางแก่นั่นพร้อมลูกสะใภ้ หนามยอกอกของข้ากับท่านแม่จะได้หายไปเสียทีขอรับ” เจี้ยกุ้ยฉินเตรียมแผนการนี้มาสักพักแล้ว

“ฮึ ให้พวกมันตายทั้งหมดในเร็ววันได้ยิ่งดี พวกเราจะได้กลายเป็นบ้านหลักแทนและทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมกลายมาเป็นของเราทั้งหมด ข้าจะใช้สมบัติของพวกมันเสวยสุขให้ดู ฮ่า ๆ ๆ” ฮูหยินผู้เฒ่าอิ๋นนับวันรอที่จะได้ครอบครองตระกูลเจียงอย่างเต็มตัวเสียที

แต่เจียงกุ้ยฉินยังไม่รู้ว่ายามนี้ ที่จวนพระราชทานของบ้านหลัก แม่ทัพใหญ่ได้สั่งการเจียงเล่อและพ่อบ้าน ให้ทหารและบ่าวที่ฝึกฝนไว้คอยจับตาดูคนในจวนอย่างใกล้ชิด หากพบว่าใครมีพิรุธให้จับตัวไปไต่สวนทันที ไม่ว่าใครเสนอขายตัวมาเป็นบ่าว ห้ามผู้ใดรับเข้ามาเด็ดขาดถ้าพบว่าใครกล้าขัดคำสั่งลงโทษโบยทันทียี่สิบไม้ และขายออกไปทันที

 นับว่าบ่าวไพร่ในจวนของแม่ทัพใหญ่ยังรู้จักเลือกนาย ไม่สร้างปัญหาให้กับเจ้าของจวน และยังช่วยกันเฝ้าระวังคนแปลกหน้าอยู่เสมอ

เมื่อคนที่เจียงกุ้ยฉินส่งไป ไม่สามารถเข้าไปในจวนบ้านหลักได้ ทำเอาเจียงกุ้ยฉินโมโหถึงขั้นทำลายข้าวของ ลงโทษบ่าวไพร่ด้วยความรุนแรงอย่างไร้เหตุผล แต่กระนั้นก็ยังไม่ล้มเลิกความคิด เขายังคงหาหนทางวางแผนเพื่อกำจัดพี่ชายต่างแม่คนนี้ให้ได้

แต่ที่มากไปกว่านั้นคือเรื่องของเจียงหยวน ที่ออกเดินทางได้ไปถึงหูเสนาบดีจิน จากคนที่คอยจับตาดูสองพ่อลูก แม้จะไม่รู้ว่าเจียงหยวนจะไปที่ใด เสนาบดีจินยังสั่งให้คนติดตามไป และจ้างพวกนักฆ่าที่มีฝีมือตามไปกำจัดเจียงหยวนกลางทางเสีย

Related chapters

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 10 เมืองหลวงรอข้าก่อนเถิด

    ตระกูลเจียงสายหลักและสายรองในเมืองหลวง กำลังต่อสู้กันอยู่อย่างเงียบ ๆ มีเพียงคนที่เป็นสหายเท่านั้น ที่รับรู้ว่าสองพี่น้องต่างแม่เกลียดกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร คนที่เป็นฝ่ายชนะมักจะเป็นแม่ทัพใหญ่อยู่เสมอทางด้านเมืองเฉียนโจว นายกองจั๋วได้เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือเวลาอีกหนึ่งวัน ฟู่หลงเหยียนจะนำตัวนักโทษออกเดินทางเสียที แต่ในต้นยามเฉินฟู่หลงเหยียนก็ได้รับจดหมายจากจิ้งโม่“นายน้อยขอรับจดหมายจากจิ้งโม่น่าจะเพิ่งมาถึง คงเกี่ยวกับเรื่องของคุณหนูอวี้จิ่นนะขอรับ” เฉินอิ่นนำจดหมายออกจากขานกพิราบ ที่บินมาจากเมืองหลวงมอบให้เจ้านายของเขา“อืม ขอบใจ”ฟู่หลงเหยียนรับจดหมายมาเปิดอ่านที่เขียนมาสั้น ๆ แต่สามารถเข้าใจความหมายที่จิ้งโม่บอกมาเป็นอย่างดี‘ตระกูลเจียง คาดว่าทารกถูกสับเปลี่ยนและเป็นแผนร้ายของตระกูลสายรอง สหายของนายน้อยกำลังเดินทางไปสมทบ’“หึ นางเป็นบุตรสาวของตระกูลนี้จริง ๆ สินะ” เมื่อได้รับการยืนยันจากข่าวของจิ้งโม่ ฟู่หลงเหยียนจึงมั่นใจเต็มส่วน ว่าอวี้จิ่นคือบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่ บิดาของสหายของตนอย่างเจียงหยวน“เอ่อ นายน้อยข่าวของจิ้งโม่ว่าอย่างไรบ้างหรือขอรับ เจอตระกูลครอบค

    Last Updated : 2024-11-07
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 11 ข้าคือผู้ฟื้นจากความตาย

    หลังจากเข้ามาในเมืองซวนเหอ ฟู่หลงเหยียนพาอวี้จิ่นเข้าออกร้านเครื่องปรับไปสองร้านแล้ว แต่ว่านางก็ยังไม่เจอสิ่งที่ถูกใจ ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เหมือนกันไปหมด ถึงกับบ่นในใจเงียบ ๆ ว่าคนที่ออกแบบเครื่องประดับไม่คิดลวดลายใหม่ ๆ บ้างหรืออย่างไร ขณะที่ทั้งสามกำลังจะเดินไปร้านใหม่ ก็มีเสียงเอะอะและเสียงร้องไห้ อวี้จิ่นที่ได้ยินเสียงเด็กที่ร้องไห้ก็ออกตัวเดินนำไปก่อนใคร“พวกไร้ประโยชน์!! เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ ให้ช่วยทำงานอะไรก็ไม่ได้เรื่อง พวกเจ้าสองคนทำข้าวของในบ้านข้าเสียหายไปเท่าไหร่แล้ว คิดว่าบ้านข้าร่ำรวยมีเงินซื้อชิ้นใหม่ทุกวันรึ ข้าเลี้ยงพวกเจ้าสองคนพี่น้องไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาต้องตอบแทนบุญคุณ พวกเจ้าถูกซื้อตัวโดยเศรษฐีเย่าแล้วรีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ข้าเหนื่อยจะพูดเต็มทีแล้วนะ!” เสียงสตรีวัยกลางคนที่ตะคอกเด็กสองพี่น้อง ที่ไม่มีการตอบโต้มิหน้ำซ้ำยังถูกทุบตีอย่างทารุณอวี้จิ่นแหวกทางผู้คนเข้ามาก็เห็นสตรีร่างท้วมดูมีอายุ สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาทั่วไปคล้ายชาวบ้าน ที่พอจะมีกินมีใช้กำลังพยายามดึงเชือกที่มัดเด็กชายกับเด็กหญิง พวกเขาน่าจะเป็นพี่น้องกันอายุคงไม่เกินสิบเอ็ดหรือสิบสองหนาว เสื้อผ้า

    Last Updated : 2024-11-08
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 12 นางคือน้องสาวของข้า

    เมื่อจบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองซวนเหอ วันต่อมาขบวนนักโทษจึงออกเดินทางอีกครั้ง แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหลังจากพวกเขาไปแล้ว เริ่มเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง เรื่องที่มีสตรีฟื้นจากความตายพร้อมพรวิเศษเพื่อจัดการคนชั่ว เริ่มแพร่กระจายออกไปตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและมีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อแต่สำหรับฟู่หลงเหยียนเขาเชื่ออย่างสนิทใจกับเรื่องนี้ มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาอยากรู้ว่า เกิดเหตุการณ์อะไรกับอวี้จิ่น ถึงทำให้นางต้องตาย และเหตุผลที่นางได้ฟื้นขึ้นมาจากความตายคืออะไร หรือจะเกี่ยวกับเรื่องที่นางไม่ได้รับความยุติธรรม จากฝีมือของตระกูลเจียงสายรอง แม้อยากรู้รายละเอียดมากเพียงใด ก็ไม่คิดจะถามเพราะนั่นเป็นความลับของนางการเดินทางยังคงเป็นไปอย่างราบรื่น เช่นที่ผ่านมาหลายหัวเมือง ซึ่งพวกเขาใกล้จะถึงเขตของเมืองเหลียนโจว ที่นี่มีเจียงหยวนกับหลี่อี้ที่เดินทางมาถึงได้สองวัน และกำลังพักให้หายเหนื่อยจากการเดินทาง แต่คนเป็นพี่ชายที่จะได้เจอน้องสาว ที่ไม่เคยเห็นหน้ากำลังตื่นเต้นจนชักชวนหลี่อี้ไปเดินหาซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับไว้รอน้องสาว“หลี่อี้เจ้าว่าน้องสาวของข้า นางจะเหมาะกับเสื้อผ้าสีอะไร

    Last Updated : 2024-11-08
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 13 พี่ชายผู้ตามใจน้องสาว

    เมื่อทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย หลี่อี้ที่ไปตามเฉินอิ่นก็เดินเข้ามาพร้อมกันพอดี จึงเริ่มหารือแผนการรับมือนักฆ่าขึ้น“นายน้อย/คุณชาย”“พวกเจ้ามาก็ดีแล้วนั่งลงเถิด ข้ากับอาหยวนมีเรื่องต้องบอกกับพวกเจ้า คืนนี้กำชับทุกคนให้ระวังตัวเอาไว้ เพราะจิ่นเอ๋อร์เห็นว่ามีนักฆ่าติดตามมาเพื่อสังหารอาหยวน และตอนนี้คงหลบซ่อนตัวอยู่ น่าจะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล จากบริเวณจุดพักของพวกเรา ดังนั้นคืนนี้ตงลู่เจ้ามีหน้าที่คอยอารักขาจิ่นเอ๋อร์ที่รถม้า หากมีนักฆ่าหลุดรอดไปถึงที่นั่นฆ่าพวกมันให้หมดส่วนเฉินอิ่นกับอู๋จิ้งแยกกันไปอยู่กับกลุ่มทหาร หลี่อี้เจ้าอยู่กับพวกข้าที่นี่พวกมันต้องแยกกันสังหารทุกคน แต่ตัวหัวหน้ากับลูกน้องบางส่วน คงตรงมาหาอาหยวนที่เป็นเป้าหมายหลัก” ฟู่หลงเหยียนสั่งการแบ่งหน้าที่ เพื่อปกป้องทหารจากเมืองเฉียนโจวด้วย พวกเขายังต้องกลับไปหาครอบครัวเช่นกัน“รับทราบขอรับนายน้อย” เฉินอิ่นที่รู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ย่อมเกิดขึ้นจริง จึงสะกิดสหายให้ทำตามคำสั่งของเจ้านาย เพราะพวกเขายังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองซวนเหอ ตงลู่กับอู๋จิ้งจึงอ่านปากของเฉินอิ่น ที่บอกว่าจะเล่าเรื่องราวให้ฟังทีหลัง“รับทราบขอรับ

    Last Updated : 2024-11-09
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 14 กลับคืนสู่ตระกูลเจียง

    ยามเฉินวันต่อมาขบวนนักโทษของฟู่หลงเหยียน เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้ากลับสู่เมืองหลวงอีกครั้ง หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่นักฆ่าติดตามมา เพื่อสังหารรองแม่ทัพเจียง ทุกคนในขบวนจึงเพิ่มความระแวดระวังมากขึ้น คอยสังเกตผู้คนและบรรยากาศ ที่ทำให้คิดไปในทางร้ายไว้ก่อน แล้วค่อยทำการตรวจสอบอีกครั้ง ว่ามีปัญหาหรือไม่แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีจากเมืองเหลียนโจว ขบวนนักโทษใช้เวลาอีกยี่สิบห้าวัน ในที่สุดก็มองเห็นกำแพงอันกว้างใหญ่ของเมืองหลวงเสีย ผู้คนมากมายที่รออยู่ด้านหน้า ต่างก็หลีกทางให้ขบวนนักโทษ เมื่อมีรองแม่ทัพเจียงเป็นผู้เปิดทางด้วยตนเอง ก่อนจะแยกย้ายไปทำภารกิจของตนให้สำเร็จลุล่วง ฟู่หลงเหยียนไม่ลืมเข้าไปบอกกล่าวกับอวี้จิ่น ที่กำลังตะลึงกับความคึกคักของเมืองหลวงแคว้นจ้าวแห่งนี้“ว้าว! นี่คือเมืองหลวงงั้นหรือผู้คนดูพลุกพล่านไม่น้อยเลยนะเนี่ย”“จิ่นเอ๋อร์”“หืม เจ้าคะพี่ชายฟู่”“เจ้ากลับไปที่ตระกูลเจียงกับพี่ชายของเจ้าก่อนนะ ไว้พี่จัดการเรื่องนักโทษพวกนี้เสร็จสิ้นแล้ว จะไปเยี่ยมเจ้าที่จวนจำที่พี่เคยเตือนไว้ได้หรือไม่เรื่องของตระกูลเจียงสายรองน่ะ”“จำได้สิเจ้าคะ พี่ชายฟู่ไม่ต้องห่วงข้าจะระวังให้มาก หากมีใค

    Last Updated : 2024-11-09
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 15 ฟู่หลงเหยียนอาฆาตสตรี

    วันนี้เป็นที่จางฮูหยินมีความสุขในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากวันนี้นางได้ช่วยบุตรสาวอาบน้ำ ทำความสะอาดเส้นผมรวมถึงทำผมเช่นคุณหนูที่ปักปิ่นแล้ว ด้วยเครื่องประดับราคาแพงและเสื้อผ้าชุดใหม่ ที่ทำจากผ้าไหมชั้นดีจากร้านผ้าชื่อดังแห่งเมืองหลวงเมื่อหญิงสาวที่ไร้เครื่องประทินโฉม หน้าตามอมแมมจากชนบทได้ลอกคราบเก่าทิ้งไป กลายเป็นคุณหนูแห่งจวนแม่ทัพใหญ่เจียง ที่ใบหน้ายามนี้ยิ่งน่ามองกว่าเดิม โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นของนางเมื่อจางฮูหยินได้พาอวี้จิ่นกลับมาพบบิดาและพี่ชายอีกครั้ง บุรุษทั้งสองยังต้องตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงนี้ของนาง แม้แต่เจียงเล่อกับหลี่อี้ก็ยังเห็นด้วยกับเจ้านายของตน ที่ลูกเป็ดขี้เหร่ได้กลายร่างเป็นนางหงส์ไปแล้ว“นะ นี่เจ้าใช่จิ่นเอ๋อร์น้องสาวของข้าจริงรึ ท่านแม่ลอกคราบน้องสาวของข้าจนจำคนก่อนไม่ได้แล้วขอรับ ไม่ได้ ๆ ท่านพ่อข้าไม่ยอมให้น้องสาวออกจากจวนตัวคนเดียวแน่ ท่านพ่อต้องช่วยคัดเลือกสาวใช้หรือองครักษ์ที่มีวรยุทธ์ เพื่อคอยติดตามดูแลจิ่นเอ๋อร์ ยามที่นางออกไปนอกจวนนะขอรับ หาไม่แล้วต้องมีคนหมายตานางเป็นแถวเชียวนะขอรับท่านพ่อ” จางหยวนเห็นความงามของอวี้จิ่น ก็หาพรรคพวกอย่างบิดาของตน เน

    Last Updated : 2024-11-10
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 16 การมาเยือนของตระกูลเจียงสายรอง

    ภายในเรือนชุ่ยฮวาของฮูหยินผู้เฒ่า มารดาของแม่ทัพใหญ่เจียงมีทั้งเสียงหัวเราะและความเอ็นดู สงสารบุตรหลานที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางป่าเขาที่แสนอันตราย ไม่ว่าสิ่งใดก็ต้องลงมือทำด้วยตนเองเท่านั้นไม่มีบ่าวไพร่คอยรับใช้แม้สายตาของทุกคนในเรือนแห่งนี้จะรื้นไปด้วยน้ำตา แต่น้ำเสียงที่บอกเล่าประสบการณ์ชีวิตของตนอย่างอวี้จิ่น กลับไม่มีการเรียกร้องความสงสารจากผู้ใดสักนิด นางเล่าด้วยความภูมิใจที่มีความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรจากยายเฒ่าลิ่ว ฝีมือการทำอาหารที่นางสัญญาว่า จะเข้าครัวทำให้ทุกคนได้ทาน ทุกเรื่องที่ออกจากปากของนางเต็มไปด้วยความสุข“หลานย่าช่างเป็นสตรีที่เข้มแข็งมากจริง ๆ แม้หมอตำแยคนนั้นจะพาเจ้าไป แต่อย่างน้อยนางก็ยังเลี้ยงดูเจ้าให้เติบโต แม้จะลำบากไปสักหน่อยก็ตาม ถือว่านางได้ทำคุณไถ่โทษพวกเราอโหสิกรรมให้นางเถิด ยามนี้นางคงจะไปรับโทษทัณฑ์ในปรโลกแล้วล่ะ แค่ก ๆ ๆ” ฮูหยินผู้เฒ่าพูดจบก็มีอาการไอเล็กน้อยนางเป็นเช่นนี้มาสักพักแล้ว“ท่านแม่!!/ท่านย่า!!”“ไม่เป็นไร ๆ พวกเจ้าไม่ต้องตกใจไปหรอก น่าจะเป็นหวัดเท่านั้นดื่มยาสักสองสามเทียบก็หายแล้วล่ะ”“แม่นมฮวนเจ้าคะท่านย่ามีอาการไอบ่อยแค่ไหนในหนึ่งวัน” อวี

    Last Updated : 2024-11-10
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 17 จับตัวคนร้ายที่วางยาพิษท่านย่า

    ค่ำคืนที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกที่อวี้จิ่นได้นอนหลับอย่างสบายจริง ๆ แม้จะรู้สึกสบายแค่ไหน แต่นางไม่เคยเสียนิสัยยังคงตื่นเช้าเช่นเดิม สาวใช้ที่นำน้ำล้างหน้ามาปรนนิบัติคุณหนูของจวนยังแปลกใจ พวกนางคิดว่าอวี้จิ่นจะลืมตัวนอนตื่นสาย คอยเรียกพวกนางมารับใช้เสียอีกทางด้านตระกูลฟู่นายน้อยของจวน กำลังจะไปยังกรมอาญา เมื่อเห็นว่ายังพอมีเวลาจึงบอกับคนสนิทว่าตนเองนั้น จะแวะไปที่จวนตระกูลเจียงเสียก่อน จากนั้นค่อยไปพบเจ้ากรมอาญาทีหลัง“ข้าจะแวะไปจวนแม่ทัพใหญ่ก่อนพวกเจ้าตามมาก็แล้วกัน”“เอ่อ นายน้อยแต่จวนแม่ทัพใหญ่ อยู่คนละทิศมิใช่หรือขอรับ” อู๋จิ้งถามออกไปโดยที่สหายห้ามไม่ทัน“แล้ว...?” ฟู่หลงเหยียนหันไปมองด้วยสีหน้านิ่งสนิท“นายน้อยบ่าวว่าพวกเรารีบไปเถิดขอรับ เผื่อว่าคุณหนูเจียงจะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ และออกมาเดินเล่นดูตลาดในเมืองหลวงก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้นจะคลาดกันเสียก่อนนะขอรับ” เฉินอิ่นรีบบอกกับเจ้านาย ก่อนที่เขาจะอารมณ์เสียแต่เช้า ยิ่งมีเรื่องของอดีตคนรักมาวุ่นวายเมื่อวานอีกเรื่องถือว่าเฉินอิ่นยังรู้สถานการณ์ มิเช่นนั้นอู๋จิ้งมีหวังถูกลงโทษแน่ ๆ“อืม ถ้าจิ่นเอ๋อร์อยากออกมาเดินเที่ยวเล่น ข้าจะเป็น

    Last Updated : 2024-11-11

Latest chapter

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนพิเศษ 2 แค่สาดผงยาพิษก็ได้สิทธิ์เป็นท่านหญิง

    ฟู่หลงเหยียนและเจียงหยวนยังคงซ่อนตัวอยู่ พวกเขาอยากรู้ว่าสองพี่น้องจะรับมือคนพวกนี้ เพื่อหาทางเอาตัวรอดอย่างไร “พวกเจ้าเอาตัวเด็กสองคนนั่นลงมา อย่ามัวชักช้ายืดยาด หากงานไม่สำเร็จละก็ จะกลายเป็นพวกเราที่ต้องตายแทน” ซานถูลงไปยืนรอยังจุดที่เลือกไว้ สำหรับการขุดหลุมฝังเจียงข่ายเหวินและฟู่เจียฉี“ถุ้ย!! อย่าเอามือสกปรกของเจ้ามาถูกตัวน้องสาวข้า” เจียงข่ายเหวินตะคอกลูกน้องซานถูทันที เมื่อมือหยาบนั้นกำลังจะดึงตัวฟู่เจียฉี ออกไปจากอ้อมกอดของตน“เหวินเกอไม่ต้องกลัวนะ ฉีเอ๋อร์จะปกป้องท่านเองเจ้าค่ะ” ฟู่เจียฉีมิใช่เด็กหญิงตัวน้อยขี้แย เพราะมีบิดาคอยสอนให้เข้มแข็งมีสติ ถึงจะเป็นเด็กแต่เมื่อมีสติก็สามารถเอาตัวรอดได้“ฮ่า ๆ ๆ ลูกพี่ดูเจ้าเด็กสองคนนี่สิ ช่างเป็นญาติพี่น้องที่รักกันดีเสียเหลือเกิน” เกาจิ่งหัวเราะกับท่าทางของฟู่เจียฉี“เหอะ ก็คงเห็นตัวอย่างจากบิดมารดากระมัง เร็ว ๆ ๆ พาตัวลงจากรถม้าได้แล้ว ยังต้องขุดหลุมอีกพวกเจ้าอย่าลืมสิ” ซานถูเร่งลูกน้องของตนให้ทำตามคำสั่งขณะที่เกาจิ่งหันไปพูดคุยกับซานถู ฟู่เจียเฟยได้หยิบห่อยาพิษที่บิดาเพิ่งมอบให้ ก่อนจะแบ่งให้เจียงข่ายเหวินอีกสองห่อ เด็กชายมองหน้า

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนพิเศษ 1 ญาติผู้พี่กับญาติผู้น้อง

    ณ จวนตระกูลเจียงหลังจากอวี้จิ่นออกเรือนแต่งเข้าตระกูลฟู่ ลูกสะใภ้ของตระกูลเจียงอย่างจ้าวเจียเฟย ก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชาย ซึ่งในอนาคตเขาขคือผู้สืบทอดตระกูลเจียงต่อจากบิดา ชื่อของหลานชายฮ่องเต้ผู้เป็นเสด็จตา ประทานนามให้ว่า ‘ข่ายเหวิน’ หมายถึง ผู้ชนะและมีความรู้ และชื่อนี้ก็เข้ากับลักษณะนิสัยของเจ้าตัวน้อยได้เป็นอย่างดีนอกจากมารดาจะเป็นที่โปรดปรานแล้ว เมื่อให้กำเนิดหลานชายย่อมได้รับความโปรดปราน ไม่ต่างจากผู้เป็นมารดาเช่นกัน สร้างความอิจฉาริษยาให้กับองค์ชายองค์หญิงที่มีหลานให้กับฮ่องเต้ องค์ชายองค์หญิงที่รู้จักประมาณตน จะอบรมสั่งสอนบุตรของตนให้รักญาติพี่น้อง แต่สำหรับคนที่จิตใจดำมืดเกินเยียวยา ย่อมสั่งสอนและปลูกฝังความริษยาลงในจิตใจของบุตร ตระกูลเจียงมีทายาทแล้ว ทางด้านตระกูลฟู่จะไม่มีได้อย่างไร หลังจากเจียงข่ายเหวินอายุได้สองหนาว อวี้จิ่นแต่งเข้าจวนฟู่ได้ครึ่งปีก็ตั้งครรค์ และให้กำเนิดบุตรสาวนามว่าฟู่เจียฉี หากจะกล่าวว่าญาติผู้พี่เจียงข่ายเหวินหล่อเหลาตั้งแต่เยาว์วัย ญาติผู้น้องอย่างฟู่เจียฉีจะน้อยหน้าได้หรือ เด็กหญิงเกิดมาพร้อมกับดวงหน้ารูปหยดน้ำ จมูกโด่งได้รูปรับกับใบหน้า ริ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 61 งานแต่งธรรมดาแต่ท่านเทพจะมาทำไมเจ้าคะ (จบ)

    หลังจากตระกูลฟู่และตระกูลเจียง ได้แลกหนังสือหมั้นหมายของบุตรชายบุตรสาว ข่าวลือเรื่องทั้งสองตระกูลจะเกี่ยวดองกัน ก็แพร่กระจายไปตามร้านรวงต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว คนที่อวยพรให้ทั้งสองสุขสมก็มีอยู่มาก คนที่อิจฉาริษยาก็มีไม่น้อย ล้วนเป็นสตรีที่ยังไม่ออกแต่แล้วอย่างไรในเมื่อฟู่หลงเหยียนมิได้สนใจ พวกนางก็เป็นได้แค่เศษฝุ่นที่ลอยไปกับสายลมเท่านั้น เพราะในสายตาของฟู่หลงเหยียน ไม่เคยละไปจากคู่หมั้นที่เริ่มจะเปล่งประกายความงามหลังจากนั้นอีกสามเดือนต่อมา ปรากฏว่าองค์หญิงใหญ่ตั้งครรภ์ อย่างที่อวี้จิ่นเคยบอกพวกเขาเอาไว้จริง ๆ เจียงหยวนแอบไปพบน้องสาว เพราะเขาอยากรู้ว่าเด็กในครรภ์องค์หญิงใหญ่ เป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง เขาจะได้เตรียมรับมือบุตรคนได้ถูก พอได้รู้ว่าตนเองจะได้บุตรชาย การวางแผนเลี้ยงดูจึงถูกคิดขึ้นทันทีตั้งแต่อวี้จิ่นกลายเป็นคู่หมั้นของหัวสำนักตรวจการ หากไม่มีภารกิจลับและออกเดินทางไปต่างเมือง ข้างกายของอวี้จิ่นย่อมมีบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำ นามว่าฟู่หลงเหยียนอยู่กับนางเสมอ จนเหล่าบุรุษที่มั่นใจว่าตนเองหน้าตาหล่อเหลา ต้องวิ่งหาที่หลบแทบไม่ทัน แค่ฟู่หลงเหยียนจ้องมองพวกเขาก็หายไม่ออกกันแล้วทุก

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 60 หมั้นหมายอย่างเป็นทางการ

    ฟู่หลงเหยียนพาอวี้จิ่นกลับมาส่งที่จวน ภายหลังที่พลุถูกจุดจนหมดเรียบร้อยแล้ว ด้วยตอนมาร่วมงานเขานั่งรถม้า ยามนี้จำเป็นต้องยืมเจ้าเสี่ยวหงกลับจวนไปก่อน และค่อยนำมันมาคืนอวี้จิ่นทีหลังอวี้จิ่นยืนส่งฟู่หลงเหยียนขี่เจ้าเสี่ยวหง จนแผ่นหลังของเขาหายลับไปจากสายตา ถึงได้เดินเข้าจวนอย่างอารมณ์ดี ทำให้คนเดินตามหลังอย่างตงลู่กับเฟยอิน เอ็นดูกับท่าทางที่เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเขินอาย อยากจะหัวเราะแต่ต้องอดกลั้นเอาไว้แต่พอมาถึงเรือนของตนอวี้จิ่นพบว่า เป่าจูสาวใช้ของพี่สะใภ้ กำลังเดินไปมาชะเง้อมองหาใครอยู่ “หืม นั่นใช่พี่เป่าจูสาวใช้ของพี่สะใภ้ใช่ไหมพี่เฟยอิน”“ใช่จริง ๆ ด้วยเจ้าค่ะคุณหนู ว่าแต่นางมาทำอะไรที่เรือนของท่าน ยามนี้มิใช่ต้องอยู่รอรับใช้องค์หญิงใหญ่หรอกรึ?”เป่าจูเมื่อเห็นอวี้จิ่นกลับมาที่เรือน จึงสาวเท้าไปหานางดั่งพายุ สร้างความงุนงงจนอดคิดไม่ได้ว่า จะเกิดเรื่องอันใดที่เรือนของพี่ชายตนหรือไม่“คุณหนูเจียงในที่สุดท่านก็กลับมาเสียทีเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของเป่าจูดูร้อนรนแปลก ๆ“พี่เป่าจูท่านมารอพบข้ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่เจ้าคะ”“คือบ่าวมารอพบคุณหนูที่นี่ เพราะมีเรื่องจะรบกวนท่านจริง ๆ เจ้าค่ะ”“พี่เ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 59 งานมงคลกับคนสารภาพรัก

    ซีอ๋องอยู่ร่วมงานเลี้ยงชนะสงครามเท่านั้น อีกสองวันต่อมาจึงออกเดินทางพร้อมหีบยาจำนวนมาก ยังมีเมล็ดพันธุ์ผักที่อวี้จิ่นใจดีมอบให้อีกหนึ่งหีบ ที่สำคัญทรงอยากกลับไปชำระความ กับสตรีชั่วที่ปองร้ายบุตรชายเพียงคนเดียวของตน ซึ่งตอนนี้นางกำลังตั้งตนเป็นเจ้าของตำหนักอ๋อง จนลืมไปว่านางเป็นแค่ชายารองเท่านั้นข่าวลือที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว เรื่องฤกษ์มหามงคลที่มีขึ้น ในอีกสามสัปดาห์ต่อจากนี้ ทำเอาวังหลวงวุ่นวายจนเวียนหัว เพื่อเตรียมงานอภิเษกสมรสขององค์หญิงใหญ่ พระธิดาคนโปรดของฮ่องเต้ให้ออกมาดีที่สุด ห้ามขาดตกบกพร่องแม้แต่นิดเดียวส่วนตระกูลเจียงถือว่าโชคดีมาก ที่อวี้จิ่นได้บอกมารดาไว้ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างในจวนจึงพร้อมต้อนรับสะใภ้ใหญ่ หลังจบงานเลี้ยงวันถัดมายามปลายยามเฉิน ขบวนสินสอดนับร้อยหีบผูกด้วยผ้าสีแดง พร้อมสามหนังสือหกพิธีการนำไปส่งมอบให้กับฮองเฮา ก็ทยอยออกจากจวนตระกูลเจียงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงทันทีชาวบ้านสองข้างทางต่างหยุดมอง และเริ่มพูดถึงเรื่องสมรสพระราชทานอีกครั้ง ตระกูลใดที่รอจัดงานพร้อมแม่ทัพเจียง ต่างเร่งจัดเตรียมข้าวของเรือนหอ อาหารการกินที่ต้องใช้เลี้ยงแขกในงาน เผื่อว่าการแต่งงานในฤก

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 58 ขอรางวัลสมรสพระราชทาน

    หลังจากหวาอานส่งจดหมายกลับไปยังเหอหยาง เมื่อแม่ทัพเสียนมู่ได้อ่านเนื้อหาในจดหมาย จึงนำกำลังทหารบางส่วนมุ่งหน้าไปยังจวนซีอ๋อง เพื่อรับตัวซื่อจื่อมาดูแลเป็นการชั่วคราว คราแรกพระชายารองไม่ยินยอม แต่พอได้เห็นป้ายผู้แทนของซีอ๋อง ที่อยู่ในมือของแม่ทัพเสียนมู่แล้ว ถึงได้ยอมปล่อยซื่อจื่อให้แม่ทัพเสียนมู่พาตัวกลับจวนส่วนเจ้าของคำสั่งที่พักอาศัยในจวนแม่ทัพใหญ่ ได้เห็นแปลงผักที่หลากหลายก็เกิดความสนใจ ซีอ๋องคิดว่าหากกองทัพหรือราษฎรที่เหอหยาง สามารถปลูกพืชผักได้เช่นจวนแม่ทัพใหญ่ ย่อมมีเสบียงสำรองมากพอยามฤดูเหมันต์มาเยือน ทุกคนต้องผ่านความอดอยากได้แน่เมื่อซีอ๋องถามกับบ่าวไพร่เรื่องการปลูกผัก คำตอบที่ได้ก็เกี่ยวกับบุตรสาวแม่ทัพใหญ่อีกแล้ว จนกระทั่งได้มานั่งพูดคุยเรื่องการค้า ซีอ๋องจึงถือโอกาสสอบถามอวี้จิ่นเรื่องผักที่ปลูกด้วยเสียเลย“คุณหนูเจียงเรื่องสัญญาการค้ายาสมุนไพร เปิ่นหวางยินดีทำตามข้อเสนอของเจ้า เพียงแต่ว่ามีอีกเรื่องที่เปิ่นหวางอยากรู้”“ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ยอมทำการค้า กับร้านยาเล็ก ๆ ของหม่อมฉันเพคะ ว่าแต่ท่านอ๋องทรงอยากทราบเรื่องอันใดหรือเพคะ”“เปิ่นหวางอยากถามเกี่ยวกับวิธีปลูกผัก ให้ไ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 57 บิดาและพี่ชายกลับมาพร้อมแขกสูงศักดิ์

    เรื่องราวที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงบุปผาในวังหลวง ถูกพูดถึงในเช้าวันต่อมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องของเลี่ยวหลวนเฉิน สมรู้ร่วมคิดกับโจรหยางเสวียน กดขี่ข่มเหงขูดรีดเงินภาษีจากชาวเมืองซุยโจว เมื่อถึงเวลานำตัวทาสทุกคนออกเดินทาง จึงใช้เวลานานกว่าทุกครั้งเพราะผู้คนสองข้างทาง ต่างเฝ้ารอขว้างปาสิ่งของและด่าทอสาปแช่ง กว่าจะหลุดพ้นจากประตูเมืองหลวง ก็บาดเจ็บกันไปไม่น้อยกับทาสทั้งหลายหลังจากงานเลี้ยงจบลงได้ไม่ดีเท่าใดนัก อีกสามวันต่อมารัชทายาทจ้าวเจาเยี่ยน ก็กลับมาจากการทำภารกิจตามราชโองการ แต่รัชทายาทกลับไปชำระล้างพระวรกายที่ตำหนักบูรพา จากนั้นจึงเสด็จไปเข้าเฝ้ากราบทูลรายงานต่อพระบิดา“ถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ลุกขึ้นเถิดรัชทายาท เจ้าเพิ่งกลับมาถึงเช่นนั้นรึ” ฮ่องเต้ทรงเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของโอรสก็ทรงทราบแล้ว“พ่ะย่ะค่ะ ลูกเพิ่งกลับมาถึงเมื่อยามซื่อ และต้องการรายงานเรื่องน้ำที่เมืองสุยโจวพ่ะย่ะค่ะ” รัชทายาทมิอาจรั้งรอได้นาน เนื่องจากต้องรีบคัดเลือกขุนนางไปรับตำแหน่งเจ้าเมือง“ปัญหาเรื่องน้ำที่เมืองสุยโจวเป็นอย่างไร สาเหตุเกิดจากภัยธรรมชาติหรือฝีมือของมนุษย์กันแน่”“ทูลเสด็จพ่อเป็น

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 56 งานเลี้ยงบุปผาหรืองานเลี้ยงหงเหมิน

    ภายหลังที่ได้หลักฐานและล่วงรู้แผนชั่วแล้ว ฟู่หลงเหยียนมาส่งอวี้จิ่นด้วยวิธีเดิม และไม่ลืมพูดถึงเรื่องงานเลี้ยงบุปผา ที่ฮองเฮาจะจัดขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้า เขาบอกให้อวี้จิ่นและมารดารออยู่ที่จวน แล้วเขาจะเป็นคนมารับอวี้จิ่นด้วยตนเองพอกลับมาถึงจวนฟู่หลงเหยียนย่อมไปพบบิดา เพื่อบอกเล่าแผนการของเลี่ยวหลวนคุน และยังมีหลักฐานที่สายของตนได้มา“ก๊อก ๆ ๆ ท่านพ่อข้าเองขอรับ”“เข้ามาเถิดอาเหยียน”เมื่ออนุญาตให้บุตรชายเข้ามาในห้องหนังสือได้ ก็มีห่อผ้าวางลงตรงหน้าของฟู่กั๋วกง คำถามจึงเกิดจากสายตาโดยไม่ต้องมีคำพูด“เรียนท่านพ่อ ในห่อผ้านี้เป็นสมุดบัญชีที่ใต้เท้าเลี่ยว แอบนำไปฝังไว้ใต้ดินหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม สายของเราที่อยู่ในจวนสังเกตเห็นท่าทางมีพิรุธ ถึงได้ตามไปเงียบ ๆ จากนั้นก็ขุดมันออกมามอบให้ข้าขอรับ”“หมายความว่าสิบปีที่ผ่านมา ใต้เท้าเลี่ยวติดต่อกับโจรป่าหยางเสวียน และแบ่งปันทรัพย์สินจากการปล้น รวมถึงเงินที่เก็บภาษีจากชาวบ้านด้วยงั้นรึ” ฟู่กั๋วกงไม่คิดมาก่อนว่าใต้เท้าเลี่ยว จะเก็บซ่อนความลับนี้ได้นานถึงสิบปี โดยไม่มีผู้ใดระแคะระคายแม้แต่น้อย“คาดว่าจะเป็นเช่นที่ท่านพ่อพูดมาขอรับ ส่วนเรื่อง

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 55 ว่าที่พี่สะใภ้ข้าใครก็ห้ามแย่ง

    หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลเศรษฐีม่าย เมื่อพยานอย่างม่ายจิ่นเม่ยให้การกับใต้เท้ากวน และลูกน้องทั้งสองของท่านหมอซัง ยอมสารภาพทุกอย่างต่อใต้เท้ากวน เพราะพวกเขาถูกดวงวิญญาณหญิงสาว ตามมาคอยหลอกหลอนจนนอนไม่หลับ ไหนจะความเจ็บปวดจากยาพิษของอวี้จิ่น ทำให้พวกเขาอยากตายเพื่อหลุดพ้นความทรมานเมื่อมีทั้งพยานที่ยังรอดชีวิตและคำสารภาพ จากคนเป็นลูกน้องของซังปินจีทั้งสองคน โทษประหารชีวิตย่อมเกิดขึ้นแน่นอน เพียงแค่ก่อนจะลงดาบประหารนั้น ใต้เท้ากวนได้ให้ทั้งสามคนได้รู้ซึ้งถึงความทรมาน ของหญิงสาวที่ตกตายด้วยน้ำมือของพวกเขาเสียก่อน ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ทำการแขวนคอนักโทษ พอใกล้จะขาดใจก็หย่อนเชือกให้หายใจต่อ ทำเช่นนั้นอยู่ถึงสามครั้งถึงจะนำตัวไปตัดหัว“เจ้าหมอชั่วจงตกนรกอย่าได้กลับมาเกิดเป็นคนอีกเลย”“ถ้าพวกเจ้ากลับมาเกิดขอให้เป็นสัตว์เดรัจฉาน ที่เป็นเหยื่อให้สัตว์ใหญ่ไล่ล่ากินเนื้อพวกเจ้า”“สงสารหญิงสาวที่ต้องตายเพราะคนชั่วจริง ๆ ขอให้พวกเจ้าไปสู่สุขคติด้วยเถิด”ในวันประหารชีวิตมีชาวบ้านไม่น้อยมามุงดู หนึ่งในนั้นย่อมเป็นครอบครัวตระกูลม่าย ที่ได้รับความเป็นธรรมและยังมีชีวิตอยู่ต่อไปก่อนครอบครัวตระกูล

DMCA.com Protection Status