Home / โรแมนติก / แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ / ตอนที่ 4 หัวใจที่ด้านชากลับมาเต้นแรงอีกครั้ง

Share

ตอนที่ 4 หัวใจที่ด้านชากลับมาเต้นแรงอีกครั้ง

last update Last Updated: 2024-11-03 01:47:11

ระหว่างการเดินทางจากเมืองจ้าวโจวใช้เวลาถึงเจ็ดวัน กว่ารถม้าจะพาอวี้จิ่นมาถึงเมืองเฉียนโจว ที่ดูจะคึกคักไม่น้อยมีผู้คนเดิน

สวนทาง เข้าออกเมืองกันอย่างคับคั่ง ทั้งพ่อค้าแม่ค้าหรือนักเดินทาง

จากต่างแคว้น แต่ถึงบรรยากาศยามกลางวันดูผู้คนพลุกพล่าน

ใช้ชีวิตกันอย่างปกติทั่วไปเหมือนเมืองอื่น ๆ หากเมื่อใดใกล้ถึงยามค่ำคืนในเมืองเฉียนโจวกลับเงียบสนิท และเป็นครั้งแรกที่อวี้จิ่นรู้สึกว่า

ที่เมืองเฉียนโจวมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้น

“แม่นางน้อยพวกเรามาถึงเมืองเฉียนโจวแล้วขอรับ ข้าคง

ส่งท่านถึงแค่หน้าประตูเมืองเท่านั้น หวังว่าท่านจะไม่โกรธนะขอรับ”

คนบังคับรถม้าไม่อยากค้างคืนที่นี่ เพราะข่าวลือเรื่องยามค่ำคืนที่น่ากลัว

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านลุง ขอบคุณท่านมากที่มาส่งข้าว่าแต่ทำไมท่านลุง ไม่พักเหนื่อยที่เมืองเฉียนโจวเสียก่อนล่ะเจ้าคะ เดินทางมาตั้งไกลม้าเองก็น่าจะเหน็ดเหนื่อยไม่น้อยนะเจ้าคะ” อวี้จิ่นสงสัยกับสายตา

ที่ดูหวาดกลัวบางอย่าง

“เอ่อ ฮ้าย! หากข้าพูดให้แม่นางน้อยฟังแล้ว ท่านต้องมีสติ

ให้ดี ที่ข้าไม่อยากพักที่เมืองเฉียนโจวเป็นเพราะว่ามีข่าวลือเกิดขึ้น ในยามกลางคืนมักจะมีผีสาวนางหนึ่งออกอาละวาด และสังหารบุรุษเพื่อดูดพลังดังนั้นคืนนี้ถ้าท่านรู้สึกถึงความเงียบสงัดก็อย่าได้แปลกใจไปล่ะ”

“ห๊ะ!! ผีสาวออกอาละวาดฆ่าบุรุษดูดพลังวิญญาณ เอ่อ ฟังแล้วมันไม่น่าจะเป็นไปได้นะเจ้าคะท่านลุง แล้วทางการว่าอย่างไรบ้าง

มีการตรวจสอบไหมเจ้าคะ ว่าเป็นฝีมือผีหรือว่าฝีมือของคนที่อุปโลกน์ขึ้นมา เพื่อทำการบางอย่างโดยใช้สถานการณ์นี้บังหน้าก็ได้นี่เจ้าคะ”

อวี้จิ่นชอบดูหนังหรือซีรี่ย์แนวสืบสวน แบบมีกำลังภายในเหาะไปเหาะมามาก ๆ เพราะเธอรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายดี

“แม่นางน้อยเจ้าอย่าพูดเสียงดังไป มิเช่นนั้นจะถูกเพ่งเล็งเอาได้ ข้าจะบอกให้ว่าเรื่องนี้แม้แต่ทางการ หรือเจ้าเมืองยังไม่สนใจ ทำงาน

แค่สุกเอาเผากินไปวัน ๆ ยิ่งมีเรื่องน่ากลัวด้วยแล้ว ก็เอาแต่กลัวหัวหด

นอนคลุมโปงอยู่ในจวนนั่นแหละ ชาวบ้านถึงไม่มีใครออกมาเดิน

ในยามค่ำคืนอย่างไรเล่า หากท่านหาที่พักได้เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า อย่าออกมาข้างนอกเด็ดขาด ข้าเตือนเพราะหวังดีกับท่านจริง ๆ ตอนนี้

ก็ไม่เช้าแล้วข้าขอตัวเดินทางกลับก่อนล่ะนะแม่นางน้อย ขอให้เจ้าโชคดีเดินทางถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัย”

“ขอบคุณท่านลุงมากเจ้าค่ะ ขอให้ท่านลุงสุขภาพแข็งแรง

อายุยืนยาวเช่นกันนะเจ้าคะ” อวี้จิ่นไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องภูตผีวิญญาณอาละวาด แต่นางก็รับฟังเป็นความรู้เอาไว้เผื่อจะใช้ตีสนิทชาวบ้านได้

แต่คำพูดของอวี้จิ่นทำให้บุรุษที่อยู่ในชุดผ้าคลุมสีดำ

ปกปิดใบหน้าและนั่งอยู่บนหลังม้าตัวใหญ่ ที่หยุดอยู่ไม่ไกลเขาได้ยินทุกคำพูดของนาง และมันเป็นสิ่งที่เขาเองก็คิดคล้าย ๆ กับนางเช่นกัน

“ตงลู่..”

“ขอรับนายน้อย”

“ตามนางไป รอดูจนแน่ใจว่านางมาคนเดียวหรือนัดพบใครหรือไม่ พักอยู่ที่ไหนแล้วกลับมารายงานข้าโดยเร็วที่สุด”

“รับทราบขอรับนายน้อย”

เมื่อตงลู่ได้รับคำสั่งจากเจ้านาย ก็แยกตัวเดินตามอวี้จิ่นทันที และเจ้านายที่ออกคำสั่งนี้มิใช่ใครที่ไหนเขาคือ ‘ฟู่หลงเหยียน’ หัวหน้าสำนักตรวจสอบของฮ่องเต้ บุตรชายคนโตทายาทจวนไคกั๋วกง ที่มีบิดาเป็นถึงอัครมหาเสนาบดี มารดาเป็นบุตรสาวของนายท่านเซี่ย

แห่งหนานเจียง เจ้าของท่าเรือขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นจ้าว

ครั้งนี้ฟู่หลงเหยียนได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ รับสั่งให้เดินทางมาหาสาเหตุของข่าวลือเรื่องผีสาวในเมืองเฉียนโจว

ที่สำคัญฟู่หลงเหยียนที่คิดว่า เรื่องนี้มีจุดน่าสงสัยอยู่พอได้ยินสิ่งที่อวี้จิ่นพูดออกมา ยิ่งทำให้เขาสนใจมากกว่าเดิม แต่ที่แปลกไปกว่า

ทุกครั้งคือเขากลับรู้สึกใจสั่นอย่างแรง เมื่อเห็นใบหน้าพร้อมรอยยิ้ม

ของสตรีร่างบาง ที่มีความคิดเหมือนกับเขาเสียอย่างนั้น ทั้งที่ความรู้สึกนี้หายไปเกือบสิบปีตั้งแต่สตรีที่เขาพึงใจ ยอมแต่งงานเพื่อเพิ่มอำนาจให้กับตระกูล ฟู่หลงเหยียนไม่อยากเชื่อว่ามันกำลังเกิดขึ้นกับเขาอีกครั้ง และยังเป็นเด็กสาวหน้าตาธรรมดา แต่มีอำนาจต่อหัวใจของเขาเสียเหลือเกิน

ด้านอวี้จิ่นที่ไม่รู้ตัวว่ายามนี้มีคนกำลังติดตามตนเอง ก็เดิน

มาหาห้องพักที่โรงเตี๊ยมระดับกลาง ที่ราคาไม่แพงนัก หองพักส่วนตัว

ของอวี้จิ่น อยู่บนชั้นสองห้องริมสุดทางเดิน ตงลู่ที่ติดตามมาจึงเฝ้าสังเกตอยู่เงียบ ๆ รอดูว่าจะมีใครมาพบกับอวี้จิ่นหรือไม่ แต่ระหว่างที่เฝ้าดู

ตงลู่ได้ยินเสียงพึมพำพูดกับตนเองของสตรีในห้องอย่างชัดเจน

“เฮ้อ เหนื่อยใช่ย่อยเลย ถึงจะนั่งรถม้าก็เมื่อยเอาเรื่องนะเนี่ย

ถ้ามีรถม้าหรือขี่ม้าเองน่าจะถึงเมืองหลวง ภายในสองเดือนก็ได้นะ

แต่ไปถึงเร็วก็ยิ่งดีไม่ใช่หรือไร จะได้ตามหาครอบครัว จากนั้นก็จัดการ

สองผัวเมียชั่วช้านั่นให้ได้รับโทษอย่างสาสม ถ้าพวกเขายินดีต้อนรับก็ดีหากไม่ยอมรับก็ดีอีกเช่นกัน ถึงจะมีเจ้าหยกชิ้นนี้ช่วยยืนยันตัวตน แต่ใช่ว่าคนที่เห็นจะเชื่อในทันที ไม่น่าจะเป็นไปได้ ช่างเถิดถึงเวลาก็รู้เองว่า

จะเป็นอย่างไร

อืม แต่เรื่องผีสาวในข่าวลือที่ว่านี่ มันไม่แปลกไปหน่อย

หรือไงนะ มีคนถูกฆ่าตายแต่เจ้าเมืองกลับเพิกเฉย ไม่สืบหาความจริง

แล้วยังจะทำตัวขี้ขลาดตาขาว หลบอยู่แต่ในจวนเช่นนั้นอีก ข้าไม่เชื่อ

หรอกว่าเรื่องนี้จะไม่มีคนชักใยอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้นอนพักเอาแรง

สักหน่อยน่าจะดี กลางดึกจะได้พิสูจน์ความจริงกันว่า เป็นฝีมือผีหรือคน ฮ่า ๆ ๆ” พอคิดได้ดังนั้นอวี้จิ่นเช็ดหน้าเช็ดตา ก่อนจะนอนพักผ่อน

และหลับไปอย่างรวดเร็ว ด้วยอาการอ่อนเพลียจากการเดินทาง นางต้องแข็งแรงถึงจะไปจนถึงเมืองหลวง

ตงลู่จดจำสิ่งที่อวี้จิ่นพูดไว้ทุกคำเขาเฝ้าดูจนแน่ใจแล้วว่า คนที่เจ้านายให้ติดตามมา มิได้นัดพบผู้ใดและนางก็เดินทางตัวคนเดียวเท่านั้น

‘นางจะไปเมืองหลวงตัวคนเดียวเชียวรึ แล้วยังจะไปพิสูจน์

เรื่องผีสาวกลางดึกอีกใจกล้าไม่เบา หากนายน้อยรู้ว่านางจะออกไป

ข้างนอกยามดึก จะยังให้ข้าติดตามนางไปอีกครั้งหรือไม่นะ’

แน่นอนว่าฟู่หลงเหยียนเข้าพักที่โรงเตี๊ยมอันดับหนึ่งของเมือง เนื่องจากมีความเป็นส่วนตัวสูงแขกของที่นี่ ล้วนมีฐานะร่ำรวยทั้งสิ้น

อู๋จิ้งที่สังเกตเห็นอาการผิดปกติของเจ้านาย จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“นายน้อยตอนนี้ไม่ทราบว่า ท่านยังรู้สึกใจเต้นแรงอยู่หรือไม่ขอรับ หากยังไม่หายบ่าวจะได้ไปตามท่านหมอมาตรวจดูอาการให้ขอรับ”

“ข้าไม่ได้เป็นอะไรเจ้าอย่าได้กังวลจนเกินไปนัก ยามนี้ควรมุ่ง

ไปที่ข่าวลือของเมืองเฉียนโจวมากกว่าสิ่งใด” ฟู่หลงเหยียนบอกปัด

และพูดถึงเรื่องงานแทน

“อ่อ แล้วที่นายน้อยให้ตงลู่ติดตามคุณหนูคนนั้น เพราะเหตุใดหรือขอรับ บ่าวดูท่าทางของนางไม่น่าจะเป็นพวกมีแผนการร้ายอันใด”

“เพราะนางมีความคิดคล้าย ๆ กับข้า เกี่ยวกับเรื่องข่าวลือนั่น บางทีที่นี่มิได้มีภูตผีตั้งแต่แรกแต่เป็นฝีมือของคนร้าย ที่ต้องการใช้เรื่องนี้บังหน้าและทำเรื่องผิดกฎหมายลับหลังมากกว่า” ฟู่หลงเหยียนไม่เชื่อว่าจะมีภูตผีอยู่จริง

“บ่าวเข้าใจแล้วขอรับ” อู๋จิ้งเพิ่งจะนึกออกว่าคำพูดของอวี้จิ่น

ที่พวกเขาได้ยินทำให้ทุกคนมั่นใจ เกี่ยวกับข่าวลือมากขึ้นไปอีก

ว่าเป็นน้ำมือของคนที่ต้องการอำพรางบางสิ่งไว้เบื้องหลัง

“หากเบื้องหลังเรื่องนี้เกี่ยวกับการลักลอบค้าเกลือเถื่อน ที่สายของเรารายงานมาแต่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด ว่าผู้บงการตัวจริงคือผู้ใดเพราะพวกลูกน้องที่จับตัวได้ไม่ยอมรับสารภาพ ครั้งนี้นายน้อยอาจต้องใช้เวลาสืบหา ที่ซ่อนของหลักฐานนานกว่างานอื่นนะขอรับ” เฉินอิ่นเห็นด้วยกับเจ้านายว่าเรื่องนี้มีเบื้องลึกไม่ธรรมดา

“อืม ที่น่าสงสัยในตอนนี้คงไม่พ้นเจ้าเมือง ที่ไม่ทำการทำงาน นั่งกินนอนกินเงินเบี้ยหวัดไปวัน ๆ ดูท่าแล้วคงรับสินบนใต้โต๊ะบ่อย

จนเคยตัวกระมัง” งานของเขาที่เมืองเฉียนโจว คงได้กำจัดขุนนางกังฉินหลายคนพร้อมกันเป็นแน่

ขณะที่ฟู่หลงเหยียนกำลังพูดคุยเรื่องข่าวลืออยู่นั้น ตงลู่

ก็กลับมาเพื่อรายงานเรื่องเกี่ยวกับอวี้จิ่นให้เจ้านายได้ทราบ

“ก๊อก ๆ ๆ นายน้อยบ่าวตงลู่ขอรับ”

“เข้ามาเถิด”

แอ๊ดดด ปึก

“ได้อะไรกลับมาบ้างเล่าออกมาให้หมด”

“เรียนนายน้อยคุณหนูผู้นั้นมิได้นัดพบกับใครที่นี่ นางแค่แวะพักเพื่อจะเดินทางเข้าเมืองหลวง ไปตามหาครอบครัวขอรับ บ่าวได้ยินนางพูดอีกว่า ถึงมีหลักฐานใช้ยืนยันตัวตนของนางได้ แต่ถ้าครอบครัวไม่ยอมรับว่านางเป็นบุตรสาว ก็จะไม่ร้องขอความเห็นใจแต่จะออกเดินทาง

ไปท่องเที่ยวทั่วแคว้นจ้าวแทนขอรับ” ตงลู่รายงานสิ่งที่ได้ยินให้เจ้านายฟัง

“หืม ตามหาครอบครัวที่เมืองหลวงด้วยตัวคนเดียวน่ะหรือ

นางมีหลักฐานอันใดในมือ ที่สามารถใช้ยืนยันการบุตรสาวของครอบครัวได้งั้นรึต่งลู่” ฟู่หลงเหยียนยิ่งแปลกใจที่รู้ว่า สตรีที่เพิ่งเจอจะเดินทาง

คนเดียวเพราะอะไร

“เรียนนายน้อยนางมีกุญแจหยกอายุยืนเป็นหลักฐาน และบ่าวคิดว่าสิ่งนี้น่าจะใช้ในหมู่บุตรหลานขุนนางชั้นสูงขอรับ” ตงลู่เคยเห็น

พิธีการรับขวัญบุตรหลานของตระกูลขุนนางมาหลายครั้ง

“กุญแจหยกอายุยืนงั้นหรือ ในเมืองหลวงมีไม่กี่ตระกูล ที่มักจะใช้หยกแทนทองคำมอบให้บุตรหลานที่เพิ่งเกิด เฉินอิ่นส่งจดหมาย

บอกจิ้งโม่ไปสืบเรื่องนี้มาให้ข้า ว่ามีตระกูลใดบ้างมอบกุญแจหยกอายุยืน

กับคนในตระกูล ที่สำคัญมีตระกูลไหนบุตรหลานหายตัวไปบ้าง สืบมาอย่างละเอียดอย่าได้ตกหล่นแม้แต่เรื่องเดียว” ฟู่หลงเหยียนอยากรู้ว่าสตรีที่ทำให้หัวใจของเขากลับมาเต้นแรงอีกครั้ง จะเป็นบุตรหลานของตระกูลขุนนางกังฉินหรือไม่

“ขอรับนายน้อย”

“เอ่อ นายน้อยบ่าวได้ยินนางพูดก่อนจะนอนหลับอีกเรื่องหนึ่ง นางพูดว่าคืนนี้จะออกไปดูหน้าผีสาวตนนั้นเสียหน่อย ว่าคือผีจริง ๆ

หรือคือคนแต่งเป็นผีเพื่อสร้างข่าวลือด้วยขอรับ” ตงลู่นึกถึงคำพูดนี้

ของอวี้จิ่นก็นับถือในความใจกล้าของนาง

“โอ้ ช่างเป็นสตรีใจกล้าเสียด้วย” อู๋จิ้งแปลกใจที่มีคนไม่กลัวตาย

“หึ ตัวรึก็เล็กแค่นั้น แต่ใจกล้ายิ่งกว่าบุรุษใจเสาะอย่างเจ้าเมืองเสียอีก ในเมื่อนางจะออกไปพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยตนเอง พวกเจ้าสามคนเตรียมตัวไว้ ข้าจะตามนางไปพิสูจน์ความจริงเช่นกัน แยกย้ายกลับไปพักผ่อนได้แล้วยามห้ายค่อยพบกันด้านหน้าโรงเตี๊ยม” ฟู่หลงเหยียน

นึกเป็นห่วงสตรีแปลกหน้า แต่เขาเองก็อยากรู้ความจริงเหมือนกันกับนาง

“ขอรับนายน้อย!”

ผู้ติดตามคนสนิททั้งสาม ออกจากห้องพักของฟู่หลงเหยียนไป พร้อมกับความสงสัย ที่พวกเขาเห็นสายตาที่อ่านไม่ออกของเจ้านาย

ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้กันแน่ ไหนจะอยากรู้เรื่องของสตรี

แปลกหน้าที่เพิ่งจะได้พบเพียงครั้งเดียวนั่นอีก

“หรือว่า!” เฉินอิ่นพูดออกมาก่อนอย่างตกใจ

“ข้าก็คิดเหมือนเจ้า!” ตงลู่รู้ทันทีว่าสหายคิดอะไรอยู่

“ใช่! ว่าแต่พวกเจ้าสองคนคิดเรื่องอะไรกัน?” อู๋จิ้งทำทีตามน้ำไปกับสหายแต่กลับไม่รู้ว่าสิ่งที่ทั้งสองคนคิดคือเรื่องอะไร

“ป้าบ! โอ๊ย”

“เฉินอิ่นเจ้าตบหัวข้าทำไมมันเจ็บนะ อูย ไม่คิดจะยั้งแรงให้กันบ้างเลย” อู๋จิ้งลูบท้ายทอยไปมา

“เจ้านี่น้าไม่เคยรู้ทันอะไรกับคนอื่นบ้างเลย ถ้าเจ้าอยากรู้ก็รอดูเอาเองแล้วค่อย ๆ คิดตาม อีกไม่นานจะเข้าใจว่าพวกข้าสองคนเออออเรื่องอะไรไปพักผ่อนกันได้แล้ว” เฉินอิ่นส่ายหน้ากับความซื่อของสหาย

ทางด้านอวี้จิ่นที่ตื่นนอนและจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ

จึงสั่งอาหารมื้อเย็นขึ้นไปทานบนห้องพักของตน และนั่งคิดเรื่องผีสาว

ถ้านั่นเป็นคนปลอมตัวมาอาจจะมีอันตราย นางจึงเข้ามิติเดินหาร้านค้า

ขายอุปกรณ์เดินป่า จนได้มีดพกที่เหมาะมือมาหนึ่งเล่ม

เพราะเป็นเด็กกำพร้าใช้ชีวิตลำบาก หากไม่อยากถูกคนอื่นรังแกจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีป้องกันตัว เพื่อเอาชีวิตรอดจากพวกอันธพาล

ทักษะการใช้มีดอวี้จิ่นฝึกด้วยตนเอง ผ่านการดูตัวอย่างจากโลกโซเซี่ยลจนชำนาญ หมัดมวยไม่ถึงกับเก่งกาจแต่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์

Related chapters

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 5 ข้อแลกเปลี่ยนที่เข้าทางฟู่หลงเหยียน

    ล่วงเลยเข้าปลายยามห้าย อวี้จิ่นออกจากห้องพักแสร้งเดินเล่น ไปตามถนนในเมืองเฉียนโจว ในมือข้างซ้ายถือลูกผิงกั่วกัดกินไปด้วย ท่ามกลางความเงียบสงัดอย่างที่คนบังคับรถม้าบอก ทำให้รู้สึกวังเวง อยู่ไม่น้อย แต่นั่นไม่ช่วยให้ความอยากรู้ลดลงแต่อย่างใด ด้านบนหลังคายังมีคนกลุ่มหนึ่งคอยตามอวี้จิ่นไปเงียบ ๆหลังจากเดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาอยู่หลายมุม จนเริ่มจะเมื่อยขาและอวี้จิ่นคิดว่า คืนนี้ไม่น่ามีเหตุการณ์ในข่าวลือเกิดขึ้น จึงคิดจะเดิน กลับโรงเตี๊ยมเพื่อนอนพักเอาแรง ยามที่กำลังคิดเรื่องกลับห้องพัก ก็มีเสียงหัวเราะแทรกเข้ามา ด้วยบรรยากาศที่เงียบเชียบ พอมีเสียงหัวเราะกลับกลายเป็นความรู้สึกน่ากลัว สำหรับคนในเมืองเฉียนโจวยิ่งนัก แต่อวี้จิ่นทำเพียงหยุดเดินและรอคอยอย่างตั้งใจ ว่าผีสาวตนนี้จะทำอะไรกับนาง ถ้าหากนางถามคำถามออกไป มันจะตอบคำถามของนาง ได้หรือไม่“ฮิ ๆ ๆ อาหารของข้า”“โอ๊ะ!! ในที่สุดก็ออกมาจนได้ ขอดูหน้าหน่อยก็แล้วกัน ว่าจะเป็น ผีสาวใบหน้างดงามหรือน่าขยะแขยง”“ฮ่า ๆ ๆ มาเป็นอาหารให้ข้าเสียเถิดเด็กน้อย แผล่บ ๆ”“ขวับ!! สวัสดีตอนดึกเจ้าค่ะ เป็นผีทำไมถึงรู้สึกหิวได้ล่ะ ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยน

    Last Updated : 2024-11-03
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 6 บุรุษผู้นี้คือเนื้อคู่ของเจ้า

    ยามค่ำคืนที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก ที่ฟู่หลงเหยียนไม่ฝันถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ จึงรู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคย รู้สึกมาหลายปี เขาไม่รู้จะขอบคุณสตรีที่แสนจะธรรมดาไม่เหมือนใคร แม้แต่ชื่อแซ่ก็ลืมถามไถ่กับนางไว้ ก่อนจะจากกันไปเสียได้ ฟู่หลงเหยียนตั้งใจไว้ว่าเช้านี้เขาจะถามชื่อของนางเป็นอย่างแรกทางด้านอวี้จิ่นที่เพิ่งตื่นนอนในต้นยามเฉิน พอตั้งสติได้ก็เกือบ หัวทิ่มหัวตำลงจากเตียงด้วยความเร่งรีบ เมื่อนางนึกขึ้นได้ว่าใกล้ถึงเวลา ที่ฟู่หลงเหยียนจะมารับนาง เพื่อไปเก็บหลักฐานการกระทำความผิด ของเจ้าเมืองเฉียนโจว อวี้จิ่นรีบล้างหน้าบ้วนปากอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ผมเผ้าทำเพียงเก็บรวบมัดยกเป็นหางม้าเท่านั้นเมื่อเดินออกมาด้านหน้าโรงเตี๊ยม บุรุษในชุดคลุมสีดำสองคน มายืนรอนางอยู่ก่อนแล้วพร้อมม้าอีกสองตัว ทำเอาอวี้จิ่นละอายใจเล็กน้อยได้แต่กล่าวขอโทษ ที่นางตื่นสายทำให้ทั้งสองคนต้องรอนาน“อุ๊ย! แหะ ๆ ๆ ขออภัยเจ้าค่ะ ที่ปล่อยให้พวกท่านรอนานเช่นนี้ ถ้าวันไหนข้าเข้านอนดึกมักจะตื่นสายเช่นนี้ประจำเจ้าค่ะ”“ไม่เป็นไร พวกข้าสองคนเพิ่งจะมาถึงไม่นานเช่นกัน เจ้าพอ จะบอกที่ซ่อนของหลักฐาน

    Last Updated : 2024-11-03
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 7 จำนนต่อหลักฐาน

    เมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงห้องส่วนตัวขนาดกลาง มีนักบวชคอยเฝ้าเอาไว้สองคน ก่อนจะเข้าไปได้ย่อมมีค่าผ่านประตู เรื่องนี้อวี้จิ่นย่อมเห็นจากภาพนิมิตมาแล้วจึงอาสาจัดการเอง“เดี๋ยวก่อนประสกทั้งสาม หากต้องการใช้ห้องสวนมนต์แห่งนี้ พวกท่านทราบถึงกฎเกณฑ์ของทางวัดแล้วหรือไม่”“คารวะไต้ซือเจ้าค่ะ คุณชายของข้าเพิ่งมาจากต่างเมือง เพื่อมาขอพรเกี่ยวกับการทำงานครั้งใหญ่ เห็นว่าที่วัดของตระกูลอวี่มีผู้คนเคารพนับถืออย่างมาก จึงอยากมากราบไหว้สักครั้ง ส่วนเรื่องกฎของทางวัด ข้าทราบเป็นอย่างดีว่าต้องทำอย่างไร ของในตะกร้าใบนี้หวังว่าไต้ซือจะอนุญาตให้คุณชายของข้า ได้เข้าไปสวดมนต์เป็นการส่วนตัวนะเจ้าคะ” พวกเห็นแก่เงินจะไม่รับไว้ได้อย่างไร ในตะกร้านั่นมีก้อนตำลึงเงินอยู่หลายก้อนเชียวนะ“อืม เมื่อประสกตัวน้อยรู้จักทำตามกฎของวัด คุณชายของท่านย่อมสามารถเข้าไปสวดมนต์ด้านในได้ เชิญ” ไต้ซือตัวปลอมมัวแต่สนใจก้อนตำลึงในถุงผ้าใบเล็กในตะกร้าจึงไม่เอะใจคำพูดของอวี้จิ่นเท่าใดนัก“ขอบคุณไต้ซือเจ้าค่ะ ที่เห็นใจชาวบ้านอย่างเรา เชิญคุณชายเข้าไปสวดมนต์เถิด งานที่ท่านหวังไว้จะได้สำเร็จโดยเร็วนะเจ้าคะ” อวี้จิ่นหันไปเชื้อเชิญฟู่หลงเหย

    Last Updated : 2024-11-03
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 8 ตระกูลเจียงของแม่ทัพใหญ่

    บนโต๊ะอาหารในจวนเช่าของฟู่หลงเหยียน ยามนี้มันเต็มไปด้วยอาหารหน้าตาแปลก ๆ แต่กลิ่นมันกลับหอมชวนให้ท้องร้องอยากกินเสียเดี๋ยวนั้น สาเหตุมาจากอวี้จิ่นไม่อยากนั่งอยู่เฉย ๆ นางจึงลุกไปยังห้องครัว และลงมือทำอาหารจากเนื้อและผักจากในมิติของตนโดยมีข้ออ้างกับตงลู่ว่า ตนเองแอบออกไปซื้อที่ตลาดมา และห้ามตงลู่บอกกับฟู่หลงเหยียนว่านางออกไปด้านนอก แต่ให้บอกว่าเขาคือคนที่ไปซื้อเนื้อกับผักพวกนี้ ตามคำขอของนาง อวี้จิ่นข่มขู่ตงลู่ด้วยอาหารบนโต๊ะนั่น ถ้าไม่ยอมทำตามที่นางบอกเขาจะอดกินมันอย่างแน่นอนคำข่มขู่ของอวี้จิ่นย่อมเป็นผล เมื่อตงลู่อยากชิมอาหารบนโต๊ะ ซึ่งมันไม่เหมือนอาหารที่เขาเคยทานมาก่อน ตงลู่ต้องออกจากห้วงความคิดของตน เมื่อได้ยินเสียงประตูจวนถูกเปิด เขารีบบอกให้อวี้จิ่นไปซ่อนตัวไว้ ส่วนตนเองจับดาบไว้แน่น ออกไปยืนซ่อนตัวอยู่ด้านหลังประตู แต่คนที่มากลับเป็นเจ้านายของตนมิใช่คนร้าย“แอ๊ดดด!! ชิ้ง!! พวกเจ้าปะ นายน้อย!!”“ตงลู่! นี่เจ้าอยากประลองฝีมือกับนายน้อย ถึงกับถือดาบมาดักรออยู่หลังประตูเชียวรึ” อู๋จิ้งเห็นตงลู่ชักดาบเมื่อประตูเรือนด้านหน้าเปิดออกจึงเรียกสหายทันที“ขออภัยขอรับนายน้อย บ่าวคิดว่ามี

    Last Updated : 2024-11-07
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 9 แผนเพิ่มอำนาจของบ้านรองเจียง

    จิ้งโม่และมู่ฉีกลับที่พักของพวกตนทันที หลังจากออกมาจากค่ายทหาร ในจดหมายจิ้งโม่เขียนไว้อย่างละเอียด รวมถึงเรื่องที่เจียงหยวนกำลังออกเดินทางไปรอเจ้านาย อาจจะเป็นที่เมืองชางโจว เมื่อภารกิจสำเร็จทั้งสองจึงไปดื่มฉลองกันเล็กน้อยตามประสาบุรุษด้านแม่ทัพใหญ่ที่กลับมาถึงจวนในยามเซิน ได้สั่งให้พ่อบ้านเจียงไปแจ้งที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่าว่า เย็นนี้เขาจะพาฮูหยินไปรับสำรับเย็นที่นั่น และบอกให้แม่ครัวเตรียมอาหารไว้มากกว่าเดิมสักหน่อย ก่อนที่ตัวของแม่ทัพใหญ่จะกลับไปชำระล้างร่างกายเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อไปพบฮูหยินที่ไม่ยอมออกจากจวนมาหลายปีมู่เสียสาวใช้คนสนิทของจางฮูหยิน เมื่อเห็นว่านายท่านของจวน มาพบนายหญิงของตนเร็วกว่าทุกวัน จึงจะเข้าไปบอกเจ้านายแต่ว่านางถูกนายท่านเรียกตัวเอาไว้เสียก่อน“มู่เสีย”“คารวะนายท่านเจ้าค่ะ”“เจ้าไม่ต้องไปรายงานน้องหญิง แต่ไปเตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ดูชุดที่มีสีสันสดใสสักเล็กน้อยก็แล้วกัน วันนี้ข้าจะพานางไปรับอาหารเย็นที่เรือนท่านแม่” แม่ทัพใหญ่สั่งงานกับมู่เสีย ก่อนจะเข้าไปหาฮูหยินของตน ที่ยังคงมีสีหน้าไร้ชีวิตชีวาเช่นทุกวัน“เอ่อ เจ้าค่ะนายท่าน” มู่เสียทำท่าคล้ายมีคำถาม แต่ก็ต

    Last Updated : 2024-11-07
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 10 เมืองหลวงรอข้าก่อนเถิด

    ตระกูลเจียงสายหลักและสายรองในเมืองหลวง กำลังต่อสู้กันอยู่อย่างเงียบ ๆ มีเพียงคนที่เป็นสหายเท่านั้น ที่รับรู้ว่าสองพี่น้องต่างแม่เกลียดกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร คนที่เป็นฝ่ายชนะมักจะเป็นแม่ทัพใหญ่อยู่เสมอทางด้านเมืองเฉียนโจว นายกองจั๋วได้เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือเวลาอีกหนึ่งวัน ฟู่หลงเหยียนจะนำตัวนักโทษออกเดินทางเสียที แต่ในต้นยามเฉินฟู่หลงเหยียนก็ได้รับจดหมายจากจิ้งโม่“นายน้อยขอรับจดหมายจากจิ้งโม่น่าจะเพิ่งมาถึง คงเกี่ยวกับเรื่องของคุณหนูอวี้จิ่นนะขอรับ” เฉินอิ่นนำจดหมายออกจากขานกพิราบ ที่บินมาจากเมืองหลวงมอบให้เจ้านายของเขา“อืม ขอบใจ”ฟู่หลงเหยียนรับจดหมายมาเปิดอ่านที่เขียนมาสั้น ๆ แต่สามารถเข้าใจความหมายที่จิ้งโม่บอกมาเป็นอย่างดี‘ตระกูลเจียง คาดว่าทารกถูกสับเปลี่ยนและเป็นแผนร้ายของตระกูลสายรอง สหายของนายน้อยกำลังเดินทางไปสมทบ’“หึ นางเป็นบุตรสาวของตระกูลนี้จริง ๆ สินะ” เมื่อได้รับการยืนยันจากข่าวของจิ้งโม่ ฟู่หลงเหยียนจึงมั่นใจเต็มส่วน ว่าอวี้จิ่นคือบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่ บิดาของสหายของตนอย่างเจียงหยวน“เอ่อ นายน้อยข่าวของจิ้งโม่ว่าอย่างไรบ้างหรือขอรับ เจอตระกูลครอบค

    Last Updated : 2024-11-07
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 11 ข้าคือผู้ฟื้นจากความตาย

    หลังจากเข้ามาในเมืองซวนเหอ ฟู่หลงเหยียนพาอวี้จิ่นเข้าออกร้านเครื่องปรับไปสองร้านแล้ว แต่ว่านางก็ยังไม่เจอสิ่งที่ถูกใจ ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เหมือนกันไปหมด ถึงกับบ่นในใจเงียบ ๆ ว่าคนที่ออกแบบเครื่องประดับไม่คิดลวดลายใหม่ ๆ บ้างหรืออย่างไร ขณะที่ทั้งสามกำลังจะเดินไปร้านใหม่ ก็มีเสียงเอะอะและเสียงร้องไห้ อวี้จิ่นที่ได้ยินเสียงเด็กที่ร้องไห้ก็ออกตัวเดินนำไปก่อนใคร“พวกไร้ประโยชน์!! เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ ให้ช่วยทำงานอะไรก็ไม่ได้เรื่อง พวกเจ้าสองคนทำข้าวของในบ้านข้าเสียหายไปเท่าไหร่แล้ว คิดว่าบ้านข้าร่ำรวยมีเงินซื้อชิ้นใหม่ทุกวันรึ ข้าเลี้ยงพวกเจ้าสองคนพี่น้องไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาต้องตอบแทนบุญคุณ พวกเจ้าถูกซื้อตัวโดยเศรษฐีเย่าแล้วรีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ข้าเหนื่อยจะพูดเต็มทีแล้วนะ!” เสียงสตรีวัยกลางคนที่ตะคอกเด็กสองพี่น้อง ที่ไม่มีการตอบโต้มิหน้ำซ้ำยังถูกทุบตีอย่างทารุณอวี้จิ่นแหวกทางผู้คนเข้ามาก็เห็นสตรีร่างท้วมดูมีอายุ สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาทั่วไปคล้ายชาวบ้าน ที่พอจะมีกินมีใช้กำลังพยายามดึงเชือกที่มัดเด็กชายกับเด็กหญิง พวกเขาน่าจะเป็นพี่น้องกันอายุคงไม่เกินสิบเอ็ดหรือสิบสองหนาว เสื้อผ้า

    Last Updated : 2024-11-08
  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 12 นางคือน้องสาวของข้า

    เมื่อจบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองซวนเหอ วันต่อมาขบวนนักโทษจึงออกเดินทางอีกครั้ง แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหลังจากพวกเขาไปแล้ว เริ่มเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง เรื่องที่มีสตรีฟื้นจากความตายพร้อมพรวิเศษเพื่อจัดการคนชั่ว เริ่มแพร่กระจายออกไปตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและมีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อแต่สำหรับฟู่หลงเหยียนเขาเชื่ออย่างสนิทใจกับเรื่องนี้ มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาอยากรู้ว่า เกิดเหตุการณ์อะไรกับอวี้จิ่น ถึงทำให้นางต้องตาย และเหตุผลที่นางได้ฟื้นขึ้นมาจากความตายคืออะไร หรือจะเกี่ยวกับเรื่องที่นางไม่ได้รับความยุติธรรม จากฝีมือของตระกูลเจียงสายรอง แม้อยากรู้รายละเอียดมากเพียงใด ก็ไม่คิดจะถามเพราะนั่นเป็นความลับของนางการเดินทางยังคงเป็นไปอย่างราบรื่น เช่นที่ผ่านมาหลายหัวเมือง ซึ่งพวกเขาใกล้จะถึงเขตของเมืองเหลียนโจว ที่นี่มีเจียงหยวนกับหลี่อี้ที่เดินทางมาถึงได้สองวัน และกำลังพักให้หายเหนื่อยจากการเดินทาง แต่คนเป็นพี่ชายที่จะได้เจอน้องสาว ที่ไม่เคยเห็นหน้ากำลังตื่นเต้นจนชักชวนหลี่อี้ไปเดินหาซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับไว้รอน้องสาว“หลี่อี้เจ้าว่าน้องสาวของข้า นางจะเหมาะกับเสื้อผ้าสีอะไร

    Last Updated : 2024-11-08

Latest chapter

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนพิเศษ 2 แค่สาดผงยาพิษก็ได้สิทธิ์เป็นท่านหญิง

    ฟู่หลงเหยียนและเจียงหยวนยังคงซ่อนตัวอยู่ พวกเขาอยากรู้ว่าสองพี่น้องจะรับมือคนพวกนี้ เพื่อหาทางเอาตัวรอดอย่างไร “พวกเจ้าเอาตัวเด็กสองคนนั่นลงมา อย่ามัวชักช้ายืดยาด หากงานไม่สำเร็จละก็ จะกลายเป็นพวกเราที่ต้องตายแทน” ซานถูลงไปยืนรอยังจุดที่เลือกไว้ สำหรับการขุดหลุมฝังเจียงข่ายเหวินและฟู่เจียฉี“ถุ้ย!! อย่าเอามือสกปรกของเจ้ามาถูกตัวน้องสาวข้า” เจียงข่ายเหวินตะคอกลูกน้องซานถูทันที เมื่อมือหยาบนั้นกำลังจะดึงตัวฟู่เจียฉี ออกไปจากอ้อมกอดของตน“เหวินเกอไม่ต้องกลัวนะ ฉีเอ๋อร์จะปกป้องท่านเองเจ้าค่ะ” ฟู่เจียฉีมิใช่เด็กหญิงตัวน้อยขี้แย เพราะมีบิดาคอยสอนให้เข้มแข็งมีสติ ถึงจะเป็นเด็กแต่เมื่อมีสติก็สามารถเอาตัวรอดได้“ฮ่า ๆ ๆ ลูกพี่ดูเจ้าเด็กสองคนนี่สิ ช่างเป็นญาติพี่น้องที่รักกันดีเสียเหลือเกิน” เกาจิ่งหัวเราะกับท่าทางของฟู่เจียฉี“เหอะ ก็คงเห็นตัวอย่างจากบิดมารดากระมัง เร็ว ๆ ๆ พาตัวลงจากรถม้าได้แล้ว ยังต้องขุดหลุมอีกพวกเจ้าอย่าลืมสิ” ซานถูเร่งลูกน้องของตนให้ทำตามคำสั่งขณะที่เกาจิ่งหันไปพูดคุยกับซานถู ฟู่เจียเฟยได้หยิบห่อยาพิษที่บิดาเพิ่งมอบให้ ก่อนจะแบ่งให้เจียงข่ายเหวินอีกสองห่อ เด็กชายมองหน้า

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนพิเศษ 1 ญาติผู้พี่กับญาติผู้น้อง

    ณ จวนตระกูลเจียงหลังจากอวี้จิ่นออกเรือนแต่งเข้าตระกูลฟู่ ลูกสะใภ้ของตระกูลเจียงอย่างจ้าวเจียเฟย ก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชาย ซึ่งในอนาคตเขาขคือผู้สืบทอดตระกูลเจียงต่อจากบิดา ชื่อของหลานชายฮ่องเต้ผู้เป็นเสด็จตา ประทานนามให้ว่า ‘ข่ายเหวิน’ หมายถึง ผู้ชนะและมีความรู้ และชื่อนี้ก็เข้ากับลักษณะนิสัยของเจ้าตัวน้อยได้เป็นอย่างดีนอกจากมารดาจะเป็นที่โปรดปรานแล้ว เมื่อให้กำเนิดหลานชายย่อมได้รับความโปรดปราน ไม่ต่างจากผู้เป็นมารดาเช่นกัน สร้างความอิจฉาริษยาให้กับองค์ชายองค์หญิงที่มีหลานให้กับฮ่องเต้ องค์ชายองค์หญิงที่รู้จักประมาณตน จะอบรมสั่งสอนบุตรของตนให้รักญาติพี่น้อง แต่สำหรับคนที่จิตใจดำมืดเกินเยียวยา ย่อมสั่งสอนและปลูกฝังความริษยาลงในจิตใจของบุตร ตระกูลเจียงมีทายาทแล้ว ทางด้านตระกูลฟู่จะไม่มีได้อย่างไร หลังจากเจียงข่ายเหวินอายุได้สองหนาว อวี้จิ่นแต่งเข้าจวนฟู่ได้ครึ่งปีก็ตั้งครรค์ และให้กำเนิดบุตรสาวนามว่าฟู่เจียฉี หากจะกล่าวว่าญาติผู้พี่เจียงข่ายเหวินหล่อเหลาตั้งแต่เยาว์วัย ญาติผู้น้องอย่างฟู่เจียฉีจะน้อยหน้าได้หรือ เด็กหญิงเกิดมาพร้อมกับดวงหน้ารูปหยดน้ำ จมูกโด่งได้รูปรับกับใบหน้า ริ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 61 งานแต่งธรรมดาแต่ท่านเทพจะมาทำไมเจ้าคะ (จบ)

    หลังจากตระกูลฟู่และตระกูลเจียง ได้แลกหนังสือหมั้นหมายของบุตรชายบุตรสาว ข่าวลือเรื่องทั้งสองตระกูลจะเกี่ยวดองกัน ก็แพร่กระจายไปตามร้านรวงต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว คนที่อวยพรให้ทั้งสองสุขสมก็มีอยู่มาก คนที่อิจฉาริษยาก็มีไม่น้อย ล้วนเป็นสตรีที่ยังไม่ออกแต่แล้วอย่างไรในเมื่อฟู่หลงเหยียนมิได้สนใจ พวกนางก็เป็นได้แค่เศษฝุ่นที่ลอยไปกับสายลมเท่านั้น เพราะในสายตาของฟู่หลงเหยียน ไม่เคยละไปจากคู่หมั้นที่เริ่มจะเปล่งประกายความงามหลังจากนั้นอีกสามเดือนต่อมา ปรากฏว่าองค์หญิงใหญ่ตั้งครรภ์ อย่างที่อวี้จิ่นเคยบอกพวกเขาเอาไว้จริง ๆ เจียงหยวนแอบไปพบน้องสาว เพราะเขาอยากรู้ว่าเด็กในครรภ์องค์หญิงใหญ่ เป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง เขาจะได้เตรียมรับมือบุตรคนได้ถูก พอได้รู้ว่าตนเองจะได้บุตรชาย การวางแผนเลี้ยงดูจึงถูกคิดขึ้นทันทีตั้งแต่อวี้จิ่นกลายเป็นคู่หมั้นของหัวสำนักตรวจการ หากไม่มีภารกิจลับและออกเดินทางไปต่างเมือง ข้างกายของอวี้จิ่นย่อมมีบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำ นามว่าฟู่หลงเหยียนอยู่กับนางเสมอ จนเหล่าบุรุษที่มั่นใจว่าตนเองหน้าตาหล่อเหลา ต้องวิ่งหาที่หลบแทบไม่ทัน แค่ฟู่หลงเหยียนจ้องมองพวกเขาก็หายไม่ออกกันแล้วทุก

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 60 หมั้นหมายอย่างเป็นทางการ

    ฟู่หลงเหยียนพาอวี้จิ่นกลับมาส่งที่จวน ภายหลังที่พลุถูกจุดจนหมดเรียบร้อยแล้ว ด้วยตอนมาร่วมงานเขานั่งรถม้า ยามนี้จำเป็นต้องยืมเจ้าเสี่ยวหงกลับจวนไปก่อน และค่อยนำมันมาคืนอวี้จิ่นทีหลังอวี้จิ่นยืนส่งฟู่หลงเหยียนขี่เจ้าเสี่ยวหง จนแผ่นหลังของเขาหายลับไปจากสายตา ถึงได้เดินเข้าจวนอย่างอารมณ์ดี ทำให้คนเดินตามหลังอย่างตงลู่กับเฟยอิน เอ็นดูกับท่าทางที่เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเขินอาย อยากจะหัวเราะแต่ต้องอดกลั้นเอาไว้แต่พอมาถึงเรือนของตนอวี้จิ่นพบว่า เป่าจูสาวใช้ของพี่สะใภ้ กำลังเดินไปมาชะเง้อมองหาใครอยู่ “หืม นั่นใช่พี่เป่าจูสาวใช้ของพี่สะใภ้ใช่ไหมพี่เฟยอิน”“ใช่จริง ๆ ด้วยเจ้าค่ะคุณหนู ว่าแต่นางมาทำอะไรที่เรือนของท่าน ยามนี้มิใช่ต้องอยู่รอรับใช้องค์หญิงใหญ่หรอกรึ?”เป่าจูเมื่อเห็นอวี้จิ่นกลับมาที่เรือน จึงสาวเท้าไปหานางดั่งพายุ สร้างความงุนงงจนอดคิดไม่ได้ว่า จะเกิดเรื่องอันใดที่เรือนของพี่ชายตนหรือไม่“คุณหนูเจียงในที่สุดท่านก็กลับมาเสียทีเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของเป่าจูดูร้อนรนแปลก ๆ“พี่เป่าจูท่านมารอพบข้ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่เจ้าคะ”“คือบ่าวมารอพบคุณหนูที่นี่ เพราะมีเรื่องจะรบกวนท่านจริง ๆ เจ้าค่ะ”“พี่เ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 59 งานมงคลกับคนสารภาพรัก

    ซีอ๋องอยู่ร่วมงานเลี้ยงชนะสงครามเท่านั้น อีกสองวันต่อมาจึงออกเดินทางพร้อมหีบยาจำนวนมาก ยังมีเมล็ดพันธุ์ผักที่อวี้จิ่นใจดีมอบให้อีกหนึ่งหีบ ที่สำคัญทรงอยากกลับไปชำระความ กับสตรีชั่วที่ปองร้ายบุตรชายเพียงคนเดียวของตน ซึ่งตอนนี้นางกำลังตั้งตนเป็นเจ้าของตำหนักอ๋อง จนลืมไปว่านางเป็นแค่ชายารองเท่านั้นข่าวลือที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว เรื่องฤกษ์มหามงคลที่มีขึ้น ในอีกสามสัปดาห์ต่อจากนี้ ทำเอาวังหลวงวุ่นวายจนเวียนหัว เพื่อเตรียมงานอภิเษกสมรสขององค์หญิงใหญ่ พระธิดาคนโปรดของฮ่องเต้ให้ออกมาดีที่สุด ห้ามขาดตกบกพร่องแม้แต่นิดเดียวส่วนตระกูลเจียงถือว่าโชคดีมาก ที่อวี้จิ่นได้บอกมารดาไว้ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างในจวนจึงพร้อมต้อนรับสะใภ้ใหญ่ หลังจบงานเลี้ยงวันถัดมายามปลายยามเฉิน ขบวนสินสอดนับร้อยหีบผูกด้วยผ้าสีแดง พร้อมสามหนังสือหกพิธีการนำไปส่งมอบให้กับฮองเฮา ก็ทยอยออกจากจวนตระกูลเจียงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงทันทีชาวบ้านสองข้างทางต่างหยุดมอง และเริ่มพูดถึงเรื่องสมรสพระราชทานอีกครั้ง ตระกูลใดที่รอจัดงานพร้อมแม่ทัพเจียง ต่างเร่งจัดเตรียมข้าวของเรือนหอ อาหารการกินที่ต้องใช้เลี้ยงแขกในงาน เผื่อว่าการแต่งงานในฤก

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 58 ขอรางวัลสมรสพระราชทาน

    หลังจากหวาอานส่งจดหมายกลับไปยังเหอหยาง เมื่อแม่ทัพเสียนมู่ได้อ่านเนื้อหาในจดหมาย จึงนำกำลังทหารบางส่วนมุ่งหน้าไปยังจวนซีอ๋อง เพื่อรับตัวซื่อจื่อมาดูแลเป็นการชั่วคราว คราแรกพระชายารองไม่ยินยอม แต่พอได้เห็นป้ายผู้แทนของซีอ๋อง ที่อยู่ในมือของแม่ทัพเสียนมู่แล้ว ถึงได้ยอมปล่อยซื่อจื่อให้แม่ทัพเสียนมู่พาตัวกลับจวนส่วนเจ้าของคำสั่งที่พักอาศัยในจวนแม่ทัพใหญ่ ได้เห็นแปลงผักที่หลากหลายก็เกิดความสนใจ ซีอ๋องคิดว่าหากกองทัพหรือราษฎรที่เหอหยาง สามารถปลูกพืชผักได้เช่นจวนแม่ทัพใหญ่ ย่อมมีเสบียงสำรองมากพอยามฤดูเหมันต์มาเยือน ทุกคนต้องผ่านความอดอยากได้แน่เมื่อซีอ๋องถามกับบ่าวไพร่เรื่องการปลูกผัก คำตอบที่ได้ก็เกี่ยวกับบุตรสาวแม่ทัพใหญ่อีกแล้ว จนกระทั่งได้มานั่งพูดคุยเรื่องการค้า ซีอ๋องจึงถือโอกาสสอบถามอวี้จิ่นเรื่องผักที่ปลูกด้วยเสียเลย“คุณหนูเจียงเรื่องสัญญาการค้ายาสมุนไพร เปิ่นหวางยินดีทำตามข้อเสนอของเจ้า เพียงแต่ว่ามีอีกเรื่องที่เปิ่นหวางอยากรู้”“ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ยอมทำการค้า กับร้านยาเล็ก ๆ ของหม่อมฉันเพคะ ว่าแต่ท่านอ๋องทรงอยากทราบเรื่องอันใดหรือเพคะ”“เปิ่นหวางอยากถามเกี่ยวกับวิธีปลูกผัก ให้ไ

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 57 บิดาและพี่ชายกลับมาพร้อมแขกสูงศักดิ์

    เรื่องราวที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงบุปผาในวังหลวง ถูกพูดถึงในเช้าวันต่อมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องของเลี่ยวหลวนเฉิน สมรู้ร่วมคิดกับโจรหยางเสวียน กดขี่ข่มเหงขูดรีดเงินภาษีจากชาวเมืองซุยโจว เมื่อถึงเวลานำตัวทาสทุกคนออกเดินทาง จึงใช้เวลานานกว่าทุกครั้งเพราะผู้คนสองข้างทาง ต่างเฝ้ารอขว้างปาสิ่งของและด่าทอสาปแช่ง กว่าจะหลุดพ้นจากประตูเมืองหลวง ก็บาดเจ็บกันไปไม่น้อยกับทาสทั้งหลายหลังจากงานเลี้ยงจบลงได้ไม่ดีเท่าใดนัก อีกสามวันต่อมารัชทายาทจ้าวเจาเยี่ยน ก็กลับมาจากการทำภารกิจตามราชโองการ แต่รัชทายาทกลับไปชำระล้างพระวรกายที่ตำหนักบูรพา จากนั้นจึงเสด็จไปเข้าเฝ้ากราบทูลรายงานต่อพระบิดา“ถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ลุกขึ้นเถิดรัชทายาท เจ้าเพิ่งกลับมาถึงเช่นนั้นรึ” ฮ่องเต้ทรงเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของโอรสก็ทรงทราบแล้ว“พ่ะย่ะค่ะ ลูกเพิ่งกลับมาถึงเมื่อยามซื่อ และต้องการรายงานเรื่องน้ำที่เมืองสุยโจวพ่ะย่ะค่ะ” รัชทายาทมิอาจรั้งรอได้นาน เนื่องจากต้องรีบคัดเลือกขุนนางไปรับตำแหน่งเจ้าเมือง“ปัญหาเรื่องน้ำที่เมืองสุยโจวเป็นอย่างไร สาเหตุเกิดจากภัยธรรมชาติหรือฝีมือของมนุษย์กันแน่”“ทูลเสด็จพ่อเป็น

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 56 งานเลี้ยงบุปผาหรืองานเลี้ยงหงเหมิน

    ภายหลังที่ได้หลักฐานและล่วงรู้แผนชั่วแล้ว ฟู่หลงเหยียนมาส่งอวี้จิ่นด้วยวิธีเดิม และไม่ลืมพูดถึงเรื่องงานเลี้ยงบุปผา ที่ฮองเฮาจะจัดขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้า เขาบอกให้อวี้จิ่นและมารดารออยู่ที่จวน แล้วเขาจะเป็นคนมารับอวี้จิ่นด้วยตนเองพอกลับมาถึงจวนฟู่หลงเหยียนย่อมไปพบบิดา เพื่อบอกเล่าแผนการของเลี่ยวหลวนคุน และยังมีหลักฐานที่สายของตนได้มา“ก๊อก ๆ ๆ ท่านพ่อข้าเองขอรับ”“เข้ามาเถิดอาเหยียน”เมื่ออนุญาตให้บุตรชายเข้ามาในห้องหนังสือได้ ก็มีห่อผ้าวางลงตรงหน้าของฟู่กั๋วกง คำถามจึงเกิดจากสายตาโดยไม่ต้องมีคำพูด“เรียนท่านพ่อ ในห่อผ้านี้เป็นสมุดบัญชีที่ใต้เท้าเลี่ยว แอบนำไปฝังไว้ใต้ดินหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม สายของเราที่อยู่ในจวนสังเกตเห็นท่าทางมีพิรุธ ถึงได้ตามไปเงียบ ๆ จากนั้นก็ขุดมันออกมามอบให้ข้าขอรับ”“หมายความว่าสิบปีที่ผ่านมา ใต้เท้าเลี่ยวติดต่อกับโจรป่าหยางเสวียน และแบ่งปันทรัพย์สินจากการปล้น รวมถึงเงินที่เก็บภาษีจากชาวบ้านด้วยงั้นรึ” ฟู่กั๋วกงไม่คิดมาก่อนว่าใต้เท้าเลี่ยว จะเก็บซ่อนความลับนี้ได้นานถึงสิบปี โดยไม่มีผู้ใดระแคะระคายแม้แต่น้อย“คาดว่าจะเป็นเช่นที่ท่านพ่อพูดมาขอรับ ส่วนเรื่อง

  • แม่หมอหลงยุคมาเป็นหมอดูผู้มีญาณวิเศษ   ตอนที่ 55 ว่าที่พี่สะใภ้ข้าใครก็ห้ามแย่ง

    หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลเศรษฐีม่าย เมื่อพยานอย่างม่ายจิ่นเม่ยให้การกับใต้เท้ากวน และลูกน้องทั้งสองของท่านหมอซัง ยอมสารภาพทุกอย่างต่อใต้เท้ากวน เพราะพวกเขาถูกดวงวิญญาณหญิงสาว ตามมาคอยหลอกหลอนจนนอนไม่หลับ ไหนจะความเจ็บปวดจากยาพิษของอวี้จิ่น ทำให้พวกเขาอยากตายเพื่อหลุดพ้นความทรมานเมื่อมีทั้งพยานที่ยังรอดชีวิตและคำสารภาพ จากคนเป็นลูกน้องของซังปินจีทั้งสองคน โทษประหารชีวิตย่อมเกิดขึ้นแน่นอน เพียงแค่ก่อนจะลงดาบประหารนั้น ใต้เท้ากวนได้ให้ทั้งสามคนได้รู้ซึ้งถึงความทรมาน ของหญิงสาวที่ตกตายด้วยน้ำมือของพวกเขาเสียก่อน ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ทำการแขวนคอนักโทษ พอใกล้จะขาดใจก็หย่อนเชือกให้หายใจต่อ ทำเช่นนั้นอยู่ถึงสามครั้งถึงจะนำตัวไปตัดหัว“เจ้าหมอชั่วจงตกนรกอย่าได้กลับมาเกิดเป็นคนอีกเลย”“ถ้าพวกเจ้ากลับมาเกิดขอให้เป็นสัตว์เดรัจฉาน ที่เป็นเหยื่อให้สัตว์ใหญ่ไล่ล่ากินเนื้อพวกเจ้า”“สงสารหญิงสาวที่ต้องตายเพราะคนชั่วจริง ๆ ขอให้พวกเจ้าไปสู่สุขคติด้วยเถิด”ในวันประหารชีวิตมีชาวบ้านไม่น้อยมามุงดู หนึ่งในนั้นย่อมเป็นครอบครัวตระกูลม่าย ที่ได้รับความเป็นธรรมและยังมีชีวิตอยู่ต่อไปก่อนครอบครัวตระกูล

DMCA.com Protection Status