แชร์

เริ่มต้นใหม่

ผู้เขียน: ต๋อง น่ะ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-14 01:20:00

เนื่องด้วยสภาพจิตใจของต้อมไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาจึงไม่ค่อยได้ออกไปทำงาน มีแต่นอนและพักผ่อนให้ร่างกายฟื้นตัว ยามค่ำคืนก่อนนอนต้อมได้หยิบอัลบั้มรูปขึ้นมาเปิดตัว และได้เห็นรูปผู้ชายคนหนึ่งที่เขาถ่ายตอนหลับ ต้อมจำได้ดีรักครั้งนี้เขาจึงหวนคิดถึงอีกครั้ง

หลังจากผิดหวังในรักที่มีต่อสน ทำให้ต้อมได้ติดสินใจก้าวเดินต่อไป เพื่อลืมเลือนรักอันเจ็บปวด ต้อมได้ขึ้นมาทำงานทางเหนือตามคำแนะนำของแหวน เพราะเพื่อนร่วมรุ่นได้ออกงานจากที่นี่จึงมีตำแหน่งว่างพอดี

เมื่อไปถึงเมืองลำพูนต้อมได้หาห้องเช่าไม่ไกลจากแหล่งนิคมอุตสาหกรรมเท่าไรนัก มีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุดและที่นอนสำหรับไว้เอนกายพักผ่อนยามต้องการ พอรุ่งเช้าต้อมเดินทางไปสมัครงานในนิคมอุตสหกรรม เป็นโรงงานเกี่ยวกับผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

ยามเข้าไปนิคมและได้กรอกใบสมั8รและรอสัมภาษณ์เลย เพราะต้องการด่วนซึ่งไม่แตกต่างจากต้อมก็อยากได้งานโดยไวเหมือนกัน เมื่อเข้าไปก็เจอผู้จัดการฝ่ายบุคคล ต้อมยกมือไหว้ชายหนุ่มวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่าๆ รูปร่างสูงโปร่งขาวนัยน์ตาเล็ก

“สวัสดีครับ” ต้อมยกมือไหว้

“นั่งลงได้” ชายหนุ่มผู้นั้นมองต้อมไม่วางสายตา

“ดูจากประวัติการทำงาน เปลื่ยนงานมาสองที่ อันแรกเข้าใจได้ว่าหมดสัญญาจ้าง ส่วนอีกบริษัทหนึ่งเพราะเหตุใดจึงลาออก”

“ผมไม่ได้อยากออกจากที่ทำงานเก่า ผมไม่ได้รู้สึกเสียหายอะไร แต่ผมคิดว่า ที่ทำงานใหม่ จะสร้างความก้าวหน้าให้ผมได้มากกว่า” ต้อมใจเต้นระรัวกลัวคำตอบไม่ถูกใจ

“แล้วงานที่คุณกำลังสมัครนี้ คุณกำลังมองหาอะไรอยู่”

“ความท้าทาย และให้ศักยภาพของเราพัฒนา” ต้อมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความตื่นเต้นไว้ได้ จนออกทางสีหน้าชัดเจน

“ใจเย็นๆ ไม่เกร็ง” ชายวัยกลางคนยังมีท่าทีที่นิ่งเฉย

“บอกมาสิทำไมผมต้องรับคุณทำงาน”

“เอ่อ ผมไม่เก่งแต่มีความสามารถ ทั้งปรับตัว น้อมรับคำติชม และมั่นใจในความสามารถตัวเองว่าถ้าได้เข้าทำงาน คุณจะไม่ผิดหวังที่ให้โอกาสผม” คำถามนี้ต้อมเตรียมคิดมาแล้วเหมือนกัน

“พร้อมทำงานเมื่อไร”

“พร้อมทันทีครับ” ต้อมเผลอตัวอมยิ้มนิดๆ

“อยากได้เงินเดือนเท่าไร”

“เงินเดือนในตำแหน่งต่างๆ มีโครงสร้าง มีเพดานของมันอยู่ ขอสูงอย่างไงก็ให้ไม่ได้อยู่ดี ก็เอาตามที่บริษัทกำหนดไว้แล้วครับ”

“ถ้าให้น้อยเกินไปล่ะ”

“ก็ไม่ทำครับ เพราะค่าแรงมีขั้นต่ำตามวุฒิการศึกษา ความสามารถ ประสบการณ์ในการทำงานครับ”

“อืม พรุ่งนี้พร้อมเข้าทำงานไหม” ชายวัยกลางคนรู้สึกพอใจในคำตอบ และต้องการคนงานด่วนจริงๆ และพอใจเป็นการส่วนตัวด้วย

“พร้อมครับ”

“กฎระเบียบ หลักการทำงานต่างๆ ผู้จัดการฝ่ายผลิตจะสอนงานให้ เป็นอันว่าวันนี้ไปพบผู้จัดการฝ่ายผลิตก็แล้วกัน พรุ่งนี้มาทำงานได้เลย”

“ขอบคุณครับ”

ต้อมยกมือไหว้และออกจากห้องโดยมีเลขาผู้จัดการฝ่ายบุคคล พาต้อมไปยังแผนกผู้จัดการฝ่ายผลิต ซึ่งในระหว่างทางทั้งสองผู้จัดการได้โทรพูดคุยกันไว้แล้ว เมื่อต้อมได้เจอผู้จัดการฝ่ายผลิตได้มีการพูดคุยกันพักใหญ่ หลังจากนั้นต้อมกลับยังห้องพัก เพื่อเตรียมตัวมาทำงานในวันพรุ่งนี้

เช้าวันใหม่ต้อมมาทำงานแต่เช้าตรู่ ระหว่างเดินทางเข้ามาพบแต่ชายหนุ่มหามีผู้หญิงไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้อมไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก เพราะตั้งแต่สมัยเรียนก็ไม่ได้แตกต่างจากที่นี่เท่าไร เพียงแต่ในโรงงานนี้เยอะกว่าหลายเท่า

เมื่อไปถึงในโรงงานต้อมเดินไปยังห้องผู้จัดการฝ่ายผลิต เขานั่งรออยู่หน้าห้องสักพัก ชายหนุ่มวัยกลางคนที่ดูเข้มดุก็มาถึง แต่ยังไม่ได้เข้ามาคุยด้วยจนเกือบถึงเวลาทำงาน ชายหนุ่มวัยกลางคนจึงออกมาพบกับต้อม

“สวัสดีครับ” ต้อมยกมือไหว้

“อืม เมื่อวานเรารู้จักกันพอสมควรแล้วนะ นี่ก็ใกล้เวลาหัวหน้าฝ่ายผลิตมาแล้วนะ อ่อ มาพอดีเลย” ผู้จัดการฝ่ายผลิตพูดขึ้น

ต้อมรีบหันไปมองซึ่งอายุห่างจากเขาไม่มากนัก อายุสามสิบต้นๆ ในชุดช่างเดินเข้ามาหาผู้จัดการฝ่ายการผลิต

“สันต์มาพอดีเลย นี่คือต้อมพนักงานใหม่” ผู้จัดการฝ่ายผลิตพูดขึ้น

“สวัสดีครับ”

“พาน้องเขาไปสอนงาน แล้วทำงานวันนี้เลยนะ”

“ครับ” สันต์รับคำ

“ตามพี่มา”

ต้อมเดินตามสันต์อย่างเร่งรีบ เพราะสันต์นั้นเดินไวมาก ด้วยตัวสูงใหญ่สมส่วน ต้อมถึงกับก้าวเท้ายาวๆ เดินให้ทัน จนในที่สุดก็มาถึงยังสถานที่ทำงาน ซึ่งเมื่อต้อมมาถึงรู้สึกประหม่าทันที เพราะแต่ก่อนพนักงานที่ร่วมงานไม่ได้เยอะขนาดนี้

“ทุกคน วันนี้พี่พาน้องใหม่มาแนะนำนะ น้องชื่อ ต้อม จะมาทำงานกับพวกเรา ถ้ามีอะไรก็ช่วยสอนน้องด้วย” สันต์เอ่ยขึ้นพร้อมใช้สายตามองมายังต้อม ที่กำลังยืนตัวเกร็งอยู่

“คิดว่าทำได้ไม”

“ได้ครับ” ต้อมยิ้มและพยักหน้า

“หงิมๆ ติ๋ม ระวังโดนเพื่อนแกล้งล่ะ” สันต์อมยิ้มนิดๆ

ต้อมไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาค่อนข้างชินกับการโดนแกล้งอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่ชอบอยู่ที่โดนแกล้ง

“ดำ ฝากสอนงานน้องเขาด้วยนะ” สันต์หันหน้าไปมองดำซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล

“ครับ” ดำพูดห้วนๆ

“ไปหาพี่เขา”

“ครับ” ต้อมค่อยๆ เดินไปยังดำที่กำลังยืนหน้านิ่งไม่บ่งบอกความรู้สึกอะไรมาให้เห็น

“ตามมา”

ต้อมเดินตามดำไปยังที่ประจำตำแหน่ง เมื่อไปถึงดำจ้องมองหน้าแต่ไม่พูดอะไร จนเนื้อตัวและหัวใจของต้อมสนั่นหวั่นไหวระรัวกลัวขึ้นมาทันที เพราะหน้าตาของดำค่อนข้างดุ ผิวออกเข้มมากๆ

“พี่จะให้ผมทำอะไรครับ”

“ไหวไหม ถ้าไม่ไหวถอนตัวยังทันนะ” ดำมีท่าทีไม่อยากจะสอนงานต้อมสักเท่าไร

“ไหวครับ”

หัวใจของอันอ่อนโยนแท่บไม่ไหวกับคำพูดของดำ แต่ต้องฝืนทนและเก็บอารมณ์ความรู้สึกหวั่นเกรงไว้ภายใน

“ถ้างั้นเริ่มทำงานได้”

ซึ่งงานที่ต้อมทำนั้นผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ถึงจะเรียนมาแต่ยังยากสำหรับเขาอยู่พอสมควร แต่ต้อมนั้นพยายามทำอย่างเต็มที่ ถึงแม้จะไม่ค่อยถูกใจและไม่ผ่านคิวซี แต่ต้นก็ไม่ย่อท้อตั้งใจทำจนเลิกงาน

“หมดวันแล้วนะ ถ้าไม่ไหวพรุ่งนี้ไม่ต้องมาก็ได้” คำพูดกับสายตาไม่ยินดีกับต้อมสักเท่าไรเลยของดำ

“มาครับ”

สายตาของต้อมเหลือบมองดำแว่บหนึ่ง แล้วหลบตาต่ำลงพร้อมก้าวเท้าออกจากตรงนั้น ด้วยความไม่ค่อยพอใจดำมากนัก เพราะคำพูดท่าทางไม่บ่งบอกว่าจะญาติดีด้วยเลยแม้แต่น้อย ต้อมเดินคนเดียวดุ่มๆ จนมาถึงจุดรับคนงานไปส่งยังที่ต่างๆ

ต้อมถอดถอนหายใจชั่วครู่ก่อนขึ้นรถ เมื่อขึ้นไปเขาได้นั่งหน้าสุดและอยู่ฝั่งหน้าต่าง หลังจากนั้นมีคนขึ้นมาเรื่อยๆ จนเต็มรถ และคนสุดท้ายขึ้นนั่นคือดำ ซึ่งเหลือเพียงที่นั่งหนึ่งเดียว จึงมีความจำเป็นนั่งข้างๆ ต้อม

ไร้เสียงพูดคุยระหว่างทั้งสอง เพราะโดยปกติด้อมจะพูดคุยกับผู้คนได้ง่าย แต่ในเมื่อเจอดำที่นิ่งเฉยเงียบขรึม จึงทำให้กลายเป็นไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว จนกระทั่งมาถึงยังห้องพักของต้อม ในระหว่างนั้นต้อมกำลังจะพูดขอทาง แต่ไม่ทันซะแล้วดำได้ลุกขึ้นก่อนและเดินลงจากรถไปในทันที

สองเท้าของต้อมนั้นเช่นเดียวกันรีบก้าวเท้าลงจากรถโดยเร็วไว และรีบเดินตามดำไปติดๆ เพราะสงสัยว่าดำจะอยู่ห้องพักใกล้ๆ กัน เขาจึงตัดสินใจตะโกนถามถึงแม้จะไม่อยากพูดคุยด้วยก็ตามที

“พี่ดำพักอยู่ที่นี่เหรอครับ”

ชายหนุ่มผิวเข้มหันมาอย่างไว และมีท่าทีตกใจเล็กน้อย ต้อมไม่รู้จะพูดอะไรต่อจึงได้แต่ยิ้มอย่างเดียว แต่ไร้การตอบกลับเห็นเพียงแต่ร่างสูงใหญ่หันกลับและรีบเดินไปยังห้องพักของตัวเอง ต้อมยืนนิ่งๆ เพื่อดูว่าดำอยู่ห้องไหน เมื่อเขาเห็นดำเข้าไปยังห้องแรก ต้อมจึงเดินไปยังห้องท้ายสุด ซึ่งเป็นห้องพักของเขาเอง

ช่วงค่ำๆ ต้อมออกไปยังตลาดเล็กๆ ใกล้ๆ ห้องเช่า เพื่อกินข้าวเมื่ออิ่มแล้ว เขาจึงเดินไปยังโทรทั่วไทย นาทีละ3 บาท ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือปุ่มกด หลังจากโทรหาพ่อกับแม่จบแล้ว ต้อมพลันเห็นดำกำลังเดินกลับห้อง ต้อมจึงรีบจ่ายเงินและวิ่งไปหาดำทันที

“พี่ดำรอด้วย”

ถึงแม้จะไปถึงตัวของดำแล้ว ต้อมยังต้องก้าวเท้าตามไปอีก เพราะดำยังไม่หยุดและไม่พูดอะไร เนื่องด้วยมือถือถุงลูกชิ้นและเดินกินเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่สนใจต้อมแม้แต่น้อย ต้อมนั้นไม่ละความพยายามเพราะอยากตีสนิท เพื่อเป็นเพื่อนและพี่จะได้ไม่เหงา

“พี่ดำทำงานที่นี่นานหรือยังครับ” ต้อมเดินเข้ามายืนข้างๆ

“ถามทำไม” ดำพูดลอยๆ โดยไม่มองหน้าต้อมแม้แต่น้อย

“ก็เราทำงานที่เดียวกัน พักห้องใกล้ๆ กันด้วย ผมเลยอยากทำความรู้จักพี่น่ะครับ” ต้อมพยายามยิ้มอย่างเต็มที่ แต่ไม่มีประโยชน์เพราะชายหนุ่มผิวเข้าไม่มองไม่พูดเดินดุ่มๆ ทำเหมือนอย่างต้อมไม่มีตัวตนอยู่แถวนั้น

“ทำไมพี่ไม่พูดกับผมเลย” ต้อมเริ่มหน้าบึ่งเล็กน้อย

ในระหว่างนั้นนั่นเองดำหยุดยืนนิ่งและหันมามองต้อม ซึ่งต้อมรีบยิ้มให้ทันทีเพื่อจะได้ให้ดำรู้สึกว่าเขาเป็นมิตรด้วย

“ทำไมพี่ต้องพูดกับน้องด้วย เราแค่ทำงานด้วยกัน ไม่จำเป็นจะต้องมาสนิทอะไรกันขนาดนั้น แล้วก็ไม่ต้องตามพี่มานะ” ดำพูดจบเขารีบเดินไปยังห้องของตัวเองทันที

ต้อมยืนนิ่งๆ ด้วยเสียความรู้สึก เพราะเขาอุตส่าห์จะสร้างความสัมพันธ์ แต่ดำไม่ต้องการรับความสัมพันธ์นั้น จึงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากถอนหายใจ แล้วเดินเข้าไปยังห้องนอนตัวเอง ซึ่งมีเพียงที่นอนอย่างเดียวไม่มีนอกเหนือจากนี้เลย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เรารักกันไม่ได้   ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

    วันนี้ต้อมมีความรู้สึกแปลกๆ เพราะดำไม่ได้มาทำงาน สาเหตุใดต้อมไม่สามารถรู้ได้ เพราะดำสั่งห้ามให้อยู่ทางใครทางมัน จึงเป็นเหตุให้ต้อมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับดำ ถึงแม้วันนี้หลายต่อหลายคนจะถามไถ่ จึงได้แต่ปฏิเสธท่าเดียวไม่รู้ จนกระทั่งก่อนกลับบ้านสันต์หัวหน้างานของเขาได้เอ่ยขึ้นมา“กลับไปห้องก็ไปดูดำมันหน่อยนะ มันพึ่งเลิกกับแฟนช่วงนี้มันเศร้าๆ ไหนๆ ก็ทำงานที่เดียวกัน” สันต่์เอ่ยขึ้นก่อนเดินจากไป“ครับ” ต้อมรับคำด้วยความยินดี แต่ใจหนึ่งก็อยากจะบอกว่า ดำต่างหากที่ไม่ยอมให้เข้าใกล้ ส่วนตัวเขาเองนั้นอยากสนิทสนมด้วยใจจะขาดในช่วงที่ต้อมเดินออกจากโรงงานไปยังที่จอดรถ ในขณะที่เขากำลังคิดเรื่องของดำเพลินๆ ว่าจะจัดการอย่างไรดี ก็มีรถเก๋งคนงามจอดอยู่ข้างๆ เขา ต้อมจึงหันมามองและเป็นจังหวะเดียวกันที่กระจกเปิดออกพอดี“ต้อมขึ้นมาบนรถก่อนสิ” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเรียกเขาแบบหน้านิ่งเหมือนตอนที่กำลังสัมภาษณ์งาน“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกลับเองได้ครับ” ต้อมกำลังจะเดินจากไป“บอกให้ขึ้นมาก็ขึ้นมาสิ” เสียงของผู้จัดการฝ่ายบุคคลเริ่มห้วนขึ้น“ครับ” ต้อมเดินอ้อมรถไปอีกด้านและเปิดประตูขึ้นไปในรถเมื่อต้อมขึ้นไปเขาก็นั่งนิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • เรารักกันไม่ได้   ใจอ่อน

    ต้อมนั่งมองดำที่กำลังกินข้าวต้มแบบฝืนกินยากพอสมควร สายตาอันเล็กหรี่จ้องไม่กระพริบตา ส่วนริมฝีปากเล็กรอยหยักคอยเตรียมพูดทันทีเมื่อใดดำหยุดกินข้าวต้ม และมือน้อยอันเรียวงามเทน้ำจากขวดใส่แก้วไว้เตรียมพร้อม รวมทั้งยาแก้ไข้อีกสองเม็ดวางไว้ใกล้ๆ กัน“กินให้หมดนะ” ต้อมพูดทันทีเมื่อดำหยุดกินข้าว“พี่อิ่มแล้ว” ดำถอดถอนหายใจ เพราะเขาไม่รู้สึกอยากกินข้าวแต่อย่างใด ถึงแม้จะพยายามฝืนทนกินแต่ไม่สามารถกินได้มากกว่านี้“ก็ได้ ถ้างั้นก็กินยาซะ” ต้อมพูดเสียงนิ่งๆ ให้ดูเข้มเข้าไว้ แต่เสียงเล็กอันใสหาเป็นใจไม่สายตาของต้อมยังมองดำตลอดเวลา ด้วยกลัวว่าจะแอบนำยาไปทิ้งขว้างไม่ยอมกิน ดำเหมือนจะรู้ตัวว่าถูกจ้องมอง จนอดคิดไม่ได้ว่าต้อมไม่เหมือนน้องแต่เหมือนพี่สาวมากกว่า“พอใจหรือยัง” ดำพูดทันทีเมื่อได้กลืนยาลงคอ“พอใจมาก”“ถ้างั้นก็กลับไปได้พี่จะนอน” ดำพูดเสียงห้วนๆ“ก็นอนสิ ผมก็จะอยู่ที่นี่”“ห้องตัวเองมีทำไมไม่นอน” ดำแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจนคำพูดของดำที่ไม่เกรงใจและสนความรู้สึกคนฟัง ทำให้ต้อมนั้นใจอุ่นๆ ขึ้นมาอยู่เหมือนกัน ขนาดป่วยยังไม่วายพูดจาไม่น่าฟังเลยสำหรับความคิดของต้อม“ความจริงก็ไม่ได้อยากนอน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • เรารักกันไม่ได้   ความรู้สึกที่เปลื่ยนไป

    ตอนที่25 ความรู้สึกที่เปลื่ยนไป หลังจากหยุดงานมาหลายวันดำก็มาทำงานตามปกติ โดยก่อนหน้านี้ต้อมได้มีคนมาสอนงานให้ เป็นรุ่นพี่ร่วมแผนกเข้ามาทำงานพร้อมกับดำ ซึ่งซันนั้นได้สอนต้อมทำงานอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง จนทำให้ต้อมเริ่มทำงานได้คล่องมากยิ่งขึ้น “ถ้าไม่ได้พี่ซันผมคงแย่แน่เลย”ต้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พูดจาอย่างอ่อนน้อม “เอ้า ไอ้ดำหายดีแล้วเหรอว่ะทั้งกายทั้งใจ”ซันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นดำเดินเข้ามาที่ทั้งสองยืนคุยกันก่อนเข้างาน “ปากดีนะมึงนะ”ดำมองตาขวางใส่ซัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้พูดเล่นแรงกว่าหลายเท่า “มึงเป็นอะไรว่ะ ไปกินรังแตนมาจากไหน”ซันมีสีหน้ามึนงง “ไม่เป็นไรหรอก แค่ เอ่อ ไม่มีอะไร”ดำมองไปยังต้อมแว่บหนึ่งก่อนหันมามองซันต่อด้วยความแสนจะหงุดหงิด โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน “สงสัยจะฟื้นไข้ยังไม่หายดี นี่ก็ใกล้เวลางานแล้ว ต่อจากนี้ไปกูส่งน้องต้อมให้มึงดูแลต่อ และอีกอย่างน้องต้อมต้องดูแลพี่ดำดีๆนะ เดี๋ยวพิษไข้กำเริบพี่ไม่ได้กลัวไข้กายหรอก กลัวไข้ใจมากกว่าถ้ามีเวลาก็ค่อยๆดามใจมันก็ได้”ซันหัวเราร่วนก่อนรี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • เรารักกันไม่ได้   ชุลมุนวุ่นรัก

    ช่วงค่ำๆ ต้อมได้แต่งตัวอย่างน่ารักสดใส เพื่อไปเที่ยวกับเสกผู้จัดการฝ่ายบุคคลวัยสี่สิบกว่า ใจหนึ่งก็ไม่อยากไปแต่อีกใจหนึ่งก็เกรงใจ แต่ถึงอย่างนั้นต้อมพยายามคิดในแง่ดี จะได้ไปเที่ยวยามค่ำคืนแห่งเมืองลำพูนในระหว่างที่ต้อมเดินออกจากห้องไปยังหน้าประตูห้องเช่า บังเอิญดำเดินออกมาพอดีเพื่อไปกินข้าวมื้อเย็น ซึ่งทำให้เจอต้อมโดนบังเอิญ“แต่งตัวซะหล่อเลย จะไปไหนน่ะ” ดำยืนนิ่งๆ ข้างๆ ต้อมที่ใบหน้าขาวใสยังกับหญิงสาว“ไปกินข้าวน่ะ” ต้อมมองมาทางดำร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมเข้มผิวคล้ำ“กินข้าวแค่นี้แต่งตัวซะเหมือนไปเที่ยวเลย”“ก็ใช่น่ะสิพี่ดำ คืนนี้ผมต้องไปกินข้าวในตัวเมือง”“รถก็ไม่มีจะไปได้อย่างไร จากนี้ไปในเมืองไม่ใช่ใกล้เลย”“ไปกับพี่เสก”“อ่ะ พี่เสกผู้จัดการฝ่ายบุคคลนั่นเหรอ” ดำมีสีหน้าสงสัยยิ่งยวด“ใช่ ทำไมพี่ดำต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วย”“รู้จักกันเป็นการส่วนตัวเหรอ”“เปล่า”“แล้วจะไปได้ไง ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว”“พี่เขาชวนไป ถ้าไม่ไปก็น่าเกลียดแย่เลย”“พี่เสกมาพอดีเลย ผมไปก่อนนะพรุ่งนี้เจอกัน” ต้อมหันมายิ้มให้ดำ ที่ยืนนิ่งมองต้อมขิ้นรถและแล่นจากไป ด้วยความรู้สึกแปลกสองด้าน อย่างแรกทำไมเสกต้องพาต้อม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • เรารักกันไม่ได้   เจอกันอีกครั้งในวันที่สายไป

    ชายหนุ่มวัยเกือบห้าสิบเดินดูสินค้าในตลาดสด อันเต็มไปด้วยของกินของใช้มากมายเรียงรายทั่วบริเวณ สายตาจับจ้องไปยังอาหารนานาชนิด ด้วยไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้างสักเท่าไร ยิ่งเดินมาเลือกซื้อกับข้าวมื้อเย็น จึงจำเป็นต้องรีบซื้อเพราะเวลามีน้อย หนุ่มใหญ่ผู้นี้จึงเลิกแกงไว้สองอย่าง ส่วนเท้าทั้งสองข้างขยับไปเหยียบสาวใหญ่วัยเดียวก่อน“อุ๊ย ขอโทษผมไม่ได้ตั้งใจครับ” ต้อมเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสายตาอันบ่งบอกว่ายอมรับผิด“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวรุ่นเดียวกันยิ้มให้พร้อมพยักหน้าเป็นการให้อภัย“ต้อมใช่ไหม” ชายหนุ่มยืนข้างหญิงสาวพูดขึ้น“นาย เอ่อ อาคมใช่ไหม” ต้อมมองตาค้างและรู้สึกประหลาดใจที่ได้เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย“อือ เราไม่ได้เจอกันนานเลยหนอ ตอนนี้นายทำอะไรอยู่” อาคมถามด้วยความสงสัย“เรากลับมาอยู่บ้านทำสวนน่ะ นายล่ะทำงานอะไร” ต้อมถามด้วยความอยากรู้“เราเป็นนายก อบต ส่วนเวลาว่างเราทำนา”“อือ ดีจัง กลับบ้านมาคราวนี้ไม่เสียเที่ยว”“เราก็ดีใจที่เจอนายนะ เพื่อนๆ ถามหานายกันยกใหญ่เลย เอ่อ เราลืมแนะนำนี่เมียเราชื่อส้ม”“ยินดีที่รู้จักนะ” ต้อมยิ้มให้อย่างยินดี“เช่นกันค่ะ”“เราขอเบอร์หน่อย เฟส ด้วย”“ตรงน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • เรารักกันไม่ได้   คืนแรกหอพักชาย

    ห้องประชุมหอพักชายอยู่ชั้นล่างสุด มีอาณาบริเวณกว้างพอสมควร ในช่วงเวลานี้ประมาณหนึ่งทุ่ม ได้มีบรรดาน้องใหม่และรุ่นพี่นั่งกับพื้น เรียงแถวตามหมายเลขห้อง ต้อมนักศึกษาหนุ่มน้อยวัยสิบแปด หน้าตาใสซื่อบริสุทธิไร้เดียงสา นั่งแถวสุดท้ายและอยู่คนหลังสุด สายตาอันเล็กหรี่มองเพื่อนๆนักศึกษารุ่นเดียวกันออกไปแนะนำตัวทีละห้อง จนมาถึงห้องสุดท้าย ต้อมได้เดินออกไปพร้อมกับเพื่อนร่วมห้องอีกห้าคน เมื่อไปถึงยังหน้าบรรดาเพื่อนร่วมหอพักชาย ต่างยืนเรียงแถวแนะนำตัวกันทีละคน โดยมีต้อมยืนเป็นคนสุดท้าย ส่วนสนยืนอยู่คนที่ห้า “ผมชื่อสนธิ มงคลดี ชื่อเล่น สน เรียนคณะเกษตรศาสตร์ เอก ประมงครับ”สนพูดเสียงดังฟังชัดเจน สิ้นเสียงของสนต่อไปต้อมต้องแนะนำตัว ริมฝีปากอันแสนบางสีชมพูอ่อนๆค่อยๆเปล่งเสียงออกมาอย่างอ่อนโยน “ผมชื่อ อนันตชัย ถาวรสกุลดี ชื่อเล่น ต้อม เรียนคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เอก ไฟฟ้าครับ”สิ้นเสียงของต้อมแต่กับมีเสียงอื่นมาแทน นั่นคือเสียงหัวเราะเบาๆของนักศึกษารวมหอพัก “พูดเสียงดังฟังชัดๆหน่อย พูดค่อยแบบนี้ ระวังพรุ่งนี้จะโดนเพื่อนๆที่คณะแกล้งนะ”สมพงษ์ประธานหอพั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • เรารักกันไม่ได้   ความทรงจำครั้งแรกที่พบเจอ

    วันแรกก่อนถึงคาบหนึ่งของต้อมต้องนั่งอยู่เพียงคนเดียว มองไปทางไหนไม่รู้จักใครสักคนด้วยเป็นคนอีกจังหวัด ต้อมเห็นเพื่อนใหม่นั่งเป็นกลุ่มๆ อยู่หลายคน บ้างนั่งสองคนเป็นที่ๆ ไป คนเดียวอยู่เดี่ยวๆ มีพอสมควร รวมทั้งตัวต้อมเองด้วยนั่งเหงาๆ เพียงลำพัง“นั่งด้วยนะ”“อือ”“เราชื่ออาคมนายล่ะ”“เราชื่อต้อม”“นายมาจากไหน”“พิจิตร”“จังหวะดเดียวกันนิ”ต้อมยิ้มได้ในทันทีด้วยเจอคนบ้านเดียวกัน ในมหาวิทยาลัยฟ้าครามที่อยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ไม่ไกลจากพิจิตรมากนัก มีอยู่หลายคนเหมือนกันในหอพักชายที่มาจากจังหวัดเดียวกัน“เขานั่งเป็นกลุ่มๆ กันน่าอิจฉา” อาคมพูดคุยพร้อมมองไปยังเพื่อนร่วมคณะ“อีกสักพักคงสนิทกันใหม่ๆ ก็แบบนี้แหละ”“อือ จริงอย่างนายเนาะ”สายตาของต้อมมองเพื่อนๆ ทุกคน สะดุดตามีอยู่สี่คน นั่งไม่ไกลเขามากนักซึ่งมองอย่างไงก็เป็นแบบเขาออกชัดเจนยิ่งกว่า ไม่ว่าจะท่าทางรูปร่างและการแต่งหน้าจัด ส่วนอีกสองเป็นหญิงสาวหน้าตาถือว่าทั่วๆ ไป สามคนที่ว่าไม่มีอะไรน่าสนใจมากกว่านี้สำหรับต้อม มีเพียงคนเดียวในกลุ่มใหญ่ห้าหกคนมีความหล่อคมคาย ทะลึ่งตึงตังขึ้เล่นเห็นได้อย่างเด่นชัด“มองอะไร” อาคมมองตามสายตาของต้อม“ไม่มีอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • เรารักกันไม่ได้   ย้อนความทรงจำที่ไม่ลืมเลือน

    ท้องฟ้ายังไม่กระจ่างชัดปกคลุมกึ่งความมืดปนสว่าง ต้อมเดินไปยังสวนมะม่วงที่เขาปลูกเมื่อสองสามปีก่อน จนตอนนี้ได้เนื้อได้ผลมากินและขายเพื่อยังชีพ กว่าจะจัดการเก็บมะม่วงเสร็จเกือบเที่ยง แต่ยังดีมีรถมารับผลผลิตถึงสวน เขาเลยสบายกายไม่หนักมาก เมื่อรับเงินมาก้อนหนึ่งจึงรีบไปฝากยังธนาคาร หลังจากนั้นต้อมจึงรีบไปหาอาคมที่บ้านสองเท้าของต้อมก้าวเข้าไปยังบ้านจัดสรรพ ทำเลนั้นอยู่ห่างตัวเมืองพอสมควร ไกลจากบ้านของเขาอยู่หลายกิโลเมตร ต้อมจึงไม่แปลกใจแม้แต่น้อยทำไมถึงไม่เคยเจอกันก่อนหน้านี้ แต่ฟ้ายังเป็นใจให้ได้พบเจอเพื่อนเก่า“เข้ามาก่อนสิต้อม” อาคมเปิดประตูรั้วและเชื้อเชิญต้อมมายังห้องรับแขก“บ้านนายน่าอยู่จัง” ต้อมนั่งลงบนโซฟา“น่าอยู่แต่หนักมาก ผ่อนธนาคารเดือนหนึ่งเป็นหมื่น ไม่เหมือนนายมีบ้านพ่อบ้านแม่ให้อยู่ เอ่อ ลืมถามมีเมียหรือเปล่า เราจะได้วางตัวถูก” อาคมอมยิ้มนิดๆ“ไม่มี”ไม่มีคำถามต่อจากนี้ด้วยอาคมรู้อยู่แล้ว ต้อมจึงสบายใจมากขึ้นเมื่อไร้การถามต่อ เพราะเป็นสิ่งอันอึดอัดพอสมควรถ้าต้องตอบคำถาม ว่าทำไมไม่มีเมียต้อมยังไม่แปลกใจไม่หาย ทั้งที่รู้อยู่ว่าเขาเป็นแบบนั้นใยต้องถามกันตลอดเมื่อพานพบ“ตั้งแต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10

บทล่าสุด

  • เรารักกันไม่ได้   ชุลมุนวุ่นรัก

    ช่วงค่ำๆ ต้อมได้แต่งตัวอย่างน่ารักสดใส เพื่อไปเที่ยวกับเสกผู้จัดการฝ่ายบุคคลวัยสี่สิบกว่า ใจหนึ่งก็ไม่อยากไปแต่อีกใจหนึ่งก็เกรงใจ แต่ถึงอย่างนั้นต้อมพยายามคิดในแง่ดี จะได้ไปเที่ยวยามค่ำคืนแห่งเมืองลำพูนในระหว่างที่ต้อมเดินออกจากห้องไปยังหน้าประตูห้องเช่า บังเอิญดำเดินออกมาพอดีเพื่อไปกินข้าวมื้อเย็น ซึ่งทำให้เจอต้อมโดนบังเอิญ“แต่งตัวซะหล่อเลย จะไปไหนน่ะ” ดำยืนนิ่งๆ ข้างๆ ต้อมที่ใบหน้าขาวใสยังกับหญิงสาว“ไปกินข้าวน่ะ” ต้อมมองมาทางดำร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมเข้มผิวคล้ำ“กินข้าวแค่นี้แต่งตัวซะเหมือนไปเที่ยวเลย”“ก็ใช่น่ะสิพี่ดำ คืนนี้ผมต้องไปกินข้าวในตัวเมือง”“รถก็ไม่มีจะไปได้อย่างไร จากนี้ไปในเมืองไม่ใช่ใกล้เลย”“ไปกับพี่เสก”“อ่ะ พี่เสกผู้จัดการฝ่ายบุคคลนั่นเหรอ” ดำมีสีหน้าสงสัยยิ่งยวด“ใช่ ทำไมพี่ดำต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วย”“รู้จักกันเป็นการส่วนตัวเหรอ”“เปล่า”“แล้วจะไปได้ไง ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว”“พี่เขาชวนไป ถ้าไม่ไปก็น่าเกลียดแย่เลย”“พี่เสกมาพอดีเลย ผมไปก่อนนะพรุ่งนี้เจอกัน” ต้อมหันมายิ้มให้ดำ ที่ยืนนิ่งมองต้อมขิ้นรถและแล่นจากไป ด้วยความรู้สึกแปลกสองด้าน อย่างแรกทำไมเสกต้องพาต้อม

  • เรารักกันไม่ได้   ความรู้สึกที่เปลื่ยนไป

    ตอนที่25 ความรู้สึกที่เปลื่ยนไป หลังจากหยุดงานมาหลายวันดำก็มาทำงานตามปกติ โดยก่อนหน้านี้ต้อมได้มีคนมาสอนงานให้ เป็นรุ่นพี่ร่วมแผนกเข้ามาทำงานพร้อมกับดำ ซึ่งซันนั้นได้สอนต้อมทำงานอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง จนทำให้ต้อมเริ่มทำงานได้คล่องมากยิ่งขึ้น “ถ้าไม่ได้พี่ซันผมคงแย่แน่เลย”ต้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พูดจาอย่างอ่อนน้อม “เอ้า ไอ้ดำหายดีแล้วเหรอว่ะทั้งกายทั้งใจ”ซันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นดำเดินเข้ามาที่ทั้งสองยืนคุยกันก่อนเข้างาน “ปากดีนะมึงนะ”ดำมองตาขวางใส่ซัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้พูดเล่นแรงกว่าหลายเท่า “มึงเป็นอะไรว่ะ ไปกินรังแตนมาจากไหน”ซันมีสีหน้ามึนงง “ไม่เป็นไรหรอก แค่ เอ่อ ไม่มีอะไร”ดำมองไปยังต้อมแว่บหนึ่งก่อนหันมามองซันต่อด้วยความแสนจะหงุดหงิด โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน “สงสัยจะฟื้นไข้ยังไม่หายดี นี่ก็ใกล้เวลางานแล้ว ต่อจากนี้ไปกูส่งน้องต้อมให้มึงดูแลต่อ และอีกอย่างน้องต้อมต้องดูแลพี่ดำดีๆนะ เดี๋ยวพิษไข้กำเริบพี่ไม่ได้กลัวไข้กายหรอก กลัวไข้ใจมากกว่าถ้ามีเวลาก็ค่อยๆดามใจมันก็ได้”ซันหัวเราร่วนก่อนรี

  • เรารักกันไม่ได้   ใจอ่อน

    ต้อมนั่งมองดำที่กำลังกินข้าวต้มแบบฝืนกินยากพอสมควร สายตาอันเล็กหรี่จ้องไม่กระพริบตา ส่วนริมฝีปากเล็กรอยหยักคอยเตรียมพูดทันทีเมื่อใดดำหยุดกินข้าวต้ม และมือน้อยอันเรียวงามเทน้ำจากขวดใส่แก้วไว้เตรียมพร้อม รวมทั้งยาแก้ไข้อีกสองเม็ดวางไว้ใกล้ๆ กัน“กินให้หมดนะ” ต้อมพูดทันทีเมื่อดำหยุดกินข้าว“พี่อิ่มแล้ว” ดำถอดถอนหายใจ เพราะเขาไม่รู้สึกอยากกินข้าวแต่อย่างใด ถึงแม้จะพยายามฝืนทนกินแต่ไม่สามารถกินได้มากกว่านี้“ก็ได้ ถ้างั้นก็กินยาซะ” ต้อมพูดเสียงนิ่งๆ ให้ดูเข้มเข้าไว้ แต่เสียงเล็กอันใสหาเป็นใจไม่สายตาของต้อมยังมองดำตลอดเวลา ด้วยกลัวว่าจะแอบนำยาไปทิ้งขว้างไม่ยอมกิน ดำเหมือนจะรู้ตัวว่าถูกจ้องมอง จนอดคิดไม่ได้ว่าต้อมไม่เหมือนน้องแต่เหมือนพี่สาวมากกว่า“พอใจหรือยัง” ดำพูดทันทีเมื่อได้กลืนยาลงคอ“พอใจมาก”“ถ้างั้นก็กลับไปได้พี่จะนอน” ดำพูดเสียงห้วนๆ“ก็นอนสิ ผมก็จะอยู่ที่นี่”“ห้องตัวเองมีทำไมไม่นอน” ดำแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจนคำพูดของดำที่ไม่เกรงใจและสนความรู้สึกคนฟัง ทำให้ต้อมนั้นใจอุ่นๆ ขึ้นมาอยู่เหมือนกัน ขนาดป่วยยังไม่วายพูดจาไม่น่าฟังเลยสำหรับความคิดของต้อม“ความจริงก็ไม่ได้อยากนอน

  • เรารักกันไม่ได้   ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

    วันนี้ต้อมมีความรู้สึกแปลกๆ เพราะดำไม่ได้มาทำงาน สาเหตุใดต้อมไม่สามารถรู้ได้ เพราะดำสั่งห้ามให้อยู่ทางใครทางมัน จึงเป็นเหตุให้ต้อมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับดำ ถึงแม้วันนี้หลายต่อหลายคนจะถามไถ่ จึงได้แต่ปฏิเสธท่าเดียวไม่รู้ จนกระทั่งก่อนกลับบ้านสันต์หัวหน้างานของเขาได้เอ่ยขึ้นมา“กลับไปห้องก็ไปดูดำมันหน่อยนะ มันพึ่งเลิกกับแฟนช่วงนี้มันเศร้าๆ ไหนๆ ก็ทำงานที่เดียวกัน” สันต่์เอ่ยขึ้นก่อนเดินจากไป“ครับ” ต้อมรับคำด้วยความยินดี แต่ใจหนึ่งก็อยากจะบอกว่า ดำต่างหากที่ไม่ยอมให้เข้าใกล้ ส่วนตัวเขาเองนั้นอยากสนิทสนมด้วยใจจะขาดในช่วงที่ต้อมเดินออกจากโรงงานไปยังที่จอดรถ ในขณะที่เขากำลังคิดเรื่องของดำเพลินๆ ว่าจะจัดการอย่างไรดี ก็มีรถเก๋งคนงามจอดอยู่ข้างๆ เขา ต้อมจึงหันมามองและเป็นจังหวะเดียวกันที่กระจกเปิดออกพอดี“ต้อมขึ้นมาบนรถก่อนสิ” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเรียกเขาแบบหน้านิ่งเหมือนตอนที่กำลังสัมภาษณ์งาน“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกลับเองได้ครับ” ต้อมกำลังจะเดินจากไป“บอกให้ขึ้นมาก็ขึ้นมาสิ” เสียงของผู้จัดการฝ่ายบุคคลเริ่มห้วนขึ้น“ครับ” ต้อมเดินอ้อมรถไปอีกด้านและเปิดประตูขึ้นไปในรถเมื่อต้อมขึ้นไปเขาก็นั่งนิ

  • เรารักกันไม่ได้   เริ่มต้นใหม่

    เนื่องด้วยสภาพจิตใจของต้อมไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาจึงไม่ค่อยได้ออกไปทำงาน มีแต่นอนและพักผ่อนให้ร่างกายฟื้นตัว ยามค่ำคืนก่อนนอนต้อมได้หยิบอัลบั้มรูปขึ้นมาเปิดตัว และได้เห็นรูปผู้ชายคนหนึ่งที่เขาถ่ายตอนหลับ ต้อมจำได้ดีรักครั้งนี้เขาจึงหวนคิดถึงอีกครั้งหลังจากผิดหวังในรักที่มีต่อสน ทำให้ต้อมได้ติดสินใจก้าวเดินต่อไป เพื่อลืมเลือนรักอันเจ็บปวด ต้อมได้ขึ้นมาทำงานทางเหนือตามคำแนะนำของแหวน เพราะเพื่อนร่วมรุ่นได้ออกงานจากที่นี่จึงมีตำแหน่งว่างพอดีเมื่อไปถึงเมืองลำพูนต้อมได้หาห้องเช่าไม่ไกลจากแหล่งนิคมอุตสาหกรรมเท่าไรนัก มีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุดและที่นอนสำหรับไว้เอนกายพักผ่อนยามต้องการ พอรุ่งเช้าต้อมเดินทางไปสมัครงานในนิคมอุตสหกรรม เป็นโรงงานเกี่ยวกับผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยามเข้าไปนิคมและได้กรอกใบสมั8รและรอสัมภาษณ์เลย เพราะต้องการด่วนซึ่งไม่แตกต่างจากต้อมก็อยากได้งานโดยไวเหมือนกัน เมื่อเข้าไปก็เจอผู้จัดการฝ่ายบุคคล ต้อมยกมือไหว้ชายหนุ่มวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่าๆ รูปร่างสูงโปร่งขาวนัยน์ตาเล็ก“สวัสดีครับ” ต้อมยกมือไหว้“นั่งลงได้” ชายหนุ่มผู้นั้นมองต้อมไม่วางสายตา“ดูจากประวัติการทำงาน เปล

  • เรารักกันไม่ได้   ความรักกำลังเปลื่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

    วันหยุดยาวต้อมได้กลับบ้านสองวันทีแรกกะสามวัน แต่ทนความคิดถึงสนไม่ไหวเขาจึงกลับมาก่อนเวลา และอีกอย่างหนึ่งเพื่อสืบสาวราวเรื่องของสนว่าเป็นเช่นไรโดยไม่ได้โทรบอกสนไว้แม้แต่น้อย และต้อมไม่ยอมกลับห้องของตัวเองด้วย เลยรวดไปยังห้องพักของสนเพื่อจับผิดหรือถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถือว่าเป็นไปหาคนรักแค่นั้นไม่ได้มีอะไรเสียหายหรือเสียเวลาเมื่อมาถึงต้อมรีบไปยังห้องเช่าของสน ด้วยไปหาสนเป็นบางครั้งต้อมจึงมีกุญแจ และยามคุ้นหน้าเป็นอย่างดี จึงเข้าออกง่ายไม่มีปัญหาแต่อย่างใด พอถึงหน้าประตูต้อมจึงหยิบกุญแจมาเปิดเข้าไปในห้อง โดยไม่ได้เคาะเรียกขานแต่อย่างใด เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็ไม่ได้พบกับอะไรผิดปกติ เห็นเพียงแต่สนนั่งดูทีวีอย่างสบายอารมณ์“อ้าว ไหนบอกว่าจะกลับบ้านไปสามวันไง” สนมีสีหน้าไม่สู้ดีนักและรีบลุกขึ้นยืนทันใด“ทนคิดถึงนายไม่ไหวไง” ต้อมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ“ใครมาสน” หญิงสาวนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเกาะอกออกมาจากห้องน้ำและรีบเดินมาเกาะแขนสน ที่อยู่ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันกายท่อนล่าง“เพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันนะ” สนจ้องมองต้อมไม่วางสายตา เพราะกลัวต้อมพูดอะไรออกมา“ต้อมนี่คือ เอ่อ” สนอ้ำ

  • เรารักกันไม่ได้   ความห่างเหิน

    ความสัมพันธ์ทั้งสองเปลื่ยนแปลงทีละน้อย คืบคลานทีละนิดจนต้อมผิดสังเกตขึ้นมาทีละมากๆ ในช่วงเวลาที่ยาวนานหลายเดือน ต้อมยังทำตัวปกติทุกอย่างดูแลสนอย่างดีไม่เปลื่ยนแปลง ในขณะอีกคนมีความเปลื่ยนแปลงไป บางครั้งกลับห้องดึกดื่นบางคราไม่กลับมาเลย บางทีมีความสัมพันธ์ทางกายแบบผ่านๆ เหมือนไม่อยากจะมี ความสุขในรสรักของต้อมจึงลดน้อยลงไปอย่างมาก เพราะสนไม่ใคร่สนใจมอบให้อย่างแต่ก่อนมีอยู่ค่ำคืนหนึ่งสนพูดบางสิ่งออกมาจนต้อมรู้สึกใจหายใจคว่ำ เป็นคำพูดที่ไม่ได้รุนแรงแต่เจ็บลึกอย่างสุดทรวงและลึกสุดใจ“ต้อมเรามีเรื่องจะบอกกับนายนะ” สีหน้าของสนมีความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด“เรื่องอะไร” ต้อมเดินมานั่งบนเตียงในขณะสนนอนนิ่งๆ เหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างไว้ในใจ“คือว่า เอ่อ เราสองคนก็โตกันขึ้นเยอะแล้วนะ ต่างคนต่างมีหน้าทีการงานของตัวเอง มีเพื่อนและอยากมีความเป็นส่วนตัว” สนยังไม่กล้าพูดคำใดๆ ออกมาพยายามเกริ่นนำ“นายจะพูดอะไร” ต้อมใจหวั่นหวิว เพราะคำพูดนำทางแบบนี้ เขาคาดคิดว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน“อืม เราคิดว่าต้องแยกห้องกันดีกว่าไหม เพราะเราทั้งคู่ก็โตกันแล้วนะ” สนจ้องหน้าของต้อมเพราะอยากรู้ความรู้สึกที่

  • เรารักกันไม่ได้   สิ้นเดือนที่เปลื่ยนไป

    ความรักทั้งสองคืบหน้าไปอย่างมากในความคิดของต้อม เมื่อถึงเวลาสิ้นเดือนต้อมจึงซื้อของกินของใช้มามากมาย เพื่อเลี้ยงฉลองกับสนคนสำคัญที่สุดในชีวิต ค่ำคืนนี้ต้อมจึงเฝ้ารอการมาของสน แต่สองทุ่มก็แล้วสามทุ่มผ่านไปสี่ทุ่มกำลังจะมาถึง แต่ยังไร้วี่แววของใครบางคน สายตาของต้อมจ้องมองอาหารที่เรียงรายหลายอย่างตรงหน้า จนเวลาเกือบเที่ยงคืนจึงได้ยินเสียงเคาะประตู“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” ต้อมเดินไปเปิดประตูด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ“นายไปไหนมาเรานัดกันไว้แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าวันนี้จะเลี้ยงฉลองเงินเดือนออก” ต้อมมีท่าทีกระฟัดกระเฟียดแสดงท่าทีไม่พอใจ“เราขอโทษ พอดีพี่พี่ทำงานเราเลี้ยงฉลองให้น่ะ เราไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีงานนี้” สนเข้ามาโอบกอดจากด้านหลัง พร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้าอันบูดบึ้ง“นายไปดื่มเหล้ามาเหรอ”“นิดหน่อยเอง พี่ๆ เขาบังคับให้เราดื่มน่ะ”“อืม แสดงว่านายกินข้าวมาแล้วใช่ไหม”“ใช่ กินมาแล้ว แต่ตอนนี้อยากกินนายมากกว่า”“แล้วกับข้าวที่เราซื้อมาล่ะ เต็มไปหมดเลย”“ไม่เป็นไรหรอกทิ้งไปซะให้หมด แต่ตอนนี้เราขอกินนายก่อนได้ไหม”สนช้อนร่างของต้อมแล้วอุ้มมาวางบนเสื่อไร้ที่นอน พร้อมจับร่างของต้อมพลิกคว่ำหลังจากนั้นดึงกางเก

  • เรารักกันไม่ได้   ความรักกำลังเดินทาง

    ต้อมตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมาทำกับข้าวให้สนกินก่อนไปทำงาน ซึ่งก็ไม่มีอะไรนอกจากไข่เจียวสองฟอง และในขณะเดียวกันต้อมได้รีดเสื้อกางเกงให้สนอย่างเรียบร้อยแขวนไว้ที่ราวตากผ้า ส่วนรองเท้าขัดจนเงาวับ หลังจากนั้นเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวจนเรียบร้อย เมื่อต้อมทำทุกอย่างเสร็จสิ้นจึงไปปลุกสนที่นอนหลับอย่างสบาย“สนตื่นได้แล้ว เดี๋ยวไปทำงานสายหรอก” ต้อมเขย่าร่างของสน“แจ้งแล้วเหรอ วันนี้ขี้เกียจจังเลย นึกว่านายจะต่ออีกรอบหนึ่งตอนเช้า” สนลุกขึ้นนั่งแล้วหยิกแก้มของต้อมอย่างเอ็นดูใคร่รัก“บ้า เมื่อคืนตั้งสองครั้งแล้ว”“มันต้องสามครั้งกำลังดี”“สามครั้งนายต้องไปทำเองที่ห้องน้ำโน้น ไม่ไหวยังเจ็บอยู่เลยนายทำเราแรงเกินไป” ต้อมแกล้งทำหน้างอ“ขอโทษนะ ต่อไปจะทำค่อยๆ อีกอย่างครั้งแรกของนายก็แบบนี้แหละ ทางแก้มีต้องทำบ่อยๆ จะได้ขยายหลวมๆ แต่เมื่อคืนฟิตเป็นบ้าเลย”“ทะลึ่ง ไปอาบน้ำแล้วมากินข้าว”“จ๊ะ ที่รัก”สนเรีบลุกขึ้นในสภาพเปลือยเปล่าท่อนเอ็นตั้งชูชัน โดยไม่ได้มีความเขินอายอย่างแต่ก่อน จนทำให้ต้อมรู้สึกแปลกใจอย่างมาก“กางเกงก็ไม่ใส่ไม่อายบ้างเลยเหรอ”“จะมาอายอะไร ตอนนี้เราสองคนไม่เหมือนเดิมแล้วนะ เห็นกันทุกส่วนแล้วไม่

DMCA.com Protection Status