หน้าหลัก / วาย / เรารักกันไม่ได้ / ความรู้สึกที่เปลื่ยนไป

แชร์

ความรู้สึกที่เปลื่ยนไป

ผู้เขียน: ต๋อง น่ะ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-28 02:04:39

ตอนที่25 ความรู้สึกที่เปลื่ยนไป

            หลังจากหยุดงานมาหลายวันดำก็มาทำงานตามปกติ โดยก่อนหน้านี้ต้อมได้มีคนมาสอนงานให้ เป็นรุ่นพี่ร่วมแผนกเข้ามาทำงานพร้อมกับดำ ซึ่งซันนั้นได้สอนต้อมทำงานอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง จนทำให้ต้อมเริ่มทำงานได้คล่องมากยิ่งขึ้น

            “ถ้าไม่ได้พี่ซันผมคงแย่แน่เลย”ต้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พูดจาอย่างอ่อนน้อม

            “เอ้า ไอ้ดำหายดีแล้วเหรอว่ะทั้งกายทั้งใจ”ซันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นดำเดินเข้ามาที่ทั้งสองยืนคุยกันก่อนเข้างาน

            “ปากดีนะมึงนะ”ดำมองตาขวางใส่ซัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้พูดเล่นแรงกว่าหลายเท่า

            “มึงเป็นอะไรว่ะ ไปกินรังแตนมาจากไหน”ซันมีสีหน้ามึนงง

            “ไม่เป็นไรหรอก แค่ เอ่อ ไม่มีอะไร”ดำมองไปยังต้อมแว่บหนึ่งก่อนหันมามองซันต่อด้วยความแสนจะหงุดหงิด โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน

            “สงสัยจะฟื้นไข้ยังไม่หายดี  นี่ก็ใกล้เวลางานแล้ว  ต่อจากนี้ไปกูส่งน้องต้อมให้มึงดูแลต่อ และอีกอย่างน้องต้อมต้องดูแลพี่ดำดีๆนะ เดี๋ยวพิษไข้กำเริบพี่ไม่ได้กลัวไข้กายหรอก  กลัวไข้ใจมากกว่าถ้ามีเวลาก็ค่อยๆดามใจมันก็ได้”ซันหัวเราร่วนก่อนรีบเดินจากไป เพราะกลัวดำวิ่งไล่เตะอย่างเช่นเคย

            “ไปกันเถอะพี่ดำได้เวลางานแล้ว”ต้อมยิ้มนิดหน่อยก่อนเดินนำหน้าดำไปยังห้องทำงานของพวกเขา

            เมื่อไปถึงยังแผนกฝ่ายผลิต ต้อมก็เริ่มต้นทำงานประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างคล่องแคล่ว จนดำอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเรียนรู้ได้ไวขนาดนี้

            “เก่งแล้วนี่ต่อไปพี่คงไม่ต้องสอนแล้วมั้ง”ดำเอ่ยขึ้น

            “ใช่  ผมทำได้แล้วต้องขอบคุณพี่ซันที่สอนผมอย่างดี”

            “เหรอ”เมื่อดำพูดจบก็ไปยังที่ตัวเองทันที

            ต้อมรู้สึกงงนิดหน่อยกับพฤติกรรมของดำ เพราะเปลื่ยนไปเปลื่ยนมาอย่างมาก ก่อนอยู่ห้องก็เป็นอีกอย่างพอมาในที่ทำงานก็ไม่หลงเหลือ ความเป็นดำเคยตอนอยู่หอพักและในช่วงเวลารักษาตัวและใจ

            ต้อมตั้งใจตั้งมั่นทำงานอย่างดี จนกระทั่งถึงเวลาพักกลางัน ต้อมจีงออกจากห้องเพื่อไปหาอะไรกินข้างๆโรงงาน

            “น้องต้อมรอพี่ด้วย”ซันวิ่งมาหาต้อมที่กำลังจะเดินออกไปยังข้างรั้วโรงงาน

            “วันนี้กินก้วยเตี๋ยวกันไหม”

            “ดีเหมือนกัน  ผมก็ไม่ได้กินนานแล้วด้วย”

            เมื่อต้อมและซันตกลงกันได้ว่าจึงรีบเดินไปยังร้านก้วยเตี๋ยว แต่ทั้งสองหารู้ไม่ว่ามีคนเดินตามมาอย่างกระชั้นชิด มารู้ตัวอีกที่ก็มาถึงยังร้านก้วยเตี๋ยว

            “อ้าวไอ้ดำมาตั้งแต่เมื่อไร”

            “กูเดินตามพวกมึงมาตั้งนาน มัวแต่คุยกันน่ะสิ”

            “แหมก็คุยกับน้องต้อมสนุกจะตาย ดีกว่าคุยกับมึงอีกวันๆเคร่งเครียดอะไรนักหนาก็ไม่รู้”ซันหัวเราะร่วนก่อนนั่งลงบนเก้า

            เมื่อซันได้นั่งลงแล้วต้อมและดำจึงทำตาม และได้สั่งก้วยเตี๋ยวอย่างเดียวกันสามถ้วย เพราะจะได้ไม่เสียเวลามากนัก

            “รู้สึกมึงกับไอ้ต้อมจะเข้ากันดีนะ”ดำเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อต้อมลุกขึ้นไปตักน้ำดื่มฟรี

            “เฮ้ย น้องต้อมน่ารักขนาดนั้นพูดจาก็เพราะไม่เหมือนมึงหรอก  กูก็ต้องคุยกับน้องเป็นธรรมดา อย่ามาพูดเรื่องของกูกับน้องต้อมเลย พูดเรื่องมึงดีกว่าตกลงมึงจะเอาอย่างไงกับสายฝนแฟนของมึง”

            “จะเอาอย่างไง ก็ฝนบอกเลิกกูเองนิ จะให้กูทำอย่างไงล่ะ กูก็ง้อมาเป็นเดือนแต่ก็ไร้ผล ไล่กูอย่างกับหมูกับหมา แล้วมึงจะให้กูทำอะไรได้นอกจากทำใจอย่างเดียว แต่ตอนนี้กูก็ดีขึ้นบ้าง ไม่ค่อยเหมือนตอนเลิกกันใหม่ๆ”

            “แปลกหนอทำใจได้ไว้ หรือว่ามึงมีใครหรือเปล่า”ซันจ้องตาของดำไม่กระพริบอยากทราบความนัยภายในนั้น

            “น้ำมาแล้วครับ”ต้อมวางแก้วสองแก้วแรกตรงหน้าดำและซัน และอีกแก้ววางไว้ข้างๆตัวเองก่อนนั่งลงมองหน้ารุ่นพี่ทั้งสองคน

            “มองอะไร”ดำเอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิด

            “น้องต้อมมองมึงก็ไม่ได้เหรอ ไอ้นี่แปลกคนพิลึกขึ้นทุกๆวันแล้วนะ”

            ต้อมไม่ได้พูดอะไรมากได้แต่นิ่งๆอยู่อย่างเดิม เพราะเขารู้สึกได้ว่าดำนั้นเปลื่ยนไปเป็นคนละคน

            “ก้วยเตี๋ยวมาแล้วกินกันเถอะ อย่ามัวคุยกันแลย”ซันรีบจัดแจงก่อนใครพวก

            ทั้งสามใช้เวลาไม่นานในการกินก้วยเตี๋ยวชามไมได้ใหญ่มาก หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วจึงรีบเข้าไปยังในโรงงานเพื่อพักผ่อนให้อาหารย่อย จนเกือบใกล้เวลาเวลางานสันต์หัวหน้าแผนกก็เดินเข้ามาหาทั้งสามหนุ่ม

            “ต้อมพี่เสกผู้จัดการฝ่ายบุคคลเรียกตัวเข้าไปพบ”

            “พี่พอรู้ไหมว่ามีเรื่องอะไร”ต้อมมีสีหน้าที่หวั่นวิตกยิ่งนัก  ด้วยกลัวโดนไล่ออกหรือมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเขา

            “พี่ก็ไม่รู้นะ  แต่น่าจะไม่ใช่เรื่องงาน เพราะพี่รายงงานไปว่าต้อมทำงานดีมาก แต่ก็ทำงานดีจริงๆนะ ใช่ไหมพี่เลี้ยงทั้งสองคน”

            “ใช่แล้ว”ซันยิ้มอย่างภูมิใจในความสำเร็จ ที่สามารถทำให้ต้อมได้รับคำชมเชย

            “อย่าชมมากเดี๋ยวเหลิง เอาเป็นว่าไปหาพี่เสกก่อนเถอะ”สันต์เอ่ยขึ้น

            “ครับพี่สันต์”

            ต้อมรีบเดินไปยังห้องฝ่ายบุคคลทันที  เมื่อไปถึงก็ได้เวลาเข้าทำงานเช่นกัน  ไม่นานเลขาหน้าห้องก็พาต้อมเข้าไปยังในห้องฝ่ายบุคคล

            “สวัสดีครับ”ต้อมยกมือไหว้

            “นั่งลงก่อนสิ”

            “ครับ”

            “คุณคงสงสัยใช่ไหมว่าผมเรียกคุณมาทำไม”สายตาของเสกมันต้อมอย่างมีนัยแฝง

            “ครับ”ต้อมตื่นกลัวและหลบตาเสก

            “พี่ผมเรียกคุณมาในวันนี้ ก็อยากให้ตัวเลือกสำหรับคุณ”

            “อะไรครับ”

            “ผมดูแล้วคุณไม่เหมาะที่จะเป็นพนักงานฝ่ายผลิต ถึงแม้หัวหน้าของคุณจะชมเชยก็ตามที”

            “ผมทำได้ครับ”ต้อมรีบพูดขึ้นในทันที เพราะกลัวโดนไล่ออกจากงาน

            “ทำไมทำหน้าอย่างนั้น ผมจะเปลื่ยนงานให้เข้ากับตัวคุณมากกว่า”

            “เอ่อ ครับ”

            “ผมอ่านในประวัตของคุณนะ สามารถใช้คอมได้อย่างชำนาญและสามารถพิมพ์สัมผัสได้จำนวนคำที่ผ่านเกณฑ์ทั้งภาษาอังกฤษและไทยรวมทั้งตัวเลข”

            “ช่วงปิดเทอมผมได้ไปเรียนเสริมมาครับ”

            “อืม ดีมาก เรียนในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองมากๆ ตรงนี้แหละที่ผมจะย้ายงานคุณมาอยู่แผนกธุรการ”

            “แต่ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไรนิครับ”

            “ผมไม่ได้ย้ายคุณมาอยู่ในแผนกธุรการสำนักงาน แต่ผมจะให้คุณอยู่ในแผนกธุรการฝ่ายผลิต  ซึ่งก็อยู่ติดๆกับที่ทำงานเก่านั่นแหละ”

            “ครับ”

            “ครับแล้วนี่จะทำไหม แต่ผมไม่ได้บังคับคุณนะ แต่พนักงานคนเก่าเขาลาคลอด เผลอๆอาจจะลาออกไปก็ได้ ผมเลยอยากให้คุณมาทำหน้าที่นี้แทน และอีกอย่างหนึ่งผมคิดว่าหน้าที่นี้เหมาะกับคุณอย่างมาก”เมื่อเสกพูดจบก็ยิ้มอย่างมีความสุข เพราะเขาคิดว่าต้อมคงไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน

            “ผมทำครับ”

            สาเหตุที่ต้อมรับปากทำ เพราะในเมื่อคนสั่งให้ทำเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายบุคคล ถ้าขัดอาจส่งผลต่อการประเมิน และจะทำให้ไม่ผ่านช่วงทดลองงาน

            “บอกสาเหตุได้ไหมทำไมถึงยอมทำตาม”

            “ผมคิดว่าการทำงานที่หลากหลาย อาจดูไม่เก่งซักอย่าง  แต่อย่างน้อยก็จะทำให้เรากว้างขวางลักษณะงานมากขึ้น น่าจะส่งผลดีต่ออนาคตของผม”

            “ช่างตอบดีนะ เป็นอันว่าพรุ่งนี้เริ่มงานเลยนะ”

            “ครับ”

            “เรื่องงานผมพูดจบแล้ว ยังพอมีเวลาพูดเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย”

            “อะไรครับ”

            “เย็นนี้พี่ว่าจะไปหาอะไรอร่อยๆกินในเมือง น้องต้อมอยากไปกับพี่ไหม จะได้ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ไม่ใช่อยู่แต่กับโรงงานและห้องเช่า”สายตาและน้ำเสียงของเสกนั้นเปลื่ยนไปเป็นคนละคน

            “คือ”

            “คืออะไร หรือว่าจะปฏิเสธคำเชิญของพี่”

            “อ่า เอ่อ ผมว่าไม่เหมาะครับ”

            “ไม่เหมาะอย่างไงน้องต้อมก็ผู้ชายพี่ก็ผู้ชาย ไม่มีใครมาครหาได้หรอก และอีกอย่างพี่เป็นโสดไม่มีภรรยา แน่นอนก็ต้องไม่มีลูกด้วย พี่จึงมีเวลาและไม่ต้องแคร์ใคร เพียงแต่ไปเที่ยวกินคนเดียวมันเหงา พี่เลยอยากชวนต้อมไปเป็นเพื่อนแค่นี้ไม่ได้เหรอ  หรือว่ารังเกียจคนแก่อย่างพี่”

            “ก็ได้ครับ”ต้อมรับปากโดยที่ไม่อยากจะทำเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย

            “ดีมากน้องต้อม สักหนึ่งทุ่มพี่จะไปรับที่หน้าห้องเช่านะ

            “ครับ”

            ต้อมรู้สึกหวั่นกับสายตาและการกระทำของเสกอย่างมาก  แต่เขาไม่สามารถที่จะจัดการหรือปฏิเสธได้ เพราะกลัวส่งผลกระทบต่อหน้าที่การทำงานของตัวเอง  ต้อมจึงจำใจตอบตกลงทั้งๆที่ใจไม่ได้อยากไปแม้แต่น้อย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เรารักกันไม่ได้   ชุลมุนวุ่นรัก

    ช่วงค่ำๆ ต้อมได้แต่งตัวอย่างน่ารักสดใส เพื่อไปเที่ยวกับเสกผู้จัดการฝ่ายบุคคลวัยสี่สิบกว่า ใจหนึ่งก็ไม่อยากไปแต่อีกใจหนึ่งก็เกรงใจ แต่ถึงอย่างนั้นต้อมพยายามคิดในแง่ดี จะได้ไปเที่ยวยามค่ำคืนแห่งเมืองลำพูนในระหว่างที่ต้อมเดินออกจากห้องไปยังหน้าประตูห้องเช่า บังเอิญดำเดินออกมาพอดีเพื่อไปกินข้าวมื้อเย็น ซึ่งทำให้เจอต้อมโดนบังเอิญ“แต่งตัวซะหล่อเลย จะไปไหนน่ะ” ดำยืนนิ่งๆ ข้างๆ ต้อมที่ใบหน้าขาวใสยังกับหญิงสาว“ไปกินข้าวน่ะ” ต้อมมองมาทางดำร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมเข้มผิวคล้ำ“กินข้าวแค่นี้แต่งตัวซะเหมือนไปเที่ยวเลย”“ก็ใช่น่ะสิพี่ดำ คืนนี้ผมต้องไปกินข้าวในตัวเมือง”“รถก็ไม่มีจะไปได้อย่างไร จากนี้ไปในเมืองไม่ใช่ใกล้เลย”“ไปกับพี่เสก”“อ่ะ พี่เสกผู้จัดการฝ่ายบุคคลนั่นเหรอ” ดำมีสีหน้าสงสัยยิ่งยวด“ใช่ ทำไมพี่ดำต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วย”“รู้จักกันเป็นการส่วนตัวเหรอ”“เปล่า”“แล้วจะไปได้ไง ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว”“พี่เขาชวนไป ถ้าไม่ไปก็น่าเกลียดแย่เลย”“พี่เสกมาพอดีเลย ผมไปก่อนนะพรุ่งนี้เจอกัน” ต้อมหันมายิ้มให้ดำ ที่ยืนนิ่งมองต้อมขิ้นรถและแล่นจากไป ด้วยความรู้สึกแปลกสองด้าน อย่างแรกทำไมเสกต้องพาต้อม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • เรารักกันไม่ได้   เจอกันอีกครั้งในวันที่สายไป

    ชายหนุ่มวัยเกือบห้าสิบเดินดูสินค้าในตลาดสด อันเต็มไปด้วยของกินของใช้มากมายเรียงรายทั่วบริเวณ สายตาจับจ้องไปยังอาหารนานาชนิด ด้วยไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้างสักเท่าไร ยิ่งเดินมาเลือกซื้อกับข้าวมื้อเย็น จึงจำเป็นต้องรีบซื้อเพราะเวลามีน้อย หนุ่มใหญ่ผู้นี้จึงเลิกแกงไว้สองอย่าง ส่วนเท้าทั้งสองข้างขยับไปเหยียบสาวใหญ่วัยเดียวก่อน“อุ๊ย ขอโทษผมไม่ได้ตั้งใจครับ” ต้อมเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสายตาอันบ่งบอกว่ายอมรับผิด“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวรุ่นเดียวกันยิ้มให้พร้อมพยักหน้าเป็นการให้อภัย“ต้อมใช่ไหม” ชายหนุ่มยืนข้างหญิงสาวพูดขึ้น“นาย เอ่อ อาคมใช่ไหม” ต้อมมองตาค้างและรู้สึกประหลาดใจที่ได้เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย“อือ เราไม่ได้เจอกันนานเลยหนอ ตอนนี้นายทำอะไรอยู่” อาคมถามด้วยความสงสัย“เรากลับมาอยู่บ้านทำสวนน่ะ นายล่ะทำงานอะไร” ต้อมถามด้วยความอยากรู้“เราเป็นนายก อบต ส่วนเวลาว่างเราทำนา”“อือ ดีจัง กลับบ้านมาคราวนี้ไม่เสียเที่ยว”“เราก็ดีใจที่เจอนายนะ เพื่อนๆ ถามหานายกันยกใหญ่เลย เอ่อ เราลืมแนะนำนี่เมียเราชื่อส้ม”“ยินดีที่รู้จักนะ” ต้อมยิ้มให้อย่างยินดี“เช่นกันค่ะ”“เราขอเบอร์หน่อย เฟส ด้วย”“ตรงน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • เรารักกันไม่ได้   คืนแรกหอพักชาย

    ห้องประชุมหอพักชายอยู่ชั้นล่างสุด มีอาณาบริเวณกว้างพอสมควร ในช่วงเวลานี้ประมาณหนึ่งทุ่ม ได้มีบรรดาน้องใหม่และรุ่นพี่นั่งกับพื้น เรียงแถวตามหมายเลขห้อง ต้อมนักศึกษาหนุ่มน้อยวัยสิบแปด หน้าตาใสซื่อบริสุทธิไร้เดียงสา นั่งแถวสุดท้ายและอยู่คนหลังสุด สายตาอันเล็กหรี่มองเพื่อนๆนักศึกษารุ่นเดียวกันออกไปแนะนำตัวทีละห้อง จนมาถึงห้องสุดท้าย ต้อมได้เดินออกไปพร้อมกับเพื่อนร่วมห้องอีกห้าคน เมื่อไปถึงยังหน้าบรรดาเพื่อนร่วมหอพักชาย ต่างยืนเรียงแถวแนะนำตัวกันทีละคน โดยมีต้อมยืนเป็นคนสุดท้าย ส่วนสนยืนอยู่คนที่ห้า “ผมชื่อสนธิ มงคลดี ชื่อเล่น สน เรียนคณะเกษตรศาสตร์ เอก ประมงครับ”สนพูดเสียงดังฟังชัดเจน สิ้นเสียงของสนต่อไปต้อมต้องแนะนำตัว ริมฝีปากอันแสนบางสีชมพูอ่อนๆค่อยๆเปล่งเสียงออกมาอย่างอ่อนโยน “ผมชื่อ อนันตชัย ถาวรสกุลดี ชื่อเล่น ต้อม เรียนคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เอก ไฟฟ้าครับ”สิ้นเสียงของต้อมแต่กับมีเสียงอื่นมาแทน นั่นคือเสียงหัวเราะเบาๆของนักศึกษารวมหอพัก “พูดเสียงดังฟังชัดๆหน่อย พูดค่อยแบบนี้ ระวังพรุ่งนี้จะโดนเพื่อนๆที่คณะแกล้งนะ”สมพงษ์ประธานหอพั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • เรารักกันไม่ได้   ความทรงจำครั้งแรกที่พบเจอ

    วันแรกก่อนถึงคาบหนึ่งของต้อมต้องนั่งอยู่เพียงคนเดียว มองไปทางไหนไม่รู้จักใครสักคนด้วยเป็นคนอีกจังหวัด ต้อมเห็นเพื่อนใหม่นั่งเป็นกลุ่มๆ อยู่หลายคน บ้างนั่งสองคนเป็นที่ๆ ไป คนเดียวอยู่เดี่ยวๆ มีพอสมควร รวมทั้งตัวต้อมเองด้วยนั่งเหงาๆ เพียงลำพัง“นั่งด้วยนะ”“อือ”“เราชื่ออาคมนายล่ะ”“เราชื่อต้อม”“นายมาจากไหน”“พิจิตร”“จังหวะดเดียวกันนิ”ต้อมยิ้มได้ในทันทีด้วยเจอคนบ้านเดียวกัน ในมหาวิทยาลัยฟ้าครามที่อยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ไม่ไกลจากพิจิตรมากนัก มีอยู่หลายคนเหมือนกันในหอพักชายที่มาจากจังหวัดเดียวกัน“เขานั่งเป็นกลุ่มๆ กันน่าอิจฉา” อาคมพูดคุยพร้อมมองไปยังเพื่อนร่วมคณะ“อีกสักพักคงสนิทกันใหม่ๆ ก็แบบนี้แหละ”“อือ จริงอย่างนายเนาะ”สายตาของต้อมมองเพื่อนๆ ทุกคน สะดุดตามีอยู่สี่คน นั่งไม่ไกลเขามากนักซึ่งมองอย่างไงก็เป็นแบบเขาออกชัดเจนยิ่งกว่า ไม่ว่าจะท่าทางรูปร่างและการแต่งหน้าจัด ส่วนอีกสองเป็นหญิงสาวหน้าตาถือว่าทั่วๆ ไป สามคนที่ว่าไม่มีอะไรน่าสนใจมากกว่านี้สำหรับต้อม มีเพียงคนเดียวในกลุ่มใหญ่ห้าหกคนมีความหล่อคมคาย ทะลึ่งตึงตังขึ้เล่นเห็นได้อย่างเด่นชัด“มองอะไร” อาคมมองตามสายตาของต้อม“ไม่มีอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • เรารักกันไม่ได้   ย้อนความทรงจำที่ไม่ลืมเลือน

    ท้องฟ้ายังไม่กระจ่างชัดปกคลุมกึ่งความมืดปนสว่าง ต้อมเดินไปยังสวนมะม่วงที่เขาปลูกเมื่อสองสามปีก่อน จนตอนนี้ได้เนื้อได้ผลมากินและขายเพื่อยังชีพ กว่าจะจัดการเก็บมะม่วงเสร็จเกือบเที่ยง แต่ยังดีมีรถมารับผลผลิตถึงสวน เขาเลยสบายกายไม่หนักมาก เมื่อรับเงินมาก้อนหนึ่งจึงรีบไปฝากยังธนาคาร หลังจากนั้นต้อมจึงรีบไปหาอาคมที่บ้านสองเท้าของต้อมก้าวเข้าไปยังบ้านจัดสรรพ ทำเลนั้นอยู่ห่างตัวเมืองพอสมควร ไกลจากบ้านของเขาอยู่หลายกิโลเมตร ต้อมจึงไม่แปลกใจแม้แต่น้อยทำไมถึงไม่เคยเจอกันก่อนหน้านี้ แต่ฟ้ายังเป็นใจให้ได้พบเจอเพื่อนเก่า“เข้ามาก่อนสิต้อม” อาคมเปิดประตูรั้วและเชื้อเชิญต้อมมายังห้องรับแขก“บ้านนายน่าอยู่จัง” ต้อมนั่งลงบนโซฟา“น่าอยู่แต่หนักมาก ผ่อนธนาคารเดือนหนึ่งเป็นหมื่น ไม่เหมือนนายมีบ้านพ่อบ้านแม่ให้อยู่ เอ่อ ลืมถามมีเมียหรือเปล่า เราจะได้วางตัวถูก” อาคมอมยิ้มนิดๆ“ไม่มี”ไม่มีคำถามต่อจากนี้ด้วยอาคมรู้อยู่แล้ว ต้อมจึงสบายใจมากขึ้นเมื่อไร้การถามต่อ เพราะเป็นสิ่งอันอึดอัดพอสมควรถ้าต้องตอบคำถาม ว่าทำไมไม่มีเมียต้อมยังไม่แปลกใจไม่หาย ทั้งที่รู้อยู่ว่าเขาเป็นแบบนั้นใยต้องถามกันตลอดเมื่อพานพบ“ตั้งแต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • เรารักกันไม่ได้   เลี้ยงรุ่นเรียกความทรงจำกลับคืนมา

    วันเวลาที่ต้อมรอคอยมาถึงวันนี้จะได้เจอเพื่อนเก่าอีกหลายคน หนึ่งในนั้นที่อยากเจอมากเขายังไม่แน่ใจว่าจะมาหรือไม่ เพราะต้อมมาในงานร่วมชั่วโมงยังไม่เห็นวี่แวว มีเพียง อาคม โบ้ผู้ทะเล้น จืดกับแฟนสาวนั่นคือปิ่นเพื่อนร่วมคณะนั่นเอง และอีกหลายคนต่างนั่งเรียงรายสองแถวหันหน้าเข้าหากัน โดยต้อมนั่งติดอาคมส่วนอีกข้างยังว่างเปล่าไม่มีใครมานั่ง“หายไปนานเลยนะไอ้ต้อม เรานึกว่าไปอยู่กับแฟนที่ต่างประเทศเหมือนแหวนแล้ว” โบ้พูดขึ้นมาโดยยังคงเอกลักษณ์ความเป็นขึ้เล่นเหมือนเดิม“เพื่อนเราได้ดีแล้วไม่เคยรู้มาก่อนเลย” ต้อมมีสีหน้าท่าทางประหลาดใจพอสมควร“ใช่ เหลือแต่นายนั่นแหละ เขามีครอบครัวกันหมดแล้วนายมัวรออะไรอยู่ หรือรอใครเอ่ยอยากรู้จัง”“เปล่า ยังไม่เจอคนที่ใช่มั้ง”ต้อมพูดจบชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เดินเข้ามายืนข้างๆ สายตาของต้อมเห็นเพื่อนร่วมห้องมองมายังใกล้บริเวณที่นั่งอยู่ ต้อมผิดสังเกตเลยหันหน้ามองและเงยขึ้น“พระเอกของเราทำไมมาช้าจังเลย” โบ้เอ่ยขึ้นทันใดเมื่อคงเดชนั่งลงข้างๆ ต้อม“เราพึ่งมาถึงเลยต้องไปส่งเมียกับลูกที่บ้านก่อน” คงเดชพูดจบแล้วหันหน้ามามองต้อมที่นั่งนิ่งๆคำพูดและท่าทางนิ่งๆ ของคงเดชทำให้ความร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • เรารักกันไม่ได้   จูบนั้นมีความหมาย

    ดวงตาที่เล็กหรี่ลงจนหลับ แต่ริมฝีปากบนแก้มยังอยู่อย่างเดิมเป็นเวลา ต้อมเริ่มลืมตาขึ้นทีละนิดแล้วหันหน้ามา คงเดชได้หยุดสัมผัสแก้มอันผ่องใส“ไอ้เดชนายจะจูบไอ้ต้อมอะไรทุกวัน” โบ้ไม่วายพูดทุกวันตอนเช้าต้อมไม่รู้จะทำเช่นไร เพราะทุกเช้าคงเดชจะมาจูบมาหอมแก้มอยู่ประจำ จนเขาเคยชินไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากนัก ต้อมมองเห็นสองสาวหนึ่งหนุ่มหวานนั่งอยู่อีกโต๊ะ เขาจึงเดินเข้าไปหาเพื่อเข้ากลุ่มนี้ เพราะคิดว่าน่าจะเหมาะกว่ามาอยู่กับชายแท้นับสิบ“นั่งลงสิ ไปนั่งตรงนั้นอยู่ได้” ปื่นสาวผิวเข้มเอ่ยขึ้น“เป็นอะไรหรือเปล่าจิตดีนั่งเงียบไปเลย” ต้อมผิดสังเกตเห็นจิตดี มีท่าทีซึมลงจนเขาแปลกใจ“เรามาเรียนวันนี้เป็นสุดท้ายนะที่เรามานี่จะบอกพวกเธอนั่นแหละ เดี๋ยวจะกลับแล้วเพราะอยู่ถึงเย็นก็ไม่มีความหมายอะไร”“ทำไม เพราะอะไรเหรอ” ดวงตาที่ค้างและริมฝีปากอันอ้าขึ้นเล็กน้อย มองใบหน้าอันขาวใสที่ปนด้วยความเศร้า“เราคิดว่า เรียนคณะนี้คงไม่เหมาะกับเรา ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ เดี่ยวเราไปช่วยแม่ขายของดีกว่า” มือของจิตดีประสานกันส่วนนิ้วหัวมือถือถูสัมผัสกันไปมา“ลองคิดๆ ดีนะ เรียนไปก่อนถ้าไม่ไหวจริงๆ ปีหน้าค่อยออกก็ได้ และอีกอย่างปีแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • เรารักกันไม่ได้   เรื่องวุ่นๆหอพักนักศึกษา

    หลังจากงานเลี้ยงรุ่นต้อมอยู่โหมดเศร้าพอสมควร ที่สำคัญได้เริ่มห่างกับคงเดชไม่ค่อยคุยกันอย่างแต่ก่อน ด้วยเหตุหลายอย่างทำให้ทั้งสองต้องรักษาระยะห่าง ในวันนี้ต้อมจึงเข้ามาในสวนมะม่วงของเขา ที่มีอีกรุ่นออกผลจนนำไปขาย “อาต้อมครับ” ต้อมคุ้นๆหูเสียงนี้แต่นึกไม่ออกว่าเสียงใคร เขาจึงหันไปมองทันที่ สิ่งทีเห็นคืออาคารลูกของอาคมยืนยิ้มอยู่ใต้ต้นมะม่วง เมื่อเห็นเช่นนั้นต้อมจึงเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มนั่น “มาหาอามีธุระอะไร”ต้อมเดินไปใต้ต้นมะม่วงที่อาคารยืนอยู่ “ผมกลับมาบ้านแล้วเหงาๆพ่อก็ไปงาน อบต แม่ไปทำงาน ส่วนน้องสาวไปหาเพื่อน ผมไม่มีใครเลยมาคุยด้วยสักหน่อย” “ได้สิ นั่งลงก่อนจะมาคุยอะไรกับคนแก่” “ผมมีเรื่องอยากปรึกษาอาครับ” “เรื่องอะไร อย่าบอกนะเรื่องความรัก”ต้อมยิ้มนิดๆ “เรื่องมันเกี่ยวพันกันน่ะอา” “เกี่ยวพันอะไรอาไม่เข้าใจ พูดมาตรงๆก็ได้อาจะพยายามทำความเข้าใจ ว่าแต่ เอ๊ะ ทำไมไม่ปรึกษาพ่อของหลานล่ะ”ต้อมมีสีหน้าที่งุนงงอยู่บ้าง “ผมไม่กล้าปรึกษา ผมว่าอาน่าจะรู้ว่าผมเป็นแบบไหน เหมือนอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10

บทล่าสุด

  • เรารักกันไม่ได้   ชุลมุนวุ่นรัก

    ช่วงค่ำๆ ต้อมได้แต่งตัวอย่างน่ารักสดใส เพื่อไปเที่ยวกับเสกผู้จัดการฝ่ายบุคคลวัยสี่สิบกว่า ใจหนึ่งก็ไม่อยากไปแต่อีกใจหนึ่งก็เกรงใจ แต่ถึงอย่างนั้นต้อมพยายามคิดในแง่ดี จะได้ไปเที่ยวยามค่ำคืนแห่งเมืองลำพูนในระหว่างที่ต้อมเดินออกจากห้องไปยังหน้าประตูห้องเช่า บังเอิญดำเดินออกมาพอดีเพื่อไปกินข้าวมื้อเย็น ซึ่งทำให้เจอต้อมโดนบังเอิญ“แต่งตัวซะหล่อเลย จะไปไหนน่ะ” ดำยืนนิ่งๆ ข้างๆ ต้อมที่ใบหน้าขาวใสยังกับหญิงสาว“ไปกินข้าวน่ะ” ต้อมมองมาทางดำร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมเข้มผิวคล้ำ“กินข้าวแค่นี้แต่งตัวซะเหมือนไปเที่ยวเลย”“ก็ใช่น่ะสิพี่ดำ คืนนี้ผมต้องไปกินข้าวในตัวเมือง”“รถก็ไม่มีจะไปได้อย่างไร จากนี้ไปในเมืองไม่ใช่ใกล้เลย”“ไปกับพี่เสก”“อ่ะ พี่เสกผู้จัดการฝ่ายบุคคลนั่นเหรอ” ดำมีสีหน้าสงสัยยิ่งยวด“ใช่ ทำไมพี่ดำต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วย”“รู้จักกันเป็นการส่วนตัวเหรอ”“เปล่า”“แล้วจะไปได้ไง ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว”“พี่เขาชวนไป ถ้าไม่ไปก็น่าเกลียดแย่เลย”“พี่เสกมาพอดีเลย ผมไปก่อนนะพรุ่งนี้เจอกัน” ต้อมหันมายิ้มให้ดำ ที่ยืนนิ่งมองต้อมขิ้นรถและแล่นจากไป ด้วยความรู้สึกแปลกสองด้าน อย่างแรกทำไมเสกต้องพาต้อม

  • เรารักกันไม่ได้   ความรู้สึกที่เปลื่ยนไป

    ตอนที่25 ความรู้สึกที่เปลื่ยนไป หลังจากหยุดงานมาหลายวันดำก็มาทำงานตามปกติ โดยก่อนหน้านี้ต้อมได้มีคนมาสอนงานให้ เป็นรุ่นพี่ร่วมแผนกเข้ามาทำงานพร้อมกับดำ ซึ่งซันนั้นได้สอนต้อมทำงานอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง จนทำให้ต้อมเริ่มทำงานได้คล่องมากยิ่งขึ้น “ถ้าไม่ได้พี่ซันผมคงแย่แน่เลย”ต้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พูดจาอย่างอ่อนน้อม “เอ้า ไอ้ดำหายดีแล้วเหรอว่ะทั้งกายทั้งใจ”ซันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นดำเดินเข้ามาที่ทั้งสองยืนคุยกันก่อนเข้างาน “ปากดีนะมึงนะ”ดำมองตาขวางใส่ซัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้พูดเล่นแรงกว่าหลายเท่า “มึงเป็นอะไรว่ะ ไปกินรังแตนมาจากไหน”ซันมีสีหน้ามึนงง “ไม่เป็นไรหรอก แค่ เอ่อ ไม่มีอะไร”ดำมองไปยังต้อมแว่บหนึ่งก่อนหันมามองซันต่อด้วยความแสนจะหงุดหงิด โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน “สงสัยจะฟื้นไข้ยังไม่หายดี นี่ก็ใกล้เวลางานแล้ว ต่อจากนี้ไปกูส่งน้องต้อมให้มึงดูแลต่อ และอีกอย่างน้องต้อมต้องดูแลพี่ดำดีๆนะ เดี๋ยวพิษไข้กำเริบพี่ไม่ได้กลัวไข้กายหรอก กลัวไข้ใจมากกว่าถ้ามีเวลาก็ค่อยๆดามใจมันก็ได้”ซันหัวเราร่วนก่อนรี

  • เรารักกันไม่ได้   ใจอ่อน

    ต้อมนั่งมองดำที่กำลังกินข้าวต้มแบบฝืนกินยากพอสมควร สายตาอันเล็กหรี่จ้องไม่กระพริบตา ส่วนริมฝีปากเล็กรอยหยักคอยเตรียมพูดทันทีเมื่อใดดำหยุดกินข้าวต้ม และมือน้อยอันเรียวงามเทน้ำจากขวดใส่แก้วไว้เตรียมพร้อม รวมทั้งยาแก้ไข้อีกสองเม็ดวางไว้ใกล้ๆ กัน“กินให้หมดนะ” ต้อมพูดทันทีเมื่อดำหยุดกินข้าว“พี่อิ่มแล้ว” ดำถอดถอนหายใจ เพราะเขาไม่รู้สึกอยากกินข้าวแต่อย่างใด ถึงแม้จะพยายามฝืนทนกินแต่ไม่สามารถกินได้มากกว่านี้“ก็ได้ ถ้างั้นก็กินยาซะ” ต้อมพูดเสียงนิ่งๆ ให้ดูเข้มเข้าไว้ แต่เสียงเล็กอันใสหาเป็นใจไม่สายตาของต้อมยังมองดำตลอดเวลา ด้วยกลัวว่าจะแอบนำยาไปทิ้งขว้างไม่ยอมกิน ดำเหมือนจะรู้ตัวว่าถูกจ้องมอง จนอดคิดไม่ได้ว่าต้อมไม่เหมือนน้องแต่เหมือนพี่สาวมากกว่า“พอใจหรือยัง” ดำพูดทันทีเมื่อได้กลืนยาลงคอ“พอใจมาก”“ถ้างั้นก็กลับไปได้พี่จะนอน” ดำพูดเสียงห้วนๆ“ก็นอนสิ ผมก็จะอยู่ที่นี่”“ห้องตัวเองมีทำไมไม่นอน” ดำแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจนคำพูดของดำที่ไม่เกรงใจและสนความรู้สึกคนฟัง ทำให้ต้อมนั้นใจอุ่นๆ ขึ้นมาอยู่เหมือนกัน ขนาดป่วยยังไม่วายพูดจาไม่น่าฟังเลยสำหรับความคิดของต้อม“ความจริงก็ไม่ได้อยากนอน

  • เรารักกันไม่ได้   ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

    วันนี้ต้อมมีความรู้สึกแปลกๆ เพราะดำไม่ได้มาทำงาน สาเหตุใดต้อมไม่สามารถรู้ได้ เพราะดำสั่งห้ามให้อยู่ทางใครทางมัน จึงเป็นเหตุให้ต้อมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับดำ ถึงแม้วันนี้หลายต่อหลายคนจะถามไถ่ จึงได้แต่ปฏิเสธท่าเดียวไม่รู้ จนกระทั่งก่อนกลับบ้านสันต์หัวหน้างานของเขาได้เอ่ยขึ้นมา“กลับไปห้องก็ไปดูดำมันหน่อยนะ มันพึ่งเลิกกับแฟนช่วงนี้มันเศร้าๆ ไหนๆ ก็ทำงานที่เดียวกัน” สันต่์เอ่ยขึ้นก่อนเดินจากไป“ครับ” ต้อมรับคำด้วยความยินดี แต่ใจหนึ่งก็อยากจะบอกว่า ดำต่างหากที่ไม่ยอมให้เข้าใกล้ ส่วนตัวเขาเองนั้นอยากสนิทสนมด้วยใจจะขาดในช่วงที่ต้อมเดินออกจากโรงงานไปยังที่จอดรถ ในขณะที่เขากำลังคิดเรื่องของดำเพลินๆ ว่าจะจัดการอย่างไรดี ก็มีรถเก๋งคนงามจอดอยู่ข้างๆ เขา ต้อมจึงหันมามองและเป็นจังหวะเดียวกันที่กระจกเปิดออกพอดี“ต้อมขึ้นมาบนรถก่อนสิ” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเรียกเขาแบบหน้านิ่งเหมือนตอนที่กำลังสัมภาษณ์งาน“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกลับเองได้ครับ” ต้อมกำลังจะเดินจากไป“บอกให้ขึ้นมาก็ขึ้นมาสิ” เสียงของผู้จัดการฝ่ายบุคคลเริ่มห้วนขึ้น“ครับ” ต้อมเดินอ้อมรถไปอีกด้านและเปิดประตูขึ้นไปในรถเมื่อต้อมขึ้นไปเขาก็นั่งนิ

  • เรารักกันไม่ได้   เริ่มต้นใหม่

    เนื่องด้วยสภาพจิตใจของต้อมไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาจึงไม่ค่อยได้ออกไปทำงาน มีแต่นอนและพักผ่อนให้ร่างกายฟื้นตัว ยามค่ำคืนก่อนนอนต้อมได้หยิบอัลบั้มรูปขึ้นมาเปิดตัว และได้เห็นรูปผู้ชายคนหนึ่งที่เขาถ่ายตอนหลับ ต้อมจำได้ดีรักครั้งนี้เขาจึงหวนคิดถึงอีกครั้งหลังจากผิดหวังในรักที่มีต่อสน ทำให้ต้อมได้ติดสินใจก้าวเดินต่อไป เพื่อลืมเลือนรักอันเจ็บปวด ต้อมได้ขึ้นมาทำงานทางเหนือตามคำแนะนำของแหวน เพราะเพื่อนร่วมรุ่นได้ออกงานจากที่นี่จึงมีตำแหน่งว่างพอดีเมื่อไปถึงเมืองลำพูนต้อมได้หาห้องเช่าไม่ไกลจากแหล่งนิคมอุตสาหกรรมเท่าไรนัก มีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุดและที่นอนสำหรับไว้เอนกายพักผ่อนยามต้องการ พอรุ่งเช้าต้อมเดินทางไปสมัครงานในนิคมอุตสหกรรม เป็นโรงงานเกี่ยวกับผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยามเข้าไปนิคมและได้กรอกใบสมั8รและรอสัมภาษณ์เลย เพราะต้องการด่วนซึ่งไม่แตกต่างจากต้อมก็อยากได้งานโดยไวเหมือนกัน เมื่อเข้าไปก็เจอผู้จัดการฝ่ายบุคคล ต้อมยกมือไหว้ชายหนุ่มวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่าๆ รูปร่างสูงโปร่งขาวนัยน์ตาเล็ก“สวัสดีครับ” ต้อมยกมือไหว้“นั่งลงได้” ชายหนุ่มผู้นั้นมองต้อมไม่วางสายตา“ดูจากประวัติการทำงาน เปล

  • เรารักกันไม่ได้   ความรักกำลังเปลื่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

    วันหยุดยาวต้อมได้กลับบ้านสองวันทีแรกกะสามวัน แต่ทนความคิดถึงสนไม่ไหวเขาจึงกลับมาก่อนเวลา และอีกอย่างหนึ่งเพื่อสืบสาวราวเรื่องของสนว่าเป็นเช่นไรโดยไม่ได้โทรบอกสนไว้แม้แต่น้อย และต้อมไม่ยอมกลับห้องของตัวเองด้วย เลยรวดไปยังห้องพักของสนเพื่อจับผิดหรือถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถือว่าเป็นไปหาคนรักแค่นั้นไม่ได้มีอะไรเสียหายหรือเสียเวลาเมื่อมาถึงต้อมรีบไปยังห้องเช่าของสน ด้วยไปหาสนเป็นบางครั้งต้อมจึงมีกุญแจ และยามคุ้นหน้าเป็นอย่างดี จึงเข้าออกง่ายไม่มีปัญหาแต่อย่างใด พอถึงหน้าประตูต้อมจึงหยิบกุญแจมาเปิดเข้าไปในห้อง โดยไม่ได้เคาะเรียกขานแต่อย่างใด เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็ไม่ได้พบกับอะไรผิดปกติ เห็นเพียงแต่สนนั่งดูทีวีอย่างสบายอารมณ์“อ้าว ไหนบอกว่าจะกลับบ้านไปสามวันไง” สนมีสีหน้าไม่สู้ดีนักและรีบลุกขึ้นยืนทันใด“ทนคิดถึงนายไม่ไหวไง” ต้อมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ“ใครมาสน” หญิงสาวนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเกาะอกออกมาจากห้องน้ำและรีบเดินมาเกาะแขนสน ที่อยู่ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันกายท่อนล่าง“เพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันนะ” สนจ้องมองต้อมไม่วางสายตา เพราะกลัวต้อมพูดอะไรออกมา“ต้อมนี่คือ เอ่อ” สนอ้ำ

  • เรารักกันไม่ได้   ความห่างเหิน

    ความสัมพันธ์ทั้งสองเปลื่ยนแปลงทีละน้อย คืบคลานทีละนิดจนต้อมผิดสังเกตขึ้นมาทีละมากๆ ในช่วงเวลาที่ยาวนานหลายเดือน ต้อมยังทำตัวปกติทุกอย่างดูแลสนอย่างดีไม่เปลื่ยนแปลง ในขณะอีกคนมีความเปลื่ยนแปลงไป บางครั้งกลับห้องดึกดื่นบางคราไม่กลับมาเลย บางทีมีความสัมพันธ์ทางกายแบบผ่านๆ เหมือนไม่อยากจะมี ความสุขในรสรักของต้อมจึงลดน้อยลงไปอย่างมาก เพราะสนไม่ใคร่สนใจมอบให้อย่างแต่ก่อนมีอยู่ค่ำคืนหนึ่งสนพูดบางสิ่งออกมาจนต้อมรู้สึกใจหายใจคว่ำ เป็นคำพูดที่ไม่ได้รุนแรงแต่เจ็บลึกอย่างสุดทรวงและลึกสุดใจ“ต้อมเรามีเรื่องจะบอกกับนายนะ” สีหน้าของสนมีความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด“เรื่องอะไร” ต้อมเดินมานั่งบนเตียงในขณะสนนอนนิ่งๆ เหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างไว้ในใจ“คือว่า เอ่อ เราสองคนก็โตกันขึ้นเยอะแล้วนะ ต่างคนต่างมีหน้าทีการงานของตัวเอง มีเพื่อนและอยากมีความเป็นส่วนตัว” สนยังไม่กล้าพูดคำใดๆ ออกมาพยายามเกริ่นนำ“นายจะพูดอะไร” ต้อมใจหวั่นหวิว เพราะคำพูดนำทางแบบนี้ เขาคาดคิดว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน“อืม เราคิดว่าต้องแยกห้องกันดีกว่าไหม เพราะเราทั้งคู่ก็โตกันแล้วนะ” สนจ้องหน้าของต้อมเพราะอยากรู้ความรู้สึกที่

  • เรารักกันไม่ได้   สิ้นเดือนที่เปลื่ยนไป

    ความรักทั้งสองคืบหน้าไปอย่างมากในความคิดของต้อม เมื่อถึงเวลาสิ้นเดือนต้อมจึงซื้อของกินของใช้มามากมาย เพื่อเลี้ยงฉลองกับสนคนสำคัญที่สุดในชีวิต ค่ำคืนนี้ต้อมจึงเฝ้ารอการมาของสน แต่สองทุ่มก็แล้วสามทุ่มผ่านไปสี่ทุ่มกำลังจะมาถึง แต่ยังไร้วี่แววของใครบางคน สายตาของต้อมจ้องมองอาหารที่เรียงรายหลายอย่างตรงหน้า จนเวลาเกือบเที่ยงคืนจึงได้ยินเสียงเคาะประตู“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” ต้อมเดินไปเปิดประตูด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ“นายไปไหนมาเรานัดกันไว้แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าวันนี้จะเลี้ยงฉลองเงินเดือนออก” ต้อมมีท่าทีกระฟัดกระเฟียดแสดงท่าทีไม่พอใจ“เราขอโทษ พอดีพี่พี่ทำงานเราเลี้ยงฉลองให้น่ะ เราไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีงานนี้” สนเข้ามาโอบกอดจากด้านหลัง พร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้าอันบูดบึ้ง“นายไปดื่มเหล้ามาเหรอ”“นิดหน่อยเอง พี่ๆ เขาบังคับให้เราดื่มน่ะ”“อืม แสดงว่านายกินข้าวมาแล้วใช่ไหม”“ใช่ กินมาแล้ว แต่ตอนนี้อยากกินนายมากกว่า”“แล้วกับข้าวที่เราซื้อมาล่ะ เต็มไปหมดเลย”“ไม่เป็นไรหรอกทิ้งไปซะให้หมด แต่ตอนนี้เราขอกินนายก่อนได้ไหม”สนช้อนร่างของต้อมแล้วอุ้มมาวางบนเสื่อไร้ที่นอน พร้อมจับร่างของต้อมพลิกคว่ำหลังจากนั้นดึงกางเก

  • เรารักกันไม่ได้   ความรักกำลังเดินทาง

    ต้อมตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมาทำกับข้าวให้สนกินก่อนไปทำงาน ซึ่งก็ไม่มีอะไรนอกจากไข่เจียวสองฟอง และในขณะเดียวกันต้อมได้รีดเสื้อกางเกงให้สนอย่างเรียบร้อยแขวนไว้ที่ราวตากผ้า ส่วนรองเท้าขัดจนเงาวับ หลังจากนั้นเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวจนเรียบร้อย เมื่อต้อมทำทุกอย่างเสร็จสิ้นจึงไปปลุกสนที่นอนหลับอย่างสบาย“สนตื่นได้แล้ว เดี๋ยวไปทำงานสายหรอก” ต้อมเขย่าร่างของสน“แจ้งแล้วเหรอ วันนี้ขี้เกียจจังเลย นึกว่านายจะต่ออีกรอบหนึ่งตอนเช้า” สนลุกขึ้นนั่งแล้วหยิกแก้มของต้อมอย่างเอ็นดูใคร่รัก“บ้า เมื่อคืนตั้งสองครั้งแล้ว”“มันต้องสามครั้งกำลังดี”“สามครั้งนายต้องไปทำเองที่ห้องน้ำโน้น ไม่ไหวยังเจ็บอยู่เลยนายทำเราแรงเกินไป” ต้อมแกล้งทำหน้างอ“ขอโทษนะ ต่อไปจะทำค่อยๆ อีกอย่างครั้งแรกของนายก็แบบนี้แหละ ทางแก้มีต้องทำบ่อยๆ จะได้ขยายหลวมๆ แต่เมื่อคืนฟิตเป็นบ้าเลย”“ทะลึ่ง ไปอาบน้ำแล้วมากินข้าว”“จ๊ะ ที่รัก”สนเรีบลุกขึ้นในสภาพเปลือยเปล่าท่อนเอ็นตั้งชูชัน โดยไม่ได้มีความเขินอายอย่างแต่ก่อน จนทำให้ต้อมรู้สึกแปลกใจอย่างมาก“กางเกงก็ไม่ใส่ไม่อายบ้างเลยเหรอ”“จะมาอายอะไร ตอนนี้เราสองคนไม่เหมือนเดิมแล้วนะ เห็นกันทุกส่วนแล้วไม่

DMCA.com Protection Status