หน้าหลัก / LGBTQ+ / เพียงชั่วข้ามคืน / บทที่ 5 ข้อตกลงระหว่างที่อยู่ด้วยกัน

แชร์

บทที่ 5 ข้อตกลงระหว่างที่อยู่ด้วยกัน

ผู้เขียน: DILEMMA 28
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-22 10:37:44

ทุกวันเสาร์ทางบ้านเดนิมจะส่งแม่บ้านมาคอยปัดถูทำความสะอาดป้าอนงค์และป้าสายใจทำงานมานานอีกอย่างลลดาเป็นห่วงลูกชายอย่างน้อยส่งคนรู้ใจมาสอดส่องสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี

“คุณหนูคะเสื้อผ้ามีแค่นี้เองเหรอคะแล้วของคุณผู้ชายละคะ”

“มีแค่นี้แหละครับของพี่พัดนิมซักหมดแล้วครับ”

“ไม่ได้นะคะคุณหนูใส่ไว้ในตะกร้าเอาไว้ได้เลยเดี๋ยวป้ามาซักให้เองค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับนิมอยากทำให้พี่พัดเอง” เดนิมยิ้มตอบก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปยังห้องนั่งเล่น

คนแก่อย่างอนงค์กับสายใจทำไมจะดูไม่ออกทั่วทั้งห้องไม่มีกลิ่นอายของคนอื่นอยู่เลยมีเพียงคุณหนูของเธอคนแล้วจานชามก็มีเพียงอย่างละหนึ่งตู้เสื้อผ้าโล่งขนาดนั้นแต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมา

“ตู้เย็นแทบไม่เหลือของสดเลยป้าไปซื้อให้ไหมคะ”

“ไม่เป็นไรครับซื้อกินเอาสะดวกกว่า”

“ขาดเหลืออะไรบอกป้ามาได้เลยนะคะป้าจะได้ตระเตรียมให้”

“ไม่น่าจะขาดอะไรแล้วครับขอบคุณมากครับ” เดนิมพูดตอบซีรีย์เรื่องโปรดที่กำลังโลดแล่นอยู่บนจอไม่เข้าหัวของเขาสักนิดที่เขาต้องแกล้งจดจ่ออยู่กับภาพยนตร์ตรงหน้าก็เพื่อหลีกเลี่ยงการตอบคำถามของแม่บ้านเขารู้ดีว่าทุกคนเป็นห่วงแต่เขาเองก็ยังแอบหวังอยู่ลึกๆว่าพี่พัดจะย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 6 หลบหน้า

    แม้จะตกลงอยู่ร่วมกันในทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ แต่เดนิมคิดว่าไม่เจอกันดีที่สุด อย่างน้อยก็ไม่ต้องเจอกันให้เสียความรู้สึก และถือเป็นการฆ่าเวลาไปในตัว และเดนิมกลัว กลัวว่าจะไม่สามารถกลบเกลื่อนสายตา ความรักที่มันเอ่อล้นอยู่ในอก เขาไม่อยากได้สายตาสมเพชจากพี่พัดอีกเดนิมวิ่งมาหลายสิบปีเพื่อคนคนเดียวเขาได้แต่หวังว่าสักวันระยะทางที่ทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุดนั้นจะมีสักวันหนึ่งที่มีโอกาสมองเห็นเส้นชัยแต่ทว่าพี่พัดของเขาไม่เคยให้โอกาสนั้นสองขาที่ออกวิ่งมายาวนานเริ่มเหนื่อยล้าและอ่อนแรงลงไปทุกทีเดนิมกลับมาอาศัยภายในคอนโดของตัวเองอีกครั้งเขาเร่งปิดต้นฉบับเพื่อให้ทันเดดไลน์ที่ตัวเองกำหนดขึ้นโฟกัสกับตัวอักษรเบื้องหน้าตัดความคิดฟุ้งซ่านทั้งหลายออกไปกลั่นกรองเรียงร้อยรสรักออกมาเป็นหนังสือนิยายรักเรื่องเศร้าเรื่องหนึ่งว่ากันว่า ‘เรามักจะซ่อนคนคนนึงไว้ในบทเพลง’ นักเขียนอย่างเดนิมก็เช่นกันเขาซ่อนความรักที่มีต่ออีกฝ่ายมาอย่างยาวนานหลายสิบปีผ่านนิยายหลายสิบเล่มจนได้ขึ้นชื่อว่านักเขียนเรื่องเศร้าหากคุณมีความสุขในชีวิตมากเกินไปก็ไปหาหนังสือของ FALLIN มาอ่านหากคุณอยากจะล้างลูกตาชื่อนี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังโดย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 7 ปกป้องความรู้สึกตัวเองก็หาว่าร้ายกาจ

    แม้ไม่อยากทำให้พี่พัดอึดอัด เดนิมมักจะปลีกตัวและไม่เข้าหาอีกฝ่ายโดยไม่จำเป็น ยิ่งในบริษัทเขาทำเหมือนเป็นพนักงานคนหนึ่งที่ไม่ได้มีสัมพันธ์เกินเลยกับเจ้านาย เดนิมวางตัวดีและพยายามหักห้ามความรู้สึกของตัวเองอยู่เสมอ แต่เหมือนว่าอีกฝ่ายมักจะมีข้ออ้างให้เขาต้องติดสอยห้อยท้ายออกไปพบปะพูดคุยกับคู่ค้าอยู่เสมอเช่นกัน และแล้วเดนิมก็หาสาเหตุเจอว่าพี่พัดจะเก็บเขาไว้ข้างตัวทำไม ในที่สุดวันนี้ก็ได้รู้ ตลอดเวลาที่เขาตามพี่พัดไปทำงาน แม้จะโดยสารไปด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้กลับพร้อมกัน เดนิมชินกับความเป็นอยู่และการถูกปฏิบัติแบบนี้เสียแล้ว ไม่คาดหวัง…ไม่ผิดหวัง ตลอดระยะเวลาหลายสัปดาห์อีกฝ่ายมักจะพาเขาไปเรียนรู้งาน พบปะสังสรรค์ลูกค้าในฐานะเด็กฝึกงาน แต่ว่าไม่มีครั้งไหนน่าอึดอัดเท่าครั้งนี้มาก่อน ทั้ง ๆ ที่เป็นร้านอาหารสุดหรู บรรยากาศดี แต่ทว่าผู้ร่วมโต๊ะอีกคนกลับทำให้เดนิมรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นที่สุด…ผู้หญิงที่มอมยาพี่พัดในวันนั้นก็คือคุณนิชา ซึ่งเป็นคู่ค้าของพี่พัดมายาวนานเดนิมนั่งกึ่งกลางระหว่างโต๊ะจะว่าไปหากตัดเรื่องเลวร้ายที่นิชาทำลงไปก็ดูจะเหมาะสมกับพี่พัดมากกว่าเขาทุกตรงทั้งคู่ทักทายกันอย่างคุ้นเคยเป็นก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 8 พูดไปก็เท่านั้น

    แม้จะไม่อยากออกมาฝึกงานแต่เมื่อรับปากไว้แล้วก็ต้องทำให้เสร็จสามเดือนก็สามเดือนแค่ไม่กี่สัปดาห์ยังกินพลังงานชีวิตไปซะขนาดนี้ระหว่างเดนิมกับพิพัฒน์ก็ยังมีบรรยากาศกระอักกระอ่วนอยู่ไม่น้อยแม้จะอาศัยอยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้พูดคุยกันสักประโยคอีกทั้งเดนิมก็เลือกที่จะขับรถไปเองเมื่อก่อนรู้ทั้งรู้ว่าจะต้องโดนกลั่นแกล้งแต่ก็ไม่เก็บมาใส่ใจแต่หลังจากที่มีปากเสียงกันครานั้นเดนิมก็ไม่อยากจะเป็นฝ่ายถูกกลั่นแกล้งอีกไม่ว่าจะให้เขาหิ้วท้องรอจนดึกดื่นหากวันไหนเขางีบหลับอีกฝ่ายก็จะกลับไปก่อนโดยที่ไม่เอ่ยปากจะเรียกกันอีกทั้งพี่พัดมักจะมีอิริยาบถที่ผ่อนคลายเมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังโดยเฉพาะการรับประทานอาหารร่วมกัน…ยิ่งคาดหวังมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งกัดกินความสุขในชีวิตเราไปมากเท่านั้นไม่มีใครไม่อยากสมหวังแต่ทว่ามันไม่เหลืออะไรให้หวังเลยต่างหากอาหารกลางวันคุณน้ามาลินีก็ห่อมาให้พี่พัดเหมือนเดิมเดนิมก็โทรหาสอบถามอยู่บ่อยๆไม่ใช่เพื่อทำคะแนนต่อให้คุณน้ามาลินีจะชมชอบเขามากแค่ไหนแต่เจ้าตัวไม่มีใจมันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีเดนิมไม่อยากให้เรื่องระหว่างเขากับพี่พัดผิดใจกับผู้ใหญ่และเขาโชคดีที่น้ามาลินีไม่ได้รังเกียจกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 9 เหนื่อยล้าเกินกว่าจะเอ่ยปาก

    ทางด้านเดนิมโชคดีที่กาแฟวางพักไว้สักครู่บนเคาน์เตอร์แผลจึงไม่ได้ร้ายแรงเป็นแผลไหม้ระดับสองมีตุ่มพองใสแต่ก็ปวดแสบมากเพราะเส้นประสาทบริเวณผิวหนังยังเหลืออยู่ไม่ได้ถูกทำลายไปมากนักการหายของแผลใช้เวลาประมาณสองถึงสามสัปดาห์คุณหมอจึงให้ครีมทายาภายนอกรวมไปถึงการปิดแผลด้วยผ้าก๊อซอีกทั้งยังกำชับไม่ให้โดนน้ำรวมไปถึงที่ต้นขาด้านขวาด้วยเดนิมทำแผลเสร็จพี่แฝดก็โทรมาตอนอยู่ในรถพอดีเขากดรับสายก่อนจะทำน้ำเสียงปกติ “ว่าไงครับ”“วันนี้ว่างหรือเปล่าเราพี่สองคนจะไปรับไปทานข้าว”“วันนี้คงไม่ได้ครับ”“เดี๋ยวพี่โทรไปหาไอ้พัดให้”“อย่าดีกว่าครับเดี๋ยวพี่พัดจะว่าเอาตอนนี้ผมเป็นแค่พนักงานฝึกงานนะครับพี่แฝดอย่าลืม” เดนิมพยายามทำน้ำเสียงให้สดใส “อีกอย่างมีนักศึกษาฝึกงานคนอื่นมาฝึกด้วย”“แล้วเราจะว่างเมื่อไหร่” เดนีนแทรกขึ้นมา“เดี๋ยวถ้าว่างจะโทรไปนัดพี่ๆอีกทีนะครับไม่ต้องกลัวว่าพวกพี่แฝดจะไม่ได้จ่ายรับรองวันนั้นต้องจ่ายให้น้องทั้งวันนะครับ” แฝดต่างหัวเราะ “หาเวลามาให้ได้เถอะน้องคนเดียวจะเท่าไหร่เชียวแพงแค่ไหนก็เลี้ยงได้” ทั้งสามคนหัวเราะก่อนจะกดวางสายเดนิมถอนหายใจก่อนจะสตาร์ทรถกลับบ้านโดยไม่ได้ดูสายที่ไม่ได้รับก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 10 คนเดียวไม่เหงาเท่าสามคน

    ทางด้านปานัสเมื่อโดนดุไปซึ่งๆหน้าก็ดูจะนอบน้อมขึ้นแต่ก็ยังพยายามจะหักหน้าและปาดหน้าทำงานแทนเดนิมเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายมือเจ็บ“นิมช่วยดูตรงนี้หน่อยนะ” สิริเอ่ยพร้อมยื่นแฟ้มให้เดนิมยังไม่ทันยื่นมือออกไปรับปานัสกลับยื่นมือมารับแทน“ให้นัสทำนะครับพี่สิริ” สิริเองก็มองหน้าเดนิมเมื่อเห็นเจ้าตัวพยักหน้าน้อยๆก็ยื่นแฟ้มใส่มือปานัสแทนพร้อมกำชับ“ฝากด้วยนะจ๊ะงานนี้ต้องเสร็จวันนี้ถ้าไม่เสร็จจะจ่ายค่าโอทีให้”ปานัสอ้าปากค้างกลืนน้ำลายลงคอพร้อมรีบเปิดเอกสารในแฟ้มอ่านรายละเอียดคร่าวๆพร้อมอุทานในใจ “ตายห่าไม่น่าเลยกูวันนี้จะเสร็จไหมเนี่ย” พร้อมรีบกุลีกุจอกลับไปนั่งทำที่โต๊ะตัวเองโซนหน้าห้องผู้บริหารแทบไม่มีเสียงพูดคุยตลอดช่วงบ่ายพี่สิริหันมายิ้มเป็นนัยให้เดนิมเดนิมค้อมหัวให้ก่อนจะก้มหน้าอ่านเอกสารในมือจนเลิกงานปานัสขบเคี้ยวเขี้ยวฟันเมื่อเวลาเลิกงานพนักงานทุกคนทยอยกลับรวมไปถึงเดนิมที่เดินมาอยู่ข้างหลังโต๊ะทำงานของตัวเองเอ่ยขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ขอบคุณปานัสมากนะที่ช่วยทำงานนี้แทนเราเราขอตัวก่อนนะ” ปานัสแสร้งยิ้มก่อนจะกัดฟันตอบ “กลับก่อนได้เลยจ้ะ” แต่ในใจก่นด่าอีกฝ่ายสิบกว่ารอบเดนิมที่กำลังลงลิฟต์ไปย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 11 งานวันเกิด

    บริษัทมีการจัดเลี้ยงฝึกงานแต่เดนิมบอกปัดเขาไม่อยากเอาตัวไปเสี่ยงกับปัญหาอีกปานัสเป็นญาติของนิชาอีกทั้งก็ไม่ชอบขี้หน้าเขาเป็นทุนเดิมงานเลี้ยงครั้งนี้ไม่ไปดีที่สุดพี่พัดเองก็ไม่ได้ว่าอะไรมีแต่ปานัสที่ดีอกดีใจคุณสิริเองก็เอ่ยชมเขามากขึ้นกว่าแต่ก่อนเดนิมคิดว่าเท่านี้ก็เพียงพอแล้วคำชมที่มาจากความจริงใจเพียงเท่านี้ก็มีกำลังใจให้เด็กฝึกงานอย่างเขากระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้นไปอีกอีกอย่างเดนิมก็ไม่ได้จบงานด้านบริหารมาเขาทำได้ดีขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้วชีวิตหลังจากนี้จะได้เป็นอิสระเสียทีเดนิมเลิกเฝ้ารอและเลิกฝันไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะทำอะไรดีๆให้พี่พัดแต่ทำไปเหมือนขว้างหินลงสู่ทะเลพี่พัดเกลียดเขาจะตาย…ไม่เห็นหน้ากันจะดีที่สุดเดนิมไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะกลับมาค้างทุกวันหยุดสุดสัปดาห์หรือไม่เขาไม่คิดโทรถามไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกรำคาญและลำบากใจวันนี้วันศุกร์เขาไม่มีธุระที่ไหนเลยเข้าครัวเองทำอาหารสองสามอย่างทีละน้อยสำหรับคนคนเดียวไข่เจียวตรงหน้าฟูฟ่องส่งกลิ่นหอมไปทั่วห้องครัวเดนิมแกะข้าวหุงสำเร็จเวฟก่อนจะแกะใส่จานแม้จะเห็นว่าอีกฝ่ายกลับมาแล้วเดนิมเลือกที่จะหันหลังแล้วทำเป็นไม่เห็นก้มลงทานอาหารตรงหน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 12 ไม่ได้ง่ายอย่างใจนึก

    เดนิมไม่ออกจากห้องของตัวเองแม้ว่าป้าแม่บ้านที่แม่ของเขาส่งมาทำความสะอาดให้ทุกวันอาทิตย์ก็ตามภายในห้องมีตู้เย็นขนาดเล็กขนมขบเคี้ยวรวมไปถึงกาน้ำร้อนขนาดพกพาอีกทั้งเพราะการเขียนนิยายออกมาสักเรื่องหนึ่งมันใช้เวลาและในตอนที่อารมณ์พาไปหรือจินตนาการพรั่งพรูเดนิมไม่อยากจะลุกออกไปทำอะไรนิ้วเรียวยาวเคาะแป้นพิมพ์อยู่อย่างนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเสียงของแป้นพิมพ์ทำให้เขาลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าสมาธิจดจ่ออยู่กับหน้าจอและตัวหนังสือตรงหน้าและเขาใช้มันเพื่อระบายของเสียภายในจิตใจเขาระบายมันออกมาเป็นตัวหนังสือตัวละครบางตัวก็คือตัวเองที่ถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขาขัดเกลาตัวละครผ่านเหตุการณ์สมมุติต่างๆมากมายมานับไม่ถ้วนหาทางออกให้ตัวละครเหล่านั้นได้อย่างง่ายดายแต่น่าเสียดายตัวเองกลับหาทางออกให้ตัวเองไม่เจอเขาติดอยู่ในวังวนความเจ็บปวดของความรักมายาวนานนับสิบปีรู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีใจแต่ก็ยังจะเฝ้ารออดทนกับสายตาที่หยามเหยียดอดทนต่อถ้อยคำที่บาดลึกถึงกระดูกคล้ายกับคนไม่รู้สึกรู้สา สุดท้ายกลับฝังตัวเองทั้งเป็นด้วยการทอดกายให้อีกฝ่ายได้เชยชม ในฐานะนักเขียนหากตัวละครตัวนี้จะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 13 ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

    เดนิมเดินทอดน่องไปตามชายหาด ท้องเริ่มปวดบิดขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงนั่งตรงเปลที่ชายหาดผูกไว้ นั่งสักพักเลยล้มตัวนอน มือก็ได้แต่กดท้องตัวเองเอาไว้ เดนิมเป็นโรคกระเพาะทานอาหารไม่ตรงเวลาก็จะปวดจนทรมาน อีกอย่างยาลดกรดก็อยู่ในกระเป๋า ตอนนี้เขาเหนื่อยทั้งกายและใจเลยอยากจะนั่งพักสักครู่ ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่เขาควรจะดีใจหรือเสียใจดี พี่พัดตักอาหารให้เขา แต่เป็นสิ่งที่ฆ่าเขาให้ตายได้ อีกทั้งตอนสมัยที่เดนิมยังเด็ก หนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้เดนิมประทับใจในตัวพี่พัดของเขาก็คือพี่พัดจะเป็นฝ่ายคอยระวังเรื่องอาหารการกินของเขาทุกครั้งที่ต้องออกไปทานอาหารข้างนอกกันรวมถึงแฝด แฝดมักจะเผอเรอไม่ถามไถ่หรือมักจะสั่งกุ้งมากิน แต่เป็นพี่พัดเองที่คอยเอาใจใส่ และหาร้านที่ไม่มีส่วนผสมของกุ้งเพื่อเดนิมวันเวลาผ่านพ้นไปคนเราหากเป็นเรื่องสำคัญมักจะไม่ลืม…เดนิมยิ้มเยาะให้ตัวเองก่อนจะนอนอยู่อย่างนั้นแขนซ้ายปิดทับดวงตาปิดบังความน้อยเนื้อต่ำใจและการเดินหนีหรือหลีกเลี่ยงเป็นวิธีการเดียวที่ทำให้สถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้นเดนิมจึงนิยามความรักของตัวเองว่าเป็นรักที่ไม่ประกอบวิ่งมายาวนานเพื่อคนคนเดียวมานับสิบปีเขาแพ้กุ้งแต่พี่พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22

บทล่าสุด

  • เพียงชั่วข้ามคืน   ตอนพิเศษ 2

    เดนิมที่สวมชุดคลุมท้องอยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อฟังคุณแม่ลูกสองเล่าถึงเรื่องการคลอดธรรมชาติ“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”“ใช่…ขนาดนั้นแหละแต่ว่านะมนุษย์แม่อย่างเราทนได้เชื่อสิ” วินตราตอบคุณแม่มือใหม่ตรงหน้าที่เหมือนจะกังวลไปเสียทุกอย่างถามนั่นนี่ส่วนเขาที่เคยผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาก่อนก็คอยตอบคำถามน้องสามีอย่างใจเย็น“มะมะ” เดนอนเริ่มพูดคุยสองคำได้แล้วเรียกมามาปาปาทั้งวันไม่ก็หม่ำๆเด็กน้อยเริ่มเดินได้แล้วพอเดินได้ก็เริ่มซนเดินไปทั่วทั้งบ้านตอนนี้วินตราต่างก็ย้ายมาที่บ้านใหญ่ชั่วคราวเพราะลลดาอยากเลี้ยงหลานตอนนี้วินตราก็ท้องลูกคนที่สองได้ 4 สัปดาห์จะเรียกว่าหัวปีท้ายปีก็ไม่ผิดนักวินตรามองสามีตัวเองตาเขียวอยากจะถลกหนังหัวคนทำเพราะตอนนี้เขาก็ย่าง 43 แล้วมาท้องตอนแก่สังขารไม่ไหวแม้ว่าใจจะสู้ก็ตามอีกอย่างก็กังวลโรคทางพันธุกรรมและความผิดปกติทางโครโมโซมที่อาจเกิดขึ้นได้เดนิมอุ้มเด็กน้อยมานั่งตักแล้วสอน “เดนิมเดนิมไหนพูดสิครับ”“เดเด”“เดนิมครับ”“เดเดนิม”“เก่งมาก” เดนิมหอมแก้มยุ้ยๆนั้นฟอดใหญ่อย่างมันเขี้ยว“มีสองคนไล่ๆกันแบบนี้ก็ดีนะครับเหนื่อยทีเดียว” วินตราถอนหายใจพร้อมกับเอ

  • เพียงชั่วข้ามคืน   ตอนพิเศษ 1

    การแต่งงานถูกจัดที่เกาะส่วนตัวของท่านเจ้าสัวเป็นงานใหญ่ที่มีการเลี้ยงฉลองถึง 3 วัน 3 คืนบรรดาแขกเหรื่อที่ตบเท้ารวมงานพันกว่าคนและแน่นอนว่าเจ้าบ่าวถูกมอมเหล้าคอพับทุกคืนเดนิมยืนมองภาพถ่ายฉากหลังริมทะเลฟ้าสวยทะเลสีครามสองบ่าวสาวกำลังสวมแหวนแต่งงานให้แก่กันส่วนภาพอื่นๆก็เป็นภาพที่พวกเขาทั้งสองต่างก็ฉีกยิ้มจนไปถึงดวงตาแตกต่างจากภาพในอดีตอย่างเห็นได้ชัดการแต่งงานครั้งนี้มีแต่ความชื่นมื่น“อื้อ”เดนิมถูกสวมกอดจากทางด้านหลังจมูกก็ซุกไซร้ไปทั่วลำคอระหง“พี่พัด”“ยืนมองรูปนี้อีกแล้วนะเรา” ไม่รู้สิรูปถ่ายพวกนี้ที่เดนิมได้อัดใส่กรอบไว้ติดไว้ในห้องนอนของพวกเขารวมไปถึงห้องนั่งเล่นแต่รูปที่สวมแหวนให้กันมักจะดึงดูดความสนใจของเขามากเป็นพิเศษเป็นภาพที่ทะเลท้องฟ้าเหมือนเป็นใจทุกอย่างลงตัวแถมชุดแต่งงานยังเป็นชุดที่เขาออกแบบเอาไว้เพชรและไข่มุกเปล่งประกายระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสงแดดเดนิมยังจำภาพวันงานได้ดีแม้จะผ่านมาร่วมสามเดือนแล้วก็ตามตอนนี้พวกเขาทั้งสองย้ายมาอยู่เพนท์เฮ้าส์หลังเดิมเพียงแต่มีการต่อเติมจัดผังใหม่ห้องนอนใหญ่ถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นรวมไปถึงห้องนอนแขกก็ออกแบบใหม่เพื่อรองรับสมาชิกใหม่ในวันหน้า

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทส่งท้าย ปารีสกับความฝันในวันวาน

    เดนิมไม่ได้คาดหวังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ความจริงเขาแทบไม่ต่างอะไรไปจากเดิมเพิ่มเติมคือมีคนคอยรับคอยส่งก็เท่านั้น“ไงไอ้พัดการงานไม่มีทำเหรอไง” เดนีสถามพลางเปิดฝ่ายเปิดประตูให้เดนิมขณะที่รถจอดหน้าบริษัทบริษัทนี้เป็นบริษัทของเดนิมที่แตกย่อยไลน์การผลิตเครื่องดื่มออกมาภายใต้การดูแลของเดนีสวันนี้เขาแวะเข้ามาประชุมในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และเป็นหนึ่งในคณะบริหารด้วยส่วนเลขาข้างหลังนั้นสีหน้าราบเรียบบุคลิกดีแตกต่างจากเจ้านายอย่างสิ้นเชิง“ขอบคุณครับ” เดนิมเอ่ยขอบคุณพี่ชายก่อนจะลงรถมายืนข้างๆ “อ้าวสวัสดีครับคุณวิน”“สวัสดีครับ” วินตราเอ่ยทักทายน้องชายเจ้านายอย่างนอบน้อม“ตอนเย็นพี่มารับนะ”“ครับ”“ตอนเย็นก็กลับกับพี่ไงบ้านเดียวกันกลับด้วยกันประหยัดดีออก”“แล้วคุณวินตรากลับยังไงล่ะครับ” เดนีสสะอึกรถคันโปรดของเขานั่งได้แค่สองคนวันนี้ขับมาเองไม่ได้ให้คนขับมาส่งด้วยเดนีสตีหน้าขรึม “อ้อลืมไปวันนี้มีประชุมตอนบ่ายต่อ” ก่อนจะเดินหนีเข้าไปในตึกพร้อมกับคุณเลขา“ตอนเย็นพี่มารับนะ”“อาจจะเลทหน่อยนะครับช้าสักครึ่งชั่วโมง”“ไม่เป็นไรมีอะไรก็โทรมา”“ครับ” พิพัฒน์รอจนเดนิมเดินหายเข้าไปในตึกเขาถึงเคลื

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 33 ลิลลี่สีขาวกับความนัย

    “ทำไมนิมถึงให้โอกาสพี่” พิพัฒน์ตัดสินใจถามออกไปไม่รู้สิหากเป็นเขาคงไม่ได้ง่ายดายแบบนี้แต่ความคิดของเดนิมการที่เขาให้อภัยคนตรงหน้าไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้นมันมีระยะเวลาอีกทั้งพี่พัดคงไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่เรียกว่า ‘ง้อขอคืนดี’ ไม่ได้แวะเวียนมาหาหรือขยันสรรหาของมีค่ามาให้แต่การกระทำกลับตรงข้าม“ลิลลี่สีขาวตลอดสามปีที่พี่พัดส่งให้นิมทุกโอกาสก็แฝงความนัยไม่ใช่เหรอครับ”“อ่า” นั่นก็จริงเพราะพิพัฒน์ไม่ใช่คนช่างพูดแต่การกระทำของเขามักจะแฝงความนัยเอาไว้ในสิ่งของต่างๆเสมอไม่ว่าจะดอกลิลลี่สีขาวที่ส่งให้อีกฝ่ายในทุกโอกาสพิเศษต่างๆเดนิมมีพร้อมทุกสิ่งเขาไม่อยากให้ของมีค่าเพื่อกดดันให้อีกฝ่ายรับไว้ดอกไม้อย่างมากสองสัปดาห์ก็เหี่ยวเฉาร่วงโรยไปจะทิ้งก็สมควรเพราะถึงแก่เวลาเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแต่ความจริงแล้วดอกลิลลี่สีขาวพวกนั้นไม่เคยถูกทิ้งสักช่อแม้จะแห้งเหี่ยวไร้กลิ่นไม่เหลือความสวยงามแต่ความหมายยังคงอยู่ยังคงวางอยู่ในกล่องใสเรียงซ้อนกันหลายกล่องภายในโกดังเก็บของแต่เขาไม่บอกพี่พัดหรอก“พี่พัดคงรู้ความหมายของลิลลี่สีขาวดี”ดอกลิลลี่สีขาวแสดงความรักที่บริสุทธิ์และความไร้เดียงสาความเห็นอกเห็นใ

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 32 หนังสือเล่มเดิมกับคนอ่านคนเดิม

    ว่ากันว่าหนังสือเล่มเดิมตอนจบไม่ว่าจะอ่านกี่ครั้งก็ยังคงเหมือนเดิม…นั่นก็จริงส่วนหนึ่งแต่ว่าทุกครั้งที่อ่านกาลเวลาไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่คนเราโตขึ้นสังคมสิ่งแวดล้อมแม้ตอนจบในตอนสุดท้ายจะยังคงเหมือนเดิมแต่ทว่าความรู้สึกทุกครั้งที่ได้อ่านไม่มีทางเหมือนเดิมคนเราเองก็เช่นกันทุกคนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาไม่มีใครคงเดิมจะเป็นไรไปหากเราอยากจะหยิบเล่มโปรดขึ้นมาอ่านอีกครั้งแม้ว่าระหว่างทางที่อ่านจะเปียกปอนและเหน็บหนาวไปบ้างแม้ตอนจบจะไม่สมหวังแต่อย่างน้อยเราก็ได้อ่านมันเพื่อเติบโตคนเราไม่ได้เติบโตเพียงร่างกายแต่ความรู้สึกของเราก็เติบโตด้วยเช่นกันเรียนรู้ที่ยอมรับความผิดพลาดแก้ไขและทำให้มันดีขึ้นดังเช่นพวกเขาทั้งสองเริ่มแรกสถานการณ์ไม่เป็นใจพอเวลาผ่านไปทำให้ตกผลึกได้ถึงบางสิ่งบางความรู้สึกที่ไม่แจ่มชัดในตอนแรกนิยามคำว่ารักคนเราไม่เหมือนกันบ้างขอแค่ได้รักบ้างขอให้ได้อยู่ด้วยกันแล้วถ้าหากนิยามรักของพวกเราสองคนไม่ตรงกับคนอื่นล่ะ? พิพัฒน์นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดขับรถไปยังบ้านศศิภักดีตลอดทาง หากผู้ใหญ่ทางบ้านศศิภักดีจะกีดกัน นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก การแต่งงานของพวกเขาทั้งสองในตอนแรกมีแต่ความไม่เข้าใจ ความ

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 31 แฟนไซน์ของคุณนักเขียนคนโปรด

    การอ่านนิยายกลายเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของนักธุรกิจชื่อดังอย่างพิพัฒน์ เขาพึ่งค้นพบการเยียวยาหัวใจตัวเอง ก็เหมือนวลี ‘นั่งโง่ ๆ ที่ริมทะเล’ อะไรทำนองนั้น อีกอย่างมันทำให้เขาเข้าใจตัวตนของเดนิมมากขึ้น เมื่อก่อนเขาคิดว่านิยายมันไม่สมจริง ประโลมโลก รู้สึกว่าเสียเวลาชีวิตด้วยซ้ำ แต่พอได้ลองอ่าน ลองวิเคราะห์ตัวละคร หลาย ๆ เรื่องราวจะเห็นได้ว่านิยายไม่เพียงสร้างความบันเทิงหรือเสริมสร้างจินตนาการ แต่บางเรื่องกลับซ่อนเรื่องราวเบื้องหลัง ความฝันบางอย่างที่นักเขียนไม่สามารถลงมือทำมันในชีวิตจริงได้ แต่สามารถทำให้มันสำเร็จได้ในนิยายเรื่องหนึ่งดังเช่นเรื่อง ‘ความรักและกาลเวลา’ ที่เขากำลังอ่านอยู่ตอนนี้จะบอกว่าอินก็คงจะไม่ผิดนักเป็นการบอกเล่าความรักของคนสองคนที่ผ่านอุปสรรคกาลเวลาความเข้าใจผิดและกลับมาพบกันอีกครั้งโดยปลายปากกาของ FALLIN นักเขียนผู้ไม่สมหวังในความรักรวมไปถึงความฝันต่างๆได้ถูกบอกเล่าผ่านตัวอักษรหน้าแล้วหน้าเล่าค่อยๆถ่ายทอดออกมาอย่างถูกจังหวะบางประโยคก็กระแทกใจคนอ่านทำให้นักอ่านรู้สึกคล้อยตามและเห็นใจตัวละครได้ไม่ยากพิพัฒน์ได้เรียนรู้และเข้าใจคนคนหนึ่งเพราะการอ่านนิยาย FALLIN เป็นนามปาก

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 30 เติบโตเป็นไม้ใหญ่

    การเขียนคือหนึ่งในชีวิตประจำวันของเดนิมไปเสียแล้วแม้ว่าเขาจะกล้าพูดกล้าวิจารณ์มากขึ้นแต่การระบายของเสียภายในจิตใจของเขายังเป็นการเขียนอยู่ดีปล่อยสมองและปล่อยใจให้พลิ้วไหวไปตามนิ้วมือที่เคาะลงบนแป้นพิมพ์สภาพจิตใจตอนนี้ของเขาดีขึ้นมากพอไม่ยึดติดก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไปอีกทั้งนิยายเรื่องใหม่ที่เขียนก็เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกเจ็บปวดเหล่านั้นลงไปทีละเล็กทีละน้อยจนตอนนี้ของเสียภายในจิตใจของเขาไม่ได้มากมายเหมือนอย่างแต่ก่อนตอนจบที่เดนิมวางเอาไว้เป็นปลายเปิดมนุษย์เราก็เหมือนเฉกเช่นตัวละครในนิยายบ้างทำเรื่องที่ผิดมหันต์บ้างโง่เขลานักอ่านอ่านในมุมมองพระเจ้ามองเห็นภาพรวมทั้งหมดหากเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเราต่างก็บ้าใบ้และโง่เขลาและอาจกระทำในสิ่งที่ไม่สมควรเหมือนดั่งตัวละครที่เราก่นด่าเพราะฉะนั้นเดนิมจึงปล่อยให้ตัวละครดำเนินเรื่องไปเขาอัพนิยายทุกคืนหากวันไหนมีธุระก็จะแจ้งเตือนล่วงหน้าอัพกลางคืนและใช้เวลาที่นั่งอยู่ในรถตอนเช้าระหว่างเดินทางไปบริษัทฆ่าเวลารถติดที่แสนน่าเบื่อด้วยการอ่านคอมเมนต์และตอบกลับปกติการลงนิยายให้อ่านแต่ละตอนจะเป็นหน้าที่ของทางสำนักพิมพ์แต่ว่าเรื่องนี้เดนิมตัดสินใจที่

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 29 เวลาคือคำตอบ

    พิพัฒน์เดินออกจากห้องพักผู้ป่วยด้วยสีหน้าไม่สู้ดี แม้แต่สองแฝดที่ทำท่าจะเข้ามาก่อกวนต่างก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย แม้ว่าจะหมั่นไส้ไอ้เพื่อนรักมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้เกลียดถึงขนาดจะฆ่าแกงกัน อีกอย่างเรื่องของความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้ อย่างที่เคยบอก ไอ้พัดเพื่อนเขาวางตัวดีมาตลอด รักษาระยะห่างกับเดนิมจนไม่รู้จะรักษาระยะห่างยังไง แต่สุดท้ายคืนหนึ่งชีวิตก็พลิกผัน ได้แต่งงานกับคนที่คอยวิ่งหนีมาตลอดหลายสิบปีแต่วันนั้นที่ริมทะเลเดนีสแน่ใจว่าความรู้สึกของเพื่อนรักได้เปลี่ยนไปเพียงแต่เจ้าตัวแค่ไม่แน่ใจอีกอย่างตอนที่เดนิมยังเด็กไอ้พัดประคบประหงมเดนิมยิ่งกว่าพี่น้องที่คลานตามกันมาอย่างพวกเขาเสียอีกตัวติดกันจนพี่ชายอย่างเขาไว้ใจหากเดนิมอยู่กับพิพัฒน์แต่เพราะวัยเจริญพันธุ์มาถึงรวมถึงเรื่องเพศสภาพจึงทำให้ทั้งสองไม่สามารถสนิทสนมกันได้ตามเดิมจะบอกว่าไอ้พัดเองก็มีใจให้…ก็พูดได้ไม่เต็มปากไม่งั้นจะได้ตำแหน่งว่าที่ลูกเขยในอนาคตของเดนิมเหรอผู้ใหญ่มองออกตั้งนานแล้วว่าอะไรเป็นอะไรมีเพียงเจ้าตัวที่ไม่รู้อะไรเลยหากตอนนั้นไอ้พัดมาสารภาพว่าคิดกับเดนิมเป็นอื่นด้วยวัยเพียงแค่นั้นไอ้พัดคงโดนซ้อมปางตายเป็นแน่แต่พอ

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 28 ยื้อก็เหมือนจะยิ่งเหนื่อย

    ผู้บริหารอย่างพิพัฒน์ออกงานพบปะผู้ร่วมลงทุนบ้างประปรายส่วนงานประมูลแบบนี้เรียกว่านับครั้งได้เขามาในฐานะหนึ่งในผู้บริหารของ SSP GROUP และผู้บริหารของ KA GROUP ด้วยเช่นกันบรรดาข้าวของที่พิธีกรบรรยายรายละเอียดเพื่อดึงความสนใจของเหล่าบรรดานักสะสมทั้งหลายในค่ำคืนนี้แต่ทว่าพิธีกรสาวสวยหรือสิ่งของที่ว่าล้ำค่าหายากไม่ได้เข้าสู่โสตประสาทของเขาเลยแม้แต่น้อยนิ้วมือข้างขวาคลึงแหวนแต่งงานข้างซ้ายอยู่อย่างนั้นคล้ายกับไม่รู้ตัวแต่สายตากลับจ้องมองเสี้ยวหน้าของใครบางคนที่กำลังลุกยืนพูดจายิ้มแย้มเดินออกไปเคียงคู่กับสิบทิวารวมไปถึงชายหนุ่มผมทองอีกหนึ่งคนพิพัฒน์ย่นคิ้วพลางจ้องมองใบหน้าของคนแปลกหน้าที่อยู่กับเดนิมคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอหรือรู้จักแต่ก็จำไม่ได้จะว่าไปมีแต่เดนิมที่รู้จักเขาแต่เขาเองกลับไม่รู้เรื่องอะไรของเดนิมเลยเพราะเขาไม่เคยใส่ใจและไม่คิดว่าจะต้องใส่ใจแม้ว่าพิพัฒน์อยากจะเข้าเดินไปทักทายเดนิมมากแค่ไหนแต่เหมือนผู้คนและบรรยากาศรอบข้างจะไม่เป็นใจ“ได้คุยกับน้องบ้างหรือยังลูก” พิพัฒน์ส่ายหน้า“ยังเลยครับ” มาลินีเองก็ถอนหายใจออกมาเช่นกันก่อนจะตบหลังมือลูกชายเบาๆ“ช่วยไม่ได้นี่นาพัดใจร้ายกับ

DMCA.com Protection Status