แชร์

2

สมองครุ่นคิด แล้วจอมภูใช้ไหวพริบตอบ

        “อ๋อ สนามหลวงครับ เอ้อ ผมเพิ่งมาจากต่างจังหวัด แล้วก็ไม่รู้ว่ารถเมล์สายไหนผ่านบ้าง นะฮะช่วยบอกหน่อย เผอิญผมมีธุระ ที่จะต้องไปหาญาติทางนั้น”

        เขาพูดโกหกได้แนบเนียน 

และหล่อนต้องหลงติดกับดักของเขา      

        ก็พอดีเลยกับรถเมล์คันหนึ่ง ที่แล่นโผล่หัวเข้ามาเป็นเส้นทาง ไปบ้านของหล่อนนั่นเอง   

        “เอ้อ ต้องขอโทษนะคะคุณ ฉันคงต้องไปก่อนแล้วล่ะค่ะ”  

เมื่อเอ่ยจบหล่อนรีบผละไปจากเขาทันที

และเขานั้นก็รีบตามหล่อนไปทันที ซึ่งมีคนรอขึ้นอีกสามคนและมณีรัชดาไม่ได้สนใจมองดูด้วยซ้ำ 

จากนั้นเขาเดินตามหลังมาเงียบ บนรถเมล์ที่นั่งว่างและค่อนข้างโล่ง แปลกใจเหมือนกัน

อาจจะเป็นเพราะก่อนนั้นคนที่นั่งมาลงป้ายสวนสาธารณะนี้มีทั้งหมดสิบกว่าคน

ที่นั่งจึงดูโล่ง  สวนสาธารณะแห่งนี้ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจคนกรุงเทพ

        หากแต่มณีรัชดาไม่ทันสังเกต ขณะที่เธอทรุดนั่งเบาะสายตามองตรงแต่พอรถแล่นสักพัก ผู้ที่ทรุดนั่งเบาะหลังขยับตัว และยกมือขึ้นเปิดหน้าต่างกระจก

พอเขายกมือเปิดหน้าต่าง ข้างขอบอีกด้านหนึ่งอยู่ฝั่งของหล่อน  มณีรัชดาจึงคิดยกมือช่วย เพราะหล่อนต้องการให้ลมพัดระบายไม่ให้ร้อนอ้าว ถ้าลมถ่ายเทได้สะดวก

        “ดิฉันจะช่วยค่ะ”

        เอ่ยโดยไม่เงยมองหน้าแต่ มณีรัชดา รู้สึกคุ้นหู

        “ขอบคุณครับ” จึงเงยหน้ากลับไป

        “อ้าว คุณ คุณนี่เองไม่ใช่สายนี้นะคะ ที่คุณจะไปสนามหลวงสายนี้ไปตลาดพลู ฝั่งธน ผ่านวงเวียนใหญ่ไปสุดที่บางแคค่ะ” 

        พยายามตอบเขาด้วยความรู้สึกดี แนะนำอีกฝ่ายที่ถูกต้องเพื่อให้คำตอบ 

หากแต่ฝ่ายชายหนุ่มยังทำสีหน้าเซ่ออึกอักและตีสีหน้าแบบเหมือนไม่รู้อะไรสักนิดเหมือนบ้านนอกเข้ากรุง และยิ้มให้หล่อน

        “เอ้อ ไม่เป็นไรครับ นั่งไปก่อน พออยากลงผมจะลงเอง คุณช่วยบอกหน่อยก็ได้ครับว่าผมต้องไปต่อรถที่ไหนอีก นี่ผมก็ขึ้นตามคุณ”

        อ้างถึงหล่อนอีกครั้ง อย่างส่งเดช    

        ทำให้มณีรัชดาขมวดคิ้ว และจะให้หล่อนตอบคำถามเขาหรือ เอนี่ชักไม่ได้เรื่องแล้ว และไม่น่าไว้ใจเสียด้วย ฉุกใจคิดแล้วพยายามระวังตัว     

        มณีรัชดาเงียบไปนานมาก 

พอหล่อนเงียบเขาจึงเอ่ยเหมือนชวนคุย

        “เอ้อ  คุณครับ  ที่คุณบอกว่าผ่านวงเวียนใหญ่ ไปถึงบางแคนี่  ผมขอลงที่บางแคด้วย”

        “อ้าว แล้วคุณจะไปทำไมคะ”

        มณีรัชดาเสียงเข้มทันที บวกกับรู้สึกไม่ไว้ใจแล้ว เสียงไม่ได้นุ่มอ่อนเหมือนทีแรก เพราะมีความรู้สึกว่าเขาเหมือนจงใจถามหล่อน   

        ฝ่ายจอมภู กำลังหาคำตอบให้หล่อนอยู่

        “เอ้อ โทษทีผมลืมไปว่ามีญาติอยู่ที่บางแคอีกคน แล้วญาติคนนี้ก็น่าจะรู้ บ้านญาติของผมที่อยู่แถวสนามหลวง จะให้เขาช่วยหาจะง่ายกว่าถ้าผมไปเองคงมึนงงเหมือนเคยเพราะผมบอกแล้วว่า ผมไม่เคยเข้ามากรุงเทพเลย ผมไม่เคยจริง”

        สีหน้าของเขานั้นพยายาม ให้มันแนบเนียนที่สุด

        “ก็พอดี คุณพูดถึงแถวบางแค”

        มณีรัชดาเงยหน้าจ้องเขาเหมือนไม่สนใจสักเท่าไหร่

        “ก็ตามใจคุณค่ะ ฉันจะบอกคุณแค่บางแคเท่านั้นล่ะ ต่อจากนั้นคุณตามหาเอาเองก็แล้วกัน” 

        มณีรัชดาเอ่ยเหมือนตัดบท

        อึดใจเดียวรถผ่านตลาดพลู แล้วก็วงเวียนใหญ่เห็นอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินในภาพทรงม้าเด่นเป็นสง่า มณีรัชดาอดไม่ได้ที่จะยกมือไหว้สักการะพระองค์ท่าน เป็นเช่นนี้ทุกครั้ง ที่ระลึกได้

        ชายหนุ่มแปลกใจที่เห็นหล่อนยกมือไหว้ และเขาเลยยกมือไหว้ตาม  ตั้งแต่เกิดมาเป็นคนไทย  ไม่เคยยกมือไหว้อนุสาวรีย์แห่งนี้เลย  เพราะไม่เคยผ่านแวะมาเส้นทางนี้ ครั้นพอถึงเส้นต้นถนนเพชรเกษม จอมภูใช้สายตาสลับมองสองฟากที่นี่มีบ้านเรือนของผู้คนสลับกับร้านค้าโรงงาน รวมทั้งมหาวิทยาลัย

        ถึงตลาดบางแค มณีรัชดาไม่ลงที่ตลาด เขาแปลกใจ มีคนอื่นทยอยลงไป  เมื่อหล่อนยังนั่งอยู่ เขาก็แอบลุกแต่ไม่ได้ลงตามคนอื่นพาตัวเองไปนั่งหลบหล่อนอีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นฝั่งเดียวกับหล่อน และบดบังสายตา

        มณีรัชดาคงแน่ใจเหลือเกินว่าเขาได้ลงไปแล้ว

เห็นหล่อนชำเลืองสายตาไปทางด้านหลัง แต่ก็ไม่เห็นเขาที่อยู่อีกสี่แถวถัดไป  เพราะก้มหลุบใบหน้าลงต่ำ

        ซึ่งหล่อนตัดสินใจลงรถที่ป้ายรถเมล์ถัดมาเป็นทางแยกฝั่งตรงกันข้ามเป็นห้างสรรพสินค้าขายปลีกขนาดใหญ่ดูเหมือนซอยนี้จะเป็นซอยขนาดใหญ่เพราะมีรถเข้าออกตลอดเวลามีไฟจราจร 

        เห็นมณีรัชดาลุกจากเบาะ พร้อมด้วยผู้โดยสารอีกห้าคนที่เตรียมตัว หล่อนก้าวลงแล้วเมื่อรถจอด 

จอมภูแทบทะลึ่งตัวเองจากเบาะเดินแกมวิ่งเพื่อ เพื่อให้ตัวเองลงทัน ก่อนที่รถจะออก

        รอดหวุดหวิดก้าวลงเป็นคนสุดท้าย พยายามสอดส่ายตามองหามณีรัชดา นั่นไงมองเห็นแล้ว 

        หล่อนกำลังเดินตรงไปที่วินมอเตอร์ไซค์ มีคิวที่ต่อสามคน ทำไงดี เอาล่ะ

        รถแท็กซี่แล่นมาคันหนึ่งรีบโบกให้หยุดทันที ตัดสินใจก้าวผลุบเคียงข้างคนขับโดยบอกแค่ว่า

        “ขับไปเลยครับ ถึงเมื่อไหร่แล้วจะบอก”

        คนขับเห็นว่าผู้โดยสารค่อนข้างมีฐานะ จึงออกรถและท่าทางไม่ได้เรื่องมาก พอรถกำลังขึ้นสะพาน จอมภูหันหน้ามองไปข้างหน้าและหลังตลอดเวลา เพื่อสังเกตหล่อนบอกกับคนขับว่า

        “ช่วยชะลอรถลงหน่อยครับผมจะตามแฟนผมที่นั่งมอเตอร์ไซค์ ไม่รู้จะไปไหน ผมอยากรู้ แล้วลุงจะคิดค่าโดยสารเท่าไหร่ผมไม่ว่า”

        หัวสมองแล่นปราดจอมภูพูดออกมาทันที แล้วรู้สึกสบายใจ เขาคิดว่ามณีรัชดาต้องนั่งรถมาแน่ และก็เห็นจริง หลังจากที่แท็กซี่หยุดจอด เขาก็บอกว่า

        “นั่นไงครับ  มอเตอร์ไซค์วินคันนี้ ตามมันไปให้ได้”

        คนขับขับตามทันทีเห็นมอเตอร์ไซค์คันเป้าหมาย พยายามสังเกตตลอดเวลาผ่านซอยที่สอง-ห้า เห็นรถที่ซ้อนท้ายชะลอบริเวณสามแยก   

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status