แชร์

4

โดยที่วางสีหน้าราบเรียบ เมื่อจ้องใบหน้าเข้มเบนส่งไปหาน้องชายที่อารมณ์กำลังดีด้วยการหยิบกีต้าร์ตัวโปรด 

ภูวพลแทบไม่รู้สักนิดว่าพี่ชายจ้องด้วยสีหน้าเข้ม  เพราะเจ้าตัวกำลังฮัมเพลงคลอไปด้วยการใช้มือที่ไล้เกาขึ้นลง อย่างคนที่อารมณ์เปรมปรีดานักหนา

        แต่คนที่กระฟัดกระเฟียดนักคือพี่ชายคนโตซึ่งรู้ดีที่สุดและยังคงสนใจกับเสียงเพลงและอารมณ์มันของตนเอง จนแทบไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองพี่ชายเพื่อตอบ ขณะที่จอมภูส่งคำถามเข้มขึ้นมา

        “วันนี้แกออกไปไหนมาทั้งวัน นายพล”

        ภูวพลนั้นความที่อารมณ์จดจ่อกับเสียงเพลง จึงไม่ได้เงี่ยหูฟังและสนใจพี่ชาย จนร่างสูงของพี่ชายเดินเข้ามาตะคอกใส่เสียงดัง

        “นี่นายพล แกได้ยินฉันพูดหรือเปล่า วันนี้ทั้งวันแกไปไหนมา”  

เห็นสีหน้าตึงขึงขังของพี่ชายทำให้ภูวพลนิ่งครุ่นคิด

เมื่อตาคมปลาบของพี่ชายพุ่งตรงมาพร้อมคำถาม

เขามีความรู้สึกว่าพี่ชายเข้ามาขัดจังหวะนัก แล้วทำไมต้องตีสีหน้ายักษ์ใส่รุนแรงเหมือนเขาทำความผิดอย่างนั้นเกิดข้อกังขาในใจของภูวพล

        “ทำไมครับพี่ใหญ่สนใจด้วยหรือว่าผมจะไปไหนมาไหน”  

เลยเกิดอยากกวนพี่ชายเมื่อเห็นเขาอารมณ์เครียดสีหน้าตึงก็อยากจะเย้าแหย่กลับไป หากหารู้ไม่ว่ายิ่งจุดไฟโทสะของอีกฝ่ายให้กระพือโหมหนักกว่าเดิม

        “ไอ้นี่ ชักจะปากเก่งขึ้นแล้วสินะ ถึงกับย้อนใส่ฉันนี่ ขอถามแกดีๆนะเจ้าพล”

เขาตีสีหน้าเคร่งใส่น้องชายและพยายามจับผิด

        “อ้าว ก็ผมไปหาเพื่อนมาครับ”

 ด้วยความที่ไม่อยากจะให้มีเรื่องมากกว่านั้น บานปลายจึงก้มหน้ายอมรับและมีสีหน้าแบบเกรงอยู่มาก เนื่องจากเป็นพี่ชายและพี่ชายคนนี้ข่มเขาได้อยู่ตลอดเวลา อีกอย่างจอมภูในฐานะพี่ใหญ่เป็นคนที่ในครอบครัวยอมรับ

        มีหน้าที่การงานมั่นคงรวมทั้งได้รับคำกล่าวชมเชยจากพ่อแม่แตกต่างไปจากภูวพลน้องชาย ที่มักถูกยกเปรียบเปรยให้เห็นความแตกต่าง มันเหมือนกับเป็นคำที่กดดัน

เพราะว่าเขาไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน  มีแต่ครอบครัวเท่านั้นที่เป็นคนสร้างสมมา และเขาเป็นคนหนึ่งที่เหมือนกับคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดในตระกูลเศรษฐี

        แต่คำพูดที่เหมือนกับถากถางก็ยังคงก้องอยู่ในใจ เป็นเรื่องที่

ภูวพลต้องเก็บความน้อยใจเอาไว้ ว่าสักวันหนึ่งเขาจะทำให้ได้เหนือกว่าพี่ชายคนโตนี้อีก

ไม่ต้องให้คนในครอบครัวต้องคอยปรามาส ว่าเขาไม่สามารถสู้พี่ชายคนนี้ได้

        “เพื่อนแบบไหน เอ เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย”

        “เอ ทำไมพี่ใหญ่ซักละเอียดอย่างนั้น ผมบอกว่า เพื่อนก็เป็นเพื่อนซี”

        เหมือนเขาหงุดหงิดไม่พอใจที่พี่ชายจะถามแบบเจาะลึก 

จอมภูยิ้มหยันสีหน้าเครียด

        “ก็ไม่เป็นไร ฉันเป็นพี่แก ก็ย่อมอยากรู้ทุกอย่างของน้องชาย”

        “แต่นี่มันเรื่องส่วนตัวของผม”

        เขาเผลอตัวเถียงพี่ชายออกไป

        “นี่แกยังเถียงฉันอยู่อีกหรือ  แสดงว่าแกต้องมีความลับที่พยายามจะปกปิดฉันอยู่”

        หากแต่จอมภูยังจ้องสีหน้าเขม็งเอื้อมมือคว้ากีต้าร์ของน้องชายออกจากมือด้วยอารมณ์ถือดี อย่างโกรธจัดที่น้องชายไม่ฟังเขาเลยและเขาดึงเอากีต้าร์ตัวนั้นมาวางบนพื้นใกล้ตัว

เป็นการตัดความสนใจของน้องชายจากสิ่งอื่นเพื่อสนใจเขาตรงหน้าเพียงอย่างเดียว เพราะเขาต้องนั่งก้มหน้าเพื่อให้พี่ชายซัก หากเมื่อจอมภูรุกหนักเหมือนจะเล่นแรงกับน้องชาย

        “ก็มี แต่นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของผม”

        “ฉันขอถามแกตรงๆเป็นผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย หรือว่าแกจะมีแฟนแล้วแกแน่ใจแค่ไหนกับผู้หญิงที่แกเรียกว่าเป็นแฟนและแกนึกว่าฉันแล้วก็พ่อแม่จะยอมรับหรือยังไง”

ภูวพลหน้าหงิกหงอยเศร้าทันควัน

        “ขอบอกว่าฉันไม่ยอมรับในฐานะฉันเป็นพี่ชายของแก แกต้องทำงานก่อน แล้วแกคิดว่าผู้หญิงคนนั้นดีแค่ไหน ถ้าไม่คิดจะจับแก”

        “พี่ใหญ่อย่ามองคนอื่นในแง่ลบเลยน่า ผมรู้ดีว่าผมกำลังทำอะไร และผมกับเธอรักกัน และจะรักกันให้ได้ ถึงมีใครขวาง ผมก็ยอมที่จะออกไปอยู่ข้างนอก”

        “นี่แกกำลังตาบอด เพราะผู้หญิงยังงั้นรึ ภูวพล”

        “เรียกว่าความรักดีกว่า ผมกับเธอรักกัน และรักกันมาก”

        “รักนะหรือ”พี่ชายยิ้มเยาะ

        “แกพูดคำนี้ออกมาง่ายเกินไปแล้ว ถึงอย่างไรเรื่องนี้ แกต้องผ่านด่านหินอย่างมหาหินกับฉันและก็พ่อแม่มากที่สุด ให้ได้ก่อน ถ้าแกคิดแหกคอกทำอย่างนั้นแกก็ชนเลยซี ถ้าแกคิดจะมองไม่เห็นหัวใครในบ้านนี้  เพราะแกก็รู้ดีว่าคำตอบของพ่อแม่คืออะไร”

        “แล้วผมจะอธิบายให้พ่อแม่เข้าใจเอง”

        ภูวพลตอบเสียงหงุดหงิด

        “งั้นฉันขอภาวนาให้พ่อแม่เห็นดีกับแกด้วย แต่แกก็รู้นี่ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าผู้หญิงที่ไม่เหมาะควร มีแต่ตัว แกคิดว่าพ่อกับแม่จะต้อนรับเข้าสู่วงศาคนาญาติหรือเปล่า หัดใช้สมองทบทวนดูบ้าง” เป็นเรื่องที่ภูวพลต้องอึ้ง เพราะอุปสรรคขวางทางรักยิ่งใหญ่

        คุณภาสและนางภวานันท์คือคนที่ภูวพลเดินเข้าหาในช่วงสายของวันรุ่ง ขึ้นเนื่องจากคิดว่าทุกคนตื่นแล้ว พบว่าคุณภาสเองกำลังนั่งกินกาแฟพร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ก่อนที่จะออกไปทำงา ส่วนมารดาก็วุ่นอยู่กับงานครัว 

ถ้อยคำที่พี่ชายเอ่ย ทำให้ภูวพลจำต้องคิดมาก

มันลอยติดตามหัวสมองเขาจนถึงเช้าทีเดียว  อย่างน้อยก็รู้ว่าคนที่ค้านในเรื่องความรักของเขามากที่สุดในเวลานี้ คือพี่ชายคนโตที่เขารักมากที่สุดเหมือนกัน

จอมภูเหมือนคนด้านชาต่อความรัก หากแต่พี่ชายใหญ่ก็ กลับทำเป็นไม่เข้าใจความรักของเขากับหล่อน

        ฮึ เหตุผลที่รู้อยู่แก่ใจดีเพราะฐานะของมณีรัชดาต่ำต้อยกว่าเขา

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status