เณศราค่อนข้างถูกชะตาอาจารย์หนุ่ม เธอสนิทสนมกับเขามากขึ้นในทุกวัน บทสนทนาของเธอและเขามักเป็นไปอย่างธรรมชาติ เขาแวะมาหาเธอพานั่งรถไฟฟ้านั่งเรือบ่อย ๆ มาวาดรูปให้ในสวนด้านหลังร้าน ทานขนมเค้กที่เธอทำทุกเมนูแม้แต่โกโก้ สตรอว์เบอร์รีปั่นที่เขาไม่ชอบนักเพราะเป็นคนชอบกาแฟดำขม ๆ มากกว่า เธอรู้ว่าเขาก็แค่พยายามเอาใจเธอไม่ว่าอะไรที่ขอให้ลองชิมหน่อย ในร้านเบเกอรี่ซึ่งเคยปกคลุมด้วยหมอกทะมึนจึงมีสีสันสดใสขึ้นมา
สำหรับเธอแล้วอาจารย์ป้องเป็นหนุ่มค่อนข้างนิสัยดีคนหนึ่ง ยังเป็นที่หมายปองของสาวน้อยใหญ่ ซึ่งเธอคิดว่าหากนิ่งนานไปรถไฟขบวนสุดท้ายคงได้มีชวด!
แต่การพูดคุยกันไปก่อนน่าจะดีกว่า เธอคงไม่อยากก้าวพลาดอีกซ้ำสอง
“เป็นเพื่อน... รุ่นพี่อะไรประมาณนั้น เป็นลูกค้าที่ชอบมานั่งกินเค้กไม่มีอะไรนี่”
“ปากบอกไม่สนิทแต่นับพี่น้องแล้วให้ตายเถอะนังเนย ได้ยินน้องพลอยบอกว่าตี๋เนิร์ดหล่อมาก กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ตกลงว่ากิ๊กใหม่แกใช่ไหมยะ”
กิ๊ก! คราวนี้เป็นเธอตกใจจนสำลักน้ำจากแก้วชา วางมันลงเบา ๆ บนโต๊ะกระจกแล้วเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดขอบปากด้วยท่าทางสมเป็นกุลสตรี
“แกจะมาเซ้าซี้ฉันทำไมเนี่ย? ยัยวิ... ตัวแกเหอะวัน ๆ ทำแต่งานเมื่อไรจะมีแฟน มีคนคุยกับเขา”
“ไม่มีอะไม่รีบ เบื่อผู้ชาย นี่ถ้าเจอซื่อ ๆ ใส ๆ แบบพี่...” ปลายเสียงเงียบกริบพอเผลอลืมตัวพูดเรื่องที่อาจทำให้เพื่อนไม่สบายใจ ปวิมลยิ้มเจื่อน เกือบจะได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนาหากอีกฝ่ายไม่วกเข้าเรื่องเดิม
“ไม่ซื่อหรอกพี่ชายแกน่ะกะล่อน ถ้าซื่อจริงเขาจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ไม่คบซ้อน แต่จะทำอะไรตรงไปตรงมาแบบฉัน ตื่นมาเปิดร้านขายของ เย็นกลับบ้านนอนพักผ่อนจะได้มีแรงทำงาน”
ผู้ชายบางคนยังคงทำให้เณศราสิ้นหวังในความรัก ทว่าการเลิกราของชายหญิงคงเป็นไปเหมือนคู่อื่น ๆ
ทุกอย่างมีหนทางของมัน ระยะเวลาที่ผ่านไปสักพักหลายคนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนอกเหนือจากเรื่องการแต่งตัวและกลับมาดูแลตัวเอง
เธอตัดสินใจจ้างผู้จัดการร้านคนใหม่มาดูแลร้านเพื่อที่จะมีเวลาทำอะไรมากขึ้น ติดต่อโรงงานทำขนมปังเพื่อทำแบรนด์ขายออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ต ยังพูดถึงการขยายกิจการ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอแค่ตื่นมาอบเค้กไปวัน ๆ ไม่ใช่คนทะเยอทะยานขวนขวายอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่นเขา
แค่เคยคิดว่าที่มีมันพอแล้ว...
ก็แค่เคยคิด...
หญิงสาวใช้เวลาคุยกับเพื่อนไม่นานนัก พอผู้จัดการร้านมาเข้างาน จึงได้โอกาสไปทำธุระเรื่องเอกสารข้างนอกก่อนกลับมาที่ร้านอีกรอบ ซึ่งเธอเห็นว่าเพื่อนยังไม่ไปแต่นั่งกินขนมเค้ก ซื้อกาแฟเพิ่มอีกแล้วกับคนมาใหม่
รอยยิ้มบนวงหน้าหวานหายไปทันที เพียงโต๊ะว่างเปล่าถูกเติมเต็มด้วยความรู้สึกแสนหวาน มากพอกับความเจ็บ!
สีหน้าไม่เป็นสุขใต้เชิ้ตสีครีมอ่อน กางเกงขาลอยเต่อสีดำ ขอบตาดำคล้ำต่างจากเจ้าบ่าวแสนหล่อเหลาที่พบในวันงานมงคลบอกว่าเขาไม่ได้มีความสุข
“เนย...”
“ตามสบายนะคะพี่ปัด... มีอะไรสั่งทานได้เลยนะ เนยยินดีต้อนรับเหมือนเดิม”
ในท่าทีห่างเหินหลังจากที่เธอตัดสัมพันธ์เขาไม่มีเหลือแม้เยื่อใย ปัถฐพลรู้สึกผิดมาตลอดและเขาตั้งใจมาขอโทษ ทว่าพอเขาจะอ้าปากเธอก็พูดแทรก
“ลูกค้าเยอะนิดนึง มีธุระอะไรรบกวนทิ้งข้อความไว้ในไลน์เนยนะ บอกผ่านยัยวิก็ได้ ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิเนย... พี่มีเรื่องจะคุย...” ลุกขึ้นเดินตามไปในทันทีแม้น้องสาวจะเรียกปรามห้ามก็ไม่ฟัง ทันใดนั้นเอง กำแพงมนุษย์เข้ามากั้นกลางระหว่างเธอและเขาอย่างไม่สนใจใครมาก่อนหลัง
ตกใจแล้วหนึ่ง! เป็นเจ้าของร้านที่เงยขึ้นมองตามความสูงของชายตรงหน้า ใบหน้าหล่อเหลาไร้แว่นกรอบหนาเผยนัยน์ตาสดใสใต้คิ้วเข้มขนานคู่กัน สะกดสายตาสาวทุกคู่ของสาว ๆ ในร้าน
“ยุ่งเหรอครับ?”
เณศราส่ายหน้าไว ๆ “ไม่ยุ่งค่ะ”
คนคุ้นเคยกันดียังแอบซ่อนบางอย่างไว้ข้างหลังให้เธอสงสัยอยู่ครู่ ก่อนจะเลื่อนมันออกมา
“พี่ผ่านร้านดอกไม้เมื่อเช้า... ช่วยรับไว้ได้ไหม?”
“เอ่อ... ค่ะ ขอบคุณนะคะ...” รอยยิ้มเอียงอายของเธอไม่ปิดบังความรู้สึกเลย ไม่ใช่เพราะอยากประชดใคร
แต่เพราะดอกกุหลาบแดงช่อโตช่อเดียว...
เท่านั้นจริง ๆ...
ปัถฐพลทำหัวเสียใส่คนถือช่อดอกไม้มาให้เจ้าของร้านคนสวยแถมแทนตัวเองว่าพี่! แต่โชคชะตาไม่เข้าข้าง พอเสียงแหลมเล็กดังลั่นพร้อมการปรากฏตัวของหญิงสาวในกางเกงขาสั้นสภาพอยู่บ้านสุด ๆ ว่าหล่อนมาตามผัวกลับบ้าน…
เจ้าของร้านเลยถูกพาขึ้นรถยนต์โดยไม่ทันได้ทักถามคนที่มาอาละวาดว่ามีเรื่องอะไรให้ช่วยไหม กระทั่งมาถึงคอนโดมิเนียม สิ่งที่ได้ยินมาตลอดทางจากคนขับรถและเพื่อนสาวซึ่งเธอโทรกลับไปถามเหตุการณ์ มีแค่คำตอบว่าไม่มีทางเลือก
“ทำไมต้องให้ฉันหนีหน้าคุณรวิตาด้วยล่ะ... ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
“หลีกได้หลีกดีกว่าครับ กับคนบ้าน่ะไม่ควรเอาตัวเข้าแลก อย่าแลกเลย ไม่ต้องอธิบายอะไรเลยนะครับ”
จากนั้นเจ้าของห้องก็นั่งลงบนโซฟาสีขาวตัวใหญ่ ชักชวนเธอให้นั่งข้างกันหน้าโทรทัศน์แอลซีดีขนาดห้าสิบนิ้ว ในห้องพักกว้างกว่าแปดสิบตารางเมตร สองห้องนอนหนึ่งห้องรับแขกมีห้องน้ำแยกต่างหาก พื้นที่ใช้สอยสมราคาห้าล้านกว่า
ทีแรกเณศราก็ไม่ค่อยจะเชื่อแต่พอได้ยินว่าเจ้าตัวมีนิสัยอย่างไร ทั้งอารมณ์ไม่คงที่โมโหร้ายเอาแต่ใจประสาลูกคนรวย เธอจึงเลิกมีข้อกังขาเรื่องคุณรวิตา มองไปรอบ ๆ ห้องกว้างขวางด้วยอาการประหม่าเพราะเพิ่งเคยเข้าห้องผู้ชายเป็นครั้งแรก
“กินข้าวมายังครับ?”“ยังค่ะ”“อยากกินอะไร... ง่าย ๆ ไหม?”“ได้เลยค่ะ ฉันทานอะไรก็ได้ เบื่อร้านหรูหรา ถ้านาน ๆ ทีพอไหวไปทานได้ แต่...” เงียบไปครู่ เหมือนคนขาดความมั่นใจไปขณะหนึ่ง ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น“แต่...?”“คือ... พ่อแม่ฉันบอกเสมอว่าไม่ควรอยู่กับผู้ชายสองต่อสองถ้ายังไม่แต่งงาน ฉันทานข้าวเสร็จแล้วขอกลับเลยนะ”แม่คนหัวโบราณ! นี่มันยุคไหนแล้วครับ อาจารย์หนุ่มกลอกตามาไปมา ก่อนที่เขาจะกระตุกยิ้มเบา ๆ“งั้นอาหารตามสั่งนะครับ ร้านข้างล่างตึกนี้ทำกับข้าวอร่อยมาก”“อะไรก็ได้ค่ะ”“อะไรก็ได้ไม่มี”“กะเพรา... ก็ได้ค่ะ”“กะเพราไก่ไข่ดาวแล้วกันนะครับ” บอกแล้วเขายกโทรศัพท์แนบหูโทรสั่งอาหาร ป้องเกียรติเห็นบางคนนั่งกำมือไว้บนหน้าตักตัวเกร็ง ไม่รู้ว่ากลัวอะไร เขาเกือบจะหัวเราะออกมา ทว่ายังรักษาน้ำใจกันเลยซ่อนรอยยิ้มไว้ตรงมุมปากอย่างนึกเอ็นดู พูดคุยกับเธอเหมือนปกติทุกวันจนได้ยินเสียงกริ่งดังอาหารกล่องและน้ำส้มมาส่งในถุงพลาสติก เจ้าของห้องถือถุงหิ้วเดินนำเธอไปทางโต๊ะรับประทานอาหารโต๊ะกระจกสีดำตัวยาวติดริมกระจกบานใหญ่มองเห็นแม่น้ำสายยาวไหลผ่านทิวทัศน์เมืองกรุงเทพฯ ภาพสีน้ำมันบนฝาหนังเข้ากันกับผนังสีข
“อะไรอีกคะ?”“ไม่อยากล้างจานเสร็จเลย อยากยืนตรงนี้นาน ๆ”“ผู้ชายคงเหมือนกันหมด เห็นผู้หญิงเป็นดอกไม้ริมทางหรือเปล่า เลิกมาหลอกกอดหลอกจับมือเนยซะทีค่ะ เนยจะไม่อ่อนหวานแล้วนะ”“เนยทำร้ายพี่ได้เลย ตบตีขัดขืนไปเถอะ แต่พี่ไม่อยากไป... เลิกเข้าใกล้เนยไม่ได้แล้ว...”ทั้งน้ำเสียงและแววตาจริงจังผิดจากคนเมื่อสักครู่ทำให้คนในพันธนาการเบือนหน้าหนีไปอีกทาง พอเธอทำลอยหน้าลอยตาไม่ตอบ ไม่วายที่เขาจะเหน็บแนม“น้องเนยครับ... อาจารย์ตามจีบมาเป็นเดือน ๆ แล้วนะ จะต้องตามจีบอีกกี่ปี?”“ก็... ไม่รู้”ก็รู้นั่นแหละ! แต่ที่เณศราไม่รู้คือทำไมอาจารย์ถึงได้ทำตัวเป็นหนุ่มขี้อ้อนที่แสนน่ารำคาญเหลือเกิน“พี่ทำให้เนยลืมเขาได้นะ...”ที่มีคนพูดขึ้นมาก็น่าสนใจ เณศรากลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จานสองใบในอ่างกลายเป็นว่าเขาเป็นคนล้าง ผู้ชายตัวโตค่อยเดินไปหยิบเสื้อนอนมาให้พร้อมผ้าขนหนูสีชมพูอ่อน“อาบก่อนเลยนะ แชมพูสบู่พี่ใช้ได้หมด” พูดอย่างเป็นกันเองให้คนตัวเล็กเลิกสั่นเกร็งจากพันธนาการหลวม ๆ เมื่อสักครู่นี้ เขาจับจ้องใบหน้าหวานงามด้วยแววตาอบอุ่นอ่อนโยน พูดจาหว่านล้อมจนเธอเลิกต่อต้านหัวใจเณศราตอบ ‘ค่ะ’ แค่นั้นแล้วเข้าห้องน้ำไป
คนได้ยินยิ้มประชด เพราะเหตุผลของเขามันฟังไม่ขึ้น! “ไม่ต้องมาทำนอกเรื่องค่ะอาจารย์”“ไม่นอกเรื่องก็ได้ครับ เมื่อคืนนี้พี่อุ้มเนยมานอนที่เตียง เนยมากอดพี่เอง ซุกเอา ๆ เห็นว่าหลับสบายอยู่เลยไม่อยากปลุก”เณศราหน้าเจื่อนไปหากว่าเธอเป็นฝ่ายผิด ถึงมันจะไม่มีอะไรการันตีว่าเขาไม่ได้โกหก แต่ป้องเกียรติไม่ใช่คนแบบนั้นตาคมสำรวจเชิ้ตนอนลายขวางตีตารางสลับลาย ลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างหิวกระหาย ก่อนจะพูดโพล่งออกไป“ขอจูบเนยได้ไหม?”คนตัวเล็กเบิกตากว้างตะลึง “คะ...?”“พี่... อยากจูบเนย คือเนยไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม? เรื่องปัด...”“หมายความว่าไงคะ? เนยไม่เข้าใจ” เธอย่นคิ้วเข้าหากัน ในอ้อมแขนของคนที่พยายามบอกอย่างใจเย็นและเข้าใจ“พี่กลัวเนยไม่สบายใจเรื่องผู้ชายคนก่อน แต่พี่ไม่ใช่เขา พี่ไม่เหมือนใคร พี่ดีใจที่เนยยอมรับความรู้สึกของพี่นะ”“ใครบอก... อุ๊ย!” อุทานทันทีที่ถูกฉกหอมฟอดใหญ่ มือเรียวยกขึ้นลูบหน้าแรง“ชักเอาใหญ่แล้วนะคะ เนยไม่ได้บอกว่าจะคบด้วยค่ะ แค่ยอมให้นอนตักให้จับมือเพราะสงสารหรอก พี่มากอดเนยก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วย เนยหลับค่ะ คนอะไรชอบคิดเองเออเอง...”“เปล่าคิดเองเออเอง เนยต่างหากที่ชอบหลอกตัวเอง...
เณศราคบหาดูใจกับคนก่อนมาถึงสามปี แต่อาจารย์ฮอตเนิร์ดใช้เวลาจีบเธอไม่นานขนาดนั้นทำไมเธอถึงได้ยอมเขา...หญิงสาวเฝ้าถามตัวเองเมื่อมืออุ่นร้อนปัดป่ายเข้าไปในเสื้อ เธอเกือบจะโป๊เปลือยเพราะชั้นในสองชิ้นซักตากไว้ตรงระเบียง นั่นทำให้อีกคนสานงานของเขาได้ง่ายขึ้นปลายนิ้วเรียวยาวลากผ่านหน้าท้องแบนราบพาไรขนลุกชูชัน กายสาวสั่นสะท้านเพียงสัมผัสถึงนิ้วร้อนที่ลากไล้ไปมาบนผิวเนียนนุ่ม แผ่วเบาราวสะกิด ก่อนที่เขาจะตะครุบเข้าเต้าอวบพอดีมือ พาร่างบางสะดุ้ง“อ๊ะ... พี่ป้อง... อื้ออ...”ดวงตาคู่สวยหรี่เล็กลงจนเหยียดตรง เธออายเสียงตัวเองจนต้องยกมือขึ้นปิดป้อง เมื่อโพรงปากอุ่นเข้าครอบครองปลายยอดสีงามที่แข็งเป็นตุ่มไต จากนั้นผู้ชายตัวโตก็เริ่มบีบคลึง ดูดดึงอกอิ่มป้อนเข้าปากอย่างตะกละตะกลาม“พอแล้วนะคะ... มันแปลก ๆ อ๊ะ...”เณศราคงไม่เหลือสติอยู่กับตัวแม้ว่าเขาจะยอมปล่อยเธอ หลังวนเวียนดื่มกินสองเต้าจนหนำใจ ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนขึ้นมองสีหน้าแสนรัญจวน พร้อมอารมณ์วาบหวามไม่ต่างกันไปสักเท่าไร“อือ... พี่ป้องพอ... ก่อน”“พี่แค่ขอชิมนิด ๆ หน่อย ๆ นะ...” ไม่มีทางที่จะนิด! กายกำยำรุ่มร้อนอาจแตกเป็นเสี่ยงด้ว
ที่จริงเขาก็ไม่สนหรอกว่าเธอจะเป็นของใครหรือไม่เป็น... เขาแค่ชอบเณศรา...แต่เขายังรังแกเธอ ซึ่งกำลังทรมานด้วยต้องการการปลดปล่อย ก่อนยอมปรนนิบัติอย่างที่ไม่เคยปรนเปรอให้ใคร เมื่อใบหน้างามส่ายไปมา มือหนาเลื่อนขึ้นล็อกต้นคอเรียวไว้ให้หยุดนิ่ง อีกข้างลากผ่านเนินอวบอูมไปถึงจุดกระสัน“อ๊ะ...!” เสียงหวานสั่นคราง เพียงความรู้สึกที่ถวิลหาคืนกลับมา ปลายเล็บสั้นสวยจิกลงบนบ่ากว้าง เธอพริ้มตาปิดลงรับอารมณ์ซ่านสยิววิ่งลงไปรวมในจุดเดียว เหมือนกับว่าถ้าเขาหยุดมือลง เธอคงขาดใจมากกว่าจะไม่ให้เขาหยุด“เดี๋ยวพี่ทำให้นะ... คนสวย... ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ไปครับ... อูยส์... เนย...”หน้าท้องแบนราบที่ชนเข้ากับน้องชายตัวดีทำเอาเรือนกายชายลุ้นตัวโก่งตามคนที่ใกล้ถึงฝั่งฝันเต็มที ความปวดร้าวเพิ่มขึ้นเป็นทวี ขณะที่ชายหนุ่มยังอดทนเพ่งมองสีหน้ารัญจวนเบื้องหน้า เมื่อความต้องการของคนไร้ประสบการณ์เอ่อล้น ปริ่มนองปลายนิ้วของเขาจนมิด เปียกแทบเต็มมือมือหนึ่งมิด... แต่อีกหนึ่งเคล้าคลึงข้างบนอย่างไม่ลืมว่าตรงไหนที่จะทำให้เธอสุขสมเสียจนสามารถลืมผู้ชายคนเก่าไปเสียให้หมดใจ“พี่ป้อง! เนย... ใกล้... แล้วค่ะ อ๊ะ... อ๊าา”ทางสวรรค์คงอยู
“ไม่รู้ค่ะ รู้แต่ทำงานยากจังเลย มีอะไรไม่รู้มาติดหนึบเป็นปลิง เนยว่าถ้าจะช้าไปกว่านี้ คงได้ปิดร้านช้าแน่ ๆ สงสัยคงไม่ได้กลับห้องพี่แล้วล่ะ”“พี่ก็เผื่อเวลาแล้วไงครับ... เรามากันตั้งแต่ตีสี่ครึ่งไม่มีทางที่มันจะไม่ทันเปิดร้าน ไม่เกี่ยวกับเวลาปิดด้วยครับ”“แต่มันช้าค่ะ เนยเคยทำงานคล่องแคล่วว่องไวกว่านี้” จนเธอเบื่อจะผลักเขาแล้วเลยได้แต่เธอทำตาขวางใส่รอยยิ้มไร้เดียงสา“พี่อยากช่วยงานเนยนะครับ เนยไม่บอกพี่ว่าให้หยิบจับทำอะไรบ้าง พี่กำลังเรียนรู้ที่จะหัดทำนะครับ เวลาสอนเด็ก ๆ พี่ยังให้โอกาสพวกเขาเลยทำไมเนยไม่ให้โอกาสพี่บ้างล่ะ?”“พี่ปั้นคุกกี้เป็นก้อนทองหยอดนะคะ บางอันก็เละตุ้มเป๊ะ... กลับไปเทรนด์งานใหม่ที่บ้านค่อยมาลองทำจริงได้ไหม? ให้เนยเปิดร้านก่อนนะ...”“วันก่อนเนยบอกจะสอนพี่ก็ไม่สอน เนยครับ... เดี๋ยวพี่ก็ไปเข้างานแล้วครับ ขอกอดเนยอีกนิดนะ”พอเขาทำเสียงหวานหน่อย ส่งสายตาออดอ้อนผ่านแว่นกรอบหนาผิดจากผู้ใหญ่คนเดิม เณศราก็ยอมเขาอีก!บางทีนั่นอาจเป็นจุดประสงค์ของคนเจ้าเล่ห์ที่ไม่ยอมเลิกราจากงานกอด หากได้โอกาสสักหน่อยมือหนาค่อยเคลื่อนไปลูบจับเดรสลายดอกไม้ทั้งก้นเอว หน้าท้องแบนราบด้วยอารมณ์หล
ชีวิตเปรี้ยวอมหวานของเณศราทำให้ลืมเรื่องราวในวันวานทีละเล็กละน้อยเปิดร้าน ปิดร้าน กลับบ้าน ตื่นขึ้นมาทำเรื่องเดิม เคยไปไหนมาไหนกับชายคนหนึ่ง กินข้าวดูหนัง สลับกันขับรถบ้างหากว่าใครเหนื่อยจากการทำงาน และถ้าเขาไม่มานั่งที่ร้านเบเกอรี่เธอจะไปหาเขา ต่างที่ตอนนี้เป็นชายอีกคนแตกต่างอีกเรื่องคือเธอสามารถไปนั่งเล่นใต้ตึกคณะได้อย่างเปิดเผย ไม่เหมือนคราวคบหากับปัถฐกร ไม่เคยสักครั้งที่เธอจะน่าพึงพอใจสายตาคนรอบกายเขา ไปนั่งเล่นในล้อบบี้บริษัทพันล้าน เธอมักถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามจากคนในครอบครัวแม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่ของชายหนุ่มเอง ถึงไม่เคยเก็บเอามาใส่ใจตอนนี้กลับนึกย้อนไปว่าตัวเองช่างโชคร้าย และโง่เง่าสิ้นดีอยู่กับอาจารย์ป้องยังมีความสุขซะกว่า... ไม่ต้องปิดบังความสัมพันธ์ นอกเวลาวิชาการแล้วเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายมีพิษภัย ติดขี้เล่นตลกร้ายอารมณ์ดี ถึงเวลาทำงานจะหน้าตาคร่ำเครียดไม่พูดไม่จา แต่เป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลพอสมควรเรื่องอะไรขัดใจเขาจะพาลบ่นไปเสียหมดแม้แต่รถไฟฟ้า ถนนริมทางเท้า ฯลฯ ด้วยความที่เรียนจบมาจากต่างเมืองด้วยทุนรัฐบาลร้ายสุดคือการทำกิจกรรมสุขสันต์! ทำให้หัวสมองของเธอปั่นป่วน เมื่อนึกถ
การมีความลับกับคนใกล้ชิดไม่ใช่เรื่องดี มันไม่สบายใจเลยล่ะ... ป้องเกียรติบอกลาเธอด้วยรอยยิ้มทว่าเขากลับมีความคิดมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะความกลัว กลัวสารพัดจะกลัว ยิ่งได้ยินมาจากพนักงานที่ร้านว่าผู้ชายคนเก่าพยายามมารอสร้างความร้าวฉาน จบชั่วโมงสอนแล้วเขาจึงรีบสะพายกระเป๋าหนังซึ่งเต็มไปด้วยเอกสารและแท็บเล็ตงานมารอหญิงสาวเลิกงาน...จากที่นั่งเดิมบริเวณม้านั่งหิน มองผ่านกระจกบานสูงใหญ่ไป สีหน้าไร้อารมณ์ของคนที่ทำเมินใส่แม้จะเห็นว่าเขาโบกมือให้ คงไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรจนปะทะสายตาคมวาบคู่หนึ่งชายร่างสูงใหญ่ความสูงไล่เลี่ยกันแต่งตัวดีมีภูมิฐานด้วยเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม เป็นคนคุ้นเคยกันดี ป้องเกียรติตัดสินใจเดินตามเจ้าตัวไปถึงลานจอดรถยนต์“ปัด...” เสียงทุ้มเรียกให้อีกคนหันกลับมา เจ้าของรถสปอร์ตคาร์สีแดงสดถูกรั้งไว้ด้วยแววตาวาวโรจน์“เล่นแบบนี้ไม่แมนเลยนะ มาฟ้องเนยเรื่องพี่เป็นพี่ชายของยัยวิ?”“แล้วพี่แมนเหรอครับ? จงใจมาแย่งเนยไปจากผมน่ะ พี่รู้ว่าวันหนึ่งผมต้องหย่ากับวิแล้วผมจะกลับมาหาเนย”“เฮอะ... ฝัน... นี่นายพูดเรื่องบ้าบออะไรอยู่?” แค่นหัวเราะพลันขยับก้าวเข้าไปใกล้ มือล้วงกระเป๋าด้วยความอดท
งานหมั้นเช้าแต่งเย็นดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ด้วยความที่บ่าวสาวไม่ได้มีญาติเยอะ มีแขกมาร่วมงานไม่ถึงห้าสิบคน รวมเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนอีกไม่กี่คน เรียกได้ว่าเป็นงานผูกข้อมือเล็ก ๆ ไม่ใช่งานแต่งเอิกเกริกซุ้มประตูดอกไม้ เพลงรักยอดฮิตในยุค 70s เคล้าคลอไปกับเสียงคลื่นลมของรีสอร์ตริมทะเล แม้แต่อาหารและสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กก้อนโตยังตามใจคู่บ่าวสาว เดรสลายลูกไม้ชายลากยาวบนผืนทรายเข้ารูปทรงสมส่วน เสื้อสีขาวสะอาดคอลึกผ่าหลังเผยให้เห็นผิวขาวสวยทำเจ้าบ่าวตากระตุกน้อย ๆ ทว่าอาจารย์หนุ่มก็ลืมมันไปได้ เมื่อวันนี้เป็นวันสำคัญวันที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะสวยที่สุดในชีวิตใบหน้าหวานงามแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนใต้รอยยิ้มเอียงอายที่มีให้ชายเพียงคนเดียว หน้าท้องเนินนูนเพียงเล็กน้อยคงไม่มีใครสังเกตเห็น ป้องเกียรติกำลังพึงพอใจกับบรรยากาศนี้ ขณะที่เธอบอกกับทุกคนผ่านไมโครโฟนว่ามากันสามคน พ่อแม่ลูก “เธอเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด เป็นคุณแม่ที่ผมรักที่สุด ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมอวยพรให้ผมกับเนยนะครับ”เสียงปรบมือดังในลานกว้าง เธอสวย... ขนาดที่เขาละวางตาไปไม่ได้เสียเลย เขาจับจูงมือเธอไปบอกลาทุกคนหลังงานเลี้ยงสิ้นสุดลงญาติทา
เหตุการณ์สะเทือนขวัญยังหลอกหลอนยามหลับฝัน บางคืนเธอยังสะดุ้งตื่นกลางดึกด้วยความหวาดกลัว ทว่าพอพบสบตาคม อ้อมแขนอุ่นกลิ่นหอมสะอาด กลับแน่ใจถึงความปลอดภัยว่าไม่มีใครมาทำร้ายเธอได้ “พี่ป้อง... ตัวหอมจังค่ะ ตัวพี่อุ่นมาก เนยนอนหลับสบายจัง” “เนยก็หอมครับ ทำพี่หลับไม่สบายสักวันถ้าไม่ได้อึ้บเมีย” เงียบไป ใต้รอยยิ้มกรุ้มกริ่ม มือหนาลูบศีรษะน้อย ลากวนเข้าไปในเส้นผมสีน้ำตาลสลวยอย่างย่ามใจ ในความเงียบงันของห้องอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ ต่างคนไร้เสื้อผ้าแม้สักชิ้นห่อหุ้มกาย คลุมไว้ด้วยผ้านวมหนาในอ้อมกอดกัน เป็นเรื่องปกติที่เธอจะปรารถนาในตัวเขามากขึ้นทุกวัน ยิ่งเป็นคุณแม่ท้องอ่อนฮอร์โมนทำร้าย “เนยต้องพักผ่อนนะ เดี๋ยวลูกไม่โตทำไง” “โตซี พี่ฉีดสารเร่งโตให้ทุกวัน” คนทะลึ่งก็อย่างนั้น เขาก้มหน้าลงประทับจุมพิตบนขมับเนียน ผุดรอยยิ้มกว้างหวานเต็มวงหน้าใต้โคมไฟสลัว “เอ... ตัวเล็ก... ผู้หญิงหรือผู้ชายนะ?” “จะรู้ไหมคะ? คงเป็น... ผู้ชายมั้ง...” “พี่อยากให้ชื่อฟ่อน เงินฟ่อน ชิฟฟ่อน ชื่อเล่นนะเจ้าลูกฟ่อน... ถ้า
เพราะมีคนเผลอทำตัวเปิ่น ๆ ในโรงพยาบาล ส่งเสียงดังลั่นห้องฉุกเฉินให้คุณพยาบาลหัวเราะกันยกใหญ่ แต่ก็เข้ามาแสดงความยินดีพร้อมผลตรวจของคุณหมอ เซ็นอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านอย่างสบายใจ เณศราไม่รู้เอาหน้าไปไว้ที่ไหน เธอดีใจที่จะได้เป็นคุณแม่ มีลูกน่ารัก ๆ สักคนกับว่าที่สามีไม่สนเรื่องแต่งก่อนแต่งหลังหรอก ในขณะที่ยังมีเรื่องไม่สบายใจพอได้ยินบางคนโทรไปด่าน้องสาวยกใหญ่ ผ่านลำโพงในรถยนต์ สายประชุมครบพ่อแม่พี่น้อง แม้แต่พ่อแม่ของเธอเองเขาโทรบอกให้ทุกคนรับทราบวีรกรรมของคนคนเดียว ที่ไม่สมควรได้รับการให้อภัย“ก็ให้ท้ายกันไงครับถึงได้โตมาสันดานแบบนี้ ผมไม่ยอมแล้วผมจะไม่ถอนฟ้องแทนเมีย ไม่รับค่าเสียหาย ให้อีสองคนนั้นไปนอนคุกอย่างเดียว อย่าคิดว่ามีเงินแล้วทำได้ทุกอย่าง ผมมีเพื่อนเป็นทนาย นักโซเชียลเยอะเหมือนกัน ดี... จะได้เอาปี๊บคลุมหัวกันให้หมดทั้งบ้านเวลาออกไปข้างนอก ขอให้หุ้นตก บริษัทฉิบหายย่อยยับนะครับ”เป็นชุด! มากกว่านี้ยังมีเรื่องของหุ้นส่วน เงินหมกเม็ด ภาษีที่จ่ายไม่ครบ คนขุดได้ก็ขุดมาทั้งเรื่องและเขาพร้อมจะแฉทุกอย่างให้พินาศย่อยยับ จนคุณพ่อขอไกล่เกลี่ยยอมขอว่าเขาอยากได้อะไร คนปากหนัก
ห้องเงียบเชียบให้ความรู้สึกเงียบเหงากว่าทุกวัน อาจารย์หนุ่มรออาหารมื้อเย็นจากแม่ครัวที่ยังไม่กลับบ้านสักที แต่งตัวเรียบร้อยด้วยเชิ้ตสีดำสนิทอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเครื่องใหญ่ งานสอนก็ค่อนข้างยุ่ง ต้องตรวจงานนักศึกษาไปด้วยระหว่างอธิบายการเขียนคำสั่งคอมพิวเตอร์ หลายอย่างวนเวียนในหัว ขมวดคิ้วมุ่นตั้งใจทำงานตลอดเวลาหลายคนในคลาสตั้งใจเรียนผิดปกติจนหมดชั่วโมงเรียน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กแสบ ทำขยิบตาผ่านกล้องเหมือนมีปัญหาสักอย่างแต่ไม่กล้าพูด ส่งเป็นข้อความมาบอกแทน...‘She’s in Danger!’บอกใบ้มาเป็นภาษาอังกฤษให้ตีความอีกต่างหาก คนเป็นอาจารย์สงสัยอยู่พักหนึ่ง นึกหงุดหงิดคนส่งข้อความมาให้เป็นปริศนาคาใจ ก่อนตกใจเป็นอย่างมากแทบทำห้องเรียนล่ม เรื่องใหญ่กว่าคือคาบสอนนี้เป็นบันทึกเทปย้อนหลังซึ่งเขาไม่สามารถปิดโทรศัพท์กลางกลางคันได้เป็นโชคดีที่แก๊งนายเปี๊ยกดันออกจากห้องเรียนไปก่อน ส่วนคนสอนทำได้แต่นับเวลาถอยหลัง ภาวนาให้บันทึกการสอนจบเร็ว ๆ พูดจาติดขัดเพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัวป้องเกียรติพอคาดการณ์ได้ว่าเกิดเรื่องอะไร ด้วยความที่เขาคอยดูพฤติกรรมของอีกคนอยู่ตลอด เธอมีท่าทีแปลก ๆ เมื่อคืนนี้ ทำท่
ถ้าผัวฉันย่องไปหาแกที่ร้านอีกครั้งเดียว แกได้เจอฉันตัวเป็น ๆ แน่นังเนย เมมเบอร์นี้ไว้ด้วยนะเพราะฉันไม่เตือนใครเป็นครั้งที่สอง‘รวิตา’เณศราได้รับข้อความจากคนที่ไม่รู้ว่าเอาเบอร์ของเธอมาจากไหน เธอไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครจึงใจคอไม่ค่อยดี นอนพลิกไปพลิกมาบนท่อนแขนอุ่นที่หนุนนอนต่างหมอนทุกคืน หน้าตาครุ่นคิดด้วยความเป็นกังวล ตื่นมาแล้วออกไปทำธุระประปรัง เดินซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ กลับเข้าบ้านมาสติไม่อยู่กับเนื้อตัวนัก ขณะที่คนเก่าส่งข้อความมาบอกกับเธอแค่...‘พี่อยากคุยกับเนยนะ’ทั้งที่บอกชวนผ่านเพื่อนสาวเรื่องงานผูกข้อมือมะรืนนี้ ประเด็นอื่นขอไม่พูดคุยกันอีก แปลกที่คนมีเหตุผลเป็นนักธุรกิจ เป็นลูกชายที่ดีของบ้านมาโดยตลอดกลับไม่พยายามเข้าใจเสียเลยจะอย่างไร เธอก็มีไม้กันหมาที่ดี ติดกว่าคนนี้ไม่มีแล้วในชุดคลุมอาบน้ำบนร่างกำยำส่งกลิ่นหอมอ่อน ลอยผ่านจมูกไป อาจารย์หนุ่มหุ่นล่ำคอยเดินยั่วยวน อวดสรีระเรือนกายของเขาที่อุตสาหะทำมาอย่างยากลำบาก บริโภคอกไก่ปั่นด้วยท่าทางกล้ำกลืนฝืนทน ซึ่งคนอยู่ด้วยกันยังไม่รู้ว่าเขาจะทำมันไปเพื่ออะไร ในเมื่อเธอยังไงก็รักเขาหมดใจไปแล้วอ้วนพุงพลุ้ย ก็ยังรัก หัวล้านแก
คนอยู่ด้วยกันทุกวันคงสังเกตเห็น เธอแค่ไม่รู้ว่าเขาจับอะไรตลอดเวลา“เนยต้องใส่ไว้ก่อนนะ คนเขาจะได้รู้ว่ามีเจ้าของแล้ว พี่ไม่ชอบเวลาใครมองเนย พี่หวง...”“แต่เนยชอบค่ะ เวลาพี่ป้องทำตาเขียว ๆ น่ะ”“ชอบโดนจัดหนักด้วยใช่ไหม?”“ไม่รู้ค่ะ...” เสียงหัวเราะคิกคักดัง หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรง เมื่อเขาบรรจงสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้าย ชักชวนให้ดูลอยสลักบริเวณรอบตัวแหวนN & P ดูจะเป็นไอเท็มคู่รักแนวแฟชั่นมากกว่าแหวนเพชรเม็ดโตในงานแต่งอลังการ ที่เคยเห็นบ่าวสาวสวมให้กัน“ขอบคุณนะคะพี่ป้อง... เนยจะรักษามันให้ดีทั้งสองชิ้นนี้ สร้อยกับแหวนของพี่... ชอบมากเลยค่ะ”เธอชอบมันที่สุด... ชอบผู้ชายคนนี้ที่สุดเณศราเม้มปิดริมฝีปากของเธอสนิทแน่น หยดน้ำใสเอ่อคลออย่างอดกลั้นไม่ไหว ก่อนที่ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทจะโน้มตัวลงหาเธอเชื่องช้า ประกบเรียวปากอิ่มงามแผ่วเบาแล้วผละออกประทับจุมพิตบนขมับเนียน“พี่รักเนยนะ”คนมีความรักมักหน้าเด็กทุกคน มองอะไรก็เป็นสีชมพู เห็นจะจริงกล่องข้าวน่ารักในแต่ละวันของเณศราประดิดประดอยด้วยผักหลากสีสัน เธอใช้ตราปั๊มลายตุ๊กตาในการทำอาหารเช่นข้าวญี่ปุ่นหุงร้อนเป็นหมีน้อย ห่มคลุมด้วยไข่เจียว ราดน้ำซอส
ป้องเกียรติไม่ทำให้คนตัวเล็กผิดหวัง แม้แต่ช้อนตัวเบา ๆ เข้าออกช่องทางอ่อนนุ่มที่โอบรัดแก่นกาย มันกลืนกินตัวตนของเขาได้ดีเยี่ยมไม่ต่างจากว่าเป็นครั้งแรกของกันและกันบางครั้งก็ดิบเถื่อน! เมื่อร่างกายได้รับการเติมเต็มหลังห่างหายกันไปไม่กี่วัน แต่ยังคงอ่อนหวาน สอดประสานหลังมือเรียวที่จิกกำแน่น หลังแอ่นก้นรอรับความแข็งขึง ขยันขยับสะโพกสอบถี่ระรัว ปล่อยให้มังกรร้ายผลุบเข้าออกอย่างไม่ละวางจังหวะลง จะให้คนใต้ร่างได้หายใจหายคอยังไม่มีเณศราได้รับจุมพิตจากเขาที่ไม่เคยรู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย หน้าขาสั่นเทากระแทกกับขอบโต๊ะ หากว่าเธอทำท่าจะลุก คงถูกผลักลงให้นอนราบบนกินข้าว มือหนาปัดป่ายของกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทั้งถุงพลาสติก ขวดแม็กกี้ เขาไม่สน! ว่าอะไรจะหล่นเละเทะเหมือนคนอดอยากปากแห้งมาแรมปีแววตาคู่สวยเอ่อคลอหยดน้ำใส ช่องท้องวูบไหวตามเสียงเสียบสับของเนื้อกระทบกันพาอารมณ์ของเธอถึงขีดสุด ถึงว่าที่สามีจะดุดันป่าเถื่อนสักหน่อย เธอกลับนึกชอบพอในความเป็นตัวเขา สะโพกงามงอนจิกเกร็ง“พี่ป้องขา... เนยไม่ไหวค่ะ!”“ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย... ทำไมเสร็จไวจังครับ อืม... อูยส์ เนยรัดพี่แรงแบบนี้ไม่ดีนะ”คนพูดจาทะล
ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงเหมือนโกรธงอนกันสักเรื่องซึ่งเขารู้ จึงผละจากคนตัวเล็กไปคว้าผ้าเปียกหมาดบนเคาน์เตอร์ครัวมาโยนลงบนโต๊ะรับประทานอาหารอย่างเอาเรื่องเอาราว“เอาหน่อยสิ แต่ว่าต้องทำงานให้เนี้ยบกว่านี้นะ ทำไมเช็ดโต๊ะเช็ดครัวไม่สะอาด ยังมีคราบแม็กกี้เนี่ย...”“ไหนคะ?” ถามหน้ายุ่ง มือหยิบผ้าสีขาวได้ก็ส่ายคอมองตามปลายนิ้ว เพื่อหารอยคราบบนผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้น่ารัก เณศราซื้อมาคลุมโต๊ะให้เจ้าของห้องเองเพราะมันสามารถมองหาคราบเปื้อนได้ง่ายแต่ในเมื่อมันไม่มี...“ตรงนั้นไง เมื่อกี้พี่เช็ดไปแล้วเนยดู...”“ไม่เห็นมีเลย เนยว่าเนยเช็ดหมดแล้วนะ”“ก้มต่ำ ๆ ดูให้ดีครับ”ก้มต่ำ! เธอหันขวับมองคนข้างหลังทันที แต่พอจะอ้าปากต่อว่า ผู้ชายตัวโตคว้าหมับจับสันคอเธอกดลงบนโต๊ะไม่ต่างจากว่าเธอเป็นผู้ร้าย ปลายเท้าเรียวทั้งสองจิกลงบนพื้นพยายามเขย่งตัว หน้าอกอวบอัดและแก้มของเธอเบียดบี้ไปกับกระจกเย็นเฉียบ“พี่ป้อง... ทำอะไรคะ?”“ช่วยเมียเช็ดโต๊ะ ตรงนั้นไง...”“...”มือเรียวกำผ้าเปียกหมาดแน่นจนน้ำกระเซ็นเปื้อนบนโต๊ะอีกระลอก และก็คงจะไม่ได้เช็ด ทันทีที่แผ่นหลังบางเย็นวาบตามอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ เธอได้ยินเสียงปลดซิบไว ๆ
ฉีกยิ้มกว้างหวานให้เห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ คนขับหันไปมองรอยยิ้มที่ตกเขาได้ตั้งแต่แรกเห็นนั่นแหละ แต่ปากดันไม่ตรงกับใจยังทำหน้าแหยง“ไม่สวยเลยอี๋... วันหลังอย่าให้ชุดนี้อีกนะเดี๋ยวนี้อ้วนพุงออกอะครับ คนเขามองพุงรู้ไหมเขาไม่ได้มองเจ้าของร้านสวย สงสัยว่าทำไมอ้วนขึ้นต่างหาก”“ฮะ? เนยอ้วนเหรอ...” เณศราเริ่มก้มหน้าดูสรีระตัวเอง หน้าท้องของเธอคงไม่ได้ยื่นยาวขนาดเขาว่า แค่โผล่ออกมาเล็กน้อยหลังรับประทานอาหารตามธรรมชาติคนทั่วไปแค่นั้น แต่นั่นก็ทำคนรักสวยรักงามเสียความมั่นใจสำเร็จ“เมื่อก่อนผอมกว่านี้นะ น้ำหนักขึ้นหรือเปล่า?”“อืม... ใส่สเตรย์รัดหน้าท้องก็น่าจะได้นะ ชุดแบบพอง ๆ หน่อยคงไม่เห็นว่ามีพุงมากมาย”“ไม่เอาลายดอก”“ตัวอื่นก็ได้ค่ะ วุ่นวายกับเสื้อผ้าเนยจริงนะ” ว่าตาขวาง เมื่อมาถึงจุดหมายในอีกไม่นานลานจอดรถโล่งเงียบในช่วงหัวค่ำ ชั้นใต้ดินไม่มีรถจอดมากนัก คนขับก็เลือกทำเลได้ดีห่างจากลิฟต์ไปเล็กน้อย นัยน์ตาคู่คมใต้แว่นกรอบหนาประกายวูบวาบพาไรขนลุกชูชัน เธอกำมือทั้งสองบนหน้าตักอย่างเกร็ง ๆ เพราะว่าเขาไม่ปลดล็อกประตูรถยังไม่ดับเครื่องยนต์“พี่ป้อง... จะทำอะไรคะ?”“ทำอะไรก็ได้ครับไม่มีคนหรอก... ท