พออีกคนทำหัวเราะชอบใจถ้าหากว่าเธอจะพาเขาไปตัดแว่นใหม่ เณศราก็ทำงอนใส่ เธอบอกให้เขารอแล้วหายเข้าร้านไปหยิบกระเป๋าหนังสีขาวสะพายพาดบ่า ปิดประตูร้านเรียบร้อย พาผู้ชายตัวโตที่กางร่มให้ขึ้นรถไปด้วยกัน
“แปลกดีเหมือนกันนะคะ อาจารย์มหา'ลัยนี้”
“พี่มาเรียกร้องความสนใจหลายครั้งแล้ว ทำไมเจ้าของร้านไม่สนใจลูกค้าเลย” อาจารย์หนุ่มคาดเข็มขัดนิรภัย ด้วยความรู้สึกดีใจที่เธอไว้ใจเขามากขึ้นในแต่ละวัน
แม้ว่าเธอยังมีระยะห่างกั้นกลางไว้ไม่ให้ใครข้าม เขากลับไม่รู้สึกหวั่นกลัวการขีดเส้นของเธอเลย
“จะไปส่งให้ถึงที่เลยนะคะ คิดเสียว่าฉันเป็นแท็กซี่ละกันเนอะ ลูกค้ากิตติมศักดิ์คนนี้น่ะ แต่เลิกเหน็บแนมได้แล้วนะคะ ปกติฉันไม่ให้คนแปลกหน้าขึ้นรถ กลัวเหมือนกันค่ะ”
“กลัวไว้บ้างก็ดีครับ เป็นคนสวยต้องระวังตัวมาก ๆ นะครับ แต่ไม่ต้องระวังกับอาจารย์ป้องนะ ปลอดภัยแน่นอน”
มือเรียวจับพวงมาลัย มองคนข้างกายแล้วกลับยิ้มออกมา เณศราอดไม่ได้ที่จะนึกถึงปัถฐพลแม้รู้สถานะตัวเองดีว่าเป็นคนอื่นไปแล้ว เธอไม่ตอบไลน์และการติดต่อทุกช่องทางเพื่อตัดปัญหา ขณะที่กิจวัตรประจำวันยังเหมือนเดิม ตื่นเช้ามาอบเค้กเลิกงานปิดร้านกลับบ้าน
“พี่อยู่คอนโดฯ ข้างมอนี่เอง แต่ว่าฝนตกคงเดินไปไม่สะดวก นั่งรถเนยแล้วรอบหน้าวันไหนเนยทำงานเหนื่อย พี่จะขอขับไปส่งบ้าง ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณ ได้นะครับ?”
“ไม่เป็นบุญคุณหรอกค่ะ... พี่น่าจะหาเรื่องมามากกว่าดูก็รู้ แมวหน้าร้านยังรู้เลย”
ไม่มีเรื่องรูปก็หาเรื่องสารพัดจะหานั่นแหละ ป้องเกียรติยังเคยบอกว่าเขาได้พูดคุยทักทายเธอทุกวันก็มีความสุขแล้ว ตัวเขาไม่กล้าคิดไปไกล หากว่าเธออึดอัดใจแม้สักนิดให้บอกเขา... ยินดีจะกลับไปนั่งที่เดิม
“ขอบคุณที่ยอมคุยกับอาจารย์จน ๆ แล้วกันครับ”
“พาลูกศิษย์มาทานเค้กร้านเนยบ่อย ๆ แล้วกันค่ะ” เธอหัวเราะตอบเขาที่ขำไม่ออกเรื่องแก๊งเด็กแสบ
นายเปี๊ยกคงได้กลายเป็นฮีโร่ของห้องเรียนที่บรรยากาศดีขึ้นเพราะอาจารย์หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ถึงปากบอกนักศึกษาว่าเกรดและการเรียนไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว ต้องแยกออกจากกัน
แต่หน้าตาอาจารย์เรียกได้ว่าโลกทั้งใบเป็นสีชมพูนี่สิ!
ฮอนด้าแจ๊ซสีขาวมุ่งตรงไปตามทาง ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ ที่ปัดน้ำฝนปัดไปมาเร็วแรง หน้ากระจกเห็นเพียงแต่หยดน้ำพร่ามัวและไฟสีแดงจ้า บนถนนเต็มไปด้วยรถยนต์ทำให้การจราจรติดขัด เณศราคุยกับเขาไปเพลิน ๆ ลืมฉุกใจนึกถึงความเป็นกันเอง แม้แต่เธอก็ยังไม่รู้ตัว
“เนย? แทนตัวเองว่าเนย... น่ารักดีครับ”
“ลืมตัวค่ะ จะลองพยายามดูนะคะ... อืมเนยเนอะ”
ดูแล้วเธอเป็นคนใจดีจนน่าเป็นห่วง แต่เขากลับเข้าข้างตัวเองว่าเป็นคนพิเศษกว่าหนุ่มอื่นสักหน่อย
ขณะแว่นตาที่ถูกไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศกลายเป็นฝ้าอีกรอบ ป้องเกียรติไม่สนใจที่จะถอดมันออกมาเช็ดด้วยอยากเรียกร้องความสนใจจากคนขับรถ แต่เธอก็ไม่สนเขาจึงเอาแต่นั่งยิ้มจนมาถึงจุดหมายในอีกไม่นาน
สิบห้านาทีจากมหา’ลัยกลับมายังที่พัก คนบ้านใกล้อยากย้ายไปอยู่ให้ไกล จะได้อยู่กับเธอนานกว่านี้สักนาที
ป้องเกียรติคิดอะไรไม่ออก หมดมุกจีบสาวเลยจงใจสะบัดแว่นตาออกจากหน้าให้มันตก! ตรงหว่างกลางขายาว ๆ ที่ต้องดึงเบาะให้ขยับไปข้างหลังกว่าจะเก็บมันขึ้นมาได้ ไอน้ำก็เกาะแว่นจนหนาทำให้มองเห็นเพียงภาพเลือนราง
“แย่จัง... ฝนตกแบบนี้ แอร์ก็เย็นจนมองอะไรไม่เห็น เช็ดแล้วเช็ดอีก”
“ทำไมไปโทษฝนล่ะคะ?” เสียงหวานบ่น หลังจอดรถดีแล้วเธอสงสารเขาเหลือเกิน เอื้อมไปหยิบของจากมือหนามาลูบ ๆ ขัด ๆ ด้วยผ้ากำมะหยี่สีเหลือง ด้วยความที่เจ้าของแว่นดันทำไม่ได้ดั่งใจ เงอะงะเหมือนคนไม่เคยใส่แว่น เธอจัดการมันจนสะอาดเกลี้ยงใสแจ๋วอย่างเดิมแล้วส่งคืนให้เขารับไป
“อะนี่ค่ะ... ฝนมันก็ตกของฝน ดูแลแว่นดี ๆ ค่ะ ฉันคงไม่มาเช็ดให้แบบนี้ตลอดไปนะคะ ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“นั่นสิครับ ไม่น่าไปโทษฝน”
รอยยิ้มมีนัยคล้ายสื่อความหมายบางอย่าง ป้องเกียรติไม่ได้เสียใจที่เธอตัดขาดความสัมพันธ์ทางอ้อม เพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผนในรถยนต์เงียบงัน ได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศ เครื่องยนต์ที่แผ่วเบาลงเรื่อย ๆ
เณศราดันเพิ่งสังเกตเห็นว่าเขาจ้องมองมาอย่างมีจุดประสงค์แอบแฝง
นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนประกายไม่ละวางไปจากเธอที่เพ่งมองใบหน้าคร้ามคมสะอาดสะอ้าน เคราขึ้นแซมเล็กน้อยไล่ไปตามกรามแกร่งทำให้เขาดูเป็นหนุ่มเคร่งขรึมแต่ดูแลตัวเองดี กระทั่งผมรวบเสยสีดำขลับมีปอยผมเล็ก ๆ ตกลงมาอย่างตั้งใจ
อาจารย์ฮอตเนิร์ดก็ฮอตจริง ๆ อย่างที่น้องนักศึกษาบอกเธอนั่นแหละ!
“เนยครับ... พี่จะไปแล้วนะ” เสียงทุ้มเรียกคนขับให้หลุดจากภวังค์ พอเธอเอาแต่จ้องหน้าจ้องตาเขากว่าจะรู้ตัว อาจารย์หนุ่มขยับแว่นตากลับเข้าที่เดิม
“ค่ะ... กลับห้องดี ๆ นะคะ”
“ครับ...” เงียบไปครู่ เอ่ยอย่างอ้อนขอ “ขอไลน์ไปคุยด้วยบ่อย ๆ ได้ไหม? จะว่างคุยหรือเปล่า... ถ้าพี่โทรไป...”
“มาขออะไรล่ะคะ? ฉันก็ตอบไลน์ทุกคน พี่ป้องส่งอะไรมาถ้าไม่ติดธุระก็ตอบนี่คะ”
นอกจากภาพวาดสวย ๆ ลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ อาจารย์หนุ่มยังวาดรูปเธอเป็นตัวการ์ตูน มีเรื่องราวตลกขบขันแอบแฝงในนั้นเช่นเด็กหญิงเณศราในชุดกระโปรงหนูน้อยชั้นอนุบาลโดนคุณครูรูปหล่อใส่แว่นถือไม้เรียวรอหน้าห้อง หลังจากที่เธอลืมทำการบ้านไปส่ง จึงนอนฟุบหน้าร้องไห้
บางรูปก็เป็นเธอร้องไห้แล้วมีครูแว่นมาปลอบใจลูบหลังให้ ไม่รู้ว่าจิตรกรเอกต้องการจะสื่อถึงอะไร
“ฝนมันตกของฝน ตกหนักตกแรงหน่อยเดี๋ยวมันก็หยุด... อย่ากลัวฝนเลยนะครับ พี่ว่ามันออกจะเย็นสบายดี” เสียงทุ้มนุ่มบอกเธออย่างใจเย็น ก่อนที่เขาจะเลื่อนมือไปกุมมือเล็กแผ่วเบา
หญิงสาวเบิกตากว้างตกใจ เมื่อเรียวปากหนาหยักได้รูปจรดลงบนหลังมือนุ่มราวกับว่าเธอเป็นเจ้าหญิงในงานเต้นรำ เจ้าชายขี่ม้าขาวคนนี้จะเป็นอัศวินมากอบกู้หัวใจบอบช้ำของเธอหรือว่าเขาจะทำให้มันเจ็บช้ำหนัก...
เป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้
“ไปจริง ๆ ละนะ ขอบคุณที่มาส่ง... พรุ่งนี้จะไปกินเค้กที่ร้านแต่เช้าเลยครับ”
พูดจบ เขาลุกออกไปจากรถพร้อมรอยยิ้ม ปล่อยคนขับนิ่งอึ้ง หัวใจสั่นไหวประหลาด แม้ว่าเขาจะปล่อยเธอไปได้สักพักแล้วดันเหมือนว่าเขายังจับมือของเธออยู่ สัมผัสอุ่นร้อนที่ทิ้งไว้บนหลังฝ่ามือพาแก้มสีขาวนวลแดงระเรื่อ จนสัมปชัญญะกลับมาจึงโบกมือเรียกบอกว่าลืมร่ม!
สภาพอาจารย์ในเชิ้ตหล่อเหลาเปียกโชกชุ่มท่ามกลางเม็ดฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง สองมือของเขากอดกระเป๋าเอกสาร บอกลาด้วยรอยยิ้ม ไปนะ ๆ อะไรสักอย่างซึ่งเธอมองเห็นแค่ริมฝีปากของเขาขยับ ก่อนจะวิ่งหายไปกับสายฝน
“จริง ๆ เลยนะ... ร่มก็ไม่เอาไป”
ในสีหน้าเป็นกังวลชะโงกคอมองตามเมื่อร่างสูงลับตาไป โดยที่ไม่ได้ขยับรถไปไหน
เธอคิดว่าเขาลืมแต่ว่าเขาไม่ได้ลืม...
เพียงส่งข้อความบอกว่ากลัวเธอจะเปียกตอนเข้าบ้านเพราะว่ามีร่มคันเดียว ส่วนอีกข้อนั้น...
‘แค่คุณเณศรามองเห็นอาจารย์หน้าร้านในสายตาบ้าง คงยอมเปียกฝนมันทุกวัน...’
เจ้าของร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีกรมท่าเลื่อนมือขึ้นจับเข็มขัดหนังเหนือกางเกงสแล็ค จัดแจงตัวเองให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย เสยผมชี้ฟูให้เรียบลงด้วยเจลใส เปลี่ยนจากแว่นกรอบหนาเป็นคอนแทคเลนส์ ค่อยปิดประตูไม้สลักสลายสวยลงเบา ๆ“คุณป้อง... จะทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ไหมคะ? ป้าจะได้เตรียมสำรับอีกที่หนึ่ง” เสียงแม่บ้านสาวใหญ่เรียกชายหนุ่มที่กำลังรีบร้อนลงบันไดให้หันหลังมองขวับ“ไม่ครับไม่กิน ผมจะไปนั่งกินหน้ามหา’ลัย ป้าติ๋วไม่ต้องเตรียมเผื่อนะวันนี้ไปแล้วไม่กลับ... ยาวครับ...”นั่นหมายความว่าคงไม่มีใครได้เห็นหน้าเขาไปสักพักใหญ่ ๆ ซึ่งนับเป็นเรื่องธรรมดา หลังซื้อคอนโดฯ ใกล้มหา’ลัยแล้วไม่มีใครเคยเห็นหน้าค่าตาลูกชายคนโตบ้านเจ้าสัวบูรพากรณ์ ที่กลับมาเหยียบบ้านปีละสองถึงสามครั้งคฤหาสน์หลังงามพื้นที่ถึงหกไร่ ก่อนจะออกไปต้องผ่านห้องรับแขกกว้างขวาง ตกแต่งด้วยโทนขาวเรียบง่ายทว่าอลังการด้วยโคมไฟระย้า โซฟาหลุยส์และเครื่องเงินในตู้กระจก งานอวดฐานะความร่ำรวยของเจ้าของบ้านป้องเกียรติกระชับกระเป๋าหนังสีน้ำตาลเข้มสำหรับใส่เอกสารการสอนของเขาแนบกาย เหยียบย่องผ่านพื้นพรมด้วยถุงเท้าสีขาว ด้วยความที่เขาขี้เกียจต่อปากต่อคำ
เณศราค่อนข้างถูกชะตาอาจารย์หนุ่ม เธอสนิทสนมกับเขามากขึ้นในทุกวัน บทสนทนาของเธอและเขามักเป็นไปอย่างธรรมชาติ เขาแวะมาหาเธอพานั่งรถไฟฟ้านั่งเรือบ่อย ๆ มาวาดรูปให้ในสวนด้านหลังร้าน ทานขนมเค้กที่เธอทำทุกเมนูแม้แต่โกโก้ สตรอว์เบอร์รีปั่นที่เขาไม่ชอบนักเพราะเป็นคนชอบกาแฟดำขม ๆ มากกว่า เธอรู้ว่าเขาก็แค่พยายามเอาใจเธอไม่ว่าอะไรที่ขอให้ลองชิมหน่อย ในร้านเบเกอรี่ซึ่งเคยปกคลุมด้วยหมอกทะมึนจึงมีสีสันสดใสขึ้นมาสำหรับเธอแล้วอาจารย์ป้องเป็นหนุ่มค่อนข้างนิสัยดีคนหนึ่ง ยังเป็นที่หมายปองของสาวน้อยใหญ่ ซึ่งเธอคิดว่าหากนิ่งนานไปรถไฟขบวนสุดท้ายคงได้มีชวด!แต่การพูดคุยกันไปก่อนน่าจะดีกว่า เธอคงไม่อยากก้าวพลาดอีกซ้ำสอง“เป็นเพื่อน... รุ่นพี่อะไรประมาณนั้น เป็นลูกค้าที่ชอบมานั่งกินเค้กไม่มีอะไรนี่”“ปากบอกไม่สนิทแต่นับพี่น้องแล้วให้ตายเถอะนังเนย ได้ยินน้องพลอยบอกว่าตี๋เนิร์ดหล่อมาก กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ตกลงว่ากิ๊กใหม่แกใช่ไหมยะ”กิ๊ก! คราวนี้เป็นเธอตกใจจนสำลักน้ำจากแก้วชา วางมันลงเบา ๆ บนโต๊ะกระจกแล้วเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดขอบปากด้วยท่าทางสมเป็นกุลสตรี“แกจะมาเซ้าซี้ฉันทำไมเนี่ย? ยัยวิ... ตัวแกเหอะวัน
“กินข้าวมายังครับ?”“ยังค่ะ”“อยากกินอะไร... ง่าย ๆ ไหม?”“ได้เลยค่ะ ฉันทานอะไรก็ได้ เบื่อร้านหรูหรา ถ้านาน ๆ ทีพอไหวไปทานได้ แต่...” เงียบไปครู่ เหมือนคนขาดความมั่นใจไปขณะหนึ่ง ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น“แต่...?”“คือ... พ่อแม่ฉันบอกเสมอว่าไม่ควรอยู่กับผู้ชายสองต่อสองถ้ายังไม่แต่งงาน ฉันทานข้าวเสร็จแล้วขอกลับเลยนะ”แม่คนหัวโบราณ! นี่มันยุคไหนแล้วครับ อาจารย์หนุ่มกลอกตามาไปมา ก่อนที่เขาจะกระตุกยิ้มเบา ๆ“งั้นอาหารตามสั่งนะครับ ร้านข้างล่างตึกนี้ทำกับข้าวอร่อยมาก”“อะไรก็ได้ค่ะ”“อะไรก็ได้ไม่มี”“กะเพรา... ก็ได้ค่ะ”“กะเพราไก่ไข่ดาวแล้วกันนะครับ” บอกแล้วเขายกโทรศัพท์แนบหูโทรสั่งอาหาร ป้องเกียรติเห็นบางคนนั่งกำมือไว้บนหน้าตักตัวเกร็ง ไม่รู้ว่ากลัวอะไร เขาเกือบจะหัวเราะออกมา ทว่ายังรักษาน้ำใจกันเลยซ่อนรอยยิ้มไว้ตรงมุมปากอย่างนึกเอ็นดู พูดคุยกับเธอเหมือนปกติทุกวันจนได้ยินเสียงกริ่งดังอาหารกล่องและน้ำส้มมาส่งในถุงพลาสติก เจ้าของห้องถือถุงหิ้วเดินนำเธอไปทางโต๊ะรับประทานอาหารโต๊ะกระจกสีดำตัวยาวติดริมกระจกบานใหญ่มองเห็นแม่น้ำสายยาวไหลผ่านทิวทัศน์เมืองกรุงเทพฯ ภาพสีน้ำมันบนฝาหนังเข้ากันกับผนังสีข
“อะไรอีกคะ?”“ไม่อยากล้างจานเสร็จเลย อยากยืนตรงนี้นาน ๆ”“ผู้ชายคงเหมือนกันหมด เห็นผู้หญิงเป็นดอกไม้ริมทางหรือเปล่า เลิกมาหลอกกอดหลอกจับมือเนยซะทีค่ะ เนยจะไม่อ่อนหวานแล้วนะ”“เนยทำร้ายพี่ได้เลย ตบตีขัดขืนไปเถอะ แต่พี่ไม่อยากไป... เลิกเข้าใกล้เนยไม่ได้แล้ว...”ทั้งน้ำเสียงและแววตาจริงจังผิดจากคนเมื่อสักครู่ทำให้คนในพันธนาการเบือนหน้าหนีไปอีกทาง พอเธอทำลอยหน้าลอยตาไม่ตอบ ไม่วายที่เขาจะเหน็บแนม“น้องเนยครับ... อาจารย์ตามจีบมาเป็นเดือน ๆ แล้วนะ จะต้องตามจีบอีกกี่ปี?”“ก็... ไม่รู้”ก็รู้นั่นแหละ! แต่ที่เณศราไม่รู้คือทำไมอาจารย์ถึงได้ทำตัวเป็นหนุ่มขี้อ้อนที่แสนน่ารำคาญเหลือเกิน“พี่ทำให้เนยลืมเขาได้นะ...”ที่มีคนพูดขึ้นมาก็น่าสนใจ เณศรากลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จานสองใบในอ่างกลายเป็นว่าเขาเป็นคนล้าง ผู้ชายตัวโตค่อยเดินไปหยิบเสื้อนอนมาให้พร้อมผ้าขนหนูสีชมพูอ่อน“อาบก่อนเลยนะ แชมพูสบู่พี่ใช้ได้หมด” พูดอย่างเป็นกันเองให้คนตัวเล็กเลิกสั่นเกร็งจากพันธนาการหลวม ๆ เมื่อสักครู่นี้ เขาจับจ้องใบหน้าหวานงามด้วยแววตาอบอุ่นอ่อนโยน พูดจาหว่านล้อมจนเธอเลิกต่อต้านหัวใจเณศราตอบ ‘ค่ะ’ แค่นั้นแล้วเข้าห้องน้ำไป
คนได้ยินยิ้มประชด เพราะเหตุผลของเขามันฟังไม่ขึ้น! “ไม่ต้องมาทำนอกเรื่องค่ะอาจารย์”“ไม่นอกเรื่องก็ได้ครับ เมื่อคืนนี้พี่อุ้มเนยมานอนที่เตียง เนยมากอดพี่เอง ซุกเอา ๆ เห็นว่าหลับสบายอยู่เลยไม่อยากปลุก”เณศราหน้าเจื่อนไปหากว่าเธอเป็นฝ่ายผิด ถึงมันจะไม่มีอะไรการันตีว่าเขาไม่ได้โกหก แต่ป้องเกียรติไม่ใช่คนแบบนั้นตาคมสำรวจเชิ้ตนอนลายขวางตีตารางสลับลาย ลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างหิวกระหาย ก่อนจะพูดโพล่งออกไป“ขอจูบเนยได้ไหม?”คนตัวเล็กเบิกตากว้างตะลึง “คะ...?”“พี่... อยากจูบเนย คือเนยไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม? เรื่องปัด...”“หมายความว่าไงคะ? เนยไม่เข้าใจ” เธอย่นคิ้วเข้าหากัน ในอ้อมแขนของคนที่พยายามบอกอย่างใจเย็นและเข้าใจ“พี่กลัวเนยไม่สบายใจเรื่องผู้ชายคนก่อน แต่พี่ไม่ใช่เขา พี่ไม่เหมือนใคร พี่ดีใจที่เนยยอมรับความรู้สึกของพี่นะ”“ใครบอก... อุ๊ย!” อุทานทันทีที่ถูกฉกหอมฟอดใหญ่ มือเรียวยกขึ้นลูบหน้าแรง“ชักเอาใหญ่แล้วนะคะ เนยไม่ได้บอกว่าจะคบด้วยค่ะ แค่ยอมให้นอนตักให้จับมือเพราะสงสารหรอก พี่มากอดเนยก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วย เนยหลับค่ะ คนอะไรชอบคิดเองเออเอง...”“เปล่าคิดเองเออเอง เนยต่างหากที่ชอบหลอกตัวเอง...
เณศราคบหาดูใจกับคนก่อนมาถึงสามปี แต่อาจารย์ฮอตเนิร์ดใช้เวลาจีบเธอไม่นานขนาดนั้นทำไมเธอถึงได้ยอมเขา...หญิงสาวเฝ้าถามตัวเองเมื่อมืออุ่นร้อนปัดป่ายเข้าไปในเสื้อ เธอเกือบจะโป๊เปลือยเพราะชั้นในสองชิ้นซักตากไว้ตรงระเบียง นั่นทำให้อีกคนสานงานของเขาได้ง่ายขึ้นปลายนิ้วเรียวยาวลากผ่านหน้าท้องแบนราบพาไรขนลุกชูชัน กายสาวสั่นสะท้านเพียงสัมผัสถึงนิ้วร้อนที่ลากไล้ไปมาบนผิวเนียนนุ่ม แผ่วเบาราวสะกิด ก่อนที่เขาจะตะครุบเข้าเต้าอวบพอดีมือ พาร่างบางสะดุ้ง“อ๊ะ... พี่ป้อง... อื้ออ...”ดวงตาคู่สวยหรี่เล็กลงจนเหยียดตรง เธออายเสียงตัวเองจนต้องยกมือขึ้นปิดป้อง เมื่อโพรงปากอุ่นเข้าครอบครองปลายยอดสีงามที่แข็งเป็นตุ่มไต จากนั้นผู้ชายตัวโตก็เริ่มบีบคลึง ดูดดึงอกอิ่มป้อนเข้าปากอย่างตะกละตะกลาม“พอแล้วนะคะ... มันแปลก ๆ อ๊ะ...”เณศราคงไม่เหลือสติอยู่กับตัวแม้ว่าเขาจะยอมปล่อยเธอ หลังวนเวียนดื่มกินสองเต้าจนหนำใจ ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนขึ้นมองสีหน้าแสนรัญจวน พร้อมอารมณ์วาบหวามไม่ต่างกันไปสักเท่าไร“อือ... พี่ป้องพอ... ก่อน”“พี่แค่ขอชิมนิด ๆ หน่อย ๆ นะ...” ไม่มีทางที่จะนิด! กายกำยำรุ่มร้อนอาจแตกเป็นเสี่ยงด้ว
ที่จริงเขาก็ไม่สนหรอกว่าเธอจะเป็นของใครหรือไม่เป็น... เขาแค่ชอบเณศรา...แต่เขายังรังแกเธอ ซึ่งกำลังทรมานด้วยต้องการการปลดปล่อย ก่อนยอมปรนนิบัติอย่างที่ไม่เคยปรนเปรอให้ใคร เมื่อใบหน้างามส่ายไปมา มือหนาเลื่อนขึ้นล็อกต้นคอเรียวไว้ให้หยุดนิ่ง อีกข้างลากผ่านเนินอวบอูมไปถึงจุดกระสัน“อ๊ะ...!” เสียงหวานสั่นคราง เพียงความรู้สึกที่ถวิลหาคืนกลับมา ปลายเล็บสั้นสวยจิกลงบนบ่ากว้าง เธอพริ้มตาปิดลงรับอารมณ์ซ่านสยิววิ่งลงไปรวมในจุดเดียว เหมือนกับว่าถ้าเขาหยุดมือลง เธอคงขาดใจมากกว่าจะไม่ให้เขาหยุด“เดี๋ยวพี่ทำให้นะ... คนสวย... ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ไปครับ... อูยส์... เนย...”หน้าท้องแบนราบที่ชนเข้ากับน้องชายตัวดีทำเอาเรือนกายชายลุ้นตัวโก่งตามคนที่ใกล้ถึงฝั่งฝันเต็มที ความปวดร้าวเพิ่มขึ้นเป็นทวี ขณะที่ชายหนุ่มยังอดทนเพ่งมองสีหน้ารัญจวนเบื้องหน้า เมื่อความต้องการของคนไร้ประสบการณ์เอ่อล้น ปริ่มนองปลายนิ้วของเขาจนมิด เปียกแทบเต็มมือมือหนึ่งมิด... แต่อีกหนึ่งเคล้าคลึงข้างบนอย่างไม่ลืมว่าตรงไหนที่จะทำให้เธอสุขสมเสียจนสามารถลืมผู้ชายคนเก่าไปเสียให้หมดใจ“พี่ป้อง! เนย... ใกล้... แล้วค่ะ อ๊ะ... อ๊าา”ทางสวรรค์คงอยู
“ไม่รู้ค่ะ รู้แต่ทำงานยากจังเลย มีอะไรไม่รู้มาติดหนึบเป็นปลิง เนยว่าถ้าจะช้าไปกว่านี้ คงได้ปิดร้านช้าแน่ ๆ สงสัยคงไม่ได้กลับห้องพี่แล้วล่ะ”“พี่ก็เผื่อเวลาแล้วไงครับ... เรามากันตั้งแต่ตีสี่ครึ่งไม่มีทางที่มันจะไม่ทันเปิดร้าน ไม่เกี่ยวกับเวลาปิดด้วยครับ”“แต่มันช้าค่ะ เนยเคยทำงานคล่องแคล่วว่องไวกว่านี้” จนเธอเบื่อจะผลักเขาแล้วเลยได้แต่เธอทำตาขวางใส่รอยยิ้มไร้เดียงสา“พี่อยากช่วยงานเนยนะครับ เนยไม่บอกพี่ว่าให้หยิบจับทำอะไรบ้าง พี่กำลังเรียนรู้ที่จะหัดทำนะครับ เวลาสอนเด็ก ๆ พี่ยังให้โอกาสพวกเขาเลยทำไมเนยไม่ให้โอกาสพี่บ้างล่ะ?”“พี่ปั้นคุกกี้เป็นก้อนทองหยอดนะคะ บางอันก็เละตุ้มเป๊ะ... กลับไปเทรนด์งานใหม่ที่บ้านค่อยมาลองทำจริงได้ไหม? ให้เนยเปิดร้านก่อนนะ...”“วันก่อนเนยบอกจะสอนพี่ก็ไม่สอน เนยครับ... เดี๋ยวพี่ก็ไปเข้างานแล้วครับ ขอกอดเนยอีกนิดนะ”พอเขาทำเสียงหวานหน่อย ส่งสายตาออดอ้อนผ่านแว่นกรอบหนาผิดจากผู้ใหญ่คนเดิม เณศราก็ยอมเขาอีก!บางทีนั่นอาจเป็นจุดประสงค์ของคนเจ้าเล่ห์ที่ไม่ยอมเลิกราจากงานกอด หากได้โอกาสสักหน่อยมือหนาค่อยเคลื่อนไปลูบจับเดรสลายดอกไม้ทั้งก้นเอว หน้าท้องแบนราบด้วยอารมณ์หล
งานหมั้นเช้าแต่งเย็นดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ด้วยความที่บ่าวสาวไม่ได้มีญาติเยอะ มีแขกมาร่วมงานไม่ถึงห้าสิบคน รวมเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนอีกไม่กี่คน เรียกได้ว่าเป็นงานผูกข้อมือเล็ก ๆ ไม่ใช่งานแต่งเอิกเกริกซุ้มประตูดอกไม้ เพลงรักยอดฮิตในยุค 70s เคล้าคลอไปกับเสียงคลื่นลมของรีสอร์ตริมทะเล แม้แต่อาหารและสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กก้อนโตยังตามใจคู่บ่าวสาว เดรสลายลูกไม้ชายลากยาวบนผืนทรายเข้ารูปทรงสมส่วน เสื้อสีขาวสะอาดคอลึกผ่าหลังเผยให้เห็นผิวขาวสวยทำเจ้าบ่าวตากระตุกน้อย ๆ ทว่าอาจารย์หนุ่มก็ลืมมันไปได้ เมื่อวันนี้เป็นวันสำคัญวันที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะสวยที่สุดในชีวิตใบหน้าหวานงามแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนใต้รอยยิ้มเอียงอายที่มีให้ชายเพียงคนเดียว หน้าท้องเนินนูนเพียงเล็กน้อยคงไม่มีใครสังเกตเห็น ป้องเกียรติกำลังพึงพอใจกับบรรยากาศนี้ ขณะที่เธอบอกกับทุกคนผ่านไมโครโฟนว่ามากันสามคน พ่อแม่ลูก “เธอเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด เป็นคุณแม่ที่ผมรักที่สุด ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมอวยพรให้ผมกับเนยนะครับ”เสียงปรบมือดังในลานกว้าง เธอสวย... ขนาดที่เขาละวางตาไปไม่ได้เสียเลย เขาจับจูงมือเธอไปบอกลาทุกคนหลังงานเลี้ยงสิ้นสุดลงญาติทา
เหตุการณ์สะเทือนขวัญยังหลอกหลอนยามหลับฝัน บางคืนเธอยังสะดุ้งตื่นกลางดึกด้วยความหวาดกลัว ทว่าพอพบสบตาคม อ้อมแขนอุ่นกลิ่นหอมสะอาด กลับแน่ใจถึงความปลอดภัยว่าไม่มีใครมาทำร้ายเธอได้ “พี่ป้อง... ตัวหอมจังค่ะ ตัวพี่อุ่นมาก เนยนอนหลับสบายจัง” “เนยก็หอมครับ ทำพี่หลับไม่สบายสักวันถ้าไม่ได้อึ้บเมีย” เงียบไป ใต้รอยยิ้มกรุ้มกริ่ม มือหนาลูบศีรษะน้อย ลากวนเข้าไปในเส้นผมสีน้ำตาลสลวยอย่างย่ามใจ ในความเงียบงันของห้องอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ ต่างคนไร้เสื้อผ้าแม้สักชิ้นห่อหุ้มกาย คลุมไว้ด้วยผ้านวมหนาในอ้อมกอดกัน เป็นเรื่องปกติที่เธอจะปรารถนาในตัวเขามากขึ้นทุกวัน ยิ่งเป็นคุณแม่ท้องอ่อนฮอร์โมนทำร้าย “เนยต้องพักผ่อนนะ เดี๋ยวลูกไม่โตทำไง” “โตซี พี่ฉีดสารเร่งโตให้ทุกวัน” คนทะลึ่งก็อย่างนั้น เขาก้มหน้าลงประทับจุมพิตบนขมับเนียน ผุดรอยยิ้มกว้างหวานเต็มวงหน้าใต้โคมไฟสลัว “เอ... ตัวเล็ก... ผู้หญิงหรือผู้ชายนะ?” “จะรู้ไหมคะ? คงเป็น... ผู้ชายมั้ง...” “พี่อยากให้ชื่อฟ่อน เงินฟ่อน ชิฟฟ่อน ชื่อเล่นนะเจ้าลูกฟ่อน... ถ้า
เพราะมีคนเผลอทำตัวเปิ่น ๆ ในโรงพยาบาล ส่งเสียงดังลั่นห้องฉุกเฉินให้คุณพยาบาลหัวเราะกันยกใหญ่ แต่ก็เข้ามาแสดงความยินดีพร้อมผลตรวจของคุณหมอ เซ็นอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านอย่างสบายใจ เณศราไม่รู้เอาหน้าไปไว้ที่ไหน เธอดีใจที่จะได้เป็นคุณแม่ มีลูกน่ารัก ๆ สักคนกับว่าที่สามีไม่สนเรื่องแต่งก่อนแต่งหลังหรอก ในขณะที่ยังมีเรื่องไม่สบายใจพอได้ยินบางคนโทรไปด่าน้องสาวยกใหญ่ ผ่านลำโพงในรถยนต์ สายประชุมครบพ่อแม่พี่น้อง แม้แต่พ่อแม่ของเธอเองเขาโทรบอกให้ทุกคนรับทราบวีรกรรมของคนคนเดียว ที่ไม่สมควรได้รับการให้อภัย“ก็ให้ท้ายกันไงครับถึงได้โตมาสันดานแบบนี้ ผมไม่ยอมแล้วผมจะไม่ถอนฟ้องแทนเมีย ไม่รับค่าเสียหาย ให้อีสองคนนั้นไปนอนคุกอย่างเดียว อย่าคิดว่ามีเงินแล้วทำได้ทุกอย่าง ผมมีเพื่อนเป็นทนาย นักโซเชียลเยอะเหมือนกัน ดี... จะได้เอาปี๊บคลุมหัวกันให้หมดทั้งบ้านเวลาออกไปข้างนอก ขอให้หุ้นตก บริษัทฉิบหายย่อยยับนะครับ”เป็นชุด! มากกว่านี้ยังมีเรื่องของหุ้นส่วน เงินหมกเม็ด ภาษีที่จ่ายไม่ครบ คนขุดได้ก็ขุดมาทั้งเรื่องและเขาพร้อมจะแฉทุกอย่างให้พินาศย่อยยับ จนคุณพ่อขอไกล่เกลี่ยยอมขอว่าเขาอยากได้อะไร คนปากหนัก
ห้องเงียบเชียบให้ความรู้สึกเงียบเหงากว่าทุกวัน อาจารย์หนุ่มรออาหารมื้อเย็นจากแม่ครัวที่ยังไม่กลับบ้านสักที แต่งตัวเรียบร้อยด้วยเชิ้ตสีดำสนิทอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเครื่องใหญ่ งานสอนก็ค่อนข้างยุ่ง ต้องตรวจงานนักศึกษาไปด้วยระหว่างอธิบายการเขียนคำสั่งคอมพิวเตอร์ หลายอย่างวนเวียนในหัว ขมวดคิ้วมุ่นตั้งใจทำงานตลอดเวลาหลายคนในคลาสตั้งใจเรียนผิดปกติจนหมดชั่วโมงเรียน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กแสบ ทำขยิบตาผ่านกล้องเหมือนมีปัญหาสักอย่างแต่ไม่กล้าพูด ส่งเป็นข้อความมาบอกแทน...‘She’s in Danger!’บอกใบ้มาเป็นภาษาอังกฤษให้ตีความอีกต่างหาก คนเป็นอาจารย์สงสัยอยู่พักหนึ่ง นึกหงุดหงิดคนส่งข้อความมาให้เป็นปริศนาคาใจ ก่อนตกใจเป็นอย่างมากแทบทำห้องเรียนล่ม เรื่องใหญ่กว่าคือคาบสอนนี้เป็นบันทึกเทปย้อนหลังซึ่งเขาไม่สามารถปิดโทรศัพท์กลางกลางคันได้เป็นโชคดีที่แก๊งนายเปี๊ยกดันออกจากห้องเรียนไปก่อน ส่วนคนสอนทำได้แต่นับเวลาถอยหลัง ภาวนาให้บันทึกการสอนจบเร็ว ๆ พูดจาติดขัดเพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัวป้องเกียรติพอคาดการณ์ได้ว่าเกิดเรื่องอะไร ด้วยความที่เขาคอยดูพฤติกรรมของอีกคนอยู่ตลอด เธอมีท่าทีแปลก ๆ เมื่อคืนนี้ ทำท่
ถ้าผัวฉันย่องไปหาแกที่ร้านอีกครั้งเดียว แกได้เจอฉันตัวเป็น ๆ แน่นังเนย เมมเบอร์นี้ไว้ด้วยนะเพราะฉันไม่เตือนใครเป็นครั้งที่สอง‘รวิตา’เณศราได้รับข้อความจากคนที่ไม่รู้ว่าเอาเบอร์ของเธอมาจากไหน เธอไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครจึงใจคอไม่ค่อยดี นอนพลิกไปพลิกมาบนท่อนแขนอุ่นที่หนุนนอนต่างหมอนทุกคืน หน้าตาครุ่นคิดด้วยความเป็นกังวล ตื่นมาแล้วออกไปทำธุระประปรัง เดินซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ กลับเข้าบ้านมาสติไม่อยู่กับเนื้อตัวนัก ขณะที่คนเก่าส่งข้อความมาบอกกับเธอแค่...‘พี่อยากคุยกับเนยนะ’ทั้งที่บอกชวนผ่านเพื่อนสาวเรื่องงานผูกข้อมือมะรืนนี้ ประเด็นอื่นขอไม่พูดคุยกันอีก แปลกที่คนมีเหตุผลเป็นนักธุรกิจ เป็นลูกชายที่ดีของบ้านมาโดยตลอดกลับไม่พยายามเข้าใจเสียเลยจะอย่างไร เธอก็มีไม้กันหมาที่ดี ติดกว่าคนนี้ไม่มีแล้วในชุดคลุมอาบน้ำบนร่างกำยำส่งกลิ่นหอมอ่อน ลอยผ่านจมูกไป อาจารย์หนุ่มหุ่นล่ำคอยเดินยั่วยวน อวดสรีระเรือนกายของเขาที่อุตสาหะทำมาอย่างยากลำบาก บริโภคอกไก่ปั่นด้วยท่าทางกล้ำกลืนฝืนทน ซึ่งคนอยู่ด้วยกันยังไม่รู้ว่าเขาจะทำมันไปเพื่ออะไร ในเมื่อเธอยังไงก็รักเขาหมดใจไปแล้วอ้วนพุงพลุ้ย ก็ยังรัก หัวล้านแก
คนอยู่ด้วยกันทุกวันคงสังเกตเห็น เธอแค่ไม่รู้ว่าเขาจับอะไรตลอดเวลา“เนยต้องใส่ไว้ก่อนนะ คนเขาจะได้รู้ว่ามีเจ้าของแล้ว พี่ไม่ชอบเวลาใครมองเนย พี่หวง...”“แต่เนยชอบค่ะ เวลาพี่ป้องทำตาเขียว ๆ น่ะ”“ชอบโดนจัดหนักด้วยใช่ไหม?”“ไม่รู้ค่ะ...” เสียงหัวเราะคิกคักดัง หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรง เมื่อเขาบรรจงสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้าย ชักชวนให้ดูลอยสลักบริเวณรอบตัวแหวนN & P ดูจะเป็นไอเท็มคู่รักแนวแฟชั่นมากกว่าแหวนเพชรเม็ดโตในงานแต่งอลังการ ที่เคยเห็นบ่าวสาวสวมให้กัน“ขอบคุณนะคะพี่ป้อง... เนยจะรักษามันให้ดีทั้งสองชิ้นนี้ สร้อยกับแหวนของพี่... ชอบมากเลยค่ะ”เธอชอบมันที่สุด... ชอบผู้ชายคนนี้ที่สุดเณศราเม้มปิดริมฝีปากของเธอสนิทแน่น หยดน้ำใสเอ่อคลออย่างอดกลั้นไม่ไหว ก่อนที่ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทจะโน้มตัวลงหาเธอเชื่องช้า ประกบเรียวปากอิ่มงามแผ่วเบาแล้วผละออกประทับจุมพิตบนขมับเนียน“พี่รักเนยนะ”คนมีความรักมักหน้าเด็กทุกคน มองอะไรก็เป็นสีชมพู เห็นจะจริงกล่องข้าวน่ารักในแต่ละวันของเณศราประดิดประดอยด้วยผักหลากสีสัน เธอใช้ตราปั๊มลายตุ๊กตาในการทำอาหารเช่นข้าวญี่ปุ่นหุงร้อนเป็นหมีน้อย ห่มคลุมด้วยไข่เจียว ราดน้ำซอส
ป้องเกียรติไม่ทำให้คนตัวเล็กผิดหวัง แม้แต่ช้อนตัวเบา ๆ เข้าออกช่องทางอ่อนนุ่มที่โอบรัดแก่นกาย มันกลืนกินตัวตนของเขาได้ดีเยี่ยมไม่ต่างจากว่าเป็นครั้งแรกของกันและกันบางครั้งก็ดิบเถื่อน! เมื่อร่างกายได้รับการเติมเต็มหลังห่างหายกันไปไม่กี่วัน แต่ยังคงอ่อนหวาน สอดประสานหลังมือเรียวที่จิกกำแน่น หลังแอ่นก้นรอรับความแข็งขึง ขยันขยับสะโพกสอบถี่ระรัว ปล่อยให้มังกรร้ายผลุบเข้าออกอย่างไม่ละวางจังหวะลง จะให้คนใต้ร่างได้หายใจหายคอยังไม่มีเณศราได้รับจุมพิตจากเขาที่ไม่เคยรู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย หน้าขาสั่นเทากระแทกกับขอบโต๊ะ หากว่าเธอทำท่าจะลุก คงถูกผลักลงให้นอนราบบนกินข้าว มือหนาปัดป่ายของกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทั้งถุงพลาสติก ขวดแม็กกี้ เขาไม่สน! ว่าอะไรจะหล่นเละเทะเหมือนคนอดอยากปากแห้งมาแรมปีแววตาคู่สวยเอ่อคลอหยดน้ำใส ช่องท้องวูบไหวตามเสียงเสียบสับของเนื้อกระทบกันพาอารมณ์ของเธอถึงขีดสุด ถึงว่าที่สามีจะดุดันป่าเถื่อนสักหน่อย เธอกลับนึกชอบพอในความเป็นตัวเขา สะโพกงามงอนจิกเกร็ง“พี่ป้องขา... เนยไม่ไหวค่ะ!”“ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย... ทำไมเสร็จไวจังครับ อืม... อูยส์ เนยรัดพี่แรงแบบนี้ไม่ดีนะ”คนพูดจาทะล
ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงเหมือนโกรธงอนกันสักเรื่องซึ่งเขารู้ จึงผละจากคนตัวเล็กไปคว้าผ้าเปียกหมาดบนเคาน์เตอร์ครัวมาโยนลงบนโต๊ะรับประทานอาหารอย่างเอาเรื่องเอาราว“เอาหน่อยสิ แต่ว่าต้องทำงานให้เนี้ยบกว่านี้นะ ทำไมเช็ดโต๊ะเช็ดครัวไม่สะอาด ยังมีคราบแม็กกี้เนี่ย...”“ไหนคะ?” ถามหน้ายุ่ง มือหยิบผ้าสีขาวได้ก็ส่ายคอมองตามปลายนิ้ว เพื่อหารอยคราบบนผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้น่ารัก เณศราซื้อมาคลุมโต๊ะให้เจ้าของห้องเองเพราะมันสามารถมองหาคราบเปื้อนได้ง่ายแต่ในเมื่อมันไม่มี...“ตรงนั้นไง เมื่อกี้พี่เช็ดไปแล้วเนยดู...”“ไม่เห็นมีเลย เนยว่าเนยเช็ดหมดแล้วนะ”“ก้มต่ำ ๆ ดูให้ดีครับ”ก้มต่ำ! เธอหันขวับมองคนข้างหลังทันที แต่พอจะอ้าปากต่อว่า ผู้ชายตัวโตคว้าหมับจับสันคอเธอกดลงบนโต๊ะไม่ต่างจากว่าเธอเป็นผู้ร้าย ปลายเท้าเรียวทั้งสองจิกลงบนพื้นพยายามเขย่งตัว หน้าอกอวบอัดและแก้มของเธอเบียดบี้ไปกับกระจกเย็นเฉียบ“พี่ป้อง... ทำอะไรคะ?”“ช่วยเมียเช็ดโต๊ะ ตรงนั้นไง...”“...”มือเรียวกำผ้าเปียกหมาดแน่นจนน้ำกระเซ็นเปื้อนบนโต๊ะอีกระลอก และก็คงจะไม่ได้เช็ด ทันทีที่แผ่นหลังบางเย็นวาบตามอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ เธอได้ยินเสียงปลดซิบไว ๆ
ฉีกยิ้มกว้างหวานให้เห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ คนขับหันไปมองรอยยิ้มที่ตกเขาได้ตั้งแต่แรกเห็นนั่นแหละ แต่ปากดันไม่ตรงกับใจยังทำหน้าแหยง“ไม่สวยเลยอี๋... วันหลังอย่าให้ชุดนี้อีกนะเดี๋ยวนี้อ้วนพุงออกอะครับ คนเขามองพุงรู้ไหมเขาไม่ได้มองเจ้าของร้านสวย สงสัยว่าทำไมอ้วนขึ้นต่างหาก”“ฮะ? เนยอ้วนเหรอ...” เณศราเริ่มก้มหน้าดูสรีระตัวเอง หน้าท้องของเธอคงไม่ได้ยื่นยาวขนาดเขาว่า แค่โผล่ออกมาเล็กน้อยหลังรับประทานอาหารตามธรรมชาติคนทั่วไปแค่นั้น แต่นั่นก็ทำคนรักสวยรักงามเสียความมั่นใจสำเร็จ“เมื่อก่อนผอมกว่านี้นะ น้ำหนักขึ้นหรือเปล่า?”“อืม... ใส่สเตรย์รัดหน้าท้องก็น่าจะได้นะ ชุดแบบพอง ๆ หน่อยคงไม่เห็นว่ามีพุงมากมาย”“ไม่เอาลายดอก”“ตัวอื่นก็ได้ค่ะ วุ่นวายกับเสื้อผ้าเนยจริงนะ” ว่าตาขวาง เมื่อมาถึงจุดหมายในอีกไม่นานลานจอดรถโล่งเงียบในช่วงหัวค่ำ ชั้นใต้ดินไม่มีรถจอดมากนัก คนขับก็เลือกทำเลได้ดีห่างจากลิฟต์ไปเล็กน้อย นัยน์ตาคู่คมใต้แว่นกรอบหนาประกายวูบวาบพาไรขนลุกชูชัน เธอกำมือทั้งสองบนหน้าตักอย่างเกร็ง ๆ เพราะว่าเขาไม่ปลดล็อกประตูรถยังไม่ดับเครื่องยนต์“พี่ป้อง... จะทำอะไรคะ?”“ทำอะไรก็ได้ครับไม่มีคนหรอก... ท