ถามได้ความมาว่าเขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่มหา’ลัยเก่าของทางฝั่งเจ้าสาว
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่กล้านั่งนะครับ แต่ว่าตอนนี้... ได้แล้วใช่ไหม?”
“เอ่อคือ... โต๊ะมันก็ไม่ได้มีเจ้าของนะคะตัวนั้น... ใครจะนั่ง นั่งได้ทุกคนค่ะ”
ดวงตาเศร้าหมองประกาศความรู้สึกออกมาเพียงเสี้ยววินาที ขณะวงหน้าหล่อเหลาเปิดเผยรอยยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้นผมไม่เกรงใจนะ”
“เชิญเลยค่ะ แล้วรูป... วันนี้ได้โควตาไหมคะ?” พูดพลางเดินนำเข้าร้านไป ไม่แปลกที่จะตื่นเต้นเมื่อพบว่าเขาฝีมือดี! เป็นนักวาดที่มีชื่อเสียงโด่งดังได้เลยหากไม่มุ่งตรงมาสายอาชีพนี้
อาจารย์หนุ่มตรงไปสั่งขนมเพิ่ม นั่งลงบนโซฟาตัวสีเขียวก่อนที่เขาจะบอก “ให้สองถึงสามวันรูป... เพราะอีกหน่อยรูปสต๊อกมันคงหมด ผมวาดวันต่อวันไม่ไหวครับ”
“เหมือนส่งงานอาจารย์เลยนะคะ”
“ถ้าผมสั่งงานจริง ๆ คุณจะหนาว ส่งช้าหักคะแนนเพราะถือว่าเอาเปรียบคนที่ส่งงานคนแรก ส่งไม่ทันต้องให้เพื่อนมาส่งให้ ผมไม่สนว่าคุณบ้านอยู่ที่ไหนในเมื่อคุณเป็นคนผิดนัด ผมเองก็มีอะไรต้องทำครับ”
เณศรายิ้มตามหน้าดุ ๆ ของเขา ผ่านแว่นกรอบหนาทรงสี่เหลี่ยมเหมือนคนเรียนเยอะ อีโก้สูงปรี้ดติดเพดาน ชายตรงหน้าอาจคิดว่าตัวเองเพอร์เฟคไปเสียทุกอย่างสมปริญญาเอก ในขณะที่เธอแค่เป็นคนอัธยาศัยดีพูดตรง...
“น่ากลัวค่ะ... ฉันไม่ลงเรียนแน่ ๆ อย่าโกรธกันนะคะอาจารย์ ฉันคงหนีไปลงตัวอื่น”
“วิชาเอกบังคับหนีไม่พ้นครับ ยังไงก็ต้องลง...”
เณศรากะพริบตาปริบ ๆ เผลอนึกถึงอาจารย์สมัยเรียน มีบางคนที่โหดแบบนี้แหละ
ถึงอาจารย์ฮอตเนิร์ดจะฮอตขนาดนี้ก็เถอะ! เข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมน้องเมย์เต็มใจยกให้
คิดพลางแค่นยิ้มอารมณ์ดี ตาสบตาร้อนแรงปานนั้นของอาจารย์หนุ่มค่อยทวงงานของตัวเอง
“เอ่อ... แล้วฉันเอารูปไปปริ้นใส่กรอบได้ไหมคะ? ต้องซื้อใบละเท่าไร ฉันผิดเงื่อนไขอะไรหรือเปล่าถ้าฉันสะสมไว้ ยังไงมันก็เป็นผลงานของอาจารย์”
“เอาไปเถอะครับ ไม่คิดเงินเพราะผมอยากกินเค้กมากกว่า ไว้ผมจะส่งรูปให้ทางไลน์ อืม... เค้กในงานอร่อยนะครับ รู้เลยว่าฝีมือใคร?”
“ไม่ขนาดนั้นมั้งคะ”
“ไม่สบายใจหรือเปล่าครับ?”
“ก็... คงจะกลับไวนิดนึงนะคะ เดี๋ยวไปแล้ว เกิดคุณปัดเขาโผล่มา ฉันไม่อยากมีปัญหา”
สารภาพตามตรงว่าไม่สบายใจนักทั้งที่เป็นร้านตัวเองแท้ ๆ หญิงสาวมีสีหน้าคร่ำเครียด มองออกไปทางฮอนด้าแจ๊ซสีขาวที่จอดอยู่บริเวณลานจอด อีกคนรู้ว่าเป็นรถยนต์ของเจ้าของร้านแต่เขากลับถาม
“กลับยังไงครับ?”
“ขับรถมาค่ะ”
“มีคนขับรถตามคุณบ้างหรือเปล่า? คุณปัถฐพลเขายอมเลิกเหรอ...”
“รู้ได้ไงคะ? อาจารย์... ฉันว่าไม่น่านะ...”
เสียงหวานสั่น ไรขนลุกชูชันไปทั่วแขน เณศราไม่เคยคิดว่าเธอจะถูกสะกดรอยตามจากอดีตแฟนหนุ่ม แต่ที่ผ่านมามีคนไปรับไปส่งเป็นประจำ ไม่ว่าเธอไปที่ไหนเขารู้… คราวนี้ใบหน้าหวานซีดเผือดมองไปรอบกายอย่างระแวดระวังก่อนจะได้ยิน
“กลับรถไฟฟ้าไหม?”
“ก็... ดีนะคะ... แต่ว่าไม่ได้นั่งนานแล้วนะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ไงฉันจะลองเปิดแผนที่ดู”
นั่นเป็นการขีดเส้นความสัมพันธ์อย่างชัดเจน! ป้องเกียรติไม่เข้าใจว่าเธอจะเล่นตัวไปไหนหรือว่าเธอไม่รู้ตัวจริง ๆ ในเมื่อหน้าตาใสซื่อยิ้มหวานบอกว่าเธอไม่ได้รังเกียจเขา
“วาดรูป... บนรถไฟฟ้าก็วิวสวยดีนะครับ”
“ได้หรือคะ?”
“ครับ”
“ฉันขอไปเอากระเป๋าแป้บนะคะ อาจารย์จะกลับหรือยังคะ?”
“ครับ วันนี้มีสอนแค่คาบเช้า”
พอลุกพรวดจากเก้าอี้อย่างดีอกดีใจที่จะมีคนนำทางสอนเธอขึ้นรถไฟฟ้าอีกรอบ หลังเลิกใช้บริการมันมาหลายปี จู่ ๆ เธอกลับกระแทกนั่งลงอย่างลืมกิริยามารยาท ชนหัวคิ้วเข้าหากันเป็นเส้นตรง
“ขอโทษนะคะ พอดีว่าฉันได้ยินเรื่องบางอย่างมาจากน้อง ๆ ถ้าฉันจะเสียมารยาทถาม... คือ... อาจารย์ไม่ได้... จะจีบฉันใช่ไหมคะ?”
“ครับ...?” อาจารย์หนุ่มเลิกคิ้วขึ้นพร้อมคำถามเต็มวงหน้าหล่อเหลา ทว่าพอเขาเห็นคนทำหน้างงกว่า
“คือ... ฉันอยากรู้... ค่ะ”
อาจารย์ผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ “คุณคิดว่ายังไงล่ะครับ? ผมจบคอมฯ เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่ดอกเตอร์งานศิลป์ ไม่รับจ้างวาดรูปให้สาว ๆ ตอนนี้ยังไม่เปิดคอมมิชชั่นเพราะว่ากินเงินเดือนอาจารย์”
นี่แกโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ? ยัยเนยเอ๊ย! ไม่น่าถาม ไม่สมควรถามเป็นอย่างยิ่ง!
“ผมไม่เคยล่วงเกินคุณใช่ไหมครับ? ทำให้คุณรู้สึกอึดอัดใจตรงไหนหรือเปล่า คุณบอกว่าที่ตรงนี้ใครก็นั่งได้ ผมนั่งแทนเขามาหลายวันแล้วผมอยากนั่งต่อ...”
โธ่…!! อาจารย์ขา!!! อะไรจะขนาดนั้น! พูดในใจแต่หัวเราะแห้ง ๆ เธออายแทนคนพูดที่ไม่ได้อายเลย
“เอาเป็นว่าวันไหนไม่อยากให้นั่งบอกได้เลยนะครับ รับรองว่าผมจะไม่มากวนใจ...”
“ออค่ะ ตามสบายเลยนะคะอาจารย์ เอาที่สบายใจเลยค่ะ”
เณศราคงไม่กล้าขัดใจยังนึกเอ็นดูอาจารย์หนุ่มรูปหล่อที่เอาแต่ทำหน้าตายใส่ ยังอุตส่าห์บอกอย่างอ้อมโลกสุด ๆ เนี่ยนะว่าจีบ!
รถไฟฟ้าสายชานเมืองมองเห็นทิวทัศน์ย่านกรุงเก่าในมุมสูง แม่น้ำทอดยาวสลับต้นไม้สีเขียวชอุ่มและวัดวาอารามทำให้เมืองเล็ก ๆ ยิ่งสวย ที่สำคัญคือฟรี! ตลอดช่วงวันหยุดยาวนี้ เณศราเพิ่งรู้จากคนที่ใช้บริการบ่อยกว่า เธอยืนพิงกำแพงด้านในสุดของตู้โดยสาร ตามองออกนอกหน้าไปพร้อมความคิดหลายอย่างตัวเธอไม่อยากเปิดประตูใจต้อนรับใคร แต่อาจารย์ป้องเป็นผู้ชายที่...น่าค้นหา...หน้าโหด! แต่มีแรงดึงดูดแต่หัวจรดเท้าเลยก็ว่าได้“อาจารย์ยังไม่มีแฟนหรือคะ?”“มีคงไม่มายืนตรงนี้ ผมยังไม่แต่งงานเหมือนคุณสองคนนั้นนะครับ อ้อ... ได้ยินมาว่าเขาเรียนคณะเดียวกันนะ”อีกนัยหนึ่งที่เขากำลังจะบอกคือปัถฐพลอาจคุยกับสาวอีกคนระหว่างคุยกับเจ้าของร้านเบเกอรี่ด้วยหรือเปล่า“เรียนคนละปีแต่ว่าเขาเจอกันที่งานเลี้ยงรุ่นมั้งคะ คบกันมานานตั้งแต่สมัยเรียน รักแรกพบอะไรสักอย่าง ฉันก็ดูมาจากคลิปวิดีโอในงานแต่งนะเรื่องนี้ไม่รู้จริง ๆ พี่ปัดเขาไม่เคยเล่าให้ฟังเลยค่ะ”“คุณเนยเป็นรุ่นน้องคนละคณะนี่ ทำไมไปเจอกันได้ล่ะครับ?”“เพื่อนฉันเป็นน้องสาวของเขาค่ะ ชื่อวิ... แต่คนละวินะคะคนนี้ปวิมล ทีแรกวิเรียนคหกรรมห้องเดียวกันก่อนย้ายไปคณะบริหารน่ะค่ะ เลยได
หยอดอีกจีบเก่งไปอีกค่ะอาจารย์! ว่าในใจพลางยกมือขึ้นจับผมสะบัดไปข้างหลัง อีกคนก็ช่วยจัดการปอยผมเป็นลอนสวยขึ้นวางพักบนบ่าอย่างนำเสนอตัวเต็มที่ แม้ว่าเธอจะบอกว่าไม่เป็นไร เขากลับยิ้ม...ไม่ค่อยจะได้เห็นอาจารย์ป้องยิ้มแต่เห็นได้บ่อย ๆ เวลาอยู่กับเจ้าของร้านเบเกอรี่หน้ามหา’ลัย“ก็ได้ค่ะ... คุณป้อง เรียกคุณก็คุณทำไมเป็นคนช่างเซ้าซี้จังเลยคะ”“แต่ผมเรียกน้องเนยเพราะว่าผมอายุห่างจากเนยเยอะ ดีไหม?”“ตามใจเลยค่ะ เอาที่สบายใจ”“ถ้าตามใจก็เรียกพี่ป้องนะครับ พี่แก่กว่าน้องเกือบรอบได้มั้ง” ลื่นเป็นปลาไหล! ป้องเกียรติเห็นแก้มแดง ๆ นึกอยากหยิกแต่เขาคงต้องรีบทำคะแนนก่อน“ไม่น่าถึงมั้งคะ”“พี่ย่างเข้าสามสิบหกปีนี้ครับ เนยล่ะ? ไม่น่าถึงสามสิบยังไงก็เด็กกว่าเยอะ จะมาเรียกรุ่นพี่ว่าคุณได้ไง...”เณศราแสนกระดากอายหลังโดนรุกหนัก จากคนที่มีความสามารถต้อนเธอจนมุมทุกครั้ง แต่คงไม่ได้พูดคุยกันต่อพอได้ยินสัญญาณเตือนถึงสถานี มือคว้าสายกระเป๋าหนังของคนข้างหน้าไว้ด้วยกลัวหลงกัน ขณะฝ่าฝูงชนบนทางเดินระหว่างชานชาลารถไฟฟ้าครั้นจะจับแขนชายเสื้อผู้ชายตัวโตก็เกรงว่ามันจะไม่งาม แต่เมื่อเขาหันหลังกลับมาคว้ามือของเธอฉับไวเพ
พออีกคนทำหัวเราะชอบใจถ้าหากว่าเธอจะพาเขาไปตัดแว่นใหม่ เณศราก็ทำงอนใส่ เธอบอกให้เขารอแล้วหายเข้าร้านไปหยิบกระเป๋าหนังสีขาวสะพายพาดบ่า ปิดประตูร้านเรียบร้อย พาผู้ชายตัวโตที่กางร่มให้ขึ้นรถไปด้วยกัน“แปลกดีเหมือนกันนะคะ อาจารย์มหา'ลัยนี้”“พี่มาเรียกร้องความสนใจหลายครั้งแล้ว ทำไมเจ้าของร้านไม่สนใจลูกค้าเลย” อาจารย์หนุ่มคาดเข็มขัดนิรภัย ด้วยความรู้สึกดีใจที่เธอไว้ใจเขามากขึ้นในแต่ละวันแม้ว่าเธอยังมีระยะห่างกั้นกลางไว้ไม่ให้ใครข้าม เขากลับไม่รู้สึกหวั่นกลัวการขีดเส้นของเธอเลย“จะไปส่งให้ถึงที่เลยนะคะ คิดเสียว่าฉันเป็นแท็กซี่ละกันเนอะ ลูกค้ากิตติมศักดิ์คนนี้น่ะ แต่เลิกเหน็บแนมได้แล้วนะคะ ปกติฉันไม่ให้คนแปลกหน้าขึ้นรถ กลัวเหมือนกันค่ะ”“กลัวไว้บ้างก็ดีครับ เป็นคนสวยต้องระวังตัวมาก ๆ นะครับ แต่ไม่ต้องระวังกับอาจารย์ป้องนะ ปลอดภัยแน่นอน”มือเรียวจับพวงมาลัย มองคนข้างกายแล้วกลับยิ้มออกมา เณศราอดไม่ได้ที่จะนึกถึงปัถฐพลแม้รู้สถานะตัวเองดีว่าเป็นคนอื่นไปแล้ว เธอไม่ตอบไลน์และการติดต่อทุกช่องทางเพื่อตัดปัญหา ขณะที่กิจวัตรประจำวันยังเหมือนเดิม ตื่นเช้ามาอบเค้กเลิกงานปิดร้านกลับบ้าน“พี่อยู่คอนโดฯ ข้
เจ้าของร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีกรมท่าเลื่อนมือขึ้นจับเข็มขัดหนังเหนือกางเกงสแล็ค จัดแจงตัวเองให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย เสยผมชี้ฟูให้เรียบลงด้วยเจลใส เปลี่ยนจากแว่นกรอบหนาเป็นคอนแทคเลนส์ ค่อยปิดประตูไม้สลักสลายสวยลงเบา ๆ“คุณป้อง... จะทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ไหมคะ? ป้าจะได้เตรียมสำรับอีกที่หนึ่ง” เสียงแม่บ้านสาวใหญ่เรียกชายหนุ่มที่กำลังรีบร้อนลงบันไดให้หันหลังมองขวับ“ไม่ครับไม่กิน ผมจะไปนั่งกินหน้ามหา’ลัย ป้าติ๋วไม่ต้องเตรียมเผื่อนะวันนี้ไปแล้วไม่กลับ... ยาวครับ...”นั่นหมายความว่าคงไม่มีใครได้เห็นหน้าเขาไปสักพักใหญ่ ๆ ซึ่งนับเป็นเรื่องธรรมดา หลังซื้อคอนโดฯ ใกล้มหา’ลัยแล้วไม่มีใครเคยเห็นหน้าค่าตาลูกชายคนโตบ้านเจ้าสัวบูรพากรณ์ ที่กลับมาเหยียบบ้านปีละสองถึงสามครั้งคฤหาสน์หลังงามพื้นที่ถึงหกไร่ ก่อนจะออกไปต้องผ่านห้องรับแขกกว้างขวาง ตกแต่งด้วยโทนขาวเรียบง่ายทว่าอลังการด้วยโคมไฟระย้า โซฟาหลุยส์และเครื่องเงินในตู้กระจก งานอวดฐานะความร่ำรวยของเจ้าของบ้านป้องเกียรติกระชับกระเป๋าหนังสีน้ำตาลเข้มสำหรับใส่เอกสารการสอนของเขาแนบกาย เหยียบย่องผ่านพื้นพรมด้วยถุงเท้าสีขาว ด้วยความที่เขาขี้เกียจต่อปากต่อคำ
เณศราค่อนข้างถูกชะตาอาจารย์หนุ่ม เธอสนิทสนมกับเขามากขึ้นในทุกวัน บทสนทนาของเธอและเขามักเป็นไปอย่างธรรมชาติ เขาแวะมาหาเธอพานั่งรถไฟฟ้านั่งเรือบ่อย ๆ มาวาดรูปให้ในสวนด้านหลังร้าน ทานขนมเค้กที่เธอทำทุกเมนูแม้แต่โกโก้ สตรอว์เบอร์รีปั่นที่เขาไม่ชอบนักเพราะเป็นคนชอบกาแฟดำขม ๆ มากกว่า เธอรู้ว่าเขาก็แค่พยายามเอาใจเธอไม่ว่าอะไรที่ขอให้ลองชิมหน่อย ในร้านเบเกอรี่ซึ่งเคยปกคลุมด้วยหมอกทะมึนจึงมีสีสันสดใสขึ้นมาสำหรับเธอแล้วอาจารย์ป้องเป็นหนุ่มค่อนข้างนิสัยดีคนหนึ่ง ยังเป็นที่หมายปองของสาวน้อยใหญ่ ซึ่งเธอคิดว่าหากนิ่งนานไปรถไฟขบวนสุดท้ายคงได้มีชวด!แต่การพูดคุยกันไปก่อนน่าจะดีกว่า เธอคงไม่อยากก้าวพลาดอีกซ้ำสอง“เป็นเพื่อน... รุ่นพี่อะไรประมาณนั้น เป็นลูกค้าที่ชอบมานั่งกินเค้กไม่มีอะไรนี่”“ปากบอกไม่สนิทแต่นับพี่น้องแล้วให้ตายเถอะนังเนย ได้ยินน้องพลอยบอกว่าตี๋เนิร์ดหล่อมาก กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ตกลงว่ากิ๊กใหม่แกใช่ไหมยะ”กิ๊ก! คราวนี้เป็นเธอตกใจจนสำลักน้ำจากแก้วชา วางมันลงเบา ๆ บนโต๊ะกระจกแล้วเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดขอบปากด้วยท่าทางสมเป็นกุลสตรี“แกจะมาเซ้าซี้ฉันทำไมเนี่ย? ยัยวิ... ตัวแกเหอะวัน
“กินข้าวมายังครับ?”“ยังค่ะ”“อยากกินอะไร... ง่าย ๆ ไหม?”“ได้เลยค่ะ ฉันทานอะไรก็ได้ เบื่อร้านหรูหรา ถ้านาน ๆ ทีพอไหวไปทานได้ แต่...” เงียบไปครู่ เหมือนคนขาดความมั่นใจไปขณะหนึ่ง ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น“แต่...?”“คือ... พ่อแม่ฉันบอกเสมอว่าไม่ควรอยู่กับผู้ชายสองต่อสองถ้ายังไม่แต่งงาน ฉันทานข้าวเสร็จแล้วขอกลับเลยนะ”แม่คนหัวโบราณ! นี่มันยุคไหนแล้วครับ อาจารย์หนุ่มกลอกตามาไปมา ก่อนที่เขาจะกระตุกยิ้มเบา ๆ“งั้นอาหารตามสั่งนะครับ ร้านข้างล่างตึกนี้ทำกับข้าวอร่อยมาก”“อะไรก็ได้ค่ะ”“อะไรก็ได้ไม่มี”“กะเพรา... ก็ได้ค่ะ”“กะเพราไก่ไข่ดาวแล้วกันนะครับ” บอกแล้วเขายกโทรศัพท์แนบหูโทรสั่งอาหาร ป้องเกียรติเห็นบางคนนั่งกำมือไว้บนหน้าตักตัวเกร็ง ไม่รู้ว่ากลัวอะไร เขาเกือบจะหัวเราะออกมา ทว่ายังรักษาน้ำใจกันเลยซ่อนรอยยิ้มไว้ตรงมุมปากอย่างนึกเอ็นดู พูดคุยกับเธอเหมือนปกติทุกวันจนได้ยินเสียงกริ่งดังอาหารกล่องและน้ำส้มมาส่งในถุงพลาสติก เจ้าของห้องถือถุงหิ้วเดินนำเธอไปทางโต๊ะรับประทานอาหารโต๊ะกระจกสีดำตัวยาวติดริมกระจกบานใหญ่มองเห็นแม่น้ำสายยาวไหลผ่านทิวทัศน์เมืองกรุงเทพฯ ภาพสีน้ำมันบนฝาหนังเข้ากันกับผนังสีข
“อะไรอีกคะ?”“ไม่อยากล้างจานเสร็จเลย อยากยืนตรงนี้นาน ๆ”“ผู้ชายคงเหมือนกันหมด เห็นผู้หญิงเป็นดอกไม้ริมทางหรือเปล่า เลิกมาหลอกกอดหลอกจับมือเนยซะทีค่ะ เนยจะไม่อ่อนหวานแล้วนะ”“เนยทำร้ายพี่ได้เลย ตบตีขัดขืนไปเถอะ แต่พี่ไม่อยากไป... เลิกเข้าใกล้เนยไม่ได้แล้ว...”ทั้งน้ำเสียงและแววตาจริงจังผิดจากคนเมื่อสักครู่ทำให้คนในพันธนาการเบือนหน้าหนีไปอีกทาง พอเธอทำลอยหน้าลอยตาไม่ตอบ ไม่วายที่เขาจะเหน็บแนม“น้องเนยครับ... อาจารย์ตามจีบมาเป็นเดือน ๆ แล้วนะ จะต้องตามจีบอีกกี่ปี?”“ก็... ไม่รู้”ก็รู้นั่นแหละ! แต่ที่เณศราไม่รู้คือทำไมอาจารย์ถึงได้ทำตัวเป็นหนุ่มขี้อ้อนที่แสนน่ารำคาญเหลือเกิน“พี่ทำให้เนยลืมเขาได้นะ...”ที่มีคนพูดขึ้นมาก็น่าสนใจ เณศรากลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จานสองใบในอ่างกลายเป็นว่าเขาเป็นคนล้าง ผู้ชายตัวโตค่อยเดินไปหยิบเสื้อนอนมาให้พร้อมผ้าขนหนูสีชมพูอ่อน“อาบก่อนเลยนะ แชมพูสบู่พี่ใช้ได้หมด” พูดอย่างเป็นกันเองให้คนตัวเล็กเลิกสั่นเกร็งจากพันธนาการหลวม ๆ เมื่อสักครู่นี้ เขาจับจ้องใบหน้าหวานงามด้วยแววตาอบอุ่นอ่อนโยน พูดจาหว่านล้อมจนเธอเลิกต่อต้านหัวใจเณศราตอบ ‘ค่ะ’ แค่นั้นแล้วเข้าห้องน้ำไป
คนได้ยินยิ้มประชด เพราะเหตุผลของเขามันฟังไม่ขึ้น! “ไม่ต้องมาทำนอกเรื่องค่ะอาจารย์”“ไม่นอกเรื่องก็ได้ครับ เมื่อคืนนี้พี่อุ้มเนยมานอนที่เตียง เนยมากอดพี่เอง ซุกเอา ๆ เห็นว่าหลับสบายอยู่เลยไม่อยากปลุก”เณศราหน้าเจื่อนไปหากว่าเธอเป็นฝ่ายผิด ถึงมันจะไม่มีอะไรการันตีว่าเขาไม่ได้โกหก แต่ป้องเกียรติไม่ใช่คนแบบนั้นตาคมสำรวจเชิ้ตนอนลายขวางตีตารางสลับลาย ลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างหิวกระหาย ก่อนจะพูดโพล่งออกไป“ขอจูบเนยได้ไหม?”คนตัวเล็กเบิกตากว้างตะลึง “คะ...?”“พี่... อยากจูบเนย คือเนยไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม? เรื่องปัด...”“หมายความว่าไงคะ? เนยไม่เข้าใจ” เธอย่นคิ้วเข้าหากัน ในอ้อมแขนของคนที่พยายามบอกอย่างใจเย็นและเข้าใจ“พี่กลัวเนยไม่สบายใจเรื่องผู้ชายคนก่อน แต่พี่ไม่ใช่เขา พี่ไม่เหมือนใคร พี่ดีใจที่เนยยอมรับความรู้สึกของพี่นะ”“ใครบอก... อุ๊ย!” อุทานทันทีที่ถูกฉกหอมฟอดใหญ่ มือเรียวยกขึ้นลูบหน้าแรง“ชักเอาใหญ่แล้วนะคะ เนยไม่ได้บอกว่าจะคบด้วยค่ะ แค่ยอมให้นอนตักให้จับมือเพราะสงสารหรอก พี่มากอดเนยก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วย เนยหลับค่ะ คนอะไรชอบคิดเองเออเอง...”“เปล่าคิดเองเออเอง เนยต่างหากที่ชอบหลอกตัวเอง...
งานหมั้นเช้าแต่งเย็นดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ด้วยความที่บ่าวสาวไม่ได้มีญาติเยอะ มีแขกมาร่วมงานไม่ถึงห้าสิบคน รวมเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนอีกไม่กี่คน เรียกได้ว่าเป็นงานผูกข้อมือเล็ก ๆ ไม่ใช่งานแต่งเอิกเกริกซุ้มประตูดอกไม้ เพลงรักยอดฮิตในยุค 70s เคล้าคลอไปกับเสียงคลื่นลมของรีสอร์ตริมทะเล แม้แต่อาหารและสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กก้อนโตยังตามใจคู่บ่าวสาว เดรสลายลูกไม้ชายลากยาวบนผืนทรายเข้ารูปทรงสมส่วน เสื้อสีขาวสะอาดคอลึกผ่าหลังเผยให้เห็นผิวขาวสวยทำเจ้าบ่าวตากระตุกน้อย ๆ ทว่าอาจารย์หนุ่มก็ลืมมันไปได้ เมื่อวันนี้เป็นวันสำคัญวันที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะสวยที่สุดในชีวิตใบหน้าหวานงามแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนใต้รอยยิ้มเอียงอายที่มีให้ชายเพียงคนเดียว หน้าท้องเนินนูนเพียงเล็กน้อยคงไม่มีใครสังเกตเห็น ป้องเกียรติกำลังพึงพอใจกับบรรยากาศนี้ ขณะที่เธอบอกกับทุกคนผ่านไมโครโฟนว่ามากันสามคน พ่อแม่ลูก “เธอเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด เป็นคุณแม่ที่ผมรักที่สุด ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมอวยพรให้ผมกับเนยนะครับ”เสียงปรบมือดังในลานกว้าง เธอสวย... ขนาดที่เขาละวางตาไปไม่ได้เสียเลย เขาจับจูงมือเธอไปบอกลาทุกคนหลังงานเลี้ยงสิ้นสุดลงญาติทา
เหตุการณ์สะเทือนขวัญยังหลอกหลอนยามหลับฝัน บางคืนเธอยังสะดุ้งตื่นกลางดึกด้วยความหวาดกลัว ทว่าพอพบสบตาคม อ้อมแขนอุ่นกลิ่นหอมสะอาด กลับแน่ใจถึงความปลอดภัยว่าไม่มีใครมาทำร้ายเธอได้ “พี่ป้อง... ตัวหอมจังค่ะ ตัวพี่อุ่นมาก เนยนอนหลับสบายจัง” “เนยก็หอมครับ ทำพี่หลับไม่สบายสักวันถ้าไม่ได้อึ้บเมีย” เงียบไป ใต้รอยยิ้มกรุ้มกริ่ม มือหนาลูบศีรษะน้อย ลากวนเข้าไปในเส้นผมสีน้ำตาลสลวยอย่างย่ามใจ ในความเงียบงันของห้องอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ ต่างคนไร้เสื้อผ้าแม้สักชิ้นห่อหุ้มกาย คลุมไว้ด้วยผ้านวมหนาในอ้อมกอดกัน เป็นเรื่องปกติที่เธอจะปรารถนาในตัวเขามากขึ้นทุกวัน ยิ่งเป็นคุณแม่ท้องอ่อนฮอร์โมนทำร้าย “เนยต้องพักผ่อนนะ เดี๋ยวลูกไม่โตทำไง” “โตซี พี่ฉีดสารเร่งโตให้ทุกวัน” คนทะลึ่งก็อย่างนั้น เขาก้มหน้าลงประทับจุมพิตบนขมับเนียน ผุดรอยยิ้มกว้างหวานเต็มวงหน้าใต้โคมไฟสลัว “เอ... ตัวเล็ก... ผู้หญิงหรือผู้ชายนะ?” “จะรู้ไหมคะ? คงเป็น... ผู้ชายมั้ง...” “พี่อยากให้ชื่อฟ่อน เงินฟ่อน ชิฟฟ่อน ชื่อเล่นนะเจ้าลูกฟ่อน... ถ้า
เพราะมีคนเผลอทำตัวเปิ่น ๆ ในโรงพยาบาล ส่งเสียงดังลั่นห้องฉุกเฉินให้คุณพยาบาลหัวเราะกันยกใหญ่ แต่ก็เข้ามาแสดงความยินดีพร้อมผลตรวจของคุณหมอ เซ็นอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านอย่างสบายใจ เณศราไม่รู้เอาหน้าไปไว้ที่ไหน เธอดีใจที่จะได้เป็นคุณแม่ มีลูกน่ารัก ๆ สักคนกับว่าที่สามีไม่สนเรื่องแต่งก่อนแต่งหลังหรอก ในขณะที่ยังมีเรื่องไม่สบายใจพอได้ยินบางคนโทรไปด่าน้องสาวยกใหญ่ ผ่านลำโพงในรถยนต์ สายประชุมครบพ่อแม่พี่น้อง แม้แต่พ่อแม่ของเธอเองเขาโทรบอกให้ทุกคนรับทราบวีรกรรมของคนคนเดียว ที่ไม่สมควรได้รับการให้อภัย“ก็ให้ท้ายกันไงครับถึงได้โตมาสันดานแบบนี้ ผมไม่ยอมแล้วผมจะไม่ถอนฟ้องแทนเมีย ไม่รับค่าเสียหาย ให้อีสองคนนั้นไปนอนคุกอย่างเดียว อย่าคิดว่ามีเงินแล้วทำได้ทุกอย่าง ผมมีเพื่อนเป็นทนาย นักโซเชียลเยอะเหมือนกัน ดี... จะได้เอาปี๊บคลุมหัวกันให้หมดทั้งบ้านเวลาออกไปข้างนอก ขอให้หุ้นตก บริษัทฉิบหายย่อยยับนะครับ”เป็นชุด! มากกว่านี้ยังมีเรื่องของหุ้นส่วน เงินหมกเม็ด ภาษีที่จ่ายไม่ครบ คนขุดได้ก็ขุดมาทั้งเรื่องและเขาพร้อมจะแฉทุกอย่างให้พินาศย่อยยับ จนคุณพ่อขอไกล่เกลี่ยยอมขอว่าเขาอยากได้อะไร คนปากหนัก
ห้องเงียบเชียบให้ความรู้สึกเงียบเหงากว่าทุกวัน อาจารย์หนุ่มรออาหารมื้อเย็นจากแม่ครัวที่ยังไม่กลับบ้านสักที แต่งตัวเรียบร้อยด้วยเชิ้ตสีดำสนิทอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเครื่องใหญ่ งานสอนก็ค่อนข้างยุ่ง ต้องตรวจงานนักศึกษาไปด้วยระหว่างอธิบายการเขียนคำสั่งคอมพิวเตอร์ หลายอย่างวนเวียนในหัว ขมวดคิ้วมุ่นตั้งใจทำงานตลอดเวลาหลายคนในคลาสตั้งใจเรียนผิดปกติจนหมดชั่วโมงเรียน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กแสบ ทำขยิบตาผ่านกล้องเหมือนมีปัญหาสักอย่างแต่ไม่กล้าพูด ส่งเป็นข้อความมาบอกแทน...‘She’s in Danger!’บอกใบ้มาเป็นภาษาอังกฤษให้ตีความอีกต่างหาก คนเป็นอาจารย์สงสัยอยู่พักหนึ่ง นึกหงุดหงิดคนส่งข้อความมาให้เป็นปริศนาคาใจ ก่อนตกใจเป็นอย่างมากแทบทำห้องเรียนล่ม เรื่องใหญ่กว่าคือคาบสอนนี้เป็นบันทึกเทปย้อนหลังซึ่งเขาไม่สามารถปิดโทรศัพท์กลางกลางคันได้เป็นโชคดีที่แก๊งนายเปี๊ยกดันออกจากห้องเรียนไปก่อน ส่วนคนสอนทำได้แต่นับเวลาถอยหลัง ภาวนาให้บันทึกการสอนจบเร็ว ๆ พูดจาติดขัดเพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัวป้องเกียรติพอคาดการณ์ได้ว่าเกิดเรื่องอะไร ด้วยความที่เขาคอยดูพฤติกรรมของอีกคนอยู่ตลอด เธอมีท่าทีแปลก ๆ เมื่อคืนนี้ ทำท่
ถ้าผัวฉันย่องไปหาแกที่ร้านอีกครั้งเดียว แกได้เจอฉันตัวเป็น ๆ แน่นังเนย เมมเบอร์นี้ไว้ด้วยนะเพราะฉันไม่เตือนใครเป็นครั้งที่สอง‘รวิตา’เณศราได้รับข้อความจากคนที่ไม่รู้ว่าเอาเบอร์ของเธอมาจากไหน เธอไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครจึงใจคอไม่ค่อยดี นอนพลิกไปพลิกมาบนท่อนแขนอุ่นที่หนุนนอนต่างหมอนทุกคืน หน้าตาครุ่นคิดด้วยความเป็นกังวล ตื่นมาแล้วออกไปทำธุระประปรัง เดินซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ กลับเข้าบ้านมาสติไม่อยู่กับเนื้อตัวนัก ขณะที่คนเก่าส่งข้อความมาบอกกับเธอแค่...‘พี่อยากคุยกับเนยนะ’ทั้งที่บอกชวนผ่านเพื่อนสาวเรื่องงานผูกข้อมือมะรืนนี้ ประเด็นอื่นขอไม่พูดคุยกันอีก แปลกที่คนมีเหตุผลเป็นนักธุรกิจ เป็นลูกชายที่ดีของบ้านมาโดยตลอดกลับไม่พยายามเข้าใจเสียเลยจะอย่างไร เธอก็มีไม้กันหมาที่ดี ติดกว่าคนนี้ไม่มีแล้วในชุดคลุมอาบน้ำบนร่างกำยำส่งกลิ่นหอมอ่อน ลอยผ่านจมูกไป อาจารย์หนุ่มหุ่นล่ำคอยเดินยั่วยวน อวดสรีระเรือนกายของเขาที่อุตสาหะทำมาอย่างยากลำบาก บริโภคอกไก่ปั่นด้วยท่าทางกล้ำกลืนฝืนทน ซึ่งคนอยู่ด้วยกันยังไม่รู้ว่าเขาจะทำมันไปเพื่ออะไร ในเมื่อเธอยังไงก็รักเขาหมดใจไปแล้วอ้วนพุงพลุ้ย ก็ยังรัก หัวล้านแก
คนอยู่ด้วยกันทุกวันคงสังเกตเห็น เธอแค่ไม่รู้ว่าเขาจับอะไรตลอดเวลา“เนยต้องใส่ไว้ก่อนนะ คนเขาจะได้รู้ว่ามีเจ้าของแล้ว พี่ไม่ชอบเวลาใครมองเนย พี่หวง...”“แต่เนยชอบค่ะ เวลาพี่ป้องทำตาเขียว ๆ น่ะ”“ชอบโดนจัดหนักด้วยใช่ไหม?”“ไม่รู้ค่ะ...” เสียงหัวเราะคิกคักดัง หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรง เมื่อเขาบรรจงสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้าย ชักชวนให้ดูลอยสลักบริเวณรอบตัวแหวนN & P ดูจะเป็นไอเท็มคู่รักแนวแฟชั่นมากกว่าแหวนเพชรเม็ดโตในงานแต่งอลังการ ที่เคยเห็นบ่าวสาวสวมให้กัน“ขอบคุณนะคะพี่ป้อง... เนยจะรักษามันให้ดีทั้งสองชิ้นนี้ สร้อยกับแหวนของพี่... ชอบมากเลยค่ะ”เธอชอบมันที่สุด... ชอบผู้ชายคนนี้ที่สุดเณศราเม้มปิดริมฝีปากของเธอสนิทแน่น หยดน้ำใสเอ่อคลออย่างอดกลั้นไม่ไหว ก่อนที่ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทจะโน้มตัวลงหาเธอเชื่องช้า ประกบเรียวปากอิ่มงามแผ่วเบาแล้วผละออกประทับจุมพิตบนขมับเนียน“พี่รักเนยนะ”คนมีความรักมักหน้าเด็กทุกคน มองอะไรก็เป็นสีชมพู เห็นจะจริงกล่องข้าวน่ารักในแต่ละวันของเณศราประดิดประดอยด้วยผักหลากสีสัน เธอใช้ตราปั๊มลายตุ๊กตาในการทำอาหารเช่นข้าวญี่ปุ่นหุงร้อนเป็นหมีน้อย ห่มคลุมด้วยไข่เจียว ราดน้ำซอส
ป้องเกียรติไม่ทำให้คนตัวเล็กผิดหวัง แม้แต่ช้อนตัวเบา ๆ เข้าออกช่องทางอ่อนนุ่มที่โอบรัดแก่นกาย มันกลืนกินตัวตนของเขาได้ดีเยี่ยมไม่ต่างจากว่าเป็นครั้งแรกของกันและกันบางครั้งก็ดิบเถื่อน! เมื่อร่างกายได้รับการเติมเต็มหลังห่างหายกันไปไม่กี่วัน แต่ยังคงอ่อนหวาน สอดประสานหลังมือเรียวที่จิกกำแน่น หลังแอ่นก้นรอรับความแข็งขึง ขยันขยับสะโพกสอบถี่ระรัว ปล่อยให้มังกรร้ายผลุบเข้าออกอย่างไม่ละวางจังหวะลง จะให้คนใต้ร่างได้หายใจหายคอยังไม่มีเณศราได้รับจุมพิตจากเขาที่ไม่เคยรู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย หน้าขาสั่นเทากระแทกกับขอบโต๊ะ หากว่าเธอทำท่าจะลุก คงถูกผลักลงให้นอนราบบนกินข้าว มือหนาปัดป่ายของกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทั้งถุงพลาสติก ขวดแม็กกี้ เขาไม่สน! ว่าอะไรจะหล่นเละเทะเหมือนคนอดอยากปากแห้งมาแรมปีแววตาคู่สวยเอ่อคลอหยดน้ำใส ช่องท้องวูบไหวตามเสียงเสียบสับของเนื้อกระทบกันพาอารมณ์ของเธอถึงขีดสุด ถึงว่าที่สามีจะดุดันป่าเถื่อนสักหน่อย เธอกลับนึกชอบพอในความเป็นตัวเขา สะโพกงามงอนจิกเกร็ง“พี่ป้องขา... เนยไม่ไหวค่ะ!”“ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย... ทำไมเสร็จไวจังครับ อืม... อูยส์ เนยรัดพี่แรงแบบนี้ไม่ดีนะ”คนพูดจาทะล
ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงเหมือนโกรธงอนกันสักเรื่องซึ่งเขารู้ จึงผละจากคนตัวเล็กไปคว้าผ้าเปียกหมาดบนเคาน์เตอร์ครัวมาโยนลงบนโต๊ะรับประทานอาหารอย่างเอาเรื่องเอาราว“เอาหน่อยสิ แต่ว่าต้องทำงานให้เนี้ยบกว่านี้นะ ทำไมเช็ดโต๊ะเช็ดครัวไม่สะอาด ยังมีคราบแม็กกี้เนี่ย...”“ไหนคะ?” ถามหน้ายุ่ง มือหยิบผ้าสีขาวได้ก็ส่ายคอมองตามปลายนิ้ว เพื่อหารอยคราบบนผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้น่ารัก เณศราซื้อมาคลุมโต๊ะให้เจ้าของห้องเองเพราะมันสามารถมองหาคราบเปื้อนได้ง่ายแต่ในเมื่อมันไม่มี...“ตรงนั้นไง เมื่อกี้พี่เช็ดไปแล้วเนยดู...”“ไม่เห็นมีเลย เนยว่าเนยเช็ดหมดแล้วนะ”“ก้มต่ำ ๆ ดูให้ดีครับ”ก้มต่ำ! เธอหันขวับมองคนข้างหลังทันที แต่พอจะอ้าปากต่อว่า ผู้ชายตัวโตคว้าหมับจับสันคอเธอกดลงบนโต๊ะไม่ต่างจากว่าเธอเป็นผู้ร้าย ปลายเท้าเรียวทั้งสองจิกลงบนพื้นพยายามเขย่งตัว หน้าอกอวบอัดและแก้มของเธอเบียดบี้ไปกับกระจกเย็นเฉียบ“พี่ป้อง... ทำอะไรคะ?”“ช่วยเมียเช็ดโต๊ะ ตรงนั้นไง...”“...”มือเรียวกำผ้าเปียกหมาดแน่นจนน้ำกระเซ็นเปื้อนบนโต๊ะอีกระลอก และก็คงจะไม่ได้เช็ด ทันทีที่แผ่นหลังบางเย็นวาบตามอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ เธอได้ยินเสียงปลดซิบไว ๆ
ฉีกยิ้มกว้างหวานให้เห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ คนขับหันไปมองรอยยิ้มที่ตกเขาได้ตั้งแต่แรกเห็นนั่นแหละ แต่ปากดันไม่ตรงกับใจยังทำหน้าแหยง“ไม่สวยเลยอี๋... วันหลังอย่าให้ชุดนี้อีกนะเดี๋ยวนี้อ้วนพุงออกอะครับ คนเขามองพุงรู้ไหมเขาไม่ได้มองเจ้าของร้านสวย สงสัยว่าทำไมอ้วนขึ้นต่างหาก”“ฮะ? เนยอ้วนเหรอ...” เณศราเริ่มก้มหน้าดูสรีระตัวเอง หน้าท้องของเธอคงไม่ได้ยื่นยาวขนาดเขาว่า แค่โผล่ออกมาเล็กน้อยหลังรับประทานอาหารตามธรรมชาติคนทั่วไปแค่นั้น แต่นั่นก็ทำคนรักสวยรักงามเสียความมั่นใจสำเร็จ“เมื่อก่อนผอมกว่านี้นะ น้ำหนักขึ้นหรือเปล่า?”“อืม... ใส่สเตรย์รัดหน้าท้องก็น่าจะได้นะ ชุดแบบพอง ๆ หน่อยคงไม่เห็นว่ามีพุงมากมาย”“ไม่เอาลายดอก”“ตัวอื่นก็ได้ค่ะ วุ่นวายกับเสื้อผ้าเนยจริงนะ” ว่าตาขวาง เมื่อมาถึงจุดหมายในอีกไม่นานลานจอดรถโล่งเงียบในช่วงหัวค่ำ ชั้นใต้ดินไม่มีรถจอดมากนัก คนขับก็เลือกทำเลได้ดีห่างจากลิฟต์ไปเล็กน้อย นัยน์ตาคู่คมใต้แว่นกรอบหนาประกายวูบวาบพาไรขนลุกชูชัน เธอกำมือทั้งสองบนหน้าตักอย่างเกร็ง ๆ เพราะว่าเขาไม่ปลดล็อกประตูรถยังไม่ดับเครื่องยนต์“พี่ป้อง... จะทำอะไรคะ?”“ทำอะไรก็ได้ครับไม่มีคนหรอก... ท