Share

ตอนที่ 16.  ลืมตัว

            จางเค่อเข้าใจในอารมณ์ขอผู้เป็นนายดี เพราะตลอดสองปีที่ท่านแม่ทัพออกสู่ชายแดน นายหญิงของเขาต้องรับมือกับครอบครัวบิดาของนาง แล้วไหนจะผู้ที่คิดจะทำลายท่านแม่ทัพ ก็คอยจ้องเล่นงานผู้เป็นนายของเขามิเว้นวัน

            จ้าวหลิวหลี ลุกขึ้นก่อนจะค้อมหัวเล็กน้อยให้แก่จางเค่อ สำหรับนางแล้วหากไร้ชายผู้นี้คอยเป็นดั่งแขนขา คงไม่อาจยืนอยู่ตรงนี้ได้ แม้จะมีเงินหากไร้ความเคารพต่อผู้อื่น

            ก็มิอาจที่จะซื้อใจผู้ใดได้เลย นางใช้ใจแลกกับความภักดี นางมองทุกคนเสมือนพี่น้อง สิ่งนี้ทำให้ทุกคนในหลีเค่ออยู่ภายใต้อำนาจของนางโดยมิต้องบีบบังคับ

            เมื่อออกมายังห้องชั้นนอกแล้ว เสี่ยวเชี่ยนได้เรียกคนของร้านมายกพับผ้าที่นางเลือก เพื่อนำไปส่งยังจวนหลี่ สองนายบ่าวออกจากร้านเดินไปยังรถม้าที่เจาหยางรออยู่อย่างใจเย็น

            “ท่านลุงเจา เราไปนั่งกินขนมใกล้หน้าประตูวังกันดีกว่านะ ข้าจำได้ว่ามีร้านหนึ่งอร่อยมากเลย”

            “ได้ขอรับ”

            เจาหยางไม่คิดที่จะถามอะไรให้มากความ แค่นายหญิงของบ้านพยายามที่จะหาหนทางรอผู้เป็นนายของเขานั้น ย่อมต้องมีเรื่องสำคัญเป็นแน่ ฮูหยินเข้าไปในหลีเค่อเพื่อซื้อผ้าจริงหรือไม่นั้น เขาเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะซักถาม

            ในวงสังคมชั้นสูงและเหล่าเศรษฐี ต่างรู้กันดีว่าหลีเค่อมิใช่แค่ร้านผ้าธรรมดา แต่คือร้านขายข่าวที่ดีที่สุด นายที่แท้จริงแห่งหลีเค่อนั้นถูกผู้เป็นใหญ่ทั้งหลายสืบหามานาน แต่จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีผู้ใดรู้ตัวตนแท้จริงของคนผู้นั้นเลย

            ใครที่ได้หลีเค่อเข้าพวก นับว่าได้กองกำลังที่แข็งแกร่งและรอบรู้เอาไว้ในมือ เขาคิดว่าวันนี้ฮูหยินคงมิได้ซื้อเพียงผ้าไม่กี่พับ คงเป็นอย่างอื่นด้วย มิเช่นนั้นคงไม่คิดที่จะไปรอรับท่านแม่ทัพถึงหน้าประตูวังเป็นแน่

            เวลาผ่านไปจนพระอาทิตย์ตก หลี่จ้านยังคงไม่กลับออกจากวังหลวง แม้จะร้อนใจแต่จ้าวหลิวหลียังคงสีหน้านิ่งเรียบไว้ได้เช่นเดิม ตามจริงแล้วสามีจะต้องกลับออกมาตั้งแต่บ่ายแล้ว

            แต่จนปานนี้เขายังไม่ออกมาเสียที หากมีงานเลี้ยงต้อนรับก็ต้องกลับออกมาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อน หญิงสาวพยายามที่จะสูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอด ก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยออกมาช้า ๆ เพื่อปรับอารมณ์ให้คงที่

            “เรียนฮูหยิน ท่านแม่ทัพออกมาแล้วขอรับ”

            เจาหยางรีบมารายงานหญิงสาว ก่อนจะรีบกลับไปยืนรอผู้เป็นนายที่กำลังเดินออกมา จ้าวหลิวหลียิ้มกว้างอย่างลืมตัว ก่อนจะก้าวลงจากรถม้าตรงไปหาสามี

            “ท่านพี่ไยจึงออกมาช้านักเล่าเจ้าคะ”

            “พอดีฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้ร่วมดื่มชายามบ่ายด้วย เจ้าเล่าไยจึงมาอยู่ที่นี่ได้ หิวหรือไม่กินอะไรรึยัง”

            แม่ทัพหนุ่มอิ่มเอมใจจนลืมไปว่านางและเขานั้น เปรียบดังสามีภรรยาแต่ในนาม จึงรัวคำถามไปเสียมากมาย

            “ยังเลยเจ้าค่ะ ข้ารอกินพร้อมท่านพี่”

            จ้าวหลิวหลีเลี่ยงที่จะตอบคำถามอื่น นางดึงเข้าเรื่องการกินแทนเสีย เพื่อให้สามีใส่ใจปากท้องของนางก่อน นางยังไม่อยากที่จะตอบคำถามอื่นใดในตอนนี้

            “เช่นนั้นเรารีบกลับจวนกันดีกว่า พี่เองก็หิวแล้วเช่นกัน”

            จ้าวหลิวหลีก้าวเคียงข้างสามีอย่างว่าง่าย มือหนาประคองเอวคอดเอาไว้ ก่อนจะส่งภรรยาขึ้นรถม้า โดยที่ตัวเขาติดตามขึ้นไปนั่งลงข้าง ๆ ทุกการกระทำของสองสามีภรรยา ได้ตกอยู่ภายใต้สายตาของใครหลายคน แต่ทั้งคู่หาได้ใส่ใจกับสายตาของผู้ใด

            เมื่อรถม้าเคลื่อนออกจากหน้าประตูวังมุ่งสู่จวนสกุลหลี่ ได้มีกลุ่มคนติดตามไปอย่างรวดเร็ว เจาหยางรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ จึงได้เร่งรถม้าให้เร็วขึ้นในช่วงจังหวะที่ต้องผ่านป่า

            เสี่ยวเชี่ยนที่นั่งอยู่ด้านข้างพ่อบ้าน กระชับกระบี่ที่วางอยู่ด้านหลังเอาไว้แน่น นางเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับผู้ที่กำลังติดตามมา

            “ฮูหยินเจ้าคะ”

            “ว่าอย่างไรเสี่ยวเชี่ยน”

            “จิ้งจอกออกหากินแล้วเจ้าค่ะ”

            “ไม่เป็นไร นิ่งเอาไว้เด็กดี คืนนี้ทุกอย่างจะเรียบร้อย”

            หลี่จ้านยกยิ้มมุมปาก เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเมื่อนางเสือได้ลงมือ จะเด็ดขาดได้ถึงเพียงนี้

            “เสี่ยวเชี่ยนก็โตมากแล้ว สมควรออกเรือนเจ้าเห็นเป็นเช่นไร”

            จ้าวหลิวหลีหัวเราะร่า เมื่อนึกตามที่สามีได้เอ่ยเย้าสาวใช้ของนาง ทางด้านเสี่ยวเชี่ยนนั้นได้ปฏิเสธเสียงหลง เมื่อได้ยินท่านแม่ทัพเอ่ย เจาหยางเองก็อดขำเอาไว้ไม่ได้เช่นกัน

            จากความกดดันในตอนแรก เวลานี้เสี่ยวเชี่ยนกำลังเว้าวอนมิให้นายหญิงของตนเห็นด้วยกับท่านแม่ทัพ นางไม่อยากออกเรือนกับผู้ใดนอกจากคนที่นางรัก

            “เสี่ยวเชี่ยนจะแต่งให้ผู้ใดได้เล่าเจ้าคะ ในเมื่อใจนางนั้นมีผู้จับจองแล้ว”

            “ใครกันถึงได้มาหลงรักเด็กแก่นกระโหลกเช่นนางได้”

            “ฮูหยิน! เสี่ยวเชี่ยนยังมิได้รักผู้ใดเลยนะเจ้าคะ”

            “ฮ่า ๆ”

            เสียงหัวเราะของทุกคนดังประสานกัน โดยไม่คิดใส่ใจกับเสียงการต่อสู้ที่อยูด้านหลังเลยแม้แต่น้อย จ้าวหลิวหลียกยิ้มมุมปากภายในความมืด คนเช่นเกาสงไม่คู่ควรที่จะให้มือนางต้องแปดเปื้อน

            ใช้เวลาเพียงไม่นานรถม้าได้จอดเทียบหน้าจวน หลี่จ้านก้าวลงจากรถม้า ก่อนจะยื่นมือไปให้ภรรยาจับเอาไว้เพื่อลงมาด้านล่าง ทุกการกระทำดูอ่อนโยน สร้างรอยยิ้มให้แก่บรรดาบ่าวไพร่ที่ออกมารอต้อนรับผู้เป็นนาย ทว่า...

            หมับ! หลี่จ้านคว้าข้อมือของใครบางคนเอาไว้ได้ทัน ก่อนจะกระทบใบหน้างามของภรรยา แม่ทัพหนุ่มมองอีกฝ่ายด้วยดวงตาแข็งกร้าว เขาไม่คิดที่จะหลบสายตาของผู้ประสงค์ร้ายต่อภรรยาเลยแม้แต่น้อย

            “เป็นเจ้าใช่ไหมที่สังหารลูกชายของข้า”

            เสียงหวีดร้องดังขึ้น จากด้านหลังของคนที่กำลังเผชิญหน้ากับแม่ทัพหนุ่ม หลี่จ้านมองดูมารดาเลี้ยงของภรรยาด้วยสายตารังเกียจ แสงไฟจากคบเพลิงหน้าจวน สะท้อนให้เห็นสีหน้าของชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน

            จ้าวอ๋องถึงกับผงะด้วยความตกใจ แต่ก็มิอาจถอยห่างบุตรเขยคนโตได้ เมื่อข้อมือของเขาถูกจับเอาไว้แน่น

            “ท่านพ่อตาและพระชายามีเรื่องอันใด ไยจึงคิดลงมือต่อภรรยาของข้าเช่นนี้”

            แม่ทัพหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบตึง บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่ได้ชื่นชอบการกระทำของทั้งคู่เท่าใดนัก

            “หลี่จ้าน นังหลิวหลีมันทำร้ายอี้เหมย เจ้าเป็นคนรักของอี้เหมยมาก่อน เจ้าต้องแก้แค้นให้อี้เหมยนะ”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status