Share

ตอนที่ 15. รู้ดีว่า

            จ้าวอ๋องรู้ดีว่าบุตรชายหญิงของตนนั้น ต้องการลมหายใจของจ้าวหลิวหลี แต่บุตรสาวอ่อนแอเช่นนางย่อมไม่มีทางทำอันตรายอันใดต่อลูก ๆ ของเขาได้ ยกเว้นหลี่จ้านที่อาจจ้างมือดีคอยปกป้องภรรยา

            “เพราะมัน...เพราะมันคนเดียวนังหลิวหลี เอาลูกข้าคืนมา ฮือ ๆ”

            จ้าวอ๋องกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น หัวใจของเขาบีบคั้นจนเกินจะรับได้ ทายาทเพียงคนเดียวต้องจบชีวิตลง บุตรสาวที่เปรียบดังแก้วตาดวงใจก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

            เห็นทีเรื่องนี้เขาคงต้องเลือกข้างให้ถูกเสียที ไม่ว่ามันผู้ใดที่แตะต้องครอบครัวของเขาในวันนี้ จะต้องชดใช้ให้แก่เขาอย่างสาสม

            ในมุมมืดร่างสูงของใครบางคน กำลังยืนมองเจ้าของจวนด้วยแววตาเฉยชา

            ‘ถึงขนาดนี้แล้ว ท่านยังมิรู้จักสำนึกอีกหรือท่านอ๋อง นี่สินะที่เขาว่าผู้ที่รักต่ำช้าเพียงใดก็รัก ผู้ที่ชังความดีนับหมื่นก็ชิงชัง’

            ร่างสูงหมุนกายจากไปอย่างเงียบ ๆ ภารกิจของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว แม้ว่าจะเป็นเรื่องขัดใจเขาอยู่บางกับการนำร่างของอ๋องน้อยมาส่งคืน แต่นี่คือความประสงค์ของผู้เป็นนาย เขาจึงมิอาจ

            เสียงร้องไห้ค่ำครวญอาจทำให้ผู้คนที่ไม่รู้ความจริงสงสาร แต่กับคนที่เพิ่งจากไปนั้น เขารู้สึกรังเกียจผู้ที่กำลังร่ำไห้ปานจะขาดใจอยู่ในตอนนี้ยิ่งนัก

ยามเช้าในวันถัดมา

            แม่ทัพหลี่จ้านได้เดินทางกลับเข้าเมืองหลวง โดยมีชาวเมืองออกไปเฝ้าดูพร้อมกล่าวคำชื่นชมจนแน่นขนัด จ้าวหลิวหลีที่นั่งอยู่ภายในรถม้าเพียงลำพัง คอยมองออกไปด้านนอกอยู่บ่อยครั้ง

            ความรู้สึกบางอย่างกำลังทำให้นางไม่ค่อยสงบ รถม้าของนางได้แยกออกจากขบวนทัพของสามี ที่กำลังมุ่งตรงไปวังวังหลวง เพื่อเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้เสียก่อน แล้วจึงจะกลับจวนในช่วงบ่าย

            “ประเดี๋ยวไปที่หลานผ้าหลีเค่อหน่อยนะ ข้าจะไปดูผ้ามาตัดชุดให้ท่านแม่ทัพ”

            จ้าวหลิวหลีเอ่ยกับเจาหยางที่มารับหน้าขับรถม้าให้แก่นาง หญิงสาวรู้สึกกังวลจนไม่อาจกลับไปนั่งรอสามียังจวนได้

            “ขอรับฮูหยิน”

            หลี่จ้านรู้สึกแปลกใจ เมื่อรถม้าของเขาที่ภรรยานั่งอยู่ แยกจากขบวนไปยังทิศทางที่มิใช่จวนหลี่ แต่เพราะตอนนี้เขาต้องเข้าเฝ้าจึงไม่อาจที่จะสอบถามหรือติดตามนางไปได้

            เมื่อถึงหน้าร้านผ้า จ้าวหลิวหลีพร้อมเสี่ยวเชี่ยน ได้เดินเข้าไปด้านในเพียงสองคน ส่วนเจาหยางจำต้องนำรถม้าไปจอดรอยังอีกฝั่งของถนน

            “หลีเค่อยินดีตอนรับหลี่ฮูหยิน”

            จ้าวหลิวหลีพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะแจ้งความประสงค์ที่จะเลือกผ้าในชั้นพิเศษของทางร้าน สองนายบ่าวก้าวตรงไปยังชั้นบน โดยมีคนของทางร้านนับพับผ้าชั้นดีจำนวนมากติดตามขึ้นไป

            เมื่อประตูห้องปิดลงหลังจากคนของทางร้าน วางพับผ้าชุดสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว เสี่ยวเชี่ยนรีบก้าวไปยังชั้นหนังสือด้านหลังห้อง ก่อนจะทำบางอย่างกับเชิงเทียน

            เพียงครู่เดียวชั้นหนังสือได้เลื่อนออก เผยให้เห็นอีกห้องในทันที จ้าวหลิวหลีได้เดินเข้าไปด้านใน โดยที่เสี่ยวเชี่ยนยังคงรั้งอยู่ภายในห้องด้านนอก

            “จางเค่อคารวะนายหญิง”

            จางเค่อรีบลุกขึ้นประสานมือให้แก่ผู้เป็นนาย ก่อนจะรีบจัดเตรียมชาให้แก่หญิงสาวที่ก้าวไปนั่งยังเก้าอี้ด้านใน

            “ไยข้ารู้สึกไม่ค่อยดีเลย ปกติแล้วข้ามิเคยเป็นแบบนี้มาก่อน”

            “นายหญิงมีสิ่งใดเป็นกังวลหรือขอรับ”

            “ข้าคิดว่าคนหลังกำแพง และเหล่าขุนนางกำลังจะเคลื่อนไหว และครั้งนี้จะรุกเพื่อหวังผล”

            “มิแปลกขอรับ เพราะตอนนี้ท่านแม่ทัพกลับถึงเมืองหลวงแล้ว ทุกฝ่ายย่อมต้องเร่งลงมือ”

            “ช่างเถอะ! เรื่องนี้เราแค่ป้องกันให้แน่นหนาขึ้น แต่ที่ข้าอยากรู้คือน้องสาวคนดีของข้าหายไปที่ใด”

            “เป็นองครักษ์ในพระนางหรู่เฟยขอรับ”

            “เจ้าแน่ใจนะ”

            “ขอรับ”

            “พระนางหรู่เฟยจงใจยื่นมีดใส่มือข้า เพื่อให้ข้าสังหารพี่น้องตนเอง ยามนั้นคงหมายจะใช้เรื่องนี้บีบบังคับข้าสินะ หึ ๆ เห็นที่ข้าคงต้องยื่นดาบคืนนางแล้วกระมัง”

            จ้าวหลิวหลี ยกยิ้มหยันแม่สามีกับลูกสะใภ้สูงศักดิ์ที่มิเคยชอบหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างหวังเพียงความเป็นใหญ่ กำลังคิดที่จะพลิกหมากทั้งกระดาน

            พระนางหรู่เฟยคิดว่าเดินหมากได้ดีแล้ว นางคงยังไม่รู้จักการถูกกลืนหมากทั้งกระดานกระมัง

            “นายหญิงจะให้ข้าลงมือเลยหรือไม่”

            “ทำให้นางไร้ที่ยืน ก่อนที่นางคิดจะทำลายสามีของข้า”

            จ้าวหลิวหลีออกคำสั่งอย่างไม่ลังเลใด ๆ นางรู้แต่แรกแล้วว่าคนจากตำหนักหรู่เฟย ติดตามน้องสาวและน้องชายของนางมา มันคือสิ่งที่นางจงใจให้เป็นเช่นนั้น

            เพราะเมื่อหลายปีก่อน ที่นางต้องติดตามสามีไปร่วมงานล่าสัตว์พระนางหรู่เฟยถูกลอบทำร้าย นางที่อยู่ด้วยจำต้องช่วยชีวิตพระนางเอาไว้ทำให้พระสนมผู้สูงส่ง คิดว่าตนเองกุมความลับของนางเอาไว้มาโดยตลอด

            หมายจะใช้มันเป็นข้อต่อลองเรื่องสามีของนาง สตรีที่คิดว่าตนเองฉลาดล้ำไม่เคยรู้เลยว่ากำลังตกอยู่ในใยแมงมุมของผู้อื่น นางนิ่งเพื่อรอเวลาเท่านั้น วันนี้สามีของนางกลับถึงวังหลวงอย่างปลอดภัย

            นางไม่จำเป็นต้องเก็บงูพิษเอาไว้ให้เป็นอันตรายอีก อันในจำเป็นต้องกำจัดก็ควรลงมือเสีย     

            “แล้วพระชายาสี่เล่าขอรับ จะให้ข้าจัดการไปเสียทีเดียวหรือไม่”

            “ตีงูอย่าให้หลังหัก เพราะเมื่อไหร่ที่มันหายดี มันจะกลับมากัดเราเอาได้”

            “ข้าน้อยจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยขอรับ”

            “อ่อ! อย่างไรก็ส่งนางกลับบ้านด้วย พ่อแม่นางจะได้หมดห่วง ส่วนเกาจิ้งตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นั่น อย่าได้ให้นั่งอยู่ได้นาน เอาให้สาสมกับสิ่งที่มันได้ร่วมมือกับสตรีต่ำช้าทำกับมารดาของข้า”

            จางเค่อรับรู้ได้ถึงความกรุ่นโกรธ ในน้ำเสียงของผู้เป็นนายได้เป็นอย่างดี  ศึกครั้งนี้ผู้ที่ได้ประโยชน์สุดคงหนีไม่พ้นฮ่องเต้ และแน่นอนว่าผู้ที่นายหญิงของเขาหนุนหลัง จะก้าวสู่ตำแหน่งองค์รัชทายาทโดยไร้ผู้ขัดขวาง

            “นายหญิงโปรดวางใจ ข้าจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว”

            “คืนนี้เกาสงคิดที่จะลงมือต่อข้า เพื่อทำผลงานให้เจ้าจิ้งจอกเกาจิ้งสินะ ข้าจะไปรอท่านแม่ทัพหน้าประตูวัง เรื่องนี้ข้าฝากเจ้าจัดการด้วย”

            “ข้าน้อยทราบแล้วขอรับ นายหญิงเองก็ระวังตัวสักหน่อยนะขอรับ จางเค่อมิอาจติดตามใกล้ชิดได้ ข้าเกรงว่าจะมีผู้คิดลงมือต่อท่านแม่ทัพและนายหญิงขอรับ”

            “หลี่จ้านมิใช่คนเขลา เขาคงรู้แล้วว่าจิ้งจอกข้างตัวคือใคร”

            “ขอรับ”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status