แชร์

บทที่ 4

"จวนอ๋องเซียว?"

ชายหนุ่มในรถม้าพอลิ้มรสสามคำนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนทันควัน "ไสหัวไปไกลๆ"

เซียวเหยียนจิ่งตะลึงงันด้วยโทสะ รู้ถึงตัวตนฐานะเขาแล้ว แต่กลับยังไล่ให้เขาไสหัวไป?

"ไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องพูดหรือ?" ทหารตบลงที่หัวม้า ม้างามก็ยกเท้าหน้าขึ้นทันที ถีบพัดเซียวเหยียนจิ่งออกไปอย่างแรง

"อ๊า!"

เซียวเหยียนจิ่งถูกม้าถีบจนปลิว ตกกระแทกลงไปที่หน้าหลี่จื่อเหยาพอดี นางรีบร้อนเข้าไปประคองตัวเขา "พี่เซียว!"

นางกระโจนตัวขึ้น ถลึงตาไปทางรถม้าด้วยความโกรธ "อ๋องเจวี้ยนอะไรกัน! คุณหนูอย่างข้าไม่เห็นจะเคยได้ยิน ขนาดพี่ชายองค์รัชทายาทก็ยังรักข้ายอมให้ข้ามาตลอด แล้วเจ้าสูงส่งกว่าท่านพี่องค์รัชทายาทหรือ? ข้าจะบอกเจ้านะ บิดาข้าคือหมอเทวดาหลี่!"

ทหารที่เดิมทีชักกระบี่ออกมาแล้วพอได้ยินคำว่าหมอเทวดาหลี่ ท่าทางก็หยุดลงทันที เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิง ลังเลขึ้นมา

"อ๋องเจวี้ยนจะเสียเวลาอีกไม่ได้ โทษของเจ้าคนโง่ที่ไม่เคารพต่อท่านอ๋อง ข้าจะสั่งสอนนางแทนท่านอ๋องเอง"

ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงขรึม กระชากกระบี่ของทหารออกมา สาวเท้าขึ้นหน้าไปทางหลี่จื่อเหยา ชูกระบี่ แสงเย็นวาบ เสียงแควกดังขึ้น หลี่จื่อเหยารู้สึกหน้าอกเย็นวาบขึ้นทันที

นางก้มหน้าลงมอง จากนั้นจึงร้องกรี๊ดกอดหน้าอกตัวเองกระแทกตัวมุดไปทางหน้าอกของเซียวเหยียนจิ่งทันที

ฟู่จาวหนิงฉีกเสื้อนางจนขาดไว้ก่อนหน้า แต่ยังมีเสื้อในอยู่ เวลานี้ถูกกระบี่ฟันปาด เสื้อในเองก็ขาดออกจากกันแล้ว

"อึก..."

เซียวเหยียนจิ่งกว่าจะประคองตัวกลับมาได้ พอถูกนางกระแทกเช่นนี้ไปอีกที เลือดลมที่หน้าอกก็พุ่งทะลักขึ้นมา สลบเหมือดลงไปทันที

ตึง

การสลบครั้งนี้เขายืนไม่อยู่ พาร่างของหลี่จื่อเหยาที่กำลังกรีดร้องล้มพับลงไปด้วยกัน กดทับอยู่บนตัวของเขา

ชาวบ้านประชาชีล้วนถลึงตาโต อา..นี่มัน

ฟู่จาวหนิงจุ๊ปาก "ผิดศีลธรรม สุดแสนเสื่อมเสีย ไอ๊หยา อย่ามองอย่ามอง รัฐทายาทเซียวกับคุณหนูใหญ่ถ้าไม่แต่งกันคงไม่ได้แล้วกระมัง?"

นางหมุนตัวใช้สองมือประเคนกระบี่เล่มนั้นขึ้น "ขอโทษด้วย นี่กระบี่ของเจ้า"

ทหารจนถึงตอนนี้ยังตั้งตัวไม่ทัน เขาตะลึงงันไปแล้วเถอะ! เขาเป็นถึงยอดฝีมือที่วรยุทธ์อยู่ระดับห้าเลยนะ แต่ฟู่จาวหนิงคนนี้กลับแย่งกระบี่ไปจากมือเขาได้!

ถึงแม้จะมีเหตุผลที่เขาไม่ทันตั้งตัวได้อยู่ก็ตาม แต่ก็มาเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาถูกแย่งกระบี่ไปโดยไม่ทันตั้งตัวไม่ได้! เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อครู่กระบี่ถูกนางชิงไปได้อย่างไร!

ทหารมองฟู่จาวหนิง ดำดิ่งกับความสงสัยในตัวเองอย่างลึกซึ้ง

"ฟู่จาวหนิง"

คนในรถม้าก็เหมือนจะเห็นเหตุการณ์ภายนอก ตอนที่เอ่ยชื่อนี้ขึ้นช้าๆ ในน้ำเสียงก็มีแววครุ่นคิด

"เจ้าอยากเป็นพระชายาของข้าหรือ?"

"ถ้าหากท่านต้องการพระชายาจริงๆ ล่ะก็!" ฟู่จาวหนิงตอบกลับทันที

"ดี"

ชายในรถม้าตอบกลับอย่างเด็ดขาดมาคำหนึ่ง "ชิงอี"

ทหารคนทั้นที่แท้ชื่อว่าชิงอี พอได้ยินคำของท่านอ๋อง ชิงอีก็ได้สติกลับมาทันที เหลือบมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง ป่าวประกาศออกมาทันควัน "นับจากนี้ ฟู่จาวหนิงคุณหนูตระกูลฟู่ถูกเลือกเป็นคู่หมั้นหมายของอ๋องเจวี้ยนแล้ว โปรดรอฤกษ์มงคลเพื่อจัดพิธีแต่งงานด้วย!"

ฮือฮา ประชาชนทั้งถนนแตกตื่นขึ้นมา

ไม่ใช่สิ อย่างนี้ได้ด้วยหรือ?

คุณหนูฟู่กลายมาเป็นพระชายาในอนาคตของอ๋องเจวี้ยนแล้วหรือ?

เมื่อครู่ใครกันที่พูดว่า "คุณหนูฟู่จบสิ้นแล้ว" ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!

ฟู่จาวหนิงคิดถึงสภาพของผู้เฒ่าฟู่ที่เหมือนตะเกียงใกล้มอดตอนที่ออกจากบ้านในวันนี้ ปิดตาลงเปิดใจกว้าง พูดกับคนในรถม้าว่า "ไม่ใช่คู่หมั้นสิ ต้องเป็นพระชายาเลย! เลือกฤกษ์วันก็สู้วันที่พบไม่ได้หรอก ข้านับดูแล้ววันนี้ถือว่าเป็นวันมงคลฤกษ์งามดี อ๋องเจวี้ยน พวกเราไปกราบไหว้ฟ้าดินกันวันนี้เถิด!"

นางจะไม่ยอมถอยกลับไปตระกูลฟู่วันนี้แน่ วันนี้นางจะต้องได้เป็นพระชายาของอ๋องเจวี้ยน!

ให้อาการของท่านปูคงที่เสียก่อน จะให้เขาถูกกระตุ้นไม่ได้แม้แต่น้อย

จากนี้ถ้าเป็นพระชายาของอ๋องเจวี้ยนแล้วไม่ค่อยดี นางแยกทางเสียก็จบ! นางต้องมาโดนตัวตนฐานะนี้ผูกมัดไว้จนตายเสียที่ไหนกัน?

ชิงอีที่เดิมทีเย็นชาก็พูดไม่ออก "เจ้า นี่มันบีบให้แต่งงานไม่ใช่หรือ?"

เขาตามไม่ทันเสียแล้ว

คุณหนูฟู่ พวกเราเพิ่งจะรู้จักกันไม่เท่าไรเองนะ เจ้ากับท่านอ๋องของข้าก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเสียด้วยซ้ำ นี่เอาจริงหรือ?

ฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างตั้งใจ กระพริบตาปริบ "ชิงอี เจ้าช่วงนี้ปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อยสินะ กลับไปเดี๋ยวข้าจะช่วยดูให้"

"พรวด!!"

ชิงอีเกือบจะตกจากหลังม้า

ในรถม้ามีเสียงไอปนหัวเราะลอดออกมา

"จะเป็นฝั่งเป็นฝากันวันนี้เลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องขึ้นรถม้าแล้ว ไปนั่งเกี้ยวเจ้าสาวเข้าประตูเลยก็แล้วกัน ชิงอี รับเจ้าสาวเถิด"

ชิงอีมุมปากกระตุก คุมตัวเองจนนิ่ง และก็ป่าวประกาศขึ้นอีกว่า "จวนอ๋องเจวี้ยนมารับตัวพระชายา พระชายาโปรดขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวด้วย!"

"อะไรนะ? สวรรค์โปรด..."

"นี่ๆๆ อ๊า เจ้าหยิกข้าหน่อย เรื่องวันนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือนี่?"

"ไอ๊หยา! เจ็บๆ!" มีคนหยิกลงไปที่ต้นขาตนเองอย่างอดไม่อยู่

ฟู่จาวหนิงมองรถม้าที่ปิดอยู่ตลอด เอ่ยชมขึ้นอย่างหน้าชื่นตาบาน "อ๋องเจวี้ยน ท่านนี่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวเสียจริง จะต้องเป็นคนที่ทำการใหญ่ได้แน่ๆ"

พูดจบประโยคนี้ ฟู่จาวหนิงก็หมุนตัววิ่งกลับไปข้างเกี้ยวเจ้าสาวของตนเองอย่างเริงร่า ประคองตัวยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการขึ้นมา เก็บผ้าคลุมหัวสีแดงขึ้นมาจากบนพื้น ปัดๆ ฝุ่น จากนั้นก็สวมลงไปบนหัวตัวเองอีกครั้ง

เอาล่ะ นางกลายเป็นเจ้าสาวใหม่อีกครั้ง!

"ท่านยาย รีบเดินเร็วเข้า รีบโบกผ้าแพรแดงของท่านเร็ว"

"รบกวนคนแบกเกี้ยวด้วย ยกเกี้ยวเร็วยกเกี้ยวเร็ซ จวนอ๋องเจวี้ยนพวกเจ้ารู้ทางใช่ไหม? ถ้าไม่รู้ก็ตามรถม้าของอ๋องเจวี้ยนแล้วกัน"

ฟู่จาวหนิงพูดพลางมุดตัวเข้าไปในเกี้ยวเจ้าสาว นั่งนิ่งขึ้นมา

นางได้ยินแม่เฒ่าผู้ดูแลพิธีการส่งเสียงยกเกี้ยว ได้ยินเสียงเคลื่อนที่ของรถม้าจวนอ๋องเจวี้ยน ได้ยินเสียงโห่ร้องยินดีของฝูงชน ตัวเกี้ยวโยกไหวขึ้นมา เคลื่อนที่ไปเบื้องหน้า

ฟู่จาวหนิงถอนหายใจยาว

เอาล่ะ จากนี้นางก็คือคุณหนูแห่งจวนตระกูลฟู และเป็นพระชายาของจวนอ๋องเจวี้ยนแล้ว

ก่อนหน้าตอนที่นางร่ำเรียนวิชาหมอ ปู่ของนางที่พึ่งพาอาศัยกันและกันมาก็ป่วยหนัก ใช้เงินที่สะสมมาในตระกูลจนหมดก็ยังช่วยไว้ไม่ได้

ปู่ตายจากไป นางมีความรู้สึกเหมือนฟ้าถล่มทลายลงมา ตอนนั้นนางคิดหลายต่อหลายครั้ง ถ้าหากนางเรียนหมอเร็วกว่านี้หน่อย จะสามารถช่วยชีวิตท่านปู่ไว้ได้ไหม?

นี่จึงเป็นสาเหตุให้ต่อมานางเรียนวิชาหมอเป็นบ้าเป็นหลัง ในโลก่การแพทย์ นางมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านความรู้การแพทย์และเภสัชที่ไม่ตกหล่นเลยแม้แต่น้อย

พอได้ยินว่าผู้เฒ่าตระกูลฟู่เองก็ป่วยหนัก ฟู่จาวหนิงจึงคิดจะช่วยชีวิตเขาอย่างเต็มที่ ต่อให้ต้องเก็บผู้ชายบนถนนมาแต่งงานด้วยก็ยังไม่เสียดาย

ฟู่จาวหนิงที่เดิมทีต้องแต่งเข้าจวนอ๋องเซียว ทะเลาะกับรัฐทายาทเซียวกลางถนน หลังจากที่รัฐทายาทเซียวคุกคามจนทำให้ชีวิตนี้ของนางแต่งงานอีกไม่ได้แล้ว ก็หันไปเป็นพระชายาของอ๋องเซียว!

เรื่องนี้แค่หนึ่งชั่วยามก็กระจายไปทั้งเมืองหลวงแล้ว เพียงพริบตาก็ก่อคำวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงขึ้นทั้งเมือง

แต่คนที่ถูกนินทาซ้ำไปซ้ำมาแน่นอนว่ายังมีรายละเอียดที่เซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาทั้งสองคนสุดท้ายลงไปนอนกอดกันกลมอยู่บนพื้น

เกี้ยวเจ้าสาวหามมาถึงนอกประตูใหญ่จวนอ๋องเจวี้ยนแล้ว ฟู่จาวหนิงถูกประคองลงจากเกี้ยว ก็ได้ยินเสียงประทัดมงคลดังปึงปังขึ้น ความปีติเบิกบานลั่นฟ้า พรมแดงปูมาถึงใต้เท้าของนาง

"ต้อนรับพระชายา!"

เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Apirat Phanumas
สนุกดี ตามต่อๆ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status