แชร์

บทที่ 10

"คิดจะไปเนินจันทร์เด่นค้นหาตัวยาสิบชนิดไม่น่าจะเป็นไปได้เสียแล้ว"

ฟู่จาวหนิงส่ายหัวถอนหายใจ

"ผิดแผน ผิดแผน"

นางคิดไม่ถึงเลยว่าการเลือกอ๋องเจวี้ยน พอแต่งงานด้วยแล้วจะเจอเรื่องยุ่งยากขนาดนี้ แต่ว่าพอคิดไปถึงผู้เฒ่าฟู่ นางก็ตั้งสติใหม่ขึ้นมา

ก็แค่หาตัวยาเองไม่ใช่หรือ?

ต่อให้ไม่มีเงื่อนไขนี้ นางก็ยังต้องออกไปหายาอยู่ดี สถานการณ์ตระกูลฟู่ตอนนี้ลำบากยากแค้นมาก ที่บ้านไม่เหลือเงินอีกแล้ว คิดจะซื้อยามาก็สิ้นเปลือง ถ้าหากเขาจันทร์ลับฟ้าทางนั้นมีตัวยา นางไปขุดมาไม่ต้องใช้เงินไม่ดีกว่าหรือ?

พอคิดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ใจเย็นลงมา

"ลูกชิ้นนี้อร่อยดีจัง"

หงจั๋วกับเฝิ่นซิงเห็นว่านางดูใจเย็นขนาดนี้ ก็กลับกังวลแทนนางขึ้นมา ตอนนี้ดูแล้วเหมือนพระชายาคนนี้จะไม่มีมาด ไม่น่ากลัว ในใจพวกนางจึงคาดหวังให้ฟู่จาวหนิงสามารถนั่งในตำแหน่งพระชายานี้ได้อย่างมั่นคง

ส่วนโถงพิธีมงคลทางนั้น องค์จักรพรรดิยังคิดจะถามคำถามอ๋องเจวี้ยนอีกสักหน่อย แต่ไทเฮากลับมึนหัวขึ้นเสียแล้ว

"องค์จักรพรรดิ ฮองเฮา พวกเรากลับวังกันเถิด อายวนเร่งร้อนแต่งงาน ไม่มีอะไรจะเลี้ยงด้วย" ไทเฮาดูเหมือนไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว

"นี่."

องค์จักรพรรดิรู้สึกเหมือนงานแต่งงานใหญ่ของอ๋องเจวี้ยนมีบทแค่นี้เองหรือ พวกเขาแค่มาเดินผ่านฉากแค่นี้ ในใจรู้สึกเสียใจเล็กๆ

"องค์จักรพรรดิ" ฮองเฮายืนขึ้นมา "ไทเฮาพูดถูกแล้ว พวกเราอยู่ที่นี่ทุกคนคงจะทำตัวกันไม่ถูก สู้กลับกันก่อนดีกว่า หลังจากนี้สามวัน ใครจะรู้ว่าคนที่ผ่านประตูในวันนี้จะเป็นพระชายาหรืออนุภรรยา? แล้วถ้าคุณหนูฟู่ต้องกลายเป็นอนุภรรยาไปจริงๆ เช่นนั้นการรับเจ้าสาวของอ๋องเจวี้ยน พวกเราทั้งหมดก็มาร่วมงานแล้ว จะไม่ยุติธรรมกับพระชายาที่แท้จริงภายหลังเอานะ"

พูดจบประโยคนี้ ฮองเฮาก็หัวเราะเย็นชาในใจขึ้นมา

นางตัดสินไปแล้วว่าฟู่จาวหนิงไม่มีทางทำภารกิจนั้นสำเร็จ

ฟู่จาวหนิงถ้าไม่ตายในเขาจันทร์ลับฟ้า ก็ทำได้แค่ไปเป็นอนุภรรยาเท่านั้น!

อนุภรรยาคนหนึ่ง แต่ยังคิดจะให้ฮองเฮามาอยู่ที่นี่เพื่ออวยพรนาง? ใครจะไปให้เกียรติกัน

องค์จักรพรรดิพอฟังนางพูดเช่นนี้ ก็ลุกขึ้นยืนด้วย

"ที่ฮองเฮาพูดมาก็มีเหตุผล อายวน เช่นนั้นข้าจะกลับวังก่อนแล้ว"

อ๋องเจวี้ยนโค้งเอวเล็กน้อย "กลับดีดี"

องค์จักรพรรดิขมวดคิ้ว

มาพูดว่ากลับดีดีกับเขาได้อย่างไรกัน?

ทำไมไม่พูดอะไรอย่างคารวะองค์จักรพรรดิที่ดูเป็นทางการหน่อย?

อายวนตั้งแต่เล็กไม่ได้ชุบเลี้ยงในวัง เป็นเรื่องผิดจริงๆ สินะ

ไทเฮาองค์จักรพรรดิฮองเฮาทั้งสามคนไปได้ แต่แขกเหรื่อที่มาอวยพรยังไม่กล้ากลับไป

ถ้าไม่ใช่ฮองเฮาที่เพิ่งนึกเงื่อนไขนั้นออก องค์จักรพรรดิกับไทเฮาคงจะอยู่ที่นี่เพื่อให้หน้ากับอ๋องเจวี้ยนแล้ว เพราะอะไรกัน?

เพราะในมืออ๋องเจวี้ยนมีป้ายทองเลี่ยงความตาย กระบี่ซ่างฟาง ตราประทับแคว้นเจาที่ไท่ซ่างหวงแหกกฎส่งมอบให้มา และสุดท้ายตราประทับแคว้นเจานี้ก็มีอำนาจมากที่สุด กระทั่งองค์จักรพรรดิเองก็ยังต้องกริ่งเกรง เพราะตราประทับแคว้นเจาสามารถสังการองค์รักษ์เงามังกรแห่งราชวงศ์ได้โดยตรง

นี่เป็นทหารลับกองหนึ่งที่ทรงพลานุภาพที่สุดในราชวงศ์แคว้นเจา

นอกจากอ๋องเจวี้ยนจะทำเรื่องอย่างคบค้าศัตรูทรยศแคว้น หรือมีโทษหนักหนาต่อราชวงศ์ มีหลักฐานแน่นหนา องค์จักรพรรดิจึงจะสามารถริบตราประทับแคว้นเจากลับ

มิเช่นนั้น อ๋องเจวี้ยนที่มีตราประทับนี้อยู่ ก็เหมือนกับมีกระบี่พาดแขวนไว้บนคอจักรพรรดินั่นเอง

เหล่าแขกเหรื่อเวลานี้ก็ดูชาญฉลาดมาก ทยอยกันเดินเข้าไปอวยพร

"ขอให้พิธีมงคลท่านอ๋องเจวี้ยน ยืนยาวนับร้อยปี"

"วันนี้เป็นฤกษ์งาม ขออวยพรท่านอ๋องเจวี้ยน"

"อ๋องเจวี้ยนช่างดูสีหน้าเบิกบาน คนเราจะแจ่มใจปรีดาในช่วงเวลาแห่งความสุขจริงๆ"

"อวยพรท่านอ๋องเจวี้ยนมีทายาทไวไว"

ไม่ว่าสามวันถัดจากนี้ฟู่จาวหนิงจะหาตัวยากลับมาได้สิบชนิดหรือไม่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องสนใจ ถึงอย่างไรตอนนี้พวกเขาก็กราบไหว้ฟ้าดินในพิธีไปแล้ว ก่อนหน้าที่อ๋องเจวี้ยนจะพูดอะไร ฟู่จาวหนิงก็คือพระชายาอ๋องเจวี้ยน

ซ่งหยวนหลินไม่อยากออกไป แต่พอได้ยินคนเหล่านี้เข้ามาอวยพรกันเซ็งแซ่ นางก็รู้สึกไม่ยินดีนัก

"เชอะ รอก่อนเถอะ ฟู่จาวหนิงแค่อนุภรรยาก็ยังไม่คู่ควร!"

ซ่งหยวนหลินกัดฟันเหี้ยมเกรียม กระทืบเท้าเบียดตัวเข้าไปอยู่ข้างกายอ๋องเจวี้ยน

"ท่านพี่หลันยวน ข้าไม่รู้ว่าท่านถูกฟู่จาวหนิงทำให้ลุ่มหลงขนาดนี้ได้อย่างไร แต่ว่าท่านต้องตั้งสติเสียหน่อยนะ คืนนี้ห้ามเข้าหอกับ..."

นางยังไม่ทันพูดจบ อ๋องเจวี้ยนก็ตัดบทนางขึ้นมา

"ซ่งหยวนหลิน"

เสียงนางเย็นเฉียบ "ข้าไม่เคยอนุญาตให้เจ้าเรียกข้าเช่นนี้ เจ้าต้องเรียกข้าว่าอ๋องเจวี้ยนเช่นเดียวกับคนอื่น ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ให้เรียกท่านอ๋อง ความสัมพันธ์พวกเราไม่ได้สนิทชิดเชื้อขนาดนั้น"

"ท่านพี่หลันยวน"

ซ่งหยวนหลินมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ

"ชิงอี โยนนางออกไปด้วย" อ๋องเจวี้ยนพอเห็นว่านางยังไม่ยอมแก้ไข จึงไม่คิดจะเสวนากับนางอีก ตะโกนเรียกชิงอีทันที

ชิงอีเดินเข้ามาทันควัน ยื่นมือจะคว้าตัวซ่งหยวนหลิน

ซ่งหยวนหลินทั้งรนทั้งโกรธ แต่พอเห็นท่าทีของอ๋องเจวี้ยนก็เหมือนไม่มีความเมตตาจิตเลย เขาคิดจะให้ชิงอีโยนนางออกไปจริงๆ!

"ข้าไปเองได้"

เพื่อรักษาหน้าตาสุดท้ายของตนเองไว้ ซ่งหยวนหลินจึงกระทืบเท้าหนักๆ หมุนตัวออกจากจวนอ๋องอย่างโกรธเคือง

หลังออกประตูมา ซ่งหยวนหลินก็หันหน้ากลับไปมองประตูใหญ่จวนอ๋องเจวี้ยน กัดฟันกรอด เอ่ยขึ้นอย่างเหี้ยมเกรียม "ฟู่จาวหนิง ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า! คอยดูเถอะ ข้าจะให้เจ้าตายอยู่บนเขาจันทร์ลับฟ้า!"

ตายอย่างน่าเวทนาไปเลย!

ก่อนหน้านี้ท่านพี่หลันยวนแม้จะไม่ค่อยสนใจนางนัก แต่ก็ไม่เคยไม่ไว้นางเช่นวันนี้มาก่อน แถมยังจะให้ทหารโยนนางออกมาอีกด้วย!

ท่านพี่หลันยวนไร้น้ำใจเสียจริง นี่เป็นเพราะฟู่จาวหนิงแน่

ซ่งหยวนหลินหมุนตัวจากไปอย่างเคืองๆ นางจะกลับไปจัดการทันที สามวันถัดจากนี้ จะต้องให้ฟู่จาวหนิงได้พบกับประสบการณ์เลวร้ายที่ยากจะลืมเลือน จากนั้นค่อยให้นางตายไป

แขกเหรื่อพอเห็นอ๋องเจวี้ยนไร้น้ำใจเย็นชาต่อซ่งหยวนหลิน ในใจก็ตึงเครียด

ผู้ดูแลรีบเดินเข้ามา "ท่านอ๋อง อาหารมงคลเตรียมเสร็จแล้ว"

"เชิญแขกเหรื่อทานอาหารเถอะ" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยขึ้น

"ขอเชิญแขกทุกท่านร่วมรับประทานอาหาร วันนี้มีอาหารและเครื่องดื่มชั้นดี พวกเราจวนอ๋องเจวี้ยนจัดเตรียมสุราเลิศตระกูลอวิ๋นไว้ ทุกท่านลองชิมกันเสียหน่อย"

ผู้ดูแลเชิญแขกทั้งหมดเคลื่อนย้ายไปยังโถงสวนดอกไม้

พอได้ยินชื่อสุราเลิศตระกูลอวิ๋น ทุกคนก็ตกตะลึงไป

"สุราชั้นเลิศของตระกูลอวิ๋น? นับตั้งแต่ที่ตระกูลอวิ๋นลมสลาย สุราเลิศตระกูลอวิ๋นหนึ่งไหก็ปั่นมูลค่ากันขึ้นไปถึงหมื่นตำลึงเลยนะ"

มีคนรักสุราเอ่ยขึ้นมาทันที

"หนึ่งไหหมื่นตำลึงนั้นถูกต้อง แต่ถึงราคาสูงก็ไม่มีในตลาด ไม่มีใครหาซื้อสุราเลิศตระกูลอวิ๋นได้เลย"

เรื่องนี้สำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มสุราและมีรสนิยมแล้ว ถือเป็นเรื่องที่เจ็บปวดอย่างมากเลยทีเดียว เทศกาลไหว้พระจันทร์หรือสิ้นปีของทุกปี ตอนที่ทุกคนดื่มสุรากันมากที่สุด ก็มักจะมีคนหิ้วสุราเลิศตระกูลอวิ๋นเข้ามา

ไม่คิดว่าวันนี้จวนอ๋องเจวี้ยนจะหยิบเอาสุราเลิศตระกูลอวิ๋นออกมา!

พอมาถึงงานจัดเลี้ยง ก็เห็นสายใช้ยกสุราออกมาสามไห พวกเขาก็ฮือฮาขึ้นมา

"ไม่ใช่แค่ไหนเดียว ไม่ใช่แค่ไหนเดียวด้วย!"

อ๋องเจวี้ยนพอลงมือก็หิ้วสุราเลิศตระกูลอวิ๋นเข้ามาถึงสามไห อู้ฟู่เสียเหลือเกิน!

สุราสามไหนี้ ทำให้บรรยากาศของงานเลี้ยงกระพือขึ้นทันที ทุกคนอารมณ์ครื้นเครงกันขึ้นมา คำอวยพรก็ยิ่งจริงใจมากขึ้นไปอีก

แต่ใครก็ไม่กล้าชนสุรากับอ๋องเจวี้ยน ไม่กล้าเตือนเรื่องสุรากับเขา ถึงอย่างไรทุกคนก็ล้วนรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนนั้นร่างกายอ่อนแอมากมาตั้งแต่เด็ก ถูกเลี้ยงอยู่ภายนอกมาหลายปี

"ส่งสุราให้ฟู่จาวหนิงชิมเสียหน่อยเถอะ ไหนๆ ก็เป็นพระชายาของข้าแล้ว แขกเหรื่อล้วนได้ดื่มสุราเลิศตระกูลอวิ๋นกันหมด นางอย่างน้อยก็ต้องได้รู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร" อ๋องเจวี้ยนคิดๆ

"เพคะ"

กาสุราเล็กใบหนึ่งถูกส่งไปยังห้องหอ

หงจั๋วรินให้ฟู่จาวหนึ่งแก้วหนึ่ง พอได้กลิ่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ร้อง "เอ๊ะ" ขึ้นมา
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Boukong Doukaew
อ่านเกินเวลา หลอกกันไหมถ้าไม่ติดตามก่อไม่เพิ่มนิ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status