Share

บทที่ 14

Penulis: จุ้ยหลิงซู
อ๋องเจวี้ยนมองมาทางลุงจง

ลุงจงเองก็ตกตะลึงยืนอยู่กับที่

อย่าว่าแต่ประตูหลังเลย ต่อให้เป็นประตูหน้าจวนตระกูลฟู่ก็ไม่มีแขกเข้ามานานหลายปีแล้ว

แต่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้านี้ สวมชุดเลอค่าสูงส่ง สวมหน้ากากครึ่งหน้าดูลึกลับ แต่ใบหน้าอีกด้านกลับใบหน้างดงาม หูตาจมูกได้รูป ดูแล้วทำให้คนรู้สึกว่าตัวตนฐานะไม่ธรรมดา

"พวกเจ้า"

สายตาของอ๋องเจวี้ยนตกไปอยู่บนปิ่นทองในมือเขา

ชิงอีกเองก็มองเห็น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

"เจ้าจะนำปิ่นทองเล่มนี้ไปที่ใด?" เสียงอ๋องเจวี้ยนเย็นเยียบ

ลุงจงซ่อนปิ่มทองเล่มนั้นไปด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ "นี่ นี่เป็นของคุณหนูข้า"

ใช่แล้ว เรื่องที่คุณหนูกำชับมาจะชักช้าไม่ได้

ลุงจงรีบปิดประตูทันที กัดฟัน คารวะไปทางอ๋องเจวี้ยน "นายท่านโปรดให้อภัย ข้าน้องมีเรื่องต้องรีบไปทำ เวลานี้ไม่อาจปล่อยให้พวกท่านเข้าไปได้!"

ไม่ว่าจะใครก็ตาม ห้ามทำให้เรื่องนี้ชักช้า!

พูดจบประโยคนี้ ลุงจงก็หยิบปิ่นทองเล่มนั้นยกเท้าวิ่งอ้าว

"ตามไปดูหน่อย" เสียงของอ๋องเจวี้ยนขรึมขึ้นมา

จะให้เขาเอาของของจวนอ๋องเจวี้ยนวิ่งหนีไปหรือ?

"ขอรับ"

ทหารคนหนึ่งตามไปทันที

อ๋องเจวี้ยนมองประตูหลังทรุดโทรมบานนี้ หัวเราะประชดประชันขึ้นมา

"ไม่คิดว่าตระกูลฟู่ที่รุ่งโรจน์ในอดีต ตอนนี้จะตกต่ำลงถึงเพียงนี้แล้ว ผู้เฒ่าฟู่ที่บารมียิ่งใหญ่ในตอนนั้น จะเข้าออกต้องมาเดินผ่านประตูหลังที่ทรุดโทรมเช่นนี้"

"นายท่าน จะเข้าไปดูหน่อยไหม" ชิงอีถาม

"ข้าไม่เข้าไปแล้ว เจ้าเข้าไปดูหน่อยเถอะ" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ประตูหลังจวนตระกูลฟู่นี้ ยังไม่มีคุณสมบัติให้ข้าเดินผ่านเข้าไป"

"ขอรับ" ชิงอีกำชับทหารคนอื่นให้คอยคุ้มกันท่านอ๋อง ส่วนตนเองก็ผลักประตูเข้าไปในบ้านตระกูลฟู่

เสี่ยวเถาไล่พวกฮูหยินรองออกไปแล้ว โยนไม้กวาดทิ้งไว้ในบ้าน พอเห็นฟู่จาวหนิงกำลังกดอยู่ที่หัวใจของผู้เฒ่าฟู่ ก็ตกใจสะดุ้งขึ้นมา

"คุณหนู!"

"จุดเทียนทั้งหมดขึ้น หยิบเข้ามา" ฟู่จาวหนิงกำชังเสียงขรึม ในห้องมืดเกินไป

"อ๋า? เจ้าค่ะ" เสี่ยวเถามรับคำสั่งด้วยสัญชาตญาณอย่างมึนๆ

ฟู่จาวหนิงคลายมือลง คลำไปยังชีพจรผู้เฒ่าฟู่

พอทาบชีพจร หัวใจของนางก็ดำดิ่งลง

ผู้เฒ่าฟู่ป่วยอาการเดียวกับปู่ของนางเลย! ที่หนักกว่าคือเขายังติดพิษด้วย พิษนี้น่าจะเป็นพวกทีกำเริบช้า ค่อยๆ กัดกินสะสมมาหลายปี พอถึงปัจจุบันจึงกำเริบออกมาอย่างหมดจด

นอกเหนือจากนี้ ร่างกายของเขายังขาดการบำรุงที่ดีอย่างเลวร้าย เลือดลมขาดหาย เป็นโรคกระเพาะอย่างรุนแรงด้วย

ฟู่จาวหนิงกัดฟันแน่น

"จาว หนิง" ผู้เฒ่าฟู่งึมงำเรียกชื่อนางออกมา

ฟู่จาวหนิงรีบกุมมือเขาไว้แน่น "ท่านปู่ ข้าอยู่ที่นี่ จาวหนิงอยู่ที่นี่!"

ผู้เฒ่าฟู่ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก พอเห็นสีแดงบนตัวนาง น้ำตาที่หม่นมัวก็ไหลออกมาทันที

"เจ้า เจ้า ถอนหมั้นกับจวนตระกูลเซียวหรือ?"

"ท่านปู่ เซ๊ยวเหยียนจิ่งไม่ใช่คนดี เป็นข้าที่ไม่อยากแต่งงานกับเขา เขาไม่คู่ควรอยู่กับข้าไปทั้งชีวิต" ฟู่จาวหนิงรีบเอ่ยขึ้นปลอบประโลมเขา

"พรวด"

ในปากผู้เฒ่าฟู่กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

ฟู่จาวหนิงใจเต้นแรง รีบร้อนเรียกต่อ "ท่านปู่ ข้าไม่ได้ถูกถอนหมั้น ข้ามีคนที่ข้าคิดจะแต่งงานด้วยจริงๆ แล้ว ยิ่งไปกว่นั้นข้ายังแต่งออกไปแล้วด้วย เขายอดเยี่ยมกว่าเซียวเหยียนจิ่งร้อยเท่าพันเท่า จริงด้วย เขายังรับปากว่าจะดูแลข้าเป็นอย่างดี ท่านไม่ต้องร้อนใจ ไม่ต้องกังวล"

ไม่สนแล้ว เวลานี้ขอแค่ท่านปู่ใจสงบลงมา สามารถทำให้ปณิธานอของเขากระตุ้นขึ้นมา ให้นางพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น!

ถึงอย่างไรอ๋องเจวี้ยนก็ไม่อยู่ที่นี่ เขาไม่ได้ยินหรอก!

"จริง จริงหรือ?" เสียงของผู้เฒ่าฟู่อ่อนแออย่างมาก ราวกับว่าลมหายใจจะขาดห้วงได้ทุกเวลา

ชิงอีเข้ามาถึงหน้าประตูแล้ว พอเห็นฉากในบ้าน ได้ยินคำพูดต่อมาของฟู่จาวหนิง

"จริงสิ! ท่านปู่ ข้าไม่ได้หลอกท่านนะ พอข้าพบจุดแย่ๆ ของเซียวเหยียนจิ่ง จึงถอนหมั้นกับเขา เป็นข้าที่ไม่เข้าไปยังจวนอ๋องเซียว ตอนนั้นสามีของข้าก็ผ่านมาพอดี รู้สึกว่าข้าทำได้ถูกต้อง ชื่นชมต่อตัวข้า พบรักกับข้าขึ้นมาทันที"

นางกำลังพูดเรื่องบ้าบออะไรอยู่เนี่ย?

ฟู่จาวหนิงหยุดลงครู่หนึ่ง แต่ก็เห็นผู้เฒ่าฟู่เหมือนจะถูกเรื่องบ้าบอนี้ดึงดูดเข้าแล้ว พยายามจะตั้งสติตื่นขึ้นมา นางจึงเลยต่อไปอย่างไม่ลังเล

"ท่านปู่ ท่านยังแข็งแรงอยู่ รอให้ท่านได้สติขึ้นมาเสียก่อน สามีข้าก็จะเข้ามาเยี่ยมท่านด้วย พวกเราวันนี้เป็นฝั่งฝากันแล้ว กราบไหว้ฟ้าดินกันแล้วจริงๆ บ้านของเขาเองก็ดีมากๆ เดิมทีคืนนี้ที่ข้ากลับมาบ้านก็ไม่เหมาะไม่ควร แต่สามีข้ารู้ว่าข้าปล่อยวางเรื่องท่านไม่ได้ จึงให้ข้ารีบกลับมาบ้าน เขาเองก็อยากเข้ามา แต่ข้าไม่ให้เขามา"

ชิงอีที่อยู่หน้าประตูส่งเสียงขึ้นมา รู้สึกว่าตนเองน่าจะหูฝาด

คุณหนูฟู่กำลังพูดอะไร?

นายท่านพบรักกับนาง? แล้วเดิมทียังคิดจะเข้ามาหรือ?

"เจ้าเป็นใคร" เสี่ยวเถาพบตัวเขาจนตะใจสะดุ้งโหยง เทียนในมือเกือบจะหล่นลงพื้น

ฟู่จาวหนิงหันหน้ามองเข้ามา ตอนที่มองเห็นชิงอีหน้าก็เปลี่ยนสี

นางรีบมองไปด้านหลังของชิงอีก พอไม่เห็นใคร ในใจก็โล่งขึ้นมา นางพูดไว้แล้วไง ว่าอ๋องเจวี้ยนจะมาด้วยตัวเองได้อย่างไร?

แต่ว่านางขี่ม้าของจวนอ๋องเจวี้ยน จวนอ๋องส่งคนตามนางมาก็เรื่องปกติ

นางตอนนี้ก็กลัวว่าชิงอีจะได้ยินสิ่งที่นางพูดเมื่อครู่ แล้วเอามาแทงข้างหลังนาง

"ข้าคือ"

"เขาชื่อชิงอี เป็นทหารของสามีข้า!" ฟู่จาวหนิงตัดบทชิงอี แย่งเข้าพูดออกมาก่อน "ท่านปู่ดูสิ ข้าไม่ได้โกหกท่านเลย สามีไม่วางใจข้า จึงส่งทหารมาคุ้มครองข้ากลับมา ท่านไม่ต้องกังวล ข้าไม่เป็นไรจริงๆ ท่านวางใจเถิด รอให้ท่านหายดี ข้าจะพาสามีมาพบท่าน ท่านอยากจะถามอะไรก็ได้ทั้งนั้น ดีไหม?"

"ชิงอี เจ้าว่าข้าโกหกท่านปู่ไหม?"

ฟู่จาวหนิงกุมมือของผู้เฒ่าฟู่ไว้แน่น พอพูดถึงช่วงหลังก็หันไปมองชิงอี

ชิงอีเห็นแววตาอ้อนวอนในดวงตานาง

เขาอ้าปากพะงาบ จากนั้นก็มองไปยังผู้เฒ่าฟู่ที่สติสัมปชัญญะยังดูไม่ค่อยดีนัก จึงผีผลักพยักหน้าลง "ไม่มี คุณหนูฟู่ล้วนพูดความจริงทั้งหมด"

เสี่ยวเถาเดิมทีที่ทั้งระแวดระวังและกลัวต่อตัวเขาอย่างมาก พอได้ยินก็ถอนหายใจโล่งทันที น้ำตาแห่งความปีติไหลลงมาอีกครั้ง

"คุณหนู ท่านไม่เป็นไรนี่ช่างดีจริงๆ"

ส่วนเรื่องชายคนนั้นเป็นคนเช่นไร เพระาอะไรจึงรับคุณหนูกลับไปแต่งงาน เรื่องเหล่านี้ตอนนี้ยังไม่ต้องถาม

การพูดเช่นนี้ก็ดูเหมือนได้ผลอยู่ ผู้เฒ่าฟู่ใจเย็นลงมาอย่างเห็นได้ชัด อาการหายใจไม่ออกก็ไม่ค่อยรุนแรงแล้ว

"เสี่ยวเถา รีบไปเอาน้ำร้อนมา" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่สนใจชิงอี ใช้วิชามือเฉพาะของนาง กดลงไปที่ตำแหน่งขมับของผู้เฒ่าฟู่อีกครั้ง

ชิงอียืนอยู่ที่นั่น ไม่รู้เลยว่าควรทำอะไร พอคิดๆ จึงหมุนตัวเดินออกไป

ด้านนอกประตูหลัง ลุงจงหอบสิ่งที่ฟู่จาวหนิงต้องการวิ่งกลับมา จนเกือบจะกระแทกเข้ากับหน้าอกของเขา

"เข้าไปเลย คุณหนูของพวกเจ้ากำลังรอเจ้าอยู่" ชิงอีพอเห็นเขาสีหน้าไม่วางใจ จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างคุมไม่อยู่

ลุงจงเองก็ไม่สนใจว่าเพราะอะไรเขาจึงเข้ามา คนหนุ่มใหญ่โตบนรถม้านอกประตูคนนั้น แต่คุณหนูก็รอของเหล่านี้อยู่

ฟู่จาวหนิงพอเห็นเขากลับมาแล้ว ก็รีบถามขึ้น "ได้เข็มเงินมาไหม โสมล่ะ?"

Bab terkait

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 15

    "คุณหนู อยู่ที่นี่หมดแล้ว!"ลุงจงรีบหยิบของส่งออกไปฟู่จาวหนิงหยิบสุรา แช่เข็มเงินไว้ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไปเผาบนเทียน ให้ลุงจงช่วยปลดเสื้อผ้าของผู้เฒ่าฟู่ลงแล้วนางก็หยิบชิ้นโสมแผ่นหนึ่ง วางไว้ใต้ลิ้นของผู้เฒ่าฟู่"เสี่ยวเถาหยิบชิ้นอื่นๆ ไปต้มน้ำแกงโสมเสีย""เจ้าค่ะ"เสี่ยวเถารีบออกไป พวกเขาเองก็รู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ไม่มีเวลามานั่งคิด ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ฟู่จาวหนิงพูดตอนนี้ก็ทำให้พวกเขาต้องลงมือทำก่อนอย่างขัดไม่ได้ฟู่จาวหนิงหยิบเข็มเงิน เพ่งสมาธิแทงลงไปยังตำแหน่งจุดบนร่างกายของผู้เฒ่าฟู่"อ๊า..."ลุงจงพอเห็นการกระทำของนางก็เกือบจะร้องอุทานออกมา แต่รีบปิดปากลงสนิทคุณหนูไม่ได้เรียนหมอมานี่นา นางทำไมจึงกล้าลงเข็มกับท่านผู้เฒ่ากัน?แต่จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นของฟู่จาวหนิง ก็ทำให้เขาไม่กล้ารบกวนด้วยสัญชาตญาณฟู่จาวหนิงเคลื่อนไหวเร็วมาก แทงไปแล้วหนึ่งเข็มมือก็ยังไม่หยุด แทงต่อไปอีกเข็ม ความเร็วในการลงเข็มของนางไวมาก ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย และไม่ต้องหาตำแหน่งจุดที่แม่นยำก่อนด้วย หยิบเข็มก็แทงลงไปทันทีผู้เฒ่าฟู่สลบไปแล้ว ระหว่างขั้นตอนของฟู่จาวหนิงเขาก็ยังไม่ตื่น และไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 16

    ฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบกลับชิงอีนี่คือเรื่องของบ้านนาง ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับชิงอีให้ชัดเจนขนาดนั้นนางตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าอ๋องเจวี้ยนเป็นคนแบบไหน"ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วชั่วคราว" ฟู่จาวหนิงพูดกับลุงจง "รบกวนลุงจงใช้น้ำร้อนเช็ดตัวให้ท่านปู่ด้วย""คุณหนูไม่ต้องเกรงใจกับข้าน้อยขนาดนี้" ลุงจงพอได้ยินว่าท่านผู้เฒ่าไม่เป็นไรแล้ว ก็เช็ดตาอย่างปีติ"ป้าจงกับพี่หู่ล่ะ?"ฟู่จาวหนิงเวลานี้เพิ่งมีเรี่ยวแรงถามคำถามนี้ออกมาเดิมทีป้าจงกับลูกชายของพวกเขาหู่จือควรจะอยู่ที่นี่ด้วย แต่นางกลับมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ที่นี่อาละวาดจนเป็นขนาดนี้ก็ยังไม่เห็นแม่ลูกทั้งสองคนพอได้ยินนางถามขึ้นมา ลุงจงก็น้ำตาหลั่งทะลักออกมา เสี่ยวเถาเองก็หน้าซีดขาว"คนล่ะ?"ฟู่จาวหนิงพอเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องขึ้นแน่นอน ไม่เช่นนั้นป้าจงกับหู่จือจะต้องอยู่ดูแลที่นี่แน่ มีหรือจะปล่อยให้ฮูหยินรองอาละวาดคลั่งแบบนี้?ลุงจงเป็นคนซื่อสัตย์พูดน้อย แต่ป้าจงกลับเป็นคนฉุนเฉียว หู่จือเองก็แข็งแกร่งหยาบกระด้าง มีแม่ลูกอย่างพวกเขาอยู่ เหล่าคนใช้ของบ้านอื่นก็ล้วนไม่กล้ากำเริบเสิบสานกัน"คุณหนู ฮือๆๆ" เสี่ยวเถาอดร้องไห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 17

    "อาจจะเพราะอ๋องเจวี้ยนคนนี้จะมีอายุมากกว่าเขาก็ได้"ฮูหยินรองคาดเดา "รัฐทายาทเซียวก็ไม่ใช่แค่เคารพต่อผู้อาวุโสหรือไร? ที่นั่นคือกลางถนนนะ ยังจะไปปะทะกับผู้อาวุโสได้อย่างไร? ถ้าอีกฝ่ายเอาเรื่องไปแจ้งต่อองค์จักรพรรดิขึ้นมาล่ะ?"ฟู่หมิงจูตะลึงงันไป "เป็นอย่างนั้นหรือ?""ทำไมจะไม่ใช่? องค์ชายของจักรพรรดิตั้งกี่คนที่ถูกถอนตำแหน่งอ๋อง เจ้าไม่เคยได้ยินหรือไร?"ฟู่หมิงจูคิด ก็รู้สึกว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆนางดีใจขึ้นมาทันที "ท่านแม่ แต่ว่าพวกเขาพูดว่าพอฟู่จาวหนิงอาละวาดกับรัฐทายาทเซียวก็หันไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนเลยนะ!"ฮูหยินรองมุมปากกระตุกจนดึงเอาแผลบนใบหน้าเข้า ความเจ็บปวดทำให้นางคิดถึงฟู่จาวหนิงเมื่อครู่ขึ้นอีกครั้ง เคียดแค้นจนเข็ดฟันเลยทีเดียว"ฟู่จาวหนิงนิสัยเสียนั่นเจ้ายังไม่รู้อีกหรือ? ก่อนหน้านี้ท่านปู่นางป่วยจนใกล้ตาย บอกว่าไม่วางใจนาง นางก็ยังหน้าด้านไร้ยางอายวันวันเอาแต่ไปเฝ้ารัฐทายาทเซียวอยู่นั่น จะแต่งกับเขาเสียให้ได้ เห็นๆ อยู่ว่าจวนอ๋องเซียวไม่ยอมรับการหมั้นหมาย เจ้าคิดว่านางที่น่าอดสูเสียขนาดนี้ พอถูกรัฐทายาทเซียวถอนหมั้น ก็รู้สึกว่าเสียหน้า เลยต้องจับผู้ชายส่งๆ คนหนึ่งมาแ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 18

    ฟู่จาวหนิงพุ่งตัวไปยังประตูห้องฟืนที่มีไม้กระบองขัดไว้อยู่ ซัดตีไม้กระบองออก ยกเท้าถีบโครมเข้าไป "โครม!"ในห้องเก็บฟืนที่ดำมืดมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งพอดมเข้ากับกลิ่นนี้ สีหน้าฟู่จาวหนิงเองก็เปลี่ยนไ"ชิงอี!"ชิงอีพอเห็นนางเข้าไปซัดคนอย่างปราดเปรียวห้าวหาญก็ตกตะลึง ตอนนี้ได้ยินนางตะโกนเรียกจึงได้สติกลับมา รีบร้อนเดินตรงไปทางนี้ฟู่จาวหนิงคว้าโคมไฟที่แขวนอยู่ด้านนอกเดินเข้าไปที่มุมห้องฟืนมีคนนอนอยู๋คนหนึ่ง สวมเสื้อผ้าสีฟ้าเก่ามาก สองขากางเกงมีแต่เลือด เสื้อผ้าบนตัวยังขาดวิ่นหลายแห่ง นอนอยู่ที่นั่นราวกับเหมือนไม่มีลมหายใจ ไม่ขยับเขยื้อน"คุณหนู นี่คือท่านพี่หู่!"เสี่ยวเถาพอเห็นหู่จือเป็นเช่นนี้ น้ำตาก็ไหลร่วงลงมาหู่จือถูกพวกเขาตีจนตายแล้วหรือเปล่านะ?ฟู่จาวหนิงรีบเดินเข้ามา ยื่นมือเข้าไปแตะที่ต้นคอหู่จือ ถอนใจโล่งออกมา "เขายังมีชีวิตอยู่ ชิงอี รบกวนเจ้าแบกเขากลับไปที่พวกเราทางนั้นที""ขอรับ"ชิงอีไม่พูดอะไรมาก เดินเข้าไปทันที แบกหู่จือขึ้นหลัง รีบเดินออกไปด้านนอก บนขาของหู่จื่อเต็มไปด้วยเลือด เขาเองก็ไม่รังเกียจ แต่กลับยังถอนใจออกมาเสียงหนึ่ง ขาของเขาถูกตีจนหักไปแล้ว วัยหน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 19

    ฟู่จาวหนิงรีบเดินไปที่ข้างเตียงเขาทันที คุกเข่าลงมา กุมมือเขาไว้"ท่านปู่ ข้าอยู่ที่นี่"ผู้เฒ่าฟู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น แสงในดวงตาที่ยังดูโรยรา ค่อยๆ กลับมารวมกันลุงจงที่กำลังปาดน้ำตาอย่างน่าเวทนาตอนที่เห็นลูกชายพอเห็นท่านผู้เฒ่าได้สติกลับมาจริงๆ ก็ตื่นเต้นขึ้นมา"ท่านผู้เฒ่าฟื้นแล้วจริงๆ!"พวกเขาเดิมทีคิดว่าครั้งนี้ท่านผู้เฒ่าคงทนต่อไม่ไหวแล้ว ไม่คิดว่าคุณหนูจะช่วยเขากลับมาได้จริง!คุณหนูเก่งจริงๆ!"จาวหนิง เจ้า เจ้าเป็นอย่างที่อาสะใภ้พูดจริง จริงหรือ?" ผู้เฒ่าฟู่กุมมือของฟู่จาวหนิงไว้แน่นเขารู้สึกว่าในปากตนเองมีชิ้นโสมอยู่ รสโสมหวานชื่อทำให้เขาได้สติขึ้นมาหน่อย แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจเรื่องนี้แล้ว แค่อยากรุ้ว่าหลานสาวที่รักถูกจวนอ๋องเซียวถอนหมั้นแล้วจริงไหม"เซียว รัฐทายาทเซียวถอนหมั้นกับเจ้ากลางถนนจริงหรือ?"หลังจากผู้เฒ่าฟู่รีบร้อนถามประโยคนี้ก็ไอขึ้นมา เขาไอจนในคอหอยเหมือนมีกังหันกำลังหมุนอยู่ ฟังแล้วเหมือนที่ปอดเต็มไปด้วยรูอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ใจคนไม่วางใจขึ้นมาด้วยเช่นกันฟู่จาวหนิงรีบเข้าไปบีบง่ามนิ้วมือเขาทันที"ท่านปู่ ท่านไม่ต้องร้อนรน! ข้าไม่ใช่บอกกับท่านแล้วหรือ? ข้า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 20

    ฟู่จาวหนิงจึงเพิ่งรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนมาด้วยตนเองนางมองเห็นชิงอี ยังคิดว่าชิงอีมาแค่คนเดียวเสียอีก"ไม่ใช่บอกว่า ตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นพระชายาหรอกหรือ?"ฟู่จาวหนิ่งตอนนี้พอเจออ๋องเจวี้ยน ในใจก็กังวลขึ้นมา นางสะกดความคิดที่จะยื่นมือไปลูบผมลงไป บางทีอ๋องเจวี้ยนก่อนหน้านี้คงไม่ทันสังเกตถึงปิ่นปักผมกับกำไลของนางกระมังแล้วถ้าเกิดพบว่าในวันแต่งงานใหญ่นางเอาเครื่องประดับของจวนอ๋องเจวี้ยนไปจำนำล่ะก็ คงไม่รู้เลยว่าจะมองนางเช่นไรพรุ่งนี้ต้องขึ้นเขาจันทร์ลับฟ้า นางต้องขุดยาให้ดี กลับมาแล้วจะเอาไปขายแล้วไถ่ของทั้งสองชิ้นนั้นคืนมา"นายท่าน ม้าตัวนี้" ชิงอีเดินเข้ามาอย่างกระอักกระอ่วน "ข้านอยพามันกลับไปไม่ได้"เดิมทีคิดว่าฟู่จาวหนิงคงจะต้องขึ้นรถม้ากลับไปกับท่านอ๋องแน่ แล้วม้าตัวนั้นเขาต้องพากลับไป ผลลัพธ์คือพอเขาเตรียมจะเข้าใกล้ม้าตัวนั้น ม้าตัวนั้นก็พ่นลม ก้าวเดินอย่างฮึดฮัด ดูแล้วเหมือนจะพัดถีบเขาได้ตลอดเวลาชิงอีในใจทั้งตกตะลึงและจำใจม้าตัวนี้ทำไมจึงยอมให้คุณหนูฟู่ขี่กัน ไม่มีอานม้า แต่นางก็ยังควบทะยานจากจวนอ๋องเจวี้ยนกลับมาบ้านตระกูลฟู่ได้ราวกับสายลมอ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิง สา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 21

    เซียวชิงซานคิดแทนรุ่นหลังคนนี้อย่างจริงใจ"นั่นมันคำเหลวไหลทั้งเพ" อ๋องเซียวพอเห็นเขากราดด่าลูกชายตนเองเช่นนี้ ก็รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาพอควร "ท่านลุงตอนนั้นยังไม่ยอมเห็นด้วยกับหญิงชราตระกูลฟู่ที่จะให้เหยียนเซียวกับหลานสาวของนางหมั้นหมายกันอยู่เลย แล้วตอนนี้ตระกูลฟู่ตกต่ำลง สภาพบ้านเช่นนั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรกับพวกเขาอยู่แล้ว"พอเขาได้ยินเรื่องวันนี้ ก็รู้สึกโกรธแค้นต่อฟู่จาวหนิงอย่างมากจวนชินอ๋องเซียวต้องมาถูกคนหัวเราะเยาะก็เพราะนางตระกูลฟู่ตอนนี้เป็นเหมือนตะวันจะลับเขาแล้ว ฟู่จาวหนิงไม่รู้อะไรเสียเลยจริงๆ"ใช่แล้วท่านปู่ หรือท่านไม่หวังให้ข้าได้มีพระชายารัฐทายาทดีหรือไรกัน?" เซียวเหยียนจิ่งก็เต้นเร่าขึ้นมา เนื้อตัวก็ยังเจ็บอยู่ เขาดูไม่เลือกคำพูดขึ้นมาเสียแล้ว "ท่านปู่เองตอนวัยหนุ่มก็ไม่ใช่เพราะช่วงเวลาหนึ่งกับฮูหยินตระกูลฟู่...""เซียวเหยียนจิ่ง!"ฟู่ชิงซานเดือดดาล ตะคอกขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อเขาในฐานะที่เด็กกว่า แต่กลับกล้าหยิบเรื่องนี้มาเย้ยหยันเขาสงสัยเขาหรือ?"ท่านลุง เหยียนจิ่งวันนี้เองก็ได้รับบาดเจ็บ ข้าให้คนไปเชิญหมอเทวดาหลี่มาดูเขาแล้ว แต่หลังจากท่านเข้ามาก้ไม่เห็นพู

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 22

    "จี๊ด!""อ๊า" หงจั๋วตกใจสะดุ้งโหยง แต่ก็ยังกรีดร้องไปด้วยพลางโบกตะเกียงไปทางหนตัวนั้นด้วยนางปกป้องฟู่จาวหนิงด้วยสัญชาตญาณพอเห็นข้อมือฟู่จาวหนิงขยับ เข็มเล่มหนึ่งก็พุ่งไปทางหนูตัวนั้น"จี๊ด!"หนูร้องขึ้นมาเสียงหนึ่ง ชักกระตุกอยู่บนพื้นครู่หนึ่งก็แน่นิ่งไปฟู่จาวหนิงยื่นมือไปตบบ่าของหงจั๋ว "ไม่ต้องกลัว"หงจั๋วมองนางอย่างตะลึงงัน ปลายจมูกร้อนขึ้นมาฮือๆ คุณหนูฟู่ดีจังเลย คุณหนูฟู่ความสามารถยอดเยี่ยมจริงๆ!ตะเกียงเพิ่งถูกนางสะบัดไปทางหนู ร่วงอยู่บนพื้น ไส้ตะเกียงด้านในลุกติดขึ้นมา เผาตัวตะเกียงกระดาษจนทะลุไปแล้ว วัชพืชทางนั้นเองก็ถูกเผาไหม้ขึ้นมาเช่นกัน ชั่วขณะหนึ่งเปลวไฟก็ส่องสว่างตัวเรือนที่มืดมิดขึ้นเฝิ่นซิงถือกระถางใส่น้ำรีบวิ่งเข้ามา สาดไปบนเปลวไฟ เสียงชี่ดังขึ้น เปลวไฟถูกดับ ควันดำลอยขึ้น กลิ่นค่อนข้างแย่"คุณหนูฟู่ ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?"ฟู่จาวหนิงสั่นหัว "ไม่เป็นไร"นางยกเท้าเดินตรงเข้าไปในห้อง ห้องหลักนี้แบ่งเป็นด้านในและนอกสองห้อง ถูกกั้นแยกด้วย ประตูโค้งครึ่งวงกลมบานหนึ่ง ด้านบนประตูโค้งเดิมทีแขวนผ้าม่านไว้ แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า ยืนที่ประตูสามารถกวาดมองเข้าไปเห็น

Bab terbaru

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1800

    "ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1799

    "กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1798

    "ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1797

    คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1796

    ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1795

    เรียนได้เท่าไรก็เรียนเท่านั้น"ข้าไม่กลัวเหนื่อยหรอก เอาจริงๆ สมัยก่อนข้าเองก็มาจากครอบครัวที่ยากจนด้วย หลายปีมานี้ครอบครัวดีขึ้นมาก แต่ทุกวันข้าก็ยังปลูกผักอยู่ในเรือน แล้วยังฝึกมวยทุกวัน สุขภาพก็ดีมาก""มองออกเลยว่าสุขภาพของหมอหลินดีมาก นี่จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่หมอฟู่พาท่านมาในวันแรก แล้วก็ให้ท่านมาคอยเฝ้าที่นี่นั่นล่ะ"อาเหอรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้แม้ฟู่จาวหนิงจะไม่พูดออกมา แต่ในความเป็นจริงพอคนมาถึงนางก็สังเกตไปแล้ว การที่นางพาหมอหลินมา จะต้องเป็นการคัดเลือกของนางแน่นอน"จริงหรือ? ถ้าพูดเช่นนี้ พระชายาก็ถือว่ามีสายตาเฉียบคมอยู่นะ ฮ่าๆ" หมอหลินแสดงสีหน้าภาคภูมิใจฟู่จาวหนิงกลับไปพร้อมเซียวหลันยวนมีคนถือตะเกียงนำหน้าให้เมืองเจ้อยามนี้ เงียนงันไปหมด ฟ้าดำมืดมีดวงดาวไม่มากบนถนนมีแค่เสียงเท้าของพวกเขา เบามากพอคิด ก็รู้สึกเหมือนเป็นคืนฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีอะไรพิเศษแต่ในใจพวกเขาเข้าใจดี สำหรับเมืองเจ้อแล้ว นี่เหมือนถูกกดทับด้วยลมพายุไว้"อาเหอคนนี้ ดูแล้วไม่เลวเลย" เซียวหลันยวนตัดบทความคิดของฟู่จาวหนิง"อืม เป็นผู้ประสบภัย แต่เป็นคนฉลาด เรียนรู้เร็ว แล้วก็ซื่อสัตย์ด้วย" ความฉ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1794

    หมอหลินพอได้ยินคำพูดของอาเหอ ก็รู้สึกว่าตนเองเหมือนจะใจร้ายน่าดู ทำไมเขาถึงไม่คิดจุดนี้กันนะ?แล้วคิดจะจะให้พระชายาอ๋องเจวี้ยนที่เป็นหญิงสาวมาอยู่ดูแลที่นี่อีก ขนาดอ๋องเจวี้ยนตามมาแล้วแท้ๆ หรือคิดจะให้อ๋องเจวี้ยนต้องอยู่ดูแลคนป่วยที่นี่ด้วยกัน?ไอ๊หยา ต้องโทษพระชายาที่รับผิดชอบและตั้งใจมากเกินไป พอถูกนางทำให้ยุ่งขนาดนี้ เขาก็เลยลืมตัวตนฐานะของพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปเสียแล้ว"ใช่ๆๆ ข้าคิดไม่รอบคอบเอง อาเหอพูดถูกต้อง พระชายาท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิด ข้าดูแลที่นี่ให้"ฟู่จาวหนิงหัวเราะขึ้นมาทีหนึ่ง"หมอหลิน ยังมีอีกที่หนึ่งที่ต้องไป ท่านลืมแล้วหรือ?"พวกเขาลืมไปแล้วหรือเปล่า ว่ายังมีบ้านประชาชนอีกแห่งหนึ่งที่รับผู้ป่วยเข้ามาหลายคนอ๊ะ นางตอนนี้จึงยิ้มออกมาได้ ถือเป็นความสุขที่ได้จากความทุกข์หมอหลินตอนนี้จึงนึกออก เขาตบหน้าผาก "ใช่ๆๆ แล้วทางนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ?""นี่ถึงได้เชิญหมอหลินให้มาดูแลที่นี่ ส่วนอาเหอจะไปดูทางนั้นให้ มีเรื่องอะไรพวกท่านก็ให้ข้าราชการด้านนอกมาหาข้าก็พอ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร พรุ่งนี้จะมีคนมาแทนพวกท่าน""เอาตามที่พระชายาว่าเลย"พวกเขาไปในบ้านประชาชนอีกหลังหนึ่ง คน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1793

    "มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เสียที่ไหน?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถลึงตาโต"องครักษ์พวกนั้นเจอกับหัวขโมย พอเห็นว่าเขาผิดปกติจึงเข้าไปจับกุม นี่ถือว่าเป็นการทำความดีกับประชาชนเมืองเจ้อมิใช่หรือ? จะว่าไป ทุกคนก็รู้ว่าโชคอขงองค์หญิงใหญ่นั้นดีมาก ดังนั้นจึงทำให้ท่านเจอกับเรื่องนี้มันมีอะไรแปลกตรงไหนกัน?""แต่ว่า แต่ว่า" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย "เป็นแบบนี้มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลกระมัง?""มีอะไรไม่สมเหตุสมผลกัน ยืนกรานเสียอย่าง พวกเขาจะไม่สงสัยหรก องค์หญิงใหญ่ท่านเป็นคนที่สูงส่งนะ แล้วจะไปทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร?""ไม่ค่อยดีนะแบบนี้?""ไอ๊หยา องค์หญิงใหญ่ท่านฟังข้าเถอะ ไม่เช่นนั้น ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนไปแล้วจริงๆ พวกเรายังต้องอยู่ในเมืองเจ้ออีกนานแค่ไหน""พวกเราตอนนี้ได้ของแล้ว ไปเมืองหลวงกันเองก้ได้""องค์หญิงใหญ่ พวกเราป่วยโรคนี้อยู่นะ หมอเทวดาฟู่ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับใต้เท้าอันไม่มีทางยอมให้พวกเราไปหรอก ยิ่งไม่ยอมให้เราไปที่เมืองหลวงด้วย เว้นเสียแต่อ๋องเจวี้ยนจะพาพวกเราไป พวกเขาไม่กล้าขวางอ๋องเจวี้ยน"เฉินเซียงตอนนี้มองออกถ้าหากครั้งนี้ไม่ไปด้วยกันกับอ๋องเจวี้ยน ถ้าพวกนางยังต้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1792

    "องค์หญิงใหญ่ ในกล่องใบนี้มันคืออะไรกันแน่?"เฉินเซียงเองก็อยากรู้อยากเห็นมาก จุดเทียนสว่าง แล้วยกเชิงเทียนเดินเข้ามาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกเครียดอยู่ตอลด ตอนนี้พอนั่งลงมา ก็รีบเทน้ำลงดื่ม เพียงแต่น้ำเย็นไปแล้ว พอดื่มไปนางก็สะดุ้งโหยง"ข้าจะจุดเตาให้ องค์หญิงใหญ่อย่าเพิ่งดื่มน้ำเย็นเลย"เฉินเซียงถึงแม้จะอยากรู้ว่าในกล่องนั้นมีอะไร แต่ก็ยังเป็นสาวใช้วังที่ทุ่มเทอยู่ พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นต้องมาดื่มน้ำเย็นจึงรู้สึกปวดใจตอนที่นางไปวุ่นอยู่นั้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็นั่งมองกล่องใบนั้นอยู่ตรงนั้นกล่องไม้ใบหนึ่ง ดูแล้วก็ไม่ได้มหัศจรรย์อะไร แล้วนางก็มองไม่ออกว่าต้องเปิดจากตรงไหนด้วยจนตอนที่เฉินเซียงเทน้ำร้อนเข้ามา องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เล่นกับกล่องนั้นอยู่พักหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าจะเปิดมันอย่างไร"ทำไมถึงเปิดไม่ออก""เปิดไม่ออกหรือ? เพราะด้านในมันขัดกันอยู่หรือเปล่า?"เฉินเซียงเองก็หยิบกล่องนั่นเข้ามาสำรวจ รู้สึกประหลาดใจมาก ไม่มีจุดที่เปิดได้เลยจริงๆ"นี่มันอะไรกัน? หรือจะเป็นไม้ท่อนนึง สลักออกมาเป็นกล่องแบบนี้หรือ? "เฉินเซียงมึนงง"ไม่หรอก ด้านในมีของใส่ไว้" องค์หญ

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status