แชร์

บทที่ 14

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
อ๋องเจวี้ยนมองมาทางลุงจง

ลุงจงเองก็ตกตะลึงยืนอยู่กับที่

อย่าว่าแต่ประตูหลังเลย ต่อให้เป็นประตูหน้าจวนตระกูลฟู่ก็ไม่มีแขกเข้ามานานหลายปีแล้ว

แต่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้านี้ สวมชุดเลอค่าสูงส่ง สวมหน้ากากครึ่งหน้าดูลึกลับ แต่ใบหน้าอีกด้านกลับใบหน้างดงาม หูตาจมูกได้รูป ดูแล้วทำให้คนรู้สึกว่าตัวตนฐานะไม่ธรรมดา

"พวกเจ้า"

สายตาของอ๋องเจวี้ยนตกไปอยู่บนปิ่นทองในมือเขา

ชิงอีกเองก็มองเห็น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

"เจ้าจะนำปิ่นทองเล่มนี้ไปที่ใด?" เสียงอ๋องเจวี้ยนเย็นเยียบ

ลุงจงซ่อนปิ่มทองเล่มนั้นไปด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ "นี่ นี่เป็นของคุณหนูข้า"

ใช่แล้ว เรื่องที่คุณหนูกำชับมาจะชักช้าไม่ได้

ลุงจงรีบปิดประตูทันที กัดฟัน คารวะไปทางอ๋องเจวี้ยน "นายท่านโปรดให้อภัย ข้าน้องมีเรื่องต้องรีบไปทำ เวลานี้ไม่อาจปล่อยให้พวกท่านเข้าไปได้!"

ไม่ว่าจะใครก็ตาม ห้ามทำให้เรื่องนี้ชักช้า!

พูดจบประโยคนี้ ลุงจงก็หยิบปิ่นทองเล่มนั้นยกเท้าวิ่งอ้าว

"ตามไปดูหน่อย" เสียงของอ๋องเจวี้ยนขรึมขึ้นมา

จะให้เขาเอาของของจวนอ๋องเจวี้ยนวิ่งหนีไปหรือ?

"ขอรับ"

ทหารคนหนึ่งตามไปทันที

อ๋องเจวี้ยนมองประตูหลังทรุดโทรมบานนี้ หัวเราะประชดประชันขึ้นมา

"ไม่คิดว่าตระกูลฟู่ที่รุ่งโรจน์ในอดีต ตอนนี้จะตกต่ำลงถึงเพียงนี้แล้ว ผู้เฒ่าฟู่ที่บารมียิ่งใหญ่ในตอนนั้น จะเข้าออกต้องมาเดินผ่านประตูหลังที่ทรุดโทรมเช่นนี้"

"นายท่าน จะเข้าไปดูหน่อยไหม" ชิงอีถาม

"ข้าไม่เข้าไปแล้ว เจ้าเข้าไปดูหน่อยเถอะ" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ประตูหลังจวนตระกูลฟู่นี้ ยังไม่มีคุณสมบัติให้ข้าเดินผ่านเข้าไป"

"ขอรับ" ชิงอีกำชับทหารคนอื่นให้คอยคุ้มกันท่านอ๋อง ส่วนตนเองก็ผลักประตูเข้าไปในบ้านตระกูลฟู่

เสี่ยวเถาไล่พวกฮูหยินรองออกไปแล้ว โยนไม้กวาดทิ้งไว้ในบ้าน พอเห็นฟู่จาวหนิงกำลังกดอยู่ที่หัวใจของผู้เฒ่าฟู่ ก็ตกใจสะดุ้งขึ้นมา

"คุณหนู!"

"จุดเทียนทั้งหมดขึ้น หยิบเข้ามา" ฟู่จาวหนิงกำชังเสียงขรึม ในห้องมืดเกินไป

"อ๋า? เจ้าค่ะ" เสี่ยวเถามรับคำสั่งด้วยสัญชาตญาณอย่างมึนๆ

ฟู่จาวหนิงคลายมือลง คลำไปยังชีพจรผู้เฒ่าฟู่

พอทาบชีพจร หัวใจของนางก็ดำดิ่งลง

ผู้เฒ่าฟู่ป่วยอาการเดียวกับปู่ของนางเลย! ที่หนักกว่าคือเขายังติดพิษด้วย พิษนี้น่าจะเป็นพวกทีกำเริบช้า ค่อยๆ กัดกินสะสมมาหลายปี พอถึงปัจจุบันจึงกำเริบออกมาอย่างหมดจด

นอกเหนือจากนี้ ร่างกายของเขายังขาดการบำรุงที่ดีอย่างเลวร้าย เลือดลมขาดหาย เป็นโรคกระเพาะอย่างรุนแรงด้วย

ฟู่จาวหนิงกัดฟันแน่น

"จาว หนิง" ผู้เฒ่าฟู่งึมงำเรียกชื่อนางออกมา

ฟู่จาวหนิงรีบกุมมือเขาไว้แน่น "ท่านปู่ ข้าอยู่ที่นี่ จาวหนิงอยู่ที่นี่!"

ผู้เฒ่าฟู่ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก พอเห็นสีแดงบนตัวนาง น้ำตาที่หม่นมัวก็ไหลออกมาทันที

"เจ้า เจ้า ถอนหมั้นกับจวนตระกูลเซียวหรือ?"

"ท่านปู่ เซ๊ยวเหยียนจิ่งไม่ใช่คนดี เป็นข้าที่ไม่อยากแต่งงานกับเขา เขาไม่คู่ควรอยู่กับข้าไปทั้งชีวิต" ฟู่จาวหนิงรีบเอ่ยขึ้นปลอบประโลมเขา

"พรวด"

ในปากผู้เฒ่าฟู่กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

ฟู่จาวหนิงใจเต้นแรง รีบร้อนเรียกต่อ "ท่านปู่ ข้าไม่ได้ถูกถอนหมั้น ข้ามีคนที่ข้าคิดจะแต่งงานด้วยจริงๆ แล้ว ยิ่งไปกว่นั้นข้ายังแต่งออกไปแล้วด้วย เขายอดเยี่ยมกว่าเซียวเหยียนจิ่งร้อยเท่าพันเท่า จริงด้วย เขายังรับปากว่าจะดูแลข้าเป็นอย่างดี ท่านไม่ต้องร้อนใจ ไม่ต้องกังวล"

ไม่สนแล้ว เวลานี้ขอแค่ท่านปู่ใจสงบลงมา สามารถทำให้ปณิธานอของเขากระตุ้นขึ้นมา ให้นางพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น!

ถึงอย่างไรอ๋องเจวี้ยนก็ไม่อยู่ที่นี่ เขาไม่ได้ยินหรอก!

"จริง จริงหรือ?" เสียงของผู้เฒ่าฟู่อ่อนแออย่างมาก ราวกับว่าลมหายใจจะขาดห้วงได้ทุกเวลา

ชิงอีเข้ามาถึงหน้าประตูแล้ว พอเห็นฉากในบ้าน ได้ยินคำพูดต่อมาของฟู่จาวหนิง

"จริงสิ! ท่านปู่ ข้าไม่ได้หลอกท่านนะ พอข้าพบจุดแย่ๆ ของเซียวเหยียนจิ่ง จึงถอนหมั้นกับเขา เป็นข้าที่ไม่เข้าไปยังจวนอ๋องเซียว ตอนนั้นสามีของข้าก็ผ่านมาพอดี รู้สึกว่าข้าทำได้ถูกต้อง ชื่นชมต่อตัวข้า พบรักกับข้าขึ้นมาทันที"

นางกำลังพูดเรื่องบ้าบออะไรอยู่เนี่ย?

ฟู่จาวหนิงหยุดลงครู่หนึ่ง แต่ก็เห็นผู้เฒ่าฟู่เหมือนจะถูกเรื่องบ้าบอนี้ดึงดูดเข้าแล้ว พยายามจะตั้งสติตื่นขึ้นมา นางจึงเลยต่อไปอย่างไม่ลังเล

"ท่านปู่ ท่านยังแข็งแรงอยู่ รอให้ท่านได้สติขึ้นมาเสียก่อน สามีข้าก็จะเข้ามาเยี่ยมท่านด้วย พวกเราวันนี้เป็นฝั่งฝากันแล้ว กราบไหว้ฟ้าดินกันแล้วจริงๆ บ้านของเขาเองก็ดีมากๆ เดิมทีคืนนี้ที่ข้ากลับมาบ้านก็ไม่เหมาะไม่ควร แต่สามีข้ารู้ว่าข้าปล่อยวางเรื่องท่านไม่ได้ จึงให้ข้ารีบกลับมาบ้าน เขาเองก็อยากเข้ามา แต่ข้าไม่ให้เขามา"

ชิงอีที่อยู่หน้าประตูส่งเสียงขึ้นมา รู้สึกว่าตนเองน่าจะหูฝาด

คุณหนูฟู่กำลังพูดอะไร?

นายท่านพบรักกับนาง? แล้วเดิมทียังคิดจะเข้ามาหรือ?

"เจ้าเป็นใคร" เสี่ยวเถาพบตัวเขาจนตะใจสะดุ้งโหยง เทียนในมือเกือบจะหล่นลงพื้น

ฟู่จาวหนิงหันหน้ามองเข้ามา ตอนที่มองเห็นชิงอีหน้าก็เปลี่ยนสี

นางรีบมองไปด้านหลังของชิงอีก พอไม่เห็นใคร ในใจก็โล่งขึ้นมา นางพูดไว้แล้วไง ว่าอ๋องเจวี้ยนจะมาด้วยตัวเองได้อย่างไร?

แต่ว่านางขี่ม้าของจวนอ๋องเจวี้ยน จวนอ๋องส่งคนตามนางมาก็เรื่องปกติ

นางตอนนี้ก็กลัวว่าชิงอีจะได้ยินสิ่งที่นางพูดเมื่อครู่ แล้วเอามาแทงข้างหลังนาง

"ข้าคือ"

"เขาชื่อชิงอี เป็นทหารของสามีข้า!" ฟู่จาวหนิงตัดบทชิงอี แย่งเข้าพูดออกมาก่อน "ท่านปู่ดูสิ ข้าไม่ได้โกหกท่านเลย สามีไม่วางใจข้า จึงส่งทหารมาคุ้มครองข้ากลับมา ท่านไม่ต้องกังวล ข้าไม่เป็นไรจริงๆ ท่านวางใจเถิด รอให้ท่านหายดี ข้าจะพาสามีมาพบท่าน ท่านอยากจะถามอะไรก็ได้ทั้งนั้น ดีไหม?"

"ชิงอี เจ้าว่าข้าโกหกท่านปู่ไหม?"

ฟู่จาวหนิงกุมมือของผู้เฒ่าฟู่ไว้แน่น พอพูดถึงช่วงหลังก็หันไปมองชิงอี

ชิงอีเห็นแววตาอ้อนวอนในดวงตานาง

เขาอ้าปากพะงาบ จากนั้นก็มองไปยังผู้เฒ่าฟู่ที่สติสัมปชัญญะยังดูไม่ค่อยดีนัก จึงผีผลักพยักหน้าลง "ไม่มี คุณหนูฟู่ล้วนพูดความจริงทั้งหมด"

เสี่ยวเถาเดิมทีที่ทั้งระแวดระวังและกลัวต่อตัวเขาอย่างมาก พอได้ยินก็ถอนหายใจโล่งทันที น้ำตาแห่งความปีติไหลลงมาอีกครั้ง

"คุณหนู ท่านไม่เป็นไรนี่ช่างดีจริงๆ"

ส่วนเรื่องชายคนนั้นเป็นคนเช่นไร เพระาอะไรจึงรับคุณหนูกลับไปแต่งงาน เรื่องเหล่านี้ตอนนี้ยังไม่ต้องถาม

การพูดเช่นนี้ก็ดูเหมือนได้ผลอยู่ ผู้เฒ่าฟู่ใจเย็นลงมาอย่างเห็นได้ชัด อาการหายใจไม่ออกก็ไม่ค่อยรุนแรงแล้ว

"เสี่ยวเถา รีบไปเอาน้ำร้อนมา" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่สนใจชิงอี ใช้วิชามือเฉพาะของนาง กดลงไปที่ตำแหน่งขมับของผู้เฒ่าฟู่อีกครั้ง

ชิงอียืนอยู่ที่นั่น ไม่รู้เลยว่าควรทำอะไร พอคิดๆ จึงหมุนตัวเดินออกไป

ด้านนอกประตูหลัง ลุงจงหอบสิ่งที่ฟู่จาวหนิงต้องการวิ่งกลับมา จนเกือบจะกระแทกเข้ากับหน้าอกของเขา

"เข้าไปเลย คุณหนูของพวกเจ้ากำลังรอเจ้าอยู่" ชิงอีพอเห็นเขาสีหน้าไม่วางใจ จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างคุมไม่อยู่

ลุงจงเองก็ไม่สนใจว่าเพราะอะไรเขาจึงเข้ามา คนหนุ่มใหญ่โตบนรถม้านอกประตูคนนั้น แต่คุณหนูก็รอของเหล่านี้อยู่

ฟู่จาวหนิงพอเห็นเขากลับมาแล้ว ก็รีบถามขึ้น "ได้เข็มเงินมาไหม โสมล่ะ?"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 15

    "คุณหนู อยู่ที่นี่หมดแล้ว!"ลุงจงรีบหยิบของส่งออกไปฟู่จาวหนิงหยิบสุรา แช่เข็มเงินไว้ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไปเผาบนเทียน ให้ลุงจงช่วยปลดเสื้อผ้าของผู้เฒ่าฟู่ลงแล้วนางก็หยิบชิ้นโสมแผ่นหนึ่ง วางไว้ใต้ลิ้นของผู้เฒ่าฟู่"เสี่ยวเถาหยิบชิ้นอื่นๆ ไปต้มน้ำแกงโสมเสีย""เจ้าค่ะ"เสี่ยวเถารีบออกไป พวกเขาเองก็รู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ไม่มีเวลามานั่งคิด ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ฟู่จาวหนิงพูดตอนนี้ก็ทำให้พวกเขาต้องลงมือทำก่อนอย่างขัดไม่ได้ฟู่จาวหนิงหยิบเข็มเงิน เพ่งสมาธิแทงลงไปยังตำแหน่งจุดบนร่างกายของผู้เฒ่าฟู่"อ๊า..."ลุงจงพอเห็นการกระทำของนางก็เกือบจะร้องอุทานออกมา แต่รีบปิดปากลงสนิทคุณหนูไม่ได้เรียนหมอมานี่นา นางทำไมจึงกล้าลงเข็มกับท่านผู้เฒ่ากัน?แต่จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นของฟู่จาวหนิง ก็ทำให้เขาไม่กล้ารบกวนด้วยสัญชาตญาณฟู่จาวหนิงเคลื่อนไหวเร็วมาก แทงไปแล้วหนึ่งเข็มมือก็ยังไม่หยุด แทงต่อไปอีกเข็ม ความเร็วในการลงเข็มของนางไวมาก ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย และไม่ต้องหาตำแหน่งจุดที่แม่นยำก่อนด้วย หยิบเข็มก็แทงลงไปทันทีผู้เฒ่าฟู่สลบไปแล้ว ระหว่างขั้นตอนของฟู่จาวหนิงเขาก็ยังไม่ตื่น และไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 16

    ฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบกลับชิงอีนี่คือเรื่องของบ้านนาง ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับชิงอีให้ชัดเจนขนาดนั้นนางตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าอ๋องเจวี้ยนเป็นคนแบบไหน"ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วชั่วคราว" ฟู่จาวหนิงพูดกับลุงจง "รบกวนลุงจงใช้น้ำร้อนเช็ดตัวให้ท่านปู่ด้วย""คุณหนูไม่ต้องเกรงใจกับข้าน้อยขนาดนี้" ลุงจงพอได้ยินว่าท่านผู้เฒ่าไม่เป็นไรแล้ว ก็เช็ดตาอย่างปีติ"ป้าจงกับพี่หู่ล่ะ?"ฟู่จาวหนิงเวลานี้เพิ่งมีเรี่ยวแรงถามคำถามนี้ออกมาเดิมทีป้าจงกับลูกชายของพวกเขาหู่จือควรจะอยู่ที่นี่ด้วย แต่นางกลับมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ที่นี่อาละวาดจนเป็นขนาดนี้ก็ยังไม่เห็นแม่ลูกทั้งสองคนพอได้ยินนางถามขึ้นมา ลุงจงก็น้ำตาหลั่งทะลักออกมา เสี่ยวเถาเองก็หน้าซีดขาว"คนล่ะ?"ฟู่จาวหนิงพอเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องขึ้นแน่นอน ไม่เช่นนั้นป้าจงกับหู่จือจะต้องอยู่ดูแลที่นี่แน่ มีหรือจะปล่อยให้ฮูหยินรองอาละวาดคลั่งแบบนี้?ลุงจงเป็นคนซื่อสัตย์พูดน้อย แต่ป้าจงกลับเป็นคนฉุนเฉียว หู่จือเองก็แข็งแกร่งหยาบกระด้าง มีแม่ลูกอย่างพวกเขาอยู่ เหล่าคนใช้ของบ้านอื่นก็ล้วนไม่กล้ากำเริบเสิบสานกัน"คุณหนู ฮือๆๆ" เสี่ยวเถาอดร้องไห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 17

    "อาจจะเพราะอ๋องเจวี้ยนคนนี้จะมีอายุมากกว่าเขาก็ได้"ฮูหยินรองคาดเดา "รัฐทายาทเซียวก็ไม่ใช่แค่เคารพต่อผู้อาวุโสหรือไร? ที่นั่นคือกลางถนนนะ ยังจะไปปะทะกับผู้อาวุโสได้อย่างไร? ถ้าอีกฝ่ายเอาเรื่องไปแจ้งต่อองค์จักรพรรดิขึ้นมาล่ะ?"ฟู่หมิงจูตะลึงงันไป "เป็นอย่างนั้นหรือ?""ทำไมจะไม่ใช่? องค์ชายของจักรพรรดิตั้งกี่คนที่ถูกถอนตำแหน่งอ๋อง เจ้าไม่เคยได้ยินหรือไร?"ฟู่หมิงจูคิด ก็รู้สึกว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆนางดีใจขึ้นมาทันที "ท่านแม่ แต่ว่าพวกเขาพูดว่าพอฟู่จาวหนิงอาละวาดกับรัฐทายาทเซียวก็หันไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนเลยนะ!"ฮูหยินรองมุมปากกระตุกจนดึงเอาแผลบนใบหน้าเข้า ความเจ็บปวดทำให้นางคิดถึงฟู่จาวหนิงเมื่อครู่ขึ้นอีกครั้ง เคียดแค้นจนเข็ดฟันเลยทีเดียว"ฟู่จาวหนิงนิสัยเสียนั่นเจ้ายังไม่รู้อีกหรือ? ก่อนหน้านี้ท่านปู่นางป่วยจนใกล้ตาย บอกว่าไม่วางใจนาง นางก็ยังหน้าด้านไร้ยางอายวันวันเอาแต่ไปเฝ้ารัฐทายาทเซียวอยู่นั่น จะแต่งกับเขาเสียให้ได้ เห็นๆ อยู่ว่าจวนอ๋องเซียวไม่ยอมรับการหมั้นหมาย เจ้าคิดว่านางที่น่าอดสูเสียขนาดนี้ พอถูกรัฐทายาทเซียวถอนหมั้น ก็รู้สึกว่าเสียหน้า เลยต้องจับผู้ชายส่งๆ คนหนึ่งมาแ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 18

    ฟู่จาวหนิงพุ่งตัวไปยังประตูห้องฟืนที่มีไม้กระบองขัดไว้อยู่ ซัดตีไม้กระบองออก ยกเท้าถีบโครมเข้าไป "โครม!"ในห้องเก็บฟืนที่ดำมืดมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งพอดมเข้ากับกลิ่นนี้ สีหน้าฟู่จาวหนิงเองก็เปลี่ยนไ"ชิงอี!"ชิงอีพอเห็นนางเข้าไปซัดคนอย่างปราดเปรียวห้าวหาญก็ตกตะลึง ตอนนี้ได้ยินนางตะโกนเรียกจึงได้สติกลับมา รีบร้อนเดินตรงไปทางนี้ฟู่จาวหนิงคว้าโคมไฟที่แขวนอยู่ด้านนอกเดินเข้าไปที่มุมห้องฟืนมีคนนอนอยู๋คนหนึ่ง สวมเสื้อผ้าสีฟ้าเก่ามาก สองขากางเกงมีแต่เลือด เสื้อผ้าบนตัวยังขาดวิ่นหลายแห่ง นอนอยู่ที่นั่นราวกับเหมือนไม่มีลมหายใจ ไม่ขยับเขยื้อน"คุณหนู นี่คือท่านพี่หู่!"เสี่ยวเถาพอเห็นหู่จือเป็นเช่นนี้ น้ำตาก็ไหลร่วงลงมาหู่จือถูกพวกเขาตีจนตายแล้วหรือเปล่านะ?ฟู่จาวหนิงรีบเดินเข้ามา ยื่นมือเข้าไปแตะที่ต้นคอหู่จือ ถอนใจโล่งออกมา "เขายังมีชีวิตอยู่ ชิงอี รบกวนเจ้าแบกเขากลับไปที่พวกเราทางนั้นที""ขอรับ"ชิงอีไม่พูดอะไรมาก เดินเข้าไปทันที แบกหู่จือขึ้นหลัง รีบเดินออกไปด้านนอก บนขาของหู่จื่อเต็มไปด้วยเลือด เขาเองก็ไม่รังเกียจ แต่กลับยังถอนใจออกมาเสียงหนึ่ง ขาของเขาถูกตีจนหักไปแล้ว วัยหน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 19

    ฟู่จาวหนิงรีบเดินไปที่ข้างเตียงเขาทันที คุกเข่าลงมา กุมมือเขาไว้"ท่านปู่ ข้าอยู่ที่นี่"ผู้เฒ่าฟู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น แสงในดวงตาที่ยังดูโรยรา ค่อยๆ กลับมารวมกันลุงจงที่กำลังปาดน้ำตาอย่างน่าเวทนาตอนที่เห็นลูกชายพอเห็นท่านผู้เฒ่าได้สติกลับมาจริงๆ ก็ตื่นเต้นขึ้นมา"ท่านผู้เฒ่าฟื้นแล้วจริงๆ!"พวกเขาเดิมทีคิดว่าครั้งนี้ท่านผู้เฒ่าคงทนต่อไม่ไหวแล้ว ไม่คิดว่าคุณหนูจะช่วยเขากลับมาได้จริง!คุณหนูเก่งจริงๆ!"จาวหนิง เจ้า เจ้าเป็นอย่างที่อาสะใภ้พูดจริง จริงหรือ?" ผู้เฒ่าฟู่กุมมือของฟู่จาวหนิงไว้แน่นเขารู้สึกว่าในปากตนเองมีชิ้นโสมอยู่ รสโสมหวานชื่อทำให้เขาได้สติขึ้นมาหน่อย แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจเรื่องนี้แล้ว แค่อยากรุ้ว่าหลานสาวที่รักถูกจวนอ๋องเซียวถอนหมั้นแล้วจริงไหม"เซียว รัฐทายาทเซียวถอนหมั้นกับเจ้ากลางถนนจริงหรือ?"หลังจากผู้เฒ่าฟู่รีบร้อนถามประโยคนี้ก็ไอขึ้นมา เขาไอจนในคอหอยเหมือนมีกังหันกำลังหมุนอยู่ ฟังแล้วเหมือนที่ปอดเต็มไปด้วยรูอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ใจคนไม่วางใจขึ้นมาด้วยเช่นกันฟู่จาวหนิงรีบเข้าไปบีบง่ามนิ้วมือเขาทันที"ท่านปู่ ท่านไม่ต้องร้อนรน! ข้าไม่ใช่บอกกับท่านแล้วหรือ? ข้า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 20

    ฟู่จาวหนิงจึงเพิ่งรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนมาด้วยตนเองนางมองเห็นชิงอี ยังคิดว่าชิงอีมาแค่คนเดียวเสียอีก"ไม่ใช่บอกว่า ตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นพระชายาหรอกหรือ?"ฟู่จาวหนิ่งตอนนี้พอเจออ๋องเจวี้ยน ในใจก็กังวลขึ้นมา นางสะกดความคิดที่จะยื่นมือไปลูบผมลงไป บางทีอ๋องเจวี้ยนก่อนหน้านี้คงไม่ทันสังเกตถึงปิ่นปักผมกับกำไลของนางกระมังแล้วถ้าเกิดพบว่าในวันแต่งงานใหญ่นางเอาเครื่องประดับของจวนอ๋องเจวี้ยนไปจำนำล่ะก็ คงไม่รู้เลยว่าจะมองนางเช่นไรพรุ่งนี้ต้องขึ้นเขาจันทร์ลับฟ้า นางต้องขุดยาให้ดี กลับมาแล้วจะเอาไปขายแล้วไถ่ของทั้งสองชิ้นนั้นคืนมา"นายท่าน ม้าตัวนี้" ชิงอีเดินเข้ามาอย่างกระอักกระอ่วน "ข้านอยพามันกลับไปไม่ได้"เดิมทีคิดว่าฟู่จาวหนิงคงจะต้องขึ้นรถม้ากลับไปกับท่านอ๋องแน่ แล้วม้าตัวนั้นเขาต้องพากลับไป ผลลัพธ์คือพอเขาเตรียมจะเข้าใกล้ม้าตัวนั้น ม้าตัวนั้นก็พ่นลม ก้าวเดินอย่างฮึดฮัด ดูแล้วเหมือนจะพัดถีบเขาได้ตลอดเวลาชิงอีในใจทั้งตกตะลึงและจำใจม้าตัวนี้ทำไมจึงยอมให้คุณหนูฟู่ขี่กัน ไม่มีอานม้า แต่นางก็ยังควบทะยานจากจวนอ๋องเจวี้ยนกลับมาบ้านตระกูลฟู่ได้ราวกับสายลมอ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิง สา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 21

    เซียวชิงซานคิดแทนรุ่นหลังคนนี้อย่างจริงใจ"นั่นมันคำเหลวไหลทั้งเพ" อ๋องเซียวพอเห็นเขากราดด่าลูกชายตนเองเช่นนี้ ก็รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาพอควร "ท่านลุงตอนนั้นยังไม่ยอมเห็นด้วยกับหญิงชราตระกูลฟู่ที่จะให้เหยียนเซียวกับหลานสาวของนางหมั้นหมายกันอยู่เลย แล้วตอนนี้ตระกูลฟู่ตกต่ำลง สภาพบ้านเช่นนั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรกับพวกเขาอยู่แล้ว"พอเขาได้ยินเรื่องวันนี้ ก็รู้สึกโกรธแค้นต่อฟู่จาวหนิงอย่างมากจวนชินอ๋องเซียวต้องมาถูกคนหัวเราะเยาะก็เพราะนางตระกูลฟู่ตอนนี้เป็นเหมือนตะวันจะลับเขาแล้ว ฟู่จาวหนิงไม่รู้อะไรเสียเลยจริงๆ"ใช่แล้วท่านปู่ หรือท่านไม่หวังให้ข้าได้มีพระชายารัฐทายาทดีหรือไรกัน?" เซียวเหยียนจิ่งก็เต้นเร่าขึ้นมา เนื้อตัวก็ยังเจ็บอยู่ เขาดูไม่เลือกคำพูดขึ้นมาเสียแล้ว "ท่านปู่เองตอนวัยหนุ่มก็ไม่ใช่เพราะช่วงเวลาหนึ่งกับฮูหยินตระกูลฟู่...""เซียวเหยียนจิ่ง!"ฟู่ชิงซานเดือดดาล ตะคอกขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อเขาในฐานะที่เด็กกว่า แต่กลับกล้าหยิบเรื่องนี้มาเย้ยหยันเขาสงสัยเขาหรือ?"ท่านลุง เหยียนจิ่งวันนี้เองก็ได้รับบาดเจ็บ ข้าให้คนไปเชิญหมอเทวดาหลี่มาดูเขาแล้ว แต่หลังจากท่านเข้ามาก้ไม่เห็นพู

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 22

    "จี๊ด!""อ๊า" หงจั๋วตกใจสะดุ้งโหยง แต่ก็ยังกรีดร้องไปด้วยพลางโบกตะเกียงไปทางหนตัวนั้นด้วยนางปกป้องฟู่จาวหนิงด้วยสัญชาตญาณพอเห็นข้อมือฟู่จาวหนิงขยับ เข็มเล่มหนึ่งก็พุ่งไปทางหนูตัวนั้น"จี๊ด!"หนูร้องขึ้นมาเสียงหนึ่ง ชักกระตุกอยู่บนพื้นครู่หนึ่งก็แน่นิ่งไปฟู่จาวหนิงยื่นมือไปตบบ่าของหงจั๋ว "ไม่ต้องกลัว"หงจั๋วมองนางอย่างตะลึงงัน ปลายจมูกร้อนขึ้นมาฮือๆ คุณหนูฟู่ดีจังเลย คุณหนูฟู่ความสามารถยอดเยี่ยมจริงๆ!ตะเกียงเพิ่งถูกนางสะบัดไปทางหนู ร่วงอยู่บนพื้น ไส้ตะเกียงด้านในลุกติดขึ้นมา เผาตัวตะเกียงกระดาษจนทะลุไปแล้ว วัชพืชทางนั้นเองก็ถูกเผาไหม้ขึ้นมาเช่นกัน ชั่วขณะหนึ่งเปลวไฟก็ส่องสว่างตัวเรือนที่มืดมิดขึ้นเฝิ่นซิงถือกระถางใส่น้ำรีบวิ่งเข้ามา สาดไปบนเปลวไฟ เสียงชี่ดังขึ้น เปลวไฟถูกดับ ควันดำลอยขึ้น กลิ่นค่อนข้างแย่"คุณหนูฟู่ ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?"ฟู่จาวหนิงสั่นหัว "ไม่เป็นไร"นางยกเท้าเดินตรงเข้าไปในห้อง ห้องหลักนี้แบ่งเป็นด้านในและนอกสองห้อง ถูกกั้นแยกด้วย ประตูโค้งครึ่งวงกลมบานหนึ่ง ด้านบนประตูโค้งเดิมทีแขวนผ้าม่านไว้ แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า ยืนที่ประตูสามารถกวาดมองเข้าไปเห็น

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1676

    เศรษฐีฟางดีใจมาก ฟู่จิ้นเชินชมลูกสาวตนเองเช่นนี้ เขาเองก็รู้สึกว่าเขาก็เป็นคนดี "คุณชายฟู่ พระชายาอ๋องเจวี้ยนเองก็เป็นคนดีมาก ท่านกับฮูหยินฟู่หลังจากนี้ก็ดีกับนางหน่อยล่ะ เด็กคนนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ""แน่นอน"ยังดีที่ฝนไม่ได้ตกนานมาก พวกเขาคุยกันครู่หนึ่ง ฝนก็หยุดแล้วพวกเขาจึงรีบเดินทางต่อหลังจากนั้นสองชั่วยาม ตอนที่ราตรีเข้ามาก็มาถึงจุดพักม้าแห่งหนึ่ง ใช้ค้างแรมได้"ก่อนหน้านี้ส่งคนเข้ามาแจ้งช่วงเวลาที่น่าจะมาถึง พวกเขาก็น่าจะเตรียมข้าวปลาอาหารไว้แล้ว คุณชายฟู่ พระชายา พวกท่านไปล้างหน้าล้างตากันก่อน อีกเดี๋ยวค่อยลงมาท่านข้าวเถอะ" อันเหนียนเอ่ยขึ้น"ได้" ฟู่จาวหนิงรับขึ้นมาเสียงหนึ่ง"คุณหนู" เสี่ยวเยว่ที่แต่งเป็นเชายเดินเข้ามา "ข้าไปเตรียมน้ำให้ท่านนะ""เสี่ยวเยว่?"ฟู่จาวหนิงมองฟู่จิ้นเชิน เสี่ยวเยว่เดิมทีอยู่ที่บ้านตระกูลฟู่ นางเองก็ไม่ได้เอาสาวใช้มาที่เมืองเจ้อด้วย คิดไม่ถึงว่านางจะตามมาแล้ว"ให้นางติดตามไปเถิด ข้างกายเจ้ามีสาวใช้อยู่บ้างก็ดูสะดวกดี" ฟู่จิ้นเชินทักมาคนก็ตามมาแล้วด้วย จะทำอย่างไรได้อีกกัน?ฟู่จิ้นเชินเสริมขึ้นมาอีกคำหนึ่ง "นี่เป็นความต้องการของอ๋องเจวี้ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1675

    อันเหนียนยื่นมือไปประคองฟู่จาวหนิง แต่เขาเพิ่งยื่นมือออกไป ตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้ากับเสียงฟางซือฉิงด้านหลัง สีหน้าก็จริงจังขึ้นมา หดมือกลับไปเขาเอียงตัว ให้ฟางซือฉิงผ่านเข้าไปจากนั้นก็ส่งสายตากับฟู่จิ้นเชิน"คุณชายฟู่ เข้าไปในวัดหลบฝนก่อนเถิด" อันเหนียนเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนโยน"เชิญท่านผู้ตรวจการอัน"ฟู่จิ้นเชินส่งร่มให้ฟู่จาวหนิง ส่วนตนเองก็เข้าไปในร่มของอันเหนียนฟู่จาวหนิงกางร่ม กระโดดลงมาจากรถม้า ยื่นร่มไปกางบนหัวฟางซือฉิง "ทำไมถึงวิ่งมาที่นี่ล่ะ? ระวังเปียก""จาวหนิง" ฟางซือฉิงใช้ศอกสะกิดนาง จากนั้นมองไปทางอันเหนียน ประชิดตัวนางเอ่ยขึ้นเบาๆ "ผู้ตรวจการชิงนี่อ่อนโยนดีจัง"ภาพที่อันเหนียนกางร่ม แล้วยื่นมือไปหาฟู่จาวหนิงนั่น น่าดูจริงๆแต่นางก็กล้าคิดแค่ในใจ ไม่กล้าพูดออกมาแค่คิดเช่นนั้นก็รู้สึกผิดต่ออ๋องเจวี้ยนแล้วฟู่จาวหนิงตีนาง "ผู้ตรวจการอันโอ่นโยนกับองค์หญิงหนานฉือมากกว่าอีก""อืมอืม"ฟางซือฉินเองก็ไม่กล้าพูดมากกว่านี้"พระชายา รีบเดินเร็ว" ฮูหยินฟางกวักมือหาพวกนาง "ซือฉิงเด็กคนนี้นี่ อายุตั้งเท่าไรแล้ว ยังจะกระโดดโลดเต้นแบบนี้อีก"ยืนรออยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว จะวิ่งแจ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1674

    ด้านนอกรถม้าจู่ๆ มีเสียงเคาะเปาะแปะ และถี่มากฝนตกแล้วเม็ดฝนค่อนข้างใหญ่ แรงที่กระทบตัวรถม้าไม่เบาเลยเสียงพูดคุยด้านนอกก็ดังเพิ่มขึ้นมา พวกเขาล้วนตะโกนให้เร่งความเร็ว วิ่งตรงไปอีกหน่อย ลองดูว่าข้างหน้ามีจุดให้หลบฝนบ้างไหมสองฟากฝั่งถนนทางการก็โล่งโจ้ง ไม่มีต้นไม้ไม่มีเพิ่งน้ำชา ชั่วขณะหนึ่งยังหาที่หลบฝนไม่ได้หิมะแม้จะละลายไปมากแล้ว แต่ตอนนี้พอฝนตกถนนก็เป็นดินโคลนและยังเปียกลื่นด้วยพวกเขานำของมาไม่น้อย หากพลิกคว่ำไปจะสกปรกเอา"ตอนนี้ทำไมมีฝนตกได้เนี่ย?"สืออีที่ขี่ม้าอยู่ด้านนอกก็พูดกับสือซานขึ้นมา"อากาศช่วงครึ่งปีนี้เดิมทีก็ประหลาดอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะมีผู้ประสบภัยตั้งมากมายได้อย่างไร" สือซานถอนใจ "ไม่เช่นนั้นผู้คนจะพูดหรือว่าดวงชะตาของแคว้นเจาเดินมาถึงปลายทางแล้ว?"ดวงชะตาเดินถึงปลายทางแล้ว เช่นนั้นก็อาจจะเกิดภัยธรรมชาติหรือหายนะจากมนุษย์ได้สินะ?ถึงอย่างไรสถานที่ต่างๆ ก็ล้วนประสับภัยกัน พวกเขาทางนี้จู่ๆ ฝนตกหนักก็เหมือนจะไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร"อย่าพูดจาไร้สาระ รีบเร่งเดินทางเถอะ เพิ่มความระมัดระวังด้วย" สืออีตะคอกขึ้นมาคนตระกูลฟางที่รออยู่ในวัดภูเขาแห่งหนึ่งด้าน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1673

    ฟู่จาวหนิงในเมื่อถามขึ้นมาแล้ว เขาจึงบอกกับนางอย่างตั้งใจ"ยังมีอีกเรื่อง ข้าอยากจะเปิดโรงศึกษา ไปเป็นอาจารย์"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเขาอยากเป็นอาจารย์สอนหนังสือด้วย"อันที่จริงตอนนั้นถ้าหากข้าไม่ได้ออกไป ข้าก็เกือบได้เดินในสองเส้นทางนี้แล้ว ถ้าหากสอบติดขั้นสูง ก็เข้าวังเป็นข้าราชการ ถ้าหากสอบไม่ผ่าน ก็จะทำโรงศึกษาเพื่อสอนผู้คน"ฟู่จิ้นเชินยิ้มๆ นั่งลงให้สบายอีกหน่อยท่าทางของเขาดูมีรสนิยมอย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่ก็ยังดูดีมีเสน่ห์กว่าคนหนุ่มสาวเสียอีก"แต่ว่า เรื่องเหล่านี้มันก็เป็นแค่ความฝัน"คำพูดฟู่จิ้นเชินหักเปลี่ยน มองฟู่จาวหนิง "ข้าไม่รีบร้อนตั้งเป้าหมายอะไรให้ตนเอง เพราะข้ายังรู้สึกได้รางๆ ว่าช่วงสองปีนี้สำหรับแคว้นเจาของพวกเราแล้ว อยู่ในจุดเปลี่ยนที่ยากจะคาดเดา""หมายความว่าอย่างไรหรือ?"ฟู่จาวหนิงนั่งตัวตรง"องค์จักรพรรดิไม่ยอมรับอ๋องเจวี้ยน"นี่คือความจริง แต่ที่ทำให้ฟู่จิ้นเชินพูดออกมาตรงๆ ฟู่จาวหนิงเองก็ยังรู้สึกหดหู่ขึ้นมาบ้าง"ใช่ไหมล่ะ? ท่านว่าทำไมองค์จักรพรรดิถึงได้ใจแคบนักนะ? อันที่จริงเซียวหลันยวนไม่ได้คิดจะนั่งตำแหน่งนั้นด้วยซ้ำ แต่องค์

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1672

    ในเดือนหนึ่ง แถบเมืองหลวงมีฝนตกน้อยมาก น่าจะต้องรอจนถึงเดือนสองแต่ว่าตอนนี้ฟ้าจู่ๆ ก็มืดลง หม่นๆ มืดครึ้ม เหมือนฝนจะตกกลุ่มนี้ของพวกขเายังไม่มีไปรวมกับขบวนพ่อค้าของตระกูลฟาง ยังต้องเดินอีกระยะหนึ่ง ขบวนพ่อค้าตระกูลฟางรอพวกเขาอยู่ที่ริมทางด้านหน้าหลังจากรวมกันต้องเร่งระยะทางอีกครึ่งวันจึงจะไปถึงสถานที่ที่เหมาะจะพักแรม แต่ถ้าถูกฝนนี้ทำให้ล่าช้า พวกเขาคืนนี้คงจะไปกันไม่ถึง แล้วต้องเดินทางกันตลอดทั้งคืน"ไปบอกพระชายาหน่อย พวกเราต้องเพิ่มความเร็ว"อันเหนียนกลัวว่าจู่ๆ ถ้าเพิ่มความเร็วขึ้น ฟู่จาวหนิงจะสงสัย ดังนั้นจึงต้องให้คนไปแจ้งนางหน่อย"่ขอรับ"อันเหนียนครั้งนี้พาผู้ติดตามมาสองคน คนหนึ่งชื่อเสี่ยวเจียง อีกคนหนึ่งชื่อเสี่ยวเจิ้งทั้งสองคนดูแล้วฉลาดเฉลียวคล่องแคล่ว เสียวเจียงพอได้ยินคำพูดของอันเนหียน ก็รีบวิ่งไปทางรถม้าของฟู่จาวหนิง เคาะๆ กำแพงรถม้าเสียก่อน"พระชายา ท้องฟ้าดูไม่ดีเลย เหมือนฝนกำลังจะตก ใต้เท้าของข้าบอกว่าต้องเร่งความเร็วเดินทาง รถม้าอาจจะเขย่าหน่อย พระชายาโปรดให้อภัยด้วย"ฟู่จาวหนิงเลิกม่านออก พอเห็นเสี่ยวเจียง ก็มองไปยังท้องฟ้า พยักหน้าให้"เข้าใจแล้ว"เสี่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1671

    "เซียวหลันยวนรับปากแล้วว่าจะปกป้องเสี่ยวเฟย เช่นนั้นเขาจะไม่เกิดเรื่องอะไร"ฟู่จิ้นเชินเทน้ำให้ตนเองบ้าง ดื่มลงไปสองอึก ถึงหัวเราะเบาๆ มองฟู่จาวหนิง"เชื่อเขาขนาดนั้นเลยหรือ?""เชื่อสิ""เล่าเรื่องพวกเจ้าให้ข้าฟังบ้างสิ" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นมาตามสถานการณ์ฟู่จาวหนิงชะงักไป "เล่าอะไรล่ะ?""ข้ารู้คร่าวๆ ว่าพวกเจ้าเจอกันได้อย่างไร แต่งงานกันอย่างไร แต่เกิดเรื่องอะไรที่ทำให้เจ้าเชื่อใจเขาขนาดนี้ พวกนี้ไม่รู้เลย"น่าจะเพราะน้ำเสียงฟู่จิ้นเชินดูจริงใจ อยากจะรู้เรื่องราวของนางจริงๆ และเพราะเนื่องจากเพิ่งจะพูดเรื่องเฉพาะทางไปมากมาย ทำให้นางอยากจะคุยเรื่องอื่นบ้าง ฟู่จาวหนิงก็เลยเล่าออกมาจริงๆนางกับเซียวหลันยวนเหมือนจะผ่านเรื่องมาไม่น้อยเลย แต่เวลาที่ทั้งสองคนได้เปิดใจคุยกันก็ไม่นานนักแต่พวกเขาก็ผ่านความเป็นความตายด้วยกันมาไปเขาอวี้เหิงครั้งนั้น เซียวหลันยวนเกือบจะตายไปแล้วตอนที่นางถูกผู้บัญชาการกองธงมู่ที่ถูกลัทธิเทพทำลายล้างส่งมาจากต้าชื่อพาขึ้นไปบนภูเขาหิมะ เซียวหลันยวนก็หานางเจอแล้วช่วยนางไว้"อ๋องเจวี้ยนมาเจอกับเจ้า ไม่ใช่ว่าเขาก็โชคดีด้วยหรือ? ข้าได้ยินลุงเจ้าบอกว่า ถ้าไม่ม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1670

    ห้องขังนั้น ก็จริง...เก๋อมู่กวงเองก็ไม่สงสังจะว่าป เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่สู้กับโป๋จี แขนของโป๋จีก็มีแผลอยู่จริงๆ"ดูแผลเขาหน่อย ถ้ามันหนักนักก็ให้ยาห้ามเลือดเสีย" ก่อนที่จะสอบสวนชัดเจน จะให้โป๋จีตายไม่ได้ยิ่งไปกว่นั้นยังต้องให้เขาตอบคำถามอีก"ขอรับ"ผู้คุมไปดูบาดแผลของโป๋จี จากนั้นจึงเห็นสิ่งแปลกปลอมชิ้นหนึ่งแหลมออกมาชิงอีดูถึงตรงนี้ก็วางใจ จดหมายนั่นถูกพบแล้ว"รองแม่ทัพเก๋อ! ในแผลนี้ยัดของเอาไว้!" ผู้คุมร้องขึ้นมาเก๋อมู่กวงตื่นเต้นขึ้นทันที รีบเดินเข้าไปดู ตรวจสอบด้วยตนเอง ดึงม้วนกระดาษนั่นออกมา"จดหมาย! ที่แท้เขาก็ซ่อนจดหมายไว้ในแผล! ฮ่าๆๆ! เจ้านี่มันใจหาญเสียจริง!"แต่จะมีประโยชน์อะไร? พระเจ้ายืนอยู่ข้างเขา นี่ไง เขาก็พบแล้วไม่ใช่เรอะ!เก๋อมู่กวงลิงโลดขึ้นมา แม้จดหมายนั่นจะชุ่มไปด้วยเลือด แต่เขาก็ยังดีอกดีใจถ้าหากบนจดหมายมีคำว่าเฮ่อเหลียนเฟยสามคำ ไม่ว่าจะเขียนอะไรไว้ ขอแค่มีชื่อนี้ เขาก็จะเข้าวังทันที!อ๋องเจวี้ยนก็จะกำเริบเสิบสานไม่ได้อีก!"ฮ่าๆๆ! คิดจะหลบรอดสายตาข้าเรอะ! อย่าหวัง!"เก๋อมกวงลิงโลดขึ้นมา กางจดหมายออกพอจดหมายกางออก ตาของเขาก็ปูดขึ้นมานี่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1669

    เก๋อมู่กวงรู้สึกว่าต้องเรียกฟู่จาวหนิงออกมา เรื่องก็น่าจะง่ายขึ้นเขารู้สึกว่าด้วยท่วงท่าของตนเอง ทหารหยาบกร้านที่คุ้มครองชายแดนมาหลายปี จะทำให้ฟู่จาวหนิงต้องกลั้นหายใจไม่กล้าส่งเสียงดังได้ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเช่นนี้ ดังั้นจึงตบลงที่ต้นขา พูดคำพูดในใจตนเองออกมาราชองครักษ์ในที่สุดก็ทนฟังต่อไม่ได้ ทำลายจินตนาการของเขาขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่"รองแม่ทัพเก๋อ พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็กำเริบเสิบสานไม่แพ้กันเลย!""ชู่!"พอคนแรกร้องออกมา คนอื่นก็รีบชู่ใส่เขา เป็นสัญญาณว่าอย่าพูดเสียงดังนักถ้าอ๋องเจวี้ยนได้ยินเข้า ต้องมาหาเรื่องพวกเขาแน่"อ๋องเจวี้ยนปกป้องพระชายาแค่ไหนไม่รู้รึ?"เก๋อมู่กวงมองปฏิกิริยาพวกเขาแล้วก็ไม่อยากเชื่อ "ไม่ใช่สิ พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็แค่หญิงสาวอ่อนแอคนหนึ่ง กล้ากำเริบเสิบสานขนาดนั้นเชียวหรือ?""หญิงสาวอ่อนแอ?""รองแม่ทัพเก๋ท่านเข้าใจอะไรผิดกับหญิงสาวอ่อนแอหรือเปล่า?""ใช่ ข้ารู้ว่านางเป็นหมอเทวดา วิชารักษาเก่งเกินใคร แต่นี่มันอาจจะมีส่วนที่เกินจริงหน่อยไหม? ถ้าหากคุยโม้ออกมาโดยอ้างชื่อเสียงของพระชายาอ๋องเจวี้ยน ใช้วิธีการบางอย่างเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ เช่นนั้นกระทั่งวิชา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1668

    พวกเขารู้สึกว่านี่ถึงจะเป็นสายเลือดแท้จริงของเผ่าเฮ่อเหลียน ดังนั้นคนที่มีดวงตาสีนี้ถึงจะได้รับความสำคัญและได้รับความเชื่อถือที่ราชาเฮ่อเหลียนก่อนหน้านี้ค่อนข้างปล่อยปละฟู่จาวเฟย ไม่ได้คิดจะชุบเขาให้มาสืบทอดต่อแต่เนิ่นๆ ก็เพราะฟู่จาวเฟยไม่มีดวงตาเช่นนี้เก๋อมู่กวงก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจุดนี้เลย จนเซียวหลันยวนทักขึ้นมา เขาจึงเพิ่งนึกออกเหมือนจะเป็นเช่นนี้จริง!เขาที่เขาสังเกตเห็นโป๋จีระหว่าง อันที่จริงก็เพราะดวงตาเขาไม่เช่นนั้นโป๋จีที่แตี่งตัวเป็นประชาชนแคว้นเจาธรรมดา เขาจะมองออกได้อย่างไร"ไม่มีอะไรพูดแล้วหรือ?"เก๋อมู่กวงปากขยับ หันกลับมาเหลือบมองราชองครักษ์ที่ไม่กล้าขึ้นหน้า ในใจจู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงขึ้นมาวันนี้ถ้าคิดจะดึงดันเอาตัวฟู่จาวเฟยกลับไป ดูท่านจะยากเสียแล้ว"แต่ไม่ว่าอย่างไร ฟู่จาวเฟยก็ยังเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ ดังนั้นข้าต้องพาเขาไปสอบสวน ให้เขากับโป๋จีเผชิญหน้ากัน ถ้าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์จริง ข้าก็จะปล่อยคนทันที"เก๋อมู่กวงเจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน กัดเหงือก เอ่ยต่อว่า "ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนยังไม่วางใจ จะส่งคนไปตรวจสอบตามไปตรวจสอบก้ได้ พวกเรา พวกเราไม่ลงโทษนอกกฏหมายอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status