คนในวังล้วนไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงผ่านไปได้ด้วยดีด้านนอกจวนอ๋อง ราชองครักษ์รออยู่แล้ว มากันนับสิบคน ล้วนขี่ม้ากำยำ คาดดาบยาว สีหน้าเคร่งขรึมกันหมดท่าทางเช่นนี้ อย่างกับกลัวว่านางจะหนีอย่างไรอย่างนั้นฟ้าของเดือนเก้า ช่วงเช้าตรู่ก็หนาวเย็นเอาเรื่อง"เตรียมตัวเสร็จแล้วหรือ? ฮองเฮารับสั่งมา จากที่นี่ไปยังเขาจันทร์ลับฟ้าค่อนข้างไกล จึงไม่อยากให้คุณหนูฟู่ต้องเสียเวลา รีบออกเดินทางให้เช้าที่สุด"ราชองครักษ์ที่พูดคิ้วหนาดกดำ เห็นชัดถึงความโหดเหี้ยม พูดจาด้วยยากอะไรแบบนั้นตอนที่พูดประโยคนี้เขาก็พิจารณาตัวฟู่จาวหนิงไปด้วยชิงอีพูดกับฟู่จาวหนิงว่า "นี่คือรองขุนพลหลิว"ฟู่จาวหนิงหันหน้ากลับไปทางจวนอ๋อง ชิงอีเข้าใจความหมายของนางผิด พอคิดๆ ก็อธิบายออกมาว่า "ท่านอ๋องจะไม่ออกมาหรอก"เขาคิดว่านางกำลังรออ๋องเจวี้ยนออกมาส่งนาง?ฟู่จาวหนิงรู้สึกน่าขัน"คุณหนูฟู่ รีบเดินทางเถิด รถม้าเตรียมไว้ให้เจ้าแล้ว อย่าชักช้ายืดยาด พวกเข้าเองก็ไม่ได้ว่างขนาดนั้น" รองขุนพลหลิวเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเย็นชาฟู่จาวหนิงจึงเพิ่งเห็นรถม้าเบื้องหน้า นี่ไม่ใช่รถม้าของในวังแน่ และไม่รู้ว่าไปขอยืมชั่วคราวมาจากไหน รถม้าคั
"ฟู่จาวหนิงขวางรถม้าของข้า ข้าเองก็อยากจะได้พระชายาคนหนึ่งจริงๆ เห็นว่านางใจกล้าบ้าบิ่น แล้วยังบอกว่ามีวิชาหมอ ก็เลยรับนางไว้"อ๋องเจวี้ยนสายตาตกอยู่บนกระดาษบนโต๊ะ ตอนที่เขาพูด ในมือก็ยังไม่หยุดเขียนพู่กันลายมือของเขาอ่อนช้อยงดงาม เฉียบขาดเปล่งประกายคม"หลังจากรับปาก ข้าจึงรู้ว่านางก็คือลูกของตระกูลฟู่ในอดีตครั้งนั้น"ผู้ดูแลยังไม่ทันตั้งตัวติด "เช่นนั้นท่านอ๋องทำไมจึงยอมรับนางกันเล่า?"อ๋องเจวี้ยนเผยรอยยิ้มเย็นชา"เพราะอะไรน่ะหรือ? พวกเขาจนป่านนี้ก็ยังไม่โผล่ออกมา ก่อนหน้าที่จะหาพวกเขาเจอ ข้าจะรีดนาทาเร้นจากตัวลูกสาวพวกเขาเสียก่อนไม่ได้หรือ?"จะว่าไป ถ้าหากฟู่อวิ๋นชงกับหลินหรงหลันกลับมา แล้วพบว่าลูกสาวพวกเขาแต่งงานกับเขาล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะมีปฏิกิริยากันอย่างไรตอนนี้พอคิดถึงสถานการณ์ตอนนั้น เขาก็รู้สึกเฝ้ารอขึ้นมาผู้ดูแลอ้าปากพงาบ อยากจะพูดว่า เรื่องในตอนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับคุณหนูฟู่เลย ตอนนั้นคุณหนูฟู่ก็เป็นแค่เด็กทารกยังไม่ครบขวบปีด้วยซ้ำ นางจะไปรู้เรื่องอะไร?แต่ตอนนี้เอง อ๋องเจวี้ยนก็ไอขึ้นอย่างรุนแรงยิ่งไปกว่านั้นยังไอจนกระอักเลือดอีก"ท่านอ๋อง!"ชิงอีกลับมาพอเห็นสถ
ตอนนี้ผู้หญิงตัวหนักขนาดนี้กันแล้วหรือ?"คุณหนูฟู่ยังไม่!รีบ!ออกไปอีก!"รองขุนพลหลิวหน้าผากเหงื่อผุด ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันฟู่จาวหนิงก็ทำเป็นเชื่องช้า ซ้ำยังกระพริบตาปริบ ผ่านไปพักหนึ่งจึงทำท่าเข้าใจขึ้นมา รีบถอยออกไปข้างๆ "อ๊ะ ขอโทษด้วย เกือบจะลืมไป"เรื่องนี้มันลืมกันได้ด้วยหรือ!ฟู่จาวหนิงหันหน้าไปมองภูเขาตรงหน้า เขาสูงใหญ่ตระการตา ทิวภาพทัศนียสวยสด มองไกลออกไปยังเห็นใบไม้เหลืองต้นไม้สีแดง สีเขียวนานาก็ถูแต่งแต้มทาไว้เบาบางเช่นกัน ทับซ้อนสลับเป็นชั้นๆ งดงามเสียเหลือเกินป่าเขาเช่นนี้ น่าจะเป็นสถานที่ที่มีปุ๋ยและน้ำอุดมสมบูรณ์ดวงตาของนางเป็นประกาย เดาได้เลยว่าในภูเขานี้จะต้องได้อะไรมาบ้างแน่นอน"ที่นี่คือเขาจันทร์ลับฟ้าหรือ?"ถูกต้อง คุณหนูฟู่อย่าได้ชักช้าเลย ตอนนี้รีบขึ้นเขาเถิด พวกเราจะตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นี่ สามวันถัดจากนี้ คุณหนูฟู่ต้องออกมาทางนี้รองขุนพลหลิวสะกดอาการกอดเท้ากระโดดเหยงเอาไว้เจ็บชมัด"ไม่ส่งคนตามข้าเข้าไปหรือ?" ฟู่จาวหนิงถาม"ไม่จำเป็น พวกเราอยู่ที่นี่คอยคุ้มกันทางเข้าออกภูเขาไว้ ในสามวันนี้ถ้ามีคนเข้ามาพวกเราจะเข้าขวาง นี่ก็เพื่อตัวคุณหนูฟู่เอง จะได้ไ
ฟู่จาวหนิงหันตัวกลับมา วางตะกร้าหลังลงอย่างไม่ลนลานจากป่าที่ไม่ไกลนักมีชายหนุ่มหลายคนเดินออกมาคนที่พูดเมื่อครู่เป็นคนปากแหลมหน้าตอบ และชายหนุ่มคนสุดท้ายที่เดินออกมากลับเป็นคนร่างใหญ่กำยำพวกเขาพอเห็นหน้าของฟู่จาวหนิงก็ล้วนมีสีหน้าตะลึงในความงาม"หญิงสาวคนนี้หน้าตาดีเสียเหลือเกิน พี่ใหญ่ อาสะใภ้ไม่ใช่เอาแต่เร่งให้ท่านหาลูกสะใภ้หรอกหรือ? จับนางกลับไป ท่านก็มีภรรยาแล้ว อาสะใภ้จะได้ตายตาหลับ"ชายหนุ่มดำเตี้ยคนหนึ่งเอ่ยขึ้นกับชายร่างกำยำ คนอื่นเองก็ทยอยกันขานรับ"เถี่ยจู้พูดถูก!""ข้าว่าได้อยู่!""เอาตามนี้เลย!"ฟู่จาวหนิงรู้สึกน่าขัน เอ่ยขึ้นตัดบทพวกเขา "พวกเจ้ากำลังพูดถึงข้าหรือ?""เอ๊ะ หญิงสาวคนนี้กล้าไม่เลวเลย เห็นพวกพราแต่กลับไม่กลัว ซ้ำยังกล้าพูดกับพวกเราด้วย!" ชายปากแหลมหน้าตอบรู้สึกแปลกใจมาก"ข้าจะข้ามสะพาน พวกเจ้าถ้าหากคิดจะทะเลาะล่ะก็ไวไวหน่อย ถ้าไม่อยากทะเลาะก็รีบๆ ไสหัวไป" ฟู่จาวหนิงเชิดคางขึ้นชายหนุ่มหลายคนนั้นเดือดขึ้นมาทันที ทยอยกันถกแขนเสื้อขึ้น"ข้าทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ขนาดพวกผู้หญิงก็ยังกล้ามาต่อปากต่อคำกับพวกเราแล้วหรือ?""ก่อนหน้าที่นางจะมาเป็นสะใภ้ใหญ่ของ
พี่ใหญ่ได้พอได้ยินพวกเขาพูดเช่นนี้ก็กังวลขึ้นมา หมุนตัววิ่งกลับ "เช่นนั้นข้าจะกลับไปดูท่านแม่ก่อน! แม่นางเจ้ารีบไปเถิด เฮ่าจื่อ พวกเจ้าอย่ารังแกคนอื่นเชียว"พอเห็นเขาวิ่งไป เฮ่าจื่อรอจนเขาหายไปไม่เห็นเงา ก็สลับสายตาหันมาจ้องฟู่จาวหนิงเดินบีบเข้ามา"เฮ่าจื่อ แม่นางคนนี้หน้าตาสะสวยเหลือเกิน ผลักให้ตกไปตายคงเสียดายแย่ สู้พวกเรามาเล่นกับนางกันก่อนดีกว่าไหม" เถี่ยจู้มองฟู่จาวหนิง น้ำลายแทบจะไหลออกมาแล้ว"ข้าว่าได้อยู่" เฮ่าจื่อตอนนี้มองฟู่จาวหนิงก็รู้สึกใจคันยุบยิบ "ข้าก่อนไหม?"เขาก็เป็นเช่นเมื่อครู่นี้ เสียงยังไม่ทันขาดก็พุ่งเข้าหาฟู่จาวหนิง เพียงแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เข้าไปผลักนางแล้ว แต่เข้าไปกระชากแขนของนาง"ได้ เจ้าก่อน"ฟู่จาวหนิงยิ้มเย็นชา พลิกมือกลับมาจับข้อมือเขา ออกแรงสะบัดเขาไปทางหน้าผา"อ๊าๆๆ!"ใจของเฮ่าจื่อแทบจะตกใจจนระเบิดออก เขายังไม่ทันตั้งตัว ร่างกายก็ถูกสะบัดปลิวไปเหมือนว่าวสลับตำแหน่งกับตัวนาง ลอยว่อนไปพรืดเฮ่าจื่อล้มอยู่ที่ริมผา ร่างกายห้อยลงข้างล่าง ตกใจจนเขาคว้าสองมือมั่วซั่วกรีดร้องแหลม รีบร้อนจับก้อนหินที่ยื่นออกมาก้อนหนึ่งเอาไว้ หยุดการร่วงหล่นลงไปได้เล็ก
"ไม่ ไม่มี มีแค่พวกเรา""ถ้าไม่บอก ขาของเจ้าก็จะพิการแล้วนะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยเสียงเย็นชาเรื่องที่นางจะขึ้นเขาจันทร์ลับฟ้ามีคนเพียงส่วนน้อยที่รู้ คนเหล่านี้ถ้าไม่ใช่จากอ๋องเจวี้ยน ก็ต้องจากในวังนั่นล่ะ พวกเขาถึงหานักเลงหัวไม้ชั้นต่ำมาสร้างความอัปยศกับนางเลยหรือ"ข้าบอก ข้าบอกแล้ว" ฮุ่นฮุ่นกลัวว่าขาตัวเองจะพิการ นี่มันคุณหนูที่ไม่ได้เรื่องจากตระกูลฟู่ตรงไหนกัน นี่มันหญิงสาวดาวพิฆาตชัดๆ!"มีหญิงสาวคนหนึ่งมาหาพวกข้า บอกให้พวกเราวันนี้ขึ้นเขามาหาเจ้า ถ้าเล่นงานเจ้าให้ตายจะได้เงินสองร้อยตำลึง ถ้าหากทำให้ตายไม่ได้ ก็ ก็ให้ทำลายความบริสุทธิ์ของเจ้า เอาชั้นในเจ้ากลับไปก็จะให้แปดสิบตำลึง"ดังนั้น เฮ่าจื่อในตอนแรกเลยคิดจะเอาชีวิตนางสินะ ถึงอย่างไรทำนางตายก็ยังได้มากขึ้นยี่สิบตำลึง"นางมาจากจวนไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงออกแรงใต้เท้ามากขึ้น เจ็บปวดจนเขาร้องโหยหวน"ข้ารู้ข้ารู้ ดึงข้าขึ้นไปแล้วข้าจะบอกเจ้า!" เฮ่าจื่อที่ลอยเท้งเต้งอยู่ริมผาก็ส่งเสียงสั่นเรียกขึ้นมา เขาแทบจะจับไว้ไม่อยู่แล้วฟู่จาวหนิงไม่แม้แต่จะชายตามองเฮ่าจื่อคนนี้ความคิดชั่วร้าย วิธีการโหดเหี้ยมที่สุด เขาไม่คิดจะละเว้นไว้"รีบดึ
คนชุดดำสบตากันเองผาดหนึ่ง"แม่นางคนนั้นวิ่งเร็วขนาดนี้เลยหรือ?"พวกเขาเดิมทีคิดว่าหลังจากฟู่จาวหนิงขึ้นเขาจะเชื่องช้าอืดอาดเสียอีก ไม่คิดว่าตลอดทางกลับไม่พบตัวเลย ตอนนี้ก็เพิ่งรู้ว่านางข้ามสะพานไปแล้ว"แล้วพวกนี้จัดการอย่างไร?""คิดแล้วน่าจะมาหาเรื่องแม่นางคนนั้นแน่"หลายคนในนี้แลกเปลี่ยนสายตากัน มาเห็นพวกเขาแล้ว ใครจะรู้ว่าถ้าลงจากเขาไปจะถูกเปิดโปงอะไรออกมา สังหารทิ้งเสียก็จบเรื่องชายชุดแบ่งเป็นหนึ่งคนต่อหนึ่งคน จัดการเตะพวกเถี่ยจู้ออกไป"อ๊า!"เสียงกรีดร้องดังก้องป่าเขาฟู่จาวหนิงได้ยินเสียงกรีดร้องรางๆ นางหยุดเท้าลง ขมวดคิ้วทิศทางนั้นคือข้างๆ สะพานแขวน^ถ้าหากไม่ใช่พบกับอันตรายที่เข้ามาทำร้ายตัว คนเหล่านั้นคงไม่กรีดร้องน่าเวทนาเช่นนี้ มีคนเข้ามาอีกแล้วหรือ? ไล่ตามนางมาหรือ?นางก็แค่หญิงสาวตระกูลตกอับคนหนึ่ง ทำไมจึงขวางหูขวางตาคนนัก?ฟู่จาวหนิงพอเห็นข้างหน้ามีหญ้าที่ไม่สะดุดตาหลายกองอกอยู่ในร่องแตกร่องหนึ่ง นางก็ตาเป็นประกายนางต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อคุ้มครองตัวเองนางสาวเท้าออกไป หยิบเอาพลั่วเหล็กเล็กออกมาขุดหญ้าหลายกอนั่นออก ค้นหาของที่เหมาะสมออกมาจัดการบดยาหลายกอน
กระต่างป่าตัวหนึ่งถูกพลั่วเหล็กฟาดมื้อค่ำวันนี้ได้มาแล้วฟู่จาวหนิงไปเก็บกระต่ายตัวนี้ทันทีรอบๆ ไม่มีคน นางจึงหายตัวเข้าไปในห้องเภสัชกรรมอีกครั้งน่าเสียดายที่ในนี้เก็บยาไว้นิดเดียว ถ้ารู้ว่านางจะข้ามเวลามาแคว้นเจา รู้ว่าห้องเภสัชกรรมจะติดตามนางมาด้วยกัน นางคงจะยัดยาเอาไว้เต็มแล้วยังดีที่มีมีดผ่าตัดอยู่สองชุด อุปกรณ์ทำยาอยู่ครบทั้งหมด แล้วก็ยังมีของที่เอาไว้ช่วยชีวิตฉุกเฉินอยู่อีกไม่น้อยมีห้องเภสัชกรรมนี้อยู่ หลังจากนางหาสมุนไพรมาแล้วก็สามารถนำมากลั่นและสังเคราะห์ได้ในระดับกว้าง ประสิทธิภาพดีกว่าการต้มยาในปัจจุบันนี้เยอะ!ความมั่นใจที่จะช่วยชีวิตท่านปู่ของนางเพิ่มขึ้นมามากโขขอแค่ให้เวลานางหน่อย ขอแค่ให้นางหาตัวยาได้ครบถ้วนหญ้าสมุนไพรที่นางขุดออกมากอนี้ชื่อว่าหญ้าล้างประสาท นำมาใช้งานสะดวกมาก แค่นำมันมาอบให้แห้งจากนั้นบดเป็นผงก็ใช้ได้ฟู่จาวหนิงทำผงยาหญ้าล้างประสาทเสร็จ ก็รีบออกจากห้องเภสัชกรรมอย่างรวดเร็ว ค้นหาตัวยาต่อหุบจันทร์ลับนี้เป็นลานขุนทรัพย์ที่มีผลผลิตมากมายจริงๆ หลังจากเดินมาครึ่งชั่วยาม ฟู่จาวหนิงก็ขุดยามาได้อีกสองชนิดตอนนี้เองนางได้ยินเสียงน้ำ เสียงที่ได้