แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
ไม่มีใครรู้ว่าไท่ซ่างหวงทำไมจึงกำหนดเงื่อนไขนี้ขึ้นมา

แต่ว่าตอนนี้ฮองเฮากลับรู้สึกว่าเงื่อนไขนี้กำหนดมาได้ดี ตระกูลฟู่ไม่มีใครสักคนที่เรียนหมอ ฟู่จาวหนิงเองก็ช่วยปู่ของนางออกหาสมุนไพรตั้งแต่เล็ก แต่คนไม่น้อยในเมืองหลวงก็รู้ว่า นางนั้นโง่จะตาย จำตัวยาอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ต้องคอยให้หมอบอกให้ วาดรูปร่างให้ จากนั้นจึงให้นางขึ้นเขาไปค้นหา

แต่อย่างนี้หายากลับมาถูกหรือ?

ไม่เลยสักนิด

ฟู่จาวหนิงมักจะขุดกลับมากองหนึ่ง ส่งให้ท่านหมอช่วยดูให้ ว่าในกองนั้นหาอะไรมาถูกต้องบ้าง

นางยังเคยต้มยาผิดให้ผู้เฒ่าฟู่ด้วย

เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตลกขบขันที่เล่ากันไปทั่วเมืองหลวง เซียวเหยียนจิ่งเองก็รังเกียจฟู่จาวหนิงด้วยเหตุนี้ รู้สึกว่านางเป็นคนไม่ได้เรื่อง มีแต่จะทำให้คนขบขัน

การรับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟู่จาวหนิงมาเป็นภรรยา จะยิ่งทำให้เขาถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้

ฮองเฮาตอนนี้อยากจะหัวเราะร่าขึ้นมา

เงื่อนไขนี้ของไท่ซ่างหวงกำหนดออกมาได้ยอดเยี่ยมเสียจริง!

"ฮองเฮา ข้าเองก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว" ไทเฮาน้ำเสียงเย็นชา ดูเคืองหน่อยๆ "เจ้าในเมื่อจดจำได้ ก่อนหน้าที่กราบไหว้ฟ้าดินทำไมจึงไม่พูดออกมา? ตอนนี้แม่นางตระกูลฟูกลายเป็นภรรยาของอายวนไปแล้ว"

ฮองเฮาจงใจทำ!

นางถึงแม้ไม่คิดจะให้อ๋องเจวี้ยนตกแต่งเป็นฝั่งเป็นฝา แต่พอเห็นว่าเขากับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟู่จาวหนิงอยู่ด้วยกันแล้วน่าสนุกดี ยังทรมานฟู่จาวหนิงได้อีกสักหน่อย

ฮองเฮายิ้มขึ้นอย่างขอโทษ "ไทเฮา ข้าเองก็เพิ่งนึกออก ก่อนหน้านี้ก็ลืมไปเช่นกัน"

เชื่อก็บ้าแล้ว!

"บางทีคุณหนูฟู่อาจจะหาสิบตัวยากลับมาจากเขาจันทร์ลับฟ้าได้ก็เป็นได้? แต่ถ้าหาไม่พบล่ะก็" ฮองเฮายิ้มขึ้นมาอีก เหลือบมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง เหมือนว่าทำเพื่อตัวนางอย่างไรอย่างนั้น "เช่นนั้นอ๋องเจวี้ยนก็รับคุณหนูฟู่ไปเป็นอนุภรรยาก็ได้นี่"

คนทั้งหมดใจวาบสะพรึง

ฮองเฮาเหมือนจะดูยิ้มๆ แต่นี่กำลังฆ่าคนให้ตายอยู่เลยนะ!

คณหนูตระกูลฟู่เดิมทีแต่งงานจนกลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปแล้ว ตอนนี้คำพูดของฮองเฮาคือคิดจะให้นางต่ำต้อยลงไปเป็นอนุภรรยาหรือ!

อนุภรรยากับพระชายา ต่างกันราวฟ้ากับเหว

แต่ใครให้ฟู่จาวหนิงเดิมทีไม่มีคนให้พึ่งพากันล่ะ?

ซ่งหยวนหลินหัวเราะคิกคักขึ้นมา ปรบมือเอ่ยว่า "ความคิดนี้ของฮองเฮาดีมากจริงๆ !"

ถึงแม้นางจะไม่อยากเห็นว่ามีคนอยู่ข้างกายอ๋องเจวี้ยน แต่ก็แค่อนุภรรยาชั้นต่ำคนหนึ่งเท่านั้น นางไม่สนใจก็ได้! ยิ่งไปกว่านั้นอนุภรรยาแค่คนเดียว จากนี้จะเล่นงานให้ตายไม่ใช่ว่าง่ายเหมือนปอกกล้วยหรอกหรือ?

ฟู่จาวหนิงแม้จะสวมผ้าคลุมแดงอยู่ยังไม่เห็นฮองเฮา แต่ตอนนี้ในใจกลับทักทายฮองเฮาไปแล้วกว่าสิบแปดรอบ

อ๋องเจวี้ยนนี่น่าจะเป็นตัวยุ่งยากโดยแท้!

แต่มาถึงตอนนี้แล้วนางก็ไม่ได้ถอยหนี

คิดจะให้นางไปเป็นอนุภรรยาหรือ? ไม่มีทาง!

"ข้ารับปาก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงแจ่มชัด

อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว "ในเมื่อข้ากราบไหว้ฟ้าดินกับเจ้าแล้ว ไม่มีทางให้เจ้ากลายเป็นอนุภรรยาแน่"

"อายวน" องค์จักรพรรดิตัดบทเขา "นี่เป็นความประสงค์ของไท่ซ่างหวง เจ้าคิดจะฝ่าฝืนหรือ? ไท่ซ่างหวงรักเจ้ามากที่สุดเลยนะ"

อ๋องเจวี้ยนแอบกัดฟัน

พอเห็นว่าเขาไม่มีคำจะพูดทาน ฮองเอาก็เอ่ยขึ้นว่า "เช่นนี้ก็ตามนี้ พรุ่งนี้ในวังจะจัดคนไปส่งคุณหนูฟู่เข้าไปยังเขาจันทร์ลับฟ้า คุณหนูฟู่ เจ้าต้องเข้าไปคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้นตัวยาสิบชนิดนี้ อย่างน้อยต้องมีครึ่งหนึ่งที่มีสรรพคุณล้ำค่า ไม่ใช่พวกหญ้าสมุนไพรทั่วไปเหล่านั้น มีปัญหาไหม?"

ฟู่จาวหนิงยังไม่ทันตอบ ซ่งหยวนหลินก็แย่งนางพูดขึ้นมา "นี่คือโองการของไท่ซ๋างหวง บอกเอาไว้แต่เดิมว่าต้องขึ้นเขาหาตัวยา ถ้านางไม่ยอมรับ เช่นนั้นก็รีบไสหัวไปแต่เนิ่นๆ อย่าเอาแต่หลบอยู่ข้างกายท่านพี่หลันยวนอย่างไร้ยางอาย"

"ข้าไม่มีปัญหา" ฟู่จาวหนิงตอบ

"เช่นนั้นก็ดี วันนี้ให้เป็นวันมงคลของพวกเจ้าไปก่อนชั่วคราว ขอให้คุณหนูฟู่เสร็จสิ้นภารกิจค้นหาสิบตัวยาอย่างราบรื่น ครองตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนนี้อย่างมั่นคง" ฮองเฮาผ่อนคลายลงมาทันที

"ส่งพระชายากลับห้องหอ" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยกับหงจั๋วเฝิ่นซิง

"เพคะ"

ฟู่จาวหนิงถูกส่งไปยังห้องหอ เดิมทีงานแต่งงานนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว นางกลายเป็นพระชายาไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาถูกฮองเอาเล่นงานเช่นนี้ ตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนยังดูอันตรายอยู่

หงจั๋วกับเฝิ่นซิงสบตากัน ล้วนรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงน่าจะรู้สึกเสียใจและหวาดกลัวมาก

พวกนางในฐานะที่เป็นคนใช้ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร แต่ตอนนี้เอง จู่ๆ ฟู่จาวหนิงก็เอ่ยขึ้นว่า

"มีอะไรกินบ้างไหม? หาอะไรมาให้กินหน่อยสิ"

ฟู่จาวหนิงทนมาถึงตอนนี้ รู้สึกว่าตนเองใกล้จะหิวตายอยู่แล้ว

ก่อนหน้าที่นางจะข้ามมาคุณหนูฟู่เองน่าจะยังไม่ได้กินอะไร แล้วนางก็ยังโดนทรมานมาอีกครั้งครึ่งค่อนวัน หิวจนไส้กิ่วแล้ว

และเพราะหิวเกินไป นางจึงไม่มีแรงไปต่อปากต่อคำกับฮองเฮา

"ข้าน้อยจะไปนำอาหารมาให้พระชายาเดี๋ยวนี้" เฝิ่นซิงรีบหมุนตัวเดินออกไป

ฟู่จาวหนิงเองก็ปลดผ้าคลุมแดงลงมาจากหัว ถอนหายใจยาวออกมา

"พระชายา ไม่รอให้ท่านอ๋องมาเปิดผ้าคลุมก่อนหรือ?" หงจั๋วตกตะลึง

"ก่อนหน้ากราบไหว้ฟ้าดินเขาเลิกออกไปแล้วครั้งหนึ่ง" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ

นางมองไปรอบๆ ห้องหอนี้

ในห้องใหญ่มาก เตียงก็ใหญ่ดต สลักดอกไม้ห้องไข่มุก ผ้าห่มแดง ปักทอแดงทองเยวียนยางใบบัว ด้านบนยังโปรยถั่วลิสงพุทราแดงลำใยไว้อีก นางจึงคว้าเอาพุทราแดงสองเม็ดขึ้นมากิน

"ก็หวานดีนะ"

หงจั๋วอ้าปากพะงาบ พูดไม่ออกว่านั่นไม่ได้มีไว้กิน แต่พระชายาก็กินลงไปแล้ว

"หงจั๋วรู้เรื่องเขาจันทร์ลับฟ้าบ้างไหม?"

เขาจันทร์ลับฟ้า อันที่จริงคุณหนูฟู่เคยไปมาแล้ว แต่ว่าคุณหนูฟู่คนเดียวไม่กล้าเดินไปไกล เคยไปหายาที่ตีนเขาอยู่สองครั้ง ล้วนกลับมามือเปล่า

"ข้าน้อยรู้ เขาจันทร์ลับฟ้ามีเรื่องเล่าอยุ่มากมายเลย"

"ไม่เอาเรื่องเล่า แค่บอกว่าอันตรายหรือไม่ ปกติคนแบบไหนที่เข้าไปกัน"

"เพคะ"

"เขาจันทร์ลับฟ้าแบ่งออกเป็นสองส่วน เขาลูกนั้นตรงกลางมีหน้าผาขาดอยู่ร่องหนึ่ง แยกตัวภูเขาออกเป็นสองด้าน ด้านที่ใกล้กับเมืองหลวงถูกเรียกว่าเนินจันทร์เด่น ส่วนที่ลึกไปในภูเขาเรียกว่าหุบจันทร์ลับ เนินจันทร์เด่นทิวทัศน์งดงามมาก ดังนั้นช่วงที่อากาศดีจึงมีคนไม่น้อยไปเดินเล่น และยังมีพวกคนตัดไม้และนายพรานเข้าไปด้วย"

"แต่ว่าหุบจันทร์ลับนั้นมืดทึมกว่ามาก ด้านนั้นมีผาขาดคั่นไว้ดูอันตราย ดังนั้นปกติคนจึงไม่กล้าไปกัน"

ฟู่จาวหนิงหยิบถั่วลิสงจากบนเตียงขึ้นมาอีกบางส่วน โยนเข้าไปในปากทีละเม็ดๆ กินไปด้วยถามไปด้วย "แล้วหน้าผาขาดข้ามไปง่ายไหม"

"ไม่ยาก ระหว่างเนินจันทร์เด่นกับหุบจันทร์ลับมีสะพานแขวนแห่งหนึ่ง คนที่มีวรยุทธ์ข้ามไปได้สบาย แต่พระชายา"

หงจั๋วมองฟู่จาวหนิง กังวลขึ้นมา

"สะพานแขวนส่ายไปส่ายมา ไม่ได้บูรณะซ่อมแซมมาหลายปีแล้วแน่นอน คิดๆ แล้วก็น่าจะอันตรายมาก"

ฟู่จาวหนิงจะข้ามไปได้ไหม?

ปกติหญิงสาวพอเห็นสะพานแขวนนั่นก็ล้วนหวาดกลัวกันหมด อย่าว่าแต่ข้ามไปเลย เอาแค่มองก็คงขาอ่อนกันแล้ว

"แล้วทางเนินจันทร์เด่นมีคนเคยเก็บตัวยามาได้บ้างไหม?" ฟู่จาวหนิงอยากรู้จุดนี้

หงจั๋วคิดอยู่ครู่หนึ่ง "หมอในเมือง มีคนจนบางส่วนก็เข้าไปขุดตัวยามาขาย แต่ก็กล้าไปแค่เนินจันทร์เด่นเท่านั้น เหมือนจะขุดได้แค่สมุนไพรธรรมดาอย่างหญ้าดารากับหญ้าลิ้นงูเท่านั้น ไม่เคยได้ยินว่าขุดได้อย่างอื่น ชนิดเองก็ไม่มากเท่าไร "

เฝิ่นซิงรีบยกอาหารเข้ามา ไข่ไก่หวานชามหนึ่งกับลูกชิ้น ทำจากข้าวเหนียว ด้านในห่อเมล็ดถั่วลิสงไว้ หวานๆ เหนียวๆ อร่อยดี

"พระชายา ข้าน้อยไปหาข่าวจากคนของครัวหลังมาแล้ว พวกเขาบอกว่าเนินจันทร์เด่นทางนั้นต่อให้มีสมุนไพร แต่ก็ถูกคนกอบไปหมดแล้ว" เฝิ่นซิงรีบพูดขึ้นมา

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 10

    "คิดจะไปเนินจันทร์เด่นค้นหาตัวยาสิบชนิดไม่น่าจะเป็นไปได้เสียแล้ว"ฟู่จาวหนิงส่ายหัวถอนหายใจ"ผิดแผน ผิดแผน"นางคิดไม่ถึงเลยว่าการเลือกอ๋องเจวี้ยน พอแต่งงานด้วยแล้วจะเจอเรื่องยุ่งยากขนาดนี้ แต่ว่าพอคิดไปถึงผู้เฒ่าฟู่ นางก็ตั้งสติใหม่ขึ้นมาก็แค่หาตัวยาเองไม่ใช่หรือ?ต่อให้ไม่มีเงื่อนไขนี้ นางก็ยังต้องออกไปหายาอยู่ดี สถานการณ์ตระกูลฟู่ตอนนี้ลำบากยากแค้นมาก ที่บ้านไม่เหลือเงินอีกแล้ว คิดจะซื้อยามาก็สิ้นเปลือง ถ้าหากเขาจันทร์ลับฟ้าทางนั้นมีตัวยา นางไปขุดมาไม่ต้องใช้เงินไม่ดีกว่าหรือ?พอคิดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ใจเย็นลงมา"ลูกชิ้นนี้อร่อยดีจัง"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงเห็นว่านางดูใจเย็นขนาดนี้ ก็กลับกังวลแทนนางขึ้นมา ตอนนี้ดูแล้วเหมือนพระชายาคนนี้จะไม่มีมาด ไม่น่ากลัว ในใจพวกนางจึงคาดหวังให้ฟู่จาวหนิงสามารถนั่งในตำแหน่งพระชายานี้ได้อย่างมั่นคงส่วนโถงพิธีมงคลทางนั้น องค์จักรพรรดิยังคิดจะถามคำถามอ๋องเจวี้ยนอีกสักหน่อย แต่ไทเฮากลับมึนหัวขึ้นเสียแล้ว"องค์จักรพรรดิ ฮองเฮา พวกเรากลับวังกันเถิด อายวนเร่งร้อนแต่งงาน ไม่มีอะไรจะเลี้ยงด้วย" ไทเฮาดูเหมือนไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว"นี่."องค์จักรพรรดิร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่11

    "สุรานี้""พระชายา ท่านอ๋องในใจมีท่านอยู่แน่นอน" หงจั๋วกับเฝิ่นซิงดูตื่นเต้น มองฟู่จาวหนิงแล้วแอบหัวเราะ "นี่คือสุราเลิศตระกูลอวิ๋น หนึ่งไหหมื่นตำลึงก็ยังซื้อไม่ได้เลยนะ ท่านอ๋องยังห่วงใยจนส่งมาให้ท่านเหยือกหนึ่งด้วย"ฟู่จาวหนิงรับสุราไป ขึ้นมาชิมก่อนจิบหนึ่ง จากนั้นก็ดื่มรวดเดียวจนหมดพอเห็นนางดื่มสุราอย่างห้าวหาญเช่นนี้ สาวใช้ทั้งสองก็ตะลึงงันไป"นี่มันสุราโอสถนี่นา" ฟู่จาวหนิงลิ้มชิมรสของสุรา"ใช่แล้ว สุราเลิศตระกูลอวิ๋นไม่เพียงแต่หมักบ่มจนหอมเข้ม หอมหวานสดชื่อในปาก รสติดค้างอยู่ในคอเท่านั้น แต่เพราะด้านในของมันมีตัวยาอยู่เก้าชนิด หลายปีมานี้มีคนมากมายค้นคว้าสุราเลิศตระกูลอวิ๋น และค้นคว้าตัวยาเจ็ดชนิดด้านในออกมาได้แล้ว ทว่าจนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้ถึงสองชนิดที่เหลือ สุราที่หมักออกมาจึงไม่ใช่รสชาตินี้มาโดยตลอด"หงจั๋วสูดดมกลิ่นของสุรานี้ จากนั้นจึงพูดต่อว่า "ดังนั้นสุรานี้จึงขายกันแพงลิบลิ่ว แพงขนาดนี้ยังหาซื้อได้ยากเลย""พระชายา สุรานี้ดื่มแล้วบำรุงได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่แรงมากด้วย หัวก็ไม่ปวด ท่านดื่มอีกสักสองแก้วสิ" เฝิ่นซิงเอ่ยขึ้น"พวกเจ้าดื่มด้วยไหม?" ฟู่จา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 12

    ผู้ดูแลตะลึงงันไปแล้วคืนพิธีแต่งงานใหญ่ ฟ้าก็มืดแล้ว แต่เจ้าสาวกลับจะกลับบ้านหรือ?"พระชายา เรื่องนี้ไม่เหมาะสม ถ้าท่านอยากจะกลับไป สามวันจากนี้คือวันที่จะได้กลับ""รอไม่ได้"ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกใจเต้นอย่างรุนแรง และไม่มีเวลามาอธิบายกับเขาให้มากความ หันหน้าไปทางหงจั๋วกับเฝิ่นซิง "คอกม้าอยู่ทางไหน?"สองสาวใช้แม้จะไม่เข้าใจว่านางกำลังจะทำอะไร แต่พอได้ยินน้ำเสียงร้อนรนของนาง จึงชี้ทิศทางไปด้วยสัญชาตญาณ"อยู่ทางนั้น"ฟู่จาวหนิงยกกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งตรงไปทางนั้นทันที"พระชายา พระชายา"เฝิ่นซิงกับหงจั๋วตกใจ รีบร้อนยกขาวิ่งตามนางไปผู้ดูแลพอได้สติกลับมา ก็รีบร้อนสั่งการกับทหาร "พวกเจ้าไปรายงานท่านอ๋อง"ตัวเขาเองก็ไล่ตามฟู่จาวหนิงออกไปนี่จะทำอะไรกัน?ฟู่จาวหนิงวิ่งเร็วมาก แต่จวนอ๋องเองก็ใหญ่เสียเหลือเกิน จนนางวิ่งมาถึงคอกม้า ฟ้าก็ดำขึ้นไปอีก คนใช้ที่ดูแลคอกม้าก็ถูกนางทำให้ตกใจสะดุ้งโหยง"เจ้า""ขอยืมม้าหนึ่งตัว!"หัวใจที่เต้นของฟู่จาวหนิงตอนนี้ยิ่งแรงขึ้นไปอีก และไม่สนใจเขา สายตากวาดไปยังม้าสีแดงตัวหนึ่งในนั้น พุ่งตัวเข้าไป ปลดเชือกจูงออกคนใช้หน้าเปลี่ยนสี ตกตะลึงร้องขึ้น

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 13

    "ฮูหยินรอง ท่านอย่าพูดเช่นนี้เลย ท่านผู้เฒ่าใกล้จะไม่ไหวอยู่แล้วนะ!"เสียงร้องไห้ของหญิงสาวคนหนึ่งน่าเวทนาอย่างมาก"นังสารเลวอย่างเจ้ากำลังร้องไห้ให้ท่านลุงหรือ? เขาอยู่สภาพนี้มาตั้งสองปีแล้ว เจ้ายังจะมาร้องห่มร้องไห้ คนไม่รู้จะคิดว่าเขาตายไปแล้วนะ!"เสียงหญิงสาวใจดำโหดร้ายนั่นก็ลอดออกมาอีกครั้ง "จะว่าไป ข้าพูดผิดหรือ? จาวหนิงเป็นเด็กคนเดียวของบ้านแล้ว ท่านลุงเลี้ยงชุบเลี้ยงนางมาจนโต ตอนนี้นางกลับไปทำเรื่องอับอายน่าขายหน้าภายนอก ข้าต้องบอกเรื่องนี้กับท่านลุงสิ""จาวหนิงเด็กคนนี้อกตัญญูเสียจริง นางไปผิดใจกับคุณหนูใหญ่หลี่ ท่านลุงหลังจากนี้เลิกคิดเรื่องไปซื้อยาที่ร้านขายยาได้เลย ถ้าวันหนึ่งตื่นเต้นจนหายใจไม่ทันขึ้นมา ก็คงจะเชิญหมอมาไม่ได้อย่างแน่นอน! หมอเทวดาหลี่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงเสียขนาดนั้น หมอทั้งหมดจึงล้วนฟังเขา เขาแค่พูดมาประโยคเดียว ก็คงจะไม่มีหมอสักคนเข้ามารักษาท่านลุงอีก""จาวหนิงยังไปผิดใจกับรัฐทายาทเซียวด้วย รัฐทายาทเซียวเองก็พูดมาแล้ว ว่าจาวหนิงหลังจากนี้จะขายไม่ออกอีกแน่นอน ไม่แน่ว่าจาวหนิงที่ถูกถอนหมั้นตอนนี้คงคิดไม่ตก ไม่กล้ากลับมา จนตนเองไปคิดสั้นแล้วก็ได้""พรวด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 14

    อ๋องเจวี้ยนมองมาทางลุงจงลุงจงเองก็ตกตะลึงยืนอยู่กับที่อย่าว่าแต่ประตูหลังเลย ต่อให้เป็นประตูหน้าจวนตระกูลฟู่ก็ไม่มีแขกเข้ามานานหลายปีแล้วแต่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้านี้ สวมชุดเลอค่าสูงส่ง สวมหน้ากากครึ่งหน้าดูลึกลับ แต่ใบหน้าอีกด้านกลับใบหน้างดงาม หูตาจมูกได้รูป ดูแล้วทำให้คนรู้สึกว่าตัวตนฐานะไม่ธรรมดา"พวกเจ้า"สายตาของอ๋องเจวี้ยนตกไปอยู่บนปิ่นทองในมือเขาชิงอีกเองก็มองเห็น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย"เจ้าจะนำปิ่นทองเล่มนี้ไปที่ใด?" เสียงอ๋องเจวี้ยนเย็นเยียบลุงจงซ่อนปิ่มทองเล่มนั้นไปด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ "นี่ นี่เป็นของคุณหนูข้า"ใช่แล้ว เรื่องที่คุณหนูกำชับมาจะชักช้าไม่ได้ลุงจงรีบปิดประตูทันที กัดฟัน คารวะไปทางอ๋องเจวี้ยน "นายท่านโปรดให้อภัย ข้าน้องมีเรื่องต้องรีบไปทำ เวลานี้ไม่อาจปล่อยให้พวกท่านเข้าไปได้!"ไม่ว่าจะใครก็ตาม ห้ามทำให้เรื่องนี้ชักช้า!พูดจบประโยคนี้ ลุงจงก็หยิบปิ่นทองเล่มนั้นยกเท้าวิ่งอ้าว"ตามไปดูหน่อย" เสียงของอ๋องเจวี้ยนขรึมขึ้นมาจะให้เขาเอาของของจวนอ๋องเจวี้ยนวิ่งหนีไปหรือ?"ขอรับ"ทหารคนหนึ่งตามไปทันทีอ๋องเจวี้ยนมองประตูหลังทรุดโทรมบานนี้ หัว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 15

    "คุณหนู อยู่ที่นี่หมดแล้ว!"ลุงจงรีบหยิบของส่งออกไปฟู่จาวหนิงหยิบสุรา แช่เข็มเงินไว้ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไปเผาบนเทียน ให้ลุงจงช่วยปลดเสื้อผ้าของผู้เฒ่าฟู่ลงแล้วนางก็หยิบชิ้นโสมแผ่นหนึ่ง วางไว้ใต้ลิ้นของผู้เฒ่าฟู่"เสี่ยวเถาหยิบชิ้นอื่นๆ ไปต้มน้ำแกงโสมเสีย""เจ้าค่ะ"เสี่ยวเถารีบออกไป พวกเขาเองก็รู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ไม่มีเวลามานั่งคิด ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ฟู่จาวหนิงพูดตอนนี้ก็ทำให้พวกเขาต้องลงมือทำก่อนอย่างขัดไม่ได้ฟู่จาวหนิงหยิบเข็มเงิน เพ่งสมาธิแทงลงไปยังตำแหน่งจุดบนร่างกายของผู้เฒ่าฟู่"อ๊า..."ลุงจงพอเห็นการกระทำของนางก็เกือบจะร้องอุทานออกมา แต่รีบปิดปากลงสนิทคุณหนูไม่ได้เรียนหมอมานี่นา นางทำไมจึงกล้าลงเข็มกับท่านผู้เฒ่ากัน?แต่จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นของฟู่จาวหนิง ก็ทำให้เขาไม่กล้ารบกวนด้วยสัญชาตญาณฟู่จาวหนิงเคลื่อนไหวเร็วมาก แทงไปแล้วหนึ่งเข็มมือก็ยังไม่หยุด แทงต่อไปอีกเข็ม ความเร็วในการลงเข็มของนางไวมาก ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย และไม่ต้องหาตำแหน่งจุดที่แม่นยำก่อนด้วย หยิบเข็มก็แทงลงไปทันทีผู้เฒ่าฟู่สลบไปแล้ว ระหว่างขั้นตอนของฟู่จาวหนิงเขาก็ยังไม่ตื่น และไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 16

    ฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบกลับชิงอีนี่คือเรื่องของบ้านนาง ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับชิงอีให้ชัดเจนขนาดนั้นนางตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าอ๋องเจวี้ยนเป็นคนแบบไหน"ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วชั่วคราว" ฟู่จาวหนิงพูดกับลุงจง "รบกวนลุงจงใช้น้ำร้อนเช็ดตัวให้ท่านปู่ด้วย""คุณหนูไม่ต้องเกรงใจกับข้าน้อยขนาดนี้" ลุงจงพอได้ยินว่าท่านผู้เฒ่าไม่เป็นไรแล้ว ก็เช็ดตาอย่างปีติ"ป้าจงกับพี่หู่ล่ะ?"ฟู่จาวหนิงเวลานี้เพิ่งมีเรี่ยวแรงถามคำถามนี้ออกมาเดิมทีป้าจงกับลูกชายของพวกเขาหู่จือควรจะอยู่ที่นี่ด้วย แต่นางกลับมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ที่นี่อาละวาดจนเป็นขนาดนี้ก็ยังไม่เห็นแม่ลูกทั้งสองคนพอได้ยินนางถามขึ้นมา ลุงจงก็น้ำตาหลั่งทะลักออกมา เสี่ยวเถาเองก็หน้าซีดขาว"คนล่ะ?"ฟู่จาวหนิงพอเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องขึ้นแน่นอน ไม่เช่นนั้นป้าจงกับหู่จือจะต้องอยู่ดูแลที่นี่แน่ มีหรือจะปล่อยให้ฮูหยินรองอาละวาดคลั่งแบบนี้?ลุงจงเป็นคนซื่อสัตย์พูดน้อย แต่ป้าจงกลับเป็นคนฉุนเฉียว หู่จือเองก็แข็งแกร่งหยาบกระด้าง มีแม่ลูกอย่างพวกเขาอยู่ เหล่าคนใช้ของบ้านอื่นก็ล้วนไม่กล้ากำเริบเสิบสานกัน"คุณหนู ฮือๆๆ" เสี่ยวเถาอดร้องไห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 17

    "อาจจะเพราะอ๋องเจวี้ยนคนนี้จะมีอายุมากกว่าเขาก็ได้"ฮูหยินรองคาดเดา "รัฐทายาทเซียวก็ไม่ใช่แค่เคารพต่อผู้อาวุโสหรือไร? ที่นั่นคือกลางถนนนะ ยังจะไปปะทะกับผู้อาวุโสได้อย่างไร? ถ้าอีกฝ่ายเอาเรื่องไปแจ้งต่อองค์จักรพรรดิขึ้นมาล่ะ?"ฟู่หมิงจูตะลึงงันไป "เป็นอย่างนั้นหรือ?""ทำไมจะไม่ใช่? องค์ชายของจักรพรรดิตั้งกี่คนที่ถูกถอนตำแหน่งอ๋อง เจ้าไม่เคยได้ยินหรือไร?"ฟู่หมิงจูคิด ก็รู้สึกว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆนางดีใจขึ้นมาทันที "ท่านแม่ แต่ว่าพวกเขาพูดว่าพอฟู่จาวหนิงอาละวาดกับรัฐทายาทเซียวก็หันไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนเลยนะ!"ฮูหยินรองมุมปากกระตุกจนดึงเอาแผลบนใบหน้าเข้า ความเจ็บปวดทำให้นางคิดถึงฟู่จาวหนิงเมื่อครู่ขึ้นอีกครั้ง เคียดแค้นจนเข็ดฟันเลยทีเดียว"ฟู่จาวหนิงนิสัยเสียนั่นเจ้ายังไม่รู้อีกหรือ? ก่อนหน้านี้ท่านปู่นางป่วยจนใกล้ตาย บอกว่าไม่วางใจนาง นางก็ยังหน้าด้านไร้ยางอายวันวันเอาแต่ไปเฝ้ารัฐทายาทเซียวอยู่นั่น จะแต่งกับเขาเสียให้ได้ เห็นๆ อยู่ว่าจวนอ๋องเซียวไม่ยอมรับการหมั้นหมาย เจ้าคิดว่านางที่น่าอดสูเสียขนาดนี้ พอถูกรัฐทายาทเซียวถอนหมั้น ก็รู้สึกว่าเสียหน้า เลยต้องจับผู้ชายส่งๆ คนหนึ่งมาแ

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1676

    เศรษฐีฟางดีใจมาก ฟู่จิ้นเชินชมลูกสาวตนเองเช่นนี้ เขาเองก็รู้สึกว่าเขาก็เป็นคนดี "คุณชายฟู่ พระชายาอ๋องเจวี้ยนเองก็เป็นคนดีมาก ท่านกับฮูหยินฟู่หลังจากนี้ก็ดีกับนางหน่อยล่ะ เด็กคนนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ""แน่นอน"ยังดีที่ฝนไม่ได้ตกนานมาก พวกเขาคุยกันครู่หนึ่ง ฝนก็หยุดแล้วพวกเขาจึงรีบเดินทางต่อหลังจากนั้นสองชั่วยาม ตอนที่ราตรีเข้ามาก็มาถึงจุดพักม้าแห่งหนึ่ง ใช้ค้างแรมได้"ก่อนหน้านี้ส่งคนเข้ามาแจ้งช่วงเวลาที่น่าจะมาถึง พวกเขาก็น่าจะเตรียมข้าวปลาอาหารไว้แล้ว คุณชายฟู่ พระชายา พวกท่านไปล้างหน้าล้างตากันก่อน อีกเดี๋ยวค่อยลงมาท่านข้าวเถอะ" อันเหนียนเอ่ยขึ้น"ได้" ฟู่จาวหนิงรับขึ้นมาเสียงหนึ่ง"คุณหนู" เสี่ยวเยว่ที่แต่งเป็นเชายเดินเข้ามา "ข้าไปเตรียมน้ำให้ท่านนะ""เสี่ยวเยว่?"ฟู่จาวหนิงมองฟู่จิ้นเชิน เสี่ยวเยว่เดิมทีอยู่ที่บ้านตระกูลฟู่ นางเองก็ไม่ได้เอาสาวใช้มาที่เมืองเจ้อด้วย คิดไม่ถึงว่านางจะตามมาแล้ว"ให้นางติดตามไปเถิด ข้างกายเจ้ามีสาวใช้อยู่บ้างก็ดูสะดวกดี" ฟู่จิ้นเชินทักมาคนก็ตามมาแล้วด้วย จะทำอย่างไรได้อีกกัน?ฟู่จิ้นเชินเสริมขึ้นมาอีกคำหนึ่ง "นี่เป็นความต้องการของอ๋องเจวี้ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1675

    อันเหนียนยื่นมือไปประคองฟู่จาวหนิง แต่เขาเพิ่งยื่นมือออกไป ตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้ากับเสียงฟางซือฉิงด้านหลัง สีหน้าก็จริงจังขึ้นมา หดมือกลับไปเขาเอียงตัว ให้ฟางซือฉิงผ่านเข้าไปจากนั้นก็ส่งสายตากับฟู่จิ้นเชิน"คุณชายฟู่ เข้าไปในวัดหลบฝนก่อนเถิด" อันเหนียนเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนโยน"เชิญท่านผู้ตรวจการอัน"ฟู่จิ้นเชินส่งร่มให้ฟู่จาวหนิง ส่วนตนเองก็เข้าไปในร่มของอันเหนียนฟู่จาวหนิงกางร่ม กระโดดลงมาจากรถม้า ยื่นร่มไปกางบนหัวฟางซือฉิง "ทำไมถึงวิ่งมาที่นี่ล่ะ? ระวังเปียก""จาวหนิง" ฟางซือฉิงใช้ศอกสะกิดนาง จากนั้นมองไปทางอันเหนียน ประชิดตัวนางเอ่ยขึ้นเบาๆ "ผู้ตรวจการชิงนี่อ่อนโยนดีจัง"ภาพที่อันเหนียนกางร่ม แล้วยื่นมือไปหาฟู่จาวหนิงนั่น น่าดูจริงๆแต่นางก็กล้าคิดแค่ในใจ ไม่กล้าพูดออกมาแค่คิดเช่นนั้นก็รู้สึกผิดต่ออ๋องเจวี้ยนแล้วฟู่จาวหนิงตีนาง "ผู้ตรวจการอันโอ่นโยนกับองค์หญิงหนานฉือมากกว่าอีก""อืมอืม"ฟางซือฉินเองก็ไม่กล้าพูดมากกว่านี้"พระชายา รีบเดินเร็ว" ฮูหยินฟางกวักมือหาพวกนาง "ซือฉิงเด็กคนนี้นี่ อายุตั้งเท่าไรแล้ว ยังจะกระโดดโลดเต้นแบบนี้อีก"ยืนรออยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว จะวิ่งแจ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1674

    ด้านนอกรถม้าจู่ๆ มีเสียงเคาะเปาะแปะ และถี่มากฝนตกแล้วเม็ดฝนค่อนข้างใหญ่ แรงที่กระทบตัวรถม้าไม่เบาเลยเสียงพูดคุยด้านนอกก็ดังเพิ่มขึ้นมา พวกเขาล้วนตะโกนให้เร่งความเร็ว วิ่งตรงไปอีกหน่อย ลองดูว่าข้างหน้ามีจุดให้หลบฝนบ้างไหมสองฟากฝั่งถนนทางการก็โล่งโจ้ง ไม่มีต้นไม้ไม่มีเพิ่งน้ำชา ชั่วขณะหนึ่งยังหาที่หลบฝนไม่ได้หิมะแม้จะละลายไปมากแล้ว แต่ตอนนี้พอฝนตกถนนก็เป็นดินโคลนและยังเปียกลื่นด้วยพวกเขานำของมาไม่น้อย หากพลิกคว่ำไปจะสกปรกเอา"ตอนนี้ทำไมมีฝนตกได้เนี่ย?"สืออีที่ขี่ม้าอยู่ด้านนอกก็พูดกับสือซานขึ้นมา"อากาศช่วงครึ่งปีนี้เดิมทีก็ประหลาดอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะมีผู้ประสบภัยตั้งมากมายได้อย่างไร" สือซานถอนใจ "ไม่เช่นนั้นผู้คนจะพูดหรือว่าดวงชะตาของแคว้นเจาเดินมาถึงปลายทางแล้ว?"ดวงชะตาเดินถึงปลายทางแล้ว เช่นนั้นก็อาจจะเกิดภัยธรรมชาติหรือหายนะจากมนุษย์ได้สินะ?ถึงอย่างไรสถานที่ต่างๆ ก็ล้วนประสับภัยกัน พวกเขาทางนี้จู่ๆ ฝนตกหนักก็เหมือนจะไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร"อย่าพูดจาไร้สาระ รีบเร่งเดินทางเถอะ เพิ่มความระมัดระวังด้วย" สืออีตะคอกขึ้นมาคนตระกูลฟางที่รออยู่ในวัดภูเขาแห่งหนึ่งด้าน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1673

    ฟู่จาวหนิงในเมื่อถามขึ้นมาแล้ว เขาจึงบอกกับนางอย่างตั้งใจ"ยังมีอีกเรื่อง ข้าอยากจะเปิดโรงศึกษา ไปเป็นอาจารย์"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเขาอยากเป็นอาจารย์สอนหนังสือด้วย"อันที่จริงตอนนั้นถ้าหากข้าไม่ได้ออกไป ข้าก็เกือบได้เดินในสองเส้นทางนี้แล้ว ถ้าหากสอบติดขั้นสูง ก็เข้าวังเป็นข้าราชการ ถ้าหากสอบไม่ผ่าน ก็จะทำโรงศึกษาเพื่อสอนผู้คน"ฟู่จิ้นเชินยิ้มๆ นั่งลงให้สบายอีกหน่อยท่าทางของเขาดูมีรสนิยมอย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่ก็ยังดูดีมีเสน่ห์กว่าคนหนุ่มสาวเสียอีก"แต่ว่า เรื่องเหล่านี้มันก็เป็นแค่ความฝัน"คำพูดฟู่จิ้นเชินหักเปลี่ยน มองฟู่จาวหนิง "ข้าไม่รีบร้อนตั้งเป้าหมายอะไรให้ตนเอง เพราะข้ายังรู้สึกได้รางๆ ว่าช่วงสองปีนี้สำหรับแคว้นเจาของพวกเราแล้ว อยู่ในจุดเปลี่ยนที่ยากจะคาดเดา""หมายความว่าอย่างไรหรือ?"ฟู่จาวหนิงนั่งตัวตรง"องค์จักรพรรดิไม่ยอมรับอ๋องเจวี้ยน"นี่คือความจริง แต่ที่ทำให้ฟู่จิ้นเชินพูดออกมาตรงๆ ฟู่จาวหนิงเองก็ยังรู้สึกหดหู่ขึ้นมาบ้าง"ใช่ไหมล่ะ? ท่านว่าทำไมองค์จักรพรรดิถึงได้ใจแคบนักนะ? อันที่จริงเซียวหลันยวนไม่ได้คิดจะนั่งตำแหน่งนั้นด้วยซ้ำ แต่องค์

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1672

    ในเดือนหนึ่ง แถบเมืองหลวงมีฝนตกน้อยมาก น่าจะต้องรอจนถึงเดือนสองแต่ว่าตอนนี้ฟ้าจู่ๆ ก็มืดลง หม่นๆ มืดครึ้ม เหมือนฝนจะตกกลุ่มนี้ของพวกขเายังไม่มีไปรวมกับขบวนพ่อค้าของตระกูลฟาง ยังต้องเดินอีกระยะหนึ่ง ขบวนพ่อค้าตระกูลฟางรอพวกเขาอยู่ที่ริมทางด้านหน้าหลังจากรวมกันต้องเร่งระยะทางอีกครึ่งวันจึงจะไปถึงสถานที่ที่เหมาะจะพักแรม แต่ถ้าถูกฝนนี้ทำให้ล่าช้า พวกเขาคืนนี้คงจะไปกันไม่ถึง แล้วต้องเดินทางกันตลอดทั้งคืน"ไปบอกพระชายาหน่อย พวกเราต้องเพิ่มความเร็ว"อันเหนียนกลัวว่าจู่ๆ ถ้าเพิ่มความเร็วขึ้น ฟู่จาวหนิงจะสงสัย ดังนั้นจึงต้องให้คนไปแจ้งนางหน่อย"่ขอรับ"อันเหนียนครั้งนี้พาผู้ติดตามมาสองคน คนหนึ่งชื่อเสี่ยวเจียง อีกคนหนึ่งชื่อเสี่ยวเจิ้งทั้งสองคนดูแล้วฉลาดเฉลียวคล่องแคล่ว เสียวเจียงพอได้ยินคำพูดของอันเนหียน ก็รีบวิ่งไปทางรถม้าของฟู่จาวหนิง เคาะๆ กำแพงรถม้าเสียก่อน"พระชายา ท้องฟ้าดูไม่ดีเลย เหมือนฝนกำลังจะตก ใต้เท้าของข้าบอกว่าต้องเร่งความเร็วเดินทาง รถม้าอาจจะเขย่าหน่อย พระชายาโปรดให้อภัยด้วย"ฟู่จาวหนิงเลิกม่านออก พอเห็นเสี่ยวเจียง ก็มองไปยังท้องฟ้า พยักหน้าให้"เข้าใจแล้ว"เสี่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1671

    "เซียวหลันยวนรับปากแล้วว่าจะปกป้องเสี่ยวเฟย เช่นนั้นเขาจะไม่เกิดเรื่องอะไร"ฟู่จิ้นเชินเทน้ำให้ตนเองบ้าง ดื่มลงไปสองอึก ถึงหัวเราะเบาๆ มองฟู่จาวหนิง"เชื่อเขาขนาดนั้นเลยหรือ?""เชื่อสิ""เล่าเรื่องพวกเจ้าให้ข้าฟังบ้างสิ" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นมาตามสถานการณ์ฟู่จาวหนิงชะงักไป "เล่าอะไรล่ะ?""ข้ารู้คร่าวๆ ว่าพวกเจ้าเจอกันได้อย่างไร แต่งงานกันอย่างไร แต่เกิดเรื่องอะไรที่ทำให้เจ้าเชื่อใจเขาขนาดนี้ พวกนี้ไม่รู้เลย"น่าจะเพราะน้ำเสียงฟู่จิ้นเชินดูจริงใจ อยากจะรู้เรื่องราวของนางจริงๆ และเพราะเนื่องจากเพิ่งจะพูดเรื่องเฉพาะทางไปมากมาย ทำให้นางอยากจะคุยเรื่องอื่นบ้าง ฟู่จาวหนิงก็เลยเล่าออกมาจริงๆนางกับเซียวหลันยวนเหมือนจะผ่านเรื่องมาไม่น้อยเลย แต่เวลาที่ทั้งสองคนได้เปิดใจคุยกันก็ไม่นานนักแต่พวกเขาก็ผ่านความเป็นความตายด้วยกันมาไปเขาอวี้เหิงครั้งนั้น เซียวหลันยวนเกือบจะตายไปแล้วตอนที่นางถูกผู้บัญชาการกองธงมู่ที่ถูกลัทธิเทพทำลายล้างส่งมาจากต้าชื่อพาขึ้นไปบนภูเขาหิมะ เซียวหลันยวนก็หานางเจอแล้วช่วยนางไว้"อ๋องเจวี้ยนมาเจอกับเจ้า ไม่ใช่ว่าเขาก็โชคดีด้วยหรือ? ข้าได้ยินลุงเจ้าบอกว่า ถ้าไม่ม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1670

    ห้องขังนั้น ก็จริง...เก๋อมู่กวงเองก็ไม่สงสังจะว่าป เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่สู้กับโป๋จี แขนของโป๋จีก็มีแผลอยู่จริงๆ"ดูแผลเขาหน่อย ถ้ามันหนักนักก็ให้ยาห้ามเลือดเสีย" ก่อนที่จะสอบสวนชัดเจน จะให้โป๋จีตายไม่ได้ยิ่งไปกว่นั้นยังต้องให้เขาตอบคำถามอีก"ขอรับ"ผู้คุมไปดูบาดแผลของโป๋จี จากนั้นจึงเห็นสิ่งแปลกปลอมชิ้นหนึ่งแหลมออกมาชิงอีดูถึงตรงนี้ก็วางใจ จดหมายนั่นถูกพบแล้ว"รองแม่ทัพเก๋อ! ในแผลนี้ยัดของเอาไว้!" ผู้คุมร้องขึ้นมาเก๋อมู่กวงตื่นเต้นขึ้นทันที รีบเดินเข้าไปดู ตรวจสอบด้วยตนเอง ดึงม้วนกระดาษนั่นออกมา"จดหมาย! ที่แท้เขาก็ซ่อนจดหมายไว้ในแผล! ฮ่าๆๆ! เจ้านี่มันใจหาญเสียจริง!"แต่จะมีประโยชน์อะไร? พระเจ้ายืนอยู่ข้างเขา นี่ไง เขาก็พบแล้วไม่ใช่เรอะ!เก๋อมู่กวงลิงโลดขึ้นมา แม้จดหมายนั่นจะชุ่มไปด้วยเลือด แต่เขาก็ยังดีอกดีใจถ้าหากบนจดหมายมีคำว่าเฮ่อเหลียนเฟยสามคำ ไม่ว่าจะเขียนอะไรไว้ ขอแค่มีชื่อนี้ เขาก็จะเข้าวังทันที!อ๋องเจวี้ยนก็จะกำเริบเสิบสานไม่ได้อีก!"ฮ่าๆๆ! คิดจะหลบรอดสายตาข้าเรอะ! อย่าหวัง!"เก๋อมกวงลิงโลดขึ้นมา กางจดหมายออกพอจดหมายกางออก ตาของเขาก็ปูดขึ้นมานี่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1669

    เก๋อมู่กวงรู้สึกว่าต้องเรียกฟู่จาวหนิงออกมา เรื่องก็น่าจะง่ายขึ้นเขารู้สึกว่าด้วยท่วงท่าของตนเอง ทหารหยาบกร้านที่คุ้มครองชายแดนมาหลายปี จะทำให้ฟู่จาวหนิงต้องกลั้นหายใจไม่กล้าส่งเสียงดังได้ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเช่นนี้ ดังั้นจึงตบลงที่ต้นขา พูดคำพูดในใจตนเองออกมาราชองครักษ์ในที่สุดก็ทนฟังต่อไม่ได้ ทำลายจินตนาการของเขาขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่"รองแม่ทัพเก๋อ พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็กำเริบเสิบสานไม่แพ้กันเลย!""ชู่!"พอคนแรกร้องออกมา คนอื่นก็รีบชู่ใส่เขา เป็นสัญญาณว่าอย่าพูดเสียงดังนักถ้าอ๋องเจวี้ยนได้ยินเข้า ต้องมาหาเรื่องพวกเขาแน่"อ๋องเจวี้ยนปกป้องพระชายาแค่ไหนไม่รู้รึ?"เก๋อมู่กวงมองปฏิกิริยาพวกเขาแล้วก็ไม่อยากเชื่อ "ไม่ใช่สิ พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็แค่หญิงสาวอ่อนแอคนหนึ่ง กล้ากำเริบเสิบสานขนาดนั้นเชียวหรือ?""หญิงสาวอ่อนแอ?""รองแม่ทัพเก๋ท่านเข้าใจอะไรผิดกับหญิงสาวอ่อนแอหรือเปล่า?""ใช่ ข้ารู้ว่านางเป็นหมอเทวดา วิชารักษาเก่งเกินใคร แต่นี่มันอาจจะมีส่วนที่เกินจริงหน่อยไหม? ถ้าหากคุยโม้ออกมาโดยอ้างชื่อเสียงของพระชายาอ๋องเจวี้ยน ใช้วิธีการบางอย่างเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ เช่นนั้นกระทั่งวิชา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1668

    พวกเขารู้สึกว่านี่ถึงจะเป็นสายเลือดแท้จริงของเผ่าเฮ่อเหลียน ดังนั้นคนที่มีดวงตาสีนี้ถึงจะได้รับความสำคัญและได้รับความเชื่อถือที่ราชาเฮ่อเหลียนก่อนหน้านี้ค่อนข้างปล่อยปละฟู่จาวเฟย ไม่ได้คิดจะชุบเขาให้มาสืบทอดต่อแต่เนิ่นๆ ก็เพราะฟู่จาวเฟยไม่มีดวงตาเช่นนี้เก๋อมู่กวงก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจุดนี้เลย จนเซียวหลันยวนทักขึ้นมา เขาจึงเพิ่งนึกออกเหมือนจะเป็นเช่นนี้จริง!เขาที่เขาสังเกตเห็นโป๋จีระหว่าง อันที่จริงก็เพราะดวงตาเขาไม่เช่นนั้นโป๋จีที่แตี่งตัวเป็นประชาชนแคว้นเจาธรรมดา เขาจะมองออกได้อย่างไร"ไม่มีอะไรพูดแล้วหรือ?"เก๋อมู่กวงปากขยับ หันกลับมาเหลือบมองราชองครักษ์ที่ไม่กล้าขึ้นหน้า ในใจจู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงขึ้นมาวันนี้ถ้าคิดจะดึงดันเอาตัวฟู่จาวเฟยกลับไป ดูท่านจะยากเสียแล้ว"แต่ไม่ว่าอย่างไร ฟู่จาวเฟยก็ยังเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ ดังนั้นข้าต้องพาเขาไปสอบสวน ให้เขากับโป๋จีเผชิญหน้ากัน ถ้าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์จริง ข้าก็จะปล่อยคนทันที"เก๋อมู่กวงเจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน กัดเหงือก เอ่ยต่อว่า "ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนยังไม่วางใจ จะส่งคนไปตรวจสอบตามไปตรวจสอบก้ได้ พวกเรา พวกเราไม่ลงโทษนอกกฏหมายอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status