ร่างสีแดงพุ่งเข้ามาในโถงพิถีมงคลอย่างรวดเร็วพอคนมาถึง กลิ่นหอมจรุงก็โชยเข้ามาฮองเฮาพอเห็นคนที่มา ก็วางใจลงทันทีเอาล่ะ เมื่อนางมาแล้ว งานวันนี้ไม่มีทางสำเร็จเป็นแน่แท้นางร้องเรียกขึ้นอย่างปรีดา "ไอ๊หยา ท่านหญิงหยวนหลินกลับเมืองหลวงแล้วหรือ? สำนักบัณฑิตชิงหวาปิดภาคเรียนแล้วหรือ?"สำนักบัณฑิตชิงหวาคือสำนักบัณฑิตหญิงที่เลื่องชื่อของแคว้นเจา หญิงสาวที่จะเข้าไปเรียนได้ล้วนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นกว่าผู้อื่น ท่านหญิงหยวนหลินคือคนที่เลื่องชื่ออย่างมากคนหนึ่งในสำนักบัณฑิตชิงหวาแต่ว่า อารมณ์ของท่านหญิงชิงหวาไม่ค่อยจะดีนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่มีความใคร่ปรารถนาแรงกล้าอีก"คนรักของเจ้าหรือ?"อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว และเห็นว่าผ้าแพรแดงในมือถูกบีบแน่นเล็กน้อย จนฟู่จาวหนิงเขยิบใกล้เขาเข้าไป จึงถามขึ้นเสียงแผ่ว"ไม่ใช่"อ๋องเจวี้ยนถึงแม้จะอยากถาม ว่าใช่แล้วจะทำไม ไม่ใช่แล้วจะทำไมก็ตาม แต่สุดท้ายก็ยังตอบกลับนางตรงๆ"โอ้ เช่นนั้นข้าก็ไม่ต้องรู้สึกผิดสินะ"ฟู่จาวหนิงเองก็เพิ่งคิดถึงปัญหาข้อนี้ อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้าแม้จะยังไม่แต่งงาน แต่ใครจะรู้ว่าเขามีคนที่รักหรือไม่ มีหญิงสาวที่อยากแต่ง
ไม่มีใครรู้ว่าไท่ซ่างหวงทำไมจึงกำหนดเงื่อนไขนี้ขึ้นมาแต่ว่าตอนนี้ฮองเฮากลับรู้สึกว่าเงื่อนไขนี้กำหนดมาได้ดี ตระกูลฟู่ไม่มีใครสักคนที่เรียนหมอ ฟู่จาวหนิงเองก็ช่วยปู่ของนางออกหาสมุนไพรตั้งแต่เล็ก แต่คนไม่น้อยในเมืองหลวงก็รู้ว่า นางนั้นโง่จะตาย จำตัวยาอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ต้องคอยให้หมอบอกให้ วาดรูปร่างให้ จากนั้นจึงให้นางขึ้นเขาไปค้นหาแต่อย่างนี้หายากลับมาถูกหรือ?ไม่เลยสักนิดฟู่จาวหนิงมักจะขุดกลับมากองหนึ่ง ส่งให้ท่านหมอช่วยดูให้ ว่าในกองนั้นหาอะไรมาถูกต้องบ้างนางยังเคยต้มยาผิดให้ผู้เฒ่าฟู่ด้วยเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตลกขบขันที่เล่ากันไปทั่วเมืองหลวง เซียวเหยียนจิ่งเองก็รังเกียจฟู่จาวหนิงด้วยเหตุนี้ รู้สึกว่านางเป็นคนไม่ได้เรื่อง มีแต่จะทำให้คนขบขันการรับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟู่จาวหนิงมาเป็นภรรยา จะยิ่งทำให้เขาถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้ฮองเฮาตอนนี้อยากจะหัวเราะร่าขึ้นมาเงื่อนไขนี้ของไท่ซ่างหวงกำหนดออกมาได้ยอดเยี่ยมเสียจริง!"ฮองเฮา ข้าเองก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว" ไทเฮาน้ำเสียงเย็นชา ดูเคืองหน่อยๆ "เจ้าในเมื่อจดจำได้ ก่อนหน้าที่กราบไหว้ฟ้าดินทำไมจึงไม่พูดออกมา? ตอนนี้แม่นางตระกูล
"คิดจะไปเนินจันทร์เด่นค้นหาตัวยาสิบชนิดไม่น่าจะเป็นไปได้เสียแล้ว"ฟู่จาวหนิงส่ายหัวถอนหายใจ"ผิดแผน ผิดแผน"นางคิดไม่ถึงเลยว่าการเลือกอ๋องเจวี้ยน พอแต่งงานด้วยแล้วจะเจอเรื่องยุ่งยากขนาดนี้ แต่ว่าพอคิดไปถึงผู้เฒ่าฟู่ นางก็ตั้งสติใหม่ขึ้นมาก็แค่หาตัวยาเองไม่ใช่หรือ?ต่อให้ไม่มีเงื่อนไขนี้ นางก็ยังต้องออกไปหายาอยู่ดี สถานการณ์ตระกูลฟู่ตอนนี้ลำบากยากแค้นมาก ที่บ้านไม่เหลือเงินอีกแล้ว คิดจะซื้อยามาก็สิ้นเปลือง ถ้าหากเขาจันทร์ลับฟ้าทางนั้นมีตัวยา นางไปขุดมาไม่ต้องใช้เงินไม่ดีกว่าหรือ?พอคิดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ใจเย็นลงมา"ลูกชิ้นนี้อร่อยดีจัง"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงเห็นว่านางดูใจเย็นขนาดนี้ ก็กลับกังวลแทนนางขึ้นมา ตอนนี้ดูแล้วเหมือนพระชายาคนนี้จะไม่มีมาด ไม่น่ากลัว ในใจพวกนางจึงคาดหวังให้ฟู่จาวหนิงสามารถนั่งในตำแหน่งพระชายานี้ได้อย่างมั่นคงส่วนโถงพิธีมงคลทางนั้น องค์จักรพรรดิยังคิดจะถามคำถามอ๋องเจวี้ยนอีกสักหน่อย แต่ไทเฮากลับมึนหัวขึ้นเสียแล้ว"องค์จักรพรรดิ ฮองเฮา พวกเรากลับวังกันเถิด อายวนเร่งร้อนแต่งงาน ไม่มีอะไรจะเลี้ยงด้วย" ไทเฮาดูเหมือนไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว"นี่."องค์จักรพรรดิร
"สุรานี้""พระชายา ท่านอ๋องในใจมีท่านอยู่แน่นอน" หงจั๋วกับเฝิ่นซิงดูตื่นเต้น มองฟู่จาวหนิงแล้วแอบหัวเราะ "นี่คือสุราเลิศตระกูลอวิ๋น หนึ่งไหหมื่นตำลึงก็ยังซื้อไม่ได้เลยนะ ท่านอ๋องยังห่วงใยจนส่งมาให้ท่านเหยือกหนึ่งด้วย"ฟู่จาวหนิงรับสุราไป ขึ้นมาชิมก่อนจิบหนึ่ง จากนั้นก็ดื่มรวดเดียวจนหมดพอเห็นนางดื่มสุราอย่างห้าวหาญเช่นนี้ สาวใช้ทั้งสองก็ตะลึงงันไป"นี่มันสุราโอสถนี่นา" ฟู่จาวหนิงลิ้มชิมรสของสุรา"ใช่แล้ว สุราเลิศตระกูลอวิ๋นไม่เพียงแต่หมักบ่มจนหอมเข้ม หอมหวานสดชื่อในปาก รสติดค้างอยู่ในคอเท่านั้น แต่เพราะด้านในของมันมีตัวยาอยู่เก้าชนิด หลายปีมานี้มีคนมากมายค้นคว้าสุราเลิศตระกูลอวิ๋น และค้นคว้าตัวยาเจ็ดชนิดด้านในออกมาได้แล้ว ทว่าจนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้ถึงสองชนิดที่เหลือ สุราที่หมักออกมาจึงไม่ใช่รสชาตินี้มาโดยตลอด"หงจั๋วสูดดมกลิ่นของสุรานี้ จากนั้นจึงพูดต่อว่า "ดังนั้นสุรานี้จึงขายกันแพงลิบลิ่ว แพงขนาดนี้ยังหาซื้อได้ยากเลย""พระชายา สุรานี้ดื่มแล้วบำรุงได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่แรงมากด้วย หัวก็ไม่ปวด ท่านดื่มอีกสักสองแก้วสิ" เฝิ่นซิงเอ่ยขึ้น"พวกเจ้าดื่มด้วยไหม?" ฟู่จา
ผู้ดูแลตะลึงงันไปแล้วคืนพิธีแต่งงานใหญ่ ฟ้าก็มืดแล้ว แต่เจ้าสาวกลับจะกลับบ้านหรือ?"พระชายา เรื่องนี้ไม่เหมาะสม ถ้าท่านอยากจะกลับไป สามวันจากนี้คือวันที่จะได้กลับ""รอไม่ได้"ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกใจเต้นอย่างรุนแรง และไม่มีเวลามาอธิบายกับเขาให้มากความ หันหน้าไปทางหงจั๋วกับเฝิ่นซิง "คอกม้าอยู่ทางไหน?"สองสาวใช้แม้จะไม่เข้าใจว่านางกำลังจะทำอะไร แต่พอได้ยินน้ำเสียงร้อนรนของนาง จึงชี้ทิศทางไปด้วยสัญชาตญาณ"อยู่ทางนั้น"ฟู่จาวหนิงยกกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งตรงไปทางนั้นทันที"พระชายา พระชายา"เฝิ่นซิงกับหงจั๋วตกใจ รีบร้อนยกขาวิ่งตามนางไปผู้ดูแลพอได้สติกลับมา ก็รีบร้อนสั่งการกับทหาร "พวกเจ้าไปรายงานท่านอ๋อง"ตัวเขาเองก็ไล่ตามฟู่จาวหนิงออกไปนี่จะทำอะไรกัน?ฟู่จาวหนิงวิ่งเร็วมาก แต่จวนอ๋องเองก็ใหญ่เสียเหลือเกิน จนนางวิ่งมาถึงคอกม้า ฟ้าก็ดำขึ้นไปอีก คนใช้ที่ดูแลคอกม้าก็ถูกนางทำให้ตกใจสะดุ้งโหยง"เจ้า""ขอยืมม้าหนึ่งตัว!"หัวใจที่เต้นของฟู่จาวหนิงตอนนี้ยิ่งแรงขึ้นไปอีก และไม่สนใจเขา สายตากวาดไปยังม้าสีแดงตัวหนึ่งในนั้น พุ่งตัวเข้าไป ปลดเชือกจูงออกคนใช้หน้าเปลี่ยนสี ตกตะลึงร้องขึ้น
"ฮูหยินรอง ท่านอย่าพูดเช่นนี้เลย ท่านผู้เฒ่าใกล้จะไม่ไหวอยู่แล้วนะ!"เสียงร้องไห้ของหญิงสาวคนหนึ่งน่าเวทนาอย่างมาก"นังสารเลวอย่างเจ้ากำลังร้องไห้ให้ท่านลุงหรือ? เขาอยู่สภาพนี้มาตั้งสองปีแล้ว เจ้ายังจะมาร้องห่มร้องไห้ คนไม่รู้จะคิดว่าเขาตายไปแล้วนะ!"เสียงหญิงสาวใจดำโหดร้ายนั่นก็ลอดออกมาอีกครั้ง "จะว่าไป ข้าพูดผิดหรือ? จาวหนิงเป็นเด็กคนเดียวของบ้านแล้ว ท่านลุงเลี้ยงชุบเลี้ยงนางมาจนโต ตอนนี้นางกลับไปทำเรื่องอับอายน่าขายหน้าภายนอก ข้าต้องบอกเรื่องนี้กับท่านลุงสิ""จาวหนิงเด็กคนนี้อกตัญญูเสียจริง นางไปผิดใจกับคุณหนูใหญ่หลี่ ท่านลุงหลังจากนี้เลิกคิดเรื่องไปซื้อยาที่ร้านขายยาได้เลย ถ้าวันหนึ่งตื่นเต้นจนหายใจไม่ทันขึ้นมา ก็คงจะเชิญหมอมาไม่ได้อย่างแน่นอน! หมอเทวดาหลี่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงเสียขนาดนั้น หมอทั้งหมดจึงล้วนฟังเขา เขาแค่พูดมาประโยคเดียว ก็คงจะไม่มีหมอสักคนเข้ามารักษาท่านลุงอีก""จาวหนิงยังไปผิดใจกับรัฐทายาทเซียวด้วย รัฐทายาทเซียวเองก็พูดมาแล้ว ว่าจาวหนิงหลังจากนี้จะขายไม่ออกอีกแน่นอน ไม่แน่ว่าจาวหนิงที่ถูกถอนหมั้นตอนนี้คงคิดไม่ตก ไม่กล้ากลับมา จนตนเองไปคิดสั้นแล้วก็ได้""พรวด
อ๋องเจวี้ยนมองมาทางลุงจงลุงจงเองก็ตกตะลึงยืนอยู่กับที่อย่าว่าแต่ประตูหลังเลย ต่อให้เป็นประตูหน้าจวนตระกูลฟู่ก็ไม่มีแขกเข้ามานานหลายปีแล้วแต่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้านี้ สวมชุดเลอค่าสูงส่ง สวมหน้ากากครึ่งหน้าดูลึกลับ แต่ใบหน้าอีกด้านกลับใบหน้างดงาม หูตาจมูกได้รูป ดูแล้วทำให้คนรู้สึกว่าตัวตนฐานะไม่ธรรมดา"พวกเจ้า"สายตาของอ๋องเจวี้ยนตกไปอยู่บนปิ่นทองในมือเขาชิงอีกเองก็มองเห็น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย"เจ้าจะนำปิ่นทองเล่มนี้ไปที่ใด?" เสียงอ๋องเจวี้ยนเย็นเยียบลุงจงซ่อนปิ่มทองเล่มนั้นไปด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ "นี่ นี่เป็นของคุณหนูข้า"ใช่แล้ว เรื่องที่คุณหนูกำชับมาจะชักช้าไม่ได้ลุงจงรีบปิดประตูทันที กัดฟัน คารวะไปทางอ๋องเจวี้ยน "นายท่านโปรดให้อภัย ข้าน้องมีเรื่องต้องรีบไปทำ เวลานี้ไม่อาจปล่อยให้พวกท่านเข้าไปได้!"ไม่ว่าจะใครก็ตาม ห้ามทำให้เรื่องนี้ชักช้า!พูดจบประโยคนี้ ลุงจงก็หยิบปิ่นทองเล่มนั้นยกเท้าวิ่งอ้าว"ตามไปดูหน่อย" เสียงของอ๋องเจวี้ยนขรึมขึ้นมาจะให้เขาเอาของของจวนอ๋องเจวี้ยนวิ่งหนีไปหรือ?"ขอรับ"ทหารคนหนึ่งตามไปทันทีอ๋องเจวี้ยนมองประตูหลังทรุดโทรมบานนี้ หัว
"คุณหนู อยู่ที่นี่หมดแล้ว!"ลุงจงรีบหยิบของส่งออกไปฟู่จาวหนิงหยิบสุรา แช่เข็มเงินไว้ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไปเผาบนเทียน ให้ลุงจงช่วยปลดเสื้อผ้าของผู้เฒ่าฟู่ลงแล้วนางก็หยิบชิ้นโสมแผ่นหนึ่ง วางไว้ใต้ลิ้นของผู้เฒ่าฟู่"เสี่ยวเถาหยิบชิ้นอื่นๆ ไปต้มน้ำแกงโสมเสีย""เจ้าค่ะ"เสี่ยวเถารีบออกไป พวกเขาเองก็รู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ไม่มีเวลามานั่งคิด ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ฟู่จาวหนิงพูดตอนนี้ก็ทำให้พวกเขาต้องลงมือทำก่อนอย่างขัดไม่ได้ฟู่จาวหนิงหยิบเข็มเงิน เพ่งสมาธิแทงลงไปยังตำแหน่งจุดบนร่างกายของผู้เฒ่าฟู่"อ๊า..."ลุงจงพอเห็นการกระทำของนางก็เกือบจะร้องอุทานออกมา แต่รีบปิดปากลงสนิทคุณหนูไม่ได้เรียนหมอมานี่นา นางทำไมจึงกล้าลงเข็มกับท่านผู้เฒ่ากัน?แต่จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นของฟู่จาวหนิง ก็ทำให้เขาไม่กล้ารบกวนด้วยสัญชาตญาณฟู่จาวหนิงเคลื่อนไหวเร็วมาก แทงไปแล้วหนึ่งเข็มมือก็ยังไม่หยุด แทงต่อไปอีกเข็ม ความเร็วในการลงเข็มของนางไวมาก ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย และไม่ต้องหาตำแหน่งจุดที่แม่นยำก่อนด้วย หยิบเข็มก็แทงลงไปทันทีผู้เฒ่าฟู่สลบไปแล้ว ระหว่างขั้นตอนของฟู่จาวหนิงเขาก็ยังไม่ตื่น และไ
"สวัสดี" ฟู่จาวหนิงยิ้มทักทายมองผ่านๆ เหมือนดูไม่ออกว่านางกำลังโกรธเซียวหลันยวนคิดต่อไปอีก เพราะเมื่อคืนนี้ได้หลับสบายหรือเปล่านะ ดังนั้นอารมณ์โกรธเมื่อวานเลยหายไปแล้ว? ยิ่งไปกว่านั้น เสี่ยวเยว่ก็น่าจะบอกนางเรื่องที่เขามาเมื่อคืนแล้วกระมัง?"เมื่อคืนหลับสบายไหม?" เซียวหลันยวนเข้าไปหา จับมือนางไว้ฟู่จาวหนิงไม่ได้สลัดออก ยังเงยหน้ามายิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มสดใสยามเช้าตรู่เช่นนี้ แทบจะทำให้เซียวหลันยวนตาพร่าไปแล้ว เขาอยากจะก้มลงไปจูบสักฟอด แต่ท่านปู่กับพ่อตาก็ยังอยู่ที่นี่ แล้วยังมีพวกฮูหยินเฉิงอีก ไม่เหมาะเอาเสียเลยเซียวหลันยวนจึงได้แค่ทนไว้ก่อน"พระชายา" ฮูหยินเฉิงยืนอยู่ในห้องโถงทักทายฟู่จาวหนิง"คารวะพระชายา" ลวี่กั่วคารวะให้อย่างเรียบร้อยทันทีไม่มีจุดให้ติได้เลยฟู่จิ้นเชินเดินเข้ามาแล้ว"ฮูหยินเฉิงบอกว่าเห็นลูกเขยของข้าเป็นรุ่นหลัง แต่ตอนนี้กลับทำตัวห่างเหินกับลูกสาวข้าเหลือเกิน เพราะไม่กล้าเห็นลูกสาวข้าเป็นรุ่นหลังอย่างนั้นหรือ?"ฮูหยินเฉิงจึงเห็นฟู่จิ้นเชิน ขณะที่แอบชื่นชมความสง่างามและความหนุ่มแน่นของเขา ก็ถูกคำเย้ยหยันนี้ของเขาแทงใจดำเข้ามา"แน่นอนว่าไม่ใช่ ข้าแค
ท่ามกลางสายตาบีบคั้นของผู้เฒ่าฟู่ เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นว่า "ตอนเด็กๆ ข้าเองก็ได้รับการดูแลจากท่านน้าเฉิงอยู่หลายครั้ง"ผู้เฒ่าฟู่พอใจนิดๆ กับคำตอบของเขา ถูกต้อง แค่นิดเดียวเท่านั้นเขาจึงสั่งสอนเซียวหลันยวนขึ้นมาเหมือนกับผู้อาวุโส "มีบุญคุณต้องทดแทนสินะ"ฮูหยินเฉิงฟังแล้วรู้สึกแหม่งๆ ก็รีบตัดบทเขาทันที"ตอนนั้นอายวนยังเป็นเด็ก ข้าดูและเขาเป็นสิ่งสมควรอยู่แล้ว""เอ๊ะ" ผู้เฒ่าฟู่โต้กลับมา "พูดแบบนี้ไม่ได้สิ ลูกของตนเอง จะดูแลก็เป็นเรื่องสมควร แต่ถ้าไม่ใช่ลูกตัวเอง พอเข้าไปดูแลก็ถือเป็นบุญคุณ ถึงจะบอกว่าต้องเมตตาเด็กของตนเองให้เหมือนดูแลเด็กของผู้อื่น แต่ตัวตนอย่างอ๋องเจวี้ยน คนทั่วไปคงไม่กล้าเอาเขามาเป็นเด็กของตนเองหรอก จริงไหม?"ใครกล้าเอามังกรมาเป็นเด็กของตนเองบ้างกัน?ฮูหยินเฉิงรู้สึกว่า คำพูดนี้ของผู้เฒ่าฟู่เหมือนกำลังแดกดันนาง บอกว่านางหน้าด้าน กล้าคิดว่าตนเองเป็นผู้อาวุโสของอ๋องเจวี้ยนหน้าของนางร้อนผ่าวขึ้นแล้วใครกันแน่ ใครกันที่ให้ข่าวกับนางมา บอกว่าปู่ของฟู่จาวหนิงเป็นชายชราที่เมตตามีคุณธรรม ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพูดจาด้วยง่าย บ้านหลังนี้คงถูกคนในตระกูลยึดครองไปแล้ว ปู่หลานท
เพราะผู้เฒ่าฟู่ค่อนข้างใจกว้าง เรื่องผ่านไปแล้วก็ผ่านไป แต่หวังให้เขากับจาวหนิงไม่ต้องทะเลาะกันมากกว่าแต่ว่าพ่อตาเขากลับหลอกผ่านไปง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ถ้าตรงไหนเขาทำไม่ดี ทำให้ฟู่จิ้นเชินเคืองขึ้นมา ฟู่จิ้นเชินคงได้เล่นงานเขาแน่ตอนนี้เซียวหลันยวนรุ้สึกว่า ด้วยความฉลาดและไหวพริบของฟู่จิ้นเชิน ถ้าจะสร้างรอยร้าวระหว่างเขากับจาวหนิงก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ดังนั้นพ่อตาคนนี้ เขายังต้องระวังตัวไว้บ้าง"เรื่องนี้ ได้ยินเจิ้นเชินบอกว่า จาวหนิงเหนื่อยมากที่เมืองเจ้อ ดังนั้นเจ้าไม่ไปรบกวนนาง ให้นางได้หลับพักผ่อนดีๆ คือถูกต้องแล้ว เจ้าเองก็ยังรู้จักเป็นห่วงนาง"ผู้เฒ่าฟู่กลับไม่รู้ความคิดในใจเขา กลับชื่นชมขึ้นมาเสียด้วยซ้ำเซียวหลันยวนคิดจะไม่รบกวนฟู่จาวหนิงได้แบบนี้ ก็ดูเอาใจใส่มากจริงๆ"ท่านผู้เฒ่า ข้ามาทันอาหารเช้าไหม?""มาทันสิมาทัน ยังไม่ได้กินกันเลย เจ้าลองไปดูว่าจาวหนิงตื่นแล้วหรือยัง? อีกเดี๋ยวก็มาด้วยกันนะ"เสียงผู้เฒ่าฟู่ยังไม่ทันขาดก็เห็นฮูหยินเฉิงเดินเข้ามา"นี่คือ?"ฮูหยินเฉิงเดินมาตรงหน้าเขา คารวะออกมาอย่างนุ่มนวล"คารวะท่านผู้เฒ่าฟู่ ข้าชื่อติงเฉิง มาจากอุทยานเขาเฉิงอวิ
ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าการเอายาสีฟันออกขายไม่มีปัญหาอะไรเลยหลังจากล้างหน้าล้างตาดีแล้วนางก็เตรียมออกไปยืดเส้นยืดสายหน่อย จากนั้นค่อยไปคุยเรื่องนี้กับฟู่จิ้นเชิน นางจะไปยอดเขาโยวชิงอยู่แล้วด้วย ดูว่าวันนี้จะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยได้ไหมบ้านตระกูลฟู่ถ้าหากไม่มีรายรับอยู่ตลอด นี่ก็ไม่ไหวอยู่นะก่อนหน้านี้ค่าใช้จ่ายของตระกูลฟู่นางเป็นคนออก นางคิดว่าฟู่จิ้นเชินคงคิดหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้อยู่ตลอด ดังนั้นควรรีบทำอย่ารอช้าหลังจากฝึกมวยชุดเล็กๆ เสร็จ ฟู่จาวหนิงก็ไปที่โถงหน้าส่วนประตูใหญ่บ้านตระกูลฟู่เปิดอยู่ และมองเห็นรถม้าของจวนอ๋องเจวี้ยนได้พอดีคนเฝ้าประตูรีบเข้าไปคารวะ และหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนลงจากรถม้า บนรถม้าก็มีคนเดินลงมาอีกสองคนพอเห็นฮูหยินที่ไม่รู้จัก คนเฝ้าประตูบ้านตระกูลฟู่ก็นิ่งไป"ท่านผู้เฒ่าตื่นหรือยัง?""เรียนท่านอ๋อง ท่านผู้เฒ่าของเราลุกขึ้นมารำไทเก็กไปชุดหนึ่งแล้วขอรับ" คนเฝ้าประตูเอ่ยตอบขณะเดียวกันก็อดมองไปทางฮูหยินเฉิงไม่ได้"งั้นข้าเข้าไปเองเลยนะ"เซียวหลันยวนยกเท้าเข้าประตูใหญ่ไปชิงอีหันไปมองฮูหยินเฉิง "เชิญฮูหยิน"ลวี่กั่วตามอยู่ข้างกายฮูหยินเฉิง เอ่ยขึ้
นี่คือบ้านตระกูลฟู่ นางเองก็คุ้นเคยมากกว่า แน่นอนว่ายังต้องไปเตรียมของใช้ล้างหน้าให้คุณหนูเสี่ยวเยว่พอเห็นนางวิ่งออกไปไวขนาดนั้น ก็ยิ้มๆ ส่ายหัว นางไม่ได้จะแย่งงานเสียหน่อย รีบร้อนอะไรกัน?"คุณหนู ข้าเข้าไปแล้วนะ"เสี่ยวเยว่ผลักประตูเดินเข้าไป และก็ตามที่คิดไว้ ฟู่จาวหนิงสวมเสื้อคลุมแล้วฟู่จาวหนิงไม่ต้องให้คนมารับใช้สวมเสื้อผ้าให้ตนเอง เว้นเสียแต่เสื้อผ้าที่นางสวมใส่ไม่เป็นแต่เรื่องสางผมนางเองก็ทำไม่ได้ ยังต้องมีสาวใช้มาคอยช่วยเสี่ยวเยว่รีบมาช่วยนางคาดเข็มขัด"คุณหนู เมื่อคืนนี้อ๋องเจวี้ยนเข้ามาแล้ว" นางคิดว่าฟู่จาวหนิงพอตื่นมาคงจะพูดเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้นางเข้าใจผิด แล้วคิดว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้เข้ามา"เข้ามาด้วยหรือ? ตอนไหนกัน?""ตอนที่ท่านเพิ่งจะหลับไปไม่นานนัก"ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าเซียวหลันยวนจะไม่ยอมเข้ามาเสียแล้ว คิดไม่ถึงว่าพอนางหลับเขาก็เข้ามาอดพูดไม่ได้เลย พอเขาเข้ามา ก็ทำให้นางหายโมโหไปบ้างหน่อยๆ"แต่ข้าขวางท่านอ๋องไว้ ไม่ให้เขาเข้ามาในห้อง คุณหนู ข้าได้ยินว่าท่านเพิ่งหลับไป คิดว่าท่านอ๋องเข้าไปคงทำให้ท่านตื่น"เสี่ยวเยว่ยอมรับผิดออกมา ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เ
เซียวหลันยวนอันที่จริงไม่ค่อยเข้าใจว่าเพราะอะไรฮูหยินเฉิงถึงจะไปจวนตระกูลฟู่เพื่อเยี่ยมท่านผู้เฒ่าแม้เขาจะเคารพท่านน้าเฉิงมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกฟู่จาวหนิงคิด ที่จะมองท่านน้าเฉิงเป็นเหมือนผู้อาวุโสของตนเอง ผู้อาวุโสที่สนิทมากแบบนั้นนี่มันคนละเรื่องกันเลยคือเขาสามารถเคารพท่านน้าเฉิงได้ แต่ก็เพียงเท่านั้น เรื่องที่เขาแต่งงานก็ไม่ได้บอกกล่าวอะไรกับท่านน้าเฉิงเป็นพิเศษ"ไม่ต้องรบกวนดีกว่า ข้ากับจาวหนิงเองก็แต่งงานกันนานแล้วด้วย"ตอนนี้เขากับผู้เฒ่าฟู่เป็นครอบครัวเดียวกันนานแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องให้ผู้อาวุโสทางนี้คนหนึ่งเข้าไปเยี่ยมเยียนโดยเฉพาะผู้เฒ่าฟู่ก็ไม่แน่ว่าจะต้อนรับด้วยเอาจริงๆ เซียวหลันยวนรู้สึกว่า ตอนนี้ไม่ว่าใครที่บ้านตระกูลฟู่ก็ไม่ต้อนรับท่านน้าเฉิงทั้งนั้นเมื่อวานหลังจากจาวหนิงกลับไปก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรด้วย แต่จู่ๆ นางกลับไปบ้านฝ่ายหญิง ตอนค่ำก็นอนอยู่ที่นั่น คนตระกูลฟู่ต้องรู้แน่ว่าทางนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นท่านน้าเฉิงตอนนี้ถ้าไปบ้านตระกูลฟู่ น่าจะไม่ได้รับการต้อนรับ ตรงกันข้ามน่าจะไม่มีสีหน้าดีดีให้กันด้วยซ้ำถึงอย่างไรคนของบ้านตระกูลฟู่ก็ปกป้องกันเองมา
"เจ้าบอกข้าหน่อย เพราะอะไรกัน? นางโกรธจุดไหนมากที่สุด?" เซียวหลันยวนถามเสี่ยวเยว่นิ่งงันไปแล้วขนาดคุณหนูยังไม่อยากพูดเรื่องแย่ๆ ของฮูหยินเฉิงต่อหน้าเขา แล้วนางที่เป็นสาวใช้พูดได้ไหม?ถ้าเผื่อนางพูดอะไรไม่ดีออกไป แล้วไปพังเรื่องของคุณหนูขึ้นมาจะทำอย่างไรกัน?"ท่านอ๋องลองคิดดูเองดีไหมเจ้าคะ? คุณหนูเองก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล" เสี่ยวเยว่ตัดสินใจไม่พูดอะไรเซียวหลันยวนกลับไปแบบไม่ได้อะไรถึงแม้อยากจะปลุกฟู่จาวหนิงลุกขึ้นมาคุยกันให้ชัดเจน แต่สุดท้ายก็ไม่อยากจะไปปลุกนางเขาทำได้แค่กลับไปทางเดิมอย่างเซื่องซึมพอเขาออกไปแล้ว เสี่ยวเยว่จึงกลับห้องไปนอนอย่างวางใจเซียวหลันยวนหลังจากกลับไปก็นอนไม่หลับ จึงลุกขึ้นมาเขียนหนังสือกว่าฟ้าจะสาง เขาจึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หิ้วตะกร้าผลไม้ใบหนึ่งเตรียมไปที่จวนตระกูลฟู่ เขาจะรีบไปให้ทันอาหารเช้าบ้านตระกูลฟู่แต่ว่าพอเขาออกจากประตูเรือน ก็เห็นลวี่กั่วประคองฮูหยินเฉิงเข้ามาแล้วเซียวหลันยวนมองสีท้องฟ้า เช้าขนาดนี้เชียว?ตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก น้ำค้างยามเช้ายังไม่หายไปเลย"อายวน ข้ารู้ว่าเจ้าตื่นเช้าขนาดนี้" ฮูหยินเฉิงพอเห็นเซียวหลันยวน ก็เผย
จวนตระกูลฟู่ตอนนี้เงียบสนิทเซียวหลันยวนเดิมทีมาถึงประตูใหญ่แล้ว เห็นว่าประตูใหญ่ปิดสนิท ด้วยกำลังภายในของเขา ยังสามารถได้ยินเสียงกรนของคนเฝ้าประตูเขายืนอยู่ที่ประตูใหญ่เหลือบมองผาดหนึ่ง จึงหมุนตัวเดินไปทางประตูหลังชิงอีตามอยู่ด้านหลัง พอเห็นท่าทางแบบนี้ของท่านอ๋อง จะหัวเราะก็ไม่กล้าท่านอ๋องเหมือนเพิ่งเคยทำเรื่องแบบนี้ครั้งแรก ดูไม่เด็ดขาดเอาเสียเลยพอถึงประตูหลัง แน่นอนว่าประตูปิดสนิทอยู่ ด้านในเงียบสงบ"ท่านอ๋อง หรือว่าท่านปีนกำแพงดีไหม?" ชิงอีแนะนำขึ้นอย่างจริงใจถึงอย่างไรตอนนี้จะไปเคาะประตูเรียกคนมาเปิดประตูก็เหมือนจะเอะอะเกินไป ถ้าเผื่อพระชายาหลับไปแล้ว ปลุกนางตื่นมาคงไม่ดีนักปีนกำแพงก็ปีน"ข้าเองก็คิดแบบนี้เหมือนกัน"เซียวหลันยวนพูดพลางกระโจนตัวขึ้นเบาๆ ข้ามเข้าไปในเรือนอย่างไร้ซุ่มเสียงราวกับควันคนคุ้มครองเรือนบ้านตระกูลฟู่ไม่พบตัวเขา วิทยายุทธ์ต่างกันเกินไปชิงอีมองซ้ายมองขวา ข้ามกำแพงตามเข้าไปเซียวหลันยวนมาถึงเรือนของฟู่จาวหนิง พอเหลือบมองก็เห็นเสี่ยวเยว่ที่ย้ายเก้าอี้ออกมานั่งอยู่ด้านนอกบนตัวเสี่ยวเยว่คลุมเสื้อไว้ผืนหนึ่ง หลับไปแล้วฟู่จาวหนิงแต่ไหนแต่ไ
นางกลับจวนตระกูลฟู่มาตั้งนานแล้ว แต่เซียวหลันยวนกลับไม่ตามมาฟู่จิ้นเชินจับการกระทำของนางออก ใจก็คิดขึ้นมาและเดาออก ในใจเขาเองก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจนักเช่นกัน"ในเมื่อตัดสินใจว่าจะไม่สนใจแล้ว เช่นนั้นก็อย่าคิดมากเลย พักผ่อนไวไว เอากำลังให้เต็มที่" เขาเอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงพยักหน้า ยืนขึ้นมา"เช่นนั้นข้ากลับห้องก่อนแล้ว ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านก็พักผ่อนไวไว ไม่ต้องกังวลแทนข้าหรอก ข้าเองก็เก่งอยู่นะ"นางโบกไม้โบกมือ เดินออกประตูไปมองแผ่นหลังนาง เสิ่นเชี่ยวก็รู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมา แต่ก็เอ่ยอย่างกังวลกับสามีว่า "ท่านสามี ท่านได้ยินไหม? ตอนนี้จาวหนิงเรียกพวกเราว่าพ่อแม่ได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจแล้ว ท่านว่านางตอนนี้ยอมรับพวกเราลึกๆ ในใจแล้วหรือยัง?""ใช่สิ ลูกสาวเป็นคนที่มีจุดยืน ถ้าหากไม่ยอมรับ นางไม่มีทางเรียกเราว่าพ่อกับแม่หรอก ในเมื่อนางเรียกแล้ว ก็คือปล่อยเรื่องในอดีตพวกเราและเริ่มต้นใหม่แล้ว หลังจากนี้พวกเราก็ชดเชยให้นางดีดีกก็พอ เจ้าเองก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วย หลังจากนี้ถ้านางมีลูก แล้วข้างกายมีแม่อยู่ด้วยจึงจะดูแลได้เหมาะสม"การเติบโตของจาวหนิงก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วย หลังจากนี