Share

บทที่ 6

Author: จุ้ยหลิงซู
"ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไหม?"

ชิงอีหันไปมองอ๋องเจวี้ยนอย่างตึงเครียด

"ลากออกไป" อ๋องเจวี้ยนสีหน้าไร้อารมณ์

"ขอรับ!"

แม่นมทั้งสองคนยังคิดจะตะโกน แต่ก็ถูกกดจุดขมับแล้วลากออกไป

ชิงอีจึงหมุนตัว มองไปยังใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว และก็มองเห็นด้านหลังอ๋องเจวี้ยนมีฟู่จาวหนิงยื่นหัวออกมา รู้สึกสงสัยอย่างหนัก

หญิงสาวที่ชิงกระบี่จากมือเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่พอเจอกับแม่นมสองคนกลับปอดแหกขึ้นมาหรือ?

แต่ว่าพอเขาคิดอีกทีก็ไม่แปลก ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นคนของฮองเฮา ฟู่จาวหนิงจะกล้าลงมือกับคนของฮองเฮาได้อย่างไร

"ท่านอ๋อง จะกราบไหว้ฟ้าดินไหม" เขาถามขึ้น

ฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาถามเช่นนี้ก็เดินออกมาจากด้านหลังอ๋องเจวี้ยน "ดังนั้น พวกเจ้าที่แท้ไม่คิดจะกราบไหว้ฟ้าดินหรอกหรือ?"

ชิงอีนิ่งงัน แต่สายตาที่มองนางกลับตกตะลึงขึ้นมา

เขาคิดว่าฟู่จาวหนิงที่ไม่กรีดร้องเมื่อครู่ เพราะว่านางยังไม่เห็นใบหน้าของท่านอ๋อง แต่ตอนนี้นางกลับมองท่านอ๋องด้วยสีหน้าปกติ เห็นได้ชัดว่ามองเห็นแล้ว

นางไม่กลัวแผลเป็นของท่านอ๋องหรือ?

"กราบไหว้ฟ้าดิน พิธีแต่งงานใหญ่" อ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิงอย่างลึกซึ้ง "เจ้าแน่ใจว่าจะไม่เสียใจ?"

"ข้าจะรับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง" ฟู่จาวหนิงตอบ "แต่ก็หวังว่าอ๋องเจวี้ยนจะเข้าใจ ว่าการร่วมมือก็ต้องมีท่าทีของการร่วมมือด้วย เรื่องอันตรายแบบเมื่อครู่นี้ ข้าหวังว่าจะไม่มีครั้งหน้าอีก"

"เรื่องอันตราย?"

ชิงอีคิดดูก็เข้าใจ พอกำลังจะอธิบายแทนอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนก็หมุนตัวออกนอกประตูไปแล้ว "จัดการตัวเองให้ดีดี"

ชิงอีรีบร้อนตามออกไป

หลังจากออกไป อ๋องเจวี้ยนก็หยุบเอาหน้ากากครึ่งหน้าออกมาสวม ปิดบังรอยแผลเป็นนั่น

"ท่านอ๋อง คุณหนูฟู่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? จวนอ๋องเดิมทีก็เตรียมโถงพิธีมงคลให้พวกท่านอยู่แล้วนี่ เพียงแต่ท่านอ๋องคิดไม่ถึงว่าองค์จักรพรรดิกับฮองเฮาจะเข้ามากันหมด"

ท่านอ๋องพอเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ไม่อยากให้คุณหนูฟู่ต้องกลายไปเป็นเป้าของพวกเขาเท่านั้น

"ชิงอี" อ๋องเจวี้ยนตัดบทเขา "เจ้าคิดว่า ข้าเป็นคนดีหรือ?"

หา?

"ข้าก็แค่ไม่อยากให้คนของตระกูลฟู่ต้องมาตายกันไว และไม่อยากให้นางต้องไปตายด้วยมือคนอื่นก็เท่านั้น"

อ๋องเจวี้ยนพูดคำนี้ ก็สาวเท้าใหญ่ออกไป

ในเมื่อยืนยันว่าจะกราบไหว้ฟ้าดินร่วมหอลงโรง เขาจึงเปลี่ยนเป็นชุดมงคล

หลังจากอ๋องเจวี้ยนจากไป ฟู่จาวหนิงก็พ่นลมหายใจออก

นางตอนนี้รู้ว่าการเข้ามาในจวนอ๋องเจวี้ยน จะต้องซับซ้อนกว่าที่นางคิดเอาไว้แน่นอน แต่นางจะเอาชีวิตของท่านปู่มาเดิมพันไม่ได้

ขอแค่ประคองไว้ได้ ให้เวลานางเสียหน่อย ชุบเลี้ยงสุขภาพของท่านปู่ให้ดีขึ้น เรื่องเหล่านี้นางค่อยมาจัดการภายหลังก็พอ

ขอแค่ยังมีญาติอยู่ ความลำบากทั้งหมดก็ไม่ใช่ความลำบาก

"เฝิ่นซิง หงจั๋ว พวกเจ้าเข้ามาช่วยข้าหน่อย"

เฝิ่นซิงกับหงจั๋วที่ก้มหน้ารออยู่ด้านนอกสบตากัน ขานรับเสียงหนึ่ง และเข้ามาทันที

พวกนางชอบคุณหนูฟู่คนนี้

เจอกับเรื่องแบบนี้แต่กลับไม่ลนลานกรีดร้อง ไม่หวาดกลัวกังวล แต่ยังใจเย็น และจัดการเรื่องให้ดำเนินต่อไปได้

"ในเมื่อในวังมีคนมา เช่นนั้นพวกเจ้าก็ละเอียดเสียหน่อย บนตัวข้ามีจุดไหนที่ยังไม่เหมาะสมก็รีบแก้ไขหรือปลดออกไป"

ฟู่จาวหนิงกำชับพวกนาง

นางยังไม่สามารถเชื่อใจอ๋องเจวี้ยน แต่สาวใช้สองคนนี้ที่ดวงตาแจ่มใส นางกลับเชื่อมั่น เพราะถ้าเกิดเรื่อง สาวใช้จะถูกผลักออกไปเสียสละอย่างง่ายดาย จึงเชื่อว่าถ้าไม่ใช่คนโง่นัก เวลาเช่นนี้คงไม่มาทำร้ายนางหรอก

"เพคะ" เฝิ่นซิงกับหงจั๋วกุลีกุจอขึ้นมา

ตอนที่พวกนางกำลังยุ่ง ฟู่จาวหนิงก็ถามขึ้นมาคำหนึ่ง "เล่าเรื่องท่านอ๋องของพวกเจ้าให้ฟังหน่อยได้ไหม ข้าอยากจะเข้าใจเสียหน่อย หลังจากนี้อยู่ด้วยกันจะได้ง่ายขึ้น"

นางไม่คาดหวังว่าสาวใช้สองคนนี้จะพูดอะไรกับนาง เมื่อครู่ที่เผชิญหน้ากันครั้งแรก นางก็พบว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ใช่คนที่เข้าหาง่ายนัก เป็นไปได้มากว่าอาจจะไม่ใช่คนดี สาวใช้ของนางอาจจะไม่กล้าพูดถึงตัวเขานัก

แต่ถ้าไม่แน่ล่ะ?

ต่อให้คุยกันไม่กี่คำ นางก็คงจะวิเคราะห์อะไรออกมาได้บ้าง

ผลลัพธ์ เฝิ่นซิงกับหงจั๋วก็เอ่ยขึ้นพร้อมกัน "ข้าน้อยก็เพิ่งจะเห็นท่านอ๋องไปไม่กี่ครั้ง"

เอ่อ

"แล้วท่านอ๋องของพวกเจ้าก่อนหน้านี้ไม่ค่อยกลับมาหรือ? พวกเจ้าทำไมไม่ติดตามไปรับใช้ล่ะ?"

พอได้ยินคำว่าติดตามไปรับใช้ เฝิ่นซิงกับหงจั๋วก็รีบส่ายหัวขึ้นมา

"พวกข้าน้อยอยู่ในจวนอ๋องมาโดยตลอด ท่านอ๋องล้วนพักฟื้นอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงมาโดยตลอด คนที่ติตดามรับใช้คือสาวใช้ชั้นหนึ่งของจวนอ๋องอย่างท่านพี่จินเสวี่ยและท่านพี่ไป๋ซวงเท่านั้น"

จินเสวี่ยกับไป๋ซวง ดูท่านีน่าจะเป็นสาวใช้ที่อ๋องเจวี้ยนเชื่อใจ ฟู่จาวหนิงจำสองชื่อนี้ไว้แล้ว

หงจั๋วเอ่ยต่อ "ท่านพี่จินเสวี่ยกับท่านพี่ไป๋ซวงยังอยู่ระหว่างทาง ท่านอ๋องกลับมาถึงก่อน"

บนโถงพิธีมงคล เทียนสีแดงถูกจุดสว่าง ตำแหน่งเก้าอี้สูงมีสามีภรรยากลางคนคู่หนึ่งนั่งอยุ่ นั่นคือองค์จักรพรรดิและฮองเฮาที่สูงส่งที่สุดของแคว้นเจา

องค์จักรพรรดิตอนนี้มองถึงความหล่อเหลาในวัยหนุ่ม สวมชุดคลุมมังกรเหลืองสว่าง ขับเด่นความสูงส่ง พอมองอย่างละเอียด อ๋องเจวี้ยนเองก็ดูคล้ายเขาอยู่สองสามส่วนเลยทีเดียว

และฮองเฮาเองก็อยู่ในชุดคลุมพญาหงส์สวยตระการ ปิ่นห้อยพญาหงส์สีแดงทอง ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยความล้ำค่าโอ่อ่า สูงค่าทรงสง่า ดูมีท่วงท่าพระมารดาแห่งฟ้าดิน

บนเก้าอี้สูงด้านข้างมีไท่โฮ่วนั่งอยู่ ไท่โฮ่วกลับดูสงบเสงี่ยมไปบ้าง ยิ่งไปกว่านั้นสภาพจิตใจยังดูไม่ค่อยดีนัก ให้คนนำเอาหมอนอิงเข้ามา กำลังอยู่ในท่าครึ่งนั่งครึ่งนอน

ด้านนอกโถงพิธีมงคลมีขุนนางรวมตัวอยู่ไม่น้อย บ้างก็ใส่ชุดขุนนาง บ้างก็ใส่ชุดทั่วไป บ้างก็ยังแต่งเนื้อแต่งตัวอยู่

พิธีมงคลของอ๋องเจวี้ยนเองก็กะทันหันเสียเหลือเกิน ถ้าไม่ใช่เพราะการที่อ๋องเจวี้ยนกลับเมืองหลวงเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไม่ใช่พวกเขาก่อเรื่องกันจนใหญ่โตกลางถนน จนจวนต่างๆ ล้วนเห็น แล้วพวกเขาจะมากันทันได้อย่างไร

ตอนนี้ที่มาทันเพราะข่าวไปไว ในกลุ่มพวกเขาบางคนก็เพิ่งจะผละจากอกของสาวชู้ออกมาเอง บางคนก็กำลังฟังบทเพลงอยู่ในโรงน้ำชา บ้าช่องยังไม่ทันกลับก็ต้องตรงมาที่นี่แล้ว

"คุณหนูฟู่คนนี้ดังขึ้นในพริบตาเลย"

"นั่นสิ ถอนหมั้นกับจวนอ๋องเซียวกลางถนน เห็นว่าเกี้ยวเจ้าสาวเกือบจะหามไปจนถึงประตูจวนอ๋องเซียวอยู่แล้ว"

"พอหันกลับมาก็พุ่งไปขวางรถม้าอ๋องเจวี้ยน กลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ข้าเกิดมาสามสิบกว่าปีไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย"

"นางไปผิดใจกับคุณหนูใหญ่หลี่มา พวกเจ้าว่า หมอเทวดาหลี่จะละเว้นนางไหม" มีคนบีบเสียงต่ำ ไม่มองฟู่จาวหนิงในแง่ดี

"นั่นสิ อย่าลืมนะ ว่าอ๋องเจวี้ยนยังต้องให้หมอเทวดาหลี่คอยรักษาอยู่"

ผู้คนล้วนแอบส่ายหัวถอนหายใจ แทบจะมองเห็นถึงจุดจบน่าเอนถอนาถของฟู่จาวหนิงเลยทีเดียว

"ยังไม่รู้ว่าพิธีแต่งงานในวันนี้จะราบรื่นไหม โถงนี้ไม่รู้ว่าจะได้กราบไหว้ฟ้าดินกันหรือไม่"

"ได้ฤกษ์แล้ว ต้อนรับบ่าวสาว"

ผู้ดูแลจวนอ๋องเจวี้ยนอยุ่ในชุดคลุมผ้าไหมใหม่เอี่ยม เดินออกมายืนป่าวด้วยเสียงอันดัง

โชคดีว่าตอนที่ไปรับท่านอ๋องกลับเมืองหลวง เขาก็ให้คนในจวนอ๋องทั้งหมดเตรียมชุดใหม่ไว้แล้ว นี่ไม่ใช่ว่าเอามาใส่ได้พอดีเลยหรือ?

คนอื่นจะคิดอย่างไรเขาไม่รู้ ผู้ดูแลรู้เพียงว่า ท่านอ๋องกลับเมืองหลวงครั้งนี้ได้พระชายามาคนหนึ่ง ถือว่าเป็นลางดี!

หญิงสาวที่กล้าแต่งกับท่านอ๋องของพวกเขา จะต้องเป็นพระชายาที่ดีแน่

ดนตรีมงคลบรรเลง อ๋องเจวี้ยนปรากฎตัว

ในโถงพิธีมงคล ไท่โฮ่วค่อยๆ ยืดตัวตรงขึ้นมา มองไปยังร่างสูงใหญ่นั้น แสงสะท้อนมาบนชุดมงคลสีแดงบนตัว ทำให้นางมองจนดวงตารื้นไปหมด

"อาหยวนของพวกเราก็แต่งงานแล้ว" นางเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 7

    คำพูดของไทเฮาไม่มีใครได้ยินและตอนที่ฮองเฮาเห็นอ๋องเจวี้ยนในชุดมงคลเดินเข้ามา ดวงตาก็มีเงามืดทมึนหลั่งทะลักของชั้นต่ำที่นังแพศยานั่นคลอดออกมา จะแต่งงานมีพระชายาแล้ว!ไม่ ฝันไปเถอะ!พิธีวันนี้ นางจะล่มมันเสีย!ฮองเฮาคิดในใจ ใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมา เอียงหน้าไปเอ่ยกับองค์จักรพรรดิเสียงแผ่วเบาว่า "องค์จักรพรรดิมักจะกังวลเรื่องสุขภาพของอ๋องเจวี้ยน ดูเอาเถิด อ๋องเจวี้ยนไม่ใช่ว่าเติบโตมาสูงใหญ่หล่อเหลาหรอกหรือ?"อายุสั้นอะไรกัน ทำไมไม่เห็นว่าจะดูอายุสั้นตรงไหน?องค์จักรพรรดิหัวเราะร่า "แม้จะบอกว่าอายวนจะดูคล้ายกับไท่ซ่างหวงตอนหนุ่มก็เถอะ แต่พอดูแบบนี้พวกเราพี่น้องก็ดูคล้ายกันอยู่พอควรนะ"พอได้ยินองค์จักรพรรดิพูดถึงไท่ซ่างหวง ฮองเฮาก็แค้นจนเข็ดฟันนี่เป็นเพราะเจ้าคนชั้นต่ำนี่หน้าตาคล้ายกับไท่ซ่างหวง ดังนั้นตั้งแต่เล็กจึงถูกไท่ซ่างหวงปกป้องไว้ หลายต่อหลายครั้งก็จัดการเขาไม่ได้เสียทีไท่ซ่างหวงกลัวว่าเขาที่ร่างกายอ่อนแอพอโตมาจะแย่งอะไรกับใครไม่ไหว ก่อนหน้าที่จะตายถึงกับทิ้งโองการไว้ให้แก่เขา รอจนเขาเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ พอรับพระชายา ก็จะมีคนนำของขวัญชิ้นใหญ่มามอบให้กับเขากระทั่งองค์จั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 8

    ร่างสีแดงพุ่งเข้ามาในโถงพิถีมงคลอย่างรวดเร็วพอคนมาถึง กลิ่นหอมจรุงก็โชยเข้ามาฮองเฮาพอเห็นคนที่มา ก็วางใจลงทันทีเอาล่ะ เมื่อนางมาแล้ว งานวันนี้ไม่มีทางสำเร็จเป็นแน่แท้นางร้องเรียกขึ้นอย่างปรีดา "ไอ๊หยา ท่านหญิงหยวนหลินกลับเมืองหลวงแล้วหรือ? สำนักบัณฑิตชิงหวาปิดภาคเรียนแล้วหรือ?"สำนักบัณฑิตชิงหวาคือสำนักบัณฑิตหญิงที่เลื่องชื่อของแคว้นเจา หญิงสาวที่จะเข้าไปเรียนได้ล้วนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นกว่าผู้อื่น ท่านหญิงหยวนหลินคือคนที่เลื่องชื่ออย่างมากคนหนึ่งในสำนักบัณฑิตชิงหวาแต่ว่า อารมณ์ของท่านหญิงชิงหวาไม่ค่อยจะดีนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่มีความใคร่ปรารถนาแรงกล้าอีก"คนรักของเจ้าหรือ?"อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว และเห็นว่าผ้าแพรแดงในมือถูกบีบแน่นเล็กน้อย จนฟู่จาวหนิงเขยิบใกล้เขาเข้าไป จึงถามขึ้นเสียงแผ่ว"ไม่ใช่"อ๋องเจวี้ยนถึงแม้จะอยากถาม ว่าใช่แล้วจะทำไม ไม่ใช่แล้วจะทำไมก็ตาม แต่สุดท้ายก็ยังตอบกลับนางตรงๆ"โอ้ เช่นนั้นข้าก็ไม่ต้องรู้สึกผิดสินะ"ฟู่จาวหนิงเองก็เพิ่งคิดถึงปัญหาข้อนี้ อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้าแม้จะยังไม่แต่งงาน แต่ใครจะรู้ว่าเขามีคนที่รักหรือไม่ มีหญิงสาวที่อยากแต่ง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 9

    ไม่มีใครรู้ว่าไท่ซ่างหวงทำไมจึงกำหนดเงื่อนไขนี้ขึ้นมาแต่ว่าตอนนี้ฮองเฮากลับรู้สึกว่าเงื่อนไขนี้กำหนดมาได้ดี ตระกูลฟู่ไม่มีใครสักคนที่เรียนหมอ ฟู่จาวหนิงเองก็ช่วยปู่ของนางออกหาสมุนไพรตั้งแต่เล็ก แต่คนไม่น้อยในเมืองหลวงก็รู้ว่า นางนั้นโง่จะตาย จำตัวยาอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ต้องคอยให้หมอบอกให้ วาดรูปร่างให้ จากนั้นจึงให้นางขึ้นเขาไปค้นหาแต่อย่างนี้หายากลับมาถูกหรือ?ไม่เลยสักนิดฟู่จาวหนิงมักจะขุดกลับมากองหนึ่ง ส่งให้ท่านหมอช่วยดูให้ ว่าในกองนั้นหาอะไรมาถูกต้องบ้างนางยังเคยต้มยาผิดให้ผู้เฒ่าฟู่ด้วยเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตลกขบขันที่เล่ากันไปทั่วเมืองหลวง เซียวเหยียนจิ่งเองก็รังเกียจฟู่จาวหนิงด้วยเหตุนี้ รู้สึกว่านางเป็นคนไม่ได้เรื่อง มีแต่จะทำให้คนขบขันการรับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟู่จาวหนิงมาเป็นภรรยา จะยิ่งทำให้เขาถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้ฮองเฮาตอนนี้อยากจะหัวเราะร่าขึ้นมาเงื่อนไขนี้ของไท่ซ่างหวงกำหนดออกมาได้ยอดเยี่ยมเสียจริง!"ฮองเฮา ข้าเองก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว" ไทเฮาน้ำเสียงเย็นชา ดูเคืองหน่อยๆ "เจ้าในเมื่อจดจำได้ ก่อนหน้าที่กราบไหว้ฟ้าดินทำไมจึงไม่พูดออกมา? ตอนนี้แม่นางตระกูล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 10

    "คิดจะไปเนินจันทร์เด่นค้นหาตัวยาสิบชนิดไม่น่าจะเป็นไปได้เสียแล้ว"ฟู่จาวหนิงส่ายหัวถอนหายใจ"ผิดแผน ผิดแผน"นางคิดไม่ถึงเลยว่าการเลือกอ๋องเจวี้ยน พอแต่งงานด้วยแล้วจะเจอเรื่องยุ่งยากขนาดนี้ แต่ว่าพอคิดไปถึงผู้เฒ่าฟู่ นางก็ตั้งสติใหม่ขึ้นมาก็แค่หาตัวยาเองไม่ใช่หรือ?ต่อให้ไม่มีเงื่อนไขนี้ นางก็ยังต้องออกไปหายาอยู่ดี สถานการณ์ตระกูลฟู่ตอนนี้ลำบากยากแค้นมาก ที่บ้านไม่เหลือเงินอีกแล้ว คิดจะซื้อยามาก็สิ้นเปลือง ถ้าหากเขาจันทร์ลับฟ้าทางนั้นมีตัวยา นางไปขุดมาไม่ต้องใช้เงินไม่ดีกว่าหรือ?พอคิดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ใจเย็นลงมา"ลูกชิ้นนี้อร่อยดีจัง"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงเห็นว่านางดูใจเย็นขนาดนี้ ก็กลับกังวลแทนนางขึ้นมา ตอนนี้ดูแล้วเหมือนพระชายาคนนี้จะไม่มีมาด ไม่น่ากลัว ในใจพวกนางจึงคาดหวังให้ฟู่จาวหนิงสามารถนั่งในตำแหน่งพระชายานี้ได้อย่างมั่นคงส่วนโถงพิธีมงคลทางนั้น องค์จักรพรรดิยังคิดจะถามคำถามอ๋องเจวี้ยนอีกสักหน่อย แต่ไทเฮากลับมึนหัวขึ้นเสียแล้ว"องค์จักรพรรดิ ฮองเฮา พวกเรากลับวังกันเถิด อายวนเร่งร้อนแต่งงาน ไม่มีอะไรจะเลี้ยงด้วย" ไทเฮาดูเหมือนไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว"นี่."องค์จักรพรรดิร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่11

    "สุรานี้""พระชายา ท่านอ๋องในใจมีท่านอยู่แน่นอน" หงจั๋วกับเฝิ่นซิงดูตื่นเต้น มองฟู่จาวหนิงแล้วแอบหัวเราะ "นี่คือสุราเลิศตระกูลอวิ๋น หนึ่งไหหมื่นตำลึงก็ยังซื้อไม่ได้เลยนะ ท่านอ๋องยังห่วงใยจนส่งมาให้ท่านเหยือกหนึ่งด้วย"ฟู่จาวหนิงรับสุราไป ขึ้นมาชิมก่อนจิบหนึ่ง จากนั้นก็ดื่มรวดเดียวจนหมดพอเห็นนางดื่มสุราอย่างห้าวหาญเช่นนี้ สาวใช้ทั้งสองก็ตะลึงงันไป"นี่มันสุราโอสถนี่นา" ฟู่จาวหนิงลิ้มชิมรสของสุรา"ใช่แล้ว สุราเลิศตระกูลอวิ๋นไม่เพียงแต่หมักบ่มจนหอมเข้ม หอมหวานสดชื่อในปาก รสติดค้างอยู่ในคอเท่านั้น แต่เพราะด้านในของมันมีตัวยาอยู่เก้าชนิด หลายปีมานี้มีคนมากมายค้นคว้าสุราเลิศตระกูลอวิ๋น และค้นคว้าตัวยาเจ็ดชนิดด้านในออกมาได้แล้ว ทว่าจนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้ถึงสองชนิดที่เหลือ สุราที่หมักออกมาจึงไม่ใช่รสชาตินี้มาโดยตลอด"หงจั๋วสูดดมกลิ่นของสุรานี้ จากนั้นจึงพูดต่อว่า "ดังนั้นสุรานี้จึงขายกันแพงลิบลิ่ว แพงขนาดนี้ยังหาซื้อได้ยากเลย""พระชายา สุรานี้ดื่มแล้วบำรุงได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่แรงมากด้วย หัวก็ไม่ปวด ท่านดื่มอีกสักสองแก้วสิ" เฝิ่นซิงเอ่ยขึ้น"พวกเจ้าดื่มด้วยไหม?" ฟู่จา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 12

    ผู้ดูแลตะลึงงันไปแล้วคืนพิธีแต่งงานใหญ่ ฟ้าก็มืดแล้ว แต่เจ้าสาวกลับจะกลับบ้านหรือ?"พระชายา เรื่องนี้ไม่เหมาะสม ถ้าท่านอยากจะกลับไป สามวันจากนี้คือวันที่จะได้กลับ""รอไม่ได้"ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกใจเต้นอย่างรุนแรง และไม่มีเวลามาอธิบายกับเขาให้มากความ หันหน้าไปทางหงจั๋วกับเฝิ่นซิง "คอกม้าอยู่ทางไหน?"สองสาวใช้แม้จะไม่เข้าใจว่านางกำลังจะทำอะไร แต่พอได้ยินน้ำเสียงร้อนรนของนาง จึงชี้ทิศทางไปด้วยสัญชาตญาณ"อยู่ทางนั้น"ฟู่จาวหนิงยกกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งตรงไปทางนั้นทันที"พระชายา พระชายา"เฝิ่นซิงกับหงจั๋วตกใจ รีบร้อนยกขาวิ่งตามนางไปผู้ดูแลพอได้สติกลับมา ก็รีบร้อนสั่งการกับทหาร "พวกเจ้าไปรายงานท่านอ๋อง"ตัวเขาเองก็ไล่ตามฟู่จาวหนิงออกไปนี่จะทำอะไรกัน?ฟู่จาวหนิงวิ่งเร็วมาก แต่จวนอ๋องเองก็ใหญ่เสียเหลือเกิน จนนางวิ่งมาถึงคอกม้า ฟ้าก็ดำขึ้นไปอีก คนใช้ที่ดูแลคอกม้าก็ถูกนางทำให้ตกใจสะดุ้งโหยง"เจ้า""ขอยืมม้าหนึ่งตัว!"หัวใจที่เต้นของฟู่จาวหนิงตอนนี้ยิ่งแรงขึ้นไปอีก และไม่สนใจเขา สายตากวาดไปยังม้าสีแดงตัวหนึ่งในนั้น พุ่งตัวเข้าไป ปลดเชือกจูงออกคนใช้หน้าเปลี่ยนสี ตกตะลึงร้องขึ้น

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 13

    "ฮูหยินรอง ท่านอย่าพูดเช่นนี้เลย ท่านผู้เฒ่าใกล้จะไม่ไหวอยู่แล้วนะ!"เสียงร้องไห้ของหญิงสาวคนหนึ่งน่าเวทนาอย่างมาก"นังสารเลวอย่างเจ้ากำลังร้องไห้ให้ท่านลุงหรือ? เขาอยู่สภาพนี้มาตั้งสองปีแล้ว เจ้ายังจะมาร้องห่มร้องไห้ คนไม่รู้จะคิดว่าเขาตายไปแล้วนะ!"เสียงหญิงสาวใจดำโหดร้ายนั่นก็ลอดออกมาอีกครั้ง "จะว่าไป ข้าพูดผิดหรือ? จาวหนิงเป็นเด็กคนเดียวของบ้านแล้ว ท่านลุงเลี้ยงชุบเลี้ยงนางมาจนโต ตอนนี้นางกลับไปทำเรื่องอับอายน่าขายหน้าภายนอก ข้าต้องบอกเรื่องนี้กับท่านลุงสิ""จาวหนิงเด็กคนนี้อกตัญญูเสียจริง นางไปผิดใจกับคุณหนูใหญ่หลี่ ท่านลุงหลังจากนี้เลิกคิดเรื่องไปซื้อยาที่ร้านขายยาได้เลย ถ้าวันหนึ่งตื่นเต้นจนหายใจไม่ทันขึ้นมา ก็คงจะเชิญหมอมาไม่ได้อย่างแน่นอน! หมอเทวดาหลี่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงเสียขนาดนั้น หมอทั้งหมดจึงล้วนฟังเขา เขาแค่พูดมาประโยคเดียว ก็คงจะไม่มีหมอสักคนเข้ามารักษาท่านลุงอีก""จาวหนิงยังไปผิดใจกับรัฐทายาทเซียวด้วย รัฐทายาทเซียวเองก็พูดมาแล้ว ว่าจาวหนิงหลังจากนี้จะขายไม่ออกอีกแน่นอน ไม่แน่ว่าจาวหนิงที่ถูกถอนหมั้นตอนนี้คงคิดไม่ตก ไม่กล้ากลับมา จนตนเองไปคิดสั้นแล้วก็ได้""พรวด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 14

    อ๋องเจวี้ยนมองมาทางลุงจงลุงจงเองก็ตกตะลึงยืนอยู่กับที่อย่าว่าแต่ประตูหลังเลย ต่อให้เป็นประตูหน้าจวนตระกูลฟู่ก็ไม่มีแขกเข้ามานานหลายปีแล้วแต่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้านี้ สวมชุดเลอค่าสูงส่ง สวมหน้ากากครึ่งหน้าดูลึกลับ แต่ใบหน้าอีกด้านกลับใบหน้างดงาม หูตาจมูกได้รูป ดูแล้วทำให้คนรู้สึกว่าตัวตนฐานะไม่ธรรมดา"พวกเจ้า"สายตาของอ๋องเจวี้ยนตกไปอยู่บนปิ่นทองในมือเขาชิงอีกเองก็มองเห็น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย"เจ้าจะนำปิ่นทองเล่มนี้ไปที่ใด?" เสียงอ๋องเจวี้ยนเย็นเยียบลุงจงซ่อนปิ่มทองเล่มนั้นไปด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ "นี่ นี่เป็นของคุณหนูข้า"ใช่แล้ว เรื่องที่คุณหนูกำชับมาจะชักช้าไม่ได้ลุงจงรีบปิดประตูทันที กัดฟัน คารวะไปทางอ๋องเจวี้ยน "นายท่านโปรดให้อภัย ข้าน้องมีเรื่องต้องรีบไปทำ เวลานี้ไม่อาจปล่อยให้พวกท่านเข้าไปได้!"ไม่ว่าจะใครก็ตาม ห้ามทำให้เรื่องนี้ชักช้า!พูดจบประโยคนี้ ลุงจงก็หยิบปิ่นทองเล่มนั้นยกเท้าวิ่งอ้าว"ตามไปดูหน่อย" เสียงของอ๋องเจวี้ยนขรึมขึ้นมาจะให้เขาเอาของของจวนอ๋องเจวี้ยนวิ่งหนีไปหรือ?"ขอรับ"ทหารคนหนึ่งตามไปทันทีอ๋องเจวี้ยนมองประตูหลังทรุดโทรมบานนี้ หัว

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1956

    "สวัสดี" ฟู่จาวหนิงยิ้มทักทายมองผ่านๆ เหมือนดูไม่ออกว่านางกำลังโกรธเซียวหลันยวนคิดต่อไปอีก เพราะเมื่อคืนนี้ได้หลับสบายหรือเปล่านะ ดังนั้นอารมณ์โกรธเมื่อวานเลยหายไปแล้ว? ยิ่งไปกว่านั้น เสี่ยวเยว่ก็น่าจะบอกนางเรื่องที่เขามาเมื่อคืนแล้วกระมัง?"เมื่อคืนหลับสบายไหม?" เซียวหลันยวนเข้าไปหา จับมือนางไว้ฟู่จาวหนิงไม่ได้สลัดออก ยังเงยหน้ามายิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มสดใสยามเช้าตรู่เช่นนี้ แทบจะทำให้เซียวหลันยวนตาพร่าไปแล้ว เขาอยากจะก้มลงไปจูบสักฟอด แต่ท่านปู่กับพ่อตาก็ยังอยู่ที่นี่ แล้วยังมีพวกฮูหยินเฉิงอีก ไม่เหมาะเอาเสียเลยเซียวหลันยวนจึงได้แค่ทนไว้ก่อน"พระชายา" ฮูหยินเฉิงยืนอยู่ในห้องโถงทักทายฟู่จาวหนิง"คารวะพระชายา" ลวี่กั่วคารวะให้อย่างเรียบร้อยทันทีไม่มีจุดให้ติได้เลยฟู่จิ้นเชินเดินเข้ามาแล้ว"ฮูหยินเฉิงบอกว่าเห็นลูกเขยของข้าเป็นรุ่นหลัง แต่ตอนนี้กลับทำตัวห่างเหินกับลูกสาวข้าเหลือเกิน เพราะไม่กล้าเห็นลูกสาวข้าเป็นรุ่นหลังอย่างนั้นหรือ?"ฮูหยินเฉิงจึงเห็นฟู่จิ้นเชิน ขณะที่แอบชื่นชมความสง่างามและความหนุ่มแน่นของเขา ก็ถูกคำเย้ยหยันนี้ของเขาแทงใจดำเข้ามา"แน่นอนว่าไม่ใช่ ข้าแค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1955

    ท่ามกลางสายตาบีบคั้นของผู้เฒ่าฟู่ เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นว่า "ตอนเด็กๆ ข้าเองก็ได้รับการดูแลจากท่านน้าเฉิงอยู่หลายครั้ง"ผู้เฒ่าฟู่พอใจนิดๆ กับคำตอบของเขา ถูกต้อง แค่นิดเดียวเท่านั้นเขาจึงสั่งสอนเซียวหลันยวนขึ้นมาเหมือนกับผู้อาวุโส "มีบุญคุณต้องทดแทนสินะ"ฮูหยินเฉิงฟังแล้วรู้สึกแหม่งๆ ก็รีบตัดบทเขาทันที"ตอนนั้นอายวนยังเป็นเด็ก ข้าดูและเขาเป็นสิ่งสมควรอยู่แล้ว""เอ๊ะ" ผู้เฒ่าฟู่โต้กลับมา "พูดแบบนี้ไม่ได้สิ ลูกของตนเอง จะดูแลก็เป็นเรื่องสมควร แต่ถ้าไม่ใช่ลูกตัวเอง พอเข้าไปดูแลก็ถือเป็นบุญคุณ ถึงจะบอกว่าต้องเมตตาเด็กของตนเองให้เหมือนดูแลเด็กของผู้อื่น แต่ตัวตนอย่างอ๋องเจวี้ยน คนทั่วไปคงไม่กล้าเอาเขามาเป็นเด็กของตนเองหรอก จริงไหม?"ใครกล้าเอามังกรมาเป็นเด็กของตนเองบ้างกัน?ฮูหยินเฉิงรู้สึกว่า คำพูดนี้ของผู้เฒ่าฟู่เหมือนกำลังแดกดันนาง บอกว่านางหน้าด้าน กล้าคิดว่าตนเองเป็นผู้อาวุโสของอ๋องเจวี้ยนหน้าของนางร้อนผ่าวขึ้นแล้วใครกันแน่ ใครกันที่ให้ข่าวกับนางมา บอกว่าปู่ของฟู่จาวหนิงเป็นชายชราที่เมตตามีคุณธรรม ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพูดจาด้วยง่าย บ้านหลังนี้คงถูกคนในตระกูลยึดครองไปแล้ว ปู่หลานท

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1954

    เพราะผู้เฒ่าฟู่ค่อนข้างใจกว้าง เรื่องผ่านไปแล้วก็ผ่านไป แต่หวังให้เขากับจาวหนิงไม่ต้องทะเลาะกันมากกว่าแต่ว่าพ่อตาเขากลับหลอกผ่านไปง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ถ้าตรงไหนเขาทำไม่ดี ทำให้ฟู่จิ้นเชินเคืองขึ้นมา ฟู่จิ้นเชินคงได้เล่นงานเขาแน่ตอนนี้เซียวหลันยวนรุ้สึกว่า ด้วยความฉลาดและไหวพริบของฟู่จิ้นเชิน ถ้าจะสร้างรอยร้าวระหว่างเขากับจาวหนิงก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ดังนั้นพ่อตาคนนี้ เขายังต้องระวังตัวไว้บ้าง"เรื่องนี้ ได้ยินเจิ้นเชินบอกว่า จาวหนิงเหนื่อยมากที่เมืองเจ้อ ดังนั้นเจ้าไม่ไปรบกวนนาง ให้นางได้หลับพักผ่อนดีๆ คือถูกต้องแล้ว เจ้าเองก็ยังรู้จักเป็นห่วงนาง"ผู้เฒ่าฟู่กลับไม่รู้ความคิดในใจเขา กลับชื่นชมขึ้นมาเสียด้วยซ้ำเซียวหลันยวนคิดจะไม่รบกวนฟู่จาวหนิงได้แบบนี้ ก็ดูเอาใจใส่มากจริงๆ"ท่านผู้เฒ่า ข้ามาทันอาหารเช้าไหม?""มาทันสิมาทัน ยังไม่ได้กินกันเลย เจ้าลองไปดูว่าจาวหนิงตื่นแล้วหรือยัง? อีกเดี๋ยวก็มาด้วยกันนะ"เสียงผู้เฒ่าฟู่ยังไม่ทันขาดก็เห็นฮูหยินเฉิงเดินเข้ามา"นี่คือ?"ฮูหยินเฉิงเดินมาตรงหน้าเขา คารวะออกมาอย่างนุ่มนวล"คารวะท่านผู้เฒ่าฟู่ ข้าชื่อติงเฉิง มาจากอุทยานเขาเฉิงอวิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1953

    ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าการเอายาสีฟันออกขายไม่มีปัญหาอะไรเลยหลังจากล้างหน้าล้างตาดีแล้วนางก็เตรียมออกไปยืดเส้นยืดสายหน่อย จากนั้นค่อยไปคุยเรื่องนี้กับฟู่จิ้นเชิน นางจะไปยอดเขาโยวชิงอยู่แล้วด้วย ดูว่าวันนี้จะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยได้ไหมบ้านตระกูลฟู่ถ้าหากไม่มีรายรับอยู่ตลอด นี่ก็ไม่ไหวอยู่นะก่อนหน้านี้ค่าใช้จ่ายของตระกูลฟู่นางเป็นคนออก นางคิดว่าฟู่จิ้นเชินคงคิดหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้อยู่ตลอด ดังนั้นควรรีบทำอย่ารอช้าหลังจากฝึกมวยชุดเล็กๆ เสร็จ ฟู่จาวหนิงก็ไปที่โถงหน้าส่วนประตูใหญ่บ้านตระกูลฟู่เปิดอยู่ และมองเห็นรถม้าของจวนอ๋องเจวี้ยนได้พอดีคนเฝ้าประตูรีบเข้าไปคารวะ และหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนลงจากรถม้า บนรถม้าก็มีคนเดินลงมาอีกสองคนพอเห็นฮูหยินที่ไม่รู้จัก คนเฝ้าประตูบ้านตระกูลฟู่ก็นิ่งไป"ท่านผู้เฒ่าตื่นหรือยัง?""เรียนท่านอ๋อง ท่านผู้เฒ่าของเราลุกขึ้นมารำไทเก็กไปชุดหนึ่งแล้วขอรับ" คนเฝ้าประตูเอ่ยตอบขณะเดียวกันก็อดมองไปทางฮูหยินเฉิงไม่ได้"งั้นข้าเข้าไปเองเลยนะ"เซียวหลันยวนยกเท้าเข้าประตูใหญ่ไปชิงอีหันไปมองฮูหยินเฉิง "เชิญฮูหยิน"ลวี่กั่วตามอยู่ข้างกายฮูหยินเฉิง เอ่ยขึ้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1952

    นี่คือบ้านตระกูลฟู่ นางเองก็คุ้นเคยมากกว่า แน่นอนว่ายังต้องไปเตรียมของใช้ล้างหน้าให้คุณหนูเสี่ยวเยว่พอเห็นนางวิ่งออกไปไวขนาดนั้น ก็ยิ้มๆ ส่ายหัว นางไม่ได้จะแย่งงานเสียหน่อย รีบร้อนอะไรกัน?"คุณหนู ข้าเข้าไปแล้วนะ"เสี่ยวเยว่ผลักประตูเดินเข้าไป และก็ตามที่คิดไว้ ฟู่จาวหนิงสวมเสื้อคลุมแล้วฟู่จาวหนิงไม่ต้องให้คนมารับใช้สวมเสื้อผ้าให้ตนเอง เว้นเสียแต่เสื้อผ้าที่นางสวมใส่ไม่เป็นแต่เรื่องสางผมนางเองก็ทำไม่ได้ ยังต้องมีสาวใช้มาคอยช่วยเสี่ยวเยว่รีบมาช่วยนางคาดเข็มขัด"คุณหนู เมื่อคืนนี้อ๋องเจวี้ยนเข้ามาแล้ว" นางคิดว่าฟู่จาวหนิงพอตื่นมาคงจะพูดเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้นางเข้าใจผิด แล้วคิดว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้เข้ามา"เข้ามาด้วยหรือ? ตอนไหนกัน?""ตอนที่ท่านเพิ่งจะหลับไปไม่นานนัก"ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าเซียวหลันยวนจะไม่ยอมเข้ามาเสียแล้ว คิดไม่ถึงว่าพอนางหลับเขาก็เข้ามาอดพูดไม่ได้เลย พอเขาเข้ามา ก็ทำให้นางหายโมโหไปบ้างหน่อยๆ"แต่ข้าขวางท่านอ๋องไว้ ไม่ให้เขาเข้ามาในห้อง คุณหนู ข้าได้ยินว่าท่านเพิ่งหลับไป คิดว่าท่านอ๋องเข้าไปคงทำให้ท่านตื่น"เสี่ยวเยว่ยอมรับผิดออกมา ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1951

    เซียวหลันยวนอันที่จริงไม่ค่อยเข้าใจว่าเพราะอะไรฮูหยินเฉิงถึงจะไปจวนตระกูลฟู่เพื่อเยี่ยมท่านผู้เฒ่าแม้เขาจะเคารพท่านน้าเฉิงมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกฟู่จาวหนิงคิด ที่จะมองท่านน้าเฉิงเป็นเหมือนผู้อาวุโสของตนเอง ผู้อาวุโสที่สนิทมากแบบนั้นนี่มันคนละเรื่องกันเลยคือเขาสามารถเคารพท่านน้าเฉิงได้ แต่ก็เพียงเท่านั้น เรื่องที่เขาแต่งงานก็ไม่ได้บอกกล่าวอะไรกับท่านน้าเฉิงเป็นพิเศษ"ไม่ต้องรบกวนดีกว่า ข้ากับจาวหนิงเองก็แต่งงานกันนานแล้วด้วย"ตอนนี้เขากับผู้เฒ่าฟู่เป็นครอบครัวเดียวกันนานแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องให้ผู้อาวุโสทางนี้คนหนึ่งเข้าไปเยี่ยมเยียนโดยเฉพาะผู้เฒ่าฟู่ก็ไม่แน่ว่าจะต้อนรับด้วยเอาจริงๆ เซียวหลันยวนรู้สึกว่า ตอนนี้ไม่ว่าใครที่บ้านตระกูลฟู่ก็ไม่ต้อนรับท่านน้าเฉิงทั้งนั้นเมื่อวานหลังจากจาวหนิงกลับไปก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรด้วย แต่จู่ๆ นางกลับไปบ้านฝ่ายหญิง ตอนค่ำก็นอนอยู่ที่นั่น คนตระกูลฟู่ต้องรู้แน่ว่าทางนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นท่านน้าเฉิงตอนนี้ถ้าไปบ้านตระกูลฟู่ น่าจะไม่ได้รับการต้อนรับ ตรงกันข้ามน่าจะไม่มีสีหน้าดีดีให้กันด้วยซ้ำถึงอย่างไรคนของบ้านตระกูลฟู่ก็ปกป้องกันเองมา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1950

    "เจ้าบอกข้าหน่อย เพราะอะไรกัน? นางโกรธจุดไหนมากที่สุด?" เซียวหลันยวนถามเสี่ยวเยว่นิ่งงันไปแล้วขนาดคุณหนูยังไม่อยากพูดเรื่องแย่ๆ ของฮูหยินเฉิงต่อหน้าเขา แล้วนางที่เป็นสาวใช้พูดได้ไหม?ถ้าเผื่อนางพูดอะไรไม่ดีออกไป แล้วไปพังเรื่องของคุณหนูขึ้นมาจะทำอย่างไรกัน?"ท่านอ๋องลองคิดดูเองดีไหมเจ้าคะ? คุณหนูเองก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล" เสี่ยวเยว่ตัดสินใจไม่พูดอะไรเซียวหลันยวนกลับไปแบบไม่ได้อะไรถึงแม้อยากจะปลุกฟู่จาวหนิงลุกขึ้นมาคุยกันให้ชัดเจน แต่สุดท้ายก็ไม่อยากจะไปปลุกนางเขาทำได้แค่กลับไปทางเดิมอย่างเซื่องซึมพอเขาออกไปแล้ว เสี่ยวเยว่จึงกลับห้องไปนอนอย่างวางใจเซียวหลันยวนหลังจากกลับไปก็นอนไม่หลับ จึงลุกขึ้นมาเขียนหนังสือกว่าฟ้าจะสาง เขาจึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หิ้วตะกร้าผลไม้ใบหนึ่งเตรียมไปที่จวนตระกูลฟู่ เขาจะรีบไปให้ทันอาหารเช้าบ้านตระกูลฟู่แต่ว่าพอเขาออกจากประตูเรือน ก็เห็นลวี่กั่วประคองฮูหยินเฉิงเข้ามาแล้วเซียวหลันยวนมองสีท้องฟ้า เช้าขนาดนี้เชียว?ตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก น้ำค้างยามเช้ายังไม่หายไปเลย"อายวน ข้ารู้ว่าเจ้าตื่นเช้าขนาดนี้" ฮูหยินเฉิงพอเห็นเซียวหลันยวน ก็เผย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1949

    จวนตระกูลฟู่ตอนนี้เงียบสนิทเซียวหลันยวนเดิมทีมาถึงประตูใหญ่แล้ว เห็นว่าประตูใหญ่ปิดสนิท ด้วยกำลังภายในของเขา ยังสามารถได้ยินเสียงกรนของคนเฝ้าประตูเขายืนอยู่ที่ประตูใหญ่เหลือบมองผาดหนึ่ง จึงหมุนตัวเดินไปทางประตูหลังชิงอีตามอยู่ด้านหลัง พอเห็นท่าทางแบบนี้ของท่านอ๋อง จะหัวเราะก็ไม่กล้าท่านอ๋องเหมือนเพิ่งเคยทำเรื่องแบบนี้ครั้งแรก ดูไม่เด็ดขาดเอาเสียเลยพอถึงประตูหลัง แน่นอนว่าประตูปิดสนิทอยู่ ด้านในเงียบสงบ"ท่านอ๋อง หรือว่าท่านปีนกำแพงดีไหม?" ชิงอีแนะนำขึ้นอย่างจริงใจถึงอย่างไรตอนนี้จะไปเคาะประตูเรียกคนมาเปิดประตูก็เหมือนจะเอะอะเกินไป ถ้าเผื่อพระชายาหลับไปแล้ว ปลุกนางตื่นมาคงไม่ดีนักปีนกำแพงก็ปีน"ข้าเองก็คิดแบบนี้เหมือนกัน"เซียวหลันยวนพูดพลางกระโจนตัวขึ้นเบาๆ ข้ามเข้าไปในเรือนอย่างไร้ซุ่มเสียงราวกับควันคนคุ้มครองเรือนบ้านตระกูลฟู่ไม่พบตัวเขา วิทยายุทธ์ต่างกันเกินไปชิงอีมองซ้ายมองขวา ข้ามกำแพงตามเข้าไปเซียวหลันยวนมาถึงเรือนของฟู่จาวหนิง พอเหลือบมองก็เห็นเสี่ยวเยว่ที่ย้ายเก้าอี้ออกมานั่งอยู่ด้านนอกบนตัวเสี่ยวเยว่คลุมเสื้อไว้ผืนหนึ่ง หลับไปแล้วฟู่จาวหนิงแต่ไหนแต่ไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1948

    นางกลับจวนตระกูลฟู่มาตั้งนานแล้ว แต่เซียวหลันยวนกลับไม่ตามมาฟู่จิ้นเชินจับการกระทำของนางออก ใจก็คิดขึ้นมาและเดาออก ในใจเขาเองก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจนักเช่นกัน"ในเมื่อตัดสินใจว่าจะไม่สนใจแล้ว เช่นนั้นก็อย่าคิดมากเลย พักผ่อนไวไว เอากำลังให้เต็มที่" เขาเอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงพยักหน้า ยืนขึ้นมา"เช่นนั้นข้ากลับห้องก่อนแล้ว ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านก็พักผ่อนไวไว ไม่ต้องกังวลแทนข้าหรอก ข้าเองก็เก่งอยู่นะ"นางโบกไม้โบกมือ เดินออกประตูไปมองแผ่นหลังนาง เสิ่นเชี่ยวก็รู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมา แต่ก็เอ่ยอย่างกังวลกับสามีว่า "ท่านสามี ท่านได้ยินไหม? ตอนนี้จาวหนิงเรียกพวกเราว่าพ่อแม่ได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจแล้ว ท่านว่านางตอนนี้ยอมรับพวกเราลึกๆ ในใจแล้วหรือยัง?""ใช่สิ ลูกสาวเป็นคนที่มีจุดยืน ถ้าหากไม่ยอมรับ นางไม่มีทางเรียกเราว่าพ่อกับแม่หรอก ในเมื่อนางเรียกแล้ว ก็คือปล่อยเรื่องในอดีตพวกเราและเริ่มต้นใหม่แล้ว หลังจากนี้พวกเราก็ชดเชยให้นางดีดีกก็พอ เจ้าเองก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วย หลังจากนี้ถ้านางมีลูก แล้วข้างกายมีแม่อยู่ด้วยจึงจะดูแลได้เหมาะสม"การเติบโตของจาวหนิงก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วย หลังจากนี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status