"จวนอ๋องเซียว?"ชายหนุ่มในรถม้าพอลิ้มรสสามคำนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนทันควัน "ไสหัวไปไกลๆ"เซียวเหยียนจิ่งตะลึงงันด้วยโทสะ รู้ถึงตัวตนฐานะเขาแล้ว แต่กลับยังไล่ให้เขาไสหัวไป?"ไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องพูดหรือ?" ทหารตบลงที่หัวม้า ม้างามก็ยกเท้าหน้าขึ้นทันที ถีบพัดเซียวเหยียนจิ่งออกไปอย่างแรง"อ๊า!"เซียวเหยียนจิ่งถูกม้าถีบจนปลิว ตกกระแทกลงไปที่หน้าหลี่จื่อเหยาพอดี นางรีบร้อนเข้าไปประคองตัวเขา "พี่เซียว!"นางกระโจนตัวขึ้น ถลึงตาไปทางรถม้าด้วยความโกรธ "อ๋องเจวี้ยนอะไรกัน! คุณหนูอย่างข้าไม่เห็นจะเคยได้ยิน ขนาดพี่ชายองค์รัชทายาทก็ยังรักข้ายอมให้ข้ามาตลอด แล้วเจ้าสูงส่งกว่าท่านพี่องค์รัชทายาทหรือ? ข้าจะบอกเจ้านะ บิดาข้าคือหมอเทวดาหลี่!"ทหารที่เดิมทีชักกระบี่ออกมาแล้วพอได้ยินคำว่าหมอเทวดาหลี่ ท่าทางก็หยุดลงทันที เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิง ลังเลขึ้นมา"อ๋องเจวี้ยนจะเสียเวลาอีกไม่ได้ โทษของเจ้าคนโง่ที่ไม่เคารพต่อท่านอ๋อง ข้าจะสั่งสอนนางแทนท่านอ๋องเอง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงขรึม กระชากกระบี่ของทหารออกมา สาวเท้าขึ้นหน้าไปทางหลี่จื่อเหยา ชูกระบี่ แสงเย็นวาบ เสียงแควกดังขึ้น หลี่จื่อเหยารู้สึกหน้าอ
แม่เฒ่าประคองมือของนาง ตื่นเต้นจนเสียงสั่นพร่าไปหมด"พระชายา ท่านเดินดีดีหน่อยสิ ไอ๊หยาท่านดูสิ พรมแดงก็ปูมาอยู่หน้าเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว ที่ประตูยังมีขบวนสาวรับใช้อยู่อีก แต่งกันด้วยเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม นั่นสิเรียกว่าความสุข!""แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเวลาเพียงแค่นี้ จวนอ๋องเจวี้ยนก็จัดการไว้หมดแล้ว"ฟู่จาวหนิงถูกประคองเข้าประตู และได้ยินเสียงตื่นเต้นของแม่เฒ่าพูดกับนางมาตลอดทาง ในใจก็ประหลาดใจอย่างมากเช่นกันหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนรับปากจะแต่งงานบนถนน ระหว่างทางพวกเขาคงจะสั่งคนให้รีบกลับไปถ่ายทอดคำสั่งที่จวนอ๋องอย่างแน่นอน จากนั้นจึงจัดการตระเตรียมขึ้นมาให้ตายเถอะ นางประเมินอ๋องเจวี้ยนคนนี้ต่ำไปใช่ไหมนะกอดความสงสัยนี้ ฟู่จาวหนิงถูกประคองมาถึงโถงรับแขกกลางสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง จากนั้นมีสาวใช้สองคนเดินเข้ามารับช่วงต่อจากยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการ"ข้าน้อยเฝิ่นซิงคารวะพระชายา""ข้าน้อยหงจั๋วคารวะพระชายา"เสียงหญิงสาวทั้งสองใสกังวาน หลังจากคารวะต่อฟู่จาวหนิงแล้วจึงอธิบายสถานการณ์กับนาง"พระชายา เวลานี้โถงพิธีการกับห้องหอกำลังจัดเตรียม ท่านอ๋องต้องไปเปลี่ยนชุดมงคล ข่าวการแต่งงานต้องเข้าวังเพื
"ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไหม?"ชิงอีหันไปมองอ๋องเจวี้ยนอย่างตึงเครียด"ลากออกไป" อ๋องเจวี้ยนสีหน้าไร้อารมณ์"ขอรับ!"แม่นมทั้งสองคนยังคิดจะตะโกน แต่ก็ถูกกดจุดขมับแล้วลากออกไปชิงอีจึงหมุนตัว มองไปยังใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว และก็มองเห็นด้านหลังอ๋องเจวี้ยนมีฟู่จาวหนิงยื่นหัวออกมา รู้สึกสงสัยอย่างหนักหญิงสาวที่ชิงกระบี่จากมือเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่พอเจอกับแม่นมสองคนกลับปอดแหกขึ้นมาหรือ?แต่ว่าพอเขาคิดอีกทีก็ไม่แปลก ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นคนของฮองเฮา ฟู่จาวหนิงจะกล้าลงมือกับคนของฮองเฮาได้อย่างไร"ท่านอ๋อง จะกราบไหว้ฟ้าดินไหม" เขาถามขึ้นฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาถามเช่นนี้ก็เดินออกมาจากด้านหลังอ๋องเจวี้ยน "ดังนั้น พวกเจ้าที่แท้ไม่คิดจะกราบไหว้ฟ้าดินหรอกหรือ?"ชิงอีนิ่งงัน แต่สายตาที่มองนางกลับตกตะลึงขึ้นมาเขาคิดว่าฟู่จาวหนิงที่ไม่กรีดร้องเมื่อครู่ เพราะว่านางยังไม่เห็นใบหน้าของท่านอ๋อง แต่ตอนนี้นางกลับมองท่านอ๋องด้วยสีหน้าปกติ เห็นได้ชัดว่ามองเห็นแล้วนางไม่กลัวแผลเป็นของท่านอ๋องหรือ?"กราบไหว้ฟ้าดิน พิธีแต่งงานใหญ่" อ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิงอย่างลึกซึ้ง "เจ้าแน่ใจว่าจะไ
คำพูดของไทเฮาไม่มีใครได้ยินและตอนที่ฮองเฮาเห็นอ๋องเจวี้ยนในชุดมงคลเดินเข้ามา ดวงตาก็มีเงามืดทมึนหลั่งทะลักของชั้นต่ำที่นังแพศยานั่นคลอดออกมา จะแต่งงานมีพระชายาแล้ว!ไม่ ฝันไปเถอะ!พิธีวันนี้ นางจะล่มมันเสีย!ฮองเฮาคิดในใจ ใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมา เอียงหน้าไปเอ่ยกับองค์จักรพรรดิเสียงแผ่วเบาว่า "องค์จักรพรรดิมักจะกังวลเรื่องสุขภาพของอ๋องเจวี้ยน ดูเอาเถิด อ๋องเจวี้ยนไม่ใช่ว่าเติบโตมาสูงใหญ่หล่อเหลาหรอกหรือ?"อายุสั้นอะไรกัน ทำไมไม่เห็นว่าจะดูอายุสั้นตรงไหน?องค์จักรพรรดิหัวเราะร่า "แม้จะบอกว่าอายวนจะดูคล้ายกับไท่ซ่างหวงตอนหนุ่มก็เถอะ แต่พอดูแบบนี้พวกเราพี่น้องก็ดูคล้ายกันอยู่พอควรนะ"พอได้ยินองค์จักรพรรดิพูดถึงไท่ซ่างหวง ฮองเฮาก็แค้นจนเข็ดฟันนี่เป็นเพราะเจ้าคนชั้นต่ำนี่หน้าตาคล้ายกับไท่ซ่างหวง ดังนั้นตั้งแต่เล็กจึงถูกไท่ซ่างหวงปกป้องไว้ หลายต่อหลายครั้งก็จัดการเขาไม่ได้เสียทีไท่ซ่างหวงกลัวว่าเขาที่ร่างกายอ่อนแอพอโตมาจะแย่งอะไรกับใครไม่ไหว ก่อนหน้าที่จะตายถึงกับทิ้งโองการไว้ให้แก่เขา รอจนเขาเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ พอรับพระชายา ก็จะมีคนนำของขวัญชิ้นใหญ่มามอบให้กับเขากระทั่งองค์จั
ร่างสีแดงพุ่งเข้ามาในโถงพิถีมงคลอย่างรวดเร็วพอคนมาถึง กลิ่นหอมจรุงก็โชยเข้ามาฮองเฮาพอเห็นคนที่มา ก็วางใจลงทันทีเอาล่ะ เมื่อนางมาแล้ว งานวันนี้ไม่มีทางสำเร็จเป็นแน่แท้นางร้องเรียกขึ้นอย่างปรีดา "ไอ๊หยา ท่านหญิงหยวนหลินกลับเมืองหลวงแล้วหรือ? สำนักบัณฑิตชิงหวาปิดภาคเรียนแล้วหรือ?"สำนักบัณฑิตชิงหวาคือสำนักบัณฑิตหญิงที่เลื่องชื่อของแคว้นเจา หญิงสาวที่จะเข้าไปเรียนได้ล้วนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นกว่าผู้อื่น ท่านหญิงหยวนหลินคือคนที่เลื่องชื่ออย่างมากคนหนึ่งในสำนักบัณฑิตชิงหวาแต่ว่า อารมณ์ของท่านหญิงชิงหวาไม่ค่อยจะดีนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่มีความใคร่ปรารถนาแรงกล้าอีก"คนรักของเจ้าหรือ?"อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว และเห็นว่าผ้าแพรแดงในมือถูกบีบแน่นเล็กน้อย จนฟู่จาวหนิงเขยิบใกล้เขาเข้าไป จึงถามขึ้นเสียงแผ่ว"ไม่ใช่"อ๋องเจวี้ยนถึงแม้จะอยากถาม ว่าใช่แล้วจะทำไม ไม่ใช่แล้วจะทำไมก็ตาม แต่สุดท้ายก็ยังตอบกลับนางตรงๆ"โอ้ เช่นนั้นข้าก็ไม่ต้องรู้สึกผิดสินะ"ฟู่จาวหนิงเองก็เพิ่งคิดถึงปัญหาข้อนี้ อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้าแม้จะยังไม่แต่งงาน แต่ใครจะรู้ว่าเขามีคนที่รักหรือไม่ มีหญิงสาวที่อยากแต่ง
ไม่มีใครรู้ว่าไท่ซ่างหวงทำไมจึงกำหนดเงื่อนไขนี้ขึ้นมาแต่ว่าตอนนี้ฮองเฮากลับรู้สึกว่าเงื่อนไขนี้กำหนดมาได้ดี ตระกูลฟู่ไม่มีใครสักคนที่เรียนหมอ ฟู่จาวหนิงเองก็ช่วยปู่ของนางออกหาสมุนไพรตั้งแต่เล็ก แต่คนไม่น้อยในเมืองหลวงก็รู้ว่า นางนั้นโง่จะตาย จำตัวยาอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ต้องคอยให้หมอบอกให้ วาดรูปร่างให้ จากนั้นจึงให้นางขึ้นเขาไปค้นหาแต่อย่างนี้หายากลับมาถูกหรือ?ไม่เลยสักนิดฟู่จาวหนิงมักจะขุดกลับมากองหนึ่ง ส่งให้ท่านหมอช่วยดูให้ ว่าในกองนั้นหาอะไรมาถูกต้องบ้างนางยังเคยต้มยาผิดให้ผู้เฒ่าฟู่ด้วยเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตลกขบขันที่เล่ากันไปทั่วเมืองหลวง เซียวเหยียนจิ่งเองก็รังเกียจฟู่จาวหนิงด้วยเหตุนี้ รู้สึกว่านางเป็นคนไม่ได้เรื่อง มีแต่จะทำให้คนขบขันการรับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟู่จาวหนิงมาเป็นภรรยา จะยิ่งทำให้เขาถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้ฮองเฮาตอนนี้อยากจะหัวเราะร่าขึ้นมาเงื่อนไขนี้ของไท่ซ่างหวงกำหนดออกมาได้ยอดเยี่ยมเสียจริง!"ฮองเฮา ข้าเองก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว" ไทเฮาน้ำเสียงเย็นชา ดูเคืองหน่อยๆ "เจ้าในเมื่อจดจำได้ ก่อนหน้าที่กราบไหว้ฟ้าดินทำไมจึงไม่พูดออกมา? ตอนนี้แม่นางตระกูล
"คิดจะไปเนินจันทร์เด่นค้นหาตัวยาสิบชนิดไม่น่าจะเป็นไปได้เสียแล้ว"ฟู่จาวหนิงส่ายหัวถอนหายใจ"ผิดแผน ผิดแผน"นางคิดไม่ถึงเลยว่าการเลือกอ๋องเจวี้ยน พอแต่งงานด้วยแล้วจะเจอเรื่องยุ่งยากขนาดนี้ แต่ว่าพอคิดไปถึงผู้เฒ่าฟู่ นางก็ตั้งสติใหม่ขึ้นมาก็แค่หาตัวยาเองไม่ใช่หรือ?ต่อให้ไม่มีเงื่อนไขนี้ นางก็ยังต้องออกไปหายาอยู่ดี สถานการณ์ตระกูลฟู่ตอนนี้ลำบากยากแค้นมาก ที่บ้านไม่เหลือเงินอีกแล้ว คิดจะซื้อยามาก็สิ้นเปลือง ถ้าหากเขาจันทร์ลับฟ้าทางนั้นมีตัวยา นางไปขุดมาไม่ต้องใช้เงินไม่ดีกว่าหรือ?พอคิดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ใจเย็นลงมา"ลูกชิ้นนี้อร่อยดีจัง"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงเห็นว่านางดูใจเย็นขนาดนี้ ก็กลับกังวลแทนนางขึ้นมา ตอนนี้ดูแล้วเหมือนพระชายาคนนี้จะไม่มีมาด ไม่น่ากลัว ในใจพวกนางจึงคาดหวังให้ฟู่จาวหนิงสามารถนั่งในตำแหน่งพระชายานี้ได้อย่างมั่นคงส่วนโถงพิธีมงคลทางนั้น องค์จักรพรรดิยังคิดจะถามคำถามอ๋องเจวี้ยนอีกสักหน่อย แต่ไทเฮากลับมึนหัวขึ้นเสียแล้ว"องค์จักรพรรดิ ฮองเฮา พวกเรากลับวังกันเถิด อายวนเร่งร้อนแต่งงาน ไม่มีอะไรจะเลี้ยงด้วย" ไทเฮาดูเหมือนไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว"นี่."องค์จักรพรรดิร
"สุรานี้""พระชายา ท่านอ๋องในใจมีท่านอยู่แน่นอน" หงจั๋วกับเฝิ่นซิงดูตื่นเต้น มองฟู่จาวหนิงแล้วแอบหัวเราะ "นี่คือสุราเลิศตระกูลอวิ๋น หนึ่งไหหมื่นตำลึงก็ยังซื้อไม่ได้เลยนะ ท่านอ๋องยังห่วงใยจนส่งมาให้ท่านเหยือกหนึ่งด้วย"ฟู่จาวหนิงรับสุราไป ขึ้นมาชิมก่อนจิบหนึ่ง จากนั้นก็ดื่มรวดเดียวจนหมดพอเห็นนางดื่มสุราอย่างห้าวหาญเช่นนี้ สาวใช้ทั้งสองก็ตะลึงงันไป"นี่มันสุราโอสถนี่นา" ฟู่จาวหนิงลิ้มชิมรสของสุรา"ใช่แล้ว สุราเลิศตระกูลอวิ๋นไม่เพียงแต่หมักบ่มจนหอมเข้ม หอมหวานสดชื่อในปาก รสติดค้างอยู่ในคอเท่านั้น แต่เพราะด้านในของมันมีตัวยาอยู่เก้าชนิด หลายปีมานี้มีคนมากมายค้นคว้าสุราเลิศตระกูลอวิ๋น และค้นคว้าตัวยาเจ็ดชนิดด้านในออกมาได้แล้ว ทว่าจนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้ถึงสองชนิดที่เหลือ สุราที่หมักออกมาจึงไม่ใช่รสชาตินี้มาโดยตลอด"หงจั๋วสูดดมกลิ่นของสุรานี้ จากนั้นจึงพูดต่อว่า "ดังนั้นสุรานี้จึงขายกันแพงลิบลิ่ว แพงขนาดนี้ยังหาซื้อได้ยากเลย""พระชายา สุรานี้ดื่มแล้วบำรุงได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่แรงมากด้วย หัวก็ไม่ปวด ท่านดื่มอีกสักสองแก้วสิ" เฝิ่นซิงเอ่ยขึ้น"พวกเจ้าดื่มด้วยไหม?" ฟู่จา