Home / รักโบราณ / หมื่นฝันพันคะนึง / Chapter 25. ความลวงอันแสนหวาน

Share

Chapter 25. ความลวงอันแสนหวาน

last update Last Updated: 2024-12-24 22:12:23

แม่ทัพหนุ่มคลายมือจากลำคอของนางและทำท่าจะจากไป หรูซื่อลนลานรีบลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ ประสาทสัมผัสเฉียบไวของผู้ฝึกยุทธทำให้ชายหนุ่มรีบหันกลับมาพบเรือนร่างเปลือยเปล่าของหรูซื่อ หญิงสาวตกใจรีบย่อกายลงในอ่างอาบน้ำอีกครั้งและใช้ขอบอ่างบังกายไว้

“ท่าน...”

เขานิ่งงันรอฟังถ้อยคำของนาง  

หากเป็นก่อนหน้านี้ แววตาที่เขามองนางคงเต็มไปด้วยเพลิงเสน่หา ทว่าในเวลานี้ แววตาคู่นั้นเย็นชาราวกับมีแผ่นน้ำแข็งฉาบที่ดวงตา

“ท่านแม่ทัพจะไม่ถามอะไรข้าหน่อยหรือ?”

“มีสิ่งใดที่ข้าควรถาม”  

น้ำเสียงราบเรียบแตกต่างจากทุกครั้ง หรูซื่อเม้มปากจนกลายเป็นเส้นตรง กลายเป็นนางอับจนถ้อยคำไม่รู้จะเอ่ยคำใดออกมา

“อาบน้ำแล้วก็รีบพักผ่อนเถิด”

เขาเอ่ยจบก็หมุนตัวเดินออกไป ภายในห้องเงียบงันจนนางได้ยินเสียงหัวใจตนเอง  หญิงสาวผ่อนลมหายใจแล้วตั้งสติ  ความทรงจำของนางไม่ได้คืนกลับมาครบถ้วน แต่มีบางเรื่องผุดขึ้นมาอย่างไม่ปะติดปะต่อนัก รวมทั้งความรู้สึกของนางที่มีต่อเขา มันคล้ายอยู่ในม่านหมอกไม่แจ่มชัด  

หญิงสาวพาร่างเปลือยเปล่าขึ้นจากอ่างอาบน้ำ เช็ดผิวกายอย่างรีบร้อนและสวมเสื้อผ้า เมื่อก้าวออกมาหลังฉากกั้นก็ไม่พบร่างของแม่ทัพหนุ่ม หากเป็นเมื่อก่อนเล่า? เขาจะหยอกล้อนาง ดูแลปรนนิบัติด้วยตนเอง  สิ่งที่เขาแสดงออกเหล่านี้นางไม่รู้เลยว่าสิ่งใดจริง สิ่งใดลวง

ภาพที่เขายอมให้นางขี่หลังปรากฎขึ้นในหัว  ไม่ว่านางขอสิ่งใด เขาจะตอบรับทันทีว่า ‘ได้’ ยามเขานวดแป้งทำเกี๊ยวให้นาง นั่งกินข้าวด้วยกันอย่างเรียบง่าย โดยมีเจ้าแพะน้อยสองตัววนเวียนอยู่ใกล้ๆ และม้าขี้อิจฉาที่ชอบเอาหัวมาดันไหล่นาง

ความเย็นชาที่วันนี้เขาแสดงออกมานั้น มันหมายความเช่นไร

หรือเขาเองก็รู้เรื่อง ‘จางหมินเซ่อ’ แล้ว

หัวใจนางกระตุกวูบ เขาวางองครักษ์ลับไว้รอบกายนาง มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าวันนี้นางไปที่ใดและพบเจอใครมาบ้าง

มือที่แปรงผมอยู่ชะงักไป ผมยาวยังเปียกชื้น นางรีบร้อนสวม

รองเท้าแล้วเดินออกมา  เพียงเปิดบานประตูก็พบว่ามีทหารยามเฝ้าอยู่

นางกระชับเสื้อคลุมให้มิดชิดแล้วเอ่ยถาม

“ท่านแม่ทัพไปที่ใดแล้ว”

“เอ่อ...เห็นเดินไปทางโน้น คงจะไปห้องหนังสือขอรับ” ทหารยามตอบ “ถ้าฮูหยินจะไปหาท่านแม่ทัพ ประเดี๋ยวข้าน้อยถือโคมไฟให้นะขอรับ ทางค่อนข้างมืด”

“ไม่เป็นไร ข้าไปเองได้”  

ด้วยความร้อนใจ หรูซื่อรีบเดินไปด้วยตนเองไม่รอให้ทหารถือโคมไฟนำทาง  สองเท้าพาร่างบอบบางไปถึงห้องหนังสือก็เหนื่อยหอบไปเล็กน้อย แต่เมื่อถึงหน้าประตู นางกลับไม่กล้าผลักเข้าไปมา

นางต้องการสิ่งใดกันแน่

ต้องการความจริงที่แม้จะเจ็บปวด

หรือความลวงอันแสนหวาน

หากนางทำเป็นจำเรื่องราวใดไม่ได้เลย ให้เขายังคงเป็นสามีที่เอาอกเอาใจเช่นนั้น และลืมไปว่านางเคยพยายามหนีตามชายอื่นไป

นาง...นางหนีตามจางหมินเซ่อจริงหรือ?

ไม่...ไม่ถูกต้อง

อาการปวดศีรษะเล่นงานอีกระลอก มือเรียวยื่นไปทาบที่บานประตูอย่างหาที่พึ่ง  ร่างกายเหมือนจะแบกรับความเจ็บปวดไม่ไหว

“จวนข้าไม่ขาดแคลนคนเฝ้าประตู หากไม่คิดจะเข้ามาก็กลับไปเสีย”

ถ้อยคำประชดประชันนั้น นางไม่คิดว่าจะเป็นคำพูดของบุรุษที่เคยเอาใจใส่นาง ซ้ำน้ำเสียงยังแข็งกระด้างจนน่าน้อยใจ นางกัดริมฝีปากตั้งสติ  พยายามไม่คิดถึงอาการปวดศีรษะของตน  มือเรียวเล็กผลักบานประตูเดินเข้าไป ภายใต้แสงเทียนสว่างไสว บุรุษที่นางต้องการพบสวมเสื้อคลุมตัวยาวสีเข้มผูกสายคาดเอวหลวมๆ ทำให้สาบเสื้อเบะออกเผยเห็นแผ่นอกกำยำ คล้ายเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เส้นผมปล่อยยาวสลายและเปียกชื้น เขานั่งที่ตั่ง นิ้วมือเรียวยาวคีบจอกสุราแล้วยกขึ้นดื่ม  ทำราวกับไม่เห็นว่านางเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเขาแล้ว 

“ท่าน...ท่านแม่ทัพดื่มสุราอยู่หรือ?”  นางเอ่ยถามอย่างไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี  ตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมาก็รู้จักเขาในภาพสามีที่เอาใจใส่ใจภรรยา ไม่เคยเห็นเขาทำท่าห่างเหินหมางเมินเช่นนี้  

“ข้าดื่มสุราแล้วอย่างไร”  มุมปากกระตุกยิ้มเล็กน้อย “หรือเจ้าก็อยากร่วมดื่มสุรากับข้า”

หรูซื่อส่ายหน้าไปมา แค่นึกถึงคืนที่นางเมามายทำตัวเหลวไหล ใบหน้างามก็แดงระเรื่อ ยิ่งอยู่ภายใต้แสงเทียนนวล ยิ่งขับเน้นให้ใบหน้านี้น่ามองมากยิ่งขึ้น และนั้นเป็นเหตุผลให้ซุนหลวนคุนรินสุราให้ตัวเองอีกจอก  

“หรือเจ้ากลัวว่าข้าจะใส่ยาพิษ เช่นนั้นข้าดื่มให้เจ้าดูก่อนดีไหม หรือใช้จอกของข้าดี”

“ได้ ข้าดื่ม”

นางเดินไปนั่งด้านข้าง ฉวยเอาจอกสุราจากมือของเขาไปยกดื่มรวดเดียวหมด สุราฤทธิ์แรงทำเอานางถึงกับสำลัก  ร้อนผ่าวไปทั่วร่าง หัวใจเต้นแรงผิดจังหวะจนเผลอทำจอกสุราหลุดมือ  ประสาทสัมผัสอันเฉียบไวทำให้ซุนหลวนคุนยื่นมือไปรับได้ทันก่อนที่มันจะตกลงพื้น แม้นางสำลักจนน่าสงสารแต่เขาไม่ยื่นมือมาลูบหลังให้นาง  ทำเพียงแค่รินสุราให้ตนเองดื่มไปเงียบๆ  

สุราเพียงจอกเดียวก็ทำเอาหรูซื่อมึนเมา นางเบิกตาเพ็งมองชายหนุ่ม แต่ภาพที่เห็นพร่าเลือนจนนางต้องหลับตาลงอีกครั้ง แต่เมื่อลืมตาขึ้น ภาพตรงหน้าก็ยังไม่แจ่มชัดนัก  นางมองเห็นใบหน้าของเขาซ้อนกันจึงยื่นมือไปแตะแก้มของอีกฝ่าย  

“ข้าไม่รู้ว่า สิ่งใดจริง สิ่งใดลวง” นางเอ่ยขึ้นมา “ท่านเป็นใครกันแน่ ซุนหลวนคุน”

น้ำเสียงของนางอ้อแอทำให้มุมปากของเขายกยิ้มไม่รู้ตัว แต่กระนั้น รอยยิ้มของเขาทำให้นางหวั่นไหว

“บอกข้า”

“ความจริงมันโหดร้าย เจ้ายังจะฟังอยู่หรือ?” เพราะรู้ว่านางคออ่อนและคงจดจำเรื่องราวที่พูดไม่ได้จึงไม่คิดปิดบัง เขายกสุราขึ้นดื่มแล้วตบที่ตักของตน นางชั่งใจครู่หนึ่งแล้วเดินไปนั่งบนตักอย่างคุ้นเคย

“เป็นข้าที่อยากแต่งงานกับเจ้า” เขาโอบนางไว้หลวมๆ “เพราะต้องการอำนาจสนับสนุนจากบิดาและพี่ชายของเจ้า”

“ข้าเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งของท่านหรือ?” นางถามเอนศีรษะซบแผ่นอก

“เจ้าเป็นมากกว่านั้น”  ปลายนิ้วพันเกี่ยวเส้นผมของนางไว้ “เจ้าฉลาดหลักแหลม แต่ก็ไร้เดียงสา เพราะข้าบีบบังคับทำให้เจ้าต้องแต่งงานกับข้า” 

“อย่างนั้นหรือ?”  นางถามแต่คล้ายไม่ต้องการคำตอบ “นั้นเป็นเหตุผลที่ทอดทิ้งข้าหรือ?”

“ข้าไม่อยากทอดทิ้งเจ้า แต่ที่นี่...เจ้าก็เห็นว่ามันกันดารมากเพียงใด ข้าไม่อาจทนให้เจ้าลำบากได้”

“ไม่” นางซุกหน้ากับแผ่นอก แนบใบหูกับตำแหน่งหัวใจ “ข้าชอบที่นี่ มีแพะน้อยของเรา มีม้าของท่าน ท่านนวดแป้งทำเกี๊ยวให้ข้ากิน เราจะขี่ม้าในทุ่งหญ้ากว้างด้วยกัน”

“นานวันไปเจ้าก็เบื่อ” เขาหัวเราะเสียงพร่า  “คนแซ่จางดีกับเจ้าหรือไม่”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา “ท่านยินดีเห็นข้าไปกับชายอื่นหรือ?”

“ไม่ยินดี”  เขาตอบรวดเร็วนัก “แต่ถ้าเป็นความสุขของเจ้า ข้าก็ไม่อาจห้ามได้”

“ใช่รึ? มิใช่ว่าท่านทนเห็นข้าไปกับชายอื่นไม่ได้ ท่านจึงสังหารข้ากับเขาเสีย”

แม่ทัพหนุ่มหัวเราะเหมือยเย้ยเยาะตนเอง

“ถ้าเจ้าเป็นอะไรไป บิดาเจ้าก็ไม่สนับสนุนข้าแล้ว สกุลซุนของข้ามิได้ใหญ่โต ไม่มีอำนาจต่อรองกับทางราชสำนัก  การแต่งงานกับเจ้าคือหนทางเดียวของข้า ด้วยเหตุนี้เจ้าจึงเป็นอะไรไม่ได้เช่นกัน”

“ข้าจึงถูกจองจำในบ้านของท่านสินะ”

“เจ้าจะคิดเช่นนั้นก็ได้”

“เพราะท่านไม่อยู่ จางหยินเซ่อจึงเข้ามาในชีวิตข้าหรือ?” นางมีคำถามมากมายเหลือเกิน “วันนี้ข้าพบเขา”

“ข้ารู้”

“นั้นสินะ ท่านให้ทหารติดตามข้ามากมาย ย่อมรู้การเคลื่อนไหวของข้า” นางหัวเราะขื่นขม “หากข้าจำอะไรไม่ได้เลย ท่านก็จะทำเช่นที่ผ่านมาหรือไม่ หรือว่าถ้าข้าจำอะไรได้แล้ว ท่านจะละเลยไม่ใส่ใจข้าอีก”

 

Related chapters

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 26. รักข้าได้ไหม

    “หรูซื่อ... คนที่ข้าผิดด้วยมากที่สุดคือเจ้า เวลานี้แล้วเจ้าอาจไม่เชื่อคำพูดของข้าอีก แต่ทุกสิ่งที่ข้าทำล้วนทำด้วยความจริงใจ”“ข้าเชื่อท่านได้หรือไม่”“สิ่งนั้นข้าตอบไม่ได้”นางเงยหน้าขึ้นสบตาเขา แววตาคู่นี้หม่นเศร้าเหมือนวิญญาณเร่ร่อน โดดเดี่ยวและอ้างว้าง นางรู้สึกได้ว่าเขาพูดไม่หมด แต่กลับเชื่อถ้อยคำของเขาหมดจิตหมดใจ“ท่านจะทำทุกอย่างที่ข้าขอได้ไหม”“ถ้าทำได้ ข้ายินดี”นางมองริมฝีปากเขาแล้วเอ่ยเสียงแผ่วจนเขาแทบไม่ได้ยิน“ระ..รัก...ขะ..ข้า..”“?”แม้ได้ยินชัดแต่เขาไม่มั่นใจว่าตัวเองจะเข้าใจถูก“รักข้า” นางเพิ่มน้ำเสียงขึ้นอีกนิดแล้วสบตากับเขา “ท่านรักข้าได้ไหม”. “อย่าให้ข้าต้องพูดอีกครั้ง” เพียงสิ้นประโยคของนาง ริมฝีปากหยักสวยก็ทาบทับลงดูดกลืนกลีบปากสีชาด เขาไม่ได้อ่อนโยนอย่างที่เคย แต่เต็มไปด้วยความปรารถนาอันร้อนแรง แทรกลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของนาง ร่างอ่อนนุ่มถูกรัดเข้ามาแนบชิด สายรัดเอวถูกปลดออกทั้งที่เขายังจุมพิตนางอย่างอุจอาจและแสดงความเป็นเจ้าของ นางไม่รู้ว่าจะวางมือไว้ที่ได้จึงวางไว้บนตำแหน่งหัวใจของเขา เสียงครางในลำคอของเขาทำให้นางสะดุ้งและผง

    Last Updated : 2024-12-24
  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 27. ฟื้นความทรงจำ

    “เรา? หมายถึงข้ากับท่านนะหรือ?” นางสายหน้าไปมา “ข้าไม่ไปไหนกับท่านทั้งนั้น” “หรูซื่อ ข้ารู้เรื่องที่เจ้าความจำเลอะเลือนหมดแล้ว” จางหยินเซ่อมองหญิงสาวอย่างสงสาร “ความจำเลอะเลือนอันใดกัน” นางขึงตาใส่ นางแค่จำไม่ได้ชั่วคราวต่างหาก “ท่านรู้ได้อย่างไร” “แม่ทัพซุนบอกข้า” “อะไรนะ” นางส่ายหน้าไปมา “เขาจะบอกท่านทำไมกัน” “บอกเพื่อให้ข้าดูแลเจ้า” จางหยินเซ่อพูดแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้ยื่นมือไปหมายจะจับมือนางแต่นางกลับกระถดกายหนีจนแผ่นหลังชิดผนังรถม้า ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง “เขาต้องการให้เจ้าไปจากที่นี่ เขาต้องการตัดขาดกับเจ้า” “ไม่จริง” นางส่ายหน้าไปมา “เขาบอกว่า ถ้าเจ้าฟื้นแล้วให้อ่านจดหมายที่อยู่ในอกเสื้อของเจ้า” หรูซื่อยกมือขึ้นตบสาบเสื้อของตนเอง มีจดหมายอยู่จริง นางหยิบออกมาดู ในซองจดหมายมีหนังสือหย่าและมีดสั้นอันนั้นที่ได้รับจากชาว เปียนเจียงเท่ากับว่านี่เป็นเรื่องจริง “หรูซื่อ” จางหมินเซ่อเอ่ยเรียก “คนแซ่ซุนต้องการเพียงอำนาจไม่ได้รักใคร่เจ้าอย่างจริงใจ เจ้าเป็นคนฉลา

    Last Updated : 2024-12-26
  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 28.ออกรบ

    “มิใช่บุกไปท้าตีท้าต่อยกับพวกเอ้อหยีร์อยู่หรอกเรอะ” ลี่หย่ายกมือขึ้นเท้าเอว “ท้าตีต่อยอะไรของเจ้า แม่ทัพของเราไปทำศึกต่างหาก อุ๊บ!” นายกองผู้หนึ่งหลุดปากพูดออกมา รองแม่ทัพยกมือขึ้นตบศีรษะลูกน้องทันที “อยู่กับพวกเอ้อหยีร์จริง ๆ สินะ” นางเค้นเสียงพูดรอดไรฟัน “แม่ทัพเดินทางไปตั้งแต่เมื่อใด” “สะ...สองวันแล้วขอรับฮูหยิน” “นำกำลังคนไปเท่าไหร่” นางถามแล้วก้าวผ่านรองแม่ทัพไปที่โต๊ะทราย กวาดตามองตำแหน่งต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว “ห้า...” “ห้าหมื่น?” นางถาม แต่ไม่ได้ยินคำตอบรับจึงเงยหน้าขึ้น “ห้าพัน?” “ห้าสิบนายขอรับ” นางโมโหจนตัวสั่น แต่ลี่หย่าเข้าใจไปว่าหรูซื่อสั่นเพราะความกลัวจึงเข้าไปลูบไหล่ แต่หรูซื่อตวาดออกมาเสียก่อน “ทหารห้าสิบนาย! ต่อให้เป็นแม่ทัพปีศาจจริงจะต่อสู้กับพวกกระหายเลือดอย่างเอ้อหยีร์ได้เรอะ!” แม้เป็นทหารร่างใหญ่กำยำ แต่ถูกหญิงสาวตัวเล็กตวาดก็เล่นเอาทำอะไรไม่ถูกกันเลยทีเดียว “ใจเย็นก่อนหรูซื่อ แม่ทัพซุนคงมีแผนการในใจที่เราไม่รู้”

    Last Updated : 2024-12-26
  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 29. คำสั่งฮูหยินท่านแม่ทัพ

    ‘ไม่เอา ข้าไม่ชอบ’ท่าทางแสนงอนของนางในวัยเยาว์เรียกเสียงหัวเราะขบขันจากบรรดาพี่ชายทั้งสามรวมทั้งบิดาของนางด้วย มารดาเดินเข้ามาพร้อมขนมของว่าง นางวางถาดขนมลงแล้วกวักมือเรียกลูกสาวตัวน้อยมานั่งตัก‘เจ้ารู้หรือไม่ งานเย็บปักนี่ก็เหมือนกลศึกที่เจ้าชอบศึกษา’‘เหมือนกันได้อย่างไรเจ้าคะท่านแม่’‘เจ้าดูแขนเสื้อของพี่ชายเจ้า มันขาดเป็นรูเช่นนั้น เจ้าจะปกปิดอย่างไรไม่ให้ผู้อื่นรู้ การทำศึกมีช่องโหว่เจ้าก็ต้องหาทางปิดจุดบอดนั้นเช่นกัน’‘จริงหรือเจ้าคะท่านพ่อ’‘เจ้าเชื่อฟังคำพูดของแม่เจ้าเถิด’‘แล้วทำไมพวกพี่ๆ ไม่เห็นต้องฝึกงานเย็บปักเลยนี่’‘ซื่อเอ๋อร์ เจ้าเป็นคนใจร้อน เจ้าต้องฝึกใจเย็น มีสมาธิกว่านี้ เอาอย่างนี้ ถ้าเจ้าปักผ้ารูปไก่ได้ แม่จะยอมให้เจ้าฝึกขี่ม้า เจ้าอยากขี่ม้าใช่ไหม?’‘ได้! ข้าจะฝึกเย็บปักกับท่านแม่’มุมปากของหญิงสาวยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ภาพวันวานหวนคืนกลับมาที่ละเล็กละน้อย นางเคยฝึกขี่ม้ากับพวกพี่ๆ นี่เอง และที่คราวนั้นซุนหลวนคุนบอกว่านางขี่ม้าไม่เป็น คงเพราะกลัวนางจะขี่ม้าหนีไปเที่ยวเล่นคนเดียวเป็นแน่คนแซ่ซุนบังอาจเขียนหนังสือหย่าให้ข้า กลับมาจะจัดการให้ร้องเรียกมารดาเลย ค่อยดูสิ

    Last Updated : 2024-12-26
  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 30.หนทางกลับบ้าน

    ‘อ่า...นี่คงเพราะซุนหลวนคุนบอกจางหยินเซ่อว่าความจำเสื่อมสินิ คนแซ่จางเลยแต่งเรื่องว่านางมอบผ้าเช็ดหน้าให้ และสามีของนางก็อยากได้บ้าง อันที่จริงนั้นเป็นผ้าปักฝีมือนางก็จริง แต่ที่มอบให้เพราะเขาสัญญาว่าจะพานางไปพบซุนหลวนคุนต่างหาก’หรูซื่อหยิบเสื้อคลุมตัวนั้นออกมาแล้วคลุมร่างของตน วูบหนึ่งนางรู้สึกเหมือนตกอยู่ในวงแขนของเขา กลิ่นอายที่คุ้นเคยดั่งวงแขนโอบกอดนางแนบแน่น ภาพความทรงจำต่าง ๆ หลั่งไหลเข้ามาดุจสายฝนสาดซัดจนกายหนาวสั่น แม้ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ปะติปะต่อกันนัก แต่สิ่งนี้ยืนยันได้ว่า นางไม่เคยคิดปันใจไปจากเขา แม้เขาจะละเลยไม่ใส่ใจนางเท่าที่ควร นางต้องได้ยินเขาสารภาพความจริงจากปากของเขาเอง. เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว กลางคืนคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว อากาศในหุบเขาเย็นเยียบ กระนั้นทหารกลับมีเหงื่อไหลโทรมกาย แต่พวกเขาก็ไม่อาจหยุดได้ ต้องรีบถอยกลับไปถึงเขตแดนของตน “หวงอี้ เจ้านำทหารที่เหลือล่วงหน้าไปก่อน” “ไม่ได้นะขอรับ ท่านแม่ทัพนำหน้าไปก่อน พวกข้าจะอยู่รั้งท้ายเอง” “พวกเจ้านั้นแหละเป็นตัวถ่วงข้า จึงรีบรุดหน้าไปให้เร็วที่สุด”

    Last Updated : 2024-12-31
  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 31.ความจริง

    ม้าพุ่งทะยานฝ่าสายลมอันหนาวเหน็บพ้นเขตเอ้อหยีร์ ม้าของแม่ทัพหนุ่มรั้งท้าย แม้มีหยาดเลือดไหลเปื้อนใบหน้า ทำให้เขาต้องยกมือขึ้นเช็ดมันทิ้งราวกับปาดเหงื่อ แต่หัวใจเขาพุ่งกลับไปที่ถึงค่ายทหารก่อนแล้วด้วยการเตรียมการของหรูซื่อ นางสั่งการผ่านรองแม่ทัพ เมื่อทหารห้าสิบนายกลับมาถึงค่ายทหารให้ทำเป็นไม่รับรู้เรื่องใด การะจายคนทั้งห้าสิบพักตามกระโจมต่าง ๆ แม้จะตื่นเต้นยินดี แต่ต้องเก็บอาการไว้แต่กระนั้น หรูซื่อที่ห่อตัวเองด้วยเสื้อคลุมของสามียืนรอเขากลับมาที่หน้ากระโจมหลักเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกังวล สายตาของนางนับคนที่กลับมา แม้พวกเขาจะบาดเจ็บแต่ยังรักษาชีวิตมาได้ นางหวงฝูเห็นบุตรชายกลับมาปลอดภัยก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ นางรีบเข้าไปดูอาการบุตรชายทันที ม้าสองตัวควบขนาบคู่กันมา ดวงตาของหญิงสาวเพ่งมอง มือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมหัวใจไม่ให้เต้นเร็วเกินไปนัก แต่ก็บังคับได้ยากเย็น เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่เฝ้ารอเข้ามาใกล้น้ำตาที่กลั้นไว้ก็เอ่อคลอ ทว่าสองเท้ากลับเหมือนถูกตอกตรึงไม่สามารถขยับได้ ได้แต่ยืนมองเขาลงจากหลังม้าแล้วเดินตรงมาทางนาง “หรูซื่อ...” มีคำถามมากหมาย

    Last Updated : 2024-12-31
  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 32.หนังสือหย่าอะไรนั้น ถือว่าไม่เคยเขียนก็แล้วกัน.

    “แต่ท่านก็ยังส่งข้าไป ท่านเขียนหนังสือหย่าข้า” นางยื่นมือไปโอบกอดร่างแกร่งที่ยามนี้เต็มไปด้วยผ้าพันแผล แม้เลือดจะหยุดแล้วแต่บนผ้าพันแผลยังมีรอยเลือดให้เห็นอยู่ “เพราะข้ารักเจ้า” เขากอดนาง กดปลายจมูกกับเรือนผมอ่อนนุ่ม สูดดมกลิ่นอายที่คุ้นเคย “ข้าก็รักท่าน” นางเอ่ยที่ออกมา “แม้ข้าจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ข้ารู้ว่าท่านไม่ใช่คนที่จะทำร้ายข้า ท่านพยายามปิดบังบางอย่างเพื่อปกป้องข้า ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาท่านเตรียมแผนการสำหรับครั้งนี้ไว้หมดแล้ว ท่านไม่ได้ไปเอ้อหยีร์ในนามของแม่ทัพพิทักษ์ประจิม ท่านไม่ต้องให้ผู้อื่นติดร่างแหไปด้วย ท่านเตรียมตัวไปตาย แต่ท่านลืมไปว่า ข้าคือหลิวหรูซื่อ คนที่ทำอาหารไม่เป็น แต่คัดลอกตำราพิชัยยุทธส่งให้ท่าน คนที่ตระเตรียมเสื้อผ้าให้ท่าน และเป็นสตรีใจแคบที่ไม่ยอมให้ท่านรับอนุ ซ้ำยังเอาแต่ใจตัวเอง แต่ข้าสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ โดยที่ท่านไม่ต้องรับผิดใด ๆ และยังสามารถกลับเมืองหลวงไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวได้” “เจ้ามีแผนใด” แน่นอนว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองจะรอดชีวิตกลับมา จึงทุ่มเทสุดเรี่ยวแรงเพื่อให้ครั้งนี้ทำสำเร็จ “

    Last Updated : 2024-12-31
  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 33. ตอนพิเศษ ซุนหลวนคุน

    ความรู้สึกเจ็บปวดนี่มันคืออะไรกัน เป็นอีกเช้าที่ซุนหลวนคุนลืมตาตื่นแล้วพบว่า ดวงตาของตนมีน้ำตาเอ่อคลอ น่าอายเหลือเกิน เขาอายุสิบแปดแล้ว แต่ยังนอนละเมอร้องไห้อยู่อีก ที่สำคัญ เขาไม่เคยจำได้เลยว่าฝันถึงเรื่องใด ทุกครั้งที่ลืมตาตื่นจะเหลือเพียงความเจ็บปวดบีบรัดหัวใจ ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่งบนเตียง เขาตื่นแต่เช้ามืดเพราะต้องฝึกเพลงยุทธ เขาเป็นทหารมาหลายปีไต่เต้าด้วยความสามารถ มือสองข้างเปื้อนเลือดคล้ายตัวเขามีกลิ่นอายของความตายโอบกอดอยู่ เขาถอนหายใจ จะทำอย่างไรได้ เขาเลือกเส้นทางนี้เอง แต่ก่อนนั้นครอบครัวของเขาเป็นเพียงชาวนายากจน เขาเป็นพี่ชายคนโตที่หนีออกจากบ้านเพื่อไปเป็นทหาร เขาฝึกหนักกว่าผู้อื่น ทำในสิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าเขากล้าทำ เมื่อฐานะของตนเองมั่นคงจึงได้เชิญบิดามารดารวมทั้งน้อง ๆ มาอยู่ด้วยกัน แต่บิดาอ่อนแอเจ็บป่วยเรื้อรังมานาน ย้ายมาอยู่กับเขาได้ไม่ปีเศษก็ตายจาก เขาไม่ได้สนใจลาภยศใด เขาเพียงหวังให้ครอบครัวของเขาหลุดพ้นความยากจน ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อหรือไม่มีเสื้อผ้าอบอุ่นใส่ในยามหนาวเหน็บ แต่กระนั้น เมื่อมาถึงจุดนี้

    Last Updated : 2024-12-31

Latest chapter

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 35.ตอนพิเศษ หลิวหรูซื่อ 2. (จบ)

    “เข้ามาคุยด้านในเถิด” เขาปล่อยมือจากไหล่ของนางแล้วเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านใน ทว่าสายตาของนางถูกตำรามากมายดึงดูดไว้จนหลงลืมว่ามี ‘สามี’ อยู่ใกล้ๆ “ข้าไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะชอบสะสมหนังสือมากขนาดนี้” ‘ท่านแม่ทัพ’ ภรรยาหมาดๆ สนใจแต่หนังสือมากมายเหล่านั้น จึงไม่ได้เห็นแววตาไม่พอใจของสามีหมาดๆ อย่างเขา ซุนหลวนคุน ลอบถอนหายใจ นางเพิ่งย่างเท้าเข้าบ้านมาเป็นคนสกุลซุน คงไม่คุ้นชินกับการเรียกขานนัก “อีกห้าวันข้าต้องออกเดินทางแล้ว” “เดินทาง? ท่านแม่ทัพจะไปไหนรึ” หลิวหรูซื่อหันมามองหน้า ‘สามี’ นางทำหน้างุนงงไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องขบกรามเน้นเช่นนั้น“ได้ ข้าจะเตรียมตัว” “เจ้าไม่ต้องไป” น้ำเสียงของเขากระด้างขึ้นเล็กน้อย บอกตนเองว่าต้องให้ ‘เวลา’ นางมากกว่านี้ เขาจะโมโหนางไม่ได้เด็ดขาด “เหตุใดไม่ให้ข้าไป” นางเอียงคอถาม ท่าทางไร้เดียงสา “เจ้าอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนมารดาข้าเถิด” เขากดน้ำเสียงไม่ให้หงุดหงิดจนเกินไป “นับจากนี้เจ้าเป็นนายหญิงของจวน ต้องรับภาระดูแลเรื่องน้อยใหญ่ในบ้านร่วมกับมารดาข้าแล

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 34.ตอนพิเศษ หลิวหรูซื่อ 1.

    “แต่งงาน! น้องเล็กอายุแค่สิบเอ็ดจะให้แต่งงานแล้วหรือ?” “อีกสองเดือนน้องเล็กคนนี้ก็สิบสองแล้วเจ้าค่ะ” เสียงหวานใสดังขึ้นก่อนที่เจ้าของร่างเล็กเดินเร็วๆ ยื่นมือมาหยิบขนมดอกกุ้ยฮวาที่วางบนโต๊ะเข้าปากกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย “ซื่อเอ๋อร์ เจ้าแอบฟังพ่อกับพี่ๆ คุยกันอีกแล้วนะ”ราชครูหลิวถอนหายใจเบาๆ แต่กลับยิ้มเอ็นดูลูกสาวคนเดียวของสกุลหลิวไม่ได้ แม้นางเป็นหญิงแต่เฉลียวฉลาดแต่เด็ก หากไม่นับเรื่องวรยุทธแล้ว นางก็ไม่ด้อยกว่าบุรุษเลย “ซื่อเอ๋อร์ไม่ได้แอบฟังเสียหน่อย แต่เสียงพี่ๆกับท่านพ่อดังไปนอกห้องเอง” เด็กหญิงตัวน้อยไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องที่ได้ยิน “แล้วเจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร” บิดาเอ่ยถามพลางรินน้ำให้ลูกสาวอย่างเอาใจ “คนแซ่ซุนอยากแต่งข้าเป็นภรรยา ก็แต่งสิ ไม่เห็นต้องกังวลเลย” นางรับน้ำมาดื่มเล็กน้อยแล้วกินขนมต่อ มุมปากเลอะคราบขนมทำให้พี่ใหญ่หยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้นาง “คนแซ่ซุนไม่มีอะไรเหมาะสมกับเจ้าเลยสักนิด” พี่ชายคนรองเอ่ยอย่างหงุดหงิด “แค่ทหารปลายแถวที่ถีบตนเองขึ้นมาจากดินโคลน” “ข้าเชื่อว่าคนแซ่ซุน

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 33. ตอนพิเศษ ซุนหลวนคุน

    ความรู้สึกเจ็บปวดนี่มันคืออะไรกัน เป็นอีกเช้าที่ซุนหลวนคุนลืมตาตื่นแล้วพบว่า ดวงตาของตนมีน้ำตาเอ่อคลอ น่าอายเหลือเกิน เขาอายุสิบแปดแล้ว แต่ยังนอนละเมอร้องไห้อยู่อีก ที่สำคัญ เขาไม่เคยจำได้เลยว่าฝันถึงเรื่องใด ทุกครั้งที่ลืมตาตื่นจะเหลือเพียงความเจ็บปวดบีบรัดหัวใจ ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่งบนเตียง เขาตื่นแต่เช้ามืดเพราะต้องฝึกเพลงยุทธ เขาเป็นทหารมาหลายปีไต่เต้าด้วยความสามารถ มือสองข้างเปื้อนเลือดคล้ายตัวเขามีกลิ่นอายของความตายโอบกอดอยู่ เขาถอนหายใจ จะทำอย่างไรได้ เขาเลือกเส้นทางนี้เอง แต่ก่อนนั้นครอบครัวของเขาเป็นเพียงชาวนายากจน เขาเป็นพี่ชายคนโตที่หนีออกจากบ้านเพื่อไปเป็นทหาร เขาฝึกหนักกว่าผู้อื่น ทำในสิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าเขากล้าทำ เมื่อฐานะของตนเองมั่นคงจึงได้เชิญบิดามารดารวมทั้งน้อง ๆ มาอยู่ด้วยกัน แต่บิดาอ่อนแอเจ็บป่วยเรื้อรังมานาน ย้ายมาอยู่กับเขาได้ไม่ปีเศษก็ตายจาก เขาไม่ได้สนใจลาภยศใด เขาเพียงหวังให้ครอบครัวของเขาหลุดพ้นความยากจน ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อหรือไม่มีเสื้อผ้าอบอุ่นใส่ในยามหนาวเหน็บ แต่กระนั้น เมื่อมาถึงจุดนี้

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 32.หนังสือหย่าอะไรนั้น ถือว่าไม่เคยเขียนก็แล้วกัน.

    “แต่ท่านก็ยังส่งข้าไป ท่านเขียนหนังสือหย่าข้า” นางยื่นมือไปโอบกอดร่างแกร่งที่ยามนี้เต็มไปด้วยผ้าพันแผล แม้เลือดจะหยุดแล้วแต่บนผ้าพันแผลยังมีรอยเลือดให้เห็นอยู่ “เพราะข้ารักเจ้า” เขากอดนาง กดปลายจมูกกับเรือนผมอ่อนนุ่ม สูดดมกลิ่นอายที่คุ้นเคย “ข้าก็รักท่าน” นางเอ่ยที่ออกมา “แม้ข้าจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ข้ารู้ว่าท่านไม่ใช่คนที่จะทำร้ายข้า ท่านพยายามปิดบังบางอย่างเพื่อปกป้องข้า ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาท่านเตรียมแผนการสำหรับครั้งนี้ไว้หมดแล้ว ท่านไม่ได้ไปเอ้อหยีร์ในนามของแม่ทัพพิทักษ์ประจิม ท่านไม่ต้องให้ผู้อื่นติดร่างแหไปด้วย ท่านเตรียมตัวไปตาย แต่ท่านลืมไปว่า ข้าคือหลิวหรูซื่อ คนที่ทำอาหารไม่เป็น แต่คัดลอกตำราพิชัยยุทธส่งให้ท่าน คนที่ตระเตรียมเสื้อผ้าให้ท่าน และเป็นสตรีใจแคบที่ไม่ยอมให้ท่านรับอนุ ซ้ำยังเอาแต่ใจตัวเอง แต่ข้าสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ โดยที่ท่านไม่ต้องรับผิดใด ๆ และยังสามารถกลับเมืองหลวงไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวได้” “เจ้ามีแผนใด” แน่นอนว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองจะรอดชีวิตกลับมา จึงทุ่มเทสุดเรี่ยวแรงเพื่อให้ครั้งนี้ทำสำเร็จ “

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 31.ความจริง

    ม้าพุ่งทะยานฝ่าสายลมอันหนาวเหน็บพ้นเขตเอ้อหยีร์ ม้าของแม่ทัพหนุ่มรั้งท้าย แม้มีหยาดเลือดไหลเปื้อนใบหน้า ทำให้เขาต้องยกมือขึ้นเช็ดมันทิ้งราวกับปาดเหงื่อ แต่หัวใจเขาพุ่งกลับไปที่ถึงค่ายทหารก่อนแล้วด้วยการเตรียมการของหรูซื่อ นางสั่งการผ่านรองแม่ทัพ เมื่อทหารห้าสิบนายกลับมาถึงค่ายทหารให้ทำเป็นไม่รับรู้เรื่องใด การะจายคนทั้งห้าสิบพักตามกระโจมต่าง ๆ แม้จะตื่นเต้นยินดี แต่ต้องเก็บอาการไว้แต่กระนั้น หรูซื่อที่ห่อตัวเองด้วยเสื้อคลุมของสามียืนรอเขากลับมาที่หน้ากระโจมหลักเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกังวล สายตาของนางนับคนที่กลับมา แม้พวกเขาจะบาดเจ็บแต่ยังรักษาชีวิตมาได้ นางหวงฝูเห็นบุตรชายกลับมาปลอดภัยก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ นางรีบเข้าไปดูอาการบุตรชายทันที ม้าสองตัวควบขนาบคู่กันมา ดวงตาของหญิงสาวเพ่งมอง มือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมหัวใจไม่ให้เต้นเร็วเกินไปนัก แต่ก็บังคับได้ยากเย็น เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่เฝ้ารอเข้ามาใกล้น้ำตาที่กลั้นไว้ก็เอ่อคลอ ทว่าสองเท้ากลับเหมือนถูกตอกตรึงไม่สามารถขยับได้ ได้แต่ยืนมองเขาลงจากหลังม้าแล้วเดินตรงมาทางนาง “หรูซื่อ...” มีคำถามมากหมาย

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 30.หนทางกลับบ้าน

    ‘อ่า...นี่คงเพราะซุนหลวนคุนบอกจางหยินเซ่อว่าความจำเสื่อมสินิ คนแซ่จางเลยแต่งเรื่องว่านางมอบผ้าเช็ดหน้าให้ และสามีของนางก็อยากได้บ้าง อันที่จริงนั้นเป็นผ้าปักฝีมือนางก็จริง แต่ที่มอบให้เพราะเขาสัญญาว่าจะพานางไปพบซุนหลวนคุนต่างหาก’หรูซื่อหยิบเสื้อคลุมตัวนั้นออกมาแล้วคลุมร่างของตน วูบหนึ่งนางรู้สึกเหมือนตกอยู่ในวงแขนของเขา กลิ่นอายที่คุ้นเคยดั่งวงแขนโอบกอดนางแนบแน่น ภาพความทรงจำต่าง ๆ หลั่งไหลเข้ามาดุจสายฝนสาดซัดจนกายหนาวสั่น แม้ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ปะติปะต่อกันนัก แต่สิ่งนี้ยืนยันได้ว่า นางไม่เคยคิดปันใจไปจากเขา แม้เขาจะละเลยไม่ใส่ใจนางเท่าที่ควร นางต้องได้ยินเขาสารภาพความจริงจากปากของเขาเอง. เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว กลางคืนคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว อากาศในหุบเขาเย็นเยียบ กระนั้นทหารกลับมีเหงื่อไหลโทรมกาย แต่พวกเขาก็ไม่อาจหยุดได้ ต้องรีบถอยกลับไปถึงเขตแดนของตน “หวงอี้ เจ้านำทหารที่เหลือล่วงหน้าไปก่อน” “ไม่ได้นะขอรับ ท่านแม่ทัพนำหน้าไปก่อน พวกข้าจะอยู่รั้งท้ายเอง” “พวกเจ้านั้นแหละเป็นตัวถ่วงข้า จึงรีบรุดหน้าไปให้เร็วที่สุด”

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 29. คำสั่งฮูหยินท่านแม่ทัพ

    ‘ไม่เอา ข้าไม่ชอบ’ท่าทางแสนงอนของนางในวัยเยาว์เรียกเสียงหัวเราะขบขันจากบรรดาพี่ชายทั้งสามรวมทั้งบิดาของนางด้วย มารดาเดินเข้ามาพร้อมขนมของว่าง นางวางถาดขนมลงแล้วกวักมือเรียกลูกสาวตัวน้อยมานั่งตัก‘เจ้ารู้หรือไม่ งานเย็บปักนี่ก็เหมือนกลศึกที่เจ้าชอบศึกษา’‘เหมือนกันได้อย่างไรเจ้าคะท่านแม่’‘เจ้าดูแขนเสื้อของพี่ชายเจ้า มันขาดเป็นรูเช่นนั้น เจ้าจะปกปิดอย่างไรไม่ให้ผู้อื่นรู้ การทำศึกมีช่องโหว่เจ้าก็ต้องหาทางปิดจุดบอดนั้นเช่นกัน’‘จริงหรือเจ้าคะท่านพ่อ’‘เจ้าเชื่อฟังคำพูดของแม่เจ้าเถิด’‘แล้วทำไมพวกพี่ๆ ไม่เห็นต้องฝึกงานเย็บปักเลยนี่’‘ซื่อเอ๋อร์ เจ้าเป็นคนใจร้อน เจ้าต้องฝึกใจเย็น มีสมาธิกว่านี้ เอาอย่างนี้ ถ้าเจ้าปักผ้ารูปไก่ได้ แม่จะยอมให้เจ้าฝึกขี่ม้า เจ้าอยากขี่ม้าใช่ไหม?’‘ได้! ข้าจะฝึกเย็บปักกับท่านแม่’มุมปากของหญิงสาวยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ภาพวันวานหวนคืนกลับมาที่ละเล็กละน้อย นางเคยฝึกขี่ม้ากับพวกพี่ๆ นี่เอง และที่คราวนั้นซุนหลวนคุนบอกว่านางขี่ม้าไม่เป็น คงเพราะกลัวนางจะขี่ม้าหนีไปเที่ยวเล่นคนเดียวเป็นแน่คนแซ่ซุนบังอาจเขียนหนังสือหย่าให้ข้า กลับมาจะจัดการให้ร้องเรียกมารดาเลย ค่อยดูสิ

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 28.ออกรบ

    “มิใช่บุกไปท้าตีท้าต่อยกับพวกเอ้อหยีร์อยู่หรอกเรอะ” ลี่หย่ายกมือขึ้นเท้าเอว “ท้าตีต่อยอะไรของเจ้า แม่ทัพของเราไปทำศึกต่างหาก อุ๊บ!” นายกองผู้หนึ่งหลุดปากพูดออกมา รองแม่ทัพยกมือขึ้นตบศีรษะลูกน้องทันที “อยู่กับพวกเอ้อหยีร์จริง ๆ สินะ” นางเค้นเสียงพูดรอดไรฟัน “แม่ทัพเดินทางไปตั้งแต่เมื่อใด” “สะ...สองวันแล้วขอรับฮูหยิน” “นำกำลังคนไปเท่าไหร่” นางถามแล้วก้าวผ่านรองแม่ทัพไปที่โต๊ะทราย กวาดตามองตำแหน่งต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว “ห้า...” “ห้าหมื่น?” นางถาม แต่ไม่ได้ยินคำตอบรับจึงเงยหน้าขึ้น “ห้าพัน?” “ห้าสิบนายขอรับ” นางโมโหจนตัวสั่น แต่ลี่หย่าเข้าใจไปว่าหรูซื่อสั่นเพราะความกลัวจึงเข้าไปลูบไหล่ แต่หรูซื่อตวาดออกมาเสียก่อน “ทหารห้าสิบนาย! ต่อให้เป็นแม่ทัพปีศาจจริงจะต่อสู้กับพวกกระหายเลือดอย่างเอ้อหยีร์ได้เรอะ!” แม้เป็นทหารร่างใหญ่กำยำ แต่ถูกหญิงสาวตัวเล็กตวาดก็เล่นเอาทำอะไรไม่ถูกกันเลยทีเดียว “ใจเย็นก่อนหรูซื่อ แม่ทัพซุนคงมีแผนการในใจที่เราไม่รู้”

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 27. ฟื้นความทรงจำ

    “เรา? หมายถึงข้ากับท่านนะหรือ?” นางสายหน้าไปมา “ข้าไม่ไปไหนกับท่านทั้งนั้น” “หรูซื่อ ข้ารู้เรื่องที่เจ้าความจำเลอะเลือนหมดแล้ว” จางหยินเซ่อมองหญิงสาวอย่างสงสาร “ความจำเลอะเลือนอันใดกัน” นางขึงตาใส่ นางแค่จำไม่ได้ชั่วคราวต่างหาก “ท่านรู้ได้อย่างไร” “แม่ทัพซุนบอกข้า” “อะไรนะ” นางส่ายหน้าไปมา “เขาจะบอกท่านทำไมกัน” “บอกเพื่อให้ข้าดูแลเจ้า” จางหยินเซ่อพูดแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้ยื่นมือไปหมายจะจับมือนางแต่นางกลับกระถดกายหนีจนแผ่นหลังชิดผนังรถม้า ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง “เขาต้องการให้เจ้าไปจากที่นี่ เขาต้องการตัดขาดกับเจ้า” “ไม่จริง” นางส่ายหน้าไปมา “เขาบอกว่า ถ้าเจ้าฟื้นแล้วให้อ่านจดหมายที่อยู่ในอกเสื้อของเจ้า” หรูซื่อยกมือขึ้นตบสาบเสื้อของตนเอง มีจดหมายอยู่จริง นางหยิบออกมาดู ในซองจดหมายมีหนังสือหย่าและมีดสั้นอันนั้นที่ได้รับจากชาว เปียนเจียงเท่ากับว่านี่เป็นเรื่องจริง “หรูซื่อ” จางหมินเซ่อเอ่ยเรียก “คนแซ่ซุนต้องการเพียงอำนาจไม่ได้รักใคร่เจ้าอย่างจริงใจ เจ้าเป็นคนฉลา

DMCA.com Protection Status