เธอพบกับคริสต์ ซาเวียร์ ลูกชายคนเล็กของมหาเศรษฐีบริษัทนำเข้ารถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ เขาแสดงออกว่าชอบเธอมากขนาดไหน และหญิงสาวก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอรักเขา ทว่าความสัมพันธ์นั้นกลับไม่ยั่งยืนเมื่อเรื่องราวระหว่างเธอกับคริสต์รู้ถึงหูนิโคลัส พี่ชายของเขา ผู้แสดงออกว่ารังเกียจผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างเธอซึ่งเป็นแค่พริตตี้ที่ทำงานไม่ต่างจากดารา ขายหน้าตาแม้มีความสามารถแค่ไหนเขาก็ไม่สนใจจะค้นหา สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือเธอต้องเลิกกับคริสต์
นิโคลัสให้คนของเขาติดตามและคุกคามบีบคั้นให้เธอเกิดความหวาดกลัวซึ่งภิณไลย์ญาก็รู้สึกว่าตัวเองและครอบครัวอาจต้องเดือดร้อนหากยังปล่อยให้เรื่องระหว่างเธอและคริสต์ดำเนินต่อไป เธอเลือกที่จะหันหลังให้คนรัก หลังจากเธอยินยอมตัดความสัมพันธ์กับคริสต์แล้วพริตตี้สาวจึงได้ข่าวการประกาศหมั้นอย่างเป็นทางการระหว่างเขาและลูกสาวนักธุรกิจเลื่องชื่อชาวรัสเซีย เธอยอมรับทุกอย่างแต่โดยดีเพราะอย่างน้อยเขาก็จะได้พบคนที่ดีกว่า
ทว่าเรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น คริสต์ยังโทรมาหาและพยายามพบเธอด้วยการไปร่วมทุกงานโชว์ยานยนต์ที่ภิณไลย์ญารับงานเป็นพริตตี้ให้รถหรู จนถึงป่านนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีกับปัญหาที่ค้างคา ทั้งที่อยากบอกเขาว่าทุกอย่างได้จบสิ้นแล้ว ร่างบางถอนหายใจออกมาเบา ๆ แต่เมื่อกำลังจะขยับลุกขึ้นก็ต้องชะงักค้างเมื่อหันไปเห็นร่างสูงใหญ่ที่ยืนห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว
“นิโคลัส!”
เสียงอุทานแหบเบาลอดจากริมฝีปากระริก ภิณไลย์ญารู้สึกชาไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นเงาเข้มบนใบหน้าคร้ามคมของคนที่เธอไม่นึกอยากพบและไม่คิดว่าจะได้พบเขาในเวลาแบบนี้ นิโคลัสยืนนิ่ง เรือนร่างสูงใหญ่ของเขาสง่างามท่ามกลางแสงไฟสปอร์ตไลต์ที่สาดส่อง แต่หากปราศจากแสงสว่างเขาก็คือซาตานในเงามืดของหญิงสาว ชายหนุ่มหยัดยิ้มหากเธอรู้ว่ามันหาใช่ความจริงใจแม้แต่น้อย เขาเอียงคอก่อนเอ่ยขึ้นว่า
“สวัสดี...พริตตี้แสนสวย”
“คุณมาที่นี่ทำไม”
“แล้วคุณล่ะ มาที่นี่ทำไม”
“จำเป็นด้วยหรือคะที่ฉันต้องรายงานให้คุณทราบ”
เพราะแค่เห็นหน้าเธอก็อึดอัดจะแย่ แต่แล้วร่างสูงสมาร์ทกลับถือวิสาสะก้าวเข้ามาก่อนหย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ ทำเอาภิณไลย์ญายิ่งประหลาดใจ เธอกระเถิบออกห่างแต่เก้าอี้ตัวนั้นมีพื้นที่นิดเดียวทำได้ก็แค่เกร็งตัวเพราะแขนแกร่งและขาแข็งแรงของเขาเบียดชิดด้านข้างหญิงสาวที่แทบกลั้นลมหายใจด้วยไม่นึกว่าคนที่ตั้งข้อชิงชังรังกียจเธอนักหนาจะพาตัวเองเข้ามาชิดใกล้ เธอได้ยินเสียงของเขาดังในลำคอขณะใบหน้าหล่อเหลาเอียงมาทางร่างเล็ก
“ถึงไม่บอกผมก็รู้ว่าคุณมาทำไม ขอแสดงความเสียใจด้วยนะเรื่องน้องชายของคุณ”
“พิทย์ยังไม่ตาย” หญิงสาวเสียงแข็งก่อนมีสีหน้าเหมือนนึกอะไรได้ “แล้วคุณรู้ได้ยังไง...ที่คุณมาที่นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหมคะ คุณนิโคลัส”
“รู้ก็ดีแล้ว เพราะเวลาผมทำอะไรมันมักเกิดจากความตั้งใจเสมอ ผมถือคติว่าโลกนี้ไม่มีความบังเอิญ”
คำตอบของจอมอหังการเสมือนว่าเขากำลังใจเย็นทว่าภิณไลย์ญากลับรู้สึกกดเกร็งไปทั้งตัว มือเรียวบางที่ประสานบนตักเย็นเฉียบเพราะ เธอไม่เคยอยู่ใกล้ชิดนิโคลัส ซาเวียร์มากขนาดนี้ มันหาใช่ความตื่นเต้นแต่เหมือนกำลังอยู่ใกล้ชิดกับราชสีห์ที่จ้องขย้ำเหยื่อ ทั้งอึดอัดและกดดัน เธอไม่รู้เลยว่าเขาจะมาไม้ไหน
“คุณรู้เรื่องน้องชายฉันได้ยังไง”
“หึ...มันไม่ได้เกิดจากความบังเอิญหรอกนะที่ผมรู้ว่าน้องชายของคุณประสบอุบัติเหตุหนักและต้องผ่าตัดใหญ่ เพราะลาริมาร์เป็นคนบอกผม”
“ถ้าอย่างนั้นคุณคงอยากจะมาดูสินะคะว่าเขาตายหรือยัง”
“โอ...เปล่าเลย...ใครจะคิดเรื่องแบบนั้น”
“แล้วคุณมาที่นี่ทำไม”
หญิงสาวหมดความอดกลั้น เธอหันไปจ้องหน้าเขาที่อยู่ห่างไม่ถึงสองคืบทำให้ได้เห็นหน้าเจ้าพ่อแวดวงยานยนต์ของอเมริกาชัด ๆ นิโคลัสมีส่วนละม้ายคล้ายกับคริสต์น้องชายของเขามาก ทว่าปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความหล่อเหลาของเขาสะกดสายตาของใครก็ตามที่พบเห็น โครงหน้าคมสันใต้กรอบเรือนผมสีทองแดงจัดและนัยน์ตาท้าแสงคู่นั้นสะท้อนความมุ่งมั่นกล้าแข็ง ถึงจะเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของคริสต์หากทว่านิโคลัสนั้นมีความดุดันและเด็ดขาดกว่า ภิณไลย์ญารู้สึกถึงแรงเต้นของหัวใจเพราะใต้สำนึกเธอมองเห็นเงาของใครคนหนึ่งซ้อนทับอยู่ภายในนั้น นิโคลัสเลิกมุมปากขึ้น
“ผมแค่อยากมา”
“แค่นี้ใช่ไหมคะ เพราะถ้าไม่มีอะไรจำเป็นฉันจะกลับ”
“คุณยังไปไหนไม่ได้”
“เอ๊ะ!”
หญิงสาวร้องออกมาเมื่อไหล่ของเธอถูกลำแขนแกร่งโอบและกดต้นแขนเอาไว้ด้วยมือหนา เขาเบียดตัวเข้าหาพร้อมทั้งโน้มใบหน้าลงมา“ตอนนี้คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นถ้าเราไม่ได้ทำความตกลงกันเสียก่อน”“ทำความตกลง...นี่คุณพูดเรื่องอะไร ไม่มีอะไรที่ฉันต้องตกลงกับคุณ...ปล่อยฉันนะ!”ภิณไลย์ญาพยายามสะบัดไหล่ออกจากมือหนาหนักแต่ยิ่งขืนตัวนิโคลัสก็ยิ่งกดเธอไว้จนแนบชิดตัวเขา ร่างเล็กอิงแอบกับอกกว้างของร่างสูงโดยไม่ตั้งใจ หญิงสาวนิ่วหน้าขณะเหลือบมองว่ารอบ ๆ นั้นจะมีใครสักคนหรือไม่หากก็ไม่เห็นเงาของใครเลย ชายหนุ่มคำรามลึกในลำคอก่อนเค้นเสียงลอดไรฟัน“คุณควรจะทำตัวให้น่ารักหน่อย มิสภิณไลย์ญา อย่าลืมสิว่าตอนนี้คุณกำลังประสบปัญหาอะไรอยู่”“ฉันกำลังถูกคุกคาม! นี่ยังไงล่ะคือปัญหาของฉัน”“เปล่าเลยยาหยี ที่ผมมานี่เพราะอยากช่วยเหลือคุณต่างหาก”“ว่ายังไงนะ”หญิงสาวหยุดขัดขืนเพราะคำพูดของเขาทำให้เธอย่นคิ้วด้วยความฉงน หากแต่นิโคลัสกลับแสยะยิ้ม เขาหรี่นัยน์ตาสีทองแดงเข้มมองเธอ ผู้หญิงใบหน้าหวานจัดที่น้องชายของเขาหลงใหล ยิ่งเห็นใกล้ ๆ ราวกับว่าความรู้สึกของเขาวูบไหวไปชั่วขณะ เพียงเสี้ยวลมหายใจเท่านั้นที่เขารีบดึงความแน่วแน่ของ
“จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ”เสียงจากเบาะด้านหลังทำให้คนขับรถแท็กซี่ค่อย ๆ ชะลอความเร็วรถและจอดลงที่หน้าประตูรั้วอัลลอยด์ขนาดใหญ่ก่อนร่างบอบบางในชุดเสื้อเทรนช์โค้ทสีน้ำตาลพาสเทลจะเปิดประตูและก้าวลงไป“จะให้ผมกดแตรเรียกคนในบ้านหรือเปล่าครับคุณผู้หญิง?”คนขับซึ่งเป็นชายวัยกลางคนถามขึ้นเมื่อลดกระจกลงและรับค่าโดยสารจากหญิงสาวที่สะพายกระเป๋าและหิ้วถุงของขวัญขนาดใหญ่ ภิณไลย์ญามองลอดรั้วเข้าไปยังทางเดินทอดตัวยาวไปยังบ้านหลังใหญ่ราวคฤหาสน์สร้างจากหินอ่อนสะท้อนประกายระยับใต้แสงแดดส่องและหันไปตอบว่า“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก เดี๋ยวดิฉันกดกริ่งเรียกเองค่ะ”เมื่อเธอบอกเช่นนั้นคนขับจึงปิดกระจกและขับรถออกไปทิ้งไว้แต่ร่างแน่งน้อยที่ระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ ขณะเดินไปกดกริ่งประตูของบ้านซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านคนรวยอย่างเบเวอร์ลี่ ฮิลล์ สักครู่จึงมีชายร่างใหญ่ในชุดสูทเดินมาเปิดประตู“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าต้องการมาพบใครหรือครับ?”“ดิฉันมาเยี่ยมน้องสาวน่ะค่ะ...เอ้อ...ลลิล...”“คุณลาริมาร์นะหรือครับ ไม่ทราบว่าได้นัดไว้ก่อนหรือเปล่าครับ”“เปล่าค่ะ”“ขอทราบชื่อของคุณหน่อยครับ”“ภิณไลย์ญาค่ะ”“สักครู่นะครับ”ชายคนนั้นหยิบ
“นิค...ฉันดีใจมากเลยนะคะที่คุณมาวันนี้”ลลิลเอ่ยขึ้นขณะมือเรียวบางอยู่ในมือหนาหนักที่กอบกุมเอาไว้แน่น นิโคลัสบิดริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม“ผมต้องมาซีลาริมาร์ เมียของพีทเพื่อนผมคลอดลูกทั้งทีก็ต้องมาดูหลานเสียหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไม่รักกันจริง”“ลิลดีใจที่สุดเลยนะคะ วันนี้เป็นวันดีมากจริง ๆ ที่มีคนสำคัญมาเยี่ยมลิลถึงสองคน...เอ...แต่ว่า...นิคคงรู้จักพี่เนเน่แล้วซีนะคะ ก็เธอเป็นพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์ที่คุณจัดเมื่อวันก่อนไงคะ”หญิงสาวแนะนำและเมื่อเป็นเช่นนั้นภิณไลย์ญาก็จำต้องหันกลับมาประจันหน้ากับนิโคลัสที่เหลือบสายตามายังเธอ เขาแค่ยกมุมปากขึ้น ไม่เชิงว่าจะยิ้ม สำหรับพริตตี้สาวแล้วมันเหมือนว่าเขากำลังเหยียดหยามเธออย่างทุกครั้งที่พบกัน และถึงจะอึดอัดสักแค่ไหนเธอก็ต้องยิ้มให้ทั้งที่อยากจะเดินหนี“สวัสดีค่ะ คุณนิโคลัส”ภิณไลย์ญาเอ่ยขึ้นอย่างเสียมิได้ เธอก็แค่อยากให้สถานการณ์ตอนนี้ผ่านพ้นไปและรู้สึกว่าอยากให้เวลาอยู่ที่นี่สั้นลงกว่าตอนก่อนตั้งใจจะมา ทำไมต้องมาเจอเขาที่นี่ ผู้ชายคนนี้ที่ไม่เคยญาติดีกับเธอเลยสักหน หญิงสาวได้ยินเสียงของเขาดังในลำคอ“อ้อ...รู้จักสิลาริมาร์ ใครบ้างที่จะไม่รู้จักพริตตี้สาว
“ค่ะ...เอ้อ...พี่เนเน่ทำใจดี ๆ ไว้นะคะ”พริตตี้สาวยิ้มกับลลิลทั้งที่ใบหน้าเริ่มเผือดสีจนเป็นที่สังเกตของร่างสูงใหญ่ซึ่งยืนมองอยู่ไม่ห่าง ก่อนกลับหญิงสาวไม่ลืมที่จะเข้าไปชื่นชมความน่ารักของทารกหญิงตัวน้อยสมาชิกใหม่ของบ้านล็อคก่อนเดินกลับออกไปโดยไม่สนใจจะกล่าวลาใครอื่นนอกจากเจ้าของบ้าน ลลิลเดินกลับมาที่นิโคลัสอีกครั้งเขาจึงถามขึ้น“มีอะไรหรือลาริมาร์ ท่าทางเพื่อนคุณรีบร้อนมากทีเดียว”“เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นค่ะ พี่เนเน่ต้องรีบไปโรงพยาบาลตอนนี้ค่ะเพราะน้องชายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์กะโหลกร้าวต้องผ่าตัดด่วน”ปื้นคิ้วหนาเลิกขึ้น เหนือดวงตาสีทองแดงจัดฉายประกายคมกล้า นิโคลัสขบสันกรามบนหน้าคมคร้ามนูนเป็นสัน“น้องชายประสบอุบัติเหตุและต้องผ่าตัดด่วน...อย่างนั้นหรือ...อืม...น่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงจริงๆ”บทที่ 2 indecent proposal เงินแลกชีวิตโรงพยาบาลนิวยอร์ค 00:30 น.เป็นเวลานานหลายชั่วโมงเลยทีเดียวที่ภิณไลย์ญายังอยู่ที่โรงพยาบาลหลังออกจากบ้านของลลิล หญิงสาวไม่ได้รอหน้าห้องฉุกเฉินแต่เลือกที่จะมานั่งในสวนเล็ก ๆ ของโงพยาบาลเพียงลำพังซึ่งในเวลานั้นมีแต่ลมหนาวและความกระวนกระวายข้างในรุมเร้าความรู้สึกข