“นิค...ฉันดีใจมากเลยนะคะที่คุณมาวันนี้”
ลลิลเอ่ยขึ้นขณะมือเรียวบางอยู่ในมือหนาหนักที่กอบกุมเอาไว้แน่น นิโคลัสบิดริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม
“ผมต้องมาซีลาริมาร์ เมียของพีทเพื่อนผมคลอดลูกทั้งทีก็ต้องมาดูหลานเสียหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไม่รักกันจริง”
“ลิลดีใจที่สุดเลยนะคะ วันนี้เป็นวันดีมากจริง ๆ ที่มีคนสำคัญมาเยี่ยมลิลถึงสองคน...เอ...แต่ว่า...นิคคงรู้จักพี่เนเน่แล้วซีนะคะ ก็เธอเป็นพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์ที่คุณจัดเมื่อวันก่อนไงคะ”
หญิงสาวแนะนำและเมื่อเป็นเช่นนั้นภิณไลย์ญาก็จำต้องหันกลับมาประจันหน้ากับนิโคลัสที่เหลือบสายตามายังเธอ เขาแค่ยกมุมปากขึ้น ไม่เชิงว่าจะยิ้ม สำหรับพริตตี้สาวแล้วมันเหมือนว่าเขากำลังเหยียดหยามเธออย่างทุกครั้งที่พบกัน และถึงจะอึดอัดสักแค่ไหนเธอก็ต้องยิ้มให้ทั้งที่อยากจะเดินหนี
“สวัสดีค่ะ คุณนิโคลัส”
ภิณไลย์ญาเอ่ยขึ้นอย่างเสียมิได้ เธอก็แค่อยากให้สถานการณ์ตอนนี้ผ่านพ้นไปและรู้สึกว่าอยากให้เวลาอยู่ที่นี่สั้นลงกว่าตอนก่อนตั้งใจจะมา ทำไมต้องมาเจอเขาที่นี่ ผู้ชายคนนี้ที่ไม่เคยญาติดีกับเธอเลยสักหน หญิงสาวได้ยินเสียงของเขาดังในลำคอ
“อ้อ...รู้จักสิลาริมาร์ ใครบ้างที่จะไม่รู้จักพริตตี้สาว...แสนสวยรวยเสน่ห์ที่ทำเอาผู้ชายค่อนงานเก็บเอาไปฝันตาม ๆ กันอย่างเธอได้”
“พี่เนเน่สวยจริง ๆ นะคะ เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ สมแล้วล่ะค่ะกับการได้เป็นพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์ใหญ่ ๆ ดูซี...ทั้งที่งานโชว์ตัวเยอะมากแต่ก็ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมลิล”
“พวกพริตตี้สวย ๆ ก็อย่างนี้ล่ะลาริมาร์ เขาเรียกว่ามีแรงดึงดูดทางการค้า หน้าตาขายได้ เป็นที่หมายตาของพวกผู้ชาย ถ้าเป็นสินค้าก็เรียกว่าทำราคาได้นั่นล่ะ”
“ขอบคุณนะคะที่ชม” ภิณไลย์ญาตอบกลับทั้งที่พยายามสะกดใจ เขากำลังดูถูกเธออย่างร้ายกาจหากแต่หญิงสาวกลับยกยิ้ม “มันก็แน่นอนอยู่แล้วค่ะคุณนิโคลัสที่ผู้หญิงยิ่งสวยก็ยิ่งดึงดูดใจ ใครบ้างล่ะคะที่ไม่ชอบของสวยงาม ใครบ้างล่ะคะที่ไม่อยากได้ แต่มันอยู่ที่ว่า...ใครจะจ่ายแพงกว่ากันเท่านั้น”
น้ำเสียงเจือความอวดดีและคางเรียวที่เชิดขึ้นเสมือนท้าทายกระตุกความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง นิโคลัสเหยียดปากออก มันเป็นความไม่ตั้งใจที่เขามาเจอเธอที่นี่ ชายหนุ่มไม่เคยลืมว่าภิณไลย์ญาร้ายกาจแค่ไหน เธอเป็นพริตตี้สาวสวยบาดใจระดับต้นของทุกงานมอเตอร์โชว์ที่ทำ คริสต์ น้องชายคนเดียวของเขาลุ่มหลงเจียนคลั่ง ดีว่าเขารู้ทันผู้หญิงพวกนี้ ผู้หญิงที่เห็นค่าของผู้ชายแค่น้ำเงิน พวกหล่อนไม่รู้จักคำว่าความรัก ดีแต่หว่านเสน่ห์ทำให้ชายหลง ดูไปเหมือนพวกกาฝากที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อมหาเศรษฐีเท่านั้น
เขาจึงต้องขัดขวางไม่ให้น้องชายต้องถลำลึก ใช้สารพัดวิธีแยกทั้งสองออกห่างกันได้สำเร็จ นิโคลัสแกล้งส่งคนตามกดดันภิณไลย์ญาจนเธอยอมถอยห่างและคริสต์หมั้นกับผู้หญิงคนใหม่ แต่เขาไม่เคยไว้วางใจในเมื่อยังมีข่าวกระเซ็นกระสายว่าน้องชายของเขาพยายามกลับไปหาพริตตี้สาวอีกครั้ง
นิโคลัสให้คนของเขาตามติดเธอทุกฝีก้าวกระทั่งได้รู้ว่าข่าวระหว่างเธอและคริสต์ที่ยังติดต่อกันอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง และเขาจะยอมให้มันเป็นอย่างนั้นไม่ได้ เขาไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงที่เอาตัวแลกเศษเงินของพวกเศรษฐีเข้ามาเกี่ยวข้องกับน้องชายคนเดียวอย่างเด็ดขาด นิโคลัสจับจ้องใบหน้าสวยที่ก็จ้องเขาตอบราวกับว่าเธอไม่มีวันยอมแพ้และดูเหมือนลลิลจะรู้สึกถึงบรรยากาศรอบตัวที่เริ่มจะอึดอัดจึงพูดขึ้นว่า
“เอ้อ...นิคคะ...พี่เนเน่...ลิลว่าเราไปทานของว่างกันที่ริมสระน้ำดีไหมคะ เดี๋ยวจะให้แม่บ้านจัดชุดน้ำชากับคุกกี้อร่อย ๆ มาทานกันดีกว่าไหมคะ”
เธอเชิญชวนแต่ไม่ทันที่ภิณไลย์ญาจะอ้าปากพูดก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขัดขึ้นเสียก่อน พริตตี้สาวรีบล้วงสมาร์ทโฟนออกจากกระเป๋าถือ เธอรับสายและเดินเลี่ยงไปอีกมุมของห้อง สีหน้าและแววตาบนหน้าสวยจัดฉายความตระหนกทำให้ลลิลรู้สึกสงสัย เธอเดินเข้าไปหารุ่นพี่สาวที่ยืนกุมโทรศัพท์ไว้แน่นโดยมีสายตาคมวับของนิโคลัสตามดูตลอดเวลา ดูเหมือนว่าจะเกิดปัญหาอะไรสักอย่างกับผู้หญิงที่เขาเกลียดชังเข้ากระดูก สักครู่เขาจึงได้ยินเสียงภิณไลย์ญาพูดกับลลิลว่า
“ลิล...พี่คงต้องรีบกลับก่อน ถ้ายังไงวันหลังพี่จะมาเยี่ยมลิลใหม่นะจ๊ะ ต้องขอโทษด้วยที่วันนี้พี่คงไม่ได้อยู่จิบชากับลิล”
“ค่ะ...เอ้อ...พี่เนเน่ทำใจดี ๆ ไว้นะคะ”พริตตี้สาวยิ้มกับลลิลทั้งที่ใบหน้าเริ่มเผือดสีจนเป็นที่สังเกตของร่างสูงใหญ่ซึ่งยืนมองอยู่ไม่ห่าง ก่อนกลับหญิงสาวไม่ลืมที่จะเข้าไปชื่นชมความน่ารักของทารกหญิงตัวน้อยสมาชิกใหม่ของบ้านล็อคก่อนเดินกลับออกไปโดยไม่สนใจจะกล่าวลาใครอื่นนอกจากเจ้าของบ้าน ลลิลเดินกลับมาที่นิโคลัสอีกครั้งเขาจึงถามขึ้น“มีอะไรหรือลาริมาร์ ท่าทางเพื่อนคุณรีบร้อนมากทีเดียว”“เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นค่ะ พี่เนเน่ต้องรีบไปโรงพยาบาลตอนนี้ค่ะเพราะน้องชายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์กะโหลกร้าวต้องผ่าตัดด่วน”ปื้นคิ้วหนาเลิกขึ้น เหนือดวงตาสีทองแดงจัดฉายประกายคมกล้า นิโคลัสขบสันกรามบนหน้าคมคร้ามนูนเป็นสัน“น้องชายประสบอุบัติเหตุและต้องผ่าตัดด่วน...อย่างนั้นหรือ...อืม...น่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงจริงๆ”บทที่ 2 indecent proposal เงินแลกชีวิตโรงพยาบาลนิวยอร์ค 00:30 น.เป็นเวลานานหลายชั่วโมงเลยทีเดียวที่ภิณไลย์ญายังอยู่ที่โรงพยาบาลหลังออกจากบ้านของลลิล หญิงสาวไม่ได้รอหน้าห้องฉุกเฉินแต่เลือกที่จะมานั่งในสวนเล็ก ๆ ของโงพยาบาลเพียงลำพังซึ่งในเวลานั้นมีแต่ลมหนาวและความกระวนกระวายข้างในรุมเร้าความรู้สึกข
เธอพบกับคริสต์ ซาเวียร์ ลูกชายคนเล็กของมหาเศรษฐีบริษัทนำเข้ารถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ เขาแสดงออกว่าชอบเธอมากขนาดไหน และหญิงสาวก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอรักเขา ทว่าความสัมพันธ์นั้นกลับไม่ยั่งยืนเมื่อเรื่องราวระหว่างเธอกับคริสต์รู้ถึงหูนิโคลัส พี่ชายของเขา ผู้แสดงออกว่ารังเกียจผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างเธอซึ่งเป็นแค่พริตตี้ที่ทำงานไม่ต่างจากดารา ขายหน้าตาแม้มีความสามารถแค่ไหนเขาก็ไม่สนใจจะค้นหา สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือเธอต้องเลิกกับคริสต์นิโคลัสให้คนของเขาติดตามและคุกคามบีบคั้นให้เธอเกิดความหวาดกลัวซึ่งภิณไลย์ญาก็รู้สึกว่าตัวเองและครอบครัวอาจต้องเดือดร้อนหากยังปล่อยให้เรื่องระหว่างเธอและคริสต์ดำเนินต่อไป เธอเลือกที่จะหันหลังให้คนรัก หลังจากเธอยินยอมตัดความสัมพันธ์กับคริสต์แล้วพริตตี้สาวจึงได้ข่าวการประกาศหมั้นอย่างเป็นทางการระหว่างเขาและลูกสาวนักธุรกิจเลื่องชื่อชาวรัสเซีย เธอยอมรับทุกอย่างแต่โดยดีเพราะอย่างน้อยเขาก็จะได้พบคนที่ดีกว่าทว่าเรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น คริสต์ยังโทรมาหาและพยายามพบเธอด้วยการไปร่วมทุกงานโชว์ยานยนต์ที่ภิณไลย์ญารับงานเป็นพริตตี้ให้รถหรู จนถึงป่านนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่า
หญิงสาวร้องออกมาเมื่อไหล่ของเธอถูกลำแขนแกร่งโอบและกดต้นแขนเอาไว้ด้วยมือหนา เขาเบียดตัวเข้าหาพร้อมทั้งโน้มใบหน้าลงมา“ตอนนี้คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นถ้าเราไม่ได้ทำความตกลงกันเสียก่อน”“ทำความตกลง...นี่คุณพูดเรื่องอะไร ไม่มีอะไรที่ฉันต้องตกลงกับคุณ...ปล่อยฉันนะ!”ภิณไลย์ญาพยายามสะบัดไหล่ออกจากมือหนาหนักแต่ยิ่งขืนตัวนิโคลัสก็ยิ่งกดเธอไว้จนแนบชิดตัวเขา ร่างเล็กอิงแอบกับอกกว้างของร่างสูงโดยไม่ตั้งใจ หญิงสาวนิ่วหน้าขณะเหลือบมองว่ารอบ ๆ นั้นจะมีใครสักคนหรือไม่หากก็ไม่เห็นเงาของใครเลย ชายหนุ่มคำรามลึกในลำคอก่อนเค้นเสียงลอดไรฟัน“คุณควรจะทำตัวให้น่ารักหน่อย มิสภิณไลย์ญา อย่าลืมสิว่าตอนนี้คุณกำลังประสบปัญหาอะไรอยู่”“ฉันกำลังถูกคุกคาม! นี่ยังไงล่ะคือปัญหาของฉัน”“เปล่าเลยยาหยี ที่ผมมานี่เพราะอยากช่วยเหลือคุณต่างหาก”“ว่ายังไงนะ”หญิงสาวหยุดขัดขืนเพราะคำพูดของเขาทำให้เธอย่นคิ้วด้วยความฉงน หากแต่นิโคลัสกลับแสยะยิ้ม เขาหรี่นัยน์ตาสีทองแดงเข้มมองเธอ ผู้หญิงใบหน้าหวานจัดที่น้องชายของเขาหลงใหล ยิ่งเห็นใกล้ ๆ ราวกับว่าความรู้สึกของเขาวูบไหวไปชั่วขณะ เพียงเสี้ยวลมหายใจเท่านั้นที่เขารีบดึงความแน่วแน่ของ
“นิโคลัส!”หญิงสาวไม่ทันได้พูดอะไรปากบวมเจ่อก็ถูกประกบปิดไว้ด้วยปากของจอมซาตานร้ายอีกครั้ง คราวนี้เขาจ้วงลิ้นเข้าไปและฉกลึกรุนแรง ปากบางถูกบดขยี้ไม่ปราณีราวกับว่าเขาต้องการลงโทษในความอวดดีของเธอ ภิณไลย์ญาพยายามส่งเสียงแต่ยิ่งขืนตัวเขาก็ยิ่งกดข้อมือของเธอไว้แน่นยิ่งกว่าคีมเหล็ก กระทั่งนิโคลัสเลื่อนใบหน้าออกร่างเล็กจึงผลักเขาออกห่างและลุกพรวดขึ้นพร้อมทั้งขยี้ปากไปมาด้วยฝ่ามือทั้งน้ำตาคลอเบ้า“นิโคลัส นี่คุณทำบ้าอะไร...คุณจะทำเกินไปแล้วนะ!”ภิณไลย์ญาบริภาษเขาเสียงแข็ง เธอทั้งเจ็บและอับอายอย่างที่สุด ไม่เคยมีใครจาบจ้วงกับเธอขนาดนี้มาก่อน ร่างเล็กสั่นเทิ้มด้วยโทสะแต่ดูเหมือนยิ่งเธอโกรธจัดมันยิ่งทำให้ร่างสูงที่นั่งนิ่งบนเก้าอี้สะใจ เขาลูบปากตัวเองพลางไหวไหล่“ถือว่านี่เป็นการมัดจำ เพราะถึงยังไงเสียวันหนึ่งคุณก็ต้องเป็นผู้หญิงของผมอยู่ดี”บทที่ 3 Incredible crisis บทเรียนของคนอวดดี“ฉันจะไม่รับข้อเสนอใด ๆ จากคนบ้าอย่างคุณ”“เอ...หรือว่าไม่พอใจที่โดนจูบฟรีๆ ...อืม...ผมก็ลืมไปนะว่าปกติผู้หญิงอย่างคุณคงไม่แลกตัวเองกับผู้ชายเปล่า ๆ ปลี้ๆ อย่างน้อยมันก็ต้องมีอะไรตอบแทนกลับไปบ้าง”เขาส่งเสียง
“ไม่เกินสัปดาห์นี้คุณจะได้เห็นค่าของมัน!”เสียงห้าวดุดันทำให้หญิงสาวที่กำลังจะหันหลังให้ชะงักกึก ภิณไลย์ญาหันกลลับมามองเขาอีกครั้ง จ้องหน้าจอมมารที่ดวงตาวาวโรจน์เป็นประกายกล้าแข็ง หากแต่นิโคลัสไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธออกมาใบหน้าของเขาเปื้อนรอยยิ้มร้ายกาจอาบด้วยความเหยียดหยาม เขาเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น“พนันกันไหมล่ะว่าคุณต้องยอมรับข้อเสนอของผม”“ไม่มีทาง!”“ผมชอบคำตอบแบบนี้จัง เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด”ชายหนุ่มเลิกริมฝีปากขึ้นขณะร่างแน่งน้อยหันหลังเดินจ้ำอ้าวออกไปอย่างไม่คิดจะเหลียวกลับมาอีก และเมื่อภิณไลย์ญาไปแล้วร่างสูงใหญ่จึงเอนหลังพิงเก้าอี้พลางถอนใจเบา ๆ สันกรามแกร่งนูนขึ้นเป็นสัน นัยน์ตาสีทองแดงเข้มวาววามดิบดันขณะจ้องมองเช็คที่พริตตี้สาวขว้างมันลงพื้นอย่างไม่แยแส นิโคลัสเหยียดริมฝีปาก ผู้หญิงคนนั้นอวดดีจนเขาอยากลงโทษเธอให้สาสม เขาจะกีดกันเธอออกจากชีวิตของน้องชายคนเดียว ทำให้เธอสำนึกในท้ายที่สุดว่าถึงอย่างไรก็ไม่มีวันเอาชนะคนอย่างเขาได้ทว่าชั่ววาบของความคิดเขากลับนึกถึงบางอย่างโดยไม่ตั้งใจ ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบริมฝีปากที่บดเบียดมันลงบนกลีบปากนุ่มฉ่ำเมื่อคร
ภิณไลย์ญาชี้นิ้วเข้าหาตัว “ฉัน...น่ะเหรอคะ...แต่เราเคยตกลงกันแล้วนะคะว่าฉันจะไม่แต่งตัวโป๊ล่อไอ้เข้โชว์ตัวกับรถหรู ฉันต้องไปยืนคู่กับเมอเซเดส เบนซ์นะคะ ไอ้ชุดแบบนี้มันไม่ต่างกับชุดนักร้องในผับเลยนะคะ”“ถึงจะเหมือนชุดนักร้องแต่คุณก็ต้องใส่มัน!”เสียงที่ดังแทรกขึ้นทำให้ทั้งสองต้องหยุดการสนทนาลงโดยพลันและหันกลับไปมองพร้อมกัน และเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่ประตูห้องภิณไลย์ญาก็ถึงกับผงะ“นิโคลัส!”ร่างบางมือเย็นเฉียบแต่ในกายกลับรุ่มร้อนเมื่อเห็นจอมอหังการที่เมื่อเห็นหน้าก็อยากสาปส่งเขาไปไกล ๆ ทว่าเธอต้องเห็นหน้าเขา ต้องพบกับผู้ชายจอมทรนงที่สืบเท้าเข้ามาหยุดตรงหน้าและมองเธอด้วยสายตาที่ไม่เคยญาติดี หญิงสาวกำลังจะอ้าปากพูดก็ถูกแทรกขึ้นด้วยเสียงของบี“โอ...สวัสดีค่ะคุณซาเวียร์...คือว่าฉันกำลังให้เนเน่เตรียมออกไปโชว์ตัวพร้อมเมอเซเดส เบนซ์ตัวใหม่อยู่น่ะค่ะ”“บี...แต่ว่านี่มัน...”“รีบแต่งตัวเข้าเถอะน่าเนเน่ เห็นไหมว่าคุณซาเวียร์เจ้าของงานอุตส่าห์เข้ามาถึงที่นี่ เราไม่เคยได้รับเกียรติจากเขาเลยสักครั้ง”“เกียรติเหรอคะบี...แต่นี่มันห้องแต่งตัวของเอเยนซี่ที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามา ถึงเขาจะเป็นเจ้าของงานแต่
“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ใครเป็นลูกไก่ในกำมือของคุณ”“ก็คุณไง ...ชีวิตของคุณเป็นของผม”“ฉันยังไม่ได้ตกลงตอบรับข้อเสนอบ้าบอของคุณด้วยซ้ำ และการที่คุณซื้อฉันจากเอเยนซี่ก็เป็นเรื่องที่ผิดอย่างมากเพราะบริษัทไม่มีสิทธิ์ซื้อขายฉันให้ใครโดยที่ฉันไม่ให้ความยินยอม คุณไม่มีสิทธิ์จะมาบีบบังคับฉันได้หรอกนะนิโคลัส”“คุณอาจไม่จำเป็นต้องตอบรับข้อเสนอของผมเพราะนั่นไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร และที่คุณบอกว่าเอเยนซี่ทำผิดก็ขอเชิญฟ้องร้องได้เลย แต่คุณจะมีสิทธิ์ฟ้องผมได้ก็ต่อเมื่อคุณชดใช้หนี้สามล้านเหรียญที่ผมจ่ายมันแลกกับการยื้อชีวิตน้องชายของคุณ!”“วะ...ว่ายังไงนะคะ...สามล้าน...”เสียงแหบเบาลอดออกจากลำคอแห้งผากยิ่งกว่าทะเลทรายสะฮาร่า ภิณไลย์ญานิ่งอึ้งและอ่อนยวบลงแทบจะในทันที มือเรียวบางที่กำหมัดแน่นคลายลง นัยน์ตางามแห้งแล้งเต็มไปด้วยความสงสัยไม่อยากเชื่อ นิโคลัสกระตุกรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมขณะโน้มใบหน้าจนปลายจมูกโด่งแนบชิดแก้มนวลซีดหมอง“คุณได้ยินไม่ผิดหรอก มิสภิณไลย์ญา...ผมเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการผ่าตัดใหญ่ให้น้องชายคุณซึ่งมันต้องใช้แพทย์เฉพาะทางและผมยินดีจ่ายมันทั้งหมดเพื่อให้เขารอดพ้นจากความตาย...หึ..
ภิณไลย์ญาถึงกับผงะดวงตาเบิกกว้างเมื่อเสื้อเชิ้ตแขนสั้นถูกมือหนาหนักกระชากมันจนสาบเสื้อฉีกขาดออกจากกันขณะร่างนั้นหันเข้าหากระจก ภาพเงานั้นสะท้อนคนตัวใหญ่ที่เบียดเข้าหาทางด้านหลัง นัยน์ตาสีทองแดงเข้มจัดข้นคลั่กก่อนที่เขาจะฉีกเสื้อของเธออีกครั้งจนมันหลุดออกจากร่างสวย หญิงสาวตัวแข็งราวถูกสาปเมื่อเรือนร่างท่อนบนที่เหลือเพียงบราเซียลูกไม้อวดเนินอกอิ่มท้าทายสายตาแข็งกร้าวของจอมซาตาน เธอได้ยินนิโคลัสขบกรามเสียงดัง“จำไว้เนเน่...อย่าอวดดีกับผม ยิ่งอวดดีมากเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งเจ็บ และยิ่งคุณท้าทายผมมากเท่าไหร่ก็จะต้องได้รับบทเรียนหนักกว่านี้อีกหลายเท่า!”เขาปล่อยเธอเป็นอิสระและถอยห่างไปหนึ่งก้าว นัยน์ตาเข้มจ้องเขม็งไปยังเรือนร่างบอบบางท่อนบนเกือบเปลือยผ่านกระจก ภิณไลย์ญากำหมัดแน่นและกัดปากจนห้อเลือด ไม่นึกว่าเขาจะใช้วิธีการกดขี่ข่มเหงได้อย่างเลือดเย็นขนาดนี้ นิโคลัสไม่ใส่ใจ สำหรับเขาแล้วมันก็แค่เศษเงินที่เขาซื้อชีวิตน้องชายของเธอเพื่อแลกกับการได้น้องชายตัวเองกลับไปเท่านั้น แล้วเธอเล่า...ก็เป็นเพียงสินค้าที่ถูกซื้อขายในเกมการเดิมพันชีวิตที่น่าอับอาย ถ้าทำได้เขาคงติดป้ายราคาบนตัวของเธอไปแล้ว ภิณไล
นิโคลัสหยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อของเขาด้วยมือข้างหนึ่ง มันเป็นกล่องกำมะหยี่สีชมพูเล็ก ๆ และเมื่อเขาเปิดมันออกก็ทำให้เป็นภิณไลย์ญาดวงตาเบิกกว้างเพราะภายในนั้นเป็นแหวนแพลตตินัมประดับเพชรแม้เม็ดไม่ใหญ่แต่ประกายของมันก็ล้อเล่นกับแสงแดดอุ่นที่สาดส่องลงมาอาบไล้ เขาบรรจงหยิบมันและสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของภิณไลย์ญาก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปประทับริมฝีปากของเขาบนเรือนแหวนที่อยู่บนนิ้วของเธอหญิงสาวมองดูราวกับไม่อยากเชื่อสายตา นิโคลัสเงยหน้าขึ้นและเอ่ยว่า“คริสเคยบอกผมเหมือนกันว่าคนอย่างผมคิดถึงแต่ตัวเองและเห็นค่าของเงินเป็นใหญ่ ผมไม่เคยคิดถึงใคร แต่ตอนนี้ผมอยากพิสูจน์ให้น้องชายของผมได้เห็นว่าผมได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาเคยว่าเอาไว้ ผมอาจจะเลวร้ายกับคุณมาก่อนแต่คนเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้นี่ไม่ใช่เหรอ คุณอาจไม่ต้องอภัยให้ผมวันนี้ มันอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี ว่าแต่คุณจะยินยอมให้โอกาสนั้นกับผมไหม”“บอกแล้วไงคะว่าฉันต่ำต้อยมากเกินไป คนที่ต้องขอร้องโอกาสคุณเป็นฉันมากกว่าที่จะร้องขอจากคุณ”“ผมจะไม่ให้คุณร้องขออะไร แต่เป็นผมที่จะต้องขอร้องคุณ”นิโคลัสทรุดตัวลงนั่
“แต่ฉันยังเป็นหนี้คุณนะคะนิค ฉันเป็นหนี้คุณตั้ง 3 ล้านดอลลาร์ ฉันจะพยายามหามันมาใช้คุณ”“ลืมเรื่องนั้นไปเถอะนะ รู้หรือเปล่าว่าจริง ๆ ผมลืมมันไปตั้งนานแล้ว”“ฉันรู้ค่ะนิคว่าเงินสำคัญสำหรับคุณเสมอและไม่ใช่สิ่งที่คุณจะลืมมันได้ง่าย ๆ”“อยากรู้ไหมว่าผมลืมมันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมลืมมันไปตั้งแต่ที่คุณเป็นของผมครั้งแรก”เธอเม้มปากแน่นน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว“คุณคงอยากให้ฉันดีใจ คุณคงแค่อยากจะปลอบใจฉัน”“เปล่าเลย...นี่เป็นคำสารภาพแบบโง่ ๆ ของคนที่ไม่เคยมีและไม่เคยเห็นค่าในความรักอย่างผม แม้แต่จะพูดคำนี้ก็ยังไม่เคย ผมได้แต่ภาวนาขอให้คุณเข้าใจ”“ฉันเข้าใจว่าคุณไม่เคยรักใครไม่เคยจริงจัง”“ผมอาจจะไม่เคยรักใครอย่างที่คุณว่าแต่ผมไม่เคยหลอกผู้หญิงเล่น ๆ และคุณก็เป็นคนแรกที่ทำให้ผมได้เห็นคุณค่าของความรักจากที่ผมรู้จักแต่งการใช้เงิน รู้ไหมว่าตอนที่คริสต์อยากจะใช้หนี้แทนคุณมันทำให้ผมโกรธมาก ผมรู้ว่าผมกำลังหึงคุณและคิดบ้าๆ ว่าคริสมันคงอยากได้คุณกลับคืนไป ผมลืมไปว่าสัมพันธภาพอันยิ่งใหญ่ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงมันไม่ได้มีแค่เรื่องนั้น แต่มันหมายถึงความรักและความหวังดี คริสหวังดีกับคุณมากกว่าที่จะรู้สึกรั
“ผมยอมรับนะว่าตอนแรกตกใจมากที่รู้เรื่องระหว่างคุณกับนิคแต่มันก็ทำให้ผมมาคิดได้ในหลาย ๆ เรื่องว่าที่ผ่านมาหลาย ๆ เหตุการณ์และเรื่องแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของผมมันก็ล้วนเกิดขึ้นมาจากตัวผมเองและคนที่เข้ามาคอยจัดการให้ผมทุกสิ่งทุกอย่างก็คือพี่ชายของผม บางทีถ้าเราสองคนยังรักกันมันก็อาจจะทำให้ผมไม่ได้คิดถึงสิ่งสวยงามที่สุดที่ผมทอดทิ้งไปนานนั่นก็คือโซอี้ ถึงแม้ว่าผมจะต้องเลิกกับลาลิสาแต่มันก็ทำให้ผมคิดได้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความรับผิดชอบและมันทำให้ได้มองเห็นตัวเอง มองเห็นความจริงว่าถ้าหากผมยังไม่กล้าคิดและตัดสินใจคงจะไม่มีวันค้นพบว่าต้องจัดการชีวิตตัวเองยังไงบ้างการไปอยู่ฝรั่งเศสมันเกิดจากการเลือกของผมเองและนิคก็ไม่ปฏิเสธที่จะให้โซอี้ไปอยู่กับผมเพราะอย่างน้อยที่สุดเขาก็ยังมีคุณกับชีวิตเล็ก ๆ”“ฉันกับเขาไม่คู่ควรกัน เหมือนที่เขามองฉันกับคุณว่าไม่คู่ควร ฉันต่ำต้อยเหลือเกินค่ะคริส ฉันคิดว่า...”“ว่าไงล่ะคริส...จะไปกันแล้วเหรอ?”เสียงทุ้มห้าวที่ดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของคริสและภิณไลย์ญาแต่โซอี้กลับกระโดดลงจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเจ้าของเสียงทรงอำนาจนั้น นิโคลัสช้อนร่างเด็กน้อยขึ้นอุ้มและจูบแ
“คุณอาคริสจะพาหนูไปฝรั่งเศสค่ะ”โซอี้เป็นฝ่ายตอบขณะที่นั่งอยู่บนตักของคริส เขาโอบกอดหนูน้อยเอาไว้และจูบแก้มยุ้ยเบาๆแสดงความรักความห่วงใยพร้อมกันนั้นก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลา“ผมจะมารับโซอี้ไปฝรั่งเศสวันนี้ นี่ก็ให้คนของผมจัดกระเป๋ากับของใช้เรียบร้อยแล้ว พวกเขารอผมอยู่ที่สนามบิน”กล่าวจบเขาก็จับเด็กหญิงให้เลื่อนลงจากตักและนั่งบนโซฟา เขาลุกขึ้นและก้าวเข้าไปหาภิณไลย์ญาซึ่งตอนนี้เธออยู่ในชุดนอนสวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าไหมสีละมุนตา คริสหยุดยืนตรงหน้าเธอ รอยยิ้มจางผุดขึ้นบนมุมปากได้รูป“เป็นยังไงบ้าง คุณสบายดีแล้วใช่ไหม?”“ฉันสบายดีค่ะ ว่าแต่คุณเถอะค่ะ คุณจะไปฝรั่งเศสแล้วจะพาโซอี้ไปด้วยเหรอคะ”“ใช่...ผมจะไปอยู่ที่ฝรั่งเศสและรับตำแหน่ง CEO ของบริษัทในเครือของซาเวียร์กรุ๊ปที่นั่น”“คุณลาริสาไปด้วยใช่ไหมคะ พวกคุณเข้าใจกันแล้วใช่ไหมคะ”เขาส่ายหน้าและตอบว่า “ผมหย่ากับลาลิสาแล้ว เราเพิ่งหย่ากันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง”“ว่ายังไงนะคะ! คุณหย่ากับลาริสา...คุณพระ...เธอคงโกรธเรื่องของฉันอย่างนั้นสินะคะ ฉันต้องขอโทษด้วยค่ะคริส ฉันไม่ตั้งใจที่จะทำให้ครอบครัวของคุณต้องแตกหักกันอย่างนี้เลย”เขาส่ายหน้าอีก
“คุณน้าเนเน่นอนพักผ่อนก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูจะเช็ดตัวให้คุณน้านะคะ”โซอี้กระวีกระวาดทำเหมือนผู้ใหญ่ไม่มีผิด เด็กหญิงวิ่งออกไปจากห้องนั้นนิโคลัสจึงหันมาทางภิณไลย์ญาที่นอนบนเตียงโดยมีเขานั่งอยู่ข้าง ๆ“ผมรู้ว่าคุณไม่สบายและต้องการพักผ่อน”“ใช่...ฉันต้องการพักผ่อนแต่เป็นบ้านของฉันไม่ใช่ที่นี่ ฉันอยากกลับบ้าน ถ้าคุณไม่ว่างไปส่งฉันก็เรียกคนขับรถของคุณให้พาฉันไปส่งก็ได้ค่ะนิค”“วันนี้คนของผมไม่มีใครว่างหรอกนะ”“ฉันไม่เชื่อ คุณโกหก คุณอยากจะกักตัวฉันไว้ที่นี่ หรือว่าถ้าคุณอยากจะให้ฉันอยู่ที่นี่ก็ให้ฉันกลับไปที่บ้านก่อนแล้วฉันจะบอกแม่ฉันว่าฉันต้องออกมาทำงานท่านจะได้เข้าใจจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”“ท่านไม่เป็นห่วงคุณหรอกนะ ท่านรู้ว่าคุณอยู่กับโซอี้และผมก็อยากจะขอร้องให้คุณอยู่กับแกที่นี่คืนนี้”“ด้วยเหตุผลอะไรกันคะ ได้โปรดเถอะค่ะ คุณไม่ควรจะใช้คำว่าขอร้องกับฉันเพราะนี่เป็นการบังคับ”“OK… ถ้าคุณอยากจะกลับก็ได้แต่โซอี้จะรู้สึกยังไงในเมื่อแกคิดว่าคุณไม่สบายและแกก็ตั้งใจที่จะดูแลคุณ ถ้าคุณกลับไปมันก็เหมือนเป็นการทำร้ายจิตใจแก”“คุณกำลังสร้างเงื่อนไขและกำลังกดดันฉันอยู่นะคะ”“ผมพูดความจริงต่างหากและมันก
“ คุณคิดแบบนั้นเหรอเนเน่”“ ใช่ค่ะ...และฉันก็คิดถูกใช่ไหมคะ ฉันพูดถูกทุกอย่าง ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ คุณจะไม่สูญเสียผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้นเพราะฉันจะไม่ผิดสัญญาเรื่องที่จะหาเงินมาชดใช้ให้คุณ”“ผมรู้ว่าคุณจะไม่ผิดสัญญาแต่คุณก็ผิดคำพูดกับผม ““แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันทำยังไงคะนิค ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไปแล้ว”ภิณไลย์ญาเผลอร้องไห้ออกมาและทรุดตัวลงนั่งบนพื้นห้องน้ำ เธอกอดเข่าแล้วร้องไห้อย่างคนสิ้นหวัง ตอนนี้หัวใจของเธอแหลกสลายทั้งจากความผิดหวังและร่างกายที่ยิ่งนับวันยิ่งอ่อนแอ เธอดูเหมือนคนสิ้นไร้ไม้ตอกและถึงทางตันของชีวิต นิโคลัสทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าเธอ จ้องมองร่างเล็กที่ก้มหน้าร้องไห้เหมือนแทบขาดใจแต่ภิณไลย์ญาก็ไม่ส่งเสียงออกมาดัง ๆ เธอกดเก็บตัวเองไว้เพราะกลัวโซอี้จะได้ยินแต่ในเวลานี้เธอช่างดูอ่อนแอและเป็นภาพที่ฉุดรั้งความรู้สึกของนิโคลัสให้ยิ่งดำดิ่ง เขารู้ตัวดีว่าทำให้เธอเจ็บช้ำอย่างสาหัสหากทว่าคนที่เจ็บปวดยิ่งกว่ากลับเป็นเขาเสียเอง ขณะที่เขากำลังจะเอื้อมมือเพื่อลูบเรือนผมของภิณไลย์ญาที่นั่งก้มหน้ากอดเข่าร้องไห้นั้นก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นข้างหลั
“เข้าไปในบ้านกันเถอะเนเน่ โซอี้หิวขนมแล้ว”“ค่ะ” เธอรับปากสั้น ๆ และเดินตามเขากับเด็กหญิงตัวเล็กเข้าไปโดยที่นิโคลัสก็ยังจูงมือไม่ยอมปล่อยมือของเธอจากมือของเขา มันไม่ได้ทำให้ภิณไลย์ญาอบอุ่นแม้แต่น้อยยิ่งใกล้ชิดเขามากเท่าไหร่มันก็ยิ่งหนาวยะเยือกในหัวใจมากขึ้นเท่านั้น นิโคลัสเหมือนซาตานเขาอาจกลายร่างเป็นเทพบุตรก่อนที่จะกลายเป็นปีศาจร้ายภายในเสี้ยววินาที เธอรู้ดีและไม่เคยลืมสิ่งที่เขากระทำกับเธอเมื่อประตูบ้านเปิดออกทั้งสามก็ก้าวเข้าไปในห้องรับแขกภายในได้รับการตกแต่งอย่างเรียบหรู มันดูกว้างขวาง หลังคาทรงสูงทำให้บ้านดูโอ่อ่าหากทว่าสำหรับภิณไลย์ญาแล้วเธอยิ่งรู้สึกอึดอัด ไม่ได้คิดว่าบรรยากาศโล่งหรือโปร่งสบายเลย เมื่อเข้าไปในห้องรับแขกนิโคลัสก็วางถุงใส่ขนมลงบนโต๊ะ โซอี้เปิดถุงขนมดูและล้วงหยิบเค้กกับคุกกี้ออกมาก่อนหันมาทางภิณไลย์ญาและพูดด้วยประกายตาใสแจ๋วว่า“คุณน้าเนเน่ขา คุณน้าเนเน่ชอบขนมนี้หรือเปล่าคะ”“ว่าแล้วเด็กหญิงก็หยิบคุกกี้ในห่อสีสวยอยู่ในภิณไลย์ญาที่รับไปเธอยิ้มตอบและบอกว่า”“ชอบค่ะ...เอ้อ...”“ชอบก็กินเลยสิคะ แดดี๊ขา มากินขนมด้วยกันเถอะค่ะหนูหิวแล้ว”“ได้สิจ๊ะทูนหัวของ daddy มาเราม
“แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อน ฉันไม่ได้อยู่กับคุณแล้ว “คุณจะมาทำอะไรแบบนี้ไม่ได้นะคะนิค”“ลืมไปแล้วหรอเนเน่ว่าคุณยังติดค้างอะไรผมอยู่ คุณเป็นคนผิดกฎและทำผิดสัญญากับผมหรือว่าคุณไม่ยอมรับว่าการที่คุณหนีมานี่มันเป็นการไม่รักษาสัญญาที่คุณเคยให้ไว้”“แล้วคุณต้องการอะไรกันล่ะคะ ถ้าคุณต้องการเงินฉันจะพยายามหามาคืนคุณ คุณจะไม่สูญเสียผลประโยชน์ของคุณแม้แต่เซ็นเดียว”“เรื่องนี้คนที่ได้รับผลประโยชน์ไปเต็ม ๆ ก็คือคุณนะเนเน่ผมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้น้องชายของคุณและพอเขาหายดีคุณก็คิดจะหนีผมไปดื้อ ๆ แบบนี้น่ะหรือ มันไม่ยุติธรรมสำหรับผมรู้ไหม”เขาพูดจบก็บัยดตัวเข้าหาเธอโดยไม่สนใจใครในที่นั้น แต่แล้วนิโคลัสต้องชะงักเมื่อภิณไลย์ญาเงยหน้ามองเขาดวงตาของเธอแดงก่ำ ปากของเธอระริกสั่นและร่างนั้นสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขนทรงพลัง“ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะค่ะนิค คุณจะให้ฉันทำยังไงก็ได้ ฉันขอร้องเถอะนะคะ”“ผมปล่อยคุณไปไม่ได้หรอกและจะไม่มีวันยอมปล่อยคุณไปไหนด้วย”เขากดน้ำเสียงต่ำแต่คำพูดนั้นหนักแน่นและมีพลังสั่นไหวความรู้สึกของภิณไลย์ญา เธอแทบทรงตัวไว้ไม่อยู่แต่แล้วเสียงของโซอี้ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง“แดดี๊ขา...หนูเลือกข
“ไม่เป็นไรหรอกนะ ตอนนี้พิชญ์ดีขึ้นมากแล้ว แม่ก็แค่คอยดูแลให้เขากินอาหาร กินยาให้ตรงเวลาก็เท่านั้นเอง นอกเหนือจากนี้ก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าเป็นกังวลเลย ลูกไปกับหนูโซอี้เถอะนะ เขาอุตส่าห์มาหาถึงที่นี่แสดงว่าคิดถึงลูกจริง ๆ”“นั่นน่ะสิครับ...เหมือนอย่างที่คุณแม่ว่า เนเน่อย่าขัดใจโซอี้เลยนะ แกคิดถึง อยากอยู่กับคุณน่ะ”นิโคลัสกล่าวเสริมแต่ภิณไลย์ญารู้สึกราวกับว่าเขากำลังบีบบังคับเธอทางอ้อมอีกแล้ว มันทำให้เธออึดอัดและเครียดขึ้นมาแต่แล้วหัวใจดวงนั้นก็อ่อนยวบลงเมื่อโซอี้เข้ามาสวมกอดและพูดว่า“ไปกินขนมกับหนูเถอะนะคะ คุณน้าเนเน่ขา หนูอยากชวนคุณน้าเนเน่ไปซื้อพาเล็ทสวย ๆ ด้วยค่ะ คุณน้าเนเน่แต่งหน้าให้หนูสวยที่สุดเลย หนูอยากให้คุณน้าเนเน่แต่งหน้าให้หนูอีกค่ะ แดดี๊ก็ไม่ว่าอะไรแล้วนะคะ”“ค่ะ...ก็ได้ค่ะ”ภิญญารับปากทั้งที่ใจจริงเธออยากปฏิเสธและขณะที่พูดกับโซอี้เธอก็พยายามไม่สบนัยน์ตาเข้มของนิโคลัสที่จ้องมองหญิงสาวตลอดเวลา เธอไม่รู้ว่าเขากำลังคิดหรือวางแผนอะไรอยู่การที่เขามาที่นี่คงไม่ได้อยากรู้จักครอบครัวของเธอซึ่งอยู่ในย่านของคนที่มีฐานะการเงินต่ำกว่าเขามากนัก เขาอาจรังเกียจด้วยซ้ำ คนอย่างนิโคลัสซาเวีย