“จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
เสียงจากเบาะด้านหลังทำให้คนขับรถแท็กซี่ค่อย ๆ ชะลอความเร็วรถและจอดลงที่หน้าประตูรั้วอัลลอยด์ขนาดใหญ่ก่อนร่างบอบบางในชุดเสื้อเทรนช์โค้ทสีน้ำตาลพาสเทลจะเปิดประตูและก้าวลงไป
“จะให้ผมกดแตรเรียกคนในบ้านหรือเปล่าครับคุณผู้หญิง?”
คนขับซึ่งเป็นชายวัยกลางคนถามขึ้นเมื่อลดกระจกลงและรับค่าโดยสารจากหญิงสาวที่สะพายกระเป๋าและหิ้วถุงของขวัญขนาดใหญ่ ภิณไลย์ญามองลอดรั้วเข้าไปยังทางเดินทอดตัวยาวไปยังบ้านหลังใหญ่ราวคฤหาสน์สร้างจากหินอ่อนสะท้อนประกายระยับใต้แสงแดดส่องและหันไปตอบว่า
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก เดี๋ยวดิฉันกดกริ่งเรียกเองค่ะ”
เมื่อเธอบอกเช่นนั้นคนขับจึงปิดกระจกและขับรถออกไปทิ้งไว้แต่ร่างแน่งน้อยที่ระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ ขณะเดินไปกดกริ่งประตูของบ้านซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านคนรวยอย่างเบเวอร์ลี่ ฮิลล์ สักครู่จึงมีชายร่างใหญ่ในชุดสูทเดินมาเปิดประตู
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าต้องการมาพบใครหรือครับ?”
“ดิฉันมาเยี่ยมน้องสาวน่ะค่ะ...เอ้อ...ลลิล...”
“คุณลาริมาร์นะหรือครับ ไม่ทราบว่าได้นัดไว้ก่อนหรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ”
“ขอทราบชื่อของคุณหน่อยครับ”
“ภิณไลย์ญาค่ะ”
“สักครู่นะครับ”
ชายคนนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาใครคนหนึ่งเพื่อรายงานว่ามีใครมา ดูเหมือนการมาเยี่ยมเยียนคนที่เธอต้องการพบจะเป็นเรื่องซับซ้อนสักหน่อยซึ่งเธอก็เข้าใจและยอมรับว่าการมาหาลลิลซึ่งแม้จะเป็นรุ่นน้องสมัยเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเธอเป็นภรรยาของพัลเลเดียม ล็อค มหาเศรษฐีติดอันดับของอเมริกาทำให้ต้องมีบอดี้การ์ดคอยดูแลและตรวจสอบคนเข้าออกในบ้าน และที่สำคัญลลิลพึ่งคลอดลูกเมื่อไม่กี่วันมานี้นี่เอง สักครู่ชายคนนั้นจึงวางสายโทรศัพท์และบอกว่า
“ขอเชิญคุณภิณไลย์ญาด้านในครับ”
หญิงสาวแทบจะถอนใจยาวถ้าหากไม่เกรงใจเพราะโล่งอกที่ได้เข้าไปยังคฤหาสน์สุดหรูของเพื่อนสาวรุ่นน้อง วันนี้เธออุตส่าห์ไม่รับงาน นั่นคือการเป็นพริตตี้ในงานโชว์ของบริษัทยานยนต์ก็เพื่อมาที่นี่ ร่างบอบบางเดินตามชายร่างใหญ่เข้าไปกระทั่งถึงห้องรับแขกก็ได้ยินเสียงขานเรียกดังขึ้น
“พี่เนเน่...พี่เนเน่มาจริงๆ ด้วย”
ร่างเล็กในชุดแสกยาวสีหวานวิ่งเข้ามากอดภิณไลย์ญาที่ยิ้มอ่อนหวานเมื่อได้เห็นรุ่นน้องสาวมีท่าทีแข็งแรงดี
“เฮ้...ลิล...นี่ลิลพึ่งคลอดลูกเหรอจ๊ะ ดูซี หน้าตาไม่มีร่องรอยความซีดเซียวอิดโรยเลยนะ ดูสดใสมาก ๆ เลย”
“ลิลคลอดลูกเองนะคะ ก็เลยฟื้นตัวได้เร็วมาก ดีใจที่สุดเลยค่ะที่พี่เนเน่มาเยี่ยมลิลถึงที่นี่”
“พี่ก็ดีใจนะที่ได้เจอลิล วันนี้พี่อุตส่าห์หยุดงานทุกอย่างเลยเพื่อเยี่ยมลิลโดยเฉพาะ และนี่จ้ะของขวัญของหลานสาวพี่”
ภิณไลย์ญายื่นถุงใส่ของขวัญขนาดใหญ่ให้ขณะสายตาคู่นั้นมองข้ามไหล่ลลิลไปยังเปลไกวเด็กอ่อนซึ่งมีพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลใกล้ ๆ ลลิลยิ้มกว้าง
“ขอบคุณมากนะคะพี่เนเน่ ทั้งที่งานพริตตี้ของพี่รัดตัวมากขนาดนี้ก็ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมน้องกับลูก”
“ไม่ได้หรอกนะ” อีกฝ่ายกอดลลิลไว้แน่น “พี่จะไม่มาดูน้องสาวของพี่ได้ยังไง งานรัดตัวขนาดไหนพี่ก็จัดตารางเวลาได้นะจ๊ะ อืม...แล้วนี่คุณพัลเลเดียมล่ะ เขาอยู่หรือเปล่า?”
“อาพีทยังไม่กลับค่ะ แต่เห็นบอกว่าวันนี้จะเลื่อนประชุม”
“เขาคงเป็นห่วงเมียกับลูก เลยอยากกลับมาไวๆ ลิลโชคดีมากรู้ไหมที่ได้สามีน่ารักอย่างเขา”
ลลิลยิ้มแต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรบอดี้การ์ดคนเดิมก็เดินเข้ามาพร้อมทั้งรายงานว่า
“ขอโทษนะครับคุณลาริมาร์ มีแขกมาเยี่ยมคุณอีกคนครับ”
“ใครหรือคะลอยด์”
“คุณนิโคลัส ซาเวียร์ครับ”
เมื่อได้ยินชื่อนั้นภิณไลย์ญาก็ต้องชะงักทว่าลลิลกลับไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของเพื่อนรุ่นพี่ เธอกลับยิ้มกว้างกว่าเดิม
“จริงเหรอคะ แล้วตอนนี้นิคอยู่ที่ไหน”
“ผมอยู่นี่ครับ ลาริมาร์”
เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ทุกคนหันไปมองพร้อมกัน ลลิลผละจากพริตตี้สาวและเดินเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเทาควันบุหรี่ภูมิฐาน ภิณไลย์ญาแค่เหลือบมองเสี้ยวหน้าคมคร้ามของบุรุษร่างสูงเกือบร้อยแปดสิบเซ็นต์ นัยน์ตาประกายทองแดงจัดเหมือนสีผมหยักศกของเขาที่เคยมองพริตตี้สาวอย่างเหยียดแคลนจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวร่างเล็กซึ่งเป็นภรรยาของเพื่อนสนิท ท่าทางลลิลตื่นเต้นกับการมาของอีกหนึ่งบุรุษผู้ได้ชื่อว่าเป็นอภิมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทนำเข้ารถยนต์หรูของอเมริกาที่ทั้งหล่อเหลารุ่มรวยด้วยเสน่ห์ ใบหน้าคมเข้มราวเทพบุตรหากแต่สำหรับภิณไลย์ญาแล้วนิโคลัส ซาเวียร์คือจอมมารที่ใช้อำนาจเงินระรานผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอไม่วายเว้นโทษฐานที่เธอเคยผูกใจรักกับ คริสต์ ซาเวียร์ น้องชายคนเดียวของเขา
“นิค...ฉันดีใจมากเลยนะคะที่คุณมาวันนี้”ลลิลเอ่ยขึ้นขณะมือเรียวบางอยู่ในมือหนาหนักที่กอบกุมเอาไว้แน่น นิโคลัสบิดริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม“ผมต้องมาซีลาริมาร์ เมียของพีทเพื่อนผมคลอดลูกทั้งทีก็ต้องมาดูหลานเสียหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไม่รักกันจริง”“ลิลดีใจที่สุดเลยนะคะ วันนี้เป็นวันดีมากจริง ๆ ที่มีคนสำคัญมาเยี่ยมลิลถึงสองคน...เอ...แต่ว่า...นิคคงรู้จักพี่เนเน่แล้วซีนะคะ ก็เธอเป็นพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์ที่คุณจัดเมื่อวันก่อนไงคะ”หญิงสาวแนะนำและเมื่อเป็นเช่นนั้นภิณไลย์ญาก็จำต้องหันกลับมาประจันหน้ากับนิโคลัสที่เหลือบสายตามายังเธอ เขาแค่ยกมุมปากขึ้น ไม่เชิงว่าจะยิ้ม สำหรับพริตตี้สาวแล้วมันเหมือนว่าเขากำลังเหยียดหยามเธออย่างทุกครั้งที่พบกัน และถึงจะอึดอัดสักแค่ไหนเธอก็ต้องยิ้มให้ทั้งที่อยากจะเดินหนี“สวัสดีค่ะ คุณนิโคลัส”ภิณไลย์ญาเอ่ยขึ้นอย่างเสียมิได้ เธอก็แค่อยากให้สถานการณ์ตอนนี้ผ่านพ้นไปและรู้สึกว่าอยากให้เวลาอยู่ที่นี่สั้นลงกว่าตอนก่อนตั้งใจจะมา ทำไมต้องมาเจอเขาที่นี่ ผู้ชายคนนี้ที่ไม่เคยญาติดีกับเธอเลยสักหน หญิงสาวได้ยินเสียงของเขาดังในลำคอ“อ้อ...รู้จักสิลาริมาร์ ใครบ้างที่จะไม่รู้จักพริตตี้สาว
“ค่ะ...เอ้อ...พี่เนเน่ทำใจดี ๆ ไว้นะคะ”พริตตี้สาวยิ้มกับลลิลทั้งที่ใบหน้าเริ่มเผือดสีจนเป็นที่สังเกตของร่างสูงใหญ่ซึ่งยืนมองอยู่ไม่ห่าง ก่อนกลับหญิงสาวไม่ลืมที่จะเข้าไปชื่นชมความน่ารักของทารกหญิงตัวน้อยสมาชิกใหม่ของบ้านล็อคก่อนเดินกลับออกไปโดยไม่สนใจจะกล่าวลาใครอื่นนอกจากเจ้าของบ้าน ลลิลเดินกลับมาที่นิโคลัสอีกครั้งเขาจึงถามขึ้น“มีอะไรหรือลาริมาร์ ท่าทางเพื่อนคุณรีบร้อนมากทีเดียว”“เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นค่ะ พี่เนเน่ต้องรีบไปโรงพยาบาลตอนนี้ค่ะเพราะน้องชายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์กะโหลกร้าวต้องผ่าตัดด่วน”ปื้นคิ้วหนาเลิกขึ้น เหนือดวงตาสีทองแดงจัดฉายประกายคมกล้า นิโคลัสขบสันกรามบนหน้าคมคร้ามนูนเป็นสัน“น้องชายประสบอุบัติเหตุและต้องผ่าตัดด่วน...อย่างนั้นหรือ...อืม...น่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงจริงๆ”บทที่ 2 indecent proposal เงินแลกชีวิตโรงพยาบาลนิวยอร์ค 00:30 น.เป็นเวลานานหลายชั่วโมงเลยทีเดียวที่ภิณไลย์ญายังอยู่ที่โรงพยาบาลหลังออกจากบ้านของลลิล หญิงสาวไม่ได้รอหน้าห้องฉุกเฉินแต่เลือกที่จะมานั่งในสวนเล็ก ๆ ของโงพยาบาลเพียงลำพังซึ่งในเวลานั้นมีแต่ลมหนาวและความกระวนกระวายข้างในรุมเร้าความรู้สึกข
เธอพบกับคริสต์ ซาเวียร์ ลูกชายคนเล็กของมหาเศรษฐีบริษัทนำเข้ารถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ เขาแสดงออกว่าชอบเธอมากขนาดไหน และหญิงสาวก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอรักเขา ทว่าความสัมพันธ์นั้นกลับไม่ยั่งยืนเมื่อเรื่องราวระหว่างเธอกับคริสต์รู้ถึงหูนิโคลัส พี่ชายของเขา ผู้แสดงออกว่ารังเกียจผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างเธอซึ่งเป็นแค่พริตตี้ที่ทำงานไม่ต่างจากดารา ขายหน้าตาแม้มีความสามารถแค่ไหนเขาก็ไม่สนใจจะค้นหา สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือเธอต้องเลิกกับคริสต์นิโคลัสให้คนของเขาติดตามและคุกคามบีบคั้นให้เธอเกิดความหวาดกลัวซึ่งภิณไลย์ญาก็รู้สึกว่าตัวเองและครอบครัวอาจต้องเดือดร้อนหากยังปล่อยให้เรื่องระหว่างเธอและคริสต์ดำเนินต่อไป เธอเลือกที่จะหันหลังให้คนรัก หลังจากเธอยินยอมตัดความสัมพันธ์กับคริสต์แล้วพริตตี้สาวจึงได้ข่าวการประกาศหมั้นอย่างเป็นทางการระหว่างเขาและลูกสาวนักธุรกิจเลื่องชื่อชาวรัสเซีย เธอยอมรับทุกอย่างแต่โดยดีเพราะอย่างน้อยเขาก็จะได้พบคนที่ดีกว่าทว่าเรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น คริสต์ยังโทรมาหาและพยายามพบเธอด้วยการไปร่วมทุกงานโชว์ยานยนต์ที่ภิณไลย์ญารับงานเป็นพริตตี้ให้รถหรู จนถึงป่านนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่า
หญิงสาวร้องออกมาเมื่อไหล่ของเธอถูกลำแขนแกร่งโอบและกดต้นแขนเอาไว้ด้วยมือหนา เขาเบียดตัวเข้าหาพร้อมทั้งโน้มใบหน้าลงมา“ตอนนี้คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นถ้าเราไม่ได้ทำความตกลงกันเสียก่อน”“ทำความตกลง...นี่คุณพูดเรื่องอะไร ไม่มีอะไรที่ฉันต้องตกลงกับคุณ...ปล่อยฉันนะ!”ภิณไลย์ญาพยายามสะบัดไหล่ออกจากมือหนาหนักแต่ยิ่งขืนตัวนิโคลัสก็ยิ่งกดเธอไว้จนแนบชิดตัวเขา ร่างเล็กอิงแอบกับอกกว้างของร่างสูงโดยไม่ตั้งใจ หญิงสาวนิ่วหน้าขณะเหลือบมองว่ารอบ ๆ นั้นจะมีใครสักคนหรือไม่หากก็ไม่เห็นเงาของใครเลย ชายหนุ่มคำรามลึกในลำคอก่อนเค้นเสียงลอดไรฟัน“คุณควรจะทำตัวให้น่ารักหน่อย มิสภิณไลย์ญา อย่าลืมสิว่าตอนนี้คุณกำลังประสบปัญหาอะไรอยู่”“ฉันกำลังถูกคุกคาม! นี่ยังไงล่ะคือปัญหาของฉัน”“เปล่าเลยยาหยี ที่ผมมานี่เพราะอยากช่วยเหลือคุณต่างหาก”“ว่ายังไงนะ”หญิงสาวหยุดขัดขืนเพราะคำพูดของเขาทำให้เธอย่นคิ้วด้วยความฉงน หากแต่นิโคลัสกลับแสยะยิ้ม เขาหรี่นัยน์ตาสีทองแดงเข้มมองเธอ ผู้หญิงใบหน้าหวานจัดที่น้องชายของเขาหลงใหล ยิ่งเห็นใกล้ ๆ ราวกับว่าความรู้สึกของเขาวูบไหวไปชั่วขณะ เพียงเสี้ยวลมหายใจเท่านั้นที่เขารีบดึงความแน่วแน่ของ