บทที่ 20
มือเล็กเริ่มสั่นสะท้านขณะถือถาดใบใหญ่เดินเข้าไปแล้วรอให้เด็กที่อยู่ในห้องหยิบออกจากถาดวางไว้บนจานเลื่อนหมุนได้ตรงกลาง แล้วเธอจึงถูกดึงไปยังมุมห้องจากพนักงานด้วยกันอีกคน
“พี่บัวมาทำอะไร!”
“พี่แค่อยากมาดูหน้าบอส”
พนักงานคนดังกล่างนิ่วหน้า
“ไม่ต้องกลัว พี่จะยืนอยู่เฉย ๆ”
บุษยาย้ำอีกครั้งเพิ่มความมั่นใจแล้วถือถาดห้อยไว้ด้านหน้า ยืนประสานมือกันยืนนิ่งไม่ไหวติงตรงด้านผนังห้อง
ดวงตาคมรีจ้องนิ่งไปยังบุคคลเดียวที่นั่งอยู่ในโต๊ะ รูปร่างของพสุธาใหญ่กว่าเมื่อก่อนมาก ครั้งเป็นเด็กหนุ่มเขามีรูปร่างผอมเกร็งแต่บัดนี้กล้ามเนื้อหนาแน่นเป็นลูกตามหัวไหล่ ท่อนแขน
ผมดำหยักศกของเขามัดรวบไว้ด้านหลังเหมือนเมื่อกลางวัน ผิวคล้ำแต่ไม่เท่าแต่ก่อน คิ้วเข้มหนาดกพาดเฉียงตวัดลงปลาย จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากหนา
เธอไล่สายตาไปยังกรามแกร่งที่เห็นชัดสู่ลำคอหนาตวัดลงไปที่มือใหญ่กำแก้วเหล้าไว้ยกดื่ม พสุธาเผยอริมฝีปากจิบเหล้าผสมน้ำลงสู่ลำคอ เธอมองลูกกระเดือกที่ดูเหมือนจะใหญ่กว่าสมัยเด็ก แล้วพลันเหลือบขึ้นจนสบสายตาสีฟ้าจัดที่จ้องมองมาที่เธอเช่นเดียวกัน
บุษยาเห็นเขายืดกายขึ้นตรงจากนั้นชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ด้านหลังก็เดินเข้ามาหา แล้วชายร่างยักษ์ก็เดินตรงมาทางเธอ
“มานี่!!”
ร่างเล็กถูกหิ้วปีกออกมาจากห้องวีไอพีทันทีด้วยแรงมหาศาลของชายร่างโต บุษบาไม่ขัดขืนแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้เธอบรรลุเป้าหมายแล้ว ชายหนุ่มที่เธอเห็นเมื่อกลางวันคือคนเดียวกับที่นั่งอยู่ที่โต๊ะคืนนี้ คือพี่แทน
ทัดทองผลักร่างเล็กไปยังโถงทางเดินเงียบด้านข้างแล้วดึงป้ายชื่ออออกมาจากหน้าอก ไม่มีแม้แต่เสียงอ่านป้ายชื่อ ชายร่างโตเพียงแค่มอง
“ถอดหน้ากากออก”
บุษยายกมือขึ้นถอดหน้ากากอนามัยออกจากใบหน้า เธอไม่หลบตาเขา ส่งสายตาคมรีเรียบเฉย และไม่พูดสิ่งใด
“ไปทำงานที่อื่น ไม่ต้องเข้าไปอีก”
เสียงเข้มต่ำจนเกือบตะวาดเอ่ยขึ้น บุษยาพยักหน้ารับแล้วหันกายเดินจากไป แต่พอพ้นสายตาคนร่างยักษ์เท่านั้น ร่างบอบบางของเธอพลันทรุดลงนั่งยองทันทีอย่างหมดแรง
เป็นเขาจริง ๆ! พี่แทน แต่ทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น
หน้าเล็กซบลงบนเข่า ภาพใบหน้าแกร่งเรียบเฉยจนเกือบเย็นชา โดยเฉพาะดวงตาสีฟ้าไร้ความอ่อนโยน มีร่องรอยกร้าวกระด้างและแข็งแกร่งจนเธอเกือบไม่คิดว่าเป็นพสุธา
พ่อของเธอทำให้เขาหายไป เธอรู้ดีมาตลอด แต่เธอเองก็กลัวเกินกว่าจะถามนายหัวบัญชร กลัวว่าพ่อของเธอจะตอบว่าเขาได้ทำอะไรไปกับพสุธา
ทุกอย่างเป็นความผิดของเธอ บุษยา เป็นเพราะเธอทุกคนถึงได้เป็นแบบนี้ ถ้าเธอไม่รักพี่แทน ไม่ไปสนิทสนมจนคนในบ้านรู้กันทั่ว พี่แทนคงไม่ต้องโดนทำร้าย ป้าพรพิศเองจะได้อยู่กับลูกชายของเขาเหมือนเดิม และบางทีพวกเขาแม่ลูกอาจย้ายออกเพื่อไปมีชีวิตที่ดีกว่าอยู่บ้านหลังนี้
เธอต้องบอกป้าพรพิศว่าพสุธากลับมาแล้ว!
เมื่อคิดได้ดังนั้นบุษยาจึงลุกขึ้นแล้วเดินกลับลงไปด้านล่างเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกจากโรงแรมตรงกลับบ้านทันที
พสุธาวางแก้วมือสั่นเล็กน้อย หญิงสาวร่างผอมบางคนนั้นยืนนิ่งมองตรงมายังเขา ดวงตาคมรีของเธอช่างเหมือนกับบุษยาเหลือเกิน
แต่รูปร่างของเธอกลับผอมบางมากเกินไป ถ้าเป็นบุษยาคงอวบอิ่มมากกว่านี้ โดยเฉพาะทรวงอก
“แทนคะ เป็นอะไรคะ”
เขาเอี้ยวหน้ามองหญิงสาวที่เขาพามาด้วยจากอเมริกา หวังว่าช่วยผ่อนคลายยามความต้องการพุ่งทะยาน ซึ่งตอนนี้เขากำลังเป็นอยู่ เพียงแค่มองหญิงสาวสวมชุดไทยประยุกต์ในชุดพนักงานเสิร์ฟ เจ้าแก่นกายก็แข็งโด่จนเขาต้องขยับตัวอย่างอึดอัด
“เปล่าไม่เป็นไร เซรีน่าจะขึ้นไปก่อนไหม”
“ไม่ค่ะ รอขึ้นพร้อมแทนดีกว่า”
แล้วเธอก็กลับไปสนใจโทรศัพท์มือถือต่อ ข้อดีของเธอก็คือเขาไม่จำเป็นต้องพะเน้าพะนอเอาใจ และเธอพร้อมเสมอตลอดเวลา
ดวงตาสีฟ้าจัดเหลือบตาขึ้นมองทัดทองเดินกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมขมวดคิ้วเมื่อไม่เห็นหญิงสาวเดินตามมาด้วย ทัดทองเพียงวางป้ายชื่อบนโต๊ะตรงหน้าเขา แล้วขยับออกไปด้านหลังเหมือนเดิม
ปานขวัญ!
เขาคงเข้าใจอะไรผิดไปเอง ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่มักมีรูปร่างคล้ายคลึงกัน
“อ้อ ผมอยากจะถามอะไรคุณพสุธาหน่อยครับ ทำไมคุณถึงพูดไทยได้คล่อง”
พสุธาเงยหน้าขึ้นมองเสี่ยรังสรรที่นั่งตรงกันข้าม เสี่ยอ้วนผิวขาววันนี้มาคนเดียว จริงสิ ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นบุษยาไปได้อย่างไร ในเมื่อเธอแต่งงานไปกับเสี่ยรังสรรแล้ว
“แม่ผมเป็นคนไทยครับ”
“แบบนี้นี่เอง แหมทุกคนก็ได้แต่สงสัย คุณแทบไม่มีเค้าคนไทยเลยนะครับ”
“ครับ ใคร ๆ ก็พูดแบบนั้น”
แล้วความเงียบก็เข้าครอบคลุมภายในห้องจนน่าอึดอัด พสุธามองกวาดตาไปรอบโต๊ะ คงเป็นเขาที่เป็นส่วนเกินของเมืองนี้
“แล้วเสี่ยรังสรรมาคนเดียว ไม่พาภรรยามาล่ะครับ”
“ไม่ล่ะครับ ให้เธอเลี้ยงลูกไปเถอะครับ ส่วนผมว่าจะแวะอาบอบนาบ เอ้ย ไม่ใช่ อาบอบนวดสักหน่อย ผ่อนคลายดีน่ะครับ ไปด้วยกันไหมครับ”
พสุธาหัวเราะหยันแล้วส่ายหน้า น่าสงสารบุษยาที่เลือกแต่งงานกับคนแบบนี้
ลูก! อย่างนั้นเหรอ เธอมีลูกแล้ว
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะอารมณ์เสียขึ้นมา อารมณ์คุกรุ่นทั้งหึงหวงทั้งสมน้ำหน้าด้วยความเกลียดชังผสมปนเปจนเขาสับสน
“พวกคุณคงทราบว่าผมเคยเป็นเด็กของนายหัวบัญชร”
ความเงียบหนักกว่าเดิมเมื่อพสุธาเอ่ยขึ้น แต่เมื่อเขากำลังพูดต่อ เสี่ยรังสรรกลับพูดแทรกเข้ามา
“แล้วยังไงครับ คุณพูดขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อะไร”
“ก็คุณควรเกรงใจภรรยาบ้าง อย่างน้อยผมก็เป็นคนรู้จักกับภรรยาของคุณ”
เสี่ยรังสรรทำหน้าสงสัยหนัก แล้วสักพักจึงหัวเราะขบขันเสียงดัง
“คุณพสุธา คุณกำลังเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ผมไม่ได้แต่งงานกับเธอนะครับ ลูกนายหัวบัญชรที่ชื่อบัวใช่ไหม ถ้าผมจำไม่ผิด”
“แต่ผมไปงานหมั้น..”
“โอ้ย! ผมถอนหมั้นไปตั้งนานแล้วตั้งแต่ ..”
“ผมว่าดึกแล้ว ขอตัวก่อน”
พสุธาพูดแทรกลุกขึ้นยืนทันทีไม่มีปี่มีขลุ่ยจนคนในโต๊ะหน้าเหวอ ลุกขึ้นเดินไปส่งหน้าประตูห้องวีไอพี ก่อนกลับมาซุบซิบนินทาเรื่องเก่าของพสุธา
ถอนหมั้น!!
ในใจเขายิ่งกว่าสับสน พยักหน้าให้ทัดทองมาใกล้ ๆ
“เธอคนนั้นอยู่ไหน”
“ไม่ทราบครับ แต่นายมีชื่อของเธอแล้ว”
“คิดว่าไม่ใช่ชื่อของเธอ บ้าจริง ทำไมทำงานได้ห่วยขนาดนี้”
ทัดทองยืนนิ่งก่อนเดินตามนายใหญ่ที่เดินอารมณ์เสียไป โดยมีนางแบบสาวตามติดไม่ห่าง เขาชินเสียแล้วกับอารมณ์แปรปรวนของพสุธานับตั้งแต่เหยียบแผ่นดินบ้านเกิดเมืองหอยใหญ่แห่งนี้
บทที่ 21เวลาเดิมในทุกเช้าของสาวร่างผอมบางต้องจอดรถที่ลานจอดรถของพนักงานเป็นประจำ และเดินเข้าประตู แต่วันนี้บุษยาเลี่ยงมาให้เร็วขึ้นขณะที่กำลังเดินออกจากลานจอดรถเพื่อตรงไปยังประตูใจยังรู้สึกเสียววาบหวาดหวั่น ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากเจอพสุธา หากแต่เธอยังไม่พร้อม และยิ่งตัวเขาเองดูเปลี่ยนแปลงอย่างมากคล้ายคนแปลกหน้า เธอยิ่งไม่ต้องการพบเขา ต้องไม่ใช่เธอลักษณะนี้บุษยาเดินเข้าไปยังห้องเก็บของของแผนกครัวเพื่อเก็บกระเป๋าและสวมผ้ากันเปื้อน ภาพชายหนุ่มร่างใหญ่โตนั่งจ้องเธอไม่วางตา ลักษณะราศีคนรวยจับไปทั่วตัว ทั้งยังดูแข็งกระด้าง เย็นชาเขาไม่ใช่พี่แทนคนเดิมของเธออีกต่อไปแล้วสังเกตข้างกายเขามีผู้หญิงชาวต่างชาติคนเดิมนั่งประกบข้าง แต่เธอก็รู้เพียงแค่นั้นเพราะนัยน์ตาสีฟ้าดึงดูดความสนใจจากเธอไปจนหมดขณะที่มือกำลังสาละวนกับงานตรงหน้า เธอต้องเตรียมอบขนมปังชุดใหญ่เช้านี้เพื่อใช้ไปอีกสองวัน พลันนึกขึ้นได้ป้ายชื่อของปานขวัญถูกชายร่างยักษ์ฉกไปแล้วบุษยาหยุดเทแป้งลงโถเครื่องนวดแป้งทันที รีบเดินออกไปยังโถงหน้าของแผนกครัวจนกระทั่งเห็นปานขวัญเดินเข้ามา“ปาน!”“พี่บัว พอดีเลย ป้ายชื่อของปานล่ะ”“ปาน พี่ขอโทษด้ว
บทที่ 22มือชื้นเหงื่อกำสายสะพานกระเป๋าใบเล็กไว้แน่นขณะก้าวเดินตัดลานจอดรถของพนักงานที่เธอขับไปแอบไว้ด้านหลัง รถเก๋งคันเก่าที่เธอซื้อมาหลายปีแล้วหลังจากที่ขายรถคันอื่นไปจนหมดเพื่อใช้หนี้เธอควานหากุญแจรถด้วยมือสั่นเทารีบร้อน เธอรักพี่แทนของเธอ แต่เธอจะไม่ขอพบพี่แทนคนใหม่ การเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือทำให้เธอค่อนข้างสับสนและปวดใจ เวลามันผ่านไปนานเกินไปจนเหลือเพียงเธอเท่านั้นที่ยังจมอยู่กับความรักแบบเด็ก ๆเสียงกรุ๊งกริ๊งในกระเป๋าทำให้เธอโล่งใจว่าไม่ได้ลืมไว้ที่แผนกครัว มือบางหยิบกุญแจออกมาไขแล้วเปิดประตูขณะที่เธอกำลังเข้าไปในรถ ชายร่างสูงใหญ่พลันปรากฎในสายตา เขายืนนิ่งอยู่ตรงทางเข้าประตูของพนักงาน มือล้วงเข้าไปในกางเกงสูทราคาแพงข้างหนึ่งเหมือนกำลังสบายใจ แต่เธอรู้ว่าไม่ใช่ปัง!!บุษยาปิดประตูเสียงดังจ้องดวงตาสีฟ้าจัดของเขาอย่างไม่ละสายตา เขารู้แล้วว่าเธอเป็นใคร กายสาวบอบบางสั่นไหวเหมือนที่เคยเป็นตั้งแต่แตกวัยสาว อายุของเธอเลยวัยสะพรั่งมาสักพักแล้วแต่เธอกลับพบว่ามันกำลังสนองตอบบรื้น!! มือสั่นเทาเสียบกุญแจรถ เสียงรถคันเก่าสตาร์ทเสียง เคลื่อนตัวออกจากซองแล้วหักเลี้ยวมุ่งหน้าไปยัง
บทที่ 23บุษยาเดินอ่อนระโหยมากกว่าทุกวันเมื่อได้ยินชื่อของเจ้าหนี้จากปากของทนายความ มือบางไม่สวยงามเหมือนก่อนกำซองเอกสารจนแน่นยับย่น เธอเดินขึ้นบันไดหน้าบ้านแล้วเลี้ยวไปยังห้องครัวหยุดมองป้าพรพิศที่ยังวุ่นอยู่หน้าเตาคนเดียว ตั้งแต่เกิดวิกฤตเธอต้องลดรายจ่ายทุกทางทำให้ตอนนี้ภายในบ้านเหลือป้าพรพิศและเด็กที่ไว้คอยกวาดถูทั่วไปอีกหนึ่งคนเท่านั้น“อ้าว คุณบัวกลับมาแล้ว ป้ายังทำกับข้าวไม่เสร็จเลยค่ะ”บุษยาวางเอกสารลงบนโต๊ะพร้อมกระเป๋าก่อนนั่งลง เธอพยายามนิ่งคิดประโยคที่จะถามป้าพรพิศ“คุณบัวเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”พรพิศหันกลับมาจากเตา ร่างผอมหยิบจานมาแล้วเทผัดเผ็ดปลากะพงลงไปแล้วนำมาวางบนโต๊ะ หลังจากนั้นจึงนั่งลงที่เก้าอี้ตัวถัดไป“ป้าพิศคะ ป้าพิศอยู่กับบัวมากนานมาก บัวรักและเคารพป้าพิศเหมือนกับแม่แท้ ๆ ของบัว บัวอยากจะถามป้าพิศตรง ๆ บัวอยากให้ป้าพิศตอบบัวตรง ๆ เหมือนกันนะคะ”เธอสังเกตใบหน้าของป้าพรพิศเจื่อนลงเล็กน้อย ทำให้เธอรู้ว่าป้าพรพิศทราบเรื่องของพสุธาแล้ว แต่จะมากขนาดไหนนั้นคงต้องถามดู“คุณบัว ป้าอยู่ที่นี่มานานก่อนที่คุณบัวจะเกิด แล้วพอคุณบัวเกิดป้าก็เป็นคนช่วยเลี้ยงดูคุณบัวมาตลอด ป้าเองก
บทที่ 24ร่างอ้วนเตี้ยนั่งทานอาหารเช้าอยู่หัวโต๊ะทำให้เธอรู้สึกคลื่นไส้ทุกครั้งที่เห็น แต่ก็จำทนต้องอยู่กับคนนี้มาหลายปีเพราะการแต่งงานด้วยเงินเป็นตัวตั้ง“นี่เสี่ย กินเบา ๆ สิ เสียงดังขนาดนี้อายเขา”“จะอายไปทำไม มีกันอยู่แค่นี้ รีบ ๆ กินเข้าเถอะฉันจะต้องรีบไป”เบญจมาศ ภรรยาของเสี่ยรังสรร รูปร่างอรชรผิวขาวอย่างคนจีนแต่ใบหน้าคมดั่งคนใต้ ลอบเบ้ปากก่อนก้มหน้าลงทานอาหารเช้าต่อ“เสี่ยครับ”เสียงทุ้มเรียกเสี่ยอย่างเกรงใจจากคนสนิทดังขึ้นหน้าประตู เธอเหลือบตามองเสี่ยรังสรรที่พยักหน้ารับ“ว่ามา มีใครยื่นประมูลบ้าง”“ก็ไม่มากครับ เพราะราคาค่อนข้างแรง แต่มีคนหนึ่งที่น่าหนักใจที่สุดเสี่ย”“ใคร?”“คุณพสุธา แบล็ค เจ้าของโรงแรมคนใหม่ครับ”เสี่ยรังสรรอึ้งไป นี่ไอ้ลูกครึ่งเฮงซวยนั่นกำลังคิดมาแย่งชิ้นปลามัน ใบหน้าอวบอูมแสยะปากยิ้มก่อนก้มหน้าทานอาหารเช้าต่อ แล้วชะงักเงยหน้ากลับไปสั่งลูกน้อง“คอยตามดูมันไว้ให้ดี อย่าให้คลาดสายตา อ้อ ส่งคนเข้าไปในโรงแรมมันด้วย ดูให้หมดลูกเมียที่แอบเก็บไว้ คนรัก คนโปรด”“ครับเสี่ย”เบญจมาศนั่งก้มหน้าทานอย่างไม่สนใจ แต่ภาพนายหัวคนใหม่ของเมือง รูปหล่อและรวยทำให้เธอสะท้านทุกค
บทที่ 25หน้าหวานคมแดงซ่านขึ้นทีละน้อยจนแดงก่ำเพราะอับอาย ทั้งอายที่ร่างกายของตัวเองตอบสนองเพียงแค่มองตา ทั้งอายที่เธอน่ารังเกียจจนเขาต้องพูดมันออกมาเตือนสติ“ค่ะ ขอโทษด้วย”“บ้าจริง! พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ช่างเถอะ! พูดมา”เสียงเข้มห้วนกระชากทำให้ยิ่งแน่ใจว่าเขาเปลี่ยนไปจริง ๆ คงลืมความรักวัยเด็กไปแล้ว ร่างผอมบางยืดตัวขึ้นตรงเช่นเดิมแล้วดึงเอกสารในซองออกมา“ฉันเพิ่งได้รับใบทวงนี้ฉบับนี้ ฉันไม่ทราบมาก่อนว่าพ่อเอาบ้านไปจำนองไว้”พสุธาไม่ได้รับกลับมาดู เอกสารพวกนี้เขาเห็นมาหมดแล้ว ตั้งแต่ร่างเล็กแสนบอบบางเข้ามาในห้อง ร่างกายเขาตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาจนอยู่นิ่งไม่ได้ เขานั่งเคาะนิ้วเป็นจังหวะ ขยับตัวบ้างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจออกจากร่างผอมบางของเธอผอมบาง? นัยน์ตาสีฟ้าจัดเพ่งมองคนร่างเล็กตรงหน้าอีกครั้งอย่างละเอียดระหว่างที่เธอกำลังสาธยายว่าจะชำระหนี้ยังไง ผมดำดกหนามัดรวบตามระเบียบของโรงแรม ใบหน้าแต่งแต้มเล็กน้อยเท่านั้นจนแทบไม่มีสีสัน คิ้วโก่งสวยธรรมชาติ ขนตายาวงอนรับไปกับดวงตาคมรีที่เขาเคยเผลอหลงใหล จมูกเล็กโด่งรั้นปลายเล็กน้อย และริมฝีปากกว้างเย้ายวนที่เขาชอบที่สุดเขาเคยใช้เวลาไปกับ
บทที่ 26“อันที่จริง เราคุยกันก่อนก็ได้นะคะ น่าจะใช้เวลาไม่นาน นายหัวจะได้ทานข้าวอย่างสบายใจ”“ไม่มีเรื่องไหนที่เกี่ยวกับบัวแล้วพี่จะสบายใจหรอก”มือเรียวบางชะงักหยุดชั่วครู่ก่อนหยิบเอกสารออกมาจากซอง หน้าคมเข้มลอบยิ้มชื่นชมที่คนร่างเล็กสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีแม้ว่าโดนเขาพูดกระทบหลายครั้ง เขาแสร้งเหลือบตามองไปทางอื่นอย่างไม่สนใจเอกสารที่เธอพยายามดันมาตรงหน้า“นายหัวไม่ดูสักหน่อยหรือคะ อันนี้เป็นแผนชำระหนี้ที่ฉันทำมา”“มันไกลไป”ปากหนาลอบยิ้มเมื่อได้ยินเสียงคนตัวเล็กถอนหายใจอีกครั้ง แล้วเบาะด้านข้างพลันยุบตัวลงจนเขารู้สึกถึงไอร้อน เสียงหวานนุ่มดั่งน้ำผึ้งดังขึ้นใกล้ตัว เขาขยับตัวแกล้งเอามือขึ้นเท้าบนโต๊ะแต่ยิ่งทำให้ตัวเองจุกเลยจำต้องเอนตัวไปด้านหลัง“นายหัวนั่งดีดีสิคะ แบบนี้จะมองเห็นได้ยังไง”เสียงหวานเริ่มแหลมขึ้นอย่างไม่พอใจ เขาเห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้าง จมูกโด่งปลายรั้นรับกับหน้าละมุน เธอเอี้ยวหน้ากลับมาทางเขา ดวงตาคมรีปรากฎรอยขุ่นเคือง“พี่จุก สงสัยจะหิวมาก เลยต้องนั่งเอนตัว”เขาบอกเธอตรง ๆ หากแต่อาการจุกมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาหารเลย พสุธาวางมือลงข้างตัวซึ่งอยู่ด้านหลังของร่
บทที่ 27บุษยาเสียวแผ่นหลังวาบเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูตามหลัง มองร่างแกร่งเดินกลับยังหน้าโต๊ะพยักหน้าให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมสาวร่างผอมบางเดินอย่างไม่มั่นใจตามคำสั่งของนายหัว ใจกระวนกระวายด้วยความรู้สึกบางอย่างทันทีเมื่อบุษยานั่งลง พสุธาเดินอ้อมมาด้านหลัง เท้าฝ่ามือลงบนโต๊ะด้านหน้าคล้ายโอบกอด“ไหนเปิดดูแผนการชำระหนี้สิ”มือเล็กหยิบเอกสารออกมาพยายามไม่เพ่งความสนใจไปยังใบหน้าคมเข้มที่โน้มต่ำลง กลิ่นบุหรี่เบาบางและกลิ่นฟีโรโมนเพศชายกรุ่นกำจายไปทั่วโพรงจมูกบุษยายื่นเอกสารขึ้นให้เขาแต่มือแกร่งดันลงแล้วกางบนโต๊ะใช้ลำตัวดันเก้าอี้ล้อเลื่อนให้เธอไปอยู่ชิดกับขอบโต๊ะ กักขังเธอด้วยวงแขนกำยำหัวใจดวงน้อยเต้นรัวดั่งมีชีวิตขึ้นอีกครั้งหลังจากตายด้านมาหลายปี มือทั้งสองกุมแน่นบนตักตัวเองบีบให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ฝันไป จมูกใหญ่งองุ้มเล็กน้อยเฉียดแก้มนวลแดงซ่าน ถ้าเธอได้ยินไม่ผิด เขาแอบสูดลมหายใจอยู่ด้านหลัง“สามสิบปี พี่ว่ามันนานเกินไปหน่อยนะบัว”เสียงมือแกร่งพลิกหน้ากระดาษตรงหน้าแทรกเข้ามาในห้วงอารมณ์ที่กำลังกระเจิดกระเจิง ร่างเล็กเอนกายถอยจนหน้าอกชิดขอบโต๊ะแต่กายสูงใหญ่ยังโน้มส่งน้ำหนักลงบนแผ่น
บทที่ 28วันหยุดยามบ่ายของวันอาทิตย์ ฝนตกยังพรำลงมาตั้งแต่เช้ามืด ร่างบอบบางยืนนิ่งตรงหน้าต่างห้องนอน มองบ้านเก่าหลังเล็กของพสุธาสภาพภายนอกทรุดโทรมจนแทบเข้าไปไม่ได้ มือเรียวกำขอบหน้าต่างครุ่นคิดข้อตกลง ประโยคยังดังก้องอยู่ในหัวไม่สามารถสลัดมันออกไปได้รุนแรงและป่าเถื่อน! ระยะเวลาหนึ่งปี!และที่เธอแปลกใจอีกอย่างคงจะความร่ำรวยของพสุธาที่เขาต้องแลกมาเพื่อให้ได้ตัวเธอ ซึ่งอันที่จริงมันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเธอเองก็รู้ตัวดีว่าเธอพร้อมเสมอสำหรับพี่แทนร่างเล็กโอบกอดตัวเอง ริมฝีปากหนาร้อนแรงแผดเผา ไม่มีความอ่อนหวานหลงเหลือ ตอนนี้เธออายุยี่สิบเจ็ด เธอรู้ว่าพสุธาต้องการอะไรร่างบอบบางนั่งลงที่ขอบเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์มาจากบนโต๊ะเล็ก เลื่อนเบอร์โทรศัพท์ที่เธอขอมาจากป้าพรพิศแล้วพิจารณาอีกครั้งถ้าเธอกดเบอร์โทรออกนั่นหมายความว่าบางอย่างกำลังเปลี่ยนเธอไปตลอดกาล แต่ถ้าเธอเลือกที่จะไม่กด เธอจะอยู่ที่เดิมกับความเปลี่ยวเหงาในยามค่ำคืนใจนึกภาพในอีกหนึ่งปีนับจากนี้ ข้างกายเธอจะมีพี่แทนอยู่เคียงข้างให้ความอบอุ่นบนเตียง เธออาจเก็บเกี่ยวความทรงจำไว้เพื่อในวันที่เธอเปลี่ยวเหงาเธอจะมีบางสิ่งให้ระลึกถึงติ๊ด
บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว
บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน
บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน
บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนห
บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้
บทที่ 45พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”“พี่ทัด!!”“ห๊า!!”เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้อ
บทที่ 44พสุธาคว้าแก้วน้ำขึ้นมาขว้างออกไปกระทบกับผนังห้องแตกกระจายเฉียดร่างของทัดทองที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาพอดี“ตายห่า! ไอ้แทน เกิดเรื่องห่าเหวอะไรขึ้น”ทัดทองกระโดดข้ามจานอาหารเช้าและแก้วกาแฟที่ทั้งหกเลอะเทอะแตกเป็นเสี่ยงบนพื้น มองร่างนายหัวผิวเข้มพันผ้าเช็ดตัวรอบเอวนั่งถ่างขาตรงโซฟาสูบบุหรี่จนควันโขมง ผมยาวสยายยุ่งเหยิงและใบหน้ากร้าวกระด้างอารมณ์ร้ายสุด ๆ“บัวรู้เรื่องสัญญาแล้ว”เพียงเท่านั้นทัดทองก็รู้ถึงสาเหตุที่ห้องเละเทะขนาดนี้และยังร่างของสาวน้อยที่โผลุกขึ้นจากพื้นลิฟต์ด้วยน้ำตานองหน้า“กูว่าแล้วไอ้แทน”พสุธาเหลือบมองหน้าแต่ไม่พูดอะไร ใจยังอัดแน่นเจ็บร้าวทั้งรู้สึกผิด ทั้งโกรธตัวเองที่โง่เง่าและโกรธบุษยาที่ไม่ยอมอยู่กับเขาทัดทองเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้รีบโทรศัพท์ลงไปยังฝ่ายรักษาความปลอดภัย พสุธาไม่ใส่ใจในเมื่อตอนนี้เขามีเรื่องให้ใส่ใจมากพอแล้วมือแกร่งคีบบุหรี่เข้าปากแล้วอัดเข้าเฮือกใหญ่อีกครั้ง ใจนึกภาพหน้าปวดร้าวของคนร่างเล็กแล้วใจยิ่งคับแน่น ต้องการพุ่งตัวออกไปแล้วดึงกลับมาแต่เขาหยิ่งเกินไป ในเมื่อเขาไม่ผิด เขายังไม่ได้แต่งงาน และสัญญานั่นยังไม่ทันได้ลงลายมือชื่อด้วยซ้ำ“อ
บทที่ 43บุษยาตาโตด้วยความตกใจ ตามปกติพสุธาไม่นำเอกสารหรืองานกลับมาทำที่บ้าน แต่ซองนี้เธอเห็นเขานั่งอ่านอยู่นานเมื่อคืนฉะนั้นต้องสำคัญอย่างมากมือสั่นรีบหยิบกระดาษอเนกประสงค์เช็คจนรอบจากนั้นจึงหยิบเอกสารออกมาจากซอง มีร่องรอยคราบกาแฟอย่างที่เธอคาดไว้ จึงรีบซับน้ำโดยเร็วยิ่งเป็นหมึกพิมพ์แบบน้ำ ตัวหนังสือจึงเริ่มเลอะออก สายตาพลันเผลออ่านเข้าโดยไม่ตั้งใจสัญญาร่วมค้ากับบริษัทจรัญ อ่านดูหน้าแรกไม่มีสิ่งใดผิดปกติและดูท่าเป็นความลับ จึงรีบเช็ดให้สะอาดจนทั่วกระทั่งถึงคำว่าตามรายละเอียดแต่งงานที่ได้แนบท้ายมาด้วยดวงตาคมเบิกกว้างมือสั่นเทาพลิกไปยังหน้าสุดท้ายแห่งสัญญา เธออ่านข้อตกลงที่ดูเหมือนว่าคนทั้งคู่สามารถมีบ้านเล็กได้แต่ห้ามออกนอกหน้า รวมไปถึงสามารถมีลูกกับผู้อื่นได้ยกเว้นแค่ทายาทต้องเกิดกับดารณีเท่านั้นร่างบางถึงกับเข่าทรุดใช้มืออีกข้างพยุงโต๊ะไว้ขณะที่ค่อย ๆ นั่งลงแล้วอ่านทวนอีกครั้งเผื่อเธอเข้าใจผิด แต่ถึงแม้เธออ่านถึงสามรอบข้อความในสัญญาชัดเจนจนไม่อาจหาข้อแก้ตัวให้กับพสุธาได้การประมูลท่าเรือเฟอร์รี่คงมีความสำคัญต่อเขามาก เธอไม่เคยถามเขามาก่อนว่าเขามีธุรกิจอะไรบ้าง แค่พอแตะเรื่องหลัง
บทที่ 42“เรียบร้อยแล้วครับนายหัว”เสียงทัดทองพูดขึ้นหลังจากเดินเข้ามาในห้องทำงานระหว่างที่พสุธากำลังเซ็นต์เอกสาร เขาไม่ใส่ใจปล่อยให้บอดี้การ์ดรอก่อนจนสักพักเมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงเงยหน้าขึ้นนายหัวผิวสีเข้มหยิบซองบุหรี่จากบนโต๊ะขึ้นจุด แล้วโยนให้ทัดทองรอจนกระทั่งบอดี้การ์ดอัดควันเข้าปอดเรียบร้อยจึงค่อยเอ่ยถาม“ว่ามา”“ผู้หญิงคนนั้นเดินทางออกไปเรียบร้อยแล้วครับ”“ดี แล้วไงอีก”“จากที่สอบเค้นเห็นว่าเสี่ยยังติดใจคุณบัวไม่น้อย และค่อนข้างเกรี้ยวกราดเมื่อรู้ว่าคุณบัวย้ายมาอยู่กับนายหัว หล่อนบอกว่าคุณบัวถูกบังคับให้แต่งงานกับเสี่ย แล้วพอเกิดเรื่องก็ได้มาที่บ้านของเสี่ยเองเพื่อคืนของหมั้นทั้งหมดโดยให้เหตุผลว่าขอเวลาทำใจสักหนึ่งปี แต่เจ้าเสี่ยมันรอไม่ไหวเลยไปคว้าลูกสาวของอีกบ้านมา ได้ทั้งผู้หญิง ได้ทั้งเงิน เพราะฝังนั้นไม่กลวงเหมือนนายหัวบัญชร”พสุธาชะงักไปตั้งแต่ประโยคแรก อารมณ์กรุ่นโกรธวันนั้นที่เขาแสดงออกมาคงทำให้สาวน้อยเสียใจ เพราะสองวันที่ผ่านมายังมีสีหน้าไม่ค่อยดีแม้ว่าเขาจะรีดเค้นพลังทางเพศบนเตียงมากแค่ไหนก็เหมือนจำใจทำ“แล้วหล่อนมาทำอะไรที่โรงแรม”ซี้ดดดดด!!เสียงสูดบุหรี่ก่อนพ่นออกมา