บทที่ 25
หน้าหวานคมแดงซ่านขึ้นทีละน้อยจนแดงก่ำเพราะอับอาย ทั้งอายที่ร่างกายของตัวเองตอบสนองเพียงแค่มองตา ทั้งอายที่เธอน่ารังเกียจจนเขาต้องพูดมันออกมาเตือนสติ
“ค่ะ ขอโทษด้วย”
“บ้าจริง! พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ช่างเถอะ! พูดมา”
เสียงเข้มห้วนกระชากทำให้ยิ่งแน่ใจว่าเขาเปลี่ยนไปจริง ๆ คงลืมความรักวัยเด็กไปแล้ว ร่างผอมบางยืดตัวขึ้นตรงเช่นเดิมแล้วดึงเอกสารในซองออกมา
“ฉันเพิ่งได้รับใบทวงนี้ฉบับนี้ ฉันไม่ทราบมาก่อนว่าพ่อเอาบ้านไปจำนองไว้”
พสุธาไม่ได้รับกลับมาดู เอกสารพวกนี้เขาเห็นมาหมดแล้ว ตั้งแต่ร่างเล็กแสนบอบบางเข้ามาในห้อง ร่างกายเขาตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาจนอยู่นิ่งไม่ได้ เขานั่งเคาะนิ้วเป็นจังหวะ ขยับตัวบ้างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจออกจากร่างผอมบางของเธอ
ผอมบาง?
นัยน์ตาสีฟ้าจัดเพ่งมองคนร่างเล็กตรงหน้าอีกครั้งอย่างละเอียดระหว่างที่เธอกำลังสาธยายว่าจะชำระหนี้ยังไง ผมดำดกหนามัดรวบตามระเบียบของโรงแรม ใบหน้าแต่งแต้มเล็กน้อยเท่านั้นจนแทบไม่มีสีสัน คิ้วโก่งสวยธรรมชาติ ขนตายาวงอนรับไปกับดวงตาคมรีที่เขาเคยเผลอหลงใหล จมูกเล็กโด่งรั้นปลายเล็กน้อย และริมฝีปากกว้างเย้ายวนที่เขาชอบที่สุด
เขาเคยใช้เวลาไปกับการแทะเล็มริมฝีปากนั้นแม้ว่าจะไม่กี่ครั้ง แต่มันช่างเร่าร้อนจนเขาไม่เคยลืม
ลำคอระหงยาวโผล่พ้นคอเสื้อเชิ้ตสีขาว ลาดไหล่บอบบางจนเกินไป หน้าอกอวบอิ่มไม่เท่าเมื่อก่อน โดยรวมบุษยายังสวยหวานไม่เปลี่ยนเพียงแต่เธอผอมมากจนเกินไป แต่ไม่ว่าจะหุ่นเช่นไรมันก็ส่งผลต่อเขาเสมอ
“บัวกินข้าวเที่ยงหรือยัง”
“คะ?”
“ไปกินข้าวเที่ยงกัน พี่หิวแล้ว”
“แต่ว่า นายหัว”
บุษยาผุดลุกจากเก้าอี้ทันทีเมื่อเห็นพสุธาลุกขึ้น เดินออกจากห้อง เธอรีบหยิบเอกสารกลับเข้าไปในซองและรีบสาวเท้าตามเขาไปจนทันก่อนที่เขาจะเปิดประตู
“ไม่ได้ ฉันไปทานข้าวกับคุณไม่ได้ ตอนนี้ถึงเวลางานแล้ว ฉันต้องลงไปทำงาน นี่ฟังฉันอยู่หรือเปล่า”
บุษยารีบเอ่ยทักเมื่อเห็นมือใหญ่กำลังเปิดประตูออกไป เธอรีบเอาตัวเองไปขวางกลางระหว่างตัวเขากับประตู
“ฉันไม่มีเวลาเหลือเฟือเหมือนคุณนายหัว ฉันต้องคุยเรื่องนี้ให้รู้เรื่อง!”
อารมณ์คุกรุ่นขึ้นเริ่มหงุดหงิดอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่ลักษณะนิสัยอย่างเคย ปกติบุษบามักสงบนิ่งและสามารถรับมือได้กับทุกสถานการณ์แม้กระทั่งวันที่เธอรู้ว่าทุกคนเสียชีวิต
แต่ชายร่างแกร่งตรงหน้าทำให้เธอเป็นแบบนี้ กายสาวตอบสนองมากกว่าเดิม ร้อนไปทั้งตัวจนน่าหงุดหงิด ยังท่าทางไม่ยี่หระของเขา
ดวงตากลมเบิกกว้างตกใจเมื่อมือแกร่งเลื่อนจากลูกบิดประตูขึ้นทาบผนังด้านหลังเธอไว้ทั้งสองข้าง
“มาอ้อนวอนพี่เรื่องหนี้ แต่กลับออกคำสั่ง พี่ไม่ใช่คนงานของคุณบัวอีกแล้วนะครับ”
สีชมพูระเรื่อแผ่กระจายไปทั่วใบหน้าหวาน เขาอยู่ใกล้จนเธอได้กลิ่นบุหรี่และกลิ่นกายชาย เธอหลุบตาลงมองปากหนาคลี่ยิ้มอย่างได้ใจ
“ไปกินข้าวเที่ยงกันก่อนแล้วเราจะคุยกันหลังจากนั้น”
“แต่ฉันต้องเข้ากะแล้ว”
“งั้นก็ไม่ต้องคุย บัวแค่ทำตามใบทวงหนี้ก็จบแล้ว”
“แต่ว่า นายหัว?”
มือใหญ่ดึงร่างเล็กออกจากประตูแล้วเปิดออก ร่างสูงเดินตรงไปยังลิฟต์อย่างไม่ใส่จนเธอใจหวิวหวาดหวั่น
ถ้าเขาเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เขาคงไม่ได้เห็นใจเรา
บุษยารีบเดินตามเขาไปทันทีสาวเท้าให้เร็วขึ้นจนเกือบวิ่ง ลอดตัวเข้าไปในระหว่างประตูลิฟต์ที่กำลังปิดลงพอดี แว่วเสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างชอบใจ
เธอเสียรู้เขาแล้ว
ชายร่างสูงแกร่งยืนนิ่งเอามือล้วงกระเป๋าทั้งสองข้างระหว่างที่รอประตูลิฟต์ปิด มองความลังเลเพียงชั่วครู่ก่อนร่างเล็กวิ่งตามมาจนทัน ร่างบอบบางสูงกว่าสมัยยังเป็นเด็กสาวและผอมบางยิ่งกว่า แต่ความเป็นอิสตรีเพศเข้มข้นจนกายแกร่งเริ่มขยับไหว
มือเล็กเรียวแทรกเข้ามาตรงประตูซึ่งกำลังปิดลงดูแปลกไปจากเดิม เขาเพ่งมองแต่ยังไม่ถนัดนักเพราะเธอเอามือลงเสียก่อนแล้วเบียดตัวเข้ามาแทน
ทันทีที่ร่างบอบบางเข้ามาในลิฟต์ตัวเล็ก พสุธาขยับตัวอีกครั้งอย่างอึดอัด นัยน์ตาสีฟ้าจัดมองไรลูกผมตรงท้ายทอยที่รุ่ยออกจากยางมัดผม มีเหงื่อผุดชื้นบางเบาตามกกหู กลิ่นกายสาวชัดจนเขาเผลอสูดลมหายใจกอบโกยเข้าสู่ปอด นั่นส่งผลโดยตรงต่ออวัยวะส่วนล่างที่ผงาดขึ้นทันที ภาพความทรงจำเริ่มหลั่งไหลอย่างที่เขาต้านทานไม่ได้
ร่างแกร่งยืนนิ่งหลับตาลงเพื่อระงับความต้องการที่พุ่งขึ้นจากส่วนท้องสู่อกแกร่ง อึดอัดคับแน่น แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้งหลังจากสงบอารมณ์ลงได้บ้าง หลุบตาลงมองไหล่ที่ผอมบางอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมองจากมุมด้านหลัง คิ้วเข้มขมวดมุ่นแปลกประหลาดใจ
ติ๊ง!
นายหัวเดินนำออกจากลิฟต์ตรงไปยังห้องอาหารของโรงแรม ก้าวยาวเร็วอันเป็นปกตินิสัยกระทั่งถึงโต๊ะที่คิดว่าหลบมุมเสียหน่อย และเลือกเป็นโซฟายาวใจนึกอยากเบียดร่างเล็กอีกนิด ใจต้องการทดสอบอาการบางอย่างของตัวเอง
ร่างแกร่งนั่งลงและรอคอยให้บุษยาเดินมาถึงที่โต๊ะ จากนั้นจึงตบที่เบาะข้างตัว เขาเห็นเธอทำหน้ายุ่งมองซ้ายขวาอย่างลังเล
“นั่งเถอะ พี่ไม่ได้คิดจะทำอะไร จะได้นั่งดูสัญญาด้วยกันถนัด”
นั่งนิ่งรอคอยจนกระทั่งสังเกตเห็นร่างบางถอนหายใจ แล้วจึงขยับเข้ามานั่งแต่ไม่ใกล้ตรงที่เขาต้องการ มองมือเล็กหยิบซองเอกสารขึ้นมาจึงชิงพูดตัดบทเสียก่อน
“ทานข้าวก่อน พี่หิว”
พสุธาเรียกพนักงานมารับรายการอาหาร เขาสั่งไปหลายอย่างหลังจากที่มองสาวน้อยด้านข้าง เธอต้องเพิ่มน้ำหนักสักหน่อยถึงจะพอสู้แรงเขาไหว
บทที่ 26“อันที่จริง เราคุยกันก่อนก็ได้นะคะ น่าจะใช้เวลาไม่นาน นายหัวจะได้ทานข้าวอย่างสบายใจ”“ไม่มีเรื่องไหนที่เกี่ยวกับบัวแล้วพี่จะสบายใจหรอก”มือเรียวบางชะงักหยุดชั่วครู่ก่อนหยิบเอกสารออกมาจากซอง หน้าคมเข้มลอบยิ้มชื่นชมที่คนร่างเล็กสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีแม้ว่าโดนเขาพูดกระทบหลายครั้ง เขาแสร้งเหลือบตามองไปทางอื่นอย่างไม่สนใจเอกสารที่เธอพยายามดันมาตรงหน้า“นายหัวไม่ดูสักหน่อยหรือคะ อันนี้เป็นแผนชำระหนี้ที่ฉันทำมา”“มันไกลไป”ปากหนาลอบยิ้มเมื่อได้ยินเสียงคนตัวเล็กถอนหายใจอีกครั้ง แล้วเบาะด้านข้างพลันยุบตัวลงจนเขารู้สึกถึงไอร้อน เสียงหวานนุ่มดั่งน้ำผึ้งดังขึ้นใกล้ตัว เขาขยับตัวแกล้งเอามือขึ้นเท้าบนโต๊ะแต่ยิ่งทำให้ตัวเองจุกเลยจำต้องเอนตัวไปด้านหลัง“นายหัวนั่งดีดีสิคะ แบบนี้จะมองเห็นได้ยังไง”เสียงหวานเริ่มแหลมขึ้นอย่างไม่พอใจ เขาเห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้าง จมูกโด่งปลายรั้นรับกับหน้าละมุน เธอเอี้ยวหน้ากลับมาทางเขา ดวงตาคมรีปรากฎรอยขุ่นเคือง“พี่จุก สงสัยจะหิวมาก เลยต้องนั่งเอนตัว”เขาบอกเธอตรง ๆ หากแต่อาการจุกมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาหารเลย พสุธาวางมือลงข้างตัวซึ่งอยู่ด้านหลังของร่า
บทที่ 27บุษยาเสียวแผ่นหลังวาบเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูตามหลัง มองร่างแกร่งเดินกลับยังหน้าโต๊ะพยักหน้าให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมสาวร่างผอมบางเดินอย่างไม่มั่นใจตามคำสั่งของนายหัว ใจกระวนกระวายด้วยความรู้สึกบางอย่างทันทีเมื่อบุษยานั่งลง พสุธาเดินอ้อมมาด้านหลัง เท้าฝ่ามือลงบนโต๊ะด้านหน้าคล้ายโอบกอด“ไหนเปิดดูแผนการชำระหนี้สิ”มือเล็กหยิบเอกสารออกมาพยายามไม่เพ่งความสนใจไปยังใบหน้าคมเข้มที่โน้มต่ำลง กลิ่นบุหรี่เบาบางและกลิ่นฟีโรโมนเพศชายกรุ่นกำจายไปทั่วโพรงจมูกบุษยายื่นเอกสารขึ้นให้เขาแต่มือแกร่งดันลงแล้วกางบนโต๊ะใช้ลำตัวดันเก้าอี้ล้อเลื่อนให้เธอไปอยู่ชิดกับขอบโต๊ะ กักขังเธอด้วยวงแขนกำยำหัวใจดวงน้อยเต้นรัวดั่งมีชีวิตขึ้นอีกครั้งหลังจากตายด้านมาหลายปี มือทั้งสองกุมแน่นบนตักตัวเองบีบให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ฝันไป จมูกใหญ่งองุ้มเล็กน้อยเฉียดแก้มนวลแดงซ่าน ถ้าเธอได้ยินไม่ผิด เขาแอบสูดลมหายใจอยู่ด้านหลัง“สามสิบปี พี่ว่ามันนานเกินไปหน่อยนะบัว”เสียงมือแกร่งพลิกหน้ากระดาษตรงหน้าแทรกเข้ามาในห้วงอารมณ์ที่กำลังกระเจิดกระเจิง ร่างเล็กเอนกายถอยจนหน้าอกชิดขอบโต๊ะแต่กายสูงใหญ่ยังโน้มส่งน้ำหนักลงบนแผ่นห
บทที่ 28วันหยุดยามบ่ายของวันอาทิตย์ ฝนตกยังพรำลงมาตั้งแต่เช้ามืด ร่างบอบบางยืนนิ่งตรงหน้าต่างห้องนอน มองบ้านเก่าหลังเล็กของพสุธาสภาพภายนอกทรุดโทรมจนแทบเข้าไปไม่ได้ มือเรียวกำขอบหน้าต่างครุ่นคิดข้อตกลง ประโยคยังดังก้องอยู่ในหัวไม่สามารถสลัดมันออกไปได้รุนแรงและป่าเถื่อน! ระยะเวลาหนึ่งปี!และที่เธอแปลกใจอีกอย่างคงจะความร่ำรวยของพสุธาที่เขาต้องแลกมาเพื่อให้ได้ตัวเธอ ซึ่งอันที่จริงมันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเธอเองก็รู้ตัวดีว่าเธอพร้อมเสมอสำหรับพี่แทนร่างเล็กโอบกอดตัวเอง ริมฝีปากหนาร้อนแรงแผดเผา ไม่มีความอ่อนหวานหลงเหลือ ตอนนี้เธออายุยี่สิบเจ็ด เธอรู้ว่าพสุธาต้องการอะไรร่างบอบบางนั่งลงที่ขอบเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์มาจากบนโต๊ะเล็ก เลื่อนเบอร์โทรศัพท์ที่เธอขอมาจากป้าพรพิศแล้วพิจารณาอีกครั้งถ้าเธอกดเบอร์โทรออกนั่นหมายความว่าบางอย่างกำลังเปลี่ยนเธอไปตลอดกาล แต่ถ้าเธอเลือกที่จะไม่กด เธอจะอยู่ที่เดิมกับความเปลี่ยวเหงาในยามค่ำคืนใจนึกภาพในอีกหนึ่งปีนับจากนี้ ข้างกายเธอจะมีพี่แทนอยู่เคียงข้างให้ความอบอุ่นบนเตียง เธออาจเก็บเกี่ยวความทรงจำไว้เพื่อในวันที่เธอเปลี่ยวเหงาเธอจะมีบางสิ่งให้ระลึกถึงติ๊ด
บทที่ 29**อกแกร่งแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยงเพียงโน้มศีรษะลงครอบครองริมฝีปากเย้ายวนที่เขาเฝ้าฝันถึงเสมอ มือแกร่งรวบข้อมือเล็กไว้ในมือข้างเดียวดันขึ้นสูงเหนือศีรษะ กดแน่นบังคับให้เธอเปิดปากรับลิ้นสาก กวาดไล้ทุกอณูของโพรงหวานฉ่ำเสียงครางหวานใสเล็ดลอดออกมาจากลำคอระหง ปากหนาวนเวียนจูบแล้วจูบเล่าจากเนิบช้าเป็นหนักหน่วงและรุนแรงโถมน้ำหนักร่างเปลือยสีเข้มกดทับร่างบอบบางเล็กของหญิงสาว ความร้อนแรงจากความโหยหาที่ฝังอยู่ในกายมานานนับสิบปีได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรงและดิบเถื่อน“อุ๊ย!”เสียงหวานอุทานออกมาสะดุ้งร่างยามมือสีเข้มกระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวจนกระดุมขาดร่วง เปิดเปลือยอกสล้าง“นอนคว่ำบัว”มือสีเข้มจับร่างเล็กพลิกนอนคว่ำคร่อมขากดทับเธอไว้ มือแกร่งเร่งดึงยางรัดผมออก ปล่อยเส้นผมดกหนาแผ่ยาวสยาย“ผมบัวยาวกว่าเมื่อก่อน”แควก!มือดึงเสื้อเชิ้ตตัวเล็กออก ปลดตะขอเสื้อในด้วยแรงของชายหนุ่มฉกรรจ์จนขาดติดมือมือหยาบหนาปัดผมออกจากแผ่นหลัง เคลื่อนใบหน้าเข้มลงพรมจูบขบเม้มไปทั่วกายสาว วาดมือไปตามส่วนเว้าโค้งสู่เอวคอดกิ่วลงไปยังสะโพกผายงอนงาม“บัวตัวเล็กมาก”ความผอมบางของคนใต้ร่างทำให้เขาแปลกใจ แต่อารมณ์ดิบเถื
บทที่ 30**“พี่แทน เดี๋ยวก่อน อ่า อ่า อื้อ”เสียงหวานเล็กร้องไม่เป็นส่ำ ครางกระเส่ายิ่งทำให้คนตัวโตพอใจ สอดนิ้วเข้าทางแคบ สำรวจเตรียมพร้อมสำหรับเอ็นร้อนใหญ่ นิ้วรูดผ่านจุดกระสันแสนอ่อนไหวภายในลิ้นตวัดเม็ดเล็กเลียไปทั่วจนน้ำหวานฉ่ำเยิ้มคนร่างโตหน้ามืดไปกับกลิ่นและรสชาติ ลงแรงขบเนินสวาทกัดแผ่วเบาพร้อมนิ้วกดคลึงเม็ดกลางร่องรัก“พี่แทน! อ่า กรี๊ด”เสียงหวานกรีดร้องดังกว่าการสุขสมครั้งแรก กายแกร่งครางทุ้มในลำคอพึงพอใจ ลิ้นตวัดไล้ปลอบประโลมจนเนินเนื้อบรรเทาแรงกระตุกพสุธาเคลื่อนกายไปยังลิ้นชักหัวเตียง หยิบถุงยางกับเจลหล่อลื่นออกมา กลับมานั่งข้างคนร่างเล็กที่เอนตัวยันกายขึ้นจ้องมองอย่างสนใจ“ทำแบบนี้นะ คราวหน้าจะให้ทำเอง”ตาหวานเหลือบขึ้นจ้องหน้าคมเข้มก่อนหลุบตาลงจ้องลำใหญ่แข็งชัน ท่อนเนื้อแกร่งดุดันโค้งงอเล็กน้อย ปลายหัวฉ่ำน้ำ มือแกร่งฉีกถุงยางหยิบออกมาสวมได้เพียงครึ่งลำ“ไม่ต้องรูดลงหมดเหรอคะ”เขายิ้มมุมปากแล้วดันร่างเล็กเธอลงนอน จับข้อเท้าจัดท่าเพื่อให้เข้าได้ถนัด แต่พื้นนิสัยอยากรู้อยากเห็นทำให้ยันกายขึ้นมองยามเขาบีบเจลหล่อลื่นลงลำรัก“ทำไมต้องใช้ด้วยคะ”ไหล่กว้างกำยำสะท้านกลั้นหัวเราะ
บทที่ 31ปัง!!นายหัวกระแทกประตูปิดใส่หน้า เดินเลี่ยงเปิดหน้าต่างในส่วนของห้องนั่งเล่น ยืนสูบบุหรี่แล้วเหลือบตามองเตียงนอนที่มีเงาตะคุ่มร่างบางของสาวน้อย ผ้าห่มขยุกขยิกแสดงว่าคนร่างเล็กตื่นแล้วแต่ไม่กล้าลุกออกมา พสุธายกมุมปากยิ้มก่อนชะงักนิ่งไอ้แทน นี่มึงกำลังทำบ้าอะไรอยู่ มึงนอนกับบัวเพราะต้องแก้แค้น ที่ให้ความหวังมึงแต่สุดท้ายก็เลือกคนอื่นขณะที่มึงลำบากบนเรือนรกแต่เมื่อเช้ามันดีเกินไป กระแสไฟแล่นวาบไปทั่วร่างกายยามสุขสม และในชั่วขณะหนึ่งถึงขนาดต้องการดึงถุงยางอนามัยออก ต้องการสัมผัสร่องสวาทนุ่มนิ่มโดยไม่มีสิ่งใดขวางกั้น แล้วปลดปล่อยเข้าสู่กายสาว ฝังเชื้อพันธุ์ขาวขุ่นจนเธอตั้งครรภ์หน้าคมเข้มขุ่นมัวขึ้น โมโหตัวเองที่ปล่อยให้ความรู้สึกชักนำเตลิดเกินควบคุม แต่ไม่แล้ว ต่อไปนี้เขาจะทำให้แน่ใจว่าเธอเองต่างหากที่จะต้านทานเขาไม่ได้ เขาจะทำให้บุษยาตกหลุมรักเขาอีกครั้ง และเขาจะเป็นฝ่ายทิ้งเธอไปมือแกร่งดับบุหรี่ลงจานรอง สาวเท้าไปยังเตียงใหญ่ในห้อง นั่งลงขอบเตียงมองร่างเล็กนอนคลุมโปงนิ่ง มือใหญ่คว้าผ้าห่มคลุมศีรษะออก เห็นหน้างามนอนหน้าตื่นอยู่ข้างใน“ทำไมนายหัวไม่ไปทำงานเสียที อุบ อื้อ”คนร่า
บทที่ 32บุษยามองอาหารที่พสุธาสั่งมื้อเที่ยงขึ้นมาให้เธอ ในวันปกติเธอจะทานข้าวราดแกงง่าย ๆ ที่โรงแรมจัดไว้ให้พนักงาน แต่ดูอาหารบนโต๊ะแล้วเธอไม่มีทางทานได้หมดติ๊ด ติ๊ด!!“ค่ะ”“อาหารไปส่งหรือยังครับ”“มาแล้วค่ะ แต่มันเยอะเกินไป วันหลังบัวขอสั่งเองนะคะ”“ไม่ได้ พี่จะเป็นคนสั่งให้ ทานให้เยอะ ๆ นะ คืนนี้ยังต้องใช้แรง”“คืนนี้!! ไม่ค่ะ บัวไม่ไหว ขอพักก่อน”“งั้นพี่จะขอไปตรวจก่อนว่าไหวหรือเปล่า อ้ออีกเรื่อง พี่จองสปาของโรงแรมไว้ให้ ลงไปใช้นะครับ”บุษยายังนั่งหน้าเหวอใส่โทรศัพท์ที่ชายหนุ่มวางหูไปได้สักพักแล้ว จองสปาไว้ให้ เขาจะให้เธอทำอะไรอีกนะ?“อะไรนะคะ!!”“ค่ะ นายหัวจองแบบจัดเต็มไว้ให้ค่ะ มีทั้งนวดตัว นวดฝ่าเท้า มีเรื่องลงสมุนไพรดูแลผิวพรรณ ส่วนสุดท้ายจะเป็นการแว็กซ์ขนค่ะ”หน้าหวานแดงซ่าน นายหัวของพวกคุณโรคจิตขนาดไหนถึงได้จองคอร์สบ้าบอให้เธอ“ไม่ค่ะ ไม่เอา ไม่ทำสักอย่าง”“งั้นคุณบัว ลองโทรไปถามนายหัวไหมคะ ทางร้านเองก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง”ร่างเล็กหมุนตัวหันหลังให้พนักงานขณะที่ยกโทรศัพท์ขึ้น“ว่าไงครับบัว”“พี่แทนคะ พี่แทนรู้หรือเปล่าว่าจองคอร์สอะไรไปบ้าง”“รู้สิครับ ทำตามนั้นเลยนะ พี่ชอบ”“ฮะ
บทที่ 33**หน้าเล็กเอียงคอมองมือยังกุมสาบเสื้อเข้าไว้ด้วยกัน แต่คนร่างโตพลันอุ้มเธอขึ้นจากพื้นแล้วตรงไปยังห้องอาบ“เดี๋ยวก่อน บัวยังไม่ทันตกลง”“บัวต้องตามใจพี่อยู่แล้ว”พสุธาใช้เท้าเตะประตูห้องน้ำออกแล้ววางร่างหญิงสาวลงข้างอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่สำหรับห้องวีไอพีมือแกร่งเร่งรีบถอดของตัวเองอย่างหน้าไม่อาย หน้าหวานแดงซ่านหันหลังหนีทันที แว่วเสียงน้ำไหลลงอ่าง ตามมาด้วยเสียงร่างใหญ่ลงไปนั่งในอ่าง“เร็ว ๆ สิ คนสวย พี่อยากจะเห็นเต็มทนแล้ว”บุษยาได้ยินเสียงเร่งรัดแหบพร่า จึงค่อยถอดเสื้อออกก่อนแขวนไว้บนราว ตามด้วยกางเกงผ้าสีเข้ม ถอดชั้นในชิ้นบนก่อนแล้วจึงถอดชิ้นล่างแขวนไว้ด้วยกันเป็นระเบียบ ยังไม่กล้าหันกลับไปจึงหย่อนเท้าในอ่างอาบน้ำที่น้ำเริ่มขึ้นมาถึงเกือบกลางอ่างด้วยความอายเมื่อก้าวลงน้ำจึงรีบย่อตัวจุ่มลงในน้ำทันที จากนั้นค่อยหันกลับมาหาพสุธาที่นั่งยิ้มอยู่อีกมุมอ่างแต่ดวงตาสีฟ้าล้ำลึก“พี่อยากเห็นที่ไปแว็กซ์มา”“ไม่ได้ มันน่าอายเกินไป”“อายทำไม ในเมื่อเดี๋ยวพี่ก็ต้องเห็นอยู่ดี หรือว่า บัวจะดูของพี่ก่อนผลัดกัน”“บ้าไปแล้วพี่แทน”พสุธาเคลื่อนตัวไปด้านหน้ารวบเอวเล็กของเธอไว้ยกขึ้นวางบนขอบอ่าง“ไ
บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว
บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน้
บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน ต
บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนหน
บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้?
บทที่ 45พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”“พี่ทัด!!”“ห๊า!!”เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้อง
บทที่ 44พสุธาคว้าแก้วน้ำขึ้นมาขว้างออกไปกระทบกับผนังห้องแตกกระจายเฉียดร่างของทัดทองที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาพอดี“ตายห่า! ไอ้แทน เกิดเรื่องห่าเหวอะไรขึ้น”ทัดทองกระโดดข้ามจานอาหารเช้าและแก้วกาแฟที่ทั้งหกเลอะเทอะแตกเป็นเสี่ยงบนพื้น มองร่างนายหัวผิวเข้มพันผ้าเช็ดตัวรอบเอวนั่งถ่างขาตรงโซฟาสูบบุหรี่จนควันโขมง ผมยาวสยายยุ่งเหยิงและใบหน้ากร้าวกระด้างอารมณ์ร้ายสุด ๆ“บัวรู้เรื่องสัญญาแล้ว”เพียงเท่านั้นทัดทองก็รู้ถึงสาเหตุที่ห้องเละเทะขนาดนี้และยังร่างของสาวน้อยที่โผลุกขึ้นจากพื้นลิฟต์ด้วยน้ำตานองหน้า“กูว่าแล้วไอ้แทน”พสุธาเหลือบมองหน้าแต่ไม่พูดอะไร ใจยังอัดแน่นเจ็บร้าวทั้งรู้สึกผิด ทั้งโกรธตัวเองที่โง่เง่าและโกรธบุษยาที่ไม่ยอมอยู่กับเขาทัดทองเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้รีบโทรศัพท์ลงไปยังฝ่ายรักษาความปลอดภัย พสุธาไม่ใส่ใจในเมื่อตอนนี้เขามีเรื่องให้ใส่ใจมากพอแล้วมือแกร่งคีบบุหรี่เข้าปากแล้วอัดเข้าเฮือกใหญ่อีกครั้ง ใจนึกภาพหน้าปวดร้าวของคนร่างเล็กแล้วใจยิ่งคับแน่น ต้องการพุ่งตัวออกไปแล้วดึงกลับมาแต่เขาหยิ่งเกินไป ในเมื่อเขาไม่ผิด เขายังไม่ได้แต่งงาน และสัญญานั่นยังไม่ทันได้ลงลายมือชื่อด้วยซ้ำ“อ้
บทที่ 43บุษยาตาโตด้วยความตกใจ ตามปกติพสุธาไม่นำเอกสารหรืองานกลับมาทำที่บ้าน แต่ซองนี้เธอเห็นเขานั่งอ่านอยู่นานเมื่อคืนฉะนั้นต้องสำคัญอย่างมากมือสั่นรีบหยิบกระดาษอเนกประสงค์เช็คจนรอบจากนั้นจึงหยิบเอกสารออกมาจากซอง มีร่องรอยคราบกาแฟอย่างที่เธอคาดไว้ จึงรีบซับน้ำโดยเร็วยิ่งเป็นหมึกพิมพ์แบบน้ำ ตัวหนังสือจึงเริ่มเลอะออก สายตาพลันเผลออ่านเข้าโดยไม่ตั้งใจสัญญาร่วมค้ากับบริษัทจรัญ อ่านดูหน้าแรกไม่มีสิ่งใดผิดปกติและดูท่าเป็นความลับ จึงรีบเช็ดให้สะอาดจนทั่วกระทั่งถึงคำว่าตามรายละเอียดแต่งงานที่ได้แนบท้ายมาด้วยดวงตาคมเบิกกว้างมือสั่นเทาพลิกไปยังหน้าสุดท้ายแห่งสัญญา เธออ่านข้อตกลงที่ดูเหมือนว่าคนทั้งคู่สามารถมีบ้านเล็กได้แต่ห้ามออกนอกหน้า รวมไปถึงสามารถมีลูกกับผู้อื่นได้ยกเว้นแค่ทายาทต้องเกิดกับดารณีเท่านั้นร่างบางถึงกับเข่าทรุดใช้มืออีกข้างพยุงโต๊ะไว้ขณะที่ค่อย ๆ นั่งลงแล้วอ่านทวนอีกครั้งเผื่อเธอเข้าใจผิด แต่ถึงแม้เธออ่านถึงสามรอบข้อความในสัญญาชัดเจนจนไม่อาจหาข้อแก้ตัวให้กับพสุธาได้การประมูลท่าเรือเฟอร์รี่คงมีความสำคัญต่อเขามาก เธอไม่เคยถามเขามาก่อนว่าเขามีธุรกิจอะไรบ้าง แค่พอแตะเรื่องหลังจ
บทที่ 42“เรียบร้อยแล้วครับนายหัว”เสียงทัดทองพูดขึ้นหลังจากเดินเข้ามาในห้องทำงานระหว่างที่พสุธากำลังเซ็นต์เอกสาร เขาไม่ใส่ใจปล่อยให้บอดี้การ์ดรอก่อนจนสักพักเมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงเงยหน้าขึ้นนายหัวผิวสีเข้มหยิบซองบุหรี่จากบนโต๊ะขึ้นจุด แล้วโยนให้ทัดทองรอจนกระทั่งบอดี้การ์ดอัดควันเข้าปอดเรียบร้อยจึงค่อยเอ่ยถาม“ว่ามา”“ผู้หญิงคนนั้นเดินทางออกไปเรียบร้อยแล้วครับ”“ดี แล้วไงอีก”“จากที่สอบเค้นเห็นว่าเสี่ยยังติดใจคุณบัวไม่น้อย และค่อนข้างเกรี้ยวกราดเมื่อรู้ว่าคุณบัวย้ายมาอยู่กับนายหัว หล่อนบอกว่าคุณบัวถูกบังคับให้แต่งงานกับเสี่ย แล้วพอเกิดเรื่องก็ได้มาที่บ้านของเสี่ยเองเพื่อคืนของหมั้นทั้งหมดโดยให้เหตุผลว่าขอเวลาทำใจสักหนึ่งปี แต่เจ้าเสี่ยมันรอไม่ไหวเลยไปคว้าลูกสาวของอีกบ้านมา ได้ทั้งผู้หญิง ได้ทั้งเงิน เพราะฝังนั้นไม่กลวงเหมือนนายหัวบัญชร”พสุธาชะงักไปตั้งแต่ประโยคแรก อารมณ์กรุ่นโกรธวันนั้นที่เขาแสดงออกมาคงทำให้สาวน้อยเสียใจ เพราะสองวันที่ผ่านมายังมีสีหน้าไม่ค่อยดีแม้ว่าเขาจะรีดเค้นพลังทางเพศบนเตียงมากแค่ไหนก็เหมือนจำใจทำ“แล้วหล่อนมาทำอะไรที่โรงแรม”ซี้ดดดดด!!เสียงสูดบุหรี่ก่อนพ่นออกมาข