บทที่ 46
พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ
“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”
“สวัสดีค่ะ”
หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไร
เอี๊ยดดด!! โครม!!
“โอ๊ย!!”
ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทาง
บุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมาก
กึก! ตึ้ง! หมับ!
“ออกมานี่”
คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ
“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”
“กูรู้? ไอ่บาดลวก[2] ก็เอาไปให้หมด”
ไอ้คนร่างเล็กกว่ามองเข้าไปในรถอย่างมึนงง แค่นังคนนี้ก็แย่แล้วยังต้องเอาไปให้หมด เหลียวมองทางเปลี่ยว โชคดีไอ้หมอนั่นมันอยากใช้ทางลัดเลยทำให้พวกเขาที่ขับรถตามมาสักพักแล้วตัดสินใจปาดหน้าเพื่อให้รถตกไหล่ทาง
ส่วนลูกพี่ร่างใหญ่กว่ากำลังฉุดร่างเป้าหมายไปยังรถตู้ด้วยหน้าตามุ่งมั่นและทุลักทุเลพอควร เลยเห็นท่าไม่ดีคว้าปืนออกจากบั้นเอวที่หนีบไว้จ่อไปยังชายหนุ่มที่ยังโอดโอยอยู่บนเบาะคนขับ เลือดไหลอาบจากศีรษะ
“ลงมา!!”
เสียงกระโชกแรงสั่งให้เป็นเอกลงจากรถ พร้อมกับกระชากหัวชายหนุ่มออกจากเบาะนั่งเหลือบตาเห็นหญิงสาวร่างเล็กหน้าตื่นตระหนกที่ดูจากลักษณะแล้วคงพิการด้วยขาเล็กลีบ จึงไม่ใส่ใจเอาไปแค่ไอ้ตัวผู้ชายก็พอ
“ปล่อยนะ!! ช่วยด้วย ช่วย .. อุบ อื้อ”
บุษยาพยายามดิ้นหนีตะโกนสุดเสียงแต่ร่างบอบบางของเธอไม่อาจต้านแรงชายฉกรรจ์ได้ ถูกฉุดเข้าไปในรถ เธอเป็นห่วงน้องสาวมากแต่โล่งใจเมื่อเห็นอีกคนถูกลากมาคือเป็นเอก
“เข้าไป!!”
เสียงโจรร่างเล็กสั่งเป็นเอก บุษยามองเลือดที่ยังไหลออกมาจากศีรษะเลยทำให้รู้ว่าชายหนุ่มคงกำลังมึนงง
“อ้าว แล้วอีกคน!”
“ไม่ต้องเอาไปหรอกพี่ มันพิการ”
“เออ รีบไป”
พลั่ก! โครม!
บุษยาโผขึ้นพยายามแทรกตัวออกจากประตูรถ แต่โดนเท้าถีบเข้าอย่างแรงจนร่างกระเด็นไปที่พื้นรถตู้ที่ดัดแปลงจนไม่เหลือเบาะนั่ง เสียงปิดประตูพร้อมลงกลอนก่อนที่โจรร้ายสองคนเดินอ้อมไปยังด้านหน้า
เธอปราดเข้าไปพยุงเป็นเอกเห็นเขายังใช้มือกุมหน้าอยู่จึงพยายามมองหน้าผ้าสำหรับห้ามเลือดแต่ไม่มี เหลือบมองไปด้านหน้าค่อยเริ่มเอะใจว่าทำไมพวกโจรถึงได้หายไป
ตุบ! ตับ! ตุบ! ตับ!
ดวงตาคมเบิกกว้างเห็นชายหนุ่มสูงใหญ่สองคนกำลังสะกำโจรห้าร้อยสองคนจนเกือบแน่นิ่ง
พี่แทน!!
แม้ว่าเธอยังนึกสงสัยว่าทำไมพสุธาถึงได้รู้ว่าเธอผ่านมาทางนี้หรือเพราะบังเอิญผ่านมากันแน่ แต่ภาพของชายหนุ่มผมยาวกับใบหน้าเข้มที่ดูท่าโกรธจัด สีตาฟ้าจนเกือบครามเข้ม พลันทำให้ใจของเธอชื้นขึ้นชุ่มฉ่ำผิดไปจากสองวันที่ผ่านมา
มือแกร่งสีคล้ำฟาดลงไปที่ใบหน้าคนตัวเตี้ยไม่ยั้งจนหน้าเกือบยุบ ถ้าไม่เพราะบอดี้การ์ดห้ามไว้เขาอาจทำให้โจรตายคามือ
ตุบ! เปรี้ยง!
บุษยาเบิกตากว้างได้เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด เธอเกือบผละออกจากรถแต่เมื่อเห็นว่าเป็นพสุธาเองที่เป็นคนลั่นไกจึงชะงัก
ทัดทองปัดมือใหญ่ที่ขึ้นไกนกแล้วลั่นต่อหน้าเขา ความว่องไวของบอดี้การ์ดสามารถยั้งความตายให้โจรลักพาตัวซึ่งกระสุนเฉียดไปเพียงนิดเดียวลงพื้นหญ้า
“จะบ้าหรือไงแทน!!”
อกแกร่งสะเทือนจากแรงหอบหายใจใช้แรงทั้งกายฟาดไอ้หมอนั่นเกือบตาย แต่มันไม่สาใจเขา เขาต้องการให้มันตาย
ตอนที่เขาเห็นมันถีบร่างบอบบางจนกระเด็นลงพื้นรถ สมองพร่าเลือนไปหมด ความโกรธพุ่งขึ้นไม่อาจข่มลงได้ ดวงตาจ้องไอ้หมอนั่นดั่งอสูรร้ายจนแม้แต่ทัดทองเองยังกลัว
ร่างใหญ่โตของพสุธากระโดดไม่กี่ครั้งก็ถึงตัวไอ้นั่นฟาดมันกระเด็นไปอีกทางแล้วตามไปทั้งกระทืบแต่เน้นหนักที่หมัดมากกว่าจนเลือดซึมออกมาจากข้อนิ้ว
มือล้วงไปยังปืนที่เก็บไว้ในเสื้อสูทตัวนอกวาดออกเล็งไปยังไอ้สารเลวคนที่ทำร้ายคนที่เขารัก หัวใจเขาบีบรัดเหลือเกินเมื่อเห็นบุษยาเจ็บปวด เขารักเธอ รักมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง
นิ้วดันนกขึ้นไกปืน ดวงตาวาวโรจน์ต้องการเห็นเลือดของมันไหลนองพื้น ทางที่ดีให้มันไหลออกมาจนหมด แต่พอเขากดไก มือของทัดทองปัดเบี่ยงวิถีกระสุนทำให้พลาดไปด้านข้าง เฉียดหัวของมันไปนิดเดียว
เสียงเปิดประตูรถทำให้คนทั้งสองเอี้ยวกลับไปมองเห็นบุษยากำลังประคองเป็นเอกลงมาจากรถ เลือดบนศีรษะหยุดไหลแล้วหากแต่ยังเปื้อนเป็นทางเลอะถึงเปื้อนคนร่างเล็ก
พสุธารีบเก็บปืนเดินไปหาคนทั้งคู่ ชำเลืองเห็นทัดทองกำลังจัดการสองโจรต่อ และโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที
“บัว!”
“พี่แทน พาพี่เป็นเอกไปโรงพยาบาลก่อนเถอะค่ะ ดูจะเสียเลือดมาก บัวจะไปดูบุหลัน”
“บัว!!”
มือเขาคว้าร่างของบุษยาไว้ หน้าคมเงยมองอย่างสงสัย
“เขาไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวรอรถพยาบาลมารับ แต่บัวเป็นอะไรไหม”
“ไม่ค่ะ พี่แทนปล่อยบัวสิคะ บัวจะไปดูน้อง”
พสุธาดึงเธอให้ผละออกจากร่างของเป็นเอก เห็นหน้าไอ้หมอนั่นยังมึนงงจึงลอบเบ้ปาก แต่หันมาเห็นตาคมรีมองเขาอย่างรู้ทัน
“พี่จะไปด้วย”
อกเล็กของเธอยังสั่นจากเหตุการณ์จึงไม่คัดค้านที่พสุธาโอบร่างของเธอมากอดแล้วพาเดินไปยังรถคันเล็กที่คาตรงต้นไม้ใหญ่ ทิ้งเป็นเอกให้นั่งลงที่พื้นรถตู้ระหว่างรอรถพยาบาล
“บุหลัน!!”
“พี่บัว!!”
บุษยารีบเข้าไปประคองแต่ร่างแกร่งรั้งเธอไว้
“เดี๋ยวพี่จัดการเอง”
เธอปล่อยให้พสุธาก้มเข้าไปในรถเพื่ออุ้มร่างของน้องสาวขึ้นนั่งบนเบาะ แล้วจึงหยิบรถเข็นออกมาให้บุษยากางรอ แล้วอุ้มบุหลันวางบนรถเข็น เอื้อมมือเข้าไปในรถเพื่อหยิบผ้าคลุมขาส่งให้
โดยตลอดเวลาที่เขาช่วยเหลือ บุหลันมองตามตาค้างอย่างคาดไม่ถึงแล้วหันกลับไปมองพี่สาว ดวงตาตั้งคำถาม แต่บุษยาทำเพียงนิ่งเฉยจัดแจงช่วยคลี่ผ้าคลุมให้เธอ
“บุหลันเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนไหม”
“ไม่คะ พี่บัว จุกนิดหน่อยตอนหล่นลงไปบนพื้น แต่นอกนั้นสบายดีค่ะ”
“ดีแล้ว”
บุษยาลูบไหล่น้องสาวปลอบใจหางตาเห็นคนร่างโตกดเปิดกระโปรงหลังรถแล้วหยิบกระเป๋าของพวกเธอออกมา
“พี่แทนกำลังทำอะไรน่ะ!!”
“ก็เอากระเป๋าออกจากรถไง”
คนร่างโตยังขนกระเป๋าหลายใบออกมาขณะที่ตอบคำถามโดยไม่ยอมมองหน้าบุษยา
“พี่แทนจะเอาไปไหน!!”
คนร่างเล็กกว่ารีบยื้อกระเป๋าออกมาจากมือใหญ่จนพสุธาถอนหายใจ สบตาคมที่หรี่ลงอย่างไม่ยอม
“ก็รถคงต้องให้รถลากมาลาก พี่ก็หวังดีขนกระเป๋าไปขึ้นรถของพี่ให้แล้วจะได้พาบัวและบุหลันกลับบ้าน”
“ไม่ บัวไม่กลับบ้าน พี่แทนไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับกระเป๋าของบัว”
มือเล็กยังยื้อไม่ปล่อยจนชายหนุ่มต้องรั้งเอวเธอไว้ด้วยลากไปด้วยกันที่รถ
“ปล่อยนะ พี่แทน บัวไม่ไป!”
“บัว เชื่อพี่สักครั้งนะคนดี พี่จะพาไปส่งที่บ้าน ไปอยู่กับแม่ก่อน เพราะตำรวจคงต้องขอสอบปากคำอีกมาก พี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
น้ำเสียงอ่อนโยนจนเกือบเหมือนพี่แทนคนเก่าทำให้ร่างเล็กชะงักไป แต่บุษยายังก้มหน้าไม่ยอมเงยมอง ก่อนค่อยพยักหน้ารับโดยดี
“งั้นพี่จะไปพาบุหลันมาที่รถนะ บัวเข้าไปนั่งในรถดีกว่า อีกไม่นานตำรวจกับรถพยาบาลคงจะมา”
เธอยืนรอจนกระทั่งพสุธาพาบุหลันมายังรถคันใหญ่ที่จอดอยู่ริมถนน ดวงตาของบุหลันมีคำถามมากมาย และอันที่จริงเธอเองก็มีคำถามมากมายกับพี่แทนเช่นกัน
“เอาไว้ถึงบ้านแล้วพี่จะเล่าให้ฟังนะบุหลัน”
น้องสาวร่างเล็กพยักหน้ารับแล้วมองกลับไปยังร่างสูงใหญ่ ลูกชายของป้าพรพิศ คนที่เธอเคยเห็นพี่สาวของเธอกับเขาจูบกัน คนที่เธอทำให้หายไปจากบ้าน
เพราะเป็นเธอเองที่บอกพ่อ เป็นเธอเอง!
[1] พี่จะเอายังไงดี คนเยอะขนาดนี้ เมื่อวานตอนเช้าบอกมีคนเดียว
[2] คำด่าภาษาใต้ คล้ายไอ้โรคระบาด เป็นคำด่าที่ค่อนข้างแรง
บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนห
บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน
บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน
บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว
บทนำชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผิวสีเข้มนอนอาบแดดอยู่บนเรือสำราญขนาดเล็กลำใหม่ที่เพิ่งซื้อมา เสียงหญิงสาวและเพื่อนภายในเรือยังครื้นเครงจากแอลกอฮอล์และเล่นพนันท้องฟ้าที่ภูเก็ตสวยเสมอไม่ว่าเขาจะมากี่ครั้ง ชายหนุ่มลูกครึ่งผิวสีมักโหยหาทะเลตลอดเวลาจนต้องเจียดเวลาแม้เพียงน้อยนิดให้ร่างของเขาจุ่มลงในผืนน้ำเค็มอันกว้างใหญ่สุดลูกตา“มานอนทำอะไรคนเดียว”กลิ่นยาสูบแบบดั่งเดิมโชยมาก่อนที่ตัวชายฉกรรจ์วัยสี่สิบห้าจะนั่งลงด้านข้าง สวมเสื้อเชิ้ตเปิดกระดุม กางเกงขาสั้นสำหรับการลงเรือเล่น เอนกายนอนคู่กับเขาตรงกาบเรือด้านหน้า“อาบแดด”“ฮึ คิดว่าจะเชื่อหรือไง คนอย่างนายพสุธาถ้าลองได้อยู่คนเดียวคงคิดวางแผนทำอะไรสักอย่าง ซี้ดดด”เสียงดูดยามวนดังขึ้น นัยน์ตาสีฟ้ามองกลุ่มควันสีขาวลอยคลุ้งตรงหน้าพรางยิ้มมุมปาก ทัดทองไม่เคยลืมกำพรืดตัวเอง ยังสูบยามวนราคาถูกเหมือนเดิม“เมื่อไรจะเปลี่ยนไปสูบอย่างอื่น ตอนนี้มีเงินมากขนาดนี้จะสูบอะไรก็ได้”ทัดทองเอี้ยวหน้ามองพสุธา ร่างสูงใหญ่เอนกายนอนอาบแดดสวมแว่นกันแดด มองไม่เห็นดวงตาสีฟ้าจัดว่าคิดอะไรอยู่“มันเป็นเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ฉันรู้ตัวว่าตัวเองเป็นใคร”ร่างแกร่งนิ่งขึ้ง การ
บทที่ 1สิบปีก่อนยังคงเป็นวันที่ฝนโปรยปรายจนเกิดละอองฝอย หลังจากตกหนักมาตลอดหลายวัน สาวน้อยรูปร่างไม่สูงแต่ไม่เตี้ยดูเค้าลางว่าอีกไม่กี่ปีคงอวบอิ่มเป็นสาวสวยคนหนึ่ง ผิวไม่ขาวจัดแต่ก็ไม่คล้ำ หากแต่ใบหน้าคมอย่างคนใต้ปากกว้างอวบอิ่มร่างของสาวที่กำลังใกล้บานนสะพรั่งวิ่งผ่านราวสะพานไม้เล็กแค่เพียงคนเดินผ่านวางเรี่ยบนน้ำดูแล้วน่าหวาดเสียว แต่ร่างเล็กกลับไม่ใส่ใจ เธอมีจุดมุ่งหมายเดียวคือการไปให้ถึงตัวชายหนุ่มที่กำลังสาวเชือกหอยตะโกรมขึ้นมาจากน้ำ“พี่แทน”เสียงหวานอย่างเด็กสาวตะโกนสุดเสียง ดวงตาคมรีขนตาดกหนาส่งประกายวาววับจนเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนแพกระชังตาพร่าจากนั้นจึงหยุดร่างในชุดนักเรียนมัธยมปลายเมื่อใกล้ถึงตัวชายหนุ่มแล้วปีนขึ้นไปบนแพไม้ไผ่ที่สานเป็นตารางสำหรับพอยืนได้นั่งยองลงด้านข้าง“บัวเรียกก็ไม่ขานรับ”เสียงใสกระเง้ากระงอดอย่างเด็กสาวดังขึ้น จนเด็กหนุ่มหัวเราะ มือยังสาวหอยขึ้นจากน้ำเพื่อตรวจดูว่าโตเต็มที่หรือยังเขาเอี้ยวหน้ามองเด็กสาวที่เป็นเพื่อนเล่นกับเขามาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ บัว หรือ บุษยา เศวตร ลูกสาวของนายหัวบัญชร เศวตร เจ้าของฟาร์มหอยนางรมชื่อดังของเมืองสุราษฎร์
บทที่ 2ช่วงค่ำของฟาร์มหอยนางรม อากาศของภาคใต้มักร้อนชื้นจนตัวเหนียวเหนอะ ร่างเล็กเดินลัดเลาะกระทั่งถึงบ้านพักคนงานถัดไปข้างในสวนยาง เป็นบ้านพักที่สร้างขึ้นอย่างง่ายเป็นหลัง กระจัดกระจายอยู่ทั่วภายในสวนขณะออกมายังแว่วเสียงแม่และแม่น้า หรือเมียอีกคนของพ่อโต้เถียงกันเพียงเรื่องใครจะได้ไปออกงานในเมืองวันพรุ่งนี้ใจเด็กสาวแสนเบื่อหน่าย รู้สึกราวเป็นคนนอกตลอดเวลา ไม่เป็นที่ต้องการของบ้าน ชื่อบัว แท้จริงแล้วชื่อมาจากชื่อของบัวผุดที่เป็นดอกไม้ประจำจังหวัด หากแต่บัวผุดเป็นเพียงพืชกาฝากที่อยู่บนรากของต้นเถาและมีกลิ่นเหม็นมากเท้าเล็กเตะก้อนหินก้อนเล็กขณะเดินไปก็เฝ้าครุ่นคิดไปด้วย แม่บอกว่ายามเธอเกิดเป็นวันที่แม่รู้เรื่องของน้าแขไขพอดี ทำให้แม่ต้องการแกล้งพ่อจึงตั้งชื่อของเธอว่าบัวผุดแต่โชคยังเข้าข้างที่ยายบอกพ่อให้ไปเปลี่ยนชื่อเธอที่อำเภอจนกลายมาเป็นบุษยาที่แปลว่าดอกบัวเหมือนกันก๊อก ก๊อกมือเล็กเคาะประตูเก่าบ้านหลังเล็กของพี่แทน บ้านหลังนี้แยกมาจากบ้านของป้าพรพิศ ข้างในมีเพียงห้องเดียวและห้องน้ำอยู่ถัดออกไปด้านนอก“ทำไมต้องล็อคประตูด้วยคะพี่แทน”เสียงเล็กเอ่ยต่อว่าทันทีเมื่อร่างส
บทที่ 3หน้าหวานคมแหงนหน้ามองท้องฟ้าขณะที่ยืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ ฝนตกลงมาตั้งแต่รุ่งเช้าจนกระทั่งตอนนี้ เอี้ยวตัวหยิบร่มคันใหญ่ออกกางขณะเดินไปยังรถ พลันชะงักเท้าเมื่อเห็นร่างสีเข้มของเด็กหนุ่มร่างสูงวิ่งฝ่าสายฝนตรงมา ในมือถือถุงพลาสติกมาด้วย บุษยารีบก้าวเท้าลงบันไดบ้าน เธอไม่ต้องการเห็นหน้าพสุธาในตอนนี้ ใจยังกรุ่นโกรธปนน้อยใจ“บัว!!”เสียงเข้มแหบพร่าตะโกนเรียกแต่คนร่างเล็กทำเป็นไม่สนใจ ก้าวเท้าเดินต่อให้ถึงรถเร็วที่สุด แต่ยังไม่ทันถึงประตูรถเด็กหนุ่มร่างสูงพลันมายืนตรงหน้าเธอเสียก่อน ยื่นถุงพลาสติกที่อยู่ในมือออกมาตรงหน้า“บัวลืมหนังสือไว้เมื่อคืน”ใบหน้าหวานคมแหงนขึ้นมองคนร่างสูงกว่าเธอมาก ตัวเปียกโชกด้วยน้ำฝนเม็ดใหญ่ ยืนตากฝนนิ่งรอจนกว่าเธอจะรับถุงหนังสือไปจากมือ“พี่แทนจะบ้าเหรอ มันแค่หนังสือ!!”บุษยากระแทกเสียงใส่ ยื่นมือออกไปรับถุงหนังสือมาแล้วผลักร่มให้แทน เข้าไปนั่งในรถที่บุหลันกำลังนั่งคอยอยู่ปัง!!มือเล็กปิดประตูเสียงดังเอี้ยวใบหน้ากลับไปมองร่างสูงยืนกางร่มกลางสายฝน นัยน์ตาสีฟ้ามองมาที่เธอเช่นกันจนลับสายตา“พี่บัวชอบหมอนั่นเหรอ”“พูดให้ดี ๆ นะบุหลัน”“อ้าวก็เรื่องจริงนี่ อย
บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว
บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน
บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน
บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนห
บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้
บทที่ 45พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”“พี่ทัด!!”“ห๊า!!”เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้อ
บทที่ 44พสุธาคว้าแก้วน้ำขึ้นมาขว้างออกไปกระทบกับผนังห้องแตกกระจายเฉียดร่างของทัดทองที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาพอดี“ตายห่า! ไอ้แทน เกิดเรื่องห่าเหวอะไรขึ้น”ทัดทองกระโดดข้ามจานอาหารเช้าและแก้วกาแฟที่ทั้งหกเลอะเทอะแตกเป็นเสี่ยงบนพื้น มองร่างนายหัวผิวเข้มพันผ้าเช็ดตัวรอบเอวนั่งถ่างขาตรงโซฟาสูบบุหรี่จนควันโขมง ผมยาวสยายยุ่งเหยิงและใบหน้ากร้าวกระด้างอารมณ์ร้ายสุด ๆ“บัวรู้เรื่องสัญญาแล้ว”เพียงเท่านั้นทัดทองก็รู้ถึงสาเหตุที่ห้องเละเทะขนาดนี้และยังร่างของสาวน้อยที่โผลุกขึ้นจากพื้นลิฟต์ด้วยน้ำตานองหน้า“กูว่าแล้วไอ้แทน”พสุธาเหลือบมองหน้าแต่ไม่พูดอะไร ใจยังอัดแน่นเจ็บร้าวทั้งรู้สึกผิด ทั้งโกรธตัวเองที่โง่เง่าและโกรธบุษยาที่ไม่ยอมอยู่กับเขาทัดทองเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้รีบโทรศัพท์ลงไปยังฝ่ายรักษาความปลอดภัย พสุธาไม่ใส่ใจในเมื่อตอนนี้เขามีเรื่องให้ใส่ใจมากพอแล้วมือแกร่งคีบบุหรี่เข้าปากแล้วอัดเข้าเฮือกใหญ่อีกครั้ง ใจนึกภาพหน้าปวดร้าวของคนร่างเล็กแล้วใจยิ่งคับแน่น ต้องการพุ่งตัวออกไปแล้วดึงกลับมาแต่เขาหยิ่งเกินไป ในเมื่อเขาไม่ผิด เขายังไม่ได้แต่งงาน และสัญญานั่นยังไม่ทันได้ลงลายมือชื่อด้วยซ้ำ“อ
บทที่ 43บุษยาตาโตด้วยความตกใจ ตามปกติพสุธาไม่นำเอกสารหรืองานกลับมาทำที่บ้าน แต่ซองนี้เธอเห็นเขานั่งอ่านอยู่นานเมื่อคืนฉะนั้นต้องสำคัญอย่างมากมือสั่นรีบหยิบกระดาษอเนกประสงค์เช็คจนรอบจากนั้นจึงหยิบเอกสารออกมาจากซอง มีร่องรอยคราบกาแฟอย่างที่เธอคาดไว้ จึงรีบซับน้ำโดยเร็วยิ่งเป็นหมึกพิมพ์แบบน้ำ ตัวหนังสือจึงเริ่มเลอะออก สายตาพลันเผลออ่านเข้าโดยไม่ตั้งใจสัญญาร่วมค้ากับบริษัทจรัญ อ่านดูหน้าแรกไม่มีสิ่งใดผิดปกติและดูท่าเป็นความลับ จึงรีบเช็ดให้สะอาดจนทั่วกระทั่งถึงคำว่าตามรายละเอียดแต่งงานที่ได้แนบท้ายมาด้วยดวงตาคมเบิกกว้างมือสั่นเทาพลิกไปยังหน้าสุดท้ายแห่งสัญญา เธออ่านข้อตกลงที่ดูเหมือนว่าคนทั้งคู่สามารถมีบ้านเล็กได้แต่ห้ามออกนอกหน้า รวมไปถึงสามารถมีลูกกับผู้อื่นได้ยกเว้นแค่ทายาทต้องเกิดกับดารณีเท่านั้นร่างบางถึงกับเข่าทรุดใช้มืออีกข้างพยุงโต๊ะไว้ขณะที่ค่อย ๆ นั่งลงแล้วอ่านทวนอีกครั้งเผื่อเธอเข้าใจผิด แต่ถึงแม้เธออ่านถึงสามรอบข้อความในสัญญาชัดเจนจนไม่อาจหาข้อแก้ตัวให้กับพสุธาได้การประมูลท่าเรือเฟอร์รี่คงมีความสำคัญต่อเขามาก เธอไม่เคยถามเขามาก่อนว่าเขามีธุรกิจอะไรบ้าง แค่พอแตะเรื่องหลัง
บทที่ 42“เรียบร้อยแล้วครับนายหัว”เสียงทัดทองพูดขึ้นหลังจากเดินเข้ามาในห้องทำงานระหว่างที่พสุธากำลังเซ็นต์เอกสาร เขาไม่ใส่ใจปล่อยให้บอดี้การ์ดรอก่อนจนสักพักเมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงเงยหน้าขึ้นนายหัวผิวสีเข้มหยิบซองบุหรี่จากบนโต๊ะขึ้นจุด แล้วโยนให้ทัดทองรอจนกระทั่งบอดี้การ์ดอัดควันเข้าปอดเรียบร้อยจึงค่อยเอ่ยถาม“ว่ามา”“ผู้หญิงคนนั้นเดินทางออกไปเรียบร้อยแล้วครับ”“ดี แล้วไงอีก”“จากที่สอบเค้นเห็นว่าเสี่ยยังติดใจคุณบัวไม่น้อย และค่อนข้างเกรี้ยวกราดเมื่อรู้ว่าคุณบัวย้ายมาอยู่กับนายหัว หล่อนบอกว่าคุณบัวถูกบังคับให้แต่งงานกับเสี่ย แล้วพอเกิดเรื่องก็ได้มาที่บ้านของเสี่ยเองเพื่อคืนของหมั้นทั้งหมดโดยให้เหตุผลว่าขอเวลาทำใจสักหนึ่งปี แต่เจ้าเสี่ยมันรอไม่ไหวเลยไปคว้าลูกสาวของอีกบ้านมา ได้ทั้งผู้หญิง ได้ทั้งเงิน เพราะฝังนั้นไม่กลวงเหมือนนายหัวบัญชร”พสุธาชะงักไปตั้งแต่ประโยคแรก อารมณ์กรุ่นโกรธวันนั้นที่เขาแสดงออกมาคงทำให้สาวน้อยเสียใจ เพราะสองวันที่ผ่านมายังมีสีหน้าไม่ค่อยดีแม้ว่าเขาจะรีดเค้นพลังทางเพศบนเตียงมากแค่ไหนก็เหมือนจำใจทำ“แล้วหล่อนมาทำอะไรที่โรงแรม”ซี้ดดดดด!!เสียงสูดบุหรี่ก่อนพ่นออกมา