บทที่ 45
พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ
“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”
“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”
เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน
“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”
ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”
“พี่ทัด!!”
“ห๊า!!”
เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย
“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”
“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”
“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”
เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย
“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”
เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้องหน้าคมเข้มที่เบือนหน้าหนีไปทางอื่นตั้งนานแล้ว ท่านยิ้มกริ่มดูจากท่าทางหลานชายคงหงุดหงิดน่าดู ยิ่งทำให้ท่านมีความหวังเรื่องหลานสะใภ้ขึ้นมา
“หรือว่าจะเป็นว่าที่หลานสะใภ้”
“ท่านทายถูกเป๊ะ ๆ เลยครับ เรื่องก็เพราะเอกสารฉบับนี้แหล่ะครับ”
มือเหี่ยวย่นยื่นออกไปรับมาเปิดดูแต่ทั้งหมดเป็นภาษาไทยจึงเงยหน้ามองทัดทองให้ช่วยอธิบาย
“เป็นสัญญาที่เรากำลังจะทำร่วมกับบริษัทท้องถิ่นเพื่อประมูลท่าเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปยังเกาะยอดนิยมของที่นี่ เป็นสัญญากิจการร่วมค้าทั่วไปครับท่าน แต่ที่มันแตกต่างจนทำให้ว่าที่หลานสะใภ้หนีไปก็สัญญาแนบท้ายว่าจะร่วมค้ากันได้ก็ต่อเมื่อนายหัวแต่งงานกับลูกสาวของบริษัทร่วมค้า”
“ห๊า!! นี่มันสัญญาบ้าบออะไรว่ะเนี่ย”
ทัดทองยิ้มกว้างรีบขยายความขยี้ปมของพสุธาทันทีที่มีโอกาส
“ยังไม่หมดครับท่าน ในสัญญาระบุว่าต่างฝ่ายสามารถมีบ้านเล็กได้ พวกเมียน้อยน่ะครับ และทางฝ่ายหญิงเองก็มีบ้านเล็กเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ละฝ่ายสามารถมีลูกกับคนอื่นได้ แต่ทายาทรับช่วงต้องเกิดจากพวกเขาทั้งคู่เท่านั้น อ้อ! อีกข้อที่สำคัญมากคือนายหัวต้องกลับบ้านทุกอาทิตย์เพื่อไปให้ความสำราญกับฝ่ายหญิงอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ครับ”
ทันทีที่พูดจบทัดทองไม่สามารถอดกลั้นเสียงหัวเราะได้อีกต่อไป เขาก้มตัวปล่อยก๊ากอออกมาพร้อมกับคุณปู่ของพสุธา จนตัวนายหัวฉุนเฉียวขว้างที่เขี่ยบุหรี่ใส่หน้าบอดี้การ์ดแต่ด้วยความว่องไว ชายฉกรรจ์หน้าแกร่งรับมันได้โดยทันที
“สงสัยจะอาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
พสุธามองหน้าทัดทองที่ยังไม่หยุดพูด อกแกร่งอึดอัดยามคิดเรื่องระหว่างที่ทัดทองพูดมา แล้วก็พลันรู้ตัวว่าตัวเองช่างโง่เขลา
โง่ตั้งแต่คิดไปทำการค้าร่วมกับผู้หญิงคนนั้น โง่ที่ปล่อยให้บุษยาเห็นเอกสารแผ่นนั้น โง่ที่ยังส่งเสียงดังตะวาดออกไปจนคนร่างเล็กร้องไห้ด้วยความเสียใจ ทุกอย่างเพราะความโง่เง่าและทิฐิของเขาเองทั้งหมด
“แล้วตอนนี้ว่าที่หลานสะใภ้อยู่ที่ไหน”
“กลับบ้านครับ”
เป็นพสุธาที่เอ่ยตอบคำถามแทนทัดทอง หางตายังเห็นบอดี้การ์ดยิ้มกว้างจนตาหยีเล็ก
“แล้วทำไมไม่ไปง้อเธอ”
ชายชราค่อนข้างแปลกใจ ในเมื่อเห็น ๆ อยู่ว่าหลานชายคงชอบแม่หนูคนนั้นค่อนข้างมากหรืออาจจะหลงรักเลยทีเดียว แล้วทำไมถึงปล่อยให้ผู้หญิงไป ไม่ไปตามกลับมา
“เรื่องมันซับซ้อนครับปู่”
จากนั้นพสุธาจึงเอ่ยเล่าเรื่องที่มาของบุษยาให้ปู่ฟัง ซึ่งปู่ไม่เคยรู้เรื่องลูกสาวของนายหัวบัญชรมาก่อน จึงทำให้ค่อนข้างตกใจเป็นอย่างมาก แต่พยายามตั้งใจฟังเรื่องให้จบก่อนที่จะตัดสินว่าที่หลานสะใภ้ว่าเป็นจริงดั่งที่เจ้าพสุธาเล่าให้ฟังหรือเปล่า
“แกบอกว่ากลับมาเจอบัวกำลังหมั้นกับเจ้าเสี่ยอะไรนั้น แล้วแกได้อยู่ถามเขาหรือเปล่า”
พสุธางันไป เมื่อนึกย้อนไปวัยหนุ่มกว่านี้ เลือดร้อนและเพิ่งเดินทางกลับมาจากนรกบนเรือ ในครานั้นเขาคิดเพียงว่าถูกหักหลังจากความไว้ใจ จากความรักที่เขามอบให้และเป็นเขาใช้ความหวังนั้นหล่อเลี้ยงชีวิตบนเรือเพื่อให้มีชีวิตกลับมาหาบุษยา
“แล้วแกรู้ได้ยังไงว่าความจริงมันเป็นยังไง แทนหลานรัก อย่าปล่อยให้ความแค้น ทิฐิมันบังตา แกควรเปิดใจและมองดูให้ถ่องแท้ แล้วแกจะเห็นว่าเนื้อแท้มันคือสิ่งใด”
ดวงตาสีฟ้าจัดหม่นแสงลง หน้าคมเข้มเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อรวบรวมความคิด จริงอยู่ที่พ่อของบุษยาเกลียดเขานั่นเป็นเพราะเขากำลังไปล่อลวงลูกสาว
หลีกหนีความจริงไม่ได้ สักวันเขาคงพรากความบริสุทธิ์ของบุษยาจริง ด้วยฮอร์โมนวัยหนุ่มที่พลุ่งพล่าน นายหัวบัญชรจึงต้องตัดไฟเสียต้นลม
ส่วนเรื่องบุษยาได้ลืมคำสัญญาจากเขาอาจไม่จริง จากคำพูดของนกต่อ บุษยาถูกบังคับให้หมั้นกับเสี่ยรังสรร
แต่เอาเข้าจริงแล้วเขาต้องการให้บุษยารอเขาจริงหรือ? แล้วถ้าเขาไม่ได้กลับมาอีกตลอดชีวิต เขาจะให้เธอต้องอยู่อย่างเศร้าหมองไปเพราะเขาเพื่ออะไร?
ริมฝีปากหนาเม้มแน่นรู้สึกโกรธตัวเองมากกว่าเดิมที่ทำกับเธอ บุษยาต้องทำงานเลี้ยงครอบครัวมาหลายปีจนผ่ายผอม เขายังทำร้ายเธอซ้ำอีก นี่เขามันตัวอะไร? คิดได้ดังนั้นร่างสูงใหญ่พลันลุกขึ้นพรวดจนปู่และทัดทองตกใจแหงนหน้ามองจนคอตั้งบ่า
“ผมขอตัวก่อน”
“เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนไอ้บ้านี่ รอปู่ด้วย”
ชายชรารีบพูดขึ้นหลังจากได้สติ แล้วผุดลุกขึ้นจากโซฟาเดินตามหลานชายออกไปด้วยทันที เขาเองก็อยากจะเห็นหน้าว่าที่หลานสะใภ้เต็มทน
“ว่าไงนะ”
“หนูบัวไปแล้ว สมใจลูกแล้วไหมแทน”
เสียงประชดประชันปนเสียใจเอ่ยขึ้นหลังจากที่ลูกชายของเธอเดินอาด ๆ เข้ามาในบ้านแล้วถามหาบุษยา เธอเองก็รั้งบุษยาและบุหลันไว้ไม่อยู่
“อะไรกัน แต่บัวเพิ่งมาเมื่อวานนี้เองนะครับแม่”
“ใช่ แต่ลูกเป็นคนไล่เธอไปไม่ใช่เหรอ”
พสุธาหุบปากลงทันทีอย่างยอมรับผิด เพราะเขาเป็นคนไล่เธอไปเองจริง ๆ
“ตอนแรกแม่ว่าจะโทรหาแทน แต่พอคิดไปคิดมา แม่ควรปล่อยคุณบัวไปเสียดีกว่าให้อยู่กับคนไม่มีหัวใจอย่างลูก”
“แล้วบัวไปยังไงครับ รถก็ยังอยู่”
“ไปกับเพื่อนของคุณบุหลันที่ชื่อเป็นเอก”
“เป็นเอก?”
ทันทีที่ได้ยินชื่อพสุธาก็หันหน้าไปมองทัดทองทันทีด้วยสายตาตั้งคำถาม ก็เขาสั่งไว้แล้วให้สั่งสอน อย่าให้สะเออะเข้ามาในชีวิตของบุษยาอีก
“ผมแค่ไม่อยากทำคนที่ไม่มีทางสู้ และผู้ชายแบบนั้นไม่มีอะไร ไม่ได้รวยและที่จริงเขาค่อนข้างเป็นคนดี”
พสุธากำหมัดแน่น โกรธจัดที่ทัดทองไม่ทำตามคำสั่ง ตลอดที่อยู่ด้วยกันมานี่เป็นครั้งแรกที่เขาโกรธทัดทองจริง ๆ จนอารมณ์โมโหพุ่งขึ้นทำให้เขาเงื้อมือกำลังจะฟาดไปยังใบหน้าแกร่งแต่แรงของปู่ได้จับข้อมือของเขาไว้ทัน
“แทน! แกอย่าเพิ่งมาเสียสติเอาตอนนี้ ไปตามหนูบัว”
ชายร่างสูงชะงักมือทันที เขามองหมัดที่กำแน่นของตัวเองก่อนจะมองหน้าบอดี้การ์ดคนสนิทที่เป็นยิ่งกว่าพี่น้อง
“ผมขอโทษพี่ทัด”
ทัดทองพยักหน้ารับด้วยสีหน้านิ่งเฉย
“พี่เองก็ขอโทษด้วยที่ไม่ทำตามคำสั่งนายหัว”
“งั้นผมไปก่อน พี่ทัดมีที่อยู่ใช่ไหม”
“มี ไปกันเถอะ”
บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้
บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนห
บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน
บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน
บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว
บทนำชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผิวสีเข้มนอนอาบแดดอยู่บนเรือสำราญขนาดเล็กลำใหม่ที่เพิ่งซื้อมา เสียงหญิงสาวและเพื่อนภายในเรือยังครื้นเครงจากแอลกอฮอล์และเล่นพนันท้องฟ้าที่ภูเก็ตสวยเสมอไม่ว่าเขาจะมากี่ครั้ง ชายหนุ่มลูกครึ่งผิวสีมักโหยหาทะเลตลอดเวลาจนต้องเจียดเวลาแม้เพียงน้อยนิดให้ร่างของเขาจุ่มลงในผืนน้ำเค็มอันกว้างใหญ่สุดลูกตา“มานอนทำอะไรคนเดียว”กลิ่นยาสูบแบบดั่งเดิมโชยมาก่อนที่ตัวชายฉกรรจ์วัยสี่สิบห้าจะนั่งลงด้านข้าง สวมเสื้อเชิ้ตเปิดกระดุม กางเกงขาสั้นสำหรับการลงเรือเล่น เอนกายนอนคู่กับเขาตรงกาบเรือด้านหน้า“อาบแดด”“ฮึ คิดว่าจะเชื่อหรือไง คนอย่างนายพสุธาถ้าลองได้อยู่คนเดียวคงคิดวางแผนทำอะไรสักอย่าง ซี้ดดด”เสียงดูดยามวนดังขึ้น นัยน์ตาสีฟ้ามองกลุ่มควันสีขาวลอยคลุ้งตรงหน้าพรางยิ้มมุมปาก ทัดทองไม่เคยลืมกำพรืดตัวเอง ยังสูบยามวนราคาถูกเหมือนเดิม“เมื่อไรจะเปลี่ยนไปสูบอย่างอื่น ตอนนี้มีเงินมากขนาดนี้จะสูบอะไรก็ได้”ทัดทองเอี้ยวหน้ามองพสุธา ร่างสูงใหญ่เอนกายนอนอาบแดดสวมแว่นกันแดด มองไม่เห็นดวงตาสีฟ้าจัดว่าคิดอะไรอยู่“มันเป็นเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ฉันรู้ตัวว่าตัวเองเป็นใคร”ร่างแกร่งนิ่งขึ้ง การ
บทที่ 1สิบปีก่อนยังคงเป็นวันที่ฝนโปรยปรายจนเกิดละอองฝอย หลังจากตกหนักมาตลอดหลายวัน สาวน้อยรูปร่างไม่สูงแต่ไม่เตี้ยดูเค้าลางว่าอีกไม่กี่ปีคงอวบอิ่มเป็นสาวสวยคนหนึ่ง ผิวไม่ขาวจัดแต่ก็ไม่คล้ำ หากแต่ใบหน้าคมอย่างคนใต้ปากกว้างอวบอิ่มร่างของสาวที่กำลังใกล้บานนสะพรั่งวิ่งผ่านราวสะพานไม้เล็กแค่เพียงคนเดินผ่านวางเรี่ยบนน้ำดูแล้วน่าหวาดเสียว แต่ร่างเล็กกลับไม่ใส่ใจ เธอมีจุดมุ่งหมายเดียวคือการไปให้ถึงตัวชายหนุ่มที่กำลังสาวเชือกหอยตะโกรมขึ้นมาจากน้ำ“พี่แทน”เสียงหวานอย่างเด็กสาวตะโกนสุดเสียง ดวงตาคมรีขนตาดกหนาส่งประกายวาววับจนเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนแพกระชังตาพร่าจากนั้นจึงหยุดร่างในชุดนักเรียนมัธยมปลายเมื่อใกล้ถึงตัวชายหนุ่มแล้วปีนขึ้นไปบนแพไม้ไผ่ที่สานเป็นตารางสำหรับพอยืนได้นั่งยองลงด้านข้าง“บัวเรียกก็ไม่ขานรับ”เสียงใสกระเง้ากระงอดอย่างเด็กสาวดังขึ้น จนเด็กหนุ่มหัวเราะ มือยังสาวหอยขึ้นจากน้ำเพื่อตรวจดูว่าโตเต็มที่หรือยังเขาเอี้ยวหน้ามองเด็กสาวที่เป็นเพื่อนเล่นกับเขามาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ บัว หรือ บุษยา เศวตร ลูกสาวของนายหัวบัญชร เศวตร เจ้าของฟาร์มหอยนางรมชื่อดังของเมืองสุราษฎร์
บทที่ 2ช่วงค่ำของฟาร์มหอยนางรม อากาศของภาคใต้มักร้อนชื้นจนตัวเหนียวเหนอะ ร่างเล็กเดินลัดเลาะกระทั่งถึงบ้านพักคนงานถัดไปข้างในสวนยาง เป็นบ้านพักที่สร้างขึ้นอย่างง่ายเป็นหลัง กระจัดกระจายอยู่ทั่วภายในสวนขณะออกมายังแว่วเสียงแม่และแม่น้า หรือเมียอีกคนของพ่อโต้เถียงกันเพียงเรื่องใครจะได้ไปออกงานในเมืองวันพรุ่งนี้ใจเด็กสาวแสนเบื่อหน่าย รู้สึกราวเป็นคนนอกตลอดเวลา ไม่เป็นที่ต้องการของบ้าน ชื่อบัว แท้จริงแล้วชื่อมาจากชื่อของบัวผุดที่เป็นดอกไม้ประจำจังหวัด หากแต่บัวผุดเป็นเพียงพืชกาฝากที่อยู่บนรากของต้นเถาและมีกลิ่นเหม็นมากเท้าเล็กเตะก้อนหินก้อนเล็กขณะเดินไปก็เฝ้าครุ่นคิดไปด้วย แม่บอกว่ายามเธอเกิดเป็นวันที่แม่รู้เรื่องของน้าแขไขพอดี ทำให้แม่ต้องการแกล้งพ่อจึงตั้งชื่อของเธอว่าบัวผุดแต่โชคยังเข้าข้างที่ยายบอกพ่อให้ไปเปลี่ยนชื่อเธอที่อำเภอจนกลายมาเป็นบุษยาที่แปลว่าดอกบัวเหมือนกันก๊อก ก๊อกมือเล็กเคาะประตูเก่าบ้านหลังเล็กของพี่แทน บ้านหลังนี้แยกมาจากบ้านของป้าพรพิศ ข้างในมีเพียงห้องเดียวและห้องน้ำอยู่ถัดออกไปด้านนอก“ทำไมต้องล็อคประตูด้วยคะพี่แทน”เสียงเล็กเอ่ยต่อว่าทันทีเมื่อร่างส
บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว
บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน
บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน
บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนห
บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้
บทที่ 45พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”“พี่ทัด!!”“ห๊า!!”เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้อ
บทที่ 44พสุธาคว้าแก้วน้ำขึ้นมาขว้างออกไปกระทบกับผนังห้องแตกกระจายเฉียดร่างของทัดทองที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาพอดี“ตายห่า! ไอ้แทน เกิดเรื่องห่าเหวอะไรขึ้น”ทัดทองกระโดดข้ามจานอาหารเช้าและแก้วกาแฟที่ทั้งหกเลอะเทอะแตกเป็นเสี่ยงบนพื้น มองร่างนายหัวผิวเข้มพันผ้าเช็ดตัวรอบเอวนั่งถ่างขาตรงโซฟาสูบบุหรี่จนควันโขมง ผมยาวสยายยุ่งเหยิงและใบหน้ากร้าวกระด้างอารมณ์ร้ายสุด ๆ“บัวรู้เรื่องสัญญาแล้ว”เพียงเท่านั้นทัดทองก็รู้ถึงสาเหตุที่ห้องเละเทะขนาดนี้และยังร่างของสาวน้อยที่โผลุกขึ้นจากพื้นลิฟต์ด้วยน้ำตานองหน้า“กูว่าแล้วไอ้แทน”พสุธาเหลือบมองหน้าแต่ไม่พูดอะไร ใจยังอัดแน่นเจ็บร้าวทั้งรู้สึกผิด ทั้งโกรธตัวเองที่โง่เง่าและโกรธบุษยาที่ไม่ยอมอยู่กับเขาทัดทองเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้รีบโทรศัพท์ลงไปยังฝ่ายรักษาความปลอดภัย พสุธาไม่ใส่ใจในเมื่อตอนนี้เขามีเรื่องให้ใส่ใจมากพอแล้วมือแกร่งคีบบุหรี่เข้าปากแล้วอัดเข้าเฮือกใหญ่อีกครั้ง ใจนึกภาพหน้าปวดร้าวของคนร่างเล็กแล้วใจยิ่งคับแน่น ต้องการพุ่งตัวออกไปแล้วดึงกลับมาแต่เขาหยิ่งเกินไป ในเมื่อเขาไม่ผิด เขายังไม่ได้แต่งงาน และสัญญานั่นยังไม่ทันได้ลงลายมือชื่อด้วยซ้ำ“อ
บทที่ 43บุษยาตาโตด้วยความตกใจ ตามปกติพสุธาไม่นำเอกสารหรืองานกลับมาทำที่บ้าน แต่ซองนี้เธอเห็นเขานั่งอ่านอยู่นานเมื่อคืนฉะนั้นต้องสำคัญอย่างมากมือสั่นรีบหยิบกระดาษอเนกประสงค์เช็คจนรอบจากนั้นจึงหยิบเอกสารออกมาจากซอง มีร่องรอยคราบกาแฟอย่างที่เธอคาดไว้ จึงรีบซับน้ำโดยเร็วยิ่งเป็นหมึกพิมพ์แบบน้ำ ตัวหนังสือจึงเริ่มเลอะออก สายตาพลันเผลออ่านเข้าโดยไม่ตั้งใจสัญญาร่วมค้ากับบริษัทจรัญ อ่านดูหน้าแรกไม่มีสิ่งใดผิดปกติและดูท่าเป็นความลับ จึงรีบเช็ดให้สะอาดจนทั่วกระทั่งถึงคำว่าตามรายละเอียดแต่งงานที่ได้แนบท้ายมาด้วยดวงตาคมเบิกกว้างมือสั่นเทาพลิกไปยังหน้าสุดท้ายแห่งสัญญา เธออ่านข้อตกลงที่ดูเหมือนว่าคนทั้งคู่สามารถมีบ้านเล็กได้แต่ห้ามออกนอกหน้า รวมไปถึงสามารถมีลูกกับผู้อื่นได้ยกเว้นแค่ทายาทต้องเกิดกับดารณีเท่านั้นร่างบางถึงกับเข่าทรุดใช้มืออีกข้างพยุงโต๊ะไว้ขณะที่ค่อย ๆ นั่งลงแล้วอ่านทวนอีกครั้งเผื่อเธอเข้าใจผิด แต่ถึงแม้เธออ่านถึงสามรอบข้อความในสัญญาชัดเจนจนไม่อาจหาข้อแก้ตัวให้กับพสุธาได้การประมูลท่าเรือเฟอร์รี่คงมีความสำคัญต่อเขามาก เธอไม่เคยถามเขามาก่อนว่าเขามีธุรกิจอะไรบ้าง แค่พอแตะเรื่องหลัง
บทที่ 42“เรียบร้อยแล้วครับนายหัว”เสียงทัดทองพูดขึ้นหลังจากเดินเข้ามาในห้องทำงานระหว่างที่พสุธากำลังเซ็นต์เอกสาร เขาไม่ใส่ใจปล่อยให้บอดี้การ์ดรอก่อนจนสักพักเมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงเงยหน้าขึ้นนายหัวผิวสีเข้มหยิบซองบุหรี่จากบนโต๊ะขึ้นจุด แล้วโยนให้ทัดทองรอจนกระทั่งบอดี้การ์ดอัดควันเข้าปอดเรียบร้อยจึงค่อยเอ่ยถาม“ว่ามา”“ผู้หญิงคนนั้นเดินทางออกไปเรียบร้อยแล้วครับ”“ดี แล้วไงอีก”“จากที่สอบเค้นเห็นว่าเสี่ยยังติดใจคุณบัวไม่น้อย และค่อนข้างเกรี้ยวกราดเมื่อรู้ว่าคุณบัวย้ายมาอยู่กับนายหัว หล่อนบอกว่าคุณบัวถูกบังคับให้แต่งงานกับเสี่ย แล้วพอเกิดเรื่องก็ได้มาที่บ้านของเสี่ยเองเพื่อคืนของหมั้นทั้งหมดโดยให้เหตุผลว่าขอเวลาทำใจสักหนึ่งปี แต่เจ้าเสี่ยมันรอไม่ไหวเลยไปคว้าลูกสาวของอีกบ้านมา ได้ทั้งผู้หญิง ได้ทั้งเงิน เพราะฝังนั้นไม่กลวงเหมือนนายหัวบัญชร”พสุธาชะงักไปตั้งแต่ประโยคแรก อารมณ์กรุ่นโกรธวันนั้นที่เขาแสดงออกมาคงทำให้สาวน้อยเสียใจ เพราะสองวันที่ผ่านมายังมีสีหน้าไม่ค่อยดีแม้ว่าเขาจะรีดเค้นพลังทางเพศบนเตียงมากแค่ไหนก็เหมือนจำใจทำ“แล้วหล่อนมาทำอะไรที่โรงแรม”ซี้ดดดดด!!เสียงสูดบุหรี่ก่อนพ่นออกมา