แชร์

บทที่ 48

ผู้แต่ง: พริมริน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-22 18:05:38

บทที่ 48

ม่ครับ”

“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”

“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”

พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา

“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”

“แล้วบัวล่ะครับ”

พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป

“โน้น อยู่แพหอย”

พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำ

รอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้

วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟัง

วันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยม

ชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน ตอนนั้นพรพิศยังอายุน้อยกว่านี้ทำให้มองอะไรไม่กระจ่างจึงทำให้หนีมาโดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังท้องอ่อน ๆ

เธอเงยหน้ามองไปยังแพหอยที่ลูกชายกำลังเดินบนสะพานไม้กระดานเดียวเพื่อไปยังแพกลางน้ำ รอยยิ้มค่อยกลับคืนมา

เรื่องพวกนั้นมันเป็นอดีตไปหมดแล้ว และเธอฝังมันลงไปพร้อมกับวิลเลี่ยม แต่เป็นอนาคตต่างหากที่เธอควรทะนุถนอมไว้ เธอดูแลบุษยาแทนพสุธามาหลายปี ถึงเวลาแล้วที่ลูกชายของเธอควรมารับช่วงต่อ เธอจะได้พักผ่อนเสียที

ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทเต็มยศเดินจนถึงสะพานไม้แผ่นเดียว เขาถอดเสื้อคลุมสูทโยนทิ้งลงพื้นดิน ถอดรองเท้าสีดำมันปลาบสุดหรูออกวาง แล้วจึงเดินบนสะพานไม้เพื่อตรงไปยังแพหอยที่ลอยอยู่กลางน้ำ

การจากที่นี่ไปหลายปีไม่ได้ทำให้ความชำนาญในการเดินลดลงเพราะเขาทำสิ่งนี้มาตั้งแต่เกิด เพียงแต่มันยากขึ้นเพราะขนาดตัวและน้ำหนักที่มากขึ้น

เสียงคนเดินบนสะพานไม้ทำให้บุษยาเหลียวหน้ากลับไปมองจึงเห็นผู้ชายร่างโตที่เธอไม่ต้องการเจอกำลังเดินตรงมาทางเธอ

ริมฝีปากเม้มแน่นสะบัดหน้ากลับผุดลุกขึ้นเพื่อเดินไปอีกแพ เสียงฝีเท้าที่ตามติดเธอทำให้รู้ว่าหนีแบบนี้คงไม่เป็นผล จึงเลือกหันหน้ากลับมาเผชิญหน้า

“พี่แทนมีอะไรคะ”

“พี่ซื้อขนมมาฝากบัว”

“ฝากแล้วก็กลับไปสิคะ”

“พี่จะกลับได้ยังไงถ้าไม่มีบัวไปด้วย”

พสุธาเอื้อมมือออกมาเพื่อคว้าร่างบางที่กำลังเดินหนีแต่บุษยาเบี่ยงตัวหลบจนพ้น กระโดดข้ามไปอีกแพที่อยู่ใกล้กัน

แรงกระโดดของคนร่างโตที่ตามเธอมาติด ๆ ทำให้แพเอียงไปเล็กน้อยแต่ยังพอตั้งตรงกลับมาได้ เธอชำเลืองมองไม่พอใจ

“บัวกลับไปกับพี่เถอะนะคนดี”

พสุธาเดินบนราวไม้ไผ่ที่ผูกเป็นแพคล้ายกระชังสำหรับแขวนหอยนางรมอย่างเชี่ยวชาญ จนถึงร่างของบุษยา

“พี่กลับไปเถอะค่ะ บัวจะขออยู่ที่นี่อีกสักระยะจนกว่าเรื่องทางตำรวจจะคลี่คลายแล้วบัวก็จะไป”

“ไปไหน? ไปอยู่กับไอ้เป็นเอกใช่ไหม!!”

เสียงกร้าวขุ่นเคืองตะโกนขึ้น บุษยาเบือนหน้าหนีก่อนพูดประชดประชันออกมา

“จะไปไหนมันก็เรื่องของบัว บัวจะไปอยู่กับพี่เป็นเอก หรืออยู่กับผู้ชายคนไหนก็เรื่องของบัว ส่วนพี่ควรจะไปดูแลว่าที่ภรรยาหลวงจะดีกว่านะคะ”

ร่างผอมบางหันกลับกระโดดไปอีกแพกำลังจะก้าวเท้าพลันร่างโตกระโดดตามจนแพเอียง คราวนี้พสุธากะน้ำหนักตัวของตัวเองผิดพลาด ทำให้กระชังแพหอยเอียงมากกว่าเดิม ส่งผลให้บุษยาเอียงตัวตาม แต่ด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่าจึงยังพอทรงตัวได้เหลือบตามองพสุธาจึงส่งแรงมือผลักอกเขาออกไปด้วยความโมโห

ตู้ม!! ซ่า!!

หน้าหวานหยักยิ้มเมื่อมองหนุ่มลูกครึ่งตาสีฟ้าโกรธจัดว่ายวนอยู่ในน้ำกร่อยข้างกระชัง ร่างสูงใหญ่เปียกไปทั้งตัว ส่วนร่างเล็กกว่ารีบเดินผละจากมาตรงไปยังสะพานไม้เพื่อกลับเข้าฝั่งทิ้งชายร่างโตที่กำลังตีมือในน้ำอย่างกรุ่นโกรธ

พี่บัวคะ”

“อ้าว บุหลัน มากินข้าวเร็ว”

บุษยารีบเดินไปรับน้องสาวตรงกลางโถงเข็นรถพาร่างบอบบางเพื่อไปทานอาหารเย็นที่ห้องทานข้าว

“บุหลันมีเรื่องอยากจะบอกค่ะ”

เสียงอ่อนระโหยและสำนึกผิดทำให้บุษยาและพรพิศแปลกใจ บุหลันใช้มือดันล้อรถเข็นให้ตั้งตรงเพื่อมองหน้าของคนทั้งสอง

“มันเป็นเรื่องโง่เง่าของน้องเอง และมันนานมากจนน้องคิดว่าคงจะสามารถปกปิดมันไปได้เพื่อเลี่ยงความผิด แต่น้องเองก็รู้สึกผิดกับเรื่องนี้มาตลอดเวลา”

พรพิศและบุษยามองหน้ากัน แล้วหันกลับไปมองหน้าซีดเซียวของคนบนรถเข็น มือผอมบางวางบนตักบีบหากันแน่น ใบหน้าก้มต่ำเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น

“เรื่องพี่แทน เป็นความผิดน้องเองค่ะ น้องเป็นคนบอกพ่อเรื่องพี่บัวกับเขา นะ น้อง น้องเห็นพี่บัวจูบกับพี่แทน ละ แล้วอิจฉา น้องไม่อยากให้พี่บัวมีใครรัก น้องเป็นคนเห็นแก่ตัว น้องมัน มันเป็นคนไม่ดี พี่บัวคะ บุหลันอยากขอโทษพี่บัวและป้าพิศ ถ้าน้องไม่บอก พ่อ พ่อก็คงไม่ทำกับพี่แทนแบบนั้น”

บุษยาตกตะลึงดวงตาคมเบิกกว้างหันไปมองหน้าป้าพรพิศที่นัยน์ตารื้นขึ้น แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำอย่างคนอายุมาก

“ป้ารู้เรื่องนี้นานแล้วคุณบุหลัน”

“ป้าพิศ!!”

เป็นบุษยาที่ร้องเสียงดังอย่างตกใจ ส่วนบุหลันได้แต่นั่งหน้าซีดเผือดอย่างสำนึกผิดและใกล้ร้องไห้ออกมาเต็มแก่

“คุณบุหลันคะ ป้าไม่คิดว่าเป็นความผิดของคุณบุหลันเลยนะคะ”

พรพิศเดินไปยังรถเข็นแล้วย่อร่างลงนั่งยองด้านหน้าบุหลัน ใช้มือหยาบกร้านกุมมือที่สั่นน้อย ๆ ไว้อย่างปลอบประโลม

“คนที่ผิดคงจะเป็นเจ้าแทนเองที่ใฝ่สูงเกินเอื้อม และคนที่ผิดมากที่สุดคงเป็นนายหัวบัญชรที่เป็นคนเห็นแก่ตัว”

บุษยาพยักหน้าเห็นด้วยเงียบ ๆ แล้วเดินไปด้านหลังน้องสาวบีบไหล่ปลอบใจ

“ใช่บุหลัน ไม่มีใครคิดว่าเป็นความผิดของบุหลัน”

“แต่พี่แทน ถ้าพี่แทนรู้ เขาจะ..”

“เขาเองก็จะไม่ว่าหรือแค้นบุหลันอย่างแน่นอน พี่รู้จักพี่แทนดี”

บุหลันแหงนใบหน้าผอมเรียวขึ้นมองพี่สาวพร้อมน้ำตาที่รินไหลออกมา ก่อนปล่อยสะอื้นหนักจนบุษยาต้องโน้มร่างบอบบางลงโอบกอดปลอบประโลม

ภาพของพสุธาที่ต้องถูกทรมานบนเรือกรีดหัวใจเธอเมื่อนึกถึงดั่งว่าเป็นเธอเองที่ถูกทำร้าย แต่ในเมื่อบุหลันเองก็สำนึกผิด เรื่องราวก็ได้ล่วงเลยไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ เราก็ควรทำวันนี้ สร้างอนาคตใหม่ให้มีแต่ความสุขดีกว่า

บุษาเผลอยิ้มในหน้าเมื่อนึกภาพชายร่างโตตกน้ำวันนี้ นึกสมน้ำหน้าในใจ อย่าคิดว่าบุษยาจะง่ายเหมือนเมื่อก่อน ในเมื่อตอนนี้เธอสามารถตัดขาดกับบ้านหลังนี้ได้แล้วจนหมดห่วง เธอพร้อมเสมอจะเดินจากไปได้ทุกเมื่อพร้อมกับบุหลันเพื่อไปตั้งต้นชีวิตใหม่

แต่ถ้าเพียงเขายอมง้อเธออีกสักหน่อย เธออาจใจอ่อนก็เป็นได้ คิดได้ดังนั้นใบหน้าหวานคมจึงยิ้มกว้างออกมาอีกกอดน้องแน่นขึ้น เฝ้ารอให้พสุธามาหาเธอวันพรุ่งนี้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 49**จบบริบูรณ์

    บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน

  • หนี้รักนายหัว   บทพิเศษ

    บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว

  • หนี้รักนายหัว   บทนำ

    บทนำชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผิวสีเข้มนอนอาบแดดอยู่บนเรือสำราญขนาดเล็กลำใหม่ที่เพิ่งซื้อมา เสียงหญิงสาวและเพื่อนภายในเรือยังครื้นเครงจากแอลกอฮอล์และเล่นพนันท้องฟ้าที่ภูเก็ตสวยเสมอไม่ว่าเขาจะมากี่ครั้ง ชายหนุ่มลูกครึ่งผิวสีมักโหยหาทะเลตลอดเวลาจนต้องเจียดเวลาแม้เพียงน้อยนิดให้ร่างของเขาจุ่มลงในผืนน้ำเค็มอันกว้างใหญ่สุดลูกตา“มานอนทำอะไรคนเดียว”กลิ่นยาสูบแบบดั่งเดิมโชยมาก่อนที่ตัวชายฉกรรจ์วัยสี่สิบห้าจะนั่งลงด้านข้าง สวมเสื้อเชิ้ตเปิดกระดุม กางเกงขาสั้นสำหรับการลงเรือเล่น เอนกายนอนคู่กับเขาตรงกาบเรือด้านหน้า“อาบแดด”“ฮึ คิดว่าจะเชื่อหรือไง คนอย่างนายพสุธาถ้าลองได้อยู่คนเดียวคงคิดวางแผนทำอะไรสักอย่าง ซี้ดดด”เสียงดูดยามวนดังขึ้น นัยน์ตาสีฟ้ามองกลุ่มควันสีขาวลอยคลุ้งตรงหน้าพรางยิ้มมุมปาก ทัดทองไม่เคยลืมกำพรืดตัวเอง ยังสูบยามวนราคาถูกเหมือนเดิม“เมื่อไรจะเปลี่ยนไปสูบอย่างอื่น ตอนนี้มีเงินมากขนาดนี้จะสูบอะไรก็ได้”ทัดทองเอี้ยวหน้ามองพสุธา ร่างสูงใหญ่เอนกายนอนอาบแดดสวมแว่นกันแดด มองไม่เห็นดวงตาสีฟ้าจัดว่าคิดอะไรอยู่“มันเป็นเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ฉันรู้ตัวว่าตัวเองเป็นใคร”ร่างแกร่งนิ่งขึ้ง การ

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 1

    บทที่ 1สิบปีก่อนยังคงเป็นวันที่ฝนโปรยปรายจนเกิดละอองฝอย หลังจากตกหนักมาตลอดหลายวัน สาวน้อยรูปร่างไม่สูงแต่ไม่เตี้ยดูเค้าลางว่าอีกไม่กี่ปีคงอวบอิ่มเป็นสาวสวยคนหนึ่ง ผิวไม่ขาวจัดแต่ก็ไม่คล้ำ หากแต่ใบหน้าคมอย่างคนใต้ปากกว้างอวบอิ่มร่างของสาวที่กำลังใกล้บานนสะพรั่งวิ่งผ่านราวสะพานไม้เล็กแค่เพียงคนเดินผ่านวางเรี่ยบนน้ำดูแล้วน่าหวาดเสียว แต่ร่างเล็กกลับไม่ใส่ใจ เธอมีจุดมุ่งหมายเดียวคือการไปให้ถึงตัวชายหนุ่มที่กำลังสาวเชือกหอยตะโกรมขึ้นมาจากน้ำ“พี่แทน”เสียงหวานอย่างเด็กสาวตะโกนสุดเสียง ดวงตาคมรีขนตาดกหนาส่งประกายวาววับจนเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนแพกระชังตาพร่าจากนั้นจึงหยุดร่างในชุดนักเรียนมัธยมปลายเมื่อใกล้ถึงตัวชายหนุ่มแล้วปีนขึ้นไปบนแพไม้ไผ่ที่สานเป็นตารางสำหรับพอยืนได้นั่งยองลงด้านข้าง“บัวเรียกก็ไม่ขานรับ”เสียงใสกระเง้ากระงอดอย่างเด็กสาวดังขึ้น จนเด็กหนุ่มหัวเราะ มือยังสาวหอยขึ้นจากน้ำเพื่อตรวจดูว่าโตเต็มที่หรือยังเขาเอี้ยวหน้ามองเด็กสาวที่เป็นเพื่อนเล่นกับเขามาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ บัว หรือ บุษยา เศวตร ลูกสาวของนายหัวบัญชร เศวตร เจ้าของฟาร์มหอยนางรมชื่อดังของเมืองสุราษฎร์

  • หนี้รักนายหัว    บทที่ 2

    บทที่ 2ช่วงค่ำของฟาร์มหอยนางรม อากาศของภาคใต้มักร้อนชื้นจนตัวเหนียวเหนอะ ร่างเล็กเดินลัดเลาะกระทั่งถึงบ้านพักคนงานถัดไปข้างในสวนยาง เป็นบ้านพักที่สร้างขึ้นอย่างง่ายเป็นหลัง กระจัดกระจายอยู่ทั่วภายในสวนขณะออกมายังแว่วเสียงแม่และแม่น้า หรือเมียอีกคนของพ่อโต้เถียงกันเพียงเรื่องใครจะได้ไปออกงานในเมืองวันพรุ่งนี้ใจเด็กสาวแสนเบื่อหน่าย รู้สึกราวเป็นคนนอกตลอดเวลา ไม่เป็นที่ต้องการของบ้าน ชื่อบัว แท้จริงแล้วชื่อมาจากชื่อของบัวผุดที่เป็นดอกไม้ประจำจังหวัด หากแต่บัวผุดเป็นเพียงพืชกาฝากที่อยู่บนรากของต้นเถาและมีกลิ่นเหม็นมากเท้าเล็กเตะก้อนหินก้อนเล็กขณะเดินไปก็เฝ้าครุ่นคิดไปด้วย แม่บอกว่ายามเธอเกิดเป็นวันที่แม่รู้เรื่องของน้าแขไขพอดี ทำให้แม่ต้องการแกล้งพ่อจึงตั้งชื่อของเธอว่าบัวผุดแต่โชคยังเข้าข้างที่ยายบอกพ่อให้ไปเปลี่ยนชื่อเธอที่อำเภอจนกลายมาเป็นบุษยาที่แปลว่าดอกบัวเหมือนกันก๊อก ก๊อกมือเล็กเคาะประตูเก่าบ้านหลังเล็กของพี่แทน บ้านหลังนี้แยกมาจากบ้านของป้าพรพิศ ข้างในมีเพียงห้องเดียวและห้องน้ำอยู่ถัดออกไปด้านนอก“ทำไมต้องล็อคประตูด้วยคะพี่แทน”เสียงเล็กเอ่ยต่อว่าทันทีเมื่อร่างส

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 3

    บทที่ 3หน้าหวานคมแหงนหน้ามองท้องฟ้าขณะที่ยืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ ฝนตกลงมาตั้งแต่รุ่งเช้าจนกระทั่งตอนนี้ เอี้ยวตัวหยิบร่มคันใหญ่ออกกางขณะเดินไปยังรถ พลันชะงักเท้าเมื่อเห็นร่างสีเข้มของเด็กหนุ่มร่างสูงวิ่งฝ่าสายฝนตรงมา ในมือถือถุงพลาสติกมาด้วย บุษยารีบก้าวเท้าลงบันไดบ้าน เธอไม่ต้องการเห็นหน้าพสุธาในตอนนี้ ใจยังกรุ่นโกรธปนน้อยใจ“บัว!!”เสียงเข้มแหบพร่าตะโกนเรียกแต่คนร่างเล็กทำเป็นไม่สนใจ ก้าวเท้าเดินต่อให้ถึงรถเร็วที่สุด แต่ยังไม่ทันถึงประตูรถเด็กหนุ่มร่างสูงพลันมายืนตรงหน้าเธอเสียก่อน ยื่นถุงพลาสติกที่อยู่ในมือออกมาตรงหน้า“บัวลืมหนังสือไว้เมื่อคืน”ใบหน้าหวานคมแหงนขึ้นมองคนร่างสูงกว่าเธอมาก ตัวเปียกโชกด้วยน้ำฝนเม็ดใหญ่ ยืนตากฝนนิ่งรอจนกว่าเธอจะรับถุงหนังสือไปจากมือ“พี่แทนจะบ้าเหรอ มันแค่หนังสือ!!”บุษยากระแทกเสียงใส่ ยื่นมือออกไปรับถุงหนังสือมาแล้วผลักร่มให้แทน เข้าไปนั่งในรถที่บุหลันกำลังนั่งคอยอยู่ปัง!!มือเล็กปิดประตูเสียงดังเอี้ยวใบหน้ากลับไปมองร่างสูงยืนกางร่มกลางสายฝน นัยน์ตาสีฟ้ามองมาที่เธอเช่นกันจนลับสายตา“พี่บัวชอบหมอนั่นเหรอ”“พูดให้ดี ๆ นะบุหลัน”“อ้าวก็เรื่องจริงนี่ อย

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 4

    บทที่ 4ฝนยังคงตกหนักไปอีกหลายวัน ทั่วทั้งท้องฟ้าและท้องทะเลที่เว้าเป็นอ่าวฟาร์มหอยขาวโพลน บุษยานอนเบื่ออยู่แต่ภายในห้องร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงแล้วนั่งลงข้างหน้าต่างห้องนอน หันหน้าออกไปมองเห็นผืนน้ำทะเล ฟาร์มหอยนางรมตั้งอยู่ในอ่าวเล็ก ๆ ขดเข้ามาเป็นน้ำกร่อย มีลำน้ำผ่านจากสวนยางด้านหลังไหลลงทะเลข้างหน้า ความเงียบสงัดของฟาร์มหอยในวันฝนตกได้ยินเพียงเสียงน้ำฝนกระทบลงบนพื้นดินดวงตาหวานคมชำเลืองมองไปยังด้านข้างบ้านจนเห็นบ้านพักของคนงานไม่ไกลนัก บ้านพักทุกหลังปิดสนิท ในเวลาเช่นนี้แม้แต่คนงานยังไม่ออกมานอกบ้านบุษยาตัดสินใจลุกขึ้นอีกครั้ง สวมเสื้อคลุมตัวหนาแล้วเดินลงบันไดบ้าน หมุนตัวไปยังทางออกด้านหลัง หยิบร่มคันใหญ่ขึ้นมากางและสวมรองเท้าแตะธรรมดาใจสาวน้อยร้อนรนไม่อาจอยู่เฉย เธอต้องการเห็นหน้าพี่แทน เดี๋ยวนี้ เดินแกมวิ่งฝ่าฝนไปตลอดทางกระทั่งถึงบ้านพักหลังเล็กก๊อก ก๊อก!!แอ๊ด!“บัว!!”ร่างแกร่งเบี่ยงตัวหลบให้คนร่างเล็กกว่าที่สาวเท้าเข้ามาในบ้านทันทีที่พี่แทนเปิดประตู ถอดรองเท้าข้างประตูเช่นเคยและถอดเสื้อคลุมออกจนเห็นเสื้อยืดตัวเล็กด้านใน ชื้นเปียกจนมองเห็นเงาเลือนลางของชุดชั้นใน

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 5

    บทที่ 5วื้อ วื้อ วื้อ แคร่ก แคร่ก!!เสียงรถจักรยานคันเก่าดังตลอดทาง เด็กหนุ่มค่อยปั่นมีสาวน้อยร่างเล็กซ้อนท้าย หลังจากพายุฝนตกมาหลายวัน ท้องฟ้าก็เปิดเสียที มองเห็นสีฟ้าครามแจ่มใสจรดผืนน้ำร่างแกร่งปั่นจักรยานพาสาวร่างบอบบางซ้อนท้าย เลาะเลียบถนนชายหาดไปยังสะพานปลาแต่เช้าตรู่ ตอนนี้เรือประมงหาปลาเข้าเทียบท่าทยอยกลับมาจากออกเรือ แม่พรพิศสั่งให้ซื้อปลาสักสองสามกิโลกรัมไปเก็บไว้ในตู้เย็น และกุ้งปลาหมึกเล็กน้อยเผื่อทำต้มยำหรือผัดพริกเผาพสุธาเอี้ยวหน้าไปด้านหลังมองบุษยานั่งคร่อมแกว่งขาไปมาอย่างมีความสุข ผมสั้นติ่งหูปลิวไปตามแรงลมเปิดใบหน้าเรียวหวานสดใส เธอเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้มกว้าง มือเล็กยังกุมเอวสอบของเขาไว้แน่น“นั่งดี ๆ ล่ะ ตกไปแม่พี่คงเอาไม้เรียวตีพี่แน่”“ฮ่า ฮ่า บัวไม่ใช่เด็กแล้วนะคะพี่แทน”เธอซบหน้าลงแนบแผ่นหลังกว้างชื้นเหงื่อ กลิ่นกายพสุธาโรยริน หน้าหวานคมฝังดวงหน้าลงกลางแผ่นหลังสูดลมหายใจ“นี่! ทำอะไรน่ะ พี่ตัวเหม็นนะ”“ไม่เหม็นสักหน่อย ออกจะหอม”บุษยาหัวเราะแกล้งใช้จมูกถูบดไปมาจนพสุธาจักจี้ รถจักรยานส่ายไปมาทำให้เธอโอบมือไปด้านหน้าเกี่ยวเอวสอบเขาไว้แน่น“พี่แทน ขี่ดีดีสิ”“เป็นไ

บทล่าสุด

  • หนี้รักนายหัว   บทพิเศษ

    บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 49**จบบริบูรณ์

    บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 48

    บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 47

    บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนห

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 46

    บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 45

    บทที่ 45พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”“พี่ทัด!!”“ห๊า!!”เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้อ

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 44

    บทที่ 44พสุธาคว้าแก้วน้ำขึ้นมาขว้างออกไปกระทบกับผนังห้องแตกกระจายเฉียดร่างของทัดทองที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาพอดี“ตายห่า! ไอ้แทน เกิดเรื่องห่าเหวอะไรขึ้น”ทัดทองกระโดดข้ามจานอาหารเช้าและแก้วกาแฟที่ทั้งหกเลอะเทอะแตกเป็นเสี่ยงบนพื้น มองร่างนายหัวผิวเข้มพันผ้าเช็ดตัวรอบเอวนั่งถ่างขาตรงโซฟาสูบบุหรี่จนควันโขมง ผมยาวสยายยุ่งเหยิงและใบหน้ากร้าวกระด้างอารมณ์ร้ายสุด ๆ“บัวรู้เรื่องสัญญาแล้ว”เพียงเท่านั้นทัดทองก็รู้ถึงสาเหตุที่ห้องเละเทะขนาดนี้และยังร่างของสาวน้อยที่โผลุกขึ้นจากพื้นลิฟต์ด้วยน้ำตานองหน้า“กูว่าแล้วไอ้แทน”พสุธาเหลือบมองหน้าแต่ไม่พูดอะไร ใจยังอัดแน่นเจ็บร้าวทั้งรู้สึกผิด ทั้งโกรธตัวเองที่โง่เง่าและโกรธบุษยาที่ไม่ยอมอยู่กับเขาทัดทองเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้รีบโทรศัพท์ลงไปยังฝ่ายรักษาความปลอดภัย พสุธาไม่ใส่ใจในเมื่อตอนนี้เขามีเรื่องให้ใส่ใจมากพอแล้วมือแกร่งคีบบุหรี่เข้าปากแล้วอัดเข้าเฮือกใหญ่อีกครั้ง ใจนึกภาพหน้าปวดร้าวของคนร่างเล็กแล้วใจยิ่งคับแน่น ต้องการพุ่งตัวออกไปแล้วดึงกลับมาแต่เขาหยิ่งเกินไป ในเมื่อเขาไม่ผิด เขายังไม่ได้แต่งงาน และสัญญานั่นยังไม่ทันได้ลงลายมือชื่อด้วยซ้ำ“อ

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 43

    บทที่ 43บุษยาตาโตด้วยความตกใจ ตามปกติพสุธาไม่นำเอกสารหรืองานกลับมาทำที่บ้าน แต่ซองนี้เธอเห็นเขานั่งอ่านอยู่นานเมื่อคืนฉะนั้นต้องสำคัญอย่างมากมือสั่นรีบหยิบกระดาษอเนกประสงค์เช็คจนรอบจากนั้นจึงหยิบเอกสารออกมาจากซอง มีร่องรอยคราบกาแฟอย่างที่เธอคาดไว้ จึงรีบซับน้ำโดยเร็วยิ่งเป็นหมึกพิมพ์แบบน้ำ ตัวหนังสือจึงเริ่มเลอะออก สายตาพลันเผลออ่านเข้าโดยไม่ตั้งใจสัญญาร่วมค้ากับบริษัทจรัญ อ่านดูหน้าแรกไม่มีสิ่งใดผิดปกติและดูท่าเป็นความลับ จึงรีบเช็ดให้สะอาดจนทั่วกระทั่งถึงคำว่าตามรายละเอียดแต่งงานที่ได้แนบท้ายมาด้วยดวงตาคมเบิกกว้างมือสั่นเทาพลิกไปยังหน้าสุดท้ายแห่งสัญญา เธออ่านข้อตกลงที่ดูเหมือนว่าคนทั้งคู่สามารถมีบ้านเล็กได้แต่ห้ามออกนอกหน้า รวมไปถึงสามารถมีลูกกับผู้อื่นได้ยกเว้นแค่ทายาทต้องเกิดกับดารณีเท่านั้นร่างบางถึงกับเข่าทรุดใช้มืออีกข้างพยุงโต๊ะไว้ขณะที่ค่อย ๆ นั่งลงแล้วอ่านทวนอีกครั้งเผื่อเธอเข้าใจผิด แต่ถึงแม้เธออ่านถึงสามรอบข้อความในสัญญาชัดเจนจนไม่อาจหาข้อแก้ตัวให้กับพสุธาได้การประมูลท่าเรือเฟอร์รี่คงมีความสำคัญต่อเขามาก เธอไม่เคยถามเขามาก่อนว่าเขามีธุรกิจอะไรบ้าง แค่พอแตะเรื่องหลัง

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 42

    บทที่ 42“เรียบร้อยแล้วครับนายหัว”เสียงทัดทองพูดขึ้นหลังจากเดินเข้ามาในห้องทำงานระหว่างที่พสุธากำลังเซ็นต์เอกสาร เขาไม่ใส่ใจปล่อยให้บอดี้การ์ดรอก่อนจนสักพักเมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงเงยหน้าขึ้นนายหัวผิวสีเข้มหยิบซองบุหรี่จากบนโต๊ะขึ้นจุด แล้วโยนให้ทัดทองรอจนกระทั่งบอดี้การ์ดอัดควันเข้าปอดเรียบร้อยจึงค่อยเอ่ยถาม“ว่ามา”“ผู้หญิงคนนั้นเดินทางออกไปเรียบร้อยแล้วครับ”“ดี แล้วไงอีก”“จากที่สอบเค้นเห็นว่าเสี่ยยังติดใจคุณบัวไม่น้อย และค่อนข้างเกรี้ยวกราดเมื่อรู้ว่าคุณบัวย้ายมาอยู่กับนายหัว หล่อนบอกว่าคุณบัวถูกบังคับให้แต่งงานกับเสี่ย แล้วพอเกิดเรื่องก็ได้มาที่บ้านของเสี่ยเองเพื่อคืนของหมั้นทั้งหมดโดยให้เหตุผลว่าขอเวลาทำใจสักหนึ่งปี แต่เจ้าเสี่ยมันรอไม่ไหวเลยไปคว้าลูกสาวของอีกบ้านมา ได้ทั้งผู้หญิง ได้ทั้งเงิน เพราะฝังนั้นไม่กลวงเหมือนนายหัวบัญชร”พสุธาชะงักไปตั้งแต่ประโยคแรก อารมณ์กรุ่นโกรธวันนั้นที่เขาแสดงออกมาคงทำให้สาวน้อยเสียใจ เพราะสองวันที่ผ่านมายังมีสีหน้าไม่ค่อยดีแม้ว่าเขาจะรีดเค้นพลังทางเพศบนเตียงมากแค่ไหนก็เหมือนจำใจทำ“แล้วหล่อนมาทำอะไรที่โรงแรม”ซี้ดดดดด!!เสียงสูดบุหรี่ก่อนพ่นออกมา

DMCA.com Protection Status