บทที่ 28
วันหยุดยามบ่ายของวันอาทิตย์ ฝนตกยังพรำลงมาตั้งแต่เช้ามืด ร่างบอบบางยืนนิ่งตรงหน้าต่างห้องนอน มองบ้านเก่าหลังเล็กของพสุธา
สภาพภายนอกทรุดโทรมจนแทบเข้าไปไม่ได้ มือเรียวกำขอบหน้าต่างครุ่นคิดข้อตกลง ประโยคยังดังก้องอยู่ในหัวไม่สามารถสลัดมันออกไปได้
รุนแรงและป่าเถื่อน! ระยะเวลาหนึ่งปี!
และที่เธอแปลกใจอีกอย่างคงจะความร่ำรวยของพสุธาที่เขาต้องแลกมาเพื่อให้ได้ตัวเธอ ซึ่งอันที่จริงมันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเธอเองก็รู้ตัวดีว่าเธอพร้อมเสมอสำหรับพี่แทน
ร่างเล็กโอบกอดตัวเอง ริมฝีปากหนาร้อนแรงแผดเผา ไม่มีความอ่อนหวานหลงเหลือ ตอนนี้เธออายุยี่สิบเจ็ด เธอรู้ว่าพสุธาต้องการอะไร
ร่างบอบบางนั่งลงที่ขอบเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์มาจากบนโต๊ะเล็ก เลื่อนเบอร์โทรศัพท์ที่เธอขอมาจากป้าพรพิศแล้วพิจารณาอีกครั้ง
ถ้าเธอกดเบอร์โทรออกนั่นหมายความว่าบางอย่างกำลังเปลี่ยนเธอไปตลอดกาล แต่ถ้าเธอเลือกที่จะไม่กด เธอจะอยู่ที่เดิมกับความเปลี่ยวเหงาในยามค่ำคืน
ใจนึกภาพในอีกหนึ่งปีนับจากนี้ ข้างกายเธอจะมีพี่แทนอยู่เคียงข้างให้ความอบอุ่นบนเตียง เธออาจเก็บเกี่ยวความทรงจำไว้เพื่อในวันที่เธอเปลี่ยวเหงาเธอจะมีบางสิ่งให้ระลึกถึง
ติ๊ด ติ๊ด!!
ฝ่ามือชื่นเหงื่อกำโทรศัพท์แน่น พยายามควบคุมสติไว้ให้มากที่สุด
“สวัสดีครับ”
เสียงทุ้มต่ำในโทรศัพท์ก้องกังวาลกว่าปกติ
“ฉันเองค่ะ ฉันโทรมาบอกว่าเรื่องที่คุยไว้..”
“ว่าไง”
“ฉันตกลง”
“ดี พรุ่งนี้ย้ายของมาอยู่ที่โรงแรมได้เลย”
“ไม่ ไม่ได้ ฉันมีป้าพิศและน้องสาวที่ต้องดู”
“ไม่ บัวต้องย้ายออกมา พี่ไม่ยอมให้แม่พี่รู้เด็ดขาดว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่”
เธอเม้มปากนิ่งไม่พอใจ แต่อำนาจต่อรองของเธอช่างน้อยนิด
“ถ้างั้นบัวขอกลับมานอนบ้านอาทิตย์ละครั้ง”
“ได้ อ้อ บัวต้องออกจากงานแล้วมาอยู่กับพี่เต็มเวลา”
“แต่ฉันต้องทำงาน ฉันมีรายจ่ายที่ต้องจ่าย!”
“บ้าน่ะสิ นี่บัวคิดว่าพี่จะยอมให้ผู้หญิงของพี่ต้องออกไปทำงานอย่างนั้นเหรอ สิ่งที่พี่ต้องการจากบัวคือ เต็มเวลา นั่นหมายความว่าเมื่อไรที่พี่แข็งโด่ขึ้นมาอย่างเช่นตอนนี้แค่ได้ยินเสียงบัว พี่ก็แข็งจนเจ็บเป็นบ้าแล้ว พี่ยังต้องรอให้บัวทำงานเสร็จแล้วถึงค่อยเอากันอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทาง!! บัวต้องออกจากงาน พี่จะจัดการค่าใช้จ่ายในบ้านเอง”
เสียงทุ้มดังก้องพูดยืดยาวจนเธอแทบจับใจความไม่ได้ แต่โดยรวมที่เขาหมายถึงก็คือให้เธออกจากงานและเขาจะออกค่าใช้จ่ายของบ้านหลังนี้เอง
“ฉันไม่อยากรบกวนคุณ เอาแบบนี้แล้วกัน ฉันทำงานบนสำนักงานก็ได้”
“บัว!! พี่ไม่ใช่พวกสมภารกินไก่วัดหรอกนะ ที่พอพักเที่ยงก็รีบพาเลขาสาวขึ้นห้องอย่างเร่งรีบ ออกจากงานสะ! แล้วพรุ่งนี้เก็บเสื้อผ้ามาอยู่ที่โรงแรม พี่พูดแค่นี้”
ตากลมโตมองโทรศัพท์ที่พสุธาวางสายไปแล้วหลังจากทิ้งคำสั่งสุดท้ายไว้
บ้าจริง
คนร่างเล็กสบถในใจอีกแล้วทั้งที่ไม่เคยทำ เพราะเขาคนเดียว พี่แทน
แต่ในเมื่อตัดสินใจไปแล้ว เธอควรออกจากเกราะกำบังที่ใช้ป้องกันตัวเอง ในเมื่อเวลานี้ไม่มีอะไรจะเสีย ไม่ว่าชื่อเสียงหรือเงินทอง มีแต่ได้กับได้ ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะเดินหน้าต่อไปเป็นไงเป็นกัน
เวลาเดิมของเช้าวันจันทร์ที่บุษยามักมาทำงานเป็นประจำไม่เคยขาดมาหลายปีแล้ว เพียงแต่วันนี้เธอหอบหิ้วกระเป๋ามาด้วยหนึ่งใบสำหรับการอยู่หนึ่งสัปดาห์แล้วตั้งใจว่าจะกลับไปซักที่บ้านในวันอาทิตย์
“อ้าว พี่บัวคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ”
ใบหน้าหวานแดงซ่านเมื่อเดินมาถึงหน้าแผนกต้อนรับ เธอโทรศัพท์ขึ้นไปหาพสุธาแล้วแต่เขาไม่รับสาย
“พะ พี่มีธุระกับคุณพสุธา รู้ไหมเขาอยู่ห้องไหน”
บุษยากัดฟัน ซึ่งอันที่จริงคราแรกเธออยากจะเข้ามาอย่างเงียบ ๆ แต่เมื่อคิดไปคิดมาอย่างไรเสียคนในโรงแรมย่อมรู้อยู่ดี ฉะนั้นเธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปถามเลยจะดีกว่า
“อ้อ นายหัวสั่งไว้แล้วค่ะ”
มือเล็กรับกุญแจมาจากน้องแผนกต้อนรับพวงแก้มแดงก่ำ แล้วรีบเดินตรงไปยังลิฟต์ทันที มองเลขบนกุญแจห้องแบบคีย์การ์ด เป็นห้องชั้นบนขนาดใหญ่มีห้องรับแขกในตัว
ก้าวเท้าเข้าลิฟต์หัวใจเต้นรัวจนต้องยกมือขึ้นทาบตรงหน้าอกด้านซ้ายขณะที่กดชั้นบนแผงควบคุมภายในลิฟต์ เลือดสูบฉีดทั่วร่างเมื่อลิฟต์พาเธอขึ้นสู่ที่สูง
ติ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดออกเธอจึงพาร่างผอมบางและกระเป๋าเดินไปห้องพัก หยุดยืนหน้าห้องเพียงครู่หนึ่งจึงตัดสินใจเคาะประตูแทนการใช้คีย์การ์ด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
เงียบสนิท
คิ้วเรียวสวยขมวดครุ่นคิด หรือว่าเขาจะไม่อยู่ข้างในห้อง บุษยาจึงใช้คีย์การ์ด เวลาห้านาฬิกายังเช้ามืดเกินกว่าที่พระอาทิตย์จะตื่นนอน แสงภายในห้องแทบไม่มี เครื่องปรับอากาศเดินเงียบ แต่เธอได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วเบามาจากทางห้องนอน
พี่แทนหลับสนิท!
บุษยาวางกระเป๋าลงที่พื้นหน้าห้องแล้วปิดประตูถอดรองเท้าออก เดินเท้าเปล่าตรงไปยังห้องนอนที่อยู่ถัดไปแบบไม่มีประตูกั้นห้อง
ร่างของชายร่างสูงใหญ่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง กายแกร่งนอนกระสับกระส่ายไปมา เธอเห็นแผ่นหลังเขาขยุกขยิกและมีเสียงร้องในลำคอ
เพ่งมองให้ดีจึงเห็นว่าร่างแกร่งกำลังละเมอและค่อนข้างฝันร้าย ตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ด้วยความอยากรู้กระทั่งใกล้กับตัวเขา ผ้าห่มเลื่อนลงจากลำตัวคลุมสะโพกสอบเปลือยเปล่า แผ่นหลังกว้างสีเข้มเลือนลางท่ามกลางความมืดสลัว
มือเล็กเปิดไฟหัวเตียง หน้าคมเข้มบิดเบี้ยวคล้ายเจ็บปวด คิ้วขมวดเป็นปม ไรผมชื้นเหงื่อแม้ว่าเครื่องปรับอากาศทำงานจนเย็นฉ่ำ ไหล่กว้างของเขาสะท้านขึ้นลง ดวงตาหวานคมกวาดสายตามองเหงื่อไหลลงบนบ่าไปบนแผ่นหลังที่มีแต่รอยแผลเป็น
มือเล็กยกขึ้นอุดปากตัวเองกลั้นเสียงร้องตกใจ ก้มลงไปใกล้ดูให้ถนัดตา รอยแผลเป็นริ้วใหญ่เล็กจำนวนมากแสดงว่าตอนที่ได้รับบาดเจ็บไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีหรืออาจจะปล่อยให้มันเป็นแผลติดเชื้อรุนแรง
นิ้วสั่นเทายกขึ้นแตะที่รอยแผล ใจเจ็บปวดเมื่อเห็นและรู้ว่าแผลพวกนี้คงเกิดขึ้นเมื่อตอนที่เขาลงเรือเถื่อน พ่อของเธอทำให้เขาเจ็บปวดซึ่งมันสมควรแล้วที่เขาจะโกรธแค้น
“ว้าย!!”
ร่างบางถูกคนร่างโตโอบเข้าเอวเหวี่ยงกลับลงที่นอนพร้อมกับมีดที่ยกขึ้นจ่อตรงลำคอระหง ตากลมเบิกกว้างตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก จ้องหน้าแกร่งบิดเบี้ยวตามแรงอารมณ์ มือสีเข้มกำมีดเล็กแน่นจนขึ้นเส้นเอ็น ฝ่ามืออีกข้างกดไหล่เล็กของเธอไว้จมลงฟูก มือเล็กจับข้อมือแกร่งสบตาสีฟ้าจัดเข้มข้น
“นายหัว”
เธอจ้องดวงตาที่กระพริบถี่ก่อนที่คนร่างโตจะสบถออกมาแล้วถอยออกจากร่างเล็กวางมีดไว้ที่หัวเตียงดั่งเดิม
พสุธายังนัยน์ตาพร่าเลือน ฝันร้ายเหมือนเช่นเคย ฝันที่ตามหลอกหลอนจากการอยู่บนท้องทะเลมานานเกินไป ในฝันเขากำลังจ้วงแทงมีดพกกรีดลงเนื้อแน่นมัดกล้ามหนึ่งในคนบนเรือที่มีชะตาเช่นเดียวกันกับเขา แต่เขาต้องแทงเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดต่อไป
“พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ”
คนร่างเล็กลุกนั่ง ใบหน้าหวานแม้ยังตกใจแต่เธอห่วงใยคนร่างโตมากกว่า ขยับเข้าไปใกล้เอื้อมมือสัมผัสท่อนแขนเปียกเหงื่อ
“ไม่เป็นไรค่ะ บัวหายตกใจแล้ว”
สติเริ่มกลับมาอีกครั้ง นัยน์ตาสีฟ้ากวาดตามองแสงจากพระอาทิตย์ยามเช้าสีทอง ลมหายใจเริ่มกลับมาเป็นปกติ ก้มลงมองมือเล็กบนท่อนแขนกำยำ มือเล็กค่อนข้างหยาบ เขาจับมือเธอดึงแรงเข้ามาใกล้
“เดี๋ยวค่ะนายหัว”
“เลิกเรียกว่านายหัวได้แล้ว ทำไมมือบัวเป็นแบบนี้”
คนร่างเล็กขืนแรงดึงมือกลับแต่สู้แรงไม่ไหว ดึงจนเธอเกือบขึ้นไปนั่งบนตัก
“ปล่อยได้แล้วค่ะ มันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ก็แค่ สากนิดหน่อย”
เขาเงยหน้าขึ้นจากมือเล็ก ลูบไล้ทั่วฝ่ามือของเธอ ใช้นิ้วหัวแม่มือลูบฝ่ามือของเธอจนทั่ว
กายแกร่งเปลือยเปล่าทั้งตัว มีเพียงผ้าห่มผืนเดียวที่ห่อหุ้มสะโพกสอบอยู่ หน้าหวานแดงซ่านจนถึงลำคอรีบเบี่ยงตัวออก แต่คนร่างโตกลับโถมน้ำหนักลงบนร่างเธอทันทีจนนอนหงาย
“เดี๋ยวค่ะ นายหัว นี่มันเช้าแล้ว คุณต้องไปทำงาน”
“บอกให้เลิกเรียกนายหัวได้แล้ว”
ดวงตากลมเบิกกว้างไหวระริกยามใบหน้าแกร่งลอยอยู่ด้านบน ลมหายใจรดกันและกัน ผมหยักศกสีเข้มย้อยลงมาปรกใบหน้าคม ผมเขายาวกว่าที่คาดไว้ จมูกหักทำให้หน้าแกร่งดูกร้าวกระด้างแต่กลับส่งให้ใบหน้าหล่อดิบเถื่อน
ทุกอย่างพร่าเลือนยามใบหน้าเคลื่อนลงมา แสงจากโคมไฟสีเหลืองนวลทำให้เกิดเงาพาดหน้าคมเข้ม
จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็หมุนวนด้วยอารมณ์พิศวาสแรงกล้า ยามริมฝีปากหนาอุ่นจนร้อนครอบครองเธอทั้งหมด
บทที่ 29**อกแกร่งแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยงเพียงโน้มศีรษะลงครอบครองริมฝีปากเย้ายวนที่เขาเฝ้าฝันถึงเสมอ มือแกร่งรวบข้อมือเล็กไว้ในมือข้างเดียวดันขึ้นสูงเหนือศีรษะ กดแน่นบังคับให้เธอเปิดปากรับลิ้นสาก กวาดไล้ทุกอณูของโพรงหวานฉ่ำเสียงครางหวานใสเล็ดลอดออกมาจากลำคอระหง ปากหนาวนเวียนจูบแล้วจูบเล่าจากเนิบช้าเป็นหนักหน่วงและรุนแรงโถมน้ำหนักร่างเปลือยสีเข้มกดทับร่างบอบบางเล็กของหญิงสาว ความร้อนแรงจากความโหยหาที่ฝังอยู่ในกายมานานนับสิบปีได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรงและดิบเถื่อน“อุ๊ย!”เสียงหวานอุทานออกมาสะดุ้งร่างยามมือสีเข้มกระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวจนกระดุมขาดร่วง เปิดเปลือยอกสล้าง“นอนคว่ำบัว”มือสีเข้มจับร่างเล็กพลิกนอนคว่ำคร่อมขากดทับเธอไว้ มือแกร่งเร่งดึงยางรัดผมออก ปล่อยเส้นผมดกหนาแผ่ยาวสยาย“ผมบัวยาวกว่าเมื่อก่อน”แควก!มือดึงเสื้อเชิ้ตตัวเล็กออก ปลดตะขอเสื้อในด้วยแรงของชายหนุ่มฉกรรจ์จนขาดติดมือมือหยาบหนาปัดผมออกจากแผ่นหลัง เคลื่อนใบหน้าเข้มลงพรมจูบขบเม้มไปทั่วกายสาว วาดมือไปตามส่วนเว้าโค้งสู่เอวคอดกิ่วลงไปยังสะโพกผายงอนงาม“บัวตัวเล็กมาก”ความผอมบางของคนใต้ร่างทำให้เขาแปลกใจ แต่อารมณ์ดิบเถื
บทที่ 30**“พี่แทน เดี๋ยวก่อน อ่า อ่า อื้อ”เสียงหวานเล็กร้องไม่เป็นส่ำ ครางกระเส่ายิ่งทำให้คนตัวโตพอใจ สอดนิ้วเข้าทางแคบ สำรวจเตรียมพร้อมสำหรับเอ็นร้อนใหญ่ นิ้วรูดผ่านจุดกระสันแสนอ่อนไหวภายในลิ้นตวัดเม็ดเล็กเลียไปทั่วจนน้ำหวานฉ่ำเยิ้มคนร่างโตหน้ามืดไปกับกลิ่นและรสชาติ ลงแรงขบเนินสวาทกัดแผ่วเบาพร้อมนิ้วกดคลึงเม็ดกลางร่องรัก“พี่แทน! อ่า กรี๊ด”เสียงหวานกรีดร้องดังกว่าการสุขสมครั้งแรก กายแกร่งครางทุ้มในลำคอพึงพอใจ ลิ้นตวัดไล้ปลอบประโลมจนเนินเนื้อบรรเทาแรงกระตุกพสุธาเคลื่อนกายไปยังลิ้นชักหัวเตียง หยิบถุงยางกับเจลหล่อลื่นออกมา กลับมานั่งข้างคนร่างเล็กที่เอนตัวยันกายขึ้นจ้องมองอย่างสนใจ“ทำแบบนี้นะ คราวหน้าจะให้ทำเอง”ตาหวานเหลือบขึ้นจ้องหน้าคมเข้มก่อนหลุบตาลงจ้องลำใหญ่แข็งชัน ท่อนเนื้อแกร่งดุดันโค้งงอเล็กน้อย ปลายหัวฉ่ำน้ำ มือแกร่งฉีกถุงยางหยิบออกมาสวมได้เพียงครึ่งลำ“ไม่ต้องรูดลงหมดเหรอคะ”เขายิ้มมุมปากแล้วดันร่างเล็กเธอลงนอน จับข้อเท้าจัดท่าเพื่อให้เข้าได้ถนัด แต่พื้นนิสัยอยากรู้อยากเห็นทำให้ยันกายขึ้นมองยามเขาบีบเจลหล่อลื่นลงลำรัก“ทำไมต้องใช้ด้วยคะ”ไหล่กว้างกำยำสะท้านกลั้นหัวเราะ
บทที่ 31ปัง!!นายหัวกระแทกประตูปิดใส่หน้า เดินเลี่ยงเปิดหน้าต่างในส่วนของห้องนั่งเล่น ยืนสูบบุหรี่แล้วเหลือบตามองเตียงนอนที่มีเงาตะคุ่มร่างบางของสาวน้อย ผ้าห่มขยุกขยิกแสดงว่าคนร่างเล็กตื่นแล้วแต่ไม่กล้าลุกออกมา พสุธายกมุมปากยิ้มก่อนชะงักนิ่งไอ้แทน นี่มึงกำลังทำบ้าอะไรอยู่ มึงนอนกับบัวเพราะต้องแก้แค้น ที่ให้ความหวังมึงแต่สุดท้ายก็เลือกคนอื่นขณะที่มึงลำบากบนเรือนรกแต่เมื่อเช้ามันดีเกินไป กระแสไฟแล่นวาบไปทั่วร่างกายยามสุขสม และในชั่วขณะหนึ่งถึงขนาดต้องการดึงถุงยางอนามัยออก ต้องการสัมผัสร่องสวาทนุ่มนิ่มโดยไม่มีสิ่งใดขวางกั้น แล้วปลดปล่อยเข้าสู่กายสาว ฝังเชื้อพันธุ์ขาวขุ่นจนเธอตั้งครรภ์หน้าคมเข้มขุ่นมัวขึ้น โมโหตัวเองที่ปล่อยให้ความรู้สึกชักนำเตลิดเกินควบคุม แต่ไม่แล้ว ต่อไปนี้เขาจะทำให้แน่ใจว่าเธอเองต่างหากที่จะต้านทานเขาไม่ได้ เขาจะทำให้บุษยาตกหลุมรักเขาอีกครั้ง และเขาจะเป็นฝ่ายทิ้งเธอไปมือแกร่งดับบุหรี่ลงจานรอง สาวเท้าไปยังเตียงใหญ่ในห้อง นั่งลงขอบเตียงมองร่างเล็กนอนคลุมโปงนิ่ง มือใหญ่คว้าผ้าห่มคลุมศีรษะออก เห็นหน้างามนอนหน้าตื่นอยู่ข้างใน“ทำไมนายหัวไม่ไปทำงานเสียที อุบ อื้อ”คนร่า
บทที่ 32บุษยามองอาหารที่พสุธาสั่งมื้อเที่ยงขึ้นมาให้เธอ ในวันปกติเธอจะทานข้าวราดแกงง่าย ๆ ที่โรงแรมจัดไว้ให้พนักงาน แต่ดูอาหารบนโต๊ะแล้วเธอไม่มีทางทานได้หมดติ๊ด ติ๊ด!!“ค่ะ”“อาหารไปส่งหรือยังครับ”“มาแล้วค่ะ แต่มันเยอะเกินไป วันหลังบัวขอสั่งเองนะคะ”“ไม่ได้ พี่จะเป็นคนสั่งให้ ทานให้เยอะ ๆ นะ คืนนี้ยังต้องใช้แรง”“คืนนี้!! ไม่ค่ะ บัวไม่ไหว ขอพักก่อน”“งั้นพี่จะขอไปตรวจก่อนว่าไหวหรือเปล่า อ้ออีกเรื่อง พี่จองสปาของโรงแรมไว้ให้ ลงไปใช้นะครับ”บุษยายังนั่งหน้าเหวอใส่โทรศัพท์ที่ชายหนุ่มวางหูไปได้สักพักแล้ว จองสปาไว้ให้ เขาจะให้เธอทำอะไรอีกนะ?“อะไรนะคะ!!”“ค่ะ นายหัวจองแบบจัดเต็มไว้ให้ค่ะ มีทั้งนวดตัว นวดฝ่าเท้า มีเรื่องลงสมุนไพรดูแลผิวพรรณ ส่วนสุดท้ายจะเป็นการแว็กซ์ขนค่ะ”หน้าหวานแดงซ่าน นายหัวของพวกคุณโรคจิตขนาดไหนถึงได้จองคอร์สบ้าบอให้เธอ“ไม่ค่ะ ไม่เอา ไม่ทำสักอย่าง”“งั้นคุณบัว ลองโทรไปถามนายหัวไหมคะ ทางร้านเองก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง”ร่างเล็กหมุนตัวหันหลังให้พนักงานขณะที่ยกโทรศัพท์ขึ้น“ว่าไงครับบัว”“พี่แทนคะ พี่แทนรู้หรือเปล่าว่าจองคอร์สอะไรไปบ้าง”“รู้สิครับ ทำตามนั้นเลยนะ พี่ชอบ”“ฮะ
บทที่ 33**หน้าเล็กเอียงคอมองมือยังกุมสาบเสื้อเข้าไว้ด้วยกัน แต่คนร่างโตพลันอุ้มเธอขึ้นจากพื้นแล้วตรงไปยังห้องอาบ“เดี๋ยวก่อน บัวยังไม่ทันตกลง”“บัวต้องตามใจพี่อยู่แล้ว”พสุธาใช้เท้าเตะประตูห้องน้ำออกแล้ววางร่างหญิงสาวลงข้างอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่สำหรับห้องวีไอพีมือแกร่งเร่งรีบถอดของตัวเองอย่างหน้าไม่อาย หน้าหวานแดงซ่านหันหลังหนีทันที แว่วเสียงน้ำไหลลงอ่าง ตามมาด้วยเสียงร่างใหญ่ลงไปนั่งในอ่าง“เร็ว ๆ สิ คนสวย พี่อยากจะเห็นเต็มทนแล้ว”บุษยาได้ยินเสียงเร่งรัดแหบพร่า จึงค่อยถอดเสื้อออกก่อนแขวนไว้บนราว ตามด้วยกางเกงผ้าสีเข้ม ถอดชั้นในชิ้นบนก่อนแล้วจึงถอดชิ้นล่างแขวนไว้ด้วยกันเป็นระเบียบ ยังไม่กล้าหันกลับไปจึงหย่อนเท้าในอ่างอาบน้ำที่น้ำเริ่มขึ้นมาถึงเกือบกลางอ่างด้วยความอายเมื่อก้าวลงน้ำจึงรีบย่อตัวจุ่มลงในน้ำทันที จากนั้นค่อยหันกลับมาหาพสุธาที่นั่งยิ้มอยู่อีกมุมอ่างแต่ดวงตาสีฟ้าล้ำลึก“พี่อยากเห็นที่ไปแว็กซ์มา”“ไม่ได้ มันน่าอายเกินไป”“อายทำไม ในเมื่อเดี๋ยวพี่ก็ต้องเห็นอยู่ดี หรือว่า บัวจะดูของพี่ก่อนผลัดกัน”“บ้าไปแล้วพี่แทน”พสุธาเคลื่อนตัวไปด้านหน้ารวบเอวเล็กของเธอไว้ยกขึ้นวางบนขอบอ่าง“ไ
บทที่ 34ร่างบางก้าวลงจากรถคันเก่าเอื้อมตัวเข้าไปในรถเพื่อหยิบกระเป๋าใบย่อมลงมาด้วย“คุณบัวมาแล้ว”เสียงป้าพรพิศร้องเรียกตรงบันไดขณะที่เธอถือกระเป๋าเดินตัดลานบ้านไปหา บุหลันน้องสาวเข็นรถออกมารอรับด้วยอีกคน“มารอรับทำไมคะ บัวไปแค่อาทิตย์เดียวเอง”“โธ่! ก็ปกติคุณบัวไม่เคยไปไหนนี่คะ มาค่ะป้าจะเอาไปซักให้”บุษยายื่นกระเป๋าส่งให้พรพิศก้มลงหอมแก้มน้องสาว“เป็นไงบ้าง ไม่เหงาใช่ไหม”“ค่ะ พี่บัวดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะคะ หน้าตาก็สดใส หรือว่าพี่บัวจะมีแฟน”“บ้าน่า! พี่จะมีใครได้ แล้วอีกอย่างใครจะมาเอาคนอย่างพี่กัน ไปเถอะเข้าบ้าน ข้างนอกร้อน”เธอเข็นรถให้น้องสาวเดินเข้าโถงกลางตรงไปยังห้องนั่งเล่น เสียงป้าพรพิศเอ่ยเห็นด้วย“จริงด้วยค่ะ ดูคุณบัวน้ำหนักขึ้น แต่ไม่มากหรอกค่ะ อย่างคุณบัวยังขึ้นได้อีกเยอะ”หน้าหวานลอบยิ้มนึกไปถึงคนร่างโตที่บังคับให้เธอทานทั้งเช้ากลางวันเย็น บางวันยังออกไปข้างนอกหาของหวานทานอีก“สงสัยที่โรงแรมเลี้ยงดีมั้งคะ”“คุณบัวกลับมาก็พอดีเลยค่ะ คุณบุหลันต้องไปอาทิตย์หน้าแล้วนะคะงานหนังสือ”“อ้าว งานเลื่อนขึ้นมาเหรอคะไหนว่ายังอีกเกือบสองเดือน”ร่างบอบบางนั่งลงบนโซฟาเล็ก รับน้ำเย็นจากป้าพ
บทที่ 35“ค่ะ บัวสบายดี”บุษยาเอ่ยตอบพสุธาเสียงดังกว่าปกติขณะที่กำลังยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนในงานหนังสือ“งั้นทานข้าวด้วยนะครับ”“บัวรู้ค่ะ คะพี่เอกรอบัวก่อน แค่นี้นะคะพี่แทน”คิ้วเข้มขมวดยุ่งทันที ‘พี่เอก’ ใครกัน ไหนบุษยาบอกว่าจะไปกับบุหลัน ทำไมถึงมีคนอื่นใจแกร่งร้อนรุ่มโทรศัพท์กลับไปหาอีกครั้งแต่ไม่มีคนรับสาย พึมพำสบถสาบานหลายชุด ท้องกำลังบิดเกลียวเต็มไปด้วยลูกไฟลามเลีย“นายหัว คุณดามาแล้วครับ”พสุธาเงยหน้าขึ้น ดารณีพาร่างอวบอิ่มเข้ามายังห้องทำงาน เดินเยื้องย่างส่ายสะโพกไปมาดั่งต้องการให้พสุธาร้อน แต่ตอนนี้เขาร้อนอยู่แล้วยิ่งกว่าร้อนด้วยไฟหึงหวงร่างสูงใหญ่จึงผุดลุกขึ้นเดินตรงไปทางสาวที่มาใหม่ เห็นใบหน้าเธอประหลาดใจก่อนที่ริมฝีปากหนาจะประทับลงปากบางที่เคลือบไปด้วยลิปสติกดึงร่างอวบอิ่มจนลอยขึ้นจากพื้นเดินกลับไปยังโต๊ะทำงาน ถลกกระโปรงของดารณีขึ้นมือล้วงเข้าข้างใต้ตรงเนินสาวแล้วถึงกลับชะงักไป รีบผละออกทันที“เป็นอะไรคะพสุธา ทำต่อสิคะ”สีหน้าดารณีสงสัย เธอมองหน้าชายหนุ่มดูว้าวุ่น เขาถอยร่างสูงห่างออกไป แล้วหันหลังเดินกลับออกไปจากห้องทำงานทันที ทิ้งเธอให้ค้างเติ่งอยู่บนโต๊ะทำงานติ๊ง!เสีย
บทที่ 36ติ๊ง!!เสียงประตูลิฟต์ทำให้เธอตื่นจากภวังค์ บุษยาเดินลากกระเป๋าไปตามทางเดินจนสุดถึงห้องสำหรับวีไอพี ยิ้มหวานบนหน้าเตรียมไว้ให้พสุธาประหลาดใจก๊อก ก๊อก!!บุษยาปล่อยมือจากหูจับกระเป๋าลูบกระโปรงเดรสตัวใหม่เช่นกัน วันนี้เธอบรรจงแต่งตัวอยู่นานกว่าจะออกจากบ้านได้ จนป้าพรพิศและบุหลันมองตามอย่างสงสัยเดรสสีส้มอ่อนลายดอกไม้อ่อนหวานทำให้เธอดูหวานกว่าเคย ผมปล่อยสยายจนยาวถึงแผ่นหลัง แต่งหน้าอ่อนพอให้ไม่ขาดสีสันแอ๊ดดด!!ในใจคิดภาพเขาทำหน้าประหลาดใจแล้วหัวเราะคิกอย่างอดไม่อยู่ทั้ง ๆ ที่ไม่ทำท่าแบบนี้มาก่อน แต่คนที่มาเปิดประตูกลับไม่ใช่ชายหนุ่มร่างโตที่เธอคิดถึงภาพตรงหน้าคือหญิงสาวร่างอวบนัยน์ตาคมอย่างคนใต้สวมชุดนอนบางจนเห็นสัดส่วนภายในจนหมดมีเสียงเอะอะดังขึ้นข้างใน เมื่อบุษยาชะโงกมองข้ามหญิงสาวคนนี้ไปเธอเห็นผู้หญิงอีกคนที่เดินมาดูเช่นกัน“นายหัว!! นายหัวเรียกมาอีกคนเหรอคะ”คนที่ยืนขวางหน้าประตูตะโกนเข้าไปด้านในก่อนเบี่ยงกายหลบให้บุษยาเดินเข้าไปในห้องที่มีสีหน้าซีดเผือดและตื่นตะลึงดวงตากลมยังเบิกกว้างมึนงง มองหญิงสาวอีกคนที่สวมเพียงชุดชั้นในสีดำตัวบางจนเห็นสีของยอดถันน้ำตาลเข้มใหญ่ กางเก
บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว
บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน้
บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน ต
บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนหน
บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้?
บทที่ 45พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”“พี่ทัด!!”“ห๊า!!”เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้อง
บทที่ 44พสุธาคว้าแก้วน้ำขึ้นมาขว้างออกไปกระทบกับผนังห้องแตกกระจายเฉียดร่างของทัดทองที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาพอดี“ตายห่า! ไอ้แทน เกิดเรื่องห่าเหวอะไรขึ้น”ทัดทองกระโดดข้ามจานอาหารเช้าและแก้วกาแฟที่ทั้งหกเลอะเทอะแตกเป็นเสี่ยงบนพื้น มองร่างนายหัวผิวเข้มพันผ้าเช็ดตัวรอบเอวนั่งถ่างขาตรงโซฟาสูบบุหรี่จนควันโขมง ผมยาวสยายยุ่งเหยิงและใบหน้ากร้าวกระด้างอารมณ์ร้ายสุด ๆ“บัวรู้เรื่องสัญญาแล้ว”เพียงเท่านั้นทัดทองก็รู้ถึงสาเหตุที่ห้องเละเทะขนาดนี้และยังร่างของสาวน้อยที่โผลุกขึ้นจากพื้นลิฟต์ด้วยน้ำตานองหน้า“กูว่าแล้วไอ้แทน”พสุธาเหลือบมองหน้าแต่ไม่พูดอะไร ใจยังอัดแน่นเจ็บร้าวทั้งรู้สึกผิด ทั้งโกรธตัวเองที่โง่เง่าและโกรธบุษยาที่ไม่ยอมอยู่กับเขาทัดทองเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้รีบโทรศัพท์ลงไปยังฝ่ายรักษาความปลอดภัย พสุธาไม่ใส่ใจในเมื่อตอนนี้เขามีเรื่องให้ใส่ใจมากพอแล้วมือแกร่งคีบบุหรี่เข้าปากแล้วอัดเข้าเฮือกใหญ่อีกครั้ง ใจนึกภาพหน้าปวดร้าวของคนร่างเล็กแล้วใจยิ่งคับแน่น ต้องการพุ่งตัวออกไปแล้วดึงกลับมาแต่เขาหยิ่งเกินไป ในเมื่อเขาไม่ผิด เขายังไม่ได้แต่งงาน และสัญญานั่นยังไม่ทันได้ลงลายมือชื่อด้วยซ้ำ“อ้
บทที่ 43บุษยาตาโตด้วยความตกใจ ตามปกติพสุธาไม่นำเอกสารหรืองานกลับมาทำที่บ้าน แต่ซองนี้เธอเห็นเขานั่งอ่านอยู่นานเมื่อคืนฉะนั้นต้องสำคัญอย่างมากมือสั่นรีบหยิบกระดาษอเนกประสงค์เช็คจนรอบจากนั้นจึงหยิบเอกสารออกมาจากซอง มีร่องรอยคราบกาแฟอย่างที่เธอคาดไว้ จึงรีบซับน้ำโดยเร็วยิ่งเป็นหมึกพิมพ์แบบน้ำ ตัวหนังสือจึงเริ่มเลอะออก สายตาพลันเผลออ่านเข้าโดยไม่ตั้งใจสัญญาร่วมค้ากับบริษัทจรัญ อ่านดูหน้าแรกไม่มีสิ่งใดผิดปกติและดูท่าเป็นความลับ จึงรีบเช็ดให้สะอาดจนทั่วกระทั่งถึงคำว่าตามรายละเอียดแต่งงานที่ได้แนบท้ายมาด้วยดวงตาคมเบิกกว้างมือสั่นเทาพลิกไปยังหน้าสุดท้ายแห่งสัญญา เธออ่านข้อตกลงที่ดูเหมือนว่าคนทั้งคู่สามารถมีบ้านเล็กได้แต่ห้ามออกนอกหน้า รวมไปถึงสามารถมีลูกกับผู้อื่นได้ยกเว้นแค่ทายาทต้องเกิดกับดารณีเท่านั้นร่างบางถึงกับเข่าทรุดใช้มืออีกข้างพยุงโต๊ะไว้ขณะที่ค่อย ๆ นั่งลงแล้วอ่านทวนอีกครั้งเผื่อเธอเข้าใจผิด แต่ถึงแม้เธออ่านถึงสามรอบข้อความในสัญญาชัดเจนจนไม่อาจหาข้อแก้ตัวให้กับพสุธาได้การประมูลท่าเรือเฟอร์รี่คงมีความสำคัญต่อเขามาก เธอไม่เคยถามเขามาก่อนว่าเขามีธุรกิจอะไรบ้าง แค่พอแตะเรื่องหลังจ
บทที่ 42“เรียบร้อยแล้วครับนายหัว”เสียงทัดทองพูดขึ้นหลังจากเดินเข้ามาในห้องทำงานระหว่างที่พสุธากำลังเซ็นต์เอกสาร เขาไม่ใส่ใจปล่อยให้บอดี้การ์ดรอก่อนจนสักพักเมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงเงยหน้าขึ้นนายหัวผิวสีเข้มหยิบซองบุหรี่จากบนโต๊ะขึ้นจุด แล้วโยนให้ทัดทองรอจนกระทั่งบอดี้การ์ดอัดควันเข้าปอดเรียบร้อยจึงค่อยเอ่ยถาม“ว่ามา”“ผู้หญิงคนนั้นเดินทางออกไปเรียบร้อยแล้วครับ”“ดี แล้วไงอีก”“จากที่สอบเค้นเห็นว่าเสี่ยยังติดใจคุณบัวไม่น้อย และค่อนข้างเกรี้ยวกราดเมื่อรู้ว่าคุณบัวย้ายมาอยู่กับนายหัว หล่อนบอกว่าคุณบัวถูกบังคับให้แต่งงานกับเสี่ย แล้วพอเกิดเรื่องก็ได้มาที่บ้านของเสี่ยเองเพื่อคืนของหมั้นทั้งหมดโดยให้เหตุผลว่าขอเวลาทำใจสักหนึ่งปี แต่เจ้าเสี่ยมันรอไม่ไหวเลยไปคว้าลูกสาวของอีกบ้านมา ได้ทั้งผู้หญิง ได้ทั้งเงิน เพราะฝังนั้นไม่กลวงเหมือนนายหัวบัญชร”พสุธาชะงักไปตั้งแต่ประโยคแรก อารมณ์กรุ่นโกรธวันนั้นที่เขาแสดงออกมาคงทำให้สาวน้อยเสียใจ เพราะสองวันที่ผ่านมายังมีสีหน้าไม่ค่อยดีแม้ว่าเขาจะรีดเค้นพลังทางเพศบนเตียงมากแค่ไหนก็เหมือนจำใจทำ“แล้วหล่อนมาทำอะไรที่โรงแรม”ซี้ดดดดด!!เสียงสูดบุหรี่ก่อนพ่นออกมาข