บทที่ 23
บุษยาเดินอ่อนระโหยมากกว่าทุกวันเมื่อได้ยินชื่อของเจ้าหนี้จากปากของทนายความ มือบางไม่สวยงามเหมือนก่อนกำซองเอกสารจนแน่นยับย่น เธอเดินขึ้นบันไดหน้าบ้านแล้วเลี้ยวไปยังห้องครัว
หยุดมองป้าพรพิศที่ยังวุ่นอยู่หน้าเตาคนเดียว ตั้งแต่เกิดวิกฤตเธอต้องลดรายจ่ายทุกทางทำให้ตอนนี้ภายในบ้านเหลือป้าพรพิศและเด็กที่ไว้คอยกวาดถูทั่วไปอีกหนึ่งคนเท่านั้น
“อ้าว คุณบัวกลับมาแล้ว ป้ายังทำกับข้าวไม่เสร็จเลยค่ะ”
บุษยาวางเอกสารลงบนโต๊ะพร้อมกระเป๋าก่อนนั่งลง เธอพยายามนิ่งคิดประโยคที่จะถามป้าพรพิศ
“คุณบัวเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
พรพิศหันกลับมาจากเตา ร่างผอมหยิบจานมาแล้วเทผัดเผ็ดปลากะพงลงไปแล้วนำมาวางบนโต๊ะ หลังจากนั้นจึงนั่งลงที่เก้าอี้ตัวถัดไป
“ป้าพิศคะ ป้าพิศอยู่กับบัวมากนานมาก บัวรักและเคารพป้าพิศเหมือนกับแม่แท้ ๆ ของบัว บัวอยากจะถามป้าพิศตรง ๆ บัวอยากให้ป้าพิศตอบบัวตรง ๆ เหมือนกันนะคะ”
เธอสังเกตใบหน้าของป้าพรพิศเจื่อนลงเล็กน้อย ทำให้เธอรู้ว่าป้าพรพิศทราบเรื่องของพสุธาแล้ว แต่จะมากขนาดไหนนั้นคงต้องถามดู
“คุณบัว ป้าอยู่ที่นี่มานานก่อนที่คุณบัวจะเกิด แล้วพอคุณบัวเกิดป้าก็เป็นคนช่วยเลี้ยงดูคุณบัวมาตลอด ป้าเองก็รักคุณบัวดั่งเป็นลูกสาวของป้าคนหนึ่ง ป้าอยากให้คุณบัวรู้ว่า ป้าไม่มีทางทำร้ายคุณบัวค่ะ”
พรพิศมองมืออันหยาบกร้านของบุษยาที่มือของเธอกุมไว้ เป็นเวลาเจ็ดปีมาแล้วที่คุณบัวทำทุกอย่างเพื่อคนในบ้าน
“ป้าพิศทราบหรือเปล่าคะว่าพี่แทนกลับมาแล้ว”
พรพิศเงยหน้าขึ้นจากมือ ใบหน้าของบุษยาเคร่งเครียดยิ่งกว่าครั้งไหนและซีดเซียว เธอบีบมือบุษยาแน่นขึ้นอีก
“ทราบค่ะคุณบัว แทนมาหาป้าเมื่อหลายวันมาแล้ว ตอนนั้นคุณบัวไปทำงานค่ะ”
“แล้วป้า ป้าพิศไม่บอกบัว?”
บุษยาชะงักไปเล็กน้อย คิ้วขมวดอย่างไม่เข้าใจ
“คุณบัวคะ วันที่แทนมา แทนอยากจะพาป้าไปจากที่นี่ แต่ป้าไม่ไป ป้าทิ้งคุณบัวไปไม่ได้ แต่ที่ป้าไม่บอกคุณบัวเพราะว่าป้าเองยังไม่แน่ใจว่านอกจากที่แทนพูดจะพาป้าไป ยังมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า”
เธอเข้าใจป้าพรพิศทันที ถ้าเธอเป็นป้าพรพิศเธอเองก็คงไม่บอกเช่นกัน เพราะพสุธาเปลี่ยนไปมาก กร้าวกระด้างเด่นชัดผสมความโกรธแค้น
“คุณบัวเจอแทนแล้วเหรอคะ แล้วแทนว่ายังไงบ้าง”
“เปล่าค่ะป้าพิศ แต่บัวเห็นพี่แทนแค่ไกล ๆ ค่ะ เลยกลับมาถามป้าพิศก่อน ป้าพิศไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ บัวคิดว่าพี่แทนคง คงไม่ได้คิดอะไรกับบัวแล้วค่ะ เรื่องสมัยเด็ก ๆ มันนานมาแล้ว เผลอ ๆ พี่แทนคงมีภรรยาไปแล้ว”
“คุณบัวคะ ป้ามีเรื่องที่ปิดบังคุณบัวมาตลอด คุณบัวมีสิทธิ์โกรธป้า เกลียดป้า เมื่อป้าเล่าให้ฟัง แต่ป้าอยากให้คุณบัวรับรู้ว่าที่ป้าทำไปเพราะไม่อยากให้คุณบัวเสียใจ”
บุษยาเอียงใบหน้าหวานมองป้าพรพิศอย่างจริงจัง นี่ยังมีเรื่องแปลกประหลาดใจอะไรอีกที่เธอต้องพบเจอในวันนี้
“แทนเขากลับบ้านมาเมื่อเจ็ดปีก่อน วันเดียวกับวันหมั้นของคุณบัวค่ะ”
“ป้าพิศ!!”
บุษยาดึงมือออกจากมือเหี่ยวย่น นั่นตอบคำถามให้เธอได้หลายอย่าง สิ่งที่พสุธากำลังทำอยู่คือการกลับมาแก้แค้น ทั้งแก้แค้นพ่อของเธอ และตัวเธอเอง
“นายหัวบัญชรทำให้แทนต้องไปอยู่บนเรือเถื่อนสามปี แต่แทนรอดชีวิตกลับมาได้ เขาไม่ให้ป้าบอกคุณบัว ซึ่งในวันนั้นป้าเองก็เห็นด้วยเพราะเป็นวันหมั้นของคุณบัว”
พรพิศสูดลมหายใจกลั้นน้ำตาคนแก่ที่ใกล้รินไหล
“แต่พอเกิดเรื่องกับนายหัวและคุณนาย บ้านเราก็มีเหตุการณ์มากมายให้แก้ปัญหาจนป้าไม่อยากบอกคุณบัว ไม่อยากเพิ่มปัญหาให้กับคุณบัวจนที่สุดป้าก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทจนกระทั่งเห็นแทนอีกครั้งค่ะ”
“ป้าพิศ ไม่ต้องร้องไห้นะคะ ถ้าพี่แทนจะพาป้าพิศไปอยู่ด้วย ป้าพิศไม่ต้องเกรงใจบัวหรือเป็นห่วงบัว บัวอยู่ได้ค่ะ ป้าพิศเองลำบากเพราะบัวมามาก ควรได้สบายเสียที พี่แทนค่อนข้างรวยแล้ว เขาไม่มีทางทำให้ป้าต้องลำบาก”
“ไม่หรอกค่ะ ป้าไม่ไปไหน จะอยู่กับคุณบัว”
“ป้าคะ!”
“เอาเถอะค่ะ เราจะมานั่งเศร้าร้องไห้แบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ คุณบัวไปล้างหน้าล้างตาเตรียมลงมาทานข้าวเย็นดีกว่า แล้วจะได้แวะเรียกคุณบุหลันด้วยค่ะ คลุกทำงานในห้องตั้งแต่กลางวันแล้ว”
บุษยาลุกขึ้นตามแรงดันของป้าพรพิศให้ร่างของเธอออกจากห้องครัว แต่ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป เธอหันกลับมาหาป้าพรพิศ
“ป้าพิศคะ บัวอยากให้ป้ารับปากบัวเรื่องหนึ่งค่ะ ป้าอย่าพูดเรื่องของบัว เรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ให้พี่แทนฟังนะคะ ถือสะว่าบัวขอร้อง”
“ทำไมคะคุณบัว”
“เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพ่อของบัว บัวจะจัดการเองค่ะ”
บุษยาไม่รอให้ป้าพิศรับปาก เดินขึ้นไปบนบ้านทันที ความคิดยังวกวนถึงพสุธา เธอไม่กล้าบอกป้าพรพิศว่าพสุธาได้ทำบางอย่างเกี่ยวกับสวนยางรวมไปถึงบ้านหลังนี้
หนี้จำนวนมหาศาลเกินกว่าที่เธอจะชำระได้ทันเวลา อันที่จริงเธอคาดว่าเธอคงไม่สามารถชำระได้เลยต่างหากแม้ว่าจะต้องทำงานส่งทั้งชีวิต
ดวงตาหวานหม่นแสงมองไปยังบ้านเก่าทรุดโทรมของคนงานตรงริมหน้าต่างห้องนอนหลังจากที่เข้ามาแล้ว ภาพความทรงจำของคืนนั้นตราตรึงประทับอยู่ในหัวใจจนยากจะลืมเลือน
พรุ่งนี้เธอจะขึ้นไปหาพสุธาและเจรจาต่อรอง ถ้าเขาต้องการบ้านหลังนี้จริง ๆ เธอคงต้องย้ายออก เงินเก็บที่มีอาจไม่พอ แต่เธอยืมบุหลันมาใช้ก่อนได้
ร่างผอมบางสะท้านเบา ๆ เมื่อนึกถึงนัยน์ตาสีฟ้า เธอต้องทำให้ได้ อย่าทำให้เขาเห็นความอ่อนแอเด็ดขาด พสุธาถูกกระทำมามากพอแล้วเธอต้องอย่าทำให้เขาเดือดร้อนใจ ถ้าเขาต้องการบ้านเธอก็ยินดีจากไป
บทที่ 24ร่างอ้วนเตี้ยนั่งทานอาหารเช้าอยู่หัวโต๊ะทำให้เธอรู้สึกคลื่นไส้ทุกครั้งที่เห็น แต่ก็จำทนต้องอยู่กับคนนี้มาหลายปีเพราะการแต่งงานด้วยเงินเป็นตัวตั้ง“นี่เสี่ย กินเบา ๆ สิ เสียงดังขนาดนี้อายเขา”“จะอายไปทำไม มีกันอยู่แค่นี้ รีบ ๆ กินเข้าเถอะฉันจะต้องรีบไป”เบญจมาศ ภรรยาของเสี่ยรังสรร รูปร่างอรชรผิวขาวอย่างคนจีนแต่ใบหน้าคมดั่งคนใต้ ลอบเบ้ปากก่อนก้มหน้าลงทานอาหารเช้าต่อ“เสี่ยครับ”เสียงทุ้มเรียกเสี่ยอย่างเกรงใจจากคนสนิทดังขึ้นหน้าประตู เธอเหลือบตามองเสี่ยรังสรรที่พยักหน้ารับ“ว่ามา มีใครยื่นประมูลบ้าง”“ก็ไม่มากครับ เพราะราคาค่อนข้างแรง แต่มีคนหนึ่งที่น่าหนักใจที่สุดเสี่ย”“ใคร?”“คุณพสุธา แบล็ค เจ้าของโรงแรมคนใหม่ครับ”เสี่ยรังสรรอึ้งไป นี่ไอ้ลูกครึ่งเฮงซวยนั่นกำลังคิดมาแย่งชิ้นปลามัน ใบหน้าอวบอูมแสยะปากยิ้มก่อนก้มหน้าทานอาหารเช้าต่อ แล้วชะงักเงยหน้ากลับไปสั่งลูกน้อง“คอยตามดูมันไว้ให้ดี อย่าให้คลาดสายตา อ้อ ส่งคนเข้าไปในโรงแรมมันด้วย ดูให้หมดลูกเมียที่แอบเก็บไว้ คนรัก คนโปรด”“ครับเสี่ย”เบญจมาศนั่งก้มหน้าทานอย่างไม่สนใจ แต่ภาพนายหัวคนใหม่ของเมือง รูปหล่อและรวยทำให้เธอสะท้านทุกคร
บทที่ 25หน้าหวานคมแดงซ่านขึ้นทีละน้อยจนแดงก่ำเพราะอับอาย ทั้งอายที่ร่างกายของตัวเองตอบสนองเพียงแค่มองตา ทั้งอายที่เธอน่ารังเกียจจนเขาต้องพูดมันออกมาเตือนสติ“ค่ะ ขอโทษด้วย”“บ้าจริง! พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ช่างเถอะ! พูดมา”เสียงเข้มห้วนกระชากทำให้ยิ่งแน่ใจว่าเขาเปลี่ยนไปจริง ๆ คงลืมความรักวัยเด็กไปแล้ว ร่างผอมบางยืดตัวขึ้นตรงเช่นเดิมแล้วดึงเอกสารในซองออกมา“ฉันเพิ่งได้รับใบทวงนี้ฉบับนี้ ฉันไม่ทราบมาก่อนว่าพ่อเอาบ้านไปจำนองไว้”พสุธาไม่ได้รับกลับมาดู เอกสารพวกนี้เขาเห็นมาหมดแล้ว ตั้งแต่ร่างเล็กแสนบอบบางเข้ามาในห้อง ร่างกายเขาตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาจนอยู่นิ่งไม่ได้ เขานั่งเคาะนิ้วเป็นจังหวะ ขยับตัวบ้างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจออกจากร่างผอมบางของเธอผอมบาง? นัยน์ตาสีฟ้าจัดเพ่งมองคนร่างเล็กตรงหน้าอีกครั้งอย่างละเอียดระหว่างที่เธอกำลังสาธยายว่าจะชำระหนี้ยังไง ผมดำดกหนามัดรวบตามระเบียบของโรงแรม ใบหน้าแต่งแต้มเล็กน้อยเท่านั้นจนแทบไม่มีสีสัน คิ้วโก่งสวยธรรมชาติ ขนตายาวงอนรับไปกับดวงตาคมรีที่เขาเคยเผลอหลงใหล จมูกเล็กโด่งรั้นปลายเล็กน้อย และริมฝีปากกว้างเย้ายวนที่เขาชอบที่สุดเขาเคยใช้เวลาไปกับก
บทที่ 26“อันที่จริง เราคุยกันก่อนก็ได้นะคะ น่าจะใช้เวลาไม่นาน นายหัวจะได้ทานข้าวอย่างสบายใจ”“ไม่มีเรื่องไหนที่เกี่ยวกับบัวแล้วพี่จะสบายใจหรอก”มือเรียวบางชะงักหยุดชั่วครู่ก่อนหยิบเอกสารออกมาจากซอง หน้าคมเข้มลอบยิ้มชื่นชมที่คนร่างเล็กสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีแม้ว่าโดนเขาพูดกระทบหลายครั้ง เขาแสร้งเหลือบตามองไปทางอื่นอย่างไม่สนใจเอกสารที่เธอพยายามดันมาตรงหน้า“นายหัวไม่ดูสักหน่อยหรือคะ อันนี้เป็นแผนชำระหนี้ที่ฉันทำมา”“มันไกลไป”ปากหนาลอบยิ้มเมื่อได้ยินเสียงคนตัวเล็กถอนหายใจอีกครั้ง แล้วเบาะด้านข้างพลันยุบตัวลงจนเขารู้สึกถึงไอร้อน เสียงหวานนุ่มดั่งน้ำผึ้งดังขึ้นใกล้ตัว เขาขยับตัวแกล้งเอามือขึ้นเท้าบนโต๊ะแต่ยิ่งทำให้ตัวเองจุกเลยจำต้องเอนตัวไปด้านหลัง“นายหัวนั่งดีดีสิคะ แบบนี้จะมองเห็นได้ยังไง”เสียงหวานเริ่มแหลมขึ้นอย่างไม่พอใจ เขาเห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้าง จมูกโด่งปลายรั้นรับกับหน้าละมุน เธอเอี้ยวหน้ากลับมาทางเขา ดวงตาคมรีปรากฎรอยขุ่นเคือง“พี่จุก สงสัยจะหิวมาก เลยต้องนั่งเอนตัว”เขาบอกเธอตรง ๆ หากแต่อาการจุกมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาหารเลย พสุธาวางมือลงข้างตัวซึ่งอยู่ด้านหลังของร่า
บทที่ 27บุษยาเสียวแผ่นหลังวาบเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูตามหลัง มองร่างแกร่งเดินกลับยังหน้าโต๊ะพยักหน้าให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมสาวร่างผอมบางเดินอย่างไม่มั่นใจตามคำสั่งของนายหัว ใจกระวนกระวายด้วยความรู้สึกบางอย่างทันทีเมื่อบุษยานั่งลง พสุธาเดินอ้อมมาด้านหลัง เท้าฝ่ามือลงบนโต๊ะด้านหน้าคล้ายโอบกอด“ไหนเปิดดูแผนการชำระหนี้สิ”มือเล็กหยิบเอกสารออกมาพยายามไม่เพ่งความสนใจไปยังใบหน้าคมเข้มที่โน้มต่ำลง กลิ่นบุหรี่เบาบางและกลิ่นฟีโรโมนเพศชายกรุ่นกำจายไปทั่วโพรงจมูกบุษยายื่นเอกสารขึ้นให้เขาแต่มือแกร่งดันลงแล้วกางบนโต๊ะใช้ลำตัวดันเก้าอี้ล้อเลื่อนให้เธอไปอยู่ชิดกับขอบโต๊ะ กักขังเธอด้วยวงแขนกำยำหัวใจดวงน้อยเต้นรัวดั่งมีชีวิตขึ้นอีกครั้งหลังจากตายด้านมาหลายปี มือทั้งสองกุมแน่นบนตักตัวเองบีบให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ฝันไป จมูกใหญ่งองุ้มเล็กน้อยเฉียดแก้มนวลแดงซ่าน ถ้าเธอได้ยินไม่ผิด เขาแอบสูดลมหายใจอยู่ด้านหลัง“สามสิบปี พี่ว่ามันนานเกินไปหน่อยนะบัว”เสียงมือแกร่งพลิกหน้ากระดาษตรงหน้าแทรกเข้ามาในห้วงอารมณ์ที่กำลังกระเจิดกระเจิง ร่างเล็กเอนกายถอยจนหน้าอกชิดขอบโต๊ะแต่กายสูงใหญ่ยังโน้มส่งน้ำหนักลงบนแผ่นห
บทที่ 28วันหยุดยามบ่ายของวันอาทิตย์ ฝนตกยังพรำลงมาตั้งแต่เช้ามืด ร่างบอบบางยืนนิ่งตรงหน้าต่างห้องนอน มองบ้านเก่าหลังเล็กของพสุธาสภาพภายนอกทรุดโทรมจนแทบเข้าไปไม่ได้ มือเรียวกำขอบหน้าต่างครุ่นคิดข้อตกลง ประโยคยังดังก้องอยู่ในหัวไม่สามารถสลัดมันออกไปได้รุนแรงและป่าเถื่อน! ระยะเวลาหนึ่งปี!และที่เธอแปลกใจอีกอย่างคงจะความร่ำรวยของพสุธาที่เขาต้องแลกมาเพื่อให้ได้ตัวเธอ ซึ่งอันที่จริงมันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเธอเองก็รู้ตัวดีว่าเธอพร้อมเสมอสำหรับพี่แทนร่างเล็กโอบกอดตัวเอง ริมฝีปากหนาร้อนแรงแผดเผา ไม่มีความอ่อนหวานหลงเหลือ ตอนนี้เธออายุยี่สิบเจ็ด เธอรู้ว่าพสุธาต้องการอะไรร่างบอบบางนั่งลงที่ขอบเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์มาจากบนโต๊ะเล็ก เลื่อนเบอร์โทรศัพท์ที่เธอขอมาจากป้าพรพิศแล้วพิจารณาอีกครั้งถ้าเธอกดเบอร์โทรออกนั่นหมายความว่าบางอย่างกำลังเปลี่ยนเธอไปตลอดกาล แต่ถ้าเธอเลือกที่จะไม่กด เธอจะอยู่ที่เดิมกับความเปลี่ยวเหงาในยามค่ำคืนใจนึกภาพในอีกหนึ่งปีนับจากนี้ ข้างกายเธอจะมีพี่แทนอยู่เคียงข้างให้ความอบอุ่นบนเตียง เธออาจเก็บเกี่ยวความทรงจำไว้เพื่อในวันที่เธอเปลี่ยวเหงาเธอจะมีบางสิ่งให้ระลึกถึงติ๊ด
บทที่ 29**อกแกร่งแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยงเพียงโน้มศีรษะลงครอบครองริมฝีปากเย้ายวนที่เขาเฝ้าฝันถึงเสมอ มือแกร่งรวบข้อมือเล็กไว้ในมือข้างเดียวดันขึ้นสูงเหนือศีรษะ กดแน่นบังคับให้เธอเปิดปากรับลิ้นสาก กวาดไล้ทุกอณูของโพรงหวานฉ่ำเสียงครางหวานใสเล็ดลอดออกมาจากลำคอระหง ปากหนาวนเวียนจูบแล้วจูบเล่าจากเนิบช้าเป็นหนักหน่วงและรุนแรงโถมน้ำหนักร่างเปลือยสีเข้มกดทับร่างบอบบางเล็กของหญิงสาว ความร้อนแรงจากความโหยหาที่ฝังอยู่ในกายมานานนับสิบปีได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรงและดิบเถื่อน“อุ๊ย!”เสียงหวานอุทานออกมาสะดุ้งร่างยามมือสีเข้มกระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวจนกระดุมขาดร่วง เปิดเปลือยอกสล้าง“นอนคว่ำบัว”มือสีเข้มจับร่างเล็กพลิกนอนคว่ำคร่อมขากดทับเธอไว้ มือแกร่งเร่งดึงยางรัดผมออก ปล่อยเส้นผมดกหนาแผ่ยาวสยาย“ผมบัวยาวกว่าเมื่อก่อน”แควก!มือดึงเสื้อเชิ้ตตัวเล็กออก ปลดตะขอเสื้อในด้วยแรงของชายหนุ่มฉกรรจ์จนขาดติดมือมือหยาบหนาปัดผมออกจากแผ่นหลัง เคลื่อนใบหน้าเข้มลงพรมจูบขบเม้มไปทั่วกายสาว วาดมือไปตามส่วนเว้าโค้งสู่เอวคอดกิ่วลงไปยังสะโพกผายงอนงาม“บัวตัวเล็กมาก”ความผอมบางของคนใต้ร่างทำให้เขาแปลกใจ แต่อารมณ์ดิบเถื
บทที่ 30**“พี่แทน เดี๋ยวก่อน อ่า อ่า อื้อ”เสียงหวานเล็กร้องไม่เป็นส่ำ ครางกระเส่ายิ่งทำให้คนตัวโตพอใจ สอดนิ้วเข้าทางแคบ สำรวจเตรียมพร้อมสำหรับเอ็นร้อนใหญ่ นิ้วรูดผ่านจุดกระสันแสนอ่อนไหวภายในลิ้นตวัดเม็ดเล็กเลียไปทั่วจนน้ำหวานฉ่ำเยิ้มคนร่างโตหน้ามืดไปกับกลิ่นและรสชาติ ลงแรงขบเนินสวาทกัดแผ่วเบาพร้อมนิ้วกดคลึงเม็ดกลางร่องรัก“พี่แทน! อ่า กรี๊ด”เสียงหวานกรีดร้องดังกว่าการสุขสมครั้งแรก กายแกร่งครางทุ้มในลำคอพึงพอใจ ลิ้นตวัดไล้ปลอบประโลมจนเนินเนื้อบรรเทาแรงกระตุกพสุธาเคลื่อนกายไปยังลิ้นชักหัวเตียง หยิบถุงยางกับเจลหล่อลื่นออกมา กลับมานั่งข้างคนร่างเล็กที่เอนตัวยันกายขึ้นจ้องมองอย่างสนใจ“ทำแบบนี้นะ คราวหน้าจะให้ทำเอง”ตาหวานเหลือบขึ้นจ้องหน้าคมเข้มก่อนหลุบตาลงจ้องลำใหญ่แข็งชัน ท่อนเนื้อแกร่งดุดันโค้งงอเล็กน้อย ปลายหัวฉ่ำน้ำ มือแกร่งฉีกถุงยางหยิบออกมาสวมได้เพียงครึ่งลำ“ไม่ต้องรูดลงหมดเหรอคะ”เขายิ้มมุมปากแล้วดันร่างเล็กเธอลงนอน จับข้อเท้าจัดท่าเพื่อให้เข้าได้ถนัด แต่พื้นนิสัยอยากรู้อยากเห็นทำให้ยันกายขึ้นมองยามเขาบีบเจลหล่อลื่นลงลำรัก“ทำไมต้องใช้ด้วยคะ”ไหล่กว้างกำยำสะท้านกลั้นหัวเราะ
บทที่ 31ปัง!!นายหัวกระแทกประตูปิดใส่หน้า เดินเลี่ยงเปิดหน้าต่างในส่วนของห้องนั่งเล่น ยืนสูบบุหรี่แล้วเหลือบตามองเตียงนอนที่มีเงาตะคุ่มร่างบางของสาวน้อย ผ้าห่มขยุกขยิกแสดงว่าคนร่างเล็กตื่นแล้วแต่ไม่กล้าลุกออกมา พสุธายกมุมปากยิ้มก่อนชะงักนิ่งไอ้แทน นี่มึงกำลังทำบ้าอะไรอยู่ มึงนอนกับบัวเพราะต้องแก้แค้น ที่ให้ความหวังมึงแต่สุดท้ายก็เลือกคนอื่นขณะที่มึงลำบากบนเรือนรกแต่เมื่อเช้ามันดีเกินไป กระแสไฟแล่นวาบไปทั่วร่างกายยามสุขสม และในชั่วขณะหนึ่งถึงขนาดต้องการดึงถุงยางอนามัยออก ต้องการสัมผัสร่องสวาทนุ่มนิ่มโดยไม่มีสิ่งใดขวางกั้น แล้วปลดปล่อยเข้าสู่กายสาว ฝังเชื้อพันธุ์ขาวขุ่นจนเธอตั้งครรภ์หน้าคมเข้มขุ่นมัวขึ้น โมโหตัวเองที่ปล่อยให้ความรู้สึกชักนำเตลิดเกินควบคุม แต่ไม่แล้ว ต่อไปนี้เขาจะทำให้แน่ใจว่าเธอเองต่างหากที่จะต้านทานเขาไม่ได้ เขาจะทำให้บุษยาตกหลุมรักเขาอีกครั้ง และเขาจะเป็นฝ่ายทิ้งเธอไปมือแกร่งดับบุหรี่ลงจานรอง สาวเท้าไปยังเตียงใหญ่ในห้อง นั่งลงขอบเตียงมองร่างเล็กนอนคลุมโปงนิ่ง มือใหญ่คว้าผ้าห่มคลุมศีรษะออก เห็นหน้างามนอนหน้าตื่นอยู่ข้างใน“ทำไมนายหัวไม่ไปทำงานเสียที อุบ อื้อ”คนร่า
บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว
บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน้
บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน ต
บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนหน
บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้?
บทที่ 45พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”“พี่ทัด!!”“ห๊า!!”เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้อง
บทที่ 44พสุธาคว้าแก้วน้ำขึ้นมาขว้างออกไปกระทบกับผนังห้องแตกกระจายเฉียดร่างของทัดทองที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาพอดี“ตายห่า! ไอ้แทน เกิดเรื่องห่าเหวอะไรขึ้น”ทัดทองกระโดดข้ามจานอาหารเช้าและแก้วกาแฟที่ทั้งหกเลอะเทอะแตกเป็นเสี่ยงบนพื้น มองร่างนายหัวผิวเข้มพันผ้าเช็ดตัวรอบเอวนั่งถ่างขาตรงโซฟาสูบบุหรี่จนควันโขมง ผมยาวสยายยุ่งเหยิงและใบหน้ากร้าวกระด้างอารมณ์ร้ายสุด ๆ“บัวรู้เรื่องสัญญาแล้ว”เพียงเท่านั้นทัดทองก็รู้ถึงสาเหตุที่ห้องเละเทะขนาดนี้และยังร่างของสาวน้อยที่โผลุกขึ้นจากพื้นลิฟต์ด้วยน้ำตานองหน้า“กูว่าแล้วไอ้แทน”พสุธาเหลือบมองหน้าแต่ไม่พูดอะไร ใจยังอัดแน่นเจ็บร้าวทั้งรู้สึกผิด ทั้งโกรธตัวเองที่โง่เง่าและโกรธบุษยาที่ไม่ยอมอยู่กับเขาทัดทองเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้รีบโทรศัพท์ลงไปยังฝ่ายรักษาความปลอดภัย พสุธาไม่ใส่ใจในเมื่อตอนนี้เขามีเรื่องให้ใส่ใจมากพอแล้วมือแกร่งคีบบุหรี่เข้าปากแล้วอัดเข้าเฮือกใหญ่อีกครั้ง ใจนึกภาพหน้าปวดร้าวของคนร่างเล็กแล้วใจยิ่งคับแน่น ต้องการพุ่งตัวออกไปแล้วดึงกลับมาแต่เขาหยิ่งเกินไป ในเมื่อเขาไม่ผิด เขายังไม่ได้แต่งงาน และสัญญานั่นยังไม่ทันได้ลงลายมือชื่อด้วยซ้ำ“อ้
บทที่ 43บุษยาตาโตด้วยความตกใจ ตามปกติพสุธาไม่นำเอกสารหรืองานกลับมาทำที่บ้าน แต่ซองนี้เธอเห็นเขานั่งอ่านอยู่นานเมื่อคืนฉะนั้นต้องสำคัญอย่างมากมือสั่นรีบหยิบกระดาษอเนกประสงค์เช็คจนรอบจากนั้นจึงหยิบเอกสารออกมาจากซอง มีร่องรอยคราบกาแฟอย่างที่เธอคาดไว้ จึงรีบซับน้ำโดยเร็วยิ่งเป็นหมึกพิมพ์แบบน้ำ ตัวหนังสือจึงเริ่มเลอะออก สายตาพลันเผลออ่านเข้าโดยไม่ตั้งใจสัญญาร่วมค้ากับบริษัทจรัญ อ่านดูหน้าแรกไม่มีสิ่งใดผิดปกติและดูท่าเป็นความลับ จึงรีบเช็ดให้สะอาดจนทั่วกระทั่งถึงคำว่าตามรายละเอียดแต่งงานที่ได้แนบท้ายมาด้วยดวงตาคมเบิกกว้างมือสั่นเทาพลิกไปยังหน้าสุดท้ายแห่งสัญญา เธออ่านข้อตกลงที่ดูเหมือนว่าคนทั้งคู่สามารถมีบ้านเล็กได้แต่ห้ามออกนอกหน้า รวมไปถึงสามารถมีลูกกับผู้อื่นได้ยกเว้นแค่ทายาทต้องเกิดกับดารณีเท่านั้นร่างบางถึงกับเข่าทรุดใช้มืออีกข้างพยุงโต๊ะไว้ขณะที่ค่อย ๆ นั่งลงแล้วอ่านทวนอีกครั้งเผื่อเธอเข้าใจผิด แต่ถึงแม้เธออ่านถึงสามรอบข้อความในสัญญาชัดเจนจนไม่อาจหาข้อแก้ตัวให้กับพสุธาได้การประมูลท่าเรือเฟอร์รี่คงมีความสำคัญต่อเขามาก เธอไม่เคยถามเขามาก่อนว่าเขามีธุรกิจอะไรบ้าง แค่พอแตะเรื่องหลังจ
บทที่ 42“เรียบร้อยแล้วครับนายหัว”เสียงทัดทองพูดขึ้นหลังจากเดินเข้ามาในห้องทำงานระหว่างที่พสุธากำลังเซ็นต์เอกสาร เขาไม่ใส่ใจปล่อยให้บอดี้การ์ดรอก่อนจนสักพักเมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงเงยหน้าขึ้นนายหัวผิวสีเข้มหยิบซองบุหรี่จากบนโต๊ะขึ้นจุด แล้วโยนให้ทัดทองรอจนกระทั่งบอดี้การ์ดอัดควันเข้าปอดเรียบร้อยจึงค่อยเอ่ยถาม“ว่ามา”“ผู้หญิงคนนั้นเดินทางออกไปเรียบร้อยแล้วครับ”“ดี แล้วไงอีก”“จากที่สอบเค้นเห็นว่าเสี่ยยังติดใจคุณบัวไม่น้อย และค่อนข้างเกรี้ยวกราดเมื่อรู้ว่าคุณบัวย้ายมาอยู่กับนายหัว หล่อนบอกว่าคุณบัวถูกบังคับให้แต่งงานกับเสี่ย แล้วพอเกิดเรื่องก็ได้มาที่บ้านของเสี่ยเองเพื่อคืนของหมั้นทั้งหมดโดยให้เหตุผลว่าขอเวลาทำใจสักหนึ่งปี แต่เจ้าเสี่ยมันรอไม่ไหวเลยไปคว้าลูกสาวของอีกบ้านมา ได้ทั้งผู้หญิง ได้ทั้งเงิน เพราะฝังนั้นไม่กลวงเหมือนนายหัวบัญชร”พสุธาชะงักไปตั้งแต่ประโยคแรก อารมณ์กรุ่นโกรธวันนั้นที่เขาแสดงออกมาคงทำให้สาวน้อยเสียใจ เพราะสองวันที่ผ่านมายังมีสีหน้าไม่ค่อยดีแม้ว่าเขาจะรีดเค้นพลังทางเพศบนเตียงมากแค่ไหนก็เหมือนจำใจทำ“แล้วหล่อนมาทำอะไรที่โรงแรม”ซี้ดดดดด!!เสียงสูดบุหรี่ก่อนพ่นออกมาข