สามีปลายแถว

สามีปลายแถว

last updateLast Updated : 2024-11-06
By:  มณีมายา/แอล/รมตี  Ongoing
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
63Chapters
110views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
Leave your review on App

"เจอร์... เจอร์... เจอร์รี่ อืม" เธอได้แต่เอ่ยสั้นๆ เพราะยังเคอะเขินอยู่มาก "ที่รัก คุณคงไม่ว่า ถ้าผมจะ... จะเอามือออก แล้ว..." กระซิบบอกทำเอาเธอใจหาย และไม่ทันได้ทัดทานเขาก็ขยับมือออกจาก... แล้วก้มลงจูบที่ปากบาง ก่อนจะถอนจูบแล้วเอ่ยอีกครั้ง "แล้วใช้ปากแทน"

View More

Latest chapter

Free Preview

บทที่ 1

“ฮ่าๆ ให้ตายเถอะ ชายผู้ทรงอิทธิพลเจ้าของคิงส์ ออยล์ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเอาตัวรอดจนมาสุดหน้าผา” เสียงเยาะเย้ยเหี้ยมเกรียม นั้นดังออกมาจากปากของชายผู้เป็นเพื่อนนักธุรกิจ ที่อยากจะกุมอำนาจเอาไว้ในมือของตัวเองเพียงคนเดียว เขาถือปืนข้างที่ถนัดและเล็งไปที่เจสัน คิงส์ ชายหนุ่มที่มองเพื่อนด้วยแววตาแค้นจัด คิดว่าคงไม่รอดแน่ ก่อนจะเหลือบไปมองเบื้องหน้าของน้ำตก ไม่รู้ว่าน้ำลึกหรือมีโขดหินเบื้องล่างหรือไม่ “คิดเหรอว่าการตายของฉัน จะทำให้แกรอดไปจนขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานแทนฉันได้เหรอเควิน” เจสันถามกลับเสียงเข้ม ไม่เกรงกลัวหากแต่สมเพชเพื่อนมากกว่า“มันจะไปยากอะไร กะอีแค่ทำให้แกหายสาบสูญ หึๆ ที่นี่เมืองไทยนะ อีกอย่างแกถืออำนาจเหนือคนอื่นมานานเกินไปแล้วเจสัน”“หึ ถืออำนาจอย่างนั้นเหรอ ฉันเป็นเจ้าของบริษัท และแกแค่อยากได้อำนาจที่คลอบคลุมทั่วทั้งทวีป จริงไหมเพื่อน” เจสันบอกอย่างรู้ทัน“ใช่ ฉลาดแล้วนี่”“แค่ฉันหายตัวไป บอร์ดี้การ์ดทั้งหมดของฉันจะตามหาฉัน และออกตามล่าแกเควิน”“เอาไว้ให้ฉันฆ่าแกเสียก่อน แล้วฉันจะไปจัดกับไอ้พวกนั้น” พูดจบเควินก็เหนี่ยวไกปืน ขณะที่เจสันเริ่มถอยหลังช้าๆ แ

Interesting books of the same period

Comments

No Comments
63 Chapters

บทที่ 1

“ฮ่าๆ ให้ตายเถอะ ชายผู้ทรงอิทธิพลเจ้าของคิงส์ ออยล์ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเอาตัวรอดจนมาสุดหน้าผา” เสียงเยาะเย้ยเหี้ยมเกรียม นั้นดังออกมาจากปากของชายผู้เป็นเพื่อนนักธุรกิจ ที่อยากจะกุมอำนาจเอาไว้ในมือของตัวเองเพียงคนเดียว เขาถือปืนข้างที่ถนัดและเล็งไปที่เจสัน คิงส์ ชายหนุ่มที่มองเพื่อนด้วยแววตาแค้นจัด คิดว่าคงไม่รอดแน่ ก่อนจะเหลือบไปมองเบื้องหน้าของน้ำตก ไม่รู้ว่าน้ำลึกหรือมีโขดหินเบื้องล่างหรือไม่ “คิดเหรอว่าการตายของฉัน จะทำให้แกรอดไปจนขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานแทนฉันได้เหรอเควิน” เจสันถามกลับเสียงเข้ม ไม่เกรงกลัวหากแต่สมเพชเพื่อนมากกว่า“มันจะไปยากอะไร กะอีแค่ทำให้แกหายสาบสูญ หึๆ ที่นี่เมืองไทยนะ อีกอย่างแกถืออำนาจเหนือคนอื่นมานานเกินไปแล้วเจสัน”“หึ ถืออำนาจอย่างนั้นเหรอ ฉันเป็นเจ้าของบริษัท และแกแค่อยากได้อำนาจที่คลอบคลุมทั่วทั้งทวีป จริงไหมเพื่อน” เจสันบอกอย่างรู้ทัน“ใช่ ฉลาดแล้วนี่”“แค่ฉันหายตัวไป บอร์ดี้การ์ดทั้งหมดของฉันจะตามหาฉัน และออกตามล่าแกเควิน”“เอาไว้ให้ฉันฆ่าแกเสียก่อน แล้วฉันจะไปจัดกับไอ้พวกนั้น” พูดจบเควินก็เหนี่ยวไกปืน ขณะที่เจสันเริ่มถอยหลังช้าๆ แ
Read more

บทที่ 2

“เหมือนคุณถูกซ้อมมา หวังว่าฉันคงไม่ได้ช่วยคนร้ายหรอกนะ” เธอพูดด้วยความหวาดหวั่น แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่ดึงดูดสายตามากกว่าบาดแผลคือ ใบหน้าอันหล่อเหลา มีเคราเล็กน้อย ผมสีบลอนเข้ม ผิวพรรณขาวออกไปทางชมพู จมูกโด่งสวยริมฝีปากรูปกระจับ เธอพิจารณาและวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนก็พลันให้เคลิ้มเสียอย่างนั้น “ถึงหน้าตาจะมีแต่รอยฟกช้ำ แต่มันกลบความหล่อของคุณเอาไว้ไม่ได้เลยนะเนี่ย” แสงฉายเผลอชมด้วยความลืมตัว แต่นั่นก็เพราะว่าเขาหล่อจริงๆ ใบหน้าของเขาดึงดูดให้พูดอย่างนี้ เธอคิดพลางเอื้อมมือไปสัมผัสที่มือของชายหนุ่มเบาๆ“ขอโทษนะคะคุณ ผิวผู้ดี้ผู้ดี เป็นลูกเต้าเหล่าใครกันเนี่ย ไม่น่าจะใช่นักท่องเที่ยวทั่วไปมั้งคะ” เธอพูดกับร่างที่หมดสติลอยๆ อีกทั้งนึกสงสัยว่าเขามาทำอะไรกันที่น้ำตก แต่เธอต้องเก็บความสงสัยเอาไว้จนกว่าเขาคนนี้จะฟื้นจากสลบเสียก่อนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง หมอประจำตัวของแสงฉายก็เดินทางมาถึงพร้อมกับพยาบาลหนึ่งคน เธอจึงให้หมอรีบทำการรักษาในทันที ส่วนตัวเองก็ออกมารอหน้าห้องกับลูกน้อง เพื่อให้หมอทำงานได้อย่างสะดวก “นายหญิงครับ” วสินเรียกเพื่อที่จะถาม“มีอะไรเหรอคะ” แสงฉายถามกลับทันที “ฝรั่งคนนี้ ทำไม
Read more

บทที่ 3

“แหม พูดว่าขี้เสือกนี่มีสะดุ้งนะฮะ แล้วเอ่อ เขายังไม่ฟื้นใช่ไหมครับ”“ยังค่ะ อาจจะข้ามวันข้ามคืน รอดูอาการ” “เฮ้อ เอาใครไม่รู้มาเป็นภาระตัวเอง แล้วนี่ก็ต้องนอนเฝ้า” เขาเป็นห่วงเธอ ไม่ได้ห่วงใครนักหรอก แต่เมื่อได้ช่วยชีวิตคนแล้วก็อยากทำให้เต็มที่ตามนิสัยเธอแหละ“ก็เราเลือกที่จะช่วยชีวิตเขานี่นะ” “ผมห่วงอยู่อย่างเดียว ถ้าเขาไม่ใช่คนธรรมดา สมมติถูกทำร้ายมาไอ้พวกที่ทำร้ายเขาต้องตามหาศพ และถ้ารู้ว่าเขาไม่ตายหรืออะไรก็ตาม เขาก็จะยิ่งออกตามหาเพื่อกำจัด และตอนนั้นนายหญิงจะรับมือไหวไหม อาจจะโดนลูกหลงด้วย” “แล้วแสงจะมีพี่สินไว้ทำไมคะ ก็เพื่อการนี้แหละ” ให้ตายสิ คำตอบของเธอทำเขาอึ้ง แล้วก็ยิ้มแห้งๆ เพราะมันจริงอย่างที่เธอพูดนั่นแหละ“ปกติผมช่วยนายหญิงตบตีกับอีกบ้าน เท่านี้ก็ปวดหัวจะแย่แล้ว แต่นี่เรากำลังยุ่งอยู่กับอะไรก็ไม่รู้” “อย่าบ่นเป็นวัยทองไป เอ่อ ช่วยหาเสื้อผ้าให้แสงหน่อยสิ เอามาให้เขาไซส์ฝรั่งเลยค่ะ เอามาเยอะ ๆ หน่อยนะ แล้วเดี๋ยวค่าใช้จ่ายมาเบิกกับแสง” “โอเคครับ นางฟ้านะเนี่ย” เขาแซวอีกครั้ง “แสงชอบเวลาที่พี่รับคำแบบไม่บ่นไม่เถียงไม่กวนประสาทจริงๆ เลย” นี่เธอชมสินะ“ก็ขี้เกียจเถียง
Read more

บทที่ 4

จวบจนกระทั่ง เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง แสงฉายหลับบนโซฟาด้วยความอ่อนเพลียจากการทำงาน เธอหลับยาวจนถึงวันรุ่งขึ้นเลยทีเดียว ขณะที่คนตัวโตหลับหมดสติตลอดทั้งคืนก็เริ่มจะขยับตัว พร้อมกับเปลือกตาอันหนักอึ้งที่เบิกขึ้นทีละนิด ก่อนจะกระพริบถี่ๆ เพื่อไล่แสงจ้าภายในห้อง หลังจากที่ไม่ได้ลืมตาเสียนาน ดวงตาคมกริบสีฟ้าน้ำทะเลค่อยๆ มองบนเพดานห้อง ซึ่งคล้ายรีสอร์ต เพดานเหมือนใช้ไม้เส้นเล็กๆ สานจนเป็นแผ่นขนาดใหญ่แล้วนำขึ้นไปติดเอาไว้ มีผ้าสีขาวบางพลิ้วพาดไปมาเพื่อประดับตกแต่ง ภายในห้องโปล่งสบาย ประตูหน้าต่างเปิดโล่ง มีเพียงผ้าม่านสีขาวแบบบางและแบบหนา สองชั้นปิดบังเอาไว้ปลิวไสวโต้ลมที่พัดผ่านเข้ามาจนถึงที่นอน ชายหนุ่มลุกไม่ไหวได้แต่เกลือกกลิ้งดวงตาไปมา เขาเหมือนอยู่ในความฝัน ทุกอย่างดูนวลตาอบอุ่นไปหมด “อืม” ชายหนุ่มครางในลำคอ และเมื่อเริ่มขยับตัวก็ปวดระบมไปทั้งหมด พอลุกไม่ได้จึงพยายามมองว่าภายในห้องมีใครหรือไม่ และพบว่าที่โซฟากว้างมีหญิงสาว นอนหลับใหลอยู่ ชายหนุ่มเพ็งพินิจว่าเธอเป็นใคร แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหรือว่า เขาตายแล้วหรือเปล่าเขาคิด และพยายามขยับตัว แต่จังหวะเดียวกันนั้นแสงฉายก็ขยับตัวตื่น
Read more

บทที่ 5

“พี่ศินเข้ามาเปิดหน้าต่างให้แสงเหรอคะ” แสงฉายอดถามไม่ได้เพราะห้องเปิดโล่ง“ใช่ครับ รับอากาศเย็นๆ ยามเช้า ให้ความรู้สึกดี ผ่อนคลาย ว่าแต่เขาฟื้นนานแล้วเหรอครับ” วศินถามพลางชี้มือมาที่เจรัลด์นิดหน่อยเพื่อไม่ให้เสียมารยาทนัก“เพิ่งฟื้นได้สักครู่น่ะค่ะ” เธอตอบกลับ ขณะเดียวกันเจรัลด์ก็อยู่ในอารมณ์เจื่อนๆ แปลกๆ เพราะชายหนุ่มที่เดินเข้ามานั้น เขาคิดว่าน่าจะเป็นคนรักของแสงฉายแน่ๆ รูปร่างสูงใหญ่หล่อเหลาคมเข้มแบบชายไทยแท้“ผมไปบอกแม่บ้านให้ทำอาหารเอาไว้แล้วนะครับ ไม่ต้องห่วง เผื่อจะหิว แล้วก็เผื่อคนฟื้น แต่ก็ไม่คิดว่าจะฟื้นเร็วขนาดนี้”“ถือว่าไม่เร็วหรอกค่ะ เพราะเขาไม่ฟื้นตลอดทั้งคืนเลย นึกว่าจะตายแล้วซะอีก” “ก็ดีแล้วครับที่เขาฟื้น ต่อไปก็จะได้ถามที่มาที่ไป แล้วก็จะได้ส่งตัวกลับประเทศซะเลย” “มันง่ายอย่างนั้นก็ดีน่ะสิคะ” “ตามสบายนะครับ ผมแค่แวะเข้ามาบอกว่าเตรียมอาหารเอาไว้ให้ แล้วเดี๋ยวจะออกไปดูงานแทนก่อน”“ขอบคุณค่ะ” พอเธอรับคำวสินก็ออกไปทันที มาถึงตอนนี้แหละที่เจรัลด์จะถามด้วยความสงสัย“เอ่อ ขอโทษครับ คุณช่วยผมแล้วให้เข้ามาอยู่ในบ้านแบบนี้ แฟนคุณไม่ว่าอะไรเหรอครับ” เป็นคำถามแบบยัดเยียดเพื่
Read more

บทที่ 6

“ขอเวลาผมหน่อยนะครับ ผมจำไม่ได้จริงๆ คิดอะไรเยอะแล้วปวดหัวเหลือเกิน” “จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ” แสงฉายบอกอย่างเข้าใจ “ผมขอโทษนะครับ ที่จำเรื่องราวไม่ได้เลย” “งั้นอยู่ที่นี่พักรักษาตัวให้หายดี แล้วค่อยว่ากันเรื่องส่งคุณกลับบ้านนะคะ” “คุณช่างแสนดีกับผมเหลือเกิน แสงฉาย”“ก็หวังว่า ถ้าคุณจำอะไรได้แล้ว คงจะไม่ใช่คนเลวร้าย แล้ววกกลับมาทำร้ายเจ้านายผมหรอกนะ” วสินแทรกขึ้นเสียงเข้ม“ผมไม่ทำร้ายคนที่มีบุญคุณกับผมหรอก” “ฉันไม่กลัวคุณหรอกค่ะ” แสงฉายบอกยิ้ม ๆ น้ำเสียงของเธอไม่กลัวเขาจริงๆ ด้วยแฮะ “เอางี้ ถ้าไม่รังเกียจคุณก็อยู่ที่นี่จนกว่าจะหายเป็นปกติ ฉันกับคนของฉันจะดูแลคุณเอง” “ถ้าไม่รังเกียจเหรอครับ ผมน่าจะเป็นฝ่ายพูดคำนี้กับคุณมากกว่านะครับ เพราะผมเป็นคนแปลกหน้าแท้ๆ” “นั่นสินะ เอาเป็นว่าคุณอยู่ที่นี่ได้ตามสบาย จนกว่าจะหายก็แล้วกันค่ะ” “ขอบคุณอีกครั้ง
Read more

บทที่ 7

ช่วงเวลาที่เจรัลด์ หรือชื่อจริงคือเจสัน คิงส์ พักฟื้นร่างกาย เพราะเพิ่งผ่านความเป็นความตายมาได้หมาดๆ นั้น คนที่ลงมือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจสันรอดเพราะคิดว่ายิงโดน แต่เพราะความที่กลัวว่าศพจะโผล่ให้ใครเห็นแล้วสาวมาถึงตัวได้ ทุกคนจึงได้ออกตามล่าหาร่างของเจสัน ไล่ตั้งแต่ต้นน้ำที่เจสันตกลงมา และคิดว่าน่าจะไหลมาตามลำธารสายเล็ก ซึ่งเป็นที่ดินของชาวบ้าน ชายวัยฉกรรจ์คนไทยสองคนและฝรั่งอีกสองคน แยกกันออกตามหา แล้วแสร้งทำตัวกลมกลืนไปกับชาวบ้าน ทำทีเป็นนักท่องเที่ยวเดินชมเกษตรเชิงท่องเที่ยวของไร่องุ่น ถ่ายรูปชมวิว โดยที่ดินตรงนี้คือไร่องุ่นขนาดใหญ่หลายร้อยไร่ บริเวณที่ดินแห่งนี้มีแม่น้ำตัดผ่าน แล้วดูเหมือนจะเป็นสายตรงจากน้ำตก แต่ทางเดียวที่จะแน่ใจคือต้องถามชาวบ้าน ว่าเป็นแม่ลำธารสายเดียวกันหรือไม่“ขอโทษครับลุง ลำธารใสๆ สวยๆ แบบนี้ไหลมาจากไหนครับเนี่ย” “ไหลมาจากน้ำตกข้างบนโน่นเลยพ่อหนุ่ม” ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวสวนตอบพลางชี้นิ้วไปทางด้านหลัง ซึ่งเป็นต้นลำธาร และคิดว่าแอ่งน้ำคงอยู่ไม่ไกล“แสดงว่าตรงนั้นมีแอ่งน้ำใช่ไหมครับ”“ใ
Read more

บทที่ 8

แสงฉาย เจ้าของไร่องุ่น ซันชายวัลเลย์ เขาใหญ่ ผลิตสินค้าแปรรูปจากองุ่นนานาชนิด รวมไปถึงไวน์ อีกทั้งมีร้านอาหารเปิดเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาพักผ่อน หรือพักรถระหว่างเดินทาง มีรีสอร์ตเล็กๆ ให้ค้างคืนไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่เรื่องของงานไร่องุ่นนั้นก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่ใหญ่พอสมควรย้อนหลังกลับไปก่อนที่เธอจะเกิด มารดาเป็นคนดูแล่ไร่องุ่นแห่งนี้เป็นสาวสวยที่ฮอตสุดๆ ของที่นี่ ส่วนบิดาของเธอนั้นมีที่ดินอยู่ติดกันและทำฟาร์มโคนม ต่างคนต่างมีธุรกิจของตัวเอง แต่ฝ่ายมารดาถือว่ามีฐานะที่ร่ำรวยกว่า ทว่าท่านทั้งสองก็มาพบรักและแต่งงานกัน แผ่นดินทั้งสองจึงเป็นสินสมรส เมื่อแสงฉายเกิดจึงกลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวของที่นี่ จวบจนกระทั่งเธออายุได้ 11 ขวบ มารดาเสียชีวิตเพราะเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง แสงฉายเสียใจ เสียหลัก เหลือเพียงพ่อที่ต้องทำหน้าที่ดูแลและบริหารงาน แต่เท่านั้นยังไม่พอ ไร่องุ่นแห่งนี้มารดาได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ ยกให้แสงฉายเป็นนายหญิงดูแลที่นี่แต่เพียงผู้เดียว แต่ที่เจ็บปวดไปมากกว่านั้น คือมารดาของเธอเสียชีวิตไปเพียงปีเดียว บิดาก็มีภรรยาใหม่เป็นแม่ม่ายลูกติดถึงสอ
Read more

บทที่ 9

“เป็นประโยชน์แน่ แล้วคนงานพวกนั้นว่าอย่างไรอีก” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน เหมือนกำลังจะเป็นต่อแน่ๆ บิดารู้เข้าคงไม่พอใจ“บอกว่านายหญิงน่ะ พาผู้ชายคนนั้นขึ้นไปนอนบนห้องของตัวเองเลยนะคะ มีวสินคอยดูแลด้วย แถมยังบอกให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ สงสัยจะกลัวพ่อเลี้ยงรู้แน่ๆ เลยค่ะ” “ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะฉันจะไปบอกคุณพ่อแน่ อยากรู้นักว่าถ้าคุณพ่อรู้เข้าว่าลูกสาวคนเก่ง ที่คุณพ่อภูมิใจนักหนาพาผู้ชายเข้าบ้านจะเป็นอย่างไร อยากเห็นหน้านัก”“แล้วคุณหนูจะเอายังไงดีคะ” “ฉันจะไปหาคุณพ่อเดี๋ยวนี้เลย เพราะตอนนี้คุณพ่ออยู่ในห้องทำงาน” ว่าแล้วเกศรินทร์ก็รีบแจ้นไปหาทันทีพร้อมกับคนใช้ที่แสนรู้นักหนาเกศรินทร์เป็นลูกติดภรรยาใหม่ของบิดา เป็นบุตรสาวคนเล็กในบรรดาลูกสองคน แต่เป็นลูกเลี้ยงที่บิดารักเช่นกัน เพราะได้เลี้ยงดูตั้งแต่ห้าขวบ ฉะนั้น  เกศรินทร์จึงรู้สึกว่ามีสิทธิ์ในทุกสิ่งบนที่ดินผืนนี้ อยากเอาชนะทุกอย่างทั้งที่ทำได้ยาก อีกทั้งอิจฉาริษยา ไม่ชอบหน้าพี่สาวคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ทำอะไรก็แพ
Read more

บทที่ 10

ส่วนฝั่งบ้านพ่อเลี้ยงอังกรูมีแต่หญ้าสำหรับเลี้ยงวัวนมและให้วัวมาเดินเล็ม บ้านทั้งสองหลังสามารถเดินหากันได้ โดยผ่านบ้านของคนงาน ประมาณห้าถึงหกหลังก็ถึงที่ไร่องุ่น มองไกลๆ เห็นบ้านคนสนิทของแสงฉาย ปลูกล้อมรอบบ้านของแสงฉายเอาไว้ห่างๆ ลดหลั่นไปตามความสนิท และคนที่สนิทที่สุดคือ วสิน ก่อนจะถึงบ้านแสงฉายต้องผ่านบ้านวสินเสียก่อนและเวลานี้ก็ห้าโมงแล้ว โพล้เพล้เหมาะแก่การถ้ำมอง เกศรินทร์จึงได้จอดรถแอบเอาไว้ แล้วเดินเท้าเข้าไปอย่างช้าๆ เพราะกลัวว่าจะมีคนเห็นเข้า สายตาก็สาดส่องว่ามีใครจะเห็นหรือเปล่า แต่แล้วก็ต้องชะงักฝีเท้า เมื่อกำลังจะเดินถึงบ้านของวสิน เธอแทบอึ้ง และหยุดกึกด้วยความตื่นตระหนก เพราะเกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายยื่นแก้ผ้าอาบน้ำมาก่อน ให้ตายสิ โดยเฉพาะกับวสินคนสนิทของพี่สาวเธอ สถานที่อาบน้ำของเขาคือ out door ถูกดีไซส์โดยมีฝักบัวขนาดใหญ่ ตรงที่ยืนเป็นอ่างไม้คล้ายกับถังหมักเบียร์ ความสูงประมาณเอวของเขาพอดี จะนั่งแช่ก็ได้หรือจะยืนอาบก็ดี เพื่อปกปิดสายตาใครที่เดินผ่านมาจะไม่เห็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ เกศรินทร์อึ้งอ้าปากค้างไปเลย เพราะทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่นเย็นเฉียบ ห
Read more
DMCA.com Protection Status