แสงฉาย เจ้าของไร่องุ่น ซันชายวัลเลย์ เขาใหญ่ ผลิตสินค้าแปรรูปจากองุ่นนานาชนิด รวมไปถึงไวน์ อีกทั้งมีร้านอาหารเปิดเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาพักผ่อน หรือพักรถระหว่างเดินทาง มีรีสอร์ตเล็กๆ ให้ค้างคืนไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่เรื่องของงานไร่องุ่นนั้นก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่ใหญ่พอสมควร
ย้อนหลังกลับไปก่อนที่เธอจะเกิด มารดาเป็นคนดูแล่ไร่องุ่นแห่งนี้เป็นสาวสวยที่ฮอตสุดๆ ของที่นี่ ส่วนบิดาของเธอนั้นมีที่ดินอยู่ติดกันและทำฟาร์มโคนม ต่างคนต่างมีธุรกิจของตัวเอง แต่ฝ่ายมารดาถือว่ามีฐานะที่ร่ำรวยกว่า ทว่าท่านทั้งสองก็มาพบรักและแต่งงานกัน แผ่นดินทั้งสองจึงเป็นสินสมรส เมื่อแสงฉายเกิดจึงกลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวของที่นี่ จวบจนกระทั่งเธออายุได้ 11 ขวบ มารดาเสียชีวิตเพราะเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง แสงฉายเสียใจ เสียหลัก เหลือเพียงพ่อที่ต้องทำหน้าที่ดูแลและบริหารงาน แต่เท่านั้นยังไม่พอ ไร่องุ่นแห่งนี้มารดาได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ ยกให้แสงฉายเป็นนายหญิงดูแลที่นี่แต่เพียงผู้เดียว แต่ที่เจ็บปวดไปมากกว่านั้น คือมารดาของเธอเสียชีวิตไปเพียงปีเดียว บิดาก็มีภรรยาใหม่เป็นแม่ม่ายลูกติดถึงสอ“เป็นประโยชน์แน่ แล้วคนงานพวกนั้นว่าอย่างไรอีก” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน เหมือนกำลังจะเป็นต่อแน่ๆ บิดารู้เข้าคงไม่พอใจ“บอกว่านายหญิงน่ะ พาผู้ชายคนนั้นขึ้นไปนอนบนห้องของตัวเองเลยนะคะ มีวสินคอยดูแลด้วย แถมยังบอกให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ สงสัยจะกลัวพ่อเลี้ยงรู้แน่ๆ เลยค่ะ”“ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะฉันจะไปบอกคุณพ่อแน่ อยากรู้นักว่าถ้าคุณพ่อรู้เข้าว่าลูกสาวคนเก่ง ที่คุณพ่อภูมิใจนักหนาพาผู้ชายเข้าบ้านจะเป็นอย่างไร อยากเห็นหน้านัก”“แล้วคุณหนูจะเอายังไงดีคะ”“ฉันจะไปหาคุณพ่อเดี๋ยวนี้เลย เพราะตอนนี้คุณพ่ออยู่ในห้องทำงาน”ว่าแล้วเกศรินทร์ก็รีบแจ้นไปหาทันทีพร้อมกับคนใช้ที่แสนรู้นักหนาเกศรินทร์เป็นลูกติดภรรยาใหม่ของบิดา เป็นบุตรสาวคนเล็กในบรรดาลูกสองคน แต่เป็นลูกเลี้ยงที่บิดารักเช่นกัน เพราะได้เลี้ยงดูตั้งแต่ห้าขวบ ฉะนั้น เกศรินทร์จึงรู้สึกว่ามีสิทธิ์ในทุกสิ่งบนที่ดินผืนนี้ อยากเอาชนะทุกอย่างทั้งที่ทำได้ยาก อีกทั้งอิจฉาริษยา ไม่ชอบหน้าพี่สาวคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ทำอะไรก็แพ
ส่วนฝั่งบ้านพ่อเลี้ยงอังกรูมีแต่หญ้าสำหรับเลี้ยงวัวนมและให้วัวมาเดินเล็ม บ้านทั้งสองหลังสามารถเดินหากันได้ โดยผ่านบ้านของคนงาน ประมาณห้าถึงหกหลังก็ถึงที่ไร่องุ่น มองไกลๆ เห็นบ้านคนสนิทของแสงฉาย ปลูกล้อมรอบบ้านของแสงฉายเอาไว้ห่างๆ ลดหลั่นไปตามความสนิท และคนที่สนิทที่สุดคือ วสิน ก่อนจะถึงบ้านแสงฉายต้องผ่านบ้านวสินเสียก่อนและเวลานี้ก็ห้าโมงแล้ว โพล้เพล้เหมาะแก่การถ้ำมอง เกศรินทร์จึงได้จอดรถแอบเอาไว้ แล้วเดินเท้าเข้าไปอย่างช้าๆ เพราะกลัวว่าจะมีคนเห็นเข้า สายตาก็สาดส่องว่ามีใครจะเห็นหรือเปล่า แต่แล้วก็ต้องชะงักฝีเท้า เมื่อกำลังจะเดินถึงบ้านของวสิน เธอแทบอึ้ง และหยุดกึกด้วยความตื่นตระหนก เพราะเกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายยื่นแก้ผ้าอาบน้ำมาก่อน ให้ตายสิ โดยเฉพาะกับวสินคนสนิทของพี่สาวเธอสถานที่อาบน้ำของเขาคือ out door ถูกดีไซส์โดยมีฝักบัวขนาดใหญ่ ตรงที่ยืนเป็นอ่างไม้คล้ายกับถังหมักเบียร์ ความสูงประมาณเอวของเขาพอดี จะนั่งแช่ก็ได้หรือจะยืนอาบก็ดี เพื่อปกปิดสายตาใครที่เดินผ่านมาจะไม่เห็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ เกศรินทร์อึ้งอ้าปากค้างไปเลย เพราะทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่นเย็นเฉียบ ห
“อ้าว มาแอบดูเขาอาบน้ำแท้ๆ แล้วที่บ้านไม่สอนเหรอครับ ว่าไม่ให้แอบดูผู้ชายอาบน้ำน่ะ”“ไอ้บ้าสิน! ไอ้!”“จุ๊ ๆ ๆ ไม่งามเลยครับ ฟังไม่ลื่นหูเลยนะ จำพี่สาวเอาไว้เป็นตัวอย่างบ้างสิครับ ไม่มีหยาบคายหลุดออกมาให้ได้ยิน พี่สินอย่างนั้นพี่สินอย่างนี้ แต่อย่างว่าหงส์ยังไงก็ยังเป็นหงส์ ต่างกับกา เอามาชุบตัวยืดคอให้ยาวเท่าหงส์ ก็ยังเป็นกาอยู่วันยังค่ำ” เขาว่าน้ำเสียงเยาะหยันสีหน้าอีเดียดเหลือเกิน“กรี๊ด! ไอ้ขี้ข้า! สันดานต่ำ”“สันดานต่ำเหรอ” เขาย้ำคำพลางกัดฟันแน่น ก่อนจะกระชากแขนเธอแล้วลากเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว“ว๊าย! อ้าย! ปล่อย! ไอ้สิน ปล่อยฉันนะ” เธอว่าพลางสะบัดสะบิ้งเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา“แอบยืนดูอยู่ตั้งนาน อยากเห็นไม่ใช่เหรอว่าไอ้ที่มันอยู่ต่ำๆ น่ะหน้าตาเป็นยังไง” ให้ตายสิ เขาเห็นที่เธอแอบดูอย่างนั้นหรือ“ไอ้บ้า! ปล่อยฉัน ไม่งั้นฉันจะตะโกนให้คนช่วย”“นี่ถิ่นผม และคุณหนูหาเรื่องเอง เอ๊ะหรือว่าจริงๆ แล้วหิว ถึงได้เสาะแสว
“หึๆ เสียวไหมคุณหนู” เขาหัวเราะในลำคอเหมือนกำลังสะใจ ขณะที่เธอบิดเร้าไปมา แอ่นสะโพกเด้งรับจังหวะสอดแหย่ทะลวงเข้าออกของนิ้วแกร่ง เสียวซ่านครั้งแล้วครั้งเล่าจนแทบจะกดกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่อยู่“อื้อ! ไอ้... สิน นาย... สิน อ่า ซี๊ด อ่า” เธอเรียกเขาและครางออกมาอย่างไร้สติ เสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยมาก่อน“อ่า น้ำคุณหนูไหลออกมาเยอะเหลือเกิน ถ้าพูดหวานๆ กับไอ้สินสักคำ จะลงไปดูดเลียให้สาสม” เขากระซิบเสียงพร่าพร้อมกับนิ้วแกร่งสอดแทรกเข้าออกรูสวาท เสียวสะท้านจนเธอต้องแอ่นสะโพกยกรับ เคลื่อนไหวเร่าร้อน เสียงหายใจหอบกระชั้นทรมาน และเกลียดเขา“ไม่... อูย อ่า อื้อ!” เธอเอ่ยเสียงพร่าแผ่วเบาและครางต่ำ“อย่าปากแข็งน่าคุณหนู อ่า ตอดตุบๆ เลย” พูดไปพลางเขาก็ละเลงนิ้วเข้าออกไปพลาง“อย่า อ๊า! ซี๊ด เสียว... โอ๊ย นายสิน เสียว” ในที่สุดเธอก็กดกลั้นความปรารถนาเอาไว้ไม่อยู่ ความเสียวซ่านอยู่เหนือสติทั้งหมดทั้งมวลเธอจนปล่อยออกมาโดยไร้ซึ่งความกระดากอาย“อ่า ดี ร่านดี” ยิ่งฟังเสียงครางของเธอเขาก็
แต่ขณะเดียวกัน เกศรินทร์ก็รีบขับรถกลับบ้านอย่างว่องไว พอถึงปุ๊บเธอก็วิ่งขึ้นห้องทันทีแบบไม่รีรอให้ใครถามอะไรทั้งสิ้น พร้อมกับปิดประตูเงียบ สงบสติอารมณ์ที่พุ่งพล่านอยู่เพียงลำพัง ทว่าอารมณ์ของเธอตอนนี้มันเตลิดเกินจะกู่กลับ ทำไมไอ้ขี้ข้าคนนั้นถึงได้มีอิทธิพลต่อร่างกายของเธอเหลือเกิน ทั้งที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยอยู่ในสายตาเลย หรือเป็นเพราะว่าแค่เห็นเขาแก้ผ้าอาบน้ำเท่านั้น ซึ่งเธอไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่เคยรู้ว่าคนรับใช้ของพี่สาวจะสมบูรณ์แบบขนาดนั้น หรือว่าเขาจะแอบกินกับแสงฉายอีกต่อหนึ่ง“ไอ้... ไอ้...” จะด่าก็ด่าได้ไม่เต็มปากอีกแล้ว เพราะตัวเองแท้ๆ ที่ระงับอารมณ์ไม่อยู่ ทนไม่ไหวกับนิ้วแกร่งที่ปลุกเร้าไฟปรารถนา ที่ไม่เคยมีใครได้เข้าใกล้มาก่อน คิดแล้วก็พยายามสลัดอารมณ์บางอย่างให้หลุดออกไป พร้อมกับเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ชำระคราบราคีออกไปจากตัว ด้วยการเปิดน้ำใส่อ่างช้าๆ แล้วลงไปแช่ ทว่าสิ่งที่เธอสัมผัสได้คือกลีบสาวเปียกแฉะไปหมดเลย“โอ๊ยตาย” เธอไม่อยากเชื่อว่ามันคือ... น้ำสวาทที่หลั่งไหลพรั่งพรูเพราะความเสียวซ่าน ใช่เธอควบคุมตัวเองไม่อยู่ ว่าแล้วจึงเอื้อมมือลงไ
“มีอะไรให้ผมรับใช้ครับนาย” วสินเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม ขณะที่แสงฉายกำลังง่วนอยู่กับการจัดอาหาร ทำเอาเธอสะดุ้งเพราะเขาเข้ามาเงียบๆ“อุ้ย! ตกใจหมดเลย มาเงียบๆ” แสงฉายสะดุ้งตกใจจริงๆ ก่อนจะหันมามองหน้าแล้วกลับไปจัดอาหารตรงหน้าต่อ“หึๆ ขวัญอ่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” วสินหัวเราะหึๆ พร้อมกับพูดด้วยเสียงเข้มเหมือนเดิม“ก็กำลังจัดอาหารเพลินๆ นี่คะ”“แล้วจะให้ผมช่วยอะไรเหรอครับ”“ช่วยเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจอร์รี่ทีนะคะ เขายังไม่สะดวกคงจะเจ็บระบมอยู่ เดี๋ยวแสงจะเอาอาหารขึ้นไปให้ แล้วก็เอ่อ แสงมีเรื่องจะคุยกับพี่สินนิดหน่อย”“ผมก็มีเรื่องจะคุยกับนายหญิงเหมือนกันครับ แต่เดี๋ยวเข้าไปช่วยเขาก่อนดีกว่า”“ค่ะ เข้าไปก่อนเลย เดี๋ยวแสงตามเข้าไป”“โอเคครับ” ว่าแล้วเขาก็เดินออกจากห้องครัวทันที แล้วตรงขึ้นไปที่ห้องนอน เห็นเจรัลด์กำลังนั่งพิงหมอน ทอดสายตามองออกไป
“ก็อาจเป็นได้ค่ะ แสงไม่อยากระแวง แต่ที่ทำให้สงสัยคือคนไทยสองคน และฝรั่งอีกสองคน”“นายหญิงระแวงแบบนี้จะให้ผมทำอะไรครับ” ดูเหมือนเขาน่าจะเดาทางออกว่าเธอระแวงอะไร“คือ... อยากให้จับตาคนที่น่าสงสัยเอาไว้ เพราะแสงห่วงว่าจะเป็นพวกที่ปองร้ายเจอร์รี่หรือเปล่า และอาจจะออกตามหาอย่างที่เราคาดการณ์”“งั้นผมจะเรียกลูกน้องประชุมลับ จะได้วางกำลังให้ดูแลอยู่ห่างๆ ครับ”“ตอนนี้เราเอาเขามาดูแล ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ได้รับความเดือดร้อนมา ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุดก่อน จนกว่าเขาจะหายและสามารถส่งเขากลับบ้านไปได้อย่างปลอดภัยนะคะ”“ได้ครับ นี่ห่วงเกินเพื่อนร่วมโลกหรือเปล่าครับเนี่ย” วสินแซวยิ้มๆ พลางหรี่ตามองด้วยความเจ้าเล่ห์“บ้า ก็ห่วงเพราะเราเอาเขามาดูแลไงคะ”“แล้วไป... เท่านี้ใช่ไหมครับ งั้นผมมีเรื่องจะบอกนายหญิงเหมือนกัน”“เรื่องอะไรคะ แสงเห็นท่าทางน้ำเสียงเครียดๆ ต
“ฉันไม่ได้หมายความว่าจะผลักใสคุณ ก็แค่อยากให้คุณหายและแข็งแรงเร็วๆ ก็เท่านั้น หรือคุณไม่อยากหาย”“ถึงตอนนี้ผมรู้สึกว่า ผม... ไม่ได้อยากหายสักเท่าไหร่ เป็นแบบนี้ก็ดีนะครับคุณจะได้ดูแลผมไปนานๆ” ฟังเขาพูดแปลกๆ เขากำลังคิดอะไรเกินเลยหรือเปล่า หรือเธอคิดมาก หรือเธอแปลความหมายของเขาผิด“ดูแลตอนแข็งแรง ดีกว่าดูแลตอนใกล้ตายแบบนี้นะคะ” เธอตอบกลับพร้อมกับยิ้มหวานทว่าแววตาเจ้าเล่ห์เล็กน้อย“หืม พูดแรงจัง แต่ผมก็ไม่ตายเพราะคุณช่วยนะ”“แปลว่าฉันมีบุญคุณกับคุณ” เธอถามเจ้าเล่ห์อีกครั้ง“ใช่ครับ” เขาเองก็ตอบหนักแน่นเชียว สงสัยจะไม่ทันแผนเธอ“งั้นหายเร็วๆ นะคะ จะพาไปดูไร่องุ่นเผื่อว่าอยากเป็นลูกจ้างฉัน ทำงานเก็บเงินจะได้มีเงินเดินทางกลับ”“หึๆ ผมคงต้องยอมรับข้อเสนอแล้วล่ะ แต่ว่ายังไม่กลับได้ไหม อย่าเพิ่งรีบไล่ผมนะครับ” คำพูดคำจาเนี่ยนะ เธอคิดและยิ้มด้วยความหมั่นไส้
“ซี๊ด อ่า เยส อ่า” เขาหายใจหอบ พร้อมกับแนบกลางกายกับเนินเนื้อนุ่มเอาไว้โน้มตัวลงไปสวมกอดและจูบอย่างดูดดื่ม เนิ่นนานจนรู้สึกว่ามังกรตัวร้ายได้ปลดปล่อยพ่นพิษออกมาจนหมดแล้ว ร่างกายทั้งสองเบาหวิวสุขสม และเหนื่อยหอบอย่างประหลาด ทว่าเขายังคงจูบอ้อยอิ่งอยู่นานจนอิ่มเอม แล้วค่อยถอดแท่งร้อนออกช้าๆ ทว่าทั้งคู่ยังหอบอยู่ พูดออกมาไม่ได้ มีเพียงแววตาที่สื่อถึงกันเท่านั้น เขาจึงยิ้มบางๆ และแนบหน้าผากกับเธอเอาไว้“จะเบื่อไหมถ้าผมจะพูดว่า... ผมรักคุณ” เขากระซิบที่ปากอิ่มเบาๆ“ฉันไม่ได้ยินคำนี้มาเป็นเดือน จะเบื่อได้ยังไงคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเดียวกัน“ผมคิดถึงแทบขาดใจ ไม่เป็นอันทำงานเลย” พูดจบเขาก็ประคองใบหน้าเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน“ฉันก็รักและคิดถึงคุณมากค่ะ”“เสร็จแล้ว หายคิดถึงหรือยัง” เขาถามเสียงเจ้าเล่ห์เชียว“แล้วคุณล่ะคะ”“หึๆ ยังเลย กินได้อีก กินได้เรื่อยๆ ผมมีความสุขมากนะรู้ไหม
“อืม ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ เขาก็ใช้มือข้างเดิมแหวกกลีบสาวออกจากกัน พร้อมกับใช้ปลายนิ้วกรีดกรายไปตามร่องเสียวที่เริ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน เขาบดเบียดฝ่ามือและปลายนิ้วกับร่องเสียวขึ้นลงจนไหมสีดำเปียกลู่“ซี๊ด อ่า เจอร์รี่ อืม เสียวค่ะที่รัก” เธอครางออกมาและพูดด้วยความที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป เสียวซ่านทุกอณูรูขุมขน“เสียวตรงไหนจ้ะ เสียวเพราะปากผมหรือมือ”“อืม ทั้งสองเลยค่ะ อ่า มือคุณร้อนจังเลยค่ะ” เธอกระซิบบอกเสียงหวาน“ผมร้อนทั้งตัว อยากเข้าไปร้อนในตัวคุณด้วย แต่เดี๋ยวก่อน” เขาเองก็มีความต้องการไม่แพ้เธอ เพียงแต่เขาอยากจะดื่มด่ำกับความหวานและบำเรอเธอให้ถึงที่สุด“ซี๊ดดดด อ่า เข้ามาสิคะ” เธอเรียกร้องเสียงแหบพร่าแผ่วเบา พลางกระดกยกสะโพกขึ้นรับจังหวะที่ปลายนิ้วกรีดกรายร่องเสียวหนักหน่วง“อ่า อืม ที่รัก อ่า อย่าทรมานกันสิคะ อ๊ะ! ฉันเสียวจะแย่อยู่แล้ว” เธอครางเสียงหวานแผ่วเบา“ดีจ้ะผมอยากให้คุณรู
ทว่าช่วงเวลาเดียวกันนั้น แสงฉายยังคงเดินเล่นอยู่ในสวนหน้าบ้าน อย่างเพลิดเพลิน จากนั้นก็กวาดตามองออกไปยังไร่องุ่นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา แม้ว่าเวลานี้พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เธอสูดอากาศเย็นสดชื่นเข้าปอดเพื่อความผ่อนคลาย หลับตาพริ้ม แต่แล้วอยู่ๆ ก็นึกถึงเจรัลด์ขึ้นมาอีกครั้งใช่เธอคิดถึงเขา และกลัวว่าเขาจะไม่กลับมาอีกแล้ว กลัวมันจะเป็นเพียงความวาบหวามที่เกิดขึ้นมาในขณะนั้นเท่านั้นเอง เขาคงจะไม่จริงจังหรอก อีกอย่างฝรั่งก็ไม่ได้แคร์เรื่องเซ็กส์อยู่แล้ว เธอคิด แต่เธอรักเขาไปแล้วจะห้ามใจไม่ให้คิดถึงอย่างไรได้“ฉันจะรอคุณนะเจอร์รี่ นานแค่ไหนก็จะรอ” มันเป็นการรอคอยโดยไร้ซึ่งความหวังเหลือเกิน เธอคิดแล้วก็ถอนหายใจจากนั้นจึงตัดสินใจเดินกลับเข้าบ้าน ซึ่งเวลานี้บนโต๊ะอาหารถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้วด้วยฝีมือแม่บ้านพร้อมกับครอบฝาชีเอาไว้เป็นอย่างดี เธอเห็นแล้วจึงเดินผ่านเลยขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อจะได้อาบน้ำชำระคราบเหงื่อไหลเสียก่อนแต่ในทุกๆ วันที่แสงฉายกลับขึ้นห้อง ก็ยังคงรู้สึกถึงความหวามไหว ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง มันมีร่องร
“ใช่ค่ะ เดี๋ยวเขาก็มา” เธอตอบเสียงเรียบขึ้น“รู้น่าว่าคิดถึง”“ก็ต้องคิดถึงสิคะ เป็นเรื่องธรรมดา”“ปกติผู้หญิงจะปากแข็ง แต่นี่ไม่”“จะปากแข็งไปทำไมคะ คิดถึงก็บอกคิดถึงสิ”“แล้วมีความคิดสักวูบไหมที่คิดว่าเขาจะไม่กลับมา”“มีค่ะ แอบคิดว่าคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันได้ไม่นาน จะรักษาสัญญาไปทำไม เราอาจจะเป็นทางผ่านก็เป็นได้ แต่คิดอีกที ช่วงเวลาที่ไม่นานมันก็ทำให้เราเห็นทุกอย่างที่เขาอยากให้เห็น เช่นตัวจริงของเขา แสงเชื่อว่าเขาจริงใจพอ แสงเชื่อและจะรอ เดี๋ยวเขาก็คงจะมาเยี่ยมเรา ตอนนี้แสงก็ทำงานเพลินๆ จะได้ไม่ต้องคิดถึงเขามากไง”“ก็ดีแล้วครับ นายหญิงของผมเข้มแข็งเสมอ”“อยากจะเข้มแข็งให้ได้ตลอดนะคะ แต่บางทีก็อาจจะไม่ไหว”“หึๆ ต้องไหวสิครับ เดี๋ยวเขาก็มา เชื่อสิ”“ค่ะ เชื่อก็เชื่อ” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอไปทำงานต่อก่อนนะครับ”“เอ่อ อย่าล
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ จอร์นนี่ซึ่งถือว่าเป็นหัวหน้าบอร์ดี้การ์ด ก็กำลังให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ว่าเจรัลด์เป็นใครมาจากไหน และคนที่มาป้องร้ายคือใคร รวมถึงวสินก็ได้ให้ข้อมูลหลังจากที่เจรัลด์มาพักรักษาตัวกับแสงฉาย ทำให้ตำรวจได้รู้ความจริงทั้งหมดและเป็นประโยชน์ต่อการจับกุมมากทว่าไม่นานนัก แสงฉายกับเจรัลด์พร้อมด้วยผู้ติดตามก็มาสมทบที่โรงพัก ส่วนผู้ร้ายทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาล มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ส่วนผู้เสียชีวิตหนึ่งรายถูกเก็บร่างเอาไว้ในห้องดับจิต ขณะเดียวกันผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บก็ยอมรับสารภาพทั้งหมด จึงได้รู้ว่าผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นทั้งฝรั่งและคนไทยด้วยความที่แสงฉายกับอังกูรค่อนข้างมีชื่อเสียง มีอิทธิพลอยู่ไม่น้อย ทำให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ตำรวจนายใหญ่ได้รายชื่อผู้อยู่เบื้องหลังแล้ว จึงรีบสั่งการเพื่อสกัดตัวผู้มีส่วนเกี่ยวกับการวางแผนฆ่าเจรัลด์ เรียกได้ว่าตามจับให้ได้ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีออกนอกประเทศต่อมาเรื่องราวทั้งหมดกลายเป็นข่าวใหญ่ จากที่ทุกคนไม่รู้ว่าเจรัลด์เป็นใครก็ได้รู้ว่าเขาใช่คนธรรมดา ส่วนคนร้ายซึ่งเป็นเพื่อนร่วมธ
“ค่ะ งั้นแยกย้าย ฝากบ้านด้วยนะคะ” แสงฉายบอกอีกครั้ง จากนั้นทุกคนจึงได้พากันกลับ และจัดเวรยามเพื่อเฝ้าบ้านขณะที่แสงฉายเป็นคนขับรถพาเจรัลด์และบอร์ดี้การ์ดไปโรงพัก เพื่อจะได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมโดยมีวสินกับจอร์นนี่คอยให้ปากคำอยู่ก่อนแล้วขณะเดียวกัน ที่บ้านของพ่อเลี้ยงอังกูร ทุกคนกลับมาถึงบ้านเรียบร้อย ต่างคนต่างนั่งหน้าชาและหน้าแตก เพราะความขี้อิจฉา ใส่ความพี่สาวของเกศรินทร์แท้ๆ ที่ที่ทำให้เกิดเรื่องแย่ๆ มาถึงตอนนี้เธอก็ได้แต่นั่งก้มหน้ารับกรรมเล็กๆ ไป เวลานี้ทุกคนมองเธอราวกับตัวประหลาด เพราะที่เรื่องมีอะไรกับวสินก็เพิ่งจะเกิดขึ้นหมาดๆ และยังแก้ไขไม่ได้ ไหนจะเรื่องใส่ไฟพี่สาวอีก“ฝรั่งขี้นก ต๊อกต๋อย ไม่มีหัวนอนปลายเท้า หึๆ นี่แหละน้า ตีค่า ตีราคาคนจากภายนอก คนที่เราไม่รู้จักเลย แต่กลับเอามาใส่สีตีไข่ได้เป็นเรื่องเป็นราว ไหนจะหาว่าเขาเป็นโจรหลบหนีอีก” อังกูรพูดลอยๆ ไม่ได้มองหน้าใคร แต่ทุกคนรู้ตัวดี“ก็ยัยเกรซนั่นแหละ หูเบา ไม่ดูตาม้าตาเรื
“แล้วพ่อได้ยินเสียงปืน ลูกไม่ได้เจ็บอะไรตรงไหนใช่ไหม” อังกูรถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ห้วนๆ“ก็ดีแล้ว เอ่อ คุณตำรวจ ผมไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใครนะ แต่จับไปก่อนนะ”“ฉันจะส่งตัวแทน ให้วสินกับคนของเจอร์รี่ไปก่อน” แสงฉายบอกและหันไปมาพูดกับวสิน“งั้นจอร์นไปกับวสิน ให้ปากคำทั้งหมดที่เป็นประโยชน์ และบีบเอาความจริงออกมาให้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังบ้าง สาวไปให้หมด” เจรัลด์หันไปสั่งลูกน้องเช่นกัน“ได้ครับเจ้านาย” จอร์นนี่รับคำ“ถ้างั้น พวกเราเรียกเจ้าหน้าที่เจ้ามาเก็บศพให้เรียบร้อย อะไรที่เป็นหลักฐานเอาไปให้หมดนะ แล้วก็ตามผมไปโรงพักด้วย” นายตำรวจหนุ่มสั่งการพร้อมกับโทรเรียกมูลนิธิมาเก็บศพจากนั้นก็นำตัวผู้ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล อีกทั้งให้วสินและจอร์นนี่ตามไปให้ข้อมูลที่แท้จริง ส่วนที่เหลือก็อยู่กับแสงฉาย เพื่อจะได้เคลียร์กับทางบิดา ที่แจ้งความโดยไม่รู้เร
“เอาล่ะ ระหว่างรอตำรวจ พวกนั้นบอกได้ไหมว่าคนที่เหลือเป็นยังไงบ้าง แล้วหาฉันเจอได้ยังไง” เจรัลด์หันมาถามลูกน้องของตัวเอง“ตั้งแต่วันนั้น เราไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านาย ได้ยินแต่เสียงปืน แต่พอ เควินเห็นหน้าเรา มันก็บอกว่ามันฆ่านายแล้ว พวกเราตกใจมากครับและกำลังจะถูกเก็บไปด้วย ก็เลยชิงหลบหนีก่อนอย่างน้อยเอาตัวเองให้รอด เพื่อจะได้มาเก็บศพเจ้านายกลับบ้านทีหลัง” จอร์นนี่เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง“แล้วอะไรทำให้พวกนายคิดว่าฉันรอดและออกตามหาฉันล่ะ”“พอพวกเราหนีไปได้ ก็เลยไปวางแผนกันว่าจะเอายังไง ลงความเห็นว่าจะตามหาร่างของเจ้านาย จะอยู่หรือตายเราต้องได้เห็นแล้วจะพากลับบ้าน การเริ่มต้นหาคือนายตกจากน้ำตก ฉะนั้นน้ำตกมันไหล่ผ่านตรงนี้ นี่คือสุดปลายทางแล้ว เราเลยลองหาเรื่อยๆ ครับแต่ไม่เจอ คาดว่าร่างของเจ้านายต้องมาเกยอยู่แถวนี้ แต่ก็ไม่เห็น” คำบอกเล่าของจอร์นนี่ทำให้เจรัลด์ถอนหายใจด้วยความเครียด หากแสงฉายไม่มาเจอเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้เพราะตัวอยู่ในน้ำนี่นะ“แล้วตาม
“เสียใจด้วยเจสัน ค่าหัวคุณแพงจนผมใจอ่อนให้คุณไม่ได้” ชายคนเดิมบอกพร้อมกับเอาปืนจ่อมาที่เจรัลด์แต่ไม่ใกล้นัก ขณะที่ลูกน้องภายในบ้านพยายามคิดหาแผนการที่จะยิงทั้งสี่คนโดยที่เจ้านายไม่เป็นอะไร และคิดว่าทำอย่างไรให้ปืนเข้าไปอยู่ในมือของเจรัลด์อีกครั้ง“เฮ้! พวกเรา” เสียงตะโกนของวสินดังขึ้นจากที่ซ่อน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ทำให้ชายคนดังกล่าวหันไปมองโดยอัตโนมัติ และวินาทีเดียวกันนั้นจอร์นนี่ก็โยนปืนในมือส่งให้เจ้านายทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากไม่ถึงห้าวินาทีปัง! ปัง! ปัง! เจรัลด์ยิงรัวสามนัดจนชายเบื้องหน้าก็กระตุกเฮือก ยืนนิ่ง แล้วร่วงทรุดลงไปกับพื้น พร้อมกับปืนในมือก็ร่วง อีกคนที่เห็นจึงกราดยิ่งทันที เจรัลด์ก็กลิ้งหลบ แต่... คราวนี้วสินกับลูกน้องก็จ่อยิ่งไปที่คนกลุ่มนั้น ลูกน้องของเจรัลดก์วิ่งออกมาบังกระสุนให้เจ้านายเอาไว้ พร้อมกันสาดกระสุนใส่กันอย่างเมามันปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนสะเทือนเลือนลั่นท่ามกลางความมืด ทุกคนกรูกันเข้ามาปกป้องเจรัลด์เอาไว้ แต่จอร์นนี่เป็นคนให้สัญญาณมือว่าพอก่อน จากนั