“เหมือนคุณถูกซ้อมมา หวังว่าฉันคงไม่ได้ช่วยคนร้ายหรอกนะ” เธอพูดด้วยความหวาดหวั่น แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่ดึงดูดสายตามากกว่าบาดแผลคือ ใบหน้าอันหล่อเหลา มีเคราเล็กน้อย ผมสีบลอนเข้ม ผิวพรรณขาวออกไปทางชมพู จมูกโด่งสวยริมฝีปากรูปกระจับ เธอพิจารณาและวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนก็พลันให้เคลิ้มเสียอย่างนั้น “ถึงหน้าตาจะมีแต่รอยฟกช้ำ แต่มันกลบความหล่อของคุณเอาไว้ไม่ได้เลยนะเนี่ย” แสงฉายเผลอชมด้วยความลืมตัว แต่นั่นก็เพราะว่าเขาหล่อจริงๆ ใบหน้าของเขาดึงดูดให้พูดอย่างนี้ เธอคิดพลางเอื้อมมือไปสัมผัสที่มือของชายหนุ่มเบาๆ“ขอโทษนะคะคุณ ผิวผู้ดี้ผู้ดี เป็นลูกเต้าเหล่าใครกันเนี่ย ไม่น่าจะใช่นักท่องเที่ยวทั่วไปมั้งคะ” เธอพูดกับร่างที่หมดสติลอยๆ อีกทั้งนึกสงสัยว่าเขามาทำอะไรกันที่น้ำตก แต่เธอต้องเก็บความสงสัยเอาไว้จนกว่าเขาคนนี้จะฟื้นจากสลบเสียก่อนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง หมอประจำตัวของแสงฉายก็เดินทางมาถึงพร้อมกับพยาบาลหนึ่งคน เธอจึงให้หมอรีบทำการรักษาในทันที ส่วนตัวเองก็ออกมารอหน้าห้องกับลูกน้อง เพื่อให้หมอทำงานได้อย่างสะดวก “นายหญิงครับ” วสินเรียกเพื่อที่จะถาม“มีอะไรเหรอคะ” แสงฉายถามกลับทันที “ฝรั่งคนนี้ ทำไม
“แหม พูดว่าขี้เสือกนี่มีสะดุ้งนะฮะ แล้วเอ่อ เขายังไม่ฟื้นใช่ไหมครับ”“ยังค่ะ อาจจะข้ามวันข้ามคืน รอดูอาการ” “เฮ้อ เอาใครไม่รู้มาเป็นภาระตัวเอง แล้วนี่ก็ต้องนอนเฝ้า” เขาเป็นห่วงเธอ ไม่ได้ห่วงใครนักหรอก แต่เมื่อได้ช่วยชีวิตคนแล้วก็อยากทำให้เต็มที่ตามนิสัยเธอแหละ“ก็เราเลือกที่จะช่วยชีวิตเขานี่นะ” “ผมห่วงอยู่อย่างเดียว ถ้าเขาไม่ใช่คนธรรมดา สมมติถูกทำร้ายมาไอ้พวกที่ทำร้ายเขาต้องตามหาศพ และถ้ารู้ว่าเขาไม่ตายหรืออะไรก็ตาม เขาก็จะยิ่งออกตามหาเพื่อกำจัด และตอนนั้นนายหญิงจะรับมือไหวไหม อาจจะโดนลูกหลงด้วย” “แล้วแสงจะมีพี่สินไว้ทำไมคะ ก็เพื่อการนี้แหละ” ให้ตายสิ คำตอบของเธอทำเขาอึ้ง แล้วก็ยิ้มแห้งๆ เพราะมันจริงอย่างที่เธอพูดนั่นแหละ“ปกติผมช่วยนายหญิงตบตีกับอีกบ้าน เท่านี้ก็ปวดหัวจะแย่แล้ว แต่นี่เรากำลังยุ่งอยู่กับอะไรก็ไม่รู้” “อย่าบ่นเป็นวัยทองไป เอ่อ ช่วยหาเสื้อผ้าให้แสงหน่อยสิ เอามาให้เขาไซส์ฝรั่งเลยค่ะ เอามาเยอะ ๆ หน่อยนะ แล้วเดี๋ยวค่าใช้จ่ายมาเบิกกับแสง” “โอเคครับ นางฟ้านะเนี่ย” เขาแซวอีกครั้ง “แสงชอบเวลาที่พี่รับคำแบบไม่บ่นไม่เถียงไม่กวนประสาทจริงๆ เลย” นี่เธอชมสินะ“ก็ขี้เกียจเถียง
จวบจนกระทั่ง เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง แสงฉายหลับบนโซฟาด้วยความอ่อนเพลียจากการทำงาน เธอหลับยาวจนถึงวันรุ่งขึ้นเลยทีเดียว ขณะที่คนตัวโตหลับหมดสติตลอดทั้งคืนก็เริ่มจะขยับตัว พร้อมกับเปลือกตาอันหนักอึ้งที่เบิกขึ้นทีละนิด ก่อนจะกระพริบถี่ๆ เพื่อไล่แสงจ้าภายในห้อง หลังจากที่ไม่ได้ลืมตาเสียนาน ดวงตาคมกริบสีฟ้าน้ำทะเลค่อยๆ มองบนเพดานห้อง ซึ่งคล้ายรีสอร์ต เพดานเหมือนใช้ไม้เส้นเล็กๆ สานจนเป็นแผ่นขนาดใหญ่แล้วนำขึ้นไปติดเอาไว้ มีผ้าสีขาวบางพลิ้วพาดไปมาเพื่อประดับตกแต่ง ภายในห้องโปล่งสบาย ประตูหน้าต่างเปิดโล่ง มีเพียงผ้าม่านสีขาวแบบบางและแบบหนา สองชั้นปิดบังเอาไว้ปลิวไสวโต้ลมที่พัดผ่านเข้ามาจนถึงที่นอน ชายหนุ่มลุกไม่ไหวได้แต่เกลือกกลิ้งดวงตาไปมา เขาเหมือนอยู่ในความฝัน ทุกอย่างดูนวลตาอบอุ่นไปหมด “อืม” ชายหนุ่มครางในลำคอ และเมื่อเริ่มขยับตัวก็ปวดระบมไปทั้งหมด พอลุกไม่ได้จึงพยายามมองว่าภายในห้องมีใครหรือไม่ และพบว่าที่โซฟากว้างมีหญิงสาว นอนหลับใหลอยู่ ชายหนุ่มเพ็งพินิจว่าเธอเป็นใคร แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหรือว่า เขาตายแล้วหรือเปล่าเขาคิด และพยายามขยับตัว แต่จังหวะเดียวกันนั้นแสงฉายก็ขยับตัวตื่น
“พี่ศินเข้ามาเปิดหน้าต่างให้แสงเหรอคะ” แสงฉายอดถามไม่ได้เพราะห้องเปิดโล่ง“ใช่ครับ รับอากาศเย็นๆ ยามเช้า ให้ความรู้สึกดี ผ่อนคลาย ว่าแต่เขาฟื้นนานแล้วเหรอครับ” วศินถามพลางชี้มือมาที่เจรัลด์นิดหน่อยเพื่อไม่ให้เสียมารยาทนัก“เพิ่งฟื้นได้สักครู่น่ะค่ะ” เธอตอบกลับ ขณะเดียวกันเจรัลด์ก็อยู่ในอารมณ์เจื่อนๆ แปลกๆ เพราะชายหนุ่มที่เดินเข้ามานั้น เขาคิดว่าน่าจะเป็นคนรักของแสงฉายแน่ๆ รูปร่างสูงใหญ่หล่อเหลาคมเข้มแบบชายไทยแท้“ผมไปบอกแม่บ้านให้ทำอาหารเอาไว้แล้วนะครับ ไม่ต้องห่วง เผื่อจะหิว แล้วก็เผื่อคนฟื้น แต่ก็ไม่คิดว่าจะฟื้นเร็วขนาดนี้”“ถือว่าไม่เร็วหรอกค่ะ เพราะเขาไม่ฟื้นตลอดทั้งคืนเลย นึกว่าจะตายแล้วซะอีก” “ก็ดีแล้วครับที่เขาฟื้น ต่อไปก็จะได้ถามที่มาที่ไป แล้วก็จะได้ส่งตัวกลับประเทศซะเลย” “มันง่ายอย่างนั้นก็ดีน่ะสิคะ” “ตามสบายนะครับ ผมแค่แวะเข้ามาบอกว่าเตรียมอาหารเอาไว้ให้ แล้วเดี๋ยวจะออกไปดูงานแทนก่อน”“ขอบคุณค่ะ” พอเธอรับคำวสินก็ออกไปทันที มาถึงตอนนี้แหละที่เจรัลด์จะถามด้วยความสงสัย“เอ่อ ขอโทษครับ คุณช่วยผมแล้วให้เข้ามาอยู่ในบ้านแบบนี้ แฟนคุณไม่ว่าอะไรเหรอครับ” เป็นคำถามแบบยัดเยียดเพื่
“ขอเวลาผมหน่อยนะครับ ผมจำไม่ได้จริงๆ คิดอะไรเยอะแล้วปวดหัวเหลือเกิน”“จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ” แสงฉายบอกอย่างเข้าใจ“ผมขอโทษนะครับ ที่จำเรื่องราวไม่ได้เลย”“งั้นอยู่ที่นี่พักรักษาตัวให้หายดี แล้วค่อยว่ากันเรื่องส่งคุณกลับบ้านนะคะ”“คุณช่างแสนดีกับผมเหลือเกิน แสงฉาย”“ก็หวังว่า ถ้าคุณจำอะไรได้แล้ว คงจะไม่ใช่คนเลวร้าย แล้ววกกลับมาทำร้ายเจ้านายผมหรอกนะ” วสินแทรกขึ้นเสียงเข้ม“ผมไม่ทำร้ายคนที่มีบุญคุณกับผมหรอก”“ฉันไม่กลัวคุณหรอกค่ะ” แสงฉายบอกยิ้ม ๆ น้ำเสียงของเธอไม่กลัวเขาจริงๆ ด้วยแฮะ“เอางี้ ถ้าไม่รังเกียจคุณก็อยู่ที่นี่จนกว่าจะหายเป็นปกติ ฉันกับคนของฉันจะดูแลคุณเอง”“ถ้าไม่รังเกียจเหรอครับ ผมน่าจะเป็นฝ่ายพูดคำนี้กับคุณมากกว่านะครับ เพราะผมเป็นคนแปลกหน้าแท้ๆ”“นั่นสินะ เอาเป็นว่าคุณอยู่ที่นี่ได้ตามสบาย จนกว่าจะหายก็แล้วกันค่ะ”“ขอบคุณอีกครั้ง
ช่วงเวลาที่เจรัลด์ หรือชื่อจริงคือเจสัน คิงส์ พักฟื้นร่างกาย เพราะเพิ่งผ่านความเป็นความตายมาได้หมาดๆ นั้น คนที่ลงมือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจสันรอดเพราะคิดว่ายิงโดน แต่เพราะความที่กลัวว่าศพจะโผล่ให้ใครเห็นแล้วสาวมาถึงตัวได้ ทุกคนจึงได้ออกตามล่าหาร่างของเจสัน ไล่ตั้งแต่ต้นน้ำที่เจสันตกลงมา และคิดว่าน่าจะไหลมาตามลำธารสายเล็ก ซึ่งเป็นที่ดินของชาวบ้านชายวัยฉกรรจ์คนไทยสองคนและฝรั่งอีกสองคน แยกกันออกตามหา แล้วแสร้งทำตัวกลมกลืนไปกับชาวบ้าน ทำทีเป็นนักท่องเที่ยวเดินชมเกษตรเชิงท่องเที่ยวของไร่องุ่น ถ่ายรูปชมวิว โดยที่ดินตรงนี้คือไร่องุ่นขนาดใหญ่หลายร้อยไร่ บริเวณที่ดินแห่งนี้มีแม่น้ำตัดผ่าน แล้วดูเหมือนจะเป็นสายตรงจากน้ำตก แต่ทางเดียวที่จะแน่ใจคือต้องถามชาวบ้าน ว่าเป็นแม่ลำธารสายเดียวกันหรือไม่“ขอโทษครับลุง ลำธารใสๆ สวยๆ แบบนี้ไหลมาจากไหนครับเนี่ย”“ไหลมาจากน้ำตกข้างบนโน่นเลยพ่อหนุ่ม” ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวสวนตอบพลางชี้นิ้วไปทางด้านหลัง ซึ่งเป็นต้นลำธาร และคิดว่าแอ่งน้ำคงอยู่ไม่ไกล“แสดงว่าตรงนั้นมีแอ่งน้ำใช่ไหมครับ”“ใ
แสงฉาย เจ้าของไร่องุ่น ซันชายวัลเลย์ เขาใหญ่ ผลิตสินค้าแปรรูปจากองุ่นนานาชนิด รวมไปถึงไวน์ อีกทั้งมีร้านอาหารเปิดเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาพักผ่อน หรือพักรถระหว่างเดินทาง มีรีสอร์ตเล็กๆ ให้ค้างคืนไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่เรื่องของงานไร่องุ่นนั้นก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่ใหญ่พอสมควรย้อนหลังกลับไปก่อนที่เธอจะเกิด มารดาเป็นคนดูแล่ไร่องุ่นแห่งนี้เป็นสาวสวยที่ฮอตสุดๆ ของที่นี่ ส่วนบิดาของเธอนั้นมีที่ดินอยู่ติดกันและทำฟาร์มโคนม ต่างคนต่างมีธุรกิจของตัวเอง แต่ฝ่ายมารดาถือว่ามีฐานะที่ร่ำรวยกว่า ทว่าท่านทั้งสองก็มาพบรักและแต่งงานกัน แผ่นดินทั้งสองจึงเป็นสินสมรสเมื่อแสงฉายเกิดจึงกลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวของที่นี่ จวบจนกระทั่งเธออายุได้ 11 ขวบ มารดาเสียชีวิตเพราะเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง แสงฉายเสียใจ เสียหลัก เหลือเพียงพ่อที่ต้องทำหน้าที่ดูแลและบริหารงาน แต่เท่านั้นยังไม่พอ ไร่องุ่นแห่งนี้มารดาได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ ยกให้แสงฉายเป็นนายหญิงดูแลที่นี่แต่เพียงผู้เดียวแต่ที่เจ็บปวดไปมากกว่านั้น คือมารดาของเธอเสียชีวิตไปเพียงปีเดียว บิดาก็มีภรรยาใหม่เป็นแม่ม่ายลูกติดถึงสอ
“เป็นประโยชน์แน่ แล้วคนงานพวกนั้นว่าอย่างไรอีก” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน เหมือนกำลังจะเป็นต่อแน่ๆ บิดารู้เข้าคงไม่พอใจ“บอกว่านายหญิงน่ะ พาผู้ชายคนนั้นขึ้นไปนอนบนห้องของตัวเองเลยนะคะ มีวสินคอยดูแลด้วย แถมยังบอกให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ สงสัยจะกลัวพ่อเลี้ยงรู้แน่ๆ เลยค่ะ”“ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะฉันจะไปบอกคุณพ่อแน่ อยากรู้นักว่าถ้าคุณพ่อรู้เข้าว่าลูกสาวคนเก่ง ที่คุณพ่อภูมิใจนักหนาพาผู้ชายเข้าบ้านจะเป็นอย่างไร อยากเห็นหน้านัก”“แล้วคุณหนูจะเอายังไงดีคะ”“ฉันจะไปหาคุณพ่อเดี๋ยวนี้เลย เพราะตอนนี้คุณพ่ออยู่ในห้องทำงาน”ว่าแล้วเกศรินทร์ก็รีบแจ้นไปหาทันทีพร้อมกับคนใช้ที่แสนรู้นักหนาเกศรินทร์เป็นลูกติดภรรยาใหม่ของบิดา เป็นบุตรสาวคนเล็กในบรรดาลูกสองคน แต่เป็นลูกเลี้ยงที่บิดารักเช่นกัน เพราะได้เลี้ยงดูตั้งแต่ห้าขวบ ฉะนั้น เกศรินทร์จึงรู้สึกว่ามีสิทธิ์ในทุกสิ่งบนที่ดินผืนนี้ อยากเอาชนะทุกอย่างทั้งที่ทำได้ยาก อีกทั้งอิจฉาริษยา ไม่ชอบหน้าพี่สาวคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ทำอะไรก็แพ
“ซี๊ด อ่า เยส อ่า” เขาหายใจหอบ พร้อมกับแนบกลางกายกับเนินเนื้อนุ่มเอาไว้โน้มตัวลงไปสวมกอดและจูบอย่างดูดดื่ม เนิ่นนานจนรู้สึกว่ามังกรตัวร้ายได้ปลดปล่อยพ่นพิษออกมาจนหมดแล้ว ร่างกายทั้งสองเบาหวิวสุขสม และเหนื่อยหอบอย่างประหลาด ทว่าเขายังคงจูบอ้อยอิ่งอยู่นานจนอิ่มเอม แล้วค่อยถอดแท่งร้อนออกช้าๆ ทว่าทั้งคู่ยังหอบอยู่ พูดออกมาไม่ได้ มีเพียงแววตาที่สื่อถึงกันเท่านั้น เขาจึงยิ้มบางๆ และแนบหน้าผากกับเธอเอาไว้“จะเบื่อไหมถ้าผมจะพูดว่า... ผมรักคุณ” เขากระซิบที่ปากอิ่มเบาๆ“ฉันไม่ได้ยินคำนี้มาเป็นเดือน จะเบื่อได้ยังไงคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเดียวกัน“ผมคิดถึงแทบขาดใจ ไม่เป็นอันทำงานเลย” พูดจบเขาก็ประคองใบหน้าเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน“ฉันก็รักและคิดถึงคุณมากค่ะ”“เสร็จแล้ว หายคิดถึงหรือยัง” เขาถามเสียงเจ้าเล่ห์เชียว“แล้วคุณล่ะคะ”“หึๆ ยังเลย กินได้อีก กินได้เรื่อยๆ ผมมีความสุขมากนะรู้ไหม
“อืม ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ เขาก็ใช้มือข้างเดิมแหวกกลีบสาวออกจากกัน พร้อมกับใช้ปลายนิ้วกรีดกรายไปตามร่องเสียวที่เริ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน เขาบดเบียดฝ่ามือและปลายนิ้วกับร่องเสียวขึ้นลงจนไหมสีดำเปียกลู่“ซี๊ด อ่า เจอร์รี่ อืม เสียวค่ะที่รัก” เธอครางออกมาและพูดด้วยความที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป เสียวซ่านทุกอณูรูขุมขน“เสียวตรงไหนจ้ะ เสียวเพราะปากผมหรือมือ”“อืม ทั้งสองเลยค่ะ อ่า มือคุณร้อนจังเลยค่ะ” เธอกระซิบบอกเสียงหวาน“ผมร้อนทั้งตัว อยากเข้าไปร้อนในตัวคุณด้วย แต่เดี๋ยวก่อน” เขาเองก็มีความต้องการไม่แพ้เธอ เพียงแต่เขาอยากจะดื่มด่ำกับความหวานและบำเรอเธอให้ถึงที่สุด“ซี๊ดดดด อ่า เข้ามาสิคะ” เธอเรียกร้องเสียงแหบพร่าแผ่วเบา พลางกระดกยกสะโพกขึ้นรับจังหวะที่ปลายนิ้วกรีดกรายร่องเสียวหนักหน่วง“อ่า อืม ที่รัก อ่า อย่าทรมานกันสิคะ อ๊ะ! ฉันเสียวจะแย่อยู่แล้ว” เธอครางเสียงหวานแผ่วเบา“ดีจ้ะผมอยากให้คุณรู
ทว่าช่วงเวลาเดียวกันนั้น แสงฉายยังคงเดินเล่นอยู่ในสวนหน้าบ้าน อย่างเพลิดเพลิน จากนั้นก็กวาดตามองออกไปยังไร่องุ่นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา แม้ว่าเวลานี้พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เธอสูดอากาศเย็นสดชื่นเข้าปอดเพื่อความผ่อนคลาย หลับตาพริ้ม แต่แล้วอยู่ๆ ก็นึกถึงเจรัลด์ขึ้นมาอีกครั้งใช่เธอคิดถึงเขา และกลัวว่าเขาจะไม่กลับมาอีกแล้ว กลัวมันจะเป็นเพียงความวาบหวามที่เกิดขึ้นมาในขณะนั้นเท่านั้นเอง เขาคงจะไม่จริงจังหรอก อีกอย่างฝรั่งก็ไม่ได้แคร์เรื่องเซ็กส์อยู่แล้ว เธอคิด แต่เธอรักเขาไปแล้วจะห้ามใจไม่ให้คิดถึงอย่างไรได้“ฉันจะรอคุณนะเจอร์รี่ นานแค่ไหนก็จะรอ” มันเป็นการรอคอยโดยไร้ซึ่งความหวังเหลือเกิน เธอคิดแล้วก็ถอนหายใจจากนั้นจึงตัดสินใจเดินกลับเข้าบ้าน ซึ่งเวลานี้บนโต๊ะอาหารถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้วด้วยฝีมือแม่บ้านพร้อมกับครอบฝาชีเอาไว้เป็นอย่างดี เธอเห็นแล้วจึงเดินผ่านเลยขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อจะได้อาบน้ำชำระคราบเหงื่อไหลเสียก่อนแต่ในทุกๆ วันที่แสงฉายกลับขึ้นห้อง ก็ยังคงรู้สึกถึงความหวามไหว ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง มันมีร่องร
“ใช่ค่ะ เดี๋ยวเขาก็มา” เธอตอบเสียงเรียบขึ้น“รู้น่าว่าคิดถึง”“ก็ต้องคิดถึงสิคะ เป็นเรื่องธรรมดา”“ปกติผู้หญิงจะปากแข็ง แต่นี่ไม่”“จะปากแข็งไปทำไมคะ คิดถึงก็บอกคิดถึงสิ”“แล้วมีความคิดสักวูบไหมที่คิดว่าเขาจะไม่กลับมา”“มีค่ะ แอบคิดว่าคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันได้ไม่นาน จะรักษาสัญญาไปทำไม เราอาจจะเป็นทางผ่านก็เป็นได้ แต่คิดอีกที ช่วงเวลาที่ไม่นานมันก็ทำให้เราเห็นทุกอย่างที่เขาอยากให้เห็น เช่นตัวจริงของเขา แสงเชื่อว่าเขาจริงใจพอ แสงเชื่อและจะรอ เดี๋ยวเขาก็คงจะมาเยี่ยมเรา ตอนนี้แสงก็ทำงานเพลินๆ จะได้ไม่ต้องคิดถึงเขามากไง”“ก็ดีแล้วครับ นายหญิงของผมเข้มแข็งเสมอ”“อยากจะเข้มแข็งให้ได้ตลอดนะคะ แต่บางทีก็อาจจะไม่ไหว”“หึๆ ต้องไหวสิครับ เดี๋ยวเขาก็มา เชื่อสิ”“ค่ะ เชื่อก็เชื่อ” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอไปทำงานต่อก่อนนะครับ”“เอ่อ อย่าล
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ จอร์นนี่ซึ่งถือว่าเป็นหัวหน้าบอร์ดี้การ์ด ก็กำลังให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ว่าเจรัลด์เป็นใครมาจากไหน และคนที่มาป้องร้ายคือใคร รวมถึงวสินก็ได้ให้ข้อมูลหลังจากที่เจรัลด์มาพักรักษาตัวกับแสงฉาย ทำให้ตำรวจได้รู้ความจริงทั้งหมดและเป็นประโยชน์ต่อการจับกุมมากทว่าไม่นานนัก แสงฉายกับเจรัลด์พร้อมด้วยผู้ติดตามก็มาสมทบที่โรงพัก ส่วนผู้ร้ายทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาล มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ส่วนผู้เสียชีวิตหนึ่งรายถูกเก็บร่างเอาไว้ในห้องดับจิต ขณะเดียวกันผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บก็ยอมรับสารภาพทั้งหมด จึงได้รู้ว่าผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นทั้งฝรั่งและคนไทยด้วยความที่แสงฉายกับอังกูรค่อนข้างมีชื่อเสียง มีอิทธิพลอยู่ไม่น้อย ทำให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ตำรวจนายใหญ่ได้รายชื่อผู้อยู่เบื้องหลังแล้ว จึงรีบสั่งการเพื่อสกัดตัวผู้มีส่วนเกี่ยวกับการวางแผนฆ่าเจรัลด์ เรียกได้ว่าตามจับให้ได้ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีออกนอกประเทศต่อมาเรื่องราวทั้งหมดกลายเป็นข่าวใหญ่ จากที่ทุกคนไม่รู้ว่าเจรัลด์เป็นใครก็ได้รู้ว่าเขาใช่คนธรรมดา ส่วนคนร้ายซึ่งเป็นเพื่อนร่วมธ
“ค่ะ งั้นแยกย้าย ฝากบ้านด้วยนะคะ” แสงฉายบอกอีกครั้ง จากนั้นทุกคนจึงได้พากันกลับ และจัดเวรยามเพื่อเฝ้าบ้านขณะที่แสงฉายเป็นคนขับรถพาเจรัลด์และบอร์ดี้การ์ดไปโรงพัก เพื่อจะได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมโดยมีวสินกับจอร์นนี่คอยให้ปากคำอยู่ก่อนแล้วขณะเดียวกัน ที่บ้านของพ่อเลี้ยงอังกูร ทุกคนกลับมาถึงบ้านเรียบร้อย ต่างคนต่างนั่งหน้าชาและหน้าแตก เพราะความขี้อิจฉา ใส่ความพี่สาวของเกศรินทร์แท้ๆ ที่ที่ทำให้เกิดเรื่องแย่ๆ มาถึงตอนนี้เธอก็ได้แต่นั่งก้มหน้ารับกรรมเล็กๆ ไป เวลานี้ทุกคนมองเธอราวกับตัวประหลาด เพราะที่เรื่องมีอะไรกับวสินก็เพิ่งจะเกิดขึ้นหมาดๆ และยังแก้ไขไม่ได้ ไหนจะเรื่องใส่ไฟพี่สาวอีก“ฝรั่งขี้นก ต๊อกต๋อย ไม่มีหัวนอนปลายเท้า หึๆ นี่แหละน้า ตีค่า ตีราคาคนจากภายนอก คนที่เราไม่รู้จักเลย แต่กลับเอามาใส่สีตีไข่ได้เป็นเรื่องเป็นราว ไหนจะหาว่าเขาเป็นโจรหลบหนีอีก” อังกูรพูดลอยๆ ไม่ได้มองหน้าใคร แต่ทุกคนรู้ตัวดี“ก็ยัยเกรซนั่นแหละ หูเบา ไม่ดูตาม้าตาเรื
“แล้วพ่อได้ยินเสียงปืน ลูกไม่ได้เจ็บอะไรตรงไหนใช่ไหม” อังกูรถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ห้วนๆ“ก็ดีแล้ว เอ่อ คุณตำรวจ ผมไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใครนะ แต่จับไปก่อนนะ”“ฉันจะส่งตัวแทน ให้วสินกับคนของเจอร์รี่ไปก่อน” แสงฉายบอกและหันไปมาพูดกับวสิน“งั้นจอร์นไปกับวสิน ให้ปากคำทั้งหมดที่เป็นประโยชน์ และบีบเอาความจริงออกมาให้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังบ้าง สาวไปให้หมด” เจรัลด์หันไปสั่งลูกน้องเช่นกัน“ได้ครับเจ้านาย” จอร์นนี่รับคำ“ถ้างั้น พวกเราเรียกเจ้าหน้าที่เจ้ามาเก็บศพให้เรียบร้อย อะไรที่เป็นหลักฐานเอาไปให้หมดนะ แล้วก็ตามผมไปโรงพักด้วย” นายตำรวจหนุ่มสั่งการพร้อมกับโทรเรียกมูลนิธิมาเก็บศพจากนั้นก็นำตัวผู้ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล อีกทั้งให้วสินและจอร์นนี่ตามไปให้ข้อมูลที่แท้จริง ส่วนที่เหลือก็อยู่กับแสงฉาย เพื่อจะได้เคลียร์กับทางบิดา ที่แจ้งความโดยไม่รู้เร
“เอาล่ะ ระหว่างรอตำรวจ พวกนั้นบอกได้ไหมว่าคนที่เหลือเป็นยังไงบ้าง แล้วหาฉันเจอได้ยังไง” เจรัลด์หันมาถามลูกน้องของตัวเอง“ตั้งแต่วันนั้น เราไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านาย ได้ยินแต่เสียงปืน แต่พอ เควินเห็นหน้าเรา มันก็บอกว่ามันฆ่านายแล้ว พวกเราตกใจมากครับและกำลังจะถูกเก็บไปด้วย ก็เลยชิงหลบหนีก่อนอย่างน้อยเอาตัวเองให้รอด เพื่อจะได้มาเก็บศพเจ้านายกลับบ้านทีหลัง” จอร์นนี่เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง“แล้วอะไรทำให้พวกนายคิดว่าฉันรอดและออกตามหาฉันล่ะ”“พอพวกเราหนีไปได้ ก็เลยไปวางแผนกันว่าจะเอายังไง ลงความเห็นว่าจะตามหาร่างของเจ้านาย จะอยู่หรือตายเราต้องได้เห็นแล้วจะพากลับบ้าน การเริ่มต้นหาคือนายตกจากน้ำตก ฉะนั้นน้ำตกมันไหล่ผ่านตรงนี้ นี่คือสุดปลายทางแล้ว เราเลยลองหาเรื่อยๆ ครับแต่ไม่เจอ คาดว่าร่างของเจ้านายต้องมาเกยอยู่แถวนี้ แต่ก็ไม่เห็น” คำบอกเล่าของจอร์นนี่ทำให้เจรัลด์ถอนหายใจด้วยความเครียด หากแสงฉายไม่มาเจอเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้เพราะตัวอยู่ในน้ำนี่นะ“แล้วตาม
“เสียใจด้วยเจสัน ค่าหัวคุณแพงจนผมใจอ่อนให้คุณไม่ได้” ชายคนเดิมบอกพร้อมกับเอาปืนจ่อมาที่เจรัลด์แต่ไม่ใกล้นัก ขณะที่ลูกน้องภายในบ้านพยายามคิดหาแผนการที่จะยิงทั้งสี่คนโดยที่เจ้านายไม่เป็นอะไร และคิดว่าทำอย่างไรให้ปืนเข้าไปอยู่ในมือของเจรัลด์อีกครั้ง“เฮ้! พวกเรา” เสียงตะโกนของวสินดังขึ้นจากที่ซ่อน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ทำให้ชายคนดังกล่าวหันไปมองโดยอัตโนมัติ และวินาทีเดียวกันนั้นจอร์นนี่ก็โยนปืนในมือส่งให้เจ้านายทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากไม่ถึงห้าวินาทีปัง! ปัง! ปัง! เจรัลด์ยิงรัวสามนัดจนชายเบื้องหน้าก็กระตุกเฮือก ยืนนิ่ง แล้วร่วงทรุดลงไปกับพื้น พร้อมกับปืนในมือก็ร่วง อีกคนที่เห็นจึงกราดยิ่งทันที เจรัลด์ก็กลิ้งหลบ แต่... คราวนี้วสินกับลูกน้องก็จ่อยิ่งไปที่คนกลุ่มนั้น ลูกน้องของเจรัลดก์วิ่งออกมาบังกระสุนให้เจ้านายเอาไว้ พร้อมกันสาดกระสุนใส่กันอย่างเมามันปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนสะเทือนเลือนลั่นท่ามกลางความมืด ทุกคนกรูกันเข้ามาปกป้องเจรัลด์เอาไว้ แต่จอร์นนี่เป็นคนให้สัญญาณมือว่าพอก่อน จากนั