“ขอเวลาผมหน่อยนะครับ ผมจำไม่ได้จริงๆ คิดอะไรเยอะแล้วปวดหัวเหลือเกิน”
“จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ” แสงฉายบอกอย่างเข้าใจ “ผมขอโทษนะครับ ที่จำเรื่องราวไม่ได้เลย” “งั้นอยู่ที่นี่พักรักษาตัวให้หายดี แล้วค่อยว่ากันเรื่องส่งคุณกลับบ้านนะคะ” “คุณช่างแสนดีกับผมเหลือเกิน แสงฉาย” “ก็หวังว่า ถ้าคุณจำอะไรได้แล้ว คงจะไม่ใช่คนเลวร้าย แล้ววกกลับมาทำร้ายเจ้านายผมหรอกนะ” วสินแทรกขึ้นเสียงเข้ม “ผมไม่ทำร้ายคนที่มีบุญคุณกับผมหรอก” “ฉันไม่กลัวคุณหรอกค่ะ” แสงฉายบอกยิ้ม ๆ น้ำเสียงของเธอไม่กลัวเขาจริงๆ ด้วยแฮะ “เอางี้ ถ้าไม่รังเกียจคุณก็อยู่ที่นี่จนกว่าจะหายเป็นปกติ ฉันกับคนของฉันจะดูแลคุณเอง” “ถ้าไม่รังเกียจเหรอครับ ผมน่าจะเป็นฝ่ายพูดคำนี้กับคุณมากกว่านะครับ เพราะผมเป็นคนแปลกหน้าแท้ๆ” “นั่นสินะ เอาเป็นว่าคุณอยู่ที่นี่ได้ตามสบาย จนกว่าจะหายก็แล้วกันค่ะ” “ขอบคุณอีกครั้งครับ ผมก็หวังว่าคุณคงจะไม่ไล่ผมไปเสียก่อน” “ฉันไม่ใจร้ายกับคนที่ไม่มีที่ไปหรอกค่ะ และสภาพแบบนี้จะทำอะไรได้ สู้พี่สินได้เหรอ หืม” เธอก็แค่แหย่เล่นเท่านั้นเองแหละ “หึๆ ผู้ช่วยของคุณตัวใหญ่ยักษ์ตอนนี้ผมสู้ไม่ได้หรอก” แต่ถ้าแข็งแรงดีก็ไม่แน่ อย่างนั้นสินะ วสินคิดยิ้ม ๆ “ผมไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอก แต่ผมปกป้องเจ้านายของผมได้” “ทานต่อไหมคะ หรือว่าจะทานยา” แสงฉายเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อคิดว่าพอใจในคำบอกเล่าของเจรัลด์แล้ว “ขอทานยาก็แล้วกันครับ ผมคงทานไม่ไหวแล้ว ยังอ่อนเพลียอยู่” “โอเคค่ะ” ว่าแล้วแสงฉายจึงเอื้อมมือไปเอายาที่วางอยู่หัวเตียงส่งให้เขาพร้อมกับน้ำดื่ม “ฉันจะต้องไปทำงาน ฉันจะให้คนเฝ้าดูแลคุณสักสองคนนะคะ” “ทำงานเหรอครับ” เจรัลด์ถามย้ำพลางขมวดคิ้ว “ค่ะ ฉันมีงานทำ” “ผมจะให้ลูกน้องมาดูแลคุณก็แล้วกัน จะให้พวกเขาเฝ้าอยู่ด้านนอก มีอะไรก็เรียกใช้นะครับ เรามีแม่บ้าน เดี๋ยวจะบอกเอาไว้ให้ทำอาหารสำหรับคุณ ไม่ต้องห่วง ตอนเย็นเราจะกลับมา” วสินเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ครับผม” เจรัลด์รับคำอย่างเสียมิได้ทั้งที่ไม่อยากอยู่ลำพัง เพราะยังกลัวอยู่ “ไม่ต้องห่วงนะคะ คนของฉันปกป้องคุณได้ ถ้ามีอะไรที่ต้องออกแรง” “ผมชักจะสงสัยแล้วว่า คุณสองคนที่ช่วยเหลือผมเป็นใครเนี่ย” “เอาไว้คุณดีขึ้น ได้เดินออกไปสูดอากาศ เดี๋ยวก็รู้ครับ” วสินบอก “เอ่อ แสงไปแต่งตัวก่อนนะพี่สิน ฝากอยู่เป็นเพื่อนเขาก่อนนะคะ” “ได้ครับนาย” วสินรับคำ จากนั้นแสงฉายจึงลุกเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า แล้วเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ปลายที่นอนห่างออกไปพอสมควร เจรัลด์ได้แต่มองตาม ก่อนจะหันมาสบตาวสินที่มองอยู่ก่อนแล้ว ราวกับแอบหวงเจ้านายสาวเสียอย่างนั้น ก็สวยซะขนาดนี้เป็นใครก็ต้องหวงเมื่ออยู่กันตามลำพังแล้วเจรัลด์ก็เริ่มยิงคำถามกับ วสินทันทีเหมือนกัน “ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผมเหรอครับ” เจรัลด์ถามด้วยความสงสัย “ผมกับลูกน้องเปลี่ยนให้เองล่ะครับ คิดว่าเจ้านายผมเปลี่ยนให้หรือยังไง เธอก็เป็นผู้หญิงนะครับ” วสินตอบและยิ้มนิดหน่อย “ขอโทษนะครับ คุณพูดภาษาอังกฤษได้เก่งพอสมควร คุณเอ่อ” “จะบอกว่าผมเหมือนคนพูดไม่เป็นเหรอครับ ผมก็เรียนหนังสือ เรียนเก่งด้วยแต่มีหน้าที่ต้องดูแลนาย ก็เลยเป็นลูกจ้างต๊อกต๋อยไงครับ” “เอ่อ ผมไม่ได้หมายความว่าคุณต๊อกต๋อยนะครับ แค่คิดว่าคุณเก่งมาก” “ที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยวครับ ชาวต่างชาติมาเที่ยวเยอะ เราก็ฝึกเอาไว้” “ส่วนเจ้านายของคุณก็เก่งมากเหมือนกันครับ” “หึๆ คนนั้นไม่ต้องพูดถึงครับ ถ้าไม่เก่งคงไม่สามารถคอนโทรลลูกน้องชายได้ทีละเป็นสิบเป็นร้อยหรอกครับ” ส่วนหนึ่งก็เพราะบารมีบิดามารดาของแสงฉาย ต่อยอดให้กับตัวเอง ซึ่งเธอเป็นคนน่ารัก เป็นกันเองกับทุกคน จึงสามารถซื้อใจผู้ชายทั้งไร่ได้ “ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ชักอยากจะรู้แล้วล่ะ” “ถ้างั้นก็หายเร็วๆ นะครับ จะได้ลงไปเดินเล่น จะได้เห็นธุรกิจที่เราทำ” “ครับ ผมจะพยายาม” เจรัลด์ตอบอย่างหนักแน่นก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ แต่เท่าที่เห็น วสินก็คิดว่าเจรัลด์จะต้องเป็นคนที่แข็งแรงพอสมควร สังเกตจากรูปร่างที่กำยำและสูงใหญ่มากๆ คงไม่อ่อนแอหรอกช่วงเวลาที่เจรัลด์ หรือชื่อจริงคือเจสัน คิงส์ พักฟื้นร่างกาย เพราะเพิ่งผ่านความเป็นความตายมาได้หมาดๆ นั้น คนที่ลงมือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจสันรอดเพราะคิดว่ายิงโดน แต่เพราะความที่กลัวว่าศพจะโผล่ให้ใครเห็นแล้วสาวมาถึงตัวได้ ทุกคนจึงได้ออกตามล่าหาร่างของเจสัน ไล่ตั้งแต่ต้นน้ำที่เจสันตกลงมา และคิดว่าน่าจะไหลมาตามลำธารสายเล็ก ซึ่งเป็นที่ดินของชาวบ้านชายวัยฉกรรจ์คนไทยสองคนและฝรั่งอีกสองคน แยกกันออกตามหา แล้วแสร้งทำตัวกลมกลืนไปกับชาวบ้าน ทำทีเป็นนักท่องเที่ยวเดินชมเกษตรเชิงท่องเที่ยวของไร่องุ่น ถ่ายรูปชมวิว โดยที่ดินตรงนี้คือไร่องุ่นขนาดใหญ่หลายร้อยไร่ บริเวณที่ดินแห่งนี้มีแม่น้ำตัดผ่าน แล้วดูเหมือนจะเป็นสายตรงจากน้ำตก แต่ทางเดียวที่จะแน่ใจคือต้องถามชาวบ้าน ว่าเป็นแม่ลำธารสายเดียวกันหรือไม่“ขอโทษครับลุง ลำธารใสๆ สวยๆ แบบนี้ไหลมาจากไหนครับเนี่ย”“ไหลมาจากน้ำตกข้างบนโน่นเลยพ่อหนุ่ม” ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวสวนตอบพลางชี้นิ้วไปทางด้านหลัง ซึ่งเป็นต้นลำธาร และคิดว่าแอ่งน้ำคงอยู่ไม่ไกล“แสดงว่าตรงนั้นมีแอ่งน้ำใช่ไหมครับ”“ใ
แสงฉาย เจ้าของไร่องุ่น ซันชายวัลเลย์ เขาใหญ่ ผลิตสินค้าแปรรูปจากองุ่นนานาชนิด รวมไปถึงไวน์ อีกทั้งมีร้านอาหารเปิดเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาพักผ่อน หรือพักรถระหว่างเดินทาง มีรีสอร์ตเล็กๆ ให้ค้างคืนไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่เรื่องของงานไร่องุ่นนั้นก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่ใหญ่พอสมควรย้อนหลังกลับไปก่อนที่เธอจะเกิด มารดาเป็นคนดูแล่ไร่องุ่นแห่งนี้เป็นสาวสวยที่ฮอตสุดๆ ของที่นี่ ส่วนบิดาของเธอนั้นมีที่ดินอยู่ติดกันและทำฟาร์มโคนม ต่างคนต่างมีธุรกิจของตัวเอง แต่ฝ่ายมารดาถือว่ามีฐานะที่ร่ำรวยกว่า ทว่าท่านทั้งสองก็มาพบรักและแต่งงานกัน แผ่นดินทั้งสองจึงเป็นสินสมรสเมื่อแสงฉายเกิดจึงกลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวของที่นี่ จวบจนกระทั่งเธออายุได้ 11 ขวบ มารดาเสียชีวิตเพราะเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง แสงฉายเสียใจ เสียหลัก เหลือเพียงพ่อที่ต้องทำหน้าที่ดูแลและบริหารงาน แต่เท่านั้นยังไม่พอ ไร่องุ่นแห่งนี้มารดาได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ ยกให้แสงฉายเป็นนายหญิงดูแลที่นี่แต่เพียงผู้เดียวแต่ที่เจ็บปวดไปมากกว่านั้น คือมารดาของเธอเสียชีวิตไปเพียงปีเดียว บิดาก็มีภรรยาใหม่เป็นแม่ม่ายลูกติดถึงสอ
“เป็นประโยชน์แน่ แล้วคนงานพวกนั้นว่าอย่างไรอีก” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน เหมือนกำลังจะเป็นต่อแน่ๆ บิดารู้เข้าคงไม่พอใจ“บอกว่านายหญิงน่ะ พาผู้ชายคนนั้นขึ้นไปนอนบนห้องของตัวเองเลยนะคะ มีวสินคอยดูแลด้วย แถมยังบอกให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ สงสัยจะกลัวพ่อเลี้ยงรู้แน่ๆ เลยค่ะ”“ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะฉันจะไปบอกคุณพ่อแน่ อยากรู้นักว่าถ้าคุณพ่อรู้เข้าว่าลูกสาวคนเก่ง ที่คุณพ่อภูมิใจนักหนาพาผู้ชายเข้าบ้านจะเป็นอย่างไร อยากเห็นหน้านัก”“แล้วคุณหนูจะเอายังไงดีคะ”“ฉันจะไปหาคุณพ่อเดี๋ยวนี้เลย เพราะตอนนี้คุณพ่ออยู่ในห้องทำงาน”ว่าแล้วเกศรินทร์ก็รีบแจ้นไปหาทันทีพร้อมกับคนใช้ที่แสนรู้นักหนาเกศรินทร์เป็นลูกติดภรรยาใหม่ของบิดา เป็นบุตรสาวคนเล็กในบรรดาลูกสองคน แต่เป็นลูกเลี้ยงที่บิดารักเช่นกัน เพราะได้เลี้ยงดูตั้งแต่ห้าขวบ ฉะนั้น เกศรินทร์จึงรู้สึกว่ามีสิทธิ์ในทุกสิ่งบนที่ดินผืนนี้ อยากเอาชนะทุกอย่างทั้งที่ทำได้ยาก อีกทั้งอิจฉาริษยา ไม่ชอบหน้าพี่สาวคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ทำอะไรก็แพ
ส่วนฝั่งบ้านพ่อเลี้ยงอังกรูมีแต่หญ้าสำหรับเลี้ยงวัวนมและให้วัวมาเดินเล็ม บ้านทั้งสองหลังสามารถเดินหากันได้ โดยผ่านบ้านของคนงาน ประมาณห้าถึงหกหลังก็ถึงที่ไร่องุ่น มองไกลๆ เห็นบ้านคนสนิทของแสงฉาย ปลูกล้อมรอบบ้านของแสงฉายเอาไว้ห่างๆ ลดหลั่นไปตามความสนิท และคนที่สนิทที่สุดคือ วสิน ก่อนจะถึงบ้านแสงฉายต้องผ่านบ้านวสินเสียก่อนและเวลานี้ก็ห้าโมงแล้ว โพล้เพล้เหมาะแก่การถ้ำมอง เกศรินทร์จึงได้จอดรถแอบเอาไว้ แล้วเดินเท้าเข้าไปอย่างช้าๆ เพราะกลัวว่าจะมีคนเห็นเข้า สายตาก็สาดส่องว่ามีใครจะเห็นหรือเปล่า แต่แล้วก็ต้องชะงักฝีเท้า เมื่อกำลังจะเดินถึงบ้านของวสิน เธอแทบอึ้ง และหยุดกึกด้วยความตื่นตระหนก เพราะเกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายยื่นแก้ผ้าอาบน้ำมาก่อน ให้ตายสิ โดยเฉพาะกับวสินคนสนิทของพี่สาวเธอสถานที่อาบน้ำของเขาคือ out door ถูกดีไซส์โดยมีฝักบัวขนาดใหญ่ ตรงที่ยืนเป็นอ่างไม้คล้ายกับถังหมักเบียร์ ความสูงประมาณเอวของเขาพอดี จะนั่งแช่ก็ได้หรือจะยืนอาบก็ดี เพื่อปกปิดสายตาใครที่เดินผ่านมาจะไม่เห็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ เกศรินทร์อึ้งอ้าปากค้างไปเลย เพราะทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่นเย็นเฉียบ ห
“อ้าว มาแอบดูเขาอาบน้ำแท้ๆ แล้วที่บ้านไม่สอนเหรอครับ ว่าไม่ให้แอบดูผู้ชายอาบน้ำน่ะ”“ไอ้บ้าสิน! ไอ้!”“จุ๊ ๆ ๆ ไม่งามเลยครับ ฟังไม่ลื่นหูเลยนะ จำพี่สาวเอาไว้เป็นตัวอย่างบ้างสิครับ ไม่มีหยาบคายหลุดออกมาให้ได้ยิน พี่สินอย่างนั้นพี่สินอย่างนี้ แต่อย่างว่าหงส์ยังไงก็ยังเป็นหงส์ ต่างกับกา เอามาชุบตัวยืดคอให้ยาวเท่าหงส์ ก็ยังเป็นกาอยู่วันยังค่ำ” เขาว่าน้ำเสียงเยาะหยันสีหน้าอีเดียดเหลือเกิน“กรี๊ด! ไอ้ขี้ข้า! สันดานต่ำ”“สันดานต่ำเหรอ” เขาย้ำคำพลางกัดฟันแน่น ก่อนจะกระชากแขนเธอแล้วลากเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว“ว๊าย! อ้าย! ปล่อย! ไอ้สิน ปล่อยฉันนะ” เธอว่าพลางสะบัดสะบิ้งเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา“แอบยืนดูอยู่ตั้งนาน อยากเห็นไม่ใช่เหรอว่าไอ้ที่มันอยู่ต่ำๆ น่ะหน้าตาเป็นยังไง” ให้ตายสิ เขาเห็นที่เธอแอบดูอย่างนั้นหรือ“ไอ้บ้า! ปล่อยฉัน ไม่งั้นฉันจะตะโกนให้คนช่วย”“นี่ถิ่นผม และคุณหนูหาเรื่องเอง เอ๊ะหรือว่าจริงๆ แล้วหิว ถึงได้เสาะแสว
“ฮ่าๆ ให้ตายเถอะ ชายผู้ทรงอิทธิพลเจ้าของคิงส์ ออยล์ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเอาตัวรอดจนมาสุดหน้าผา” เสียงเยาะเย้ยเหี้ยมเกรียม นั้นดังออกมาจากปากของชายผู้เป็นเพื่อนนักธุรกิจ ที่อยากจะกุมอำนาจเอาไว้ในมือของตัวเองเพียงคนเดียว เขาถือปืนข้างที่ถนัดและเล็งไปที่เจสัน คิงส์ ชายหนุ่มที่มองเพื่อนด้วยแววตาแค้นจัด คิดว่าคงไม่รอดแน่ ก่อนจะเหลือบไปมองเบื้องหน้าของน้ำตก ไม่รู้ว่าน้ำลึกหรือมีโขดหินเบื้องล่างหรือไม่ “คิดเหรอว่าการตายของฉัน จะทำให้แกรอดไปจนขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานแทนฉันได้เหรอเควิน” เจสันถามกลับเสียงเข้ม ไม่เกรงกลัวหากแต่สมเพชเพื่อนมากกว่า“มันจะไปยากอะไร กะอีแค่ทำให้แกหายสาบสูญ หึๆ ที่นี่เมืองไทยนะ อีกอย่างแกถืออำนาจเหนือคนอื่นมานานเกินไปแล้วเจสัน”“หึ ถืออำนาจอย่างนั้นเหรอ ฉันเป็นเจ้าของบริษัท และแกแค่อยากได้อำนาจที่คลอบคลุมทั่วทั้งทวีป จริงไหมเพื่อน” เจสันบอกอย่างรู้ทัน“ใช่ ฉลาดแล้วนี่”“แค่ฉันหายตัวไป บอร์ดี้การ์ดทั้งหมดของฉันจะตามหาฉัน และออกตามล่าแกเควิน”“เอาไว้ให้ฉันฆ่าแกเสียก่อน แล้วฉันจะไปจัดกับไอ้พวกนั้น” พูดจบเควินก็เหนี่ยวไกปืน ขณะที่เจสันเริ่มถอยหลังช้าๆ แ
“เหมือนคุณถูกซ้อมมา หวังว่าฉันคงไม่ได้ช่วยคนร้ายหรอกนะ” เธอพูดด้วยความหวาดหวั่น แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่ดึงดูดสายตามากกว่าบาดแผลคือ ใบหน้าอันหล่อเหลา มีเคราเล็กน้อย ผมสีบลอนเข้ม ผิวพรรณขาวออกไปทางชมพู จมูกโด่งสวยริมฝีปากรูปกระจับ เธอพิจารณาและวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนก็พลันให้เคลิ้มเสียอย่างนั้น “ถึงหน้าตาจะมีแต่รอยฟกช้ำ แต่มันกลบความหล่อของคุณเอาไว้ไม่ได้เลยนะเนี่ย” แสงฉายเผลอชมด้วยความลืมตัว แต่นั่นก็เพราะว่าเขาหล่อจริงๆ ใบหน้าของเขาดึงดูดให้พูดอย่างนี้ เธอคิดพลางเอื้อมมือไปสัมผัสที่มือของชายหนุ่มเบาๆ“ขอโทษนะคะคุณ ผิวผู้ดี้ผู้ดี เป็นลูกเต้าเหล่าใครกันเนี่ย ไม่น่าจะใช่นักท่องเที่ยวทั่วไปมั้งคะ” เธอพูดกับร่างที่หมดสติลอยๆ อีกทั้งนึกสงสัยว่าเขามาทำอะไรกันที่น้ำตก แต่เธอต้องเก็บความสงสัยเอาไว้จนกว่าเขาคนนี้จะฟื้นจากสลบเสียก่อนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง หมอประจำตัวของแสงฉายก็เดินทางมาถึงพร้อมกับพยาบาลหนึ่งคน เธอจึงให้หมอรีบทำการรักษาในทันที ส่วนตัวเองก็ออกมารอหน้าห้องกับลูกน้อง เพื่อให้หมอทำงานได้อย่างสะดวก “นายหญิงครับ” วสินเรียกเพื่อที่จะถาม“มีอะไรเหรอคะ” แสงฉายถามกลับทันที “ฝรั่งคนนี้ ทำไม
“แหม พูดว่าขี้เสือกนี่มีสะดุ้งนะฮะ แล้วเอ่อ เขายังไม่ฟื้นใช่ไหมครับ”“ยังค่ะ อาจจะข้ามวันข้ามคืน รอดูอาการ” “เฮ้อ เอาใครไม่รู้มาเป็นภาระตัวเอง แล้วนี่ก็ต้องนอนเฝ้า” เขาเป็นห่วงเธอ ไม่ได้ห่วงใครนักหรอก แต่เมื่อได้ช่วยชีวิตคนแล้วก็อยากทำให้เต็มที่ตามนิสัยเธอแหละ“ก็เราเลือกที่จะช่วยชีวิตเขานี่นะ” “ผมห่วงอยู่อย่างเดียว ถ้าเขาไม่ใช่คนธรรมดา สมมติถูกทำร้ายมาไอ้พวกที่ทำร้ายเขาต้องตามหาศพ และถ้ารู้ว่าเขาไม่ตายหรืออะไรก็ตาม เขาก็จะยิ่งออกตามหาเพื่อกำจัด และตอนนั้นนายหญิงจะรับมือไหวไหม อาจจะโดนลูกหลงด้วย” “แล้วแสงจะมีพี่สินไว้ทำไมคะ ก็เพื่อการนี้แหละ” ให้ตายสิ คำตอบของเธอทำเขาอึ้ง แล้วก็ยิ้มแห้งๆ เพราะมันจริงอย่างที่เธอพูดนั่นแหละ“ปกติผมช่วยนายหญิงตบตีกับอีกบ้าน เท่านี้ก็ปวดหัวจะแย่แล้ว แต่นี่เรากำลังยุ่งอยู่กับอะไรก็ไม่รู้” “อย่าบ่นเป็นวัยทองไป เอ่อ ช่วยหาเสื้อผ้าให้แสงหน่อยสิ เอามาให้เขาไซส์ฝรั่งเลยค่ะ เอามาเยอะ ๆ หน่อยนะ แล้วเดี๋ยวค่าใช้จ่ายมาเบิกกับแสง” “โอเคครับ นางฟ้านะเนี่ย” เขาแซวอีกครั้ง “แสงชอบเวลาที่พี่รับคำแบบไม่บ่นไม่เถียงไม่กวนประสาทจริงๆ เลย” นี่เธอชมสินะ“ก็ขี้เกียจเถียง